Saturday, 12 July 2025
PoliticsQUIZ

'ภณณัฏฐ์' อัดรัฐบาลทอดทิ้งประชาชนป้องกันน้ำท่วมเองไร้เหลียวแล ชาวนนท์ไม่ทน เร่งสร้างแนวป้องน้ำกันเอง หวังลดความเสียหายดีกว่ารอเงินชดเชยจากรัฐ

นายภณณัฏฐ์ ศรีอินทร์สุทธิ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน พบว่าประชาชนกังวลกับสถานการณ์น้ำท่วมเป็นอย่างมาก ทั้งนี้พบว่าปีนี้ น้ำมาเร็วและมาแรงอย่างมาก รวมทั้งปริมาณน้ำมากกว่าปี 2564 หวั่นพนังกั้นน้ำที่องค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นทำไว้จะกันน้ำไม่อยู่

ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร องค์กรส่วนท้องถิ่น รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการหารือ เพื่อวางมาตรการป้องกันน้ำท่วมอย่างเต็มที่ทั้งการพร่องน้ำ ขุดลอกคูคลอง และสร้างพนังกั้นน้ำตามริมน้ำ โดยทำกันเองไม่รอการช่วยเหลือจากรัฐ การดำเนินการทั้งหมดแม้อาจจะไม่สามารถป้องกันน้ำล้นตลิ่งน้ำท่วมได้ทั้งหมด แต่สามารถลดความเสียหายที่จะกระทบกับพี่น้องประชาชนได้ในระดับหนึ่ง

‘ทักษิณ’ โพสต์รำลึก 16 ปี ถูกรัฐประหาร โอด ถูกลอบกัดโดยชายชาติทหาร

‘ทักษิณ ชินวัตร’ โพสต์ข้อความย้อน 16 ปี ถูกยึดอำนาจ ย้ำ ถูกลอบกัดโดยชายชาติทหาร ซัดทหารเหมือนหัวหน้ายามที่ใช้เฝ้าทรัพย์สิน หาเงินไม่เป็น ทำประเทศเสียโอกาสหลายด้าน

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้องความเฟซบุ๊ก ในโอกาสครบรอบ 16 ปี ของการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ว่า 

ครบรอบ 16 ปี ของการรัฐประหาร

19 กันยายน 2549 ขณะที่ผมเดินทางไปประชุมสหประชาชาติ ที่กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาผมถูกการรัฐประหารลับหลัง (ถูกลอบกัดโดยชายชาติทหาร) ผมเสียดายสิ่งดี ๆ ที่ควรจะเกิดแต่วันนี้กลายเป็นความเลวร้าย

1. ผมเสียดายความเป็นประชาธิปไตยของประเทศภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนแต่วันนี้เรากลับต้องมาอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจเผด็จการ

2. ผมเสียดายความสง่างามและความไว้เนื้อเชื่อใจของประเทศไทยบนเวทีโลก

3. ผมเสียดายโอกาสประเทศในการพัฒนาไม่ว่าจะเป็น การศึกษา เทคโนโลยี การเกษตร และอุตสาหกรรม

4. ผมเสียดายโอกาสในการแก้ปัญหาความยากจนซึ่งคนไทยควรจะหายจนไปแล้ว

5. ผมเสียดายโอกาสของคนไทยที่ทุกวันนี้มองไม่เห็นอนาคตตนเอง เพียงแค่หางานทำให้ได้เพื่ออยู่ไปวัน ๆ ทั้ง ๆ ที่รายได้ต่ำกว่าประเทศอื่นในระดับการพัฒนาเดียวกัน

6. ผมเสียดายความเป็นศูนย์กลางการบินของสุวรรณภูมิ ทั้ง ๆ ที่ ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เราควรจะเป็นศูนย์กลางของอาเซียน

‘ส.ส.สมเกียรติ-ก้าวไกล’ ตอกกลับ 'ธนาธร' เคยคุยกันแค่ครั้งเดียว และไม่เคยหยามน้ำใจใคร

จากกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวผู้สมัคร ส.ส.บางนา-พระโขนง ของพรรคก้าวไกลเมื่อไม่นานมานี้นั้น

ล่าสุด (21 ก.ย. 65) นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ ส.ส.กรุงเทพ พรรคก้าวไกล ก็ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงต่อกรณีที่นายธนาธรกล่าวถึงหลายประเด็น ว่า…

จากที่คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวถึงประเด็นผม และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตบางนา-พระโขนง จากพรรคก้าวไกลในสมัยหน้านั้น 

ผมขอชี้แจงว่า ทางคุณธนาธร ได้โทรมาสอบถามผมในช่วงตอนพรรคอนาคตใหม่ จะถูกยุบหรือถูกยุบแล้ว (จำไม่ได้ ไม่แน่ใจแต่อยู่ในช่วงนั้น) เพียง 1 ครั้ง ว่าจะไปต่อ กับพรรคไหม

ผมก็ตอบกลับไปว่า ผมขอดูก่อนว่าใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ในพรรคใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมควรรู้ถึงอนาคตของตัวเองและความเป็นไปของพรรคใหม่ที่จะไปอยู่ต่อด้วย

ส่วนที่คุณธนาธร ระบุว่า เรามีการพูดคุยกันหลายครั้ง ขอชี้แจงว่าในช่วงนั้น ผมและคุณธนาธร ได้พูดคุยกันแค่ครั้งเดียวครั้งนั้นเท่านั้น

และหลังจากนั้นผมก็เข้าเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล พร้อมกับเพื่อน ๆ อดีตส.ส.พรรคอนาคตใหม่

‘ไพศาล’ เผย ‘บิ๊กจิ๋ว’ แนะต้องนิรโทษกรรม ทั้งคดีการเมือง - ม.112 เริ่มนับหนึ่งประเทศไทย

‘ไพศาล’ เผย ‘บิ๊กจิ๋ว’ แนะต้องนิรโทษกรรมให้ผู้ต้องคดีทางการเมือง - ม.112 ทั้งหมด เพื่อนับหนึ่งประเทศไทย กลับมาร่วมกันฟื้นฟูชาติบ้านเมือง

นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วย รองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า วิกฤตรัฐธรรมนูญ-วิกฤติบ้านเมือง

1. ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องขอให้วินิจฉัยว่ากฎหมายเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่แล้ว และส่อว่าจะเป็นโมฆะตามคำร้องด้วย แป๊ะวางหมากเอาไว้แยบยลมาก เพราะถ้าตกเป็นโมฆะขึ้นมา กำหนดการเลือกตั้งในเดือนมีนาคมปีหน้าก็อาจจะทำไม่ได้ และอย่าลืมว่า กกต.ชุดปัจจุบันนี้กำลังต้องคดี ในเดือนหน้า ถ้าศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็จะไม่มีผู้จัดการเลือกตั้งซ้ำเข้าไปอีก!!!

แผนแป๊ะล้ำลึกจริง ๆ ทำให้บรรยากาศการเตรียมการเลือกตั้งของพรรคการเมืองต่างๆ ต้องอยู่ในสภาพขวัญผวาอีกครั้งหนึ่ง แต่ทุกเรื่องมีทางออกเสมอ เมื่อถึงเวลาจะเฉลยให้ได้ทราบกัน เดินหน้าโลดได้เลย

2. ขณะนี้มีกระแสความวิตกกังวลเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางว่าถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พลเอกประยุทธ์พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีแล้ว ถ้าหากรักษาการไม่ได้ก็จะเกิดวิกฤตทางการเมืองซ้ำซ้อนเพิ่มขึ้นอีก เพราะมีปัญหาว่าจะสรรหานายกกันอย่างไร?

‘สุริยะ’ มั่นใจเจรจาคิงส์เกตจะเป็นไปด้วยดี แจง ครม.ไม่ได้อนุมัติงบเพิ่มสู้คดีคิงส์เกต

'สุริยะ' แจง ครม.ไม่ได้อนุมัติงบเพิ่มสู้คดีคิงส์เกต ชี้ เป็นเพียงการขยายกรอบเวลา รับหารือแนวทาง 'วิษณุ' เน้นการเจรจา พร้อมเตรียมบินออสเตรเลียพรุ่งนี้

เมื่อเวลา 10.55 น. วันที่ (22 ก.ย. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการอุตสาหกรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันอังคารที่ 20 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบการอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้คดีกับบริษัทคิงส์เกต ในคดีเหมืองทองอัครา โดยชี้แจงว่า ในที่ประชุมครม.ไม่มีการอนุมัติงบเพิ่มเติมแต่อย่างใด เป็นข้อมูลที่คาดเคลื่อน เป็นเพียงงบเดิมที่มีการขยายกรอบระยะเวลาการสู้คดี เนื่องจากการเจรจายังไม่สิ้นสุด จึงขอชี้แจ้งว่า ไม่ได้มีการเพิ่มงบในการสู้คดีแต่อย่างใด

ศึกชิงเก้าอี้นายกฯนครสงขลา ‘สมศักดิ์-วันชัย’ วัดดวง ‘นิพนธ์’ จะเชียร์ใคร

เรื่อง : นายหัวไทร

เมื่อตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครสงขลาว่างลงจากการที่นายศรัญ บิลพัฒน์ นายกเทศมนตรีนครสงขลา ถูกศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี พร้อมค่าจัดการเลือกตั้งอีก 2 ล้านกว่าบาท ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่

สัญญาณแรกที่ผมได้ยินจากต้นสายโทรศัพท์คือ ‘วันชัย ปริญญาศิริ’ สส.เขต 1 สงขลา พรรคพลังประชารัฐ จะลาออกจาก ส.ส.มาลงสมัครชิงนายกเทศมนตรีนครสงขลาด้วยคนหนึ่ง

เป็นช่วงจังหวะปะเหมาะพอดี ถ้าลาออกจาก ส.ส.หลังวันที่ 24 กันยายนนี้ กกต.ไม่ต้องจัดเลือกตั้งใหม่ เพราะกฎหมายกำหนดไว้ว่า ถ้าอายุของสภาเหลือไม่ถึง 180 วัน ไม่ต้องจัดเลือกตั้งใหม่ ‘วันชัย’ จึงมีช่องทางโล่ง ไม่ถูกวิจารณ์เรื่องลาออก และต้องเลือกตั้งใหม่ให้สิ้นเปลืองงบประมาณ

ไม่ต้องมีสัญญาณอะไร เชื่อว่า ‘สมศักดิ์ ตันติเศรณี’ อดีตนายกเทศมนตรีนครสงขลา จะต้องลงชิงแชมป์คืนแน่นอน เพราะคราวที่แล้ว ‘สมศักดิ์’ แพ้ให้กับ ‘ศรัญ’ แค่ 42 คะแนนเท่านั้นเอง ออกแรง เพิ่มพลังอีกหน่อยก็น่าจะได้คะแนนเพิ่มขึ้น เพียงแต่ว่าคะแนนที่เพิ่มขึ้นจะเอาชนะ ‘วันชัย’ ได้หรือไม่

สนามเลือกตั้งท้องถิ่นเกี่ยวโยงกับสนามเลือกตั้งระดับชาติด้วย คราวเลือกตั้งปี 2562 วันชัย เอาชนะ สรรเพชญ บุญญามณี ลูกชายของนิพนธ์ บุญญามณี แต่การทำหน้าที่ ส.ส.ของวันชัย สามปีครึ่งที่ผ่านมาไม่โดดเด่นมากนัก จึงหันหัวเรือมาลงท้องถิ่น ด้วยอาจจะเห็นว่า นิพนธ์ ลาออกจาก ส.ส.มาลงชิงนายกฯอบจ.ก็สำเร็จ ไพร พัฒโน ลาออกจาก ส.ส.มาลงชิงนายกฯนครหาดใหญ่ก็สำเร็จ

ศึกชิงนายกเทศมนตรีนครสงขลา ปัจจัยชัยชนะไม่ได้อยู่แค่ตัวบุคคลที่ลงสมัครเพียงด้านเดียว ต้องจับตาว่า นิพนธ์ บุญญามณี จะสนับสนุนใครระหว่าง ‘สมศักดิ์ กับ วันชัย’ มีคนตั้งข้อสังเกตว่า สมศักดิ์เข้าออกบ้านนิพนธ์ย่านเขารูปช้างทุกเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งสมศักดิ์อาจจะได้รับการสนับสนุนจากนิพนธ์ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนว่า สมศักดิ์ต้องช่วยสรรเพชญ ในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อให้มีคะแนนชนะ ‘นายกฯแบน’ ประสงค์ บุรีรักษ์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง เขต 1 สงขลา ในนามพรรคภูมิใจไทย ซึ่งหมายถึงแข่งกับสรรเพชญนั้นเอง

แต่ประเด็นที่ต้องพิจารณา คือการที่วันชัย ปริญญาศิริ ลาออกจาก ส.ส.ไปลงชิงนายกเทศมนตรีนครสงขลา เป็นการเปิดทางให้ ‘สรรเพชญ’ กับข้อแลกเปลี่ยน ‘น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า’ หรือเปล่า นิพนธ์ช่วยวันชัย วัยชัยก็หลีกทางให้สรรเพชญ และช่วยสรรเพชญให้ถึงฝั่งฝันของพ่อด้วย

กล่าวสำหรับ ‘วันชัย-สมศักดิ์’ จะเป็นคู่แข่งที่คู่คี่สูสีกันมาก สมศักดิ์ได้ในแง่การอยู่กับท้องถิ่นสงขลามายาวนาน เคยเป็นรองนายกเทศมนตรี จนมาเป็นนายกเทศมนตรีต่อจาก ‘พีระ ตันติเศรณี’ ที่ถูกลอบสังหารกลางเมืองสงขลาในแง่ปัจจัยสมศักดิ์ก็พร้อม มีธุรกิจอู่ต่อเรือทั้งฝั่งเมือง และฝั่งสิงหนคร ส่วนวันชัยก็คลุกคลีกับการเมืองมายาวนาน ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.หลายครั้ง เพิ่งมาสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งปี 2562 ธุรกิจในสงขลาก็มี ชื่อเสียงคนรู้จัก

'สร้างอนาคตไทย' กระทุ้ง 'รัฐบาล' บริหารดูแลความเดือดร้อน ปชช. เปิด นโยบาย 4 โซลาร์ แก้วิกฤตค่าไฟฟ้าแพง สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ทวงถามใครแตะเบรกโรงไฟฟ้าชุมชน

วันนี้ (22 ก.ย. 65) ที่พรรคสร้างอนาคตไทย นำโดย ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ดร.สันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรค และประธานนโยบาย  และนายนริศ เชยกลิ่น รองหัวหน้าพรรค และโฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าว “ชำแหละประเด็น ค่าไฟแพง แก๊สแพง ใครทำร้ายประชาชน” 

โดยดร.อุตตม กล่าวว่า สถานการณ์ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา และมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น สาเหตุทั้งที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย ยูเครนที่ยืดเยื้อ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้คนไทยทั่วประเทศเดือดร้อนอย่างหนัก ขณะที่ภาครัฐควรต้องดูแลช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว พร้อม จัดเตรียมมาตรการเพื่อให้ประเทศสามารถพลิกฟื้นได้ในช่วงเวลาต่อไป อย่างไรก็ตามมาตรการดูแลประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรดำเนินการในระยะแรกอย่างเร่งด่วนนั้น กลับยังไม่มีให้เห็นอย่างชัดเจน เช่น กรณีราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันหลายเดือน กระทบกับประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ทั้งที่รัฐบาลสามารถช่วยเหลือได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

“นโยบายจะไปในทิศทางไหน รวมถึงมาตรการระยะสั้นจะดูแลอย่างไร นี่ถือเป็นโอกาสที่จะนำเรื่องพลังงานมาทบทวนกันใหม่ รื้อโครงสร้างใหม่ เพราะต้องเอาประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง และต้องทำอย่างจริงจัง เพราะพลังงานเกี่ยวข้องกับเรื่องต้นทุนการผลิต การบริการ ต้องดูแลอย่างต่อเนื่อง และยึดโยง สุดท้ายแล้วหนีไม่พ้นว่าภาครัฐต้องเป็นผู้ที่กำหนดนโยบายให้ส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องทำงานสอดคล้องกันในช่วงวิกฤติเช่นนี้ หวังว่ายังไม่ช้าเกินไปที่เราทั้งภาคประชาชน และภาครัฐจะมาช่วยกันปรับเปลี่ยนดูแลให้ประเทศผ่านวิกฤติช่วงนี้ไปให้ได้” ดร.อุตตม กล่าว

ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคมีความจำเป็นต้องแถลงเรื่องนี้ เราจะปล่อยให้สถานการณ์ค่าครองชีพ เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ อีก 6-7 เดือนจะเลือกตั้ง คิดว่าประชาชนจะลำบาก วันนี้ประชาชนแบกภาระค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เรามีไฟฟ้าส่วนเกินเกือบครึ่งที่ประชาชนต้องแบกภาระบางส่วน และการเปลี่ยนผ่านสัมปทานการผลิตก๊าซที่ทำให้ปริมาณลดลงกระทบต่อความมั่นคงทางพลังงาน

“ปัจจุบันกำลังการผลิตแก๊สในอ่าวไทยลดลงตามลำดับ ผมเคยส่งสัญญานเตือนแล้วว่าแก๊สในอ่าวไทยจะมีปัญหาจากการเปลี่ยนผ่านที่ไม่ราบรื่น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาแก๊สที่สูงขึ้น เพราะการบริหารการเปลี่ยนผ่านที่ล้มเหลว ทำให้เราต้องนำเข้าแอลเอ็นจีจากต่างประเทศ ซึ่งแอลเอ็นจีในตลาดโลกมีราคาสูงมาก” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อไปว่า ด้านอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากราคาแก๊สที่แพงขึ้นมา 33 เปอร์เซ็นต์ สถานการณ์แบบนี้จะยังไม่หยุดจนถึงมีนาคมปีหน้า ที่ประชาชนต้องมาแบกรับภาระจากนโยบายพลังงาน และการบริหารที่ผิดพลาด กำลังการผลิตไฟฟ้าส่วนเกินที่เกิดขึ้น ใครได้ประโยชน์ ธุรกิจแอลเอ็นจีวันนี้ใครได้ประโยชน์สูงสุด เอกชนหรือรัฐ หรือค่าการกลั่นที่สูงมากและไม่ได้รับการแก้ไข พรรคเราเรียกร้องตลอดว่าเมื่อเกิดวิกฤติให้เอาต้นทุนจริงออกมาดู หากพรรคสร้างอนาคตไทยเข้าไปบริหารเราจะเอาประชาชนเป็นตัวตั้งในการแก้ปัญหา คำถามคือวันนี้รัฐบาลทำอะไรอยู่ น้ำมัน แก๊ส ค่าไฟฟ้า เคยพิจารณาต้นทุนจริงหรือไม่ ภายใต้ต้นทุนที่แท้จริงมีอะไรทับซ้อนอยู่ วันนี้คือวิกฤต ในสมัยที่พวกตนบริหารกระทรวงการคลัง และกระทรวงพลังงาน ในช่วงสถานการณ์โควิด เรามีมาตรการช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วนทันที เช่น มาตรการลดค่าไฟฟ้าทันที ซึ่งวันนี้ก็ยังคงเป็นแนวคิดการแก้ปัญหาที่พรรคสร้างอนาคตไทยพร้อมที่จะทำ 

“ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประชาชนจะมีส่วนเป็นเจ้าของพลังงาน หรือที่เรียกว่า Energy for all วันนี้โรงไฟฟ้าชุมชนที่ผมริเริ่มไว้เป็นเวลา 2 ปีแล้ว วันนี้ผมอยากถามว่าใครแตะเบรกโรงไฟฟ้าชุมชน และทำเพื่ออะไร ทั้งที่โรงไฟฟ้าชุมชนสามารถช่วยทั้งพี่น้องประชาชน และเกษตรกรที่เป็นเศรษฐกิจฐานราก แต่กลับไม่ได้รับการสานต่อเพื่อประโยชน์ของประชาชน ถึงเวลารื้อโครงสร้างพลังงานครั้งใหญ่ เราจะไม่ปล่อยให้ปตท.ทำงานแบบใช้โอกาสเกื้อกูล เติบโต และข่มเหงประชาชน” นายสนธิรัตน์ กล่าว

‘คุณากร’ ถามรัฐบาลเหตุใดภูมิใจบัตรคนจนเพิ่ม ทั้งที่คนจนพุ่ง คนตกงานเพียบ หนี้สาธารณะเกิน 10 ล้านล้านอีก100ปี ก็ใช้หนี้ไม่หมด รวยกระจุก จนกระจาย เหลื่อมล้ำติดอันดับต้น ๆ ของโลก

นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ส.ส.สุรินทร์ และรองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่รัฐบาลออกมายืนยันว่าโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อแจกเงิน แต่เป็นโครงการที่มุ่งจัดสรรสวัสดิการให้กับประชาชนนั้น  แต่พบว่าในการลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ ตั้งแต่วันที่ 5 - 21 กันยายน 2565 มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 16,243,908 ราย เพิ่มขึ้นจากที่เปิดใช้บัตรคนจนครั้งแรกในปี 2559 จนถึงผู้ถือบัตรคนจนเดิมอยู่ที่ 13.3 ล้านคน นั่นหมายความว่า ภายในปีเดียวคนจนเพิ่มขึ้นกว่า 3 ล้านคนแล้ว  แบบนี้หรือที่รัฐบาลบอกว่าเป็นความสำเร็จของโครงการบัตรคนจน ที่ลดความเหลื่อมล้ำได้

ทั้งนี้มองว่า การออกมาให้ข้อมูลของรัฐบาล เป็นการให้ข้อมูลที่ไม่เข้าใจบริบทของสังคม และไม่สามารถมีโครงการดีๆเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนได้ การแจกเงินอย่างเดียวไม่เกิดประโยชน์ ไม่สามารถลดความเหลื่อมล้ำได้จริง เพราะบทวิเคราะห์ของธนาคารเกียรตินาคินภัทร ระบุว่า ความเหลื่อมล้ำ ของไทยมีแนวโน้มปรับขึ้นสูงเรื่อยๆ เศรษฐกิจไทยโตแบบไม่ทั่วถึง เกิดภาวะ ‘รวยกระจุก จนกระจาย’ สินทรัพย์ของคนทั้งประเทศมากกว่า 77% ไปกระจุกตัวอยู่กับกลุ่มนายทุนเจ้าสัว ทำให้ไทยกลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งมากที่สุดในโลก

‘เพื่อไทย’ โชว์วิชั่นแก้ปัญหาศก.-แนวทางสร้างรายได้ที่ชัดเจน ปชช.พัทลุงเฮรับล้นหลาม พร้อมเปิดตัวแอพฯ รวบรวมปัญหาที่ดิน ดันแก้กม.ที่ดินทับซ้อน

เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่จังหวัดพัทลุง นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วย นายปฎิพัทธ์ เมืองสุวรรณ์ และนายสุพัฒน์ แก้วจันทร์ อาสาพรรคเพื่อไทยจังหวัดพัทลุง จัดกิจรรมเปิดตัวแอพพลิเคชั่น “Surver 123” ซึ่งเป็นหนึ่งแผนจากโครงการ “พนาเศรษฐกิจ” ที่อาสาพัฒนาที่ดินทำกินของพรรคเพื่อไทยได้ลงไปดำเนินการสำรวจและรวบรวมปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนตั้งแต่ภาคเหนือ จรดภาคใต้ 

นายวรวัจน์ กล่าวว่า วันนี้จังหวัดพัทลุงปัญหาที่ดินถือเป็นปัญหาใหญ่ มีพี่น้องประชาชนหลายครัวเรือนที่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง หรือที่ดินไปทับซ้อนกับพื้นที่ของหน่วยงานรัฐ วันนี้เราจึงพยายามแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน จึงพัฒนาแอพพลิเคชั่น “Surver 123” ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่กลุ่มอาสาพัฒนาที่ดินทำกินของพรรคเพื่อไทยพัฒนาขึ้นเพื่อรวบรวมปัญหาที่เกี่ยวข้องกับที่ดินของประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ โดยประชาชนที่มีปัญหาเกี่ยวกับที่ดินทำกินสามารถสแกน QR Code แล้วแจ้งข้อมูลปัญหาที่ตนเองกำลังประสบลงไปบนเครือข่าย จากนั้น อาสาพัฒนาที่ดินทำกินของพรรคเพื่อไทยจะรวบรวมข้อมูลที่ได้รับจากประชาชน สรุปเป็นข้อเสนอส่งไปยังพรรคเพื่อไทย เพื่อให้พรรคดำเนินการคิดนโยบายมาแก้ปัญหาในภาพรวมที่เป็นรูปธรรมให้กับพี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เช่น อาจจะเป็นการแก้ไขกฎหมายที่ดินในอนาคต ดังนั้น จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่มีปัญหาเกี่ยวกับที่ดิน ร่วมกันสะท้อนปัญหาของตนเองผ่านช่องทางดังกล่าว ขณะเดียวกันอาสาพัฒนาที่ดินทำกินของพรรคเพื่อไทยส่วนหนึ่งจะลงพื้นที่ไปสำรวจ และรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน พร้อมส่งข้อมูลที่ลงไปพบเจอด้วยตนเองมาทางแอพพลิเคชั่น “Surver 123” ด้วยเช่นกัน ซึ่งหากประชาชนที่ไม่สะดวกให้ข้อมูลผ่านช่องทาง QR Coad ก็สามารถเรียกหาอาสาพัฒนาที่ดินทำกินพรรคเพื่อไทยในพื้นที่ของท่านให้ไปเก็บข้อมูลปัญหาให้ได้ ทั้งนี้ เราเปิดตัวแอพพลิชั่นนี้ที่จังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดแรกแล้ว ตนเองมองว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของการร่วมมือกันระหว่างองค์กรพรรคการเมือง กับประชาชนในการแก้ปัญหาให้กับชุมชนของพวกเรา

“นอกจากการเปิดตัวแอพพลิเคชั่นดังกล่าวแล้ว การลงพื้นที่จังหวัดพัทลุงในครั้งนี้ของตน และอาสาพรรคเพื่อไทย ยังมีการเปิดตัวปฏิทินปฏิบัติการในแปลงปลูก โดยปฏิทินดังกล่าวจะรวบรวมข้อมูล และผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มาคำนวณเป็นกำหนดการเพาะปลูกในพื้นที่ในแต่ละพื้นที่ว่าพืชชนิดใด อาทิ ทุเรียน หรือส้มโอ ควรต้องปฏิบัติในแปลงปลูกอย่างใดจึงจะเหมาะกับสภาพอากาศ และปริมาณน้ำในช่วงเวลานั้นๆ และในอนาคตเรามีแนวคิดที่จะพัฒนาต่อยอดเป็นระบบ AI ในการวัดอุณหภูมิ รวมถึงสภาพอากาศของแต่ละพื้นที่ที่สัมพันธ์กับปัญหาโรคและแมลงซึ่งเป็นศัตรูพืช เพื่อหาทางป้องกันปัญหาดังกล่าวล่วงหน้า นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังมีนวัตกรรมจะนำมาใช้เพิ่มผลผลิต และเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนที่ปลูกยางพารา โดยที่ผ่านมาเราได้ทดลองทำเครื่องมือที่จะสามารถทำให้กรีดยางพาราได้ตลอดทั้งปี โดยประชาชนไม่ต้องลงแรงออกไปกรีดยางด้วยตนเอง พรรคเพื่อไทยตอบสนองปัญหาที่พี่น้องประชาชนภาคใต้สะท้อนมายังพรรคอย่างเต็มที่ และพยายามขับเคลื่อนการทำงานในแต่ละจังหวัดให้ตรงกับศักยภาพของแต่ละพื้นที่ โดยยึดการมีส่วนร่วมของประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เป็นสำคัญ เพราะหัวใจของเราคือการทำงานให้กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง” นายวรวัจน์ กล่าว

นายวรวัจน์ กล่าวด้วยว่า หลังจากเปิดตัวที่จังหวัดพัทลุงแล้ว คณะอาสาเพื่อไทยจะเดินทางไปเปิดแนวทางการพัฒนาลักษณะนี้ต่อที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน นอกจากนี้แล้ว ยังจะเปิดแนวคิดนคร 8 วิถี 9 วัฒนธรรมไทย ซึ่งประกอบไปด้วย การพัฒนาแนวคิด [Soft power] ยกระดับเมืองท่องเที่ยวระดับโลกด้วยวิถีไทยด้านอาหาร,ดนตรี,ภาษา,ประเพณี,สถาปัตยกรรม,ข้าวของเครื่องใช้,เครื่องแต่งกาย และความเป็นมงคล เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในจังหวัด และดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ด้วยเสน่ห์ขอบวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทย และเปิดแนวคิดทางด้านนวัตกรรมที่สำคัญ คือ การใช้เทคโนโลยีเพื่อแปรรูปพืชผลทางการเกษตร และเพื่อนำไปสู่การส่งออกผลผลิตให้กับพี่น้องเกษตรกรทางภาคเหนือด้วย

'ประชาธิปัตย์ พร้อมสู่สนามการเลือกตั้ง' เป็นประโยคของ 1 ใน 2 ของ 'ขุนพล' ประชาธิปัตย์ภาคใต้ 'นิพนธ์ บุญญามณี' ที่กล่าวกับ สื่อในส่วนกลาง เมื่อถูกถามถึงความพร้อมของการเข้าสู่ 'สนามการเลือกตั้ง'

ถามว่าทำไม 'สื่อ' ถึงให้ความสำคัญกับความพร้อมของประชาธิปัตย์ในสนามการเลือกตั้งที่ภาคใต้ เพราะสำหรับประชาธิปัตย์ ภาคใต้คือ ที่มั่น ที่สุดท้าย ที่จะต้องรักษาด้วยชีวิตกับการเลือกตั้งในครั้งที่จะถึงนี้ ส่วนสนามเลือกตั้งในภาคอื่น ๆ และแม้แต่กทม. ยังยากที่ประชาธิปัตย์จะกลับไปปักธงเพื่อได้สส. เป็นกอบเป็นกำเหมือนในอดีต 

ประชาธิปัตย์ มีความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ สำหรับการเลือกตั้งในครั้งนี้ เพราะมีการปรับขบวนทัพด้วยการเอาคนรุ่นใหม่ ลงสนามเลือกตั้งแทนนักการเมืองรุ่นเก่าที่ลาออก เพื่อย้ายไปอยู่ยังพรรคการเมืองอื่น ๆ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้มีพรรคการเมืองจำนวนมากที่หอบกระสุนเงินเข้ามาเพื่อแย่งชิงที่นั่งของ สส.ในภาคใต้ เช่นพรรคภูมิใจไทย,พรรครวมไทยสร้างชาติ, พรรคพลังประชารัฐ, พรรคสร้างอนาคตไทย ที่พร้อมใจกัน ยาตราทัพ เข้ามาเพื่อทำศึกสงครามในภาคใต้ เพราะเชื่อว่ามี เปอร์เซ็นของชัยชนะที่สูงกว่าการไปทำศึกสงครามกับพรรคเพื่อไทย ในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ 

สนามของภาคใต้สำหนรับประชาธิปัตย์จึงเป็นมวยรุมที่มีพรรคการเมืองที่มีชื่อชั้นอย่างน้อย 4 พรรคมะรุมมะตุ้ม จนกลายเป็น มวยหมู่ ที่สร้างความเหนื่อยหน่ายให้กับประชาธิปัตย์มากกว่าการเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา ที่ต้องเสียที่นั่ง ให้กับพลังประชารัฐ13 ที่นั่ง และภูมิใจไทย อีก 8 ที่นั่ง และ พรรคอื่นๆอีก 7  ที่นั่ง 

แต่...เชื่อว่า หลังการพ่ายแพ้อย่างยับเยินในครั้งที่แล้วในภาคใต้แกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ มีการถอดบทเรียนของความพ่ายแพ้ที่ได้รับ และมีการแก้เกมมีการวางแผนในการต่อสู้ในสนามเลือกตั้งครั้งนี้อย่างรอบคอบเพื่อมิให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม เลือดเก่าไหนออกเป็นเรื่องปกติของการเมืองหลายคนออกไปกลายเป็นการขจัดจุดอ่อนในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประเด็นสำคัญ ผู้รับผิดชอบในการเลือกตั้งต้องมีการเทรนบรรดาเลือดใหม่อย่างไรให้เข้าตาประชาชน เพราะจุดอ่อนของว่าที่ผู้สมัครที่สำคัญที่สุดคือขาดประสบการณ์ทางการเมืองเขี้ยวและ คม ยังไม่ลากดิน อาจเสียเชิงและเสียที่ให้กับคู่ต่อสู้ได้ง่าย 

จุดอ่อนของประชาธิปัตย์ในยุคที่จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ เป็นหัวหน้าพรรคคือ งานด้านสื่อสารกับสังคมของพรรคในภาพรวมที่ขาดความโดดเด่นทั้งที่ยึดกุมกระทรวงที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับปากท้องของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ คือกระทรวงพาณิชย์ และ กระทรวงเกษตรฯ ที่มีผลงานในเรื่องการประกันราคาพืชผลและในเรื่องของการค้า-การขายการสื่อสารต่อสังคมของจุรินทร์ขาดความเฉียบคมแม้แต่เรื่องของปาล์มน้ำมันที่สร้างความร่ำรวยให้เกษตรกรในภาคใต้ ซึ่งควรจะเป็นโบว์แดงของพรรค ก็ยังไม่มีการหยิบยกให้เป็นประโยชน์เพื่อชี้ให้เห็นถึงผลงานของพรรค


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top