Saturday, 5 July 2025
อิสราเอล

โฆษกรัสเซียฟาดแรงอิสราเอล ‘อย่าบีบอิหร่านเปลี่ยนระบอบ’ เตือนการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์คือหายนะ

(19 มิ.ย. 68) มาเรีย ซาคาโรวา กระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ออกมาแถลงอย่างชัดเจนว่า ‘อิสราเอลไม่มีสิทธิ์ที่จะบังคับให้อิหร่านเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง’ และเตือนว่าการโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ของอิหร่านนั้นอยู่ ‘ใกล้เคียงกับหายนะระดับมิลลิเมตร’

ซาคาโรวาเน้นถึงสิทธิของอิหร่านในโครงการพลังงานนิวเคลียร์ทางสันติภาพ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าการลอบโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ถือเป็น ‘เกมอันน่าสยดสยอง’ ที่สามารถนำไปสู่ผลที่ไม่อาจคาดเดาได้ โดยย้ำว่าอิหร่านมีสิทธิ์ ‘มีและจะมี’ โรงงานนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพต่อไป

ขณะที่ ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียชี้ว่า ขณะนี้อิหร่านกำลังรวมตัวกันอย่างแข็งแกร่ง แม้จะมีการโจมตีอย่างต่อเนื่องจากอิสราเอล และยอมรับความเป็นกลางของรัสเซียในการใช้มาตรการทางทหาร แต่จะยังคงให้การสนับสนุนในระดับการทูตเพื่อหลีกเลี่ยงการลุกลามของวิกฤตการณ์

ขณะที่ชาติตะวันตกและสื่อระหว่างประเทศหลายแห่งเตือนว่าการมุ่งเป้า ‘เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง’ อาจนำไปสู่ความวุ่นวายในภูมิภาคและมิใช่ทางออกที่เหมาะสม เป้าหมายหลักควรเป็นการหยุดโครงการนิวเคลียร์ทางทหารของอิหร่านเท่านั้น

นอกจากนี้ สหภาพยุโรปได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่สนับสนุนแนวทางบีบบังคับให้อิหร่านเปลี่ยนผู้นำ และเรียกร้องให้เผชิญหน้าด้วยบทบาททางการทูตและการเจรจาที่จริงจังแทน ทั้งนี้ รัสเซียและชาติยุโรปยังคงผลักดันให้เปิดโต๊ะเจรจาเพื่อคลี่คลายวิกฤตอย่างสันติ

‘ทรัมป์’ ขอเวลาตัดสินใจ 2 สัปดาห์ ว่าจะส่งทหารร่วมศึกอิสราเอล-อิหร่าน หรือไม่

(20 มิ.ย. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะตัดสินใจภายใน 2 สัปดาห์ว่าจะส่งกองกำลังเข้าแทรกแซงความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านหรือไม่ โดยระบุว่าขณะนี้ยังมี 'โอกาสสำคัญ' สำหรับการเจรจาทางการทูตกับอิหร่าน จึงขอเวลาประเมินสถานการณ์เพิ่มเติม

โฆษกทำเนียบขาว แครอลไลน์ ลีวิตต์ กล่าวว่า ทรัมป์ให้ความสำคัญสูงสุดกับการป้องกันไม่ให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และยังไม่ปิดโอกาสสำหรับการเจรจา แม้จะมีรายงานว่าทรัมป์อนุมัติแผนโจมตีไซโลนิวเคลียร์ของอิหร่านแล้ว แต่ยังไม่ได้สั่งให้ดำเนินการในทันที

ขณะที่ อิหร่านเตือนว่าหากสหรัฐฯ เข้าร่วมสงคราม จะยิ่งทำให้ภูมิภาคลุกเป็นไฟ โดยระบุว่า “นี่ไม่ใช่สงครามของอเมริกา” ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวเผยว่าเว็บไซต์ฟอร์โด ซึ่งเป็นโรงงานเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมของอิหร่าน อาจตกเป็นเป้าหมายโจมตีหากการเจรจาล้มเหลว

ทั้งนี้ สถานการณ์ทวีความตึงเครียดหลังอิหร่านยิงขีปนาวุธใส่โรงพยาบาลทางตอนใต้ของอิสราเอล ทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 70 คน ด้านอิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่านหลายจุด ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากนานาชาติให้ใช้การทูตแทนการสู้รบ

เตือนภัยแดงทั่วอิสราเอล!! ไซเรนดังสนั่นลั่นเทลอาวีฟ – ระเบิดถล่มเยรูซาเลม หลังอิหร่านปฏิบัติการตอบโต้ยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล

เตือนภัยแดงทั่วอิสราเอล!! ไซเรนดังสนั่นลั่นเทลอาวีฟ – ระเบิดถล่มเยรูซาเลม หลังอิหร่านปฏิบัติการตอบโต้ยิงขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล

กลุ่มฮูตีในเยเมนเดือด!!..จ่อเปิดศึกกับสหรัฐฯ หลังเหตุโจมตีอิหร่าน ลั่นรอวันเอาคืน

(23 มิ.ย. 68) กลุ่มฮูตีในเยเมนออกมาเตือนว่า พวกเขาจะตอบโต้สหรัฐฯ จากเหตุโจมตีอิหร่านอย่างแน่นอน โดยระบุว่า “เป็นเพียงเรื่องของเวลา” เท่านั้น

โมฮัมเหม็ด อัล-บุคไฮติ (Mohammed Al-Bukhaiti) แกนนำทางการเมืองของฮูตี ให้สัมภาษณ์ว่า ข้อตกลงหยุดยิงกับสหรัฐฯ นั้นเกิดขึ้นก่อนที่ความขัดแยกระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านจะรุนแรงขึ้น

ที่ผ่านมา กลุ่มฮูตีได้โจมตีเรือสินค้าตามเส้นทางเดินเรือ และยิงอาวุธใส่อิสราเอล โดยอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ท่ามกลางสงครามกับอิสราเอล

โดยในเดือนพฤษภาคม ฮูตีเคยตอบตกลงหยุดโจมตีเรือของสหรัฐฯ แลกกับการที่สหรัฐฯ จะหยุดโจมตีกลุ่มฮูตีในเยเมน แต่เหตุการณ์ล่าสุดกับอิหร่านอาจทำให้ข้อตกลงนั้นเปลี่ยนไป

อดีตผู้นำอิสราเอลเตือน! สหรัฐฯ คิดผิดถ้าหวังให้อิหร่านยอมแพ้

(23 มิ.ย. 68) เอฮุด โอลเมิร์ต อดีตนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ให้สัมภาษณ์กับ Al Jazeera ชี้ว่าการทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ อาจแค่ชะลอ ภัยคุกคามจากโครงการนิวเคลียร์อิหร่านช่วงสั้น ๆ แต่ผลข้างเคียงทางภูมิรัฐศาสตร์จะลุกลามไกลกว่าที่วอชิงตันคาดคิด

โอลเมิร์ต วิจารณ์ว่า การโจมตีเชิงป้องกันที่จะทำให้อิหร่านยอมจำนน เป็นความคิดที่หยิ่งทะนงและไม่สอดคล้องความจริง เพราะอิหร่านมีประชากรราว 90 ล้านคน มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายพันปี (ชาวเปอร์เซีย) ยากจะกดราบด้วยกำลังทหารเพียงครั้งเดียว

เขาย้ำว่ามาตรการทางการทหารแบบนี้ อาจสร้างวงจรความขัดแย้งใหม่ในตะวันออกกลาง เสี่ยงดึงชาติมหาอำนาจและพันธมิตรต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวพัน ทำให้เสถียรภาพของภูมิภาคและเศรษฐกิจโลกต้องเผชิญความไม่แน่นอนยิ่งกว่าเดิม

‘ทรัมป์’ เผยข่าวดี ‘อิสราเอล-อิหร่าน’ ตกลงหยุดยิงชั่วคราว หากเป็นไปตามแผน สงครามเตรียมยุติภายใน 24 ชม.

(24 มิ.ย. 68) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ประกาศว่า อิสราเอลและอิหร่านตกลงหยุดยิงเพื่อยุติสงครามที่ดำเนินมานาน 12 วัน โดยแผนหยุดยิงนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกคืออิหร่านจะหยุดยิงก่อนเป็นเวลา 12 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนตามเวลา EDT (เวลาท้องถิ่นฝั่งสหรัฐฯ) จากนั้นเมื่อครบ 12 ชั่วโมง อิสราเอลจะหยุดยิงตามอีก 12 ชั่วโมง หากทั้งสองฝ่ายทำตามแผนได้ครบ สงครามครั้งนี้ก็จะถือว่าสิ้นสุดลงภายใน 24 ชั่วโมง

ด้าน รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน อับบาส อารักจี (Abbas Araghchi) ระบุผ่านโซเชียลมีเดียว่า ถ้าอิสราเอลหยุดโจมตีภายในเวลา 04.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของอิหร่าน อิหร่านก็จะไม่ยิงตอบโต้เพิ่มเติม และจะพิจารณาว่าจะหยุดปฏิบัติการทางทหารอย่างถาวรหรือไม่ในภายหลัง

ข้อตกลงหยุดยิงนี้เกิดขึ้นเพียง 2 วันหลังสหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในความขัดแย้ง โดยสงครามเริ่มต้นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน จากการที่อิสราเอลกล่าวหาอิหร่านว่ากำลังเข้าใกล้การครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และเปิดฉากโจมตีเชิงป้องกันล่วงหน้า ซึ่งอิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพอัลอูเดดในกาตาร์ ฐานทัพสหรัฐฯ ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค แม้การโจมตีจะถูกสกัดได้ด้วยความช่วยเหลือจากกาตาร์ แต่นำมาซึ่งความกังวลว่าจะเกิดการขยายวงของสงคราม ทรัมป์เรียกการตอบโต้ของอิหร่านว่า “อ่อนแอ” พร้อมแสดงท่าทีต้องการลดความรุนแรงผ่านสื่อสังคมออนไลน์

‘คาเมเนอี’ โพสต์ชัด ‘อิหร่านไม่ยอมจำนน’ หลังยิงขีปนาวุธตอบโต้สหรัฐฯ ในกาตาร์

(24 มิ.ย. 68) อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน แสดงท่าทีแข็งกร้าวหลังอิหร่านยิงขีปนาวุธใส่ฐานทัพอัลอูเดดของสหรัฐฯ ในกาตาร์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้การที่สหรัฐฯ โจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง 

คาเมเนอีโพสต์ข้อความบน X (เดิมคือ Twitter) ว่า “ประชาชนอิหร่านไม่ใช่ชาติที่ยอมจำนน” และยังระบุอย่างชัดเจนว่า “เรามิได้เริ่มโจมตีใคร และเราไม่มีวันยอมรับการถูกโจมตีจากใครเช่นกัน รวมถึงจะไม่ยอมจำนนต่อการรุกรานใด ๆ ทั้งสิ้น นี่คือหลักการของชาติอิหร่าน” 

แหล่งข่าวเผยว่า คาเมเนอี วัย 86 ปี รับรู้ถึงความเสี่ยงที่จะถูกลอบสังหารจากอิสราเอลหรือสหรัฐฯ จึงได้หลบภัยอยู่ในบังเกอร์ พร้อมพูดคุยกับผู้บัญชาการผ่านคนใกล้ชิด และระงับการติดต่อสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด โดยเตรียมกระบวนการเลือกผู้นำสูงสุดคนใหม่ไว้แล้ว โดยเสนอชื่อผู้สมัคร 3 รายให้สภาผู้เชี่ยวชาญคัดเลือก

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ประกาศว่าอิหร่านและอิสราเอลตกลงหยุดยิงภายใน 6 ชั่วโมง และจะยุติสงครามที่ยืดเยื้อ 12 วันอย่างเป็นทางการภายใน 24 ชั่วโมง หากทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัด 

แม้สถานการณ์ความตึงเครียดจะเริ่มคลี่คลายลงบ้าง แต่หลายประเทศทั่วโลกยังจับตามองอิหร่านอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนตัวผู้นำสูงสุดในอนาคต และโครงการนิวเคลียร์ที่ยังเป็นประเด็นร้อน องค์การพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ออกมาเตือนว่า อิหร่านกำลังเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเกินระดับที่ใช้ในทางสันติอย่างชัดเจน ขณะที่ผู้นำอิหร่าน คาเมเนอี ก็ยืนยันชัดว่า เขาจะไม่ยอมเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดนี้ เพราะเชื่อว่าจะไม่ช่วยให้การคว่ำบาตรถูกยกเลิก

‘อิสราเอล’ โวยเตหะรานละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ‘อิหร่าน’ ย้ำไม่ได้ยิงก่อน!! ขอเตือนจะไม่ทนหากโดนซ้ำ

(24 มิ.ย. 68) กระทรวงกลาโหมอิสราเอลออกแถลงการณ์ กล่าวหาว่าอิหร่านละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมสั่งให้กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) ตอบโต้ด้วยการโจมตีอย่างรุนแรงต่อเป้าหมายภายในกรุงเตหะราน โดยรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล อิสราเอล คัตซ์ (Israel Katz) ย้ำว่าจะไม่ยอมให้อิหร่านใช้ความเงียบเป็นโอกาสในการก่อการร้าย

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายอิหร่านยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยพลเอกอับโดลราฮิม มูซาวี  (Abdolrahim Mousavi) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิหร่าน ระบุผ่านสื่อของรัฐว่า อิหร่านไม่ได้ยิงขีปนาวุธไปยังอิสราเอลในช่วงเวลาที่ผ่านมา และรายงานที่กล่าวหาอิหร่านนั้น ‘ไม่เป็นความจริง’

ในเวลาเดียวกัน สภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่านออกแถลงการณ์เตือนว่า หากอิสราเอลหรือพันธมิตรยังคงดำเนินการเชิงรุก อิหร่านจะตอบโต้ ‘อย่างเด็ดขาดและทันที’ โดยชื่นชมความสามัคคีและความอดทนเชิงยุทธศาสตร์ของชาวอิหร่านที่ทำให้ศัตรูต้องล่าถอย

ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านระบุว่า อิหร่านพร้อมยุติปฏิบัติการทางทหาร หากอิสราเอลหยุดโจมตีเช่นกัน ซึ่งสะท้อนจุดยืนว่าการตอบโต้ของอิหร่านเกิดขึ้นเพื่อป้องกันตัว ไม่ใช่เป็นฝ่ายเริ่มโจมตี

สถานการณ์ล่าสุดยังคงตึงเครียด และมีความเสี่ยงที่จะปะทุเป็นความขัดแย้งครั้งใหม่ในภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายยังไม่มีคำชี้แจงร่วมที่ชัดเจน ขณะที่ทั่วโลกจับตาอย่างใกล้ชิดถึงท่าทีและความเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้

นักวิเคราะห์อิสราเอลชี้สงครามกับอิหร่าน เปลี่ยนมุมมองชาวเทลอาวีฟ

(25 มิ.ย. 68) ผู้ใช้บัญชี X (เดิมคือ Twitter) นามว่า Sanna865 โพสต์ข้อความโดยอ้างถึงนักวิเคราะห์การเมืองชาวอิสราเอล ทิรา โคเฮน (Tira Cohen) ออกมาพูดว่า : “The war with Iran taught Tel Aviv settlers the meaning of what Gaza envelope settlers had been ...”

แปลได้ว่า: “สงครามกับอิหร่านครั้งนี้ ทำให้ผู้ตั้งถิ่นฐานในเทลอาวีฟเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้ตั้งถิ่นฐานในฉนวนกาซา ที่เคยประสบมาก่อน…”

สุดท้ายผู้ใช้บัญชี X ชื่อ Sanna865 ซึ่งระบุเพิ่มเติมว่า “And they didn't even experience half of it” หรือ “และพวกเขายังไม่ได้เผชิญแม้แต่ครึ่งหนึ่งของสิ่งที่กาซาเคยประสบ” ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างของระดับความรุนแรงที่ชาวกาซาต้องอดทนมาตลอดหลายปี

หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ แฉเอง!! บึ้มอิหร่านล้มเหลว โครงการนิวเคลียร์ยังไม่ถูกทำลาย แผนยังเดินต่อได้

(25 มิ.ย. 68) รายงานจาก CNN โดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดระบุว่า การโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ที่มุ่งเป้าไปยัง 3 ฐานนิวเคลียร์ของอิหร่านเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่สามารถทำลายโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้ทั้งหมด แต่เพียงแค่ทำให้แผนงานของอิหร่านล่าช้าออกไปไม่กี่เดือนเท่านั้น จากการประเมินเบื้องต้นของหน่วยข่าวกรองกองทัพสหรัฐฯ (DIA)

แหล่งข่าวระบุว่า อุปกรณ์หมุนเหวี่ยงยูเรเนียม (centrifuges) ‘แทบไม่ได้รับความเสียหาย’ และยูเรเนียมเสริมสมรรถนะระดับสูงที่อิหร่านครอบครองอยู่ ถูกเคลื่อนย้ายออกก่อนการโจมตี ทำให้เป้าหมายหลักไม่ได้รับผลกระทบมากนัก โดยเฉพาะที่โรงงาน ฟอร์โดว์ (Fordow), นาทานซ์ (Natanz) และ อิสฟาฮาน (Isfahan) ซึ่งโครงสร้างใต้ดินยังอยู่รอดเป็นส่วนใหญ่

แม้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์และรัฐมนตรีกลาโหมจะยืนยันว่าการโจมตีครั้งนี้ ได้ทำลายโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านทั้งหมดแล้ว แต่รายงานจากหน่วยข่าวกรองกลับให้ข้อมูลไม่ตรงกัน โดยนักวิเคราะห์ด้านอาวุธจาก Middlebury Institute ชี้ว่า สหรัฐฯ และอิสราเอลยังไม่สามารถทำลายโครงสร้างใต้ดินลึกที่สำคัญของอิหร่านได้ทั้งหมด

ล่าสุด ทำเนียบขาวยอมรับว่ามีรายงานการประเมินผลการโจมตีจริง แต่ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาในรายงาน พร้อมระบุว่าคนที่นำข้อมูลมาเปิดเผยเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ระดับล่างที่ไม่น่าเชื่อถือ ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยังยืนยันผ่าน Truth Social ว่า “ภารกิจนี้เป็นหนึ่งในความสำเร็จทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์” 

อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภาจากทั้งสองพรรควิจารณ์ว่าเขา (ทรัมป์) “พูดเกินจริง” เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าการโจมตีจะสามารถหยุดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านได้จริง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top