Friday, 3 May 2024
อนุทินชาญวีรกูล

‘ลุงหนู’ เมินดรามา มุ่งหาเสียงขายนโยบาย ตั้งธงคว้า ‘100 ที่นั่ง ส.ส.’ เป็นแกนนำตั้ง รบ.

(21 มี.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวภายหลังการยุบสภา ว่า พรรคภูมิใจไทย มีความพร้อมในการเลือกตั้ง และเราเตรียมมานานแล้ว จากนี้ ก็มีแต่จะเร่งสร้างความไว้วางใจให้ประชาชน ที่ผ่านมา มีการบอกว่า เราดำเนินการเพื่อไปเป็นพรรคตัวแปร แล้วร่วมรัฐบาล ขอบอกว่า ถ้าคิดแบบนั้น เรามีแค่ 30-40 เสียง ก็ได้แล้ว ไม่ต้องตั้งใจจะเอามากมาย แต่พรรคภูมิใจไทย และตนมองว่า นอกจากโอกาสทำงาน เราต้องพาประเทศไทยไปสู่ความรุ่งเรือง อย่างมั่นคง มีความปรองดอง อันนี้สำคัญ และเป็นความโดดเด่นของพรรคเราด้วย เราต้องนำทั้งฝ่ายอนุรักษ์ และฝ่ายประชาธิปไตย มาร่วมมือกันเดินหน้าพัฒนาประเทศ

“เราต้องสร้างให้พี่น้องประชาชนแข็งแรงก่อน ถ้าฐานมันแข็งแรง ส่วนอื่น ๆ ก็แข็งแรง ถ้าฐานอ่อนแอ มันก็พังทั้งหมด ตอนนี้ ประชาชน ต้องหาทางให้อยู่ดี กินดี ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เราเลยมีนโยบายพักหนี้ 3 ปี ไม่เกิน 1 ล้านบาท เราเลยมีนโยบายเกษตรร่ำรวย เพื่อช่วยเหลือประชาชน” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามถึงการตั้งเป้าจำนวน ส.ส. ที่พรรคภูมิใจไทยจะได้รับ นายอนุทิน กล่าวว่า น่าจะถึง 100 เสียง ปัจจุบัน มีประมาณ 75 ที่นั่ง เป้าของเราไป 100 แล้วตอนนี้ เมื่อถามย้ำถึงตัวเลข 70 ที่นั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า อันนั้นเป็นข้อมูลของโพลทั่วไป แต่เป้าของเราต้องแตะหลัก 100  

‘อนุทิน’ ชี้!! ‘ภท.’ พกพาความจริงใจเข้ากรุง หวังใช้ผลงานมัดใจ แม้ไร้ ‘กระแส-กระสุน’

(23 มี.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการเลือกตั้งในพื้นที่ กทม. ที่พรรคมีความเคลื่อนไหวที่เข้มข้นกว่าครั้งที่ผ่านมา ว่า เราเต็มที่กับการเลือกตั้งทุกครั้ง และเอาจริงในทุกเขตเลือกตั้ง เราเลือกคนที่เข้าใจพื้นที่ ต้องเกิดที่นั่น โตที่นั่น เป็นคนดี มีความสามารถ กับพื้นที่ กทม. เรามีประสบการณ์แล้วว่า คน กทม.ต้องการอะไร และเรามีแนวทางแก้ไขไว้ให้ ที่ผ่านมา หลานคนบอบช้ำจากเรื่องเศรษฐกิจ ที่มาจากเรื่องโรคระบาด มีการกู้หนี้ยืมสิน เราเลยมีนโยบายพักหนี้ หลายคน มีความลำบากเรื่องค่าครองชีพ เรามีนโยบายกำหนดอัตราการขนส่งคมนาคมใหม่ เพื่อลดภาระคนไทย

อีกทั้งเรายังมีนโยบายแยกย่อยออกไปอีก ทั้งเรื่องสังคม ความปลอดภัย เขตนี้ จะมีกล้องตรงถนน เขตนี้จะมีการยกระดับเรื่องการเดินทาง แต่ละเขตมีปัญหา และมีการดูแลที่ต่างกัน เราศึกษามาแล้วว่าท่านต้องการอะไร เราก็เสนอตัวเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งที่ผ่านมา เราพูดและเราทำ ผลงานเห็นชัดอยู่แล้ว ก็หวังว่าจะทำให้คนกรุงเทพฯ ไว้วางใจพรรคภูมิใจไทย ที่ผ่านมา ตนดีใจที่เวลาไปไหนมาไหน มีคนเข้ามาถ่ายรูป ทักทายพูดคุยด้วย แสดงว่าเราก็มีคะแนน ที่ทำไปไม่เสียเปล่า

เมื่อถามว่า คิดอย่างไร ที่มีการตั้งฉายาว่าภูมิใจไทย เป็นพวกบ้านนอกเข้ากรุง นายอนุทิน  กล่าวว่า เป็นเรื่องดี เพราะ คำพูดนี้ มันสะท้อนว่าคนต่างจังหวัดเวลาเขามากรุงเทพฯ เขามาด้วยความจริงใจ และจริงจัง หวังจะทำงาน พิสูจน์ตัวเอง ภูมิใจไทยก็เหมือนกัน เราก็หวังจะทำงานรับใช้ประชาชน กทม. และเราก็จริงใจ ตั้งใจด้วย ขอเพียงท่านให้โอกาส เราไม่ทำให้ผิดหวัง

เมื่อถามว่า เรื่องพรรคภูมิใจไทย ไม่มีกระแส อาจจะผิดหวังในพื้นที่เมืองหลวง นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคเราไม่มีกระแส ไม่มีกระสุน แต่เรามีผลงาน และผลงาน ก็น่าจะทำให้ประชาชนเห็นว่า เลือกพรรคภูมิใจไทยมา ท่านจะได้เห็นความเป็นรูปธรรม จับต้องได้ของนโยบายเรา เรากล้าบอกว่า เราเป็นพรรคพูดแล้วทำ เพราะเรามีผลงานมีความเชื่อมั่นจากประชาชน มีความน่าเชื่อถือต่อสิ่งที่เราให้ไว้กับประชาชน 

‘อนุทิน’ ปัดข่าวหนุน บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม แจงยังไม่ถึงเวลาเลือกตั้ง ย้ำฟังเสียง ปชช. หลังเลือกตั้งก่อน เหน็บวงกินข้าวไม่ควรพูดที่สาธารณะ

(24 มี.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)ให้สัมภาษณ์กรณีนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า นายอนุทิน พร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หากใครได้ส.ส.มากกว่า จะหนุนคนนั้นเป็นนายกฯ  ระหว่างกินข้าวมื้อเที่ยงที่ป่ารอยต่อฯ เมื่อ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ว่า พรรคภูมิใจไทยชัดเจน หากได้ส.ส.มาเป็นอันดับหนึ่ง ก็พร้อมเป็นนายกฯเอง

‘อนุทิน’ เผยกินข้าวกับ ‘บิ๊กป้อม’ ไม่ใช่ความลับอะไร ขอไม่พูดถึงทิศทางจัดตั้ง รบ. ใหม่ ยัน!! ภท. ยึดกติกาสากล

‘อนุทิน’ ปัดดีลจัดตั้งรัฐบาล ร่วม พท.-พปชร. ให้รอผลเลือกตั้งชัด ‘ชี้’กินข้าวร่วม ‘บิ๊กป้อม’ ไม่แปลก ไม่ได้กินข้ามฟาก ยอมรับมีอัพเดตตัวเลขเลือกตั้งปกติ แต่ไม่มีความลับ ดักทางหลังเลือกตั้ง สว.ยังร่วมโหวตนายกฯในสภา แต่แค่พายเรือส่ง ชี้พรรคเล็กได้นั่งนายกฯลำบากแน่นอน ไร้เสถียรภาพ แย้ม เม.ย.จนถึงเลือกตั้ง ไม่อยู่กทม. จ้องหาวันลาราชการลงพื้นที่ 

(27 มี.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ดีลกับพรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งมองกันว่าพรรคภท. จะอยู่ในสมการนั้นด้วย ว่า ยังไม่รับทราบเรื่องพวกนี้เลย อ่านจากข่าวเหมือนกัน ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยใดๆเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รอเลือกตั้งดีที่สุด หลังการเลือกตั้งทิศทางจะออกมาเอง รอผลเลือกตั้ง เมื่อถามว่าการไปทานข้าวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. 2 รอบ มีการพูดคุยถึงการจับมือจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คิดมากไปหรือเปล่า ทำงานมาด้วยกัน 4 ปี กินข้าวกันมันแปลกตรงไหนใช่ไหม และตนก็ไม่ได้ข้ามฟากไปกินกับอีกฟากหนึ่งเสียเมื่อไหร่ ก็กินกันอยู่ในนี้มันเป็นเรื่องปกติมากกว่า หากจะพูดคุยความลับกันจริงๆ พูดคุยเรื่องที่มีการวิเคราะห์ออกมาตามสื่อที่ไปตั้งรัฐบาลให้ใครเป็นนายกฯถ้าจริงคงไม่คุยกันแค่ 8 คนมั่งใช่ไหม อันนั้นไม่มีความลับอะไรเป็นการไปกินข้าวกันธรรมดา

เมื่อถามว่านอกเหนือจากการคุยเรื่องทางการเมืองแล้วมีข่าวว่าไปคุยเรื่องคดีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ หลังหยุดปฏิบัติหน้าที่รมว.คมนาคม นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีเลย นายศักดิ์สยามมั่นใจในข้อกล่าวหาว่าเขาสามารถเตรียมเอกสารไปแก้ข้อกล่าวหาได้ การไปกินข้าวเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่เรื่องของราชการ และไม่ใช่เรื่องของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใครที่โดนเขาก็มีหน้าที่ชี้แจงไป 

เมื่อถามว่าพรรค ภท.เตรียมเปิดตัวส.ส.ทั่วประเทศเมื่อไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เริ่มรับสมัครส.ส.เขตวันที่ 3 เม.ย. และรับสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อวันที่ 4 เม.ย. เมื่อถามอีกว่าแสดงจะไม่เปิดรายชื่อก่อน แต่จะให้ไปรู้วันสมัครเลยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้เปิดเรียงตามลำดับอักษรว่ามีใครบ้าง รอเอกสารให้เรียบร้อยทุกอย่าง และจะเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคอย่างเร่งด่วน เมื่อถามว่าลงตัวหรือไม่ นายอนุทินหัวเราะ พร้อมกล่าวว่า ภท.ลงตัวทุกเรื่องอยู่แล้ว เมื่อถามว่าในพื้นที่อีสานไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ หลังจากที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาโจมตีหลายๆเรื่อง นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ตอนที่มีเรื่องนี้ออกมาเราก็เร่งทำโพลในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ก็เห็นแล้วว่ามีโพลออกมาบอกว่าเราไม่ได้รับผลกระทบอะไร ตรงกันข้ามคะแนนนิยมในตัวบุคคลของ ภท.มีมากขึ้น 

เมื่อถามว่า ถ้าอนาคต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกฯพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้คะแนนน้อยกว่า ภท. จะหลีกทางให้พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า กติกาสากลมีอยู่แล้วอย่าเพิ่งถามเลย ถามตรงนี้หากบอกคนนี้น้อยคนนี้มาก คนได้น้อยจะไม่พอใจหรือเสียกำลังใจ กติกาสากลมีอยู่แล้ว คะแนนมากจะต้องทำตัวอย่างไร คะแนนน้อยจะต้องทำตัวอย่างไร เรื่องการเมืองไม่พ้นกติกาสากลเหล่านี้หรอก อย่าไปกังวล รอผลการเลือกตั้งออกมาให้นิ่งและชัดเจนก่อนไม่ต้องไปรอรับรองอย่างเป็นทางการหรอกอย่างที่ตนเรียนเย็นวันที่ 14 พ.ค. 4 ทุ่ม 5 ทุ่ม มันก็พอเห็นเค้าลางแล้ว แล้วเราค่อยดำเนินการอะไรจากนั้นไป ตอนนี้พูดอะไรไปสิ่งที่ตนกลัวที่สุดคือมันจะเหมือนกับว่าไม่ให้เกียรติพี่น้องประชาชน ซึ่งตรงนี้ตนกลัวมาก ฉะนั้นตนคงจะไม่ให้สัมภาษณ์ในเรื่องทิศทางใดๆ จนกว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาแล้ว 

“การไปเจอคนนั้นคนนี้ รับประทานอาหารกับคนนั้นคนนี้เป็นเรื่องปกติอย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องแปลก หรือเป็นการปล่อยทิศทางการเมืองอะไรออกมา ไม่ใช่เลย แต่ละพรรคการเมืองมีนโยบายของตัวเอง เป็นผู้บริหารพรรคการเมืองในความเป็นปัจเจกบุคคลไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใครเลย สมมุติว่าเราจะไปทานข้าวอะไรกับใครเราก็ไปอัพเดตกัน ในวงการธุรกิจคู่แข่งเขายังมีนัดกินข้าวกันเพื่ออัพเดตสถานการณ์ อัพเดตตลาด อัพเดตปัญหาความต้องการหลายๆเรื่อง ฉะนั้นถ้าเราอยู่ในองค์กรแบบนี้เราก็ไปอัพเดตสถานการณ์กัน มันไม่ใช่ความลับอะไรมากมาย พรรคผมส่งกี่คนกี่เขต ใครมีแนวโน้มเป็นปาร์ตี้ลิสต์บ้าง เราไม่ได้บอกว่าคนนี้เบอร์หนึ่งสองสาม เป็นเรื่องที่เราพูดจาบนโต๊ะอาหารซึ่งเป็นเรื่องปกติ และเรื่องอื่นๆก็พูดเยอะ มันไม่ใช่เป็นการรับประทานอาหารอย่างเป็นทางการและถ้าเกิดมันจะลับจริงๆทำไมจะลับไม่ได้ อันนี้แสดงว่าไม่ได้มีความลับอะไร รูปถึงออกมา และไม่ได้มีการโวยวายอะไร ปกติ การสื่อสารข้อมูลทางโทรศัพท์มันเร็วมาก เผลอๆไลฟ์สดด้วยซ้ำ เราอย่าไปซีเรียสอะไรมาก ทางการเมืองทุกอย่างโดยเฉพาะยิ่งใกล้เลือกตั้งทุกอย่างต้องรอผลเลือกตั้ง ผมยืนยันตรงนี้” นายอนุทิน กล่าว

‘อนุทิน’ ยัน!! ‘สธ.’ มีแผนรับมือ ปัญหา PM2.5 โว!! เตรียมเครื่องมือ-เวชภัณฑ์ ไว้ดูแล ปชช.

(27 มี.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการรับมือและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ประชาชนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลไม่แก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรม ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมในเรื่องของการรักษาพยาบาลและดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ รวมทั้งได้มีการสั่งเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลเกี่ยวกับเรื่องของโรคระบบทางเดินหายใจ กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อม

เมื่อถามว่าในปัจจุบันพื้นที่จังหวัดเชียงรายถือว่าน่ากลัวและน่าเป็นห่วงมากที่สุดหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันสภาพเกือบทั้งประเทศที่มีความน่าเป็นห่วง เรื่องการรักษาพยาบาลและดูแลประชาชนนั้นกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว ปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ยืนยันมาโดยตลอด 

เมื่อ ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ จะก้าวข้าม พร้อมผงาดนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

ได้ยินมาเต็มสองรูหูจากปาก ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่า เบื้องหลังหมายเลข 7 เบอร์ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคนั้น พระอาจารย์ภัตร อริโย แห่งวัดนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เป็นผู้จัดให้...

ตอนไปกราบพระอาจารย์บอกว่าอยากได้หมายเลข 1 แต่พระอาจารย์บอกว่าเลขที่ถูกโฉลกกับพรรคภูมิใจไทยงวดนี้คือ หมายเลข 7

แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามพระอาจารย์ว่า... แต่แค่นั้นยังไม่พอ อนุทิน เล่าด้วยว่า พระอาจารย์ภัตร อริโย ยังบอกว่า หลังวันที่ 14 พ.ค.วันเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยจะได้เลขสามหลัก ซึ่งตรงกับที่ตนคำนวณไว้ทุกประการ…

ครับ..วันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยอายุครบ14ขวบ ย่างสามขุมสู่ปีที่ 15 ว่ากันตามทฤษฎีการเมืองแบบไทยๆ  พรรคที่อายุเกินรอบนักษัตร 12 ปี ก็พอจะนับเป็น ‘สถาบันทางการเมือง’ ได้แล้ว…

และที่น่าจับตายิ่งปีนี้ หลังการเลือกตั้ง 14 พ.ค.เชื่อตรงกันแทบทุกสำนักว่า ภูมิใจไทย จะเข้าป้ายลำดับสอง รองจาก พรรคเพื่อไทย อยู่ที่ 100 บวกลบที่นั่ง...โดยประการสำคัญยิ่ง พรรคภูมิใจไทย จะเป็นแชมป์ในปีกขั้วอำนาจเดิมหรือรัฐบาลในปัจจุบัน

ดังนั้น ตามคณิตศาสตร์การเมือง...ภูมิใจไทย และ อนุทิน ชาญวีรกูล วันนี้ คือ ตัวเต็งนายกรัฐมนตรีและแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเลยทีเดียว...

คำนวณกันทีเล่นทีจริง ถ้าผลเลือกตั้งออกมาประมาณว่า ภูมิใจไทย 100 เสียง รวมไทยสร้างชาติ, ประชาธิปัตย์, พลังประชารัฐ ได้พรรคละ 50 เสียงเท่ากัน ก็นับได้ 250 เสียงแล้ว บวกกับอีกสองพรรคคือชาติไทยพัฒนาและชาติพัฒนากล้าอีกอย่างน้อย 15 เสียง เท่ากับ 265 เสียง..เป็นเสียงข้างมากในสภาฯ ตอนโหวตเลือกนายกฯ ถ้า ส.ว.ไม่งอแง ยกมือหนุนให้อนุทินเป็นนายกฯ ได้...

‘อนุทิน’ ปัดตอบปมข้อมูล ‘หมอพร้อม’ หลุด เผยสั้นๆ มอบนโยบายให้ปลัดสาธารณสุขแล้ว

(11 เม.ย.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่แฮ็กเกอร์นำข้อมูลส่วนตัวในระบบหมอพร้อม ออกมาเผยแพร่ ว่า เรื่องนี้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ดำเนินการร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ซึ่งเป็นเรื่องในสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ดูแลอยู่และแก้ไขปัญหานี้ 

เมื่อถามว่าข้อมูลหมอพร้อมหลุดไปจริงๆ ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้รายงานมา เพราะเป็นข้อมูลจากหลายแห่งมาก และการสอบสวนดำเนินการเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ส่วนกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ให้บริการ ซึ่งรายละเอียดขอให้ไปถามปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งตนได้ให้นโยบายไปแล้ว

เมื่อถามว่า หลายฝ่ายกังวลว่าจะถูกนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น นายอนุทิน มีสีหน้าที่นิ่ง และไม่ตอบคำถามนี้ พร้อมเดินไปยังตึกสันติไมตรี เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทันที

‘อนุทิน’ ลุยหาเสียง ‘นครนายก’ ย้ำ นโยบายพรรคไม่ขายฝัน เน้นทำได้ระยะยาว สร้างความมั่นคง ทั้ง ปชช.-ประเทศชาติ

(11 เม.ย. 66) ที่วัดบางปลัง ตำบลศรีจุฬา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และแกนนำพรรค อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่ ช่วยผู้สมัครหาเสียง พร้อมทั้งแนะนำนโยบายพรรค ได้แก่ นายปิยวัฒน์ กิตติธเนศวร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดนครนายก และนายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จังหวัดนครนายก ท่ามกลางประชาชนที่มาฟังการปราศรัยอย่างคับคั่ง โดยมีการขอถ่ายรูปกับนายอนุทิน และผู้สมัคร พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ

นายอนุทิน กล่าวว่า พื้นที่ จ.นครนายก มีการทำเกษตรกรรมกันมาก และท่านผ่านอะไรมาเยอะ มันก็แก้ปัญหาท่านไม่ได้ วันนี้พรรคภูมิใจไทยมีแนวทางใหม่มานำเสนอเรียกว่า เกษตรร่ำรวย คือ เกษตรกรต้องรู้ราคาล่วงหน้า ก่อนจะปลูก ถ้าได้ราคาที่พอใจ มีกำไร ไม่ขาดทุน จึงตัดสินใจปลูก และเกษตรกรต้องมีประกันการเพาะปลูก ได้รับเงินที่ลงทุนไป ในกรณีที่ไร่นาผลผลิตเสียหายจากภัยธรรมชาติ ภัยพิบัติ หรือ ต้นทุนปัจจัยการผลิตที่ผันผวน ชาวไร่ ชาวนา ไม่ต้องเสี่ยงดวง แต่ได้ตัดสินใจบนข้อมูล ทั้งยังได้รับการดูแลจากภาครัฐฯ

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ที่มานั่งฟังกันในวันนี้มีผู้สูงวัยจำนวนมาก สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ นโยบายของพรรค ให้ความสำคัญกับท่าน เราไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง คนทุกรุ่นล้วนสำคัญ เรามีนโยบายผู้สูงอายุให้สิทธิเป็นสมาชิกกองทุนประกันชีวิต และมีกรมธรรม์ประกันชีวิตทันทีโดยไม่ต้องสมัคร และไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ให้สิทธิกู้เงินดูแลตัวเอง วงเงิน 20,000 บาท ในวันที่เสียชีวิต ทุกคนจะมีมรดกให้ลูกหลาน ทายาท และครอบครัว รายละ 100,000 บาท

นอกจากนี้ พรรคเรายังต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน คนไทยทุกครัวเรือนมีสิทธิเข้าร่วมโครงการ การไฟฟ้าประชาชนสนับสนุนให้ทุกครัวเรือนใช้พื้นที่บ้านของตัวเอง หรือพื้นที่ส่วนกลางในชุมชน ติดตั้งโซลาร์เซลล์ ผลิตกระแสไฟฟ้าขายให้กับรัฐบาล ลดค่าไฟฟ้าได้ไม่น้อยกว่า 450 บาทต่อเดือน และสิทธิซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าบ้านละ 1 คัน ในราคา 6,000 บาท ด้วยระบบผ่อนชำระ เดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 60 เดือน

‘อนุทิน’ ลั่น!! หาก ภท.หวนคืน ‘รัฐบาล-คุมสาธารณสุข’ ขอดันเครื่องฉายรังสี เพื่อรักษาโรคมะเร็งทุกจังหวัด 

ไม่นานมานี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ได้เปิดเผยว่า ในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดให้มีการรักษาโรคมะเร็งได้ทุกที่ มีการเพิ่มเครื่องฉายรังสีให้มากขึ้น และหากเลือกตั้งเสร็จ แล้วพรรคภูมิใจไทยได้กลับเข้าไปเป็นรัฐบาลและดูแลสาธารณสุขเหมือนเดิม ก็จะจัดให้มีเครื่องฉายรังสีเพื่อรักษาโรคมะเร็งทุกจังหวัด ไม่ต้องรอคิวนาน ไม่ต้องเดินทางไกล

สำหรับนโยบายของภูมิใจไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ประกอบไปด้วย...
1. เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ทุกจังหวัด
2. ผู้ป่วยมะเร็งรักษาได้ทุกที่ ที่มีคิวการรักษาเร็วที่สุด
3. ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ของผู้ป่วย และครอบครัว
4. รักษาฟรี ตามสิทธิบัตรทอง มีอยู่แล้ว แต่ ขยายสิทธิให้เพิ่มได้ ฟรี! ทุกจังหวัด 

ทั้งนี้หากย้อนหลังไปในยุคบัตรทอง 30 บาทของนายอนุทินนั้น จะพบสาระสำคัญที่เพิ่มสิทธิประโยชน์กว่า 30 รายการ เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนคนไทยมากขึ้นและครอบคลุมทุกการรักษาอย่างมาก ได้แก่...

ปี 2563

- รับยาที่ร้านขายยาใกล้บ้าน ลดแออัดในโรงพยาบาล
- เพิ่มบริการผ่าตัดแบบวันเดียวกลับ จาก 12 รายการ เป็น 24 รายการ เพิ่มบริการผ่าตัดผ่านกล้อง (MIS) 3 รายการ
- ดูแลผู้ป่วยโรคหายาก 24 โรค
- เพิ่มการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ในผู้ป่วยธาลัสซีเมีย
- เพิ่มวัคซีนป้องกันโรคท้องร่วงในเด็ก
- นำร่องคัดกรองภาวะดาวน์ชินโดรมในหญิงตั้งครรภ์อายุไม่เกิน 35 ปี
- เพิ่มทางเลือกคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธี HPV DNA Test ค้นหาความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกในระดับพันธุกรรม
- นำร่องยาป้องกันก่อนการสัมผัสเชื้อเอชไอวี (PrEP) ในกลุ่มเสี่ยงสูง
- นำร่องล้างโตผ่านเครื่องล้างไตอัตโนมัติ (APD)
- ดูแลผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงในชุมชน ทุกสิทธิการรักษาและทุกกลุ่มอายุ

‘อนุทิน’ จัดหนัก!! นโยบายสวัสดิการเอาใจ ‘อสม. – อสส.’ เหตุเป็นกลุ่มฟันเฟืองสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความเรียบร้อย

‘อนุทิน’ เปิดนโยบายสวัสดิการเอาใจ ‘อสม. – อสส.’ จัดเต็มกองทุนเงินออมให้ยืม 1 แสนบาท ตั้งสถาบันอสม. เหน็บ ไม่ต้องตั้งสกุลเงินใหม่ แต่ใช้เงินหมุนเวียนในระบบอสม. หวัง ได้เสียงสนับสนุนกว่าล้านเสียง กลับเข้าไปสานต่องานกระทรวงสาธารณสุข

(17 เม.ย. 66) ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค เป็นประธานการแถลงนโยบายการพัฒนา และสวัสดิการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร (อสส.) พร้อมด้วย น.ส.เรวดี รัศมิทัต และนายจำรัส คำรอด ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ร่วมแถลงด้วย โดยมี อสม.และ อสม.เข้าร่วมรับฟัง 

นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า สมัยที่ตนเป็นรมช.สาธารณสุข ตนไม่รู้จัก อสม. แต่พอได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่นอกกระทรวง ได้พบเห็นได้รับการซึมซับ อสม.จนเข้าใจว่าคือ ฟันเฟืองสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความเรียบร้อย หลังจากนั้นคำว่า ‘อสม.’ ก็อยู่ในความคิดของตนตลอด กระทั่งวันที่ได้กลับมาเป็นรมว.สาธารณสุข ก็ได้ออกปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ต่างจังหวัดอีกครั้ง ความรู้สึก และบรรยากาศ ทุกอย่างเหมือนเดิม และเมื่อโควิด - 19 เข้ามายิ่งทำให้มีความใกล้ชิดกับ อสม.มากขึ้น ทำให้เรากล้าแสดงให้คนทั้งประเทศได้เห็นความสำคัญของ อสม. ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาด และส่วนตัวได้สมัครเป็นอสม.ด้วย ที่ ต.อิสาน อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งน่าจะเป็นหัวหน้าพรรคเพียงคนเดียวที่เป็น อสม. 

ทั้งนี้ เราต้องไม่ลืมว่า อสม.คือบุคคลที่เป็นอาสาสมัคร ถ้าเราอยากหาเสียงแบบไม่ลืมหูลืมตัว เราคงแถมแหลกแจกสะบัด แต่ตนบอกเสมอว่า อสม.คืออาสาสมัครไม่มีใครบังคับให้มา พวกท่านมากันเอง ถ้ามาเรียกร้องค่าตอบแทนความเป็น อสม.จะหมดไปทันที ตนต้องรักษาศักดิ์ศรีของพวกท่านทุกคนที่เป็นอสม.ด้วย จึงต้องทำให้ทุกท่านยืนหยัดได้ด้วยความมีศักดิ์ศรี เราทำงานขนาดนี้ ก็คงต้องกลับไปดูและกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top