Friday, 3 May 2024
อนุทินชาญวีรกูล

‘เสี่ยหนู’ ยัน!! เข็นร่างพ.ร.บ.กัญชา เป็น กม. ให้ได้ แนะ!! พวกชอบขวาง ยังมีเวลาให้คิดใหม่ เพื่อ ปชช.

‘อนุทิน’ ยัน เข็นร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เป็นกฎหมายให้ได้ แม้ไม่ผ่านสมัยประชุมนี้ ชี้ ประกาศสธ. ได้ผล ยก ศาลฟันจำคุกคนใช้ผิดประเภท เย้ย ส.ส.แห่มาหาเอง ไม่มีดูดเข้าพรรค 

เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 19 ธ.ค. 65 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่อาจไม่ผ่านสภาฯในสมัยประชุมนี้ ว่า ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ส่วนที่มีบางคนบอกว่าประกาศกระทรวงสาธารณสุข ไม่ศักดิ์สิทธิ์ หรือ สู้กฎหมายไม่ได้ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วจากกรณีที่ศาลตัดสินลงโทษจำคุกและปรับผู้ที่กระทำผิดเกี่ยวกับเรื่องของกัญชา ไปหลายราย ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าพนักงานทั้งหลาย ต่างร่วมมืออย่างดีมากในการไล่ตรวจผู้นำกัญชา กัญชง ไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง หรือนำไปใช้ไม่ตรงเจตนารมณ์ และในอนาคตจะดำเนินการควบคุมในวงกว้าง

นายอนุทิน กล่าวว่า ดังนั้นทางที่ดีที่สุด ถ้าอยากให้ชัดเจนไม่ต้องตีความใด ๆ ขอให้ช่วยกันผ่าน ร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ออกมาเป็นกฎหมาย เพื่อควบคุมการใช้กัญชงที่ผิดประเภท ส่วนส.ส.ถ้ามีความห่วงใยประชาชน ต้องช่วยกันผ่านออกมาเป็นกฎหมาย นำมาบังคับใช้ แต่ถ้าไม่ออกกฎหมายดังกล่าว แล้วพรรคภูมิใจไทย ได้กลับเข้ามาทำหน้าที่ในสภาอีกครั้ง จะนำเสนอกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่สภาอีกครั้งแน่นอน

‘อนุทิน’ ปลื้ม!! ผลโพลหนุน ภท. ผลงานเด่น ชี้!! ถือเป็นกำลังใจ พัฒนายุทธศาสตร์พรรคต่อไป

(19 ธ.ค. 65) เมื่อเวลา 11.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจประชาชน ‘ที่สุดภาพจําของประชาชนต่อพรรคการเมือง’ ว่าพรรคภูมิใจไทย โดดเด่นเรื่องบริหารจัดการวัคซีน ดูแลบุคลากรการแพทย์ และอสม. ปกป้องเสาหลักของชาติมากที่สุด ว่า การทําการเมืองต้องยึดถือข้อมูลจากทุกด้าน ผลโพลก็ดีถือเป็นกําลังใจ จากที่ไม่เคยมีโพลเช่นนี้เลย ก็มีโพลแบบนี้ขึ้นมาเป็นกําลังใจ และเป็นแนวทางว่าประชาชนให้ความเชื่อถือพรรคในด้านนี้มากเป็นพิเศษ หรือด้านไหนที่ประชาชนยังไม่ได้ให้ความเชื่อถือ ก็ไปแก้ไข แต่เราไม่ได้ยึดถือโพล แม้จะบอกว่าโพลดีแล้ว ไม่ต้องทำอะไรแล้ว ก็ยังคงต้องลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง มีทีมยุทธศาสตร์วางนโยบาย โดยช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ได้โทรศัพท์ไปแจ้งทางหัวหน้าทีมยุทธศาสตร์พรรค ว่ามีคนได้ดูนโยบายแล้ว นโยบายเศรษฐกิจภาพรวมมหภาคของพรรคยังไม่ปัง ไม่ว่าจะมีเรื่องของโครงการด้ามขวานทอง หรือแลนด์บริดจ์แต่ยังไม่ปัง จึงต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะขยายความออกมา ทำให้คนเห็นภาพให้ชัด โดยยินดีที่จะรับฟังจากทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายที่สนับสนุนหรือไม่สนับสนุน ส่วนตนเรียกว่าข้อสอบรั่ว ต้องเอาข้อสอบเหล่านี้มาหาคําตอบให้ได้ และหาวิธีที่จะทําให้เกิดความมั่นใจ

‘อนุทิน’ ย้ำชัด เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพียงหนึ่งเดียวของ ‘ภูมิใจไทย’

19 ธันวาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่อความชัดเจนเรื่องรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ว่า “เรื่องนี้ ยังไม่ชัดอีกหรือ ชัดมา 5 ปีแล้ว หนึ่งเดียวคนนี้แหละครับ หนึ่งเดียวด้วยนะ ไม่มี 3 คน ถ้าจะไม่ให้ผมเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคภูมิใจไทยก็ต้องเปลี่ยนหัวหน้าพรรคจากผม หากใครยังไม่รู้เรื่องแปลว่าไม่ได้ติดตามข่าว ไม่ใช่คอการเมืองแล้ว”

เมื่อถามว่าจากเดิมพรรคภูมิใจไทยตั้งเป้า ส.ส.120 คน ภายหลังมีอดีต ส.ส.เข้ามาเป้าหมาย ส.ส.จะสูงขึ้นอีกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ใครไปบอกว่าเราวางเป้าไว้ 120 คน ตามข่าวที่ออกมาก็พูดกันไป สำหรับเราได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น เพราะคนตัดสินไม่ใช่ตัวเรา เราทำได้เพียงได้แต่นำเสนอ หากประชาชนไว้ใจจะเป็นผู้ตัดสิน อนาคตของพรรค

'ภูมิใจไทย' มาแรง!! ส.ส.ไหลเข้าพรรคไม่ขาดสาย โพลหนุน 'อนุทิน' โดดเด่น ยืนหนึ่งแคนดิเดตนายกฯ พรรค

ภายหลังพรรคภูมิใจไทย มีการรับสมัครสมาชิกพรรคใหม่ ไปเมื่อวันวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในวันเปิดที่ทำการพรรค ย่าน ถ.พหลโยธิน ใกล้ ม.เกษตรศาสตร์ ที่รีโนเวทพรรคใหม่ ยิ่งใหญ่อลังการ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก มีส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นหลากหลายพรรค รวมถึงอดีต ส.ส. ระดับเกรดเอ หรือ บีบวก ที่เพิ่งลาออกจากพรรคต่างๆ แห่เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อสู้สนามการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค สวมเสื้อแจ็คเก็ตให้สมาชิกใหม่ 

ตอกย้ำความร้อนแรงของ 'พรรคภูมิใจไทย' ก่อนหน้านี้ซูเปอร์โพล ก็เคยเปิดเผยผลสำรวจ 'เปิดใจคนไทยอนาคตการเมือง' โดยพบว่านายอนุทิน คะแนนแคนดิเดตนายกฯ นำโด่งประชาชนเชื่อมั่น 

ล่าสุดซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจประชาชน 'ที่สุดภาพจําของประชาชนต่อพรรคการเมือง' โดยยกให้พรรคภูมิใจไทยโดดเด่นเรื่องบริหารจัดการวัคซีน ดูแลบุคลากรการแพทย์ และอสม. ปกป้องเสาหลักของชาติมากที่สุด โดยนายอนุทิน ก็ออกมายิ้มรับผลโพลถือเป็นกําลังใจ และเป็นแนวทางว่าประชาชนให้ความเชื่อถือพรรคในด้านนี้มากเป็นพิเศษ หรือด้านไหนที่ประชาชนยังไม่ได้ให้ความเชื่อถือก็ไปแก้ไข

'อนุทิน' ลุ้น!! ฝ่ากระแส 'เพื่อไทย-ก้าวไกล' แบ่งเค้ก ส.ส.กทม. หลังดึง 'พุทธิพงษ์' นั่งแท่นว่าที่แม่ทัพเมืองหลวงของพรรค

นาทีนี้แลดู อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะมั่นใจมากขึ้น สำหรับความหวังในการปักธงสีน้ำเงิน ในสนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร หลังจากมี ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ทยอยลาออกมากรอกใบสมัครเข้าพรรคเพิ่มขึ้น

ผู้อยู่เบื้องหลังในการเจรจาดึงตัว ส.ส.เหล่านั้น คือ 'เสี่ยบี-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์' อดีต รมว.ดีอีเอส ว่าที่แม่ทัพเมืองหลวงของพรรคสีน้ำเงิน  

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2565 กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา และ ภาดาท์ วรกานนท์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย โดยก่อนหน้านั้น ก็มี 3 ส.ส.กทม. อย่าง จักรพันธ์ พรนิมิตร, กษิดิ์เดช ชุติมันต์ และพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว รวมๆ แล้ว ส.ส.กทม.พรรคลุงป้อม ที่ย้ายมาพรรคเสี่ยหนู 5 คน ส่วนจากพรรคเพื่อไทย มี 1 คนคือ ส.ส.อ๊อด-ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ (เขตห้วยขวาง-ดินแดง)

จะว่าไป พรรคภูมิใจไทย ก็มี ส.ส.กทม.อยู่แล้ว 2 คนคือ ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย (เขตสวนหลวง) และโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี (เขตจอมทอง) ทั้งคู่เป็น ส.ส.สมัยแรก สังกัดพรรคอนาคตใหม่ ภายหลัง มีการยุบพรรคอนาคตใหม่ พวกเขาจึงเลือกมาอยู่พรรค ภท. ไม่ไปพรรคก้าวไกล

อย่างไรซะ ภูมิใจไทยของ 'อนุทิน' ก็มีภาพลักษณ์เป็นพรรคบ้านใหญ่ พรรคทุนท้องถิ่น ซึ่งความล้มเหลวในสนาม กทม. เมื่อการเลือกตั้งปี 2554 และปี 2562 ก็ให้คำตอบชัดว่า พรรคเสี่ยหนู ไม่ถูกจริตคนเมืองหลวง

แต่เมื่อมีขุมกำลังจากพรรค พปชร.ย้ายเข้ามาอยู่พรรค ภท. เสี่ยหนูจึงแอบหวังว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคจะได้ ส.ส.กทม. 

เพราะสมัยที่แล้ว พรรคพลังประชารัฐ ได้ ส.ส. 12 ที่นั่ง หลัง 2 ส.ส.อย่าง ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ (เขตบางซื่อ) และสิระ เจนจาคะ (เขตหลักสี่-จตุจักร) เจออุบัติเหตุการเมืองต้องพ้น ส.ส. จึงเหลืออยู่ 10 คน โดย ส.ส.ทั้งหมดนี้ จะไม่มีใครอยู่พรรค พปชร.อีกต่อไป 

อย่างตอนนี้ 5 คน ประกอบด้วย พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ (เขตปทุมวัน-บางรัก), กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา (เขตคลองเตย), ภาดาท์ วรกานนท์ (เขตพญาไท), กษิดิ์เดช ชุติมันต์ (เขตลาดพร้าว) และจักรพันธ์ พรนิมิตร (เขตบางพลัด) ที่เลือกไปพรรคภูมิใจไทย

มีข่าวว่า ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ (เขตบางกะปิ) และ ประสิทธิ์ มะหะหมัด (เขตสะพานสูง) จะไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ 

ศิริพงษ์ รัสมี (เขตหนองจอก) เตรียมย้ายไปสังกัดพรรค ปชป. และกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ (เขตพระนคร) ไปพรรคเพื่อไทย ส่วน ชาญวิทย์ วิภูศิริ (เขตมีนบุรี) มีข่าวว่าจะเว้นวรรค

‘อนุทิน’ ปลื้ม!! วิจัยวัคซีนโควิด รุดหน้าเฟส 3 แล้ว เชื่อ!! หากผลิตใช้เองได้ ไทยจะมั่นคงด้านวัคซีน

‘อนุทิน’ เปิดทดลองวัคซีนโควิด HXP-GPOVac ของ อภ. ในคนเฟส 3 ตื้นตันจุกอก ‘อาสาสมัคร 4 พันคน’ เข้าร่วม ย้ำเป็นตัวเปลี่ยนเกม ตีไข่แตกสำเร็จทำไทยมีความมั่นคงวัคซีน ช่วยประหยัดงบประมาณ ส่งออกต่างประเทศ สร้างความร่วมมือต่างชาติขยายต่อยอด อภ.เผยเล็งวิจัยต่อในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี

(23 ธ.ค. 65) ที่ศาลากลางจังหวัดนครพนม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) นพ.ทวีศิลป์ วิศณุโยธิน รองปลัด สธ. นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.อภ. และ นพ.นคร เปรมศรี ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ แถลงข่าววิจัยทางคลินิกระยะที่ 3 เพื่อประเมินความปลอดภัยและความสามารถในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของวัคซีน HXP-GPOVac ขนาด 10 ไมโครกรัมในรูปแบบเข็มกระตุ้นเปรียบเทียบกับวัคซีนโควิด-19 ชนิดที่ใช้ไวรัสเป็นพาหะ พร้อมเยี่ยมชมการเริ่มฉีดวัคซีนในอาสาสมัคร ซึ่งเริ่มวันนี้เป็นวันแรก - 11 ม.ค. 2565

นายอนุทินกล่าวว่า วัคซีนโควิด HXP-GPOVac หนึ่งในโครงการวิจัยที่คืบหน้าที่สุดของไทย มาถึงจุดวิจัยทางคลินิกในระยะที่ 3 ถือเป็นพัฒนาการอีกหนึ่งขั้นในการสร้างภูมิคุ้มกันในประเทศไทย ต้องขอคารวะอาสาสมัคร 4 พันคน มีทั้งประชาชนและ อสม. ถือว่าเป็นวีรบุรุษวีรสตรี ที่เป็นผู้ที่จะทำให้การพัฒนาวิจัยวัคซีนเกิดผลสำเร็จ มีคุณูปการต่อประชาชนไทยและประเทศ แต่ไม่ต้องกังวล วัคซีนผ่านการทดสอบระยะที่ 1 และ 2 ว่าปลอดภัย ถึงนำมาทดสอบจำนวนมากในระยะที่ 3 เป็นรูปแบบเชื้อตายที่คนไทยคุ้นเคยดีว่าปลอดภัย อย่างวัคซีนไข้หวัดใหญ่

นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้ไม่มีวัคซีนตัวไหนป้องกันการติดเชื้อโควิดได้ แต่ทุกตัวทำให้ผู้ที่ติดเชื้อไม่มีอาการรุนแรงและไม่เสียชีวิต หากได้รับวัคซีนตามที่ สธ.กำหนดแนะนำ ทั้งนี้ ถ้าการทดสอบได้ผลน่าพอใจ ก็พร้อมจะผลิตวัคซีนตัวนี้เป็นเข็มกระตุ้นจากโรงงานผลิตยาของ อภ.ที่มีคุณภาพระดับโลก เงินทองก็จะไม่รั่วไหลออกนอกประเทศ เสริมสร้างความมั่นคงของระบบสาธารณสุขไทย

"ทราบว่าอาสาสมัครเป็น อสม. เชื่อว่าคนไทยทุกคนที่รับฟังข้อมูลนี้ก็จะรู้สึกจุกอกด้วยความปลื้มใจและศรัทธาที่มีให้กับ อสม. ที่ทุ่มเทด้านสาธารณสุข ในนามรัฐบาล สธ. และบุคลากรทางการแพทย์ ขอบคุณทุกคนทุกหน่วยงาน ทั้งในและต่างประเทศที่ช่วยกันให้ไทยจะมีวัคซีนป้องกันโควิดจากฝีมือคนไทย ตอกย้ำขีดความสามารถของไทยในการดูแลประชาชนให้มีความมั่นคงด้านสุขภาพอย่างยั่งยืน" นายอนุทินกล่าว

นพ.เกียรติภูมิกล่าวว่า ช่วงโควิดระบาดเราเห็นจุดอ่อนความมั่นคงทางยาและวัคซีน รัฐบาลให้การสนับสนุนองค์กรต่าง ๆ พัฒนาวิจัยวัคซีนมีหลายรูปแบบ อภ.ใช้เทคโนโลยีไข่ไก่ฟักและแบบเชื้อตาย มีความก้าวหน้าสูงสุดทำได้ในเฟส 3 โดยจะเปรียบเทียบกับไวรัลเวกเตอร์คือแอสตร้าเซนเนกา หวังว่าจะใกล้เคียงกันเรื่องคุณภาพ จะเป็นวัคซีนของคนไทย โดยจะทดลองวัคซีนในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีด้วยจะได้ใช้ในทุกกลุ่มอายุ หากมีความสำเร็จจะทำให้คนไทยมีความมั่นคง กลับไปสู่ภาวะปกติสุข มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว และการพึ่งพาตนเอง

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า มีคนถามว่าทำไมต้องมาทดลองวัคซีนกับอาสาสมัครในพื้นที่ จ.นครพนม ซึ่งอยู่ห่างไกลจากกทม.และ อภ. ในฐานะที่ปรึกษาโครงการและเคยมาทำงานในพื้นที่นี้ในการทำวิจัยเรื่องวัคซีนไข้หวัดใหญ่มาก่อนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว จึงนับว่าพื้นที่นี้มีความเข้าใจและเคยสร้างฐานการร่วมมือมาก่อน ขอให้ความมั่นใจอาสาสมัครว่า เราทดลองในขั้นก่อนหน้านี้ยาวนานมาก ตั้งแต่การได้ผล ไม่มีสารปนเปื้อน ไม่มีอันตราย ทดลองในหนู กระต่าย ลิง และอาสาสมัครจำนวนน้อยในระยะที่ 1 และ 2 คือพื้นที่นี้ ผลคือไม่มีใครมีปัญหาจากการทดลอง ความปลอดภัย 100% ก็ว่าได้ จึงมั่นใจที่จะทำ ทั้งนี้ กรมฯ เข้ามาช่วยในการตรวจในขั้นตอนต่าง ๆ ทั้งคุณภาพ ระดับภูมิคุ้มกัน และการติดเชื้อ ซึ่งเรามีมาตรฐานระดับโลกก็จะเป็นที่เชื่อถือ ถ้าสำเร็จจะมีวัคซีน Made in Thailand เจ้าแรก ไม่ต้องหาซื้อจากใครถือเป็นความมั่นคงทางวัคซีนของประเทศ

‘อนุทิน’ ลั่น ทุกคนมีบทบาทหน้าที่ของตัวเอง ชี้ ไม่มีเวลามาเล่นการเมือง เพราะต้องทำงานเพื่อประชาชน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ประกาศพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องมีเงื่อนไขอย่างไรว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องเลือกพรรคภูมิใจไทย เวลาหาเสียงก็ต้องหาเสียงอย่างเต็มที่ เชื่อว่าประเด็นนี้จะไม่ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่พอใจ เพราะตนไม่ได้หมายความว่า จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีในตอนนี้ ซึ่งตนก็ได้พบเจอกับพล.อ.ประยุทธ์แต่ไม่ได้พูดคุยถึงประเด็นนี้ เป็นการพูดคุยในประเด็นการทำงานทั่วไป อีกทั้งแต่ละพรรคการเมือง ก็ลงพื้นที่หาเสียงเหมือนกัน พรรคการเมืองลงพื้นที่พบประชาชน เพราะทุกพรรคต้องแสดงความพร้อม

นายอนุทิน กล่าวว่า ขอรอให้ถึงช่วงเลือกตั้งก่อนจึงจะสามารถรู้ได้ว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้เสียงส.ส.กี่เสียง และทุกอย่างจะชัดเจนช่วงเย็นของวันเลือกตั้ง ว่าจะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน  

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย ดูเหมือนว่าเนื้อหอมที่สุดในบรรดาพรรคการเมืองทุกพรรค นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกพรรคก็เนื้อหอมหมด เห็นพรรคพลังประชารัฐก็ไปเปิดตัวที่หนองคาย พรรคเพื่อไทยก็ไปที่เชียงราย พรรคก้าวไกลลุยพื้นที่กรุงเทพ ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็ไปลพบุรี ส่วนที่คนมีชื่อเสียงไหลเข้าพรรคภูมิใจไทยเป็นส่วนใหญ่ เป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับพรรคภูมิใจไทย  

ราชสีห์ของหนูคือปชช. ‘อนุทิน’ ลั่น!! จะช่วยเหลือ - รับใช้ ปชช. พร้อมหนุนทุกคนที่ทำเพื่อประเทศชาติ

เมื่อวานนี้ (23 ธ.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ขณะปฏิบัติภารกิจที่ จ.นครพนม หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประกาศความชัดเจนทางการเมืองเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ต้องแสดงความยินดีกับท่านด้วย เพราะว่าท่านก็แสดงความชัดเจนทางการเมืองให้กับพี่น้องประชาชนได้เห็น พี่น้องประชาชนก็จะมีตัวเลือกผู้นำของประเทศ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกอย่างเป็นทางการ ในความที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เราก็เป็นกำลังใจให้ท่าน ในเรื่องการแข่งขันทางการเมือง การลงเลือกตั้ง ก็หวังว่าท่านจะเป็นกำลังให้กับพวกตนบ้าง

เมื่อนักข่าวถามว่า ตอนนี้เป็นคู่แข่งทางการเมืองกันแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า อย่าไปถือว่าเป็นคู่แข่งนะ เราต้องถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้พี่น้องประชาชน เวลาจะคิดอะไร ต้องคิดว่าประโยชน์นั้นเกิดแก่ประชาชน เกิดกับบ้านเมือง เราไม่มามองว่าเราเป็นคู่แข่งกัน เราต่างแข่งกันทำความดี เสนอนโยบายที่มันดี ๆ เสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับบ้านเมือง ให้กับประชาชน มันไม่มีผู้แพ้ มีแต่ผู้ที่จะส่งการบ้านให้กับประชาชนแล้วเกิดประโยชน์มากที่สุด คิดแค่นี้พอ

‘เนวิน’ ยก 3 เหตุผล ‘อนุทิน’ พร้อมเป็นนายกฯ หลังผ่านบทพิสูจน์ ‘พูดแล้วทำ’ จน ปชช.ยอมรับ

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์รายการ “ชั่วโมงข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทาง Thai PBS ถึงกรณีที่จะผลักดันนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า นายอนุทิน มีความพร้อมทุกด้าน คือ 1. การศึกษา 2. ฐานะ 3. ประสบการณ์ชีวิตในการทำธุรกิจ เขาผ่านร้อนผ่านหนาวมาหมด เขาเรียนรู้มาหมด เขาอยู่มาในทุกบริบท ฉะนั้น นายอนุทินวันนี้ กับนายอนุทิน เมื่อปี 2562 เป็นคนละคน

“ผมว่าเขามีความพร้อมในการที่จะรับผิดชอบส่วนรวม ทำเพื่อส่วนรวมมากกว่าเดิม และเขาเข้าใจความรู้สึกของคนไทยในทุกระดับมากกว่าเดิม นายอนุทิน เมื่อปี 61 อาจจะเข้าใจบริบทของคนจน คนรากหญ้า คนชนบท คนต่างจังหวัดเกือบไม่เข้าใจเลย เพราะความที่เป็นเจ้าของซิโนไทยในอดีต แต่มาวันนี้บนบริบทที่ทำหน้าที่เป็นรมว.สาธารณสุข ได้ลงมาเห็นปัญหาความทุกข์ยาก เศรษฐกิจ โควิด อะไรทั้งหลายแหล่ รวมไปถึงประสบการณ์ในชีวิตเขา ผมว่าเขาพร้อมแล้ว” นายเนวิน กล่าว 

‘อนุทิน’ เปิดอาคารสถาบันโรคผิวหนังหลังใหม่ เผยจะช่วยปชช. เข้าถึงบริการเฉพาะด้านมากขึ้น

วันนี้เวลา 09.30 น. (26 ธ.ค. 65) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดอาคารสถาบันโรคผิวหนังหลังใหม่ ณ ห้องประชุม ชั้น 20 สถาบันโรคผิวหนัง เขตราชวิถี กรุงเทพมหานคร 

นายอนุทิน กล่าวว่า สถาบันโรคผิวหนัง สังกัดกรมการแพทย์ เป็นสถาบันการแพทย์เฉพาะทางด้านโรคผิวหนังระดับติยภูมิ และเป็นศูนย์กลางการศึกษาและวิจัยโรคผิวหนังของประเทศไทย ที่ได้รับความเชื่อมั่นและมีผู้เข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก มีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นทุกปี เนื่องจากไทยเป็นประเทศในเขตร้อน โรคผิวหนัง จึงเป็นหนึ่งในปัญหาสาธารณสุขที่พบได้ แม้จะไม่ทำให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิต แต่สร้างปัญหาด้านสังคม เศรษฐกิจ และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย การเปิดอาคารหลังใหม่ของสถาบันโรคผิวหนังครั้งนี้ จึงช่วยให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการเฉพาะด้านมากขึ้น โดยทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขาและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังวิสัยทัศน์ “เป็นสถาบันโรคผิวหนังที่ชาวไทยไว้วางใจและภาคภูมิใจ”

“กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายให้สถานบริการในสังกัดทุกระดับพัฒนาการบริการให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน รวมถึงนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินงาน เพื่อยกระดับการให้บริการช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มการเข้าถึงบริการ ซึ่งสถานบริการของกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งพัฒนาตามนโนบายเป็นอย่างดี” อนุทิน กล่าว

สำหรับสถาบันโรคผิวหนังมีความมุ่งมั่นพัฒนาสู่การเป็นสถาบันหลักในการดูแลโรคผิวหนังของประเทศ โดยมีภารกิจหลัก 3 ด้าน ได้แก่ 

1. ด้านการบริการ เป็นศูนย์แห่งความเป็นเลิศ (Center of Excellence) ด้านโรคผิวหนัง ให้บริการตรวจรักษาโรคผิวหนังทั่วไป และคลินิกเฉพาะทางที่สำคัญอีกหลายสาขา อาทิ คลินิกโรคสะเก็ดเงิน คลินิกอิมมูนวิทยา คลินิกหลอดเลือดดำ ศูนย์เส้นผมและเล็บ ศูนย์ชะลอวัยเป็นต้น พร้อมระบบให้คำปรึกษาทางไกลกับแพทย์ในโรงพยาบาลต่าง ๆ และการตรวจรักษาทางไกลกับผู้ป่วย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top