Saturday, 4 May 2024
สงขลา

บ่อปลานี้ ตกไม่ง่าย!! จับตา 'สุราษฎร์ฯ-นครศรีฯ-สงขลา' ชี้ชะตา 'บิ๊กตู่-จุรินทร์-เฉลิมชัย'

สำหรับพรรคประชาธิปัตย์แล้ว เลือกตั้ง 2566 นี้ หากได้ ส.ส.น้อยกว่าเดิม (52) ที่นั่ง...จะเกิดเหตุอย่างน้อยสองอย่าง

อย่างแรก 'เฉลิมชัย ศรีอ่อน' เลขาธิการพรรคจะวางมือทางการเมืองตามประกาศ...

อย่างที่สอง 'จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์' ก็น่าจะอำลาเก้าอี้หัวหน้าพรรคแบบ บัญญัติ บรรทัดฐาน เมื่อปี 2548 และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี2562

และสำหรับ 'บิ๊กตู่' พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากเลือกตั้งหนนี้ได้ ส.ส.ไม่ผ่าน 50 ที่นั่ง โอกาสที่จะวืดเก้าอี้นายกฯ รอบสาม ก็มีสูง...อย่ามองข้ามความปลอดภัย

ประชาธิปัตย์ และ พรรคพล.อ.ประยุทธ์ (รวมไทยสร้างชาติ) จะฝ่าเส้นตายเอาเสียงมาจากไหนที่เป็นกอบเป็นกำที่สุด...

คำตอบคือ บ่อปลาภาคใต้ 60 ที่นั่ง (ไม่ใช่ปลาในบ่อเพื่อน) อยู่ที่ว่าใครจะมีฝีมือตกได้มากกว่ากัน   

เลือกตั้ง 2562 ภาคใต้มี 50 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์หล่นวูบจาก 50 ที่นั่งเมื่อปี 2554 เหลือ 22 ที่นั่ง ส่วนพรรคพลังประชารัฐโหนกระแสลุงตู่เข้าสภา 13 คน...เฉพาะนครศรีธรรมราชกับสงขลาก็กวาดมาได้ 7 ที่นั่ง (3+4)   รอบนี้ลุงสวมเสื้อรวมไทยสร้างชาติ...กระแสยังแรง

สำหรับภาคใต้...ข่าวกึ่งปิดกึ่งเปิดประชาธิปัตย์ตั้งเป้า   35-40 ที่นั่ง รวมไทยสร้างชาติตั้งเป้า 25-30...นี่ยังไม่นับรวมตัวแบ่งอย่างภูมิใจไทย, ประชาชาติ...ซึ่งสองพรรคนี้มีอยู่ในมือแน่ๆ 10 ที่นั่ง!!

มีความเป็นไปได้ที่ ประชาธิปัตย์ หรือ รวมไทยสร้างชาติ ไม่พรรคใดพรรคหนึ่งต้องพลาดเป้าอย่างแรง หรือพลาดทั้งคู่คือหล่นลงมาสูสีกันที่ 20 กว่าที่นั่ง

กรณีประชาธิปัตย์ถ้าภาคใต้ได้ไม่ถึง 25 ที่นั่ง โอกาสที่ยอดรวมทั้งประเทศจะไปถึง 52 ที่นั่งบอกได้คำเดียวว่ายากมากถึงยากที่สุด

กรณีพรรคลุงตู่ก็คล้ายๆ กัน หากตกปลาบ่อภาคใต้ได้ไม่ถึง 20 คน โอกาสที่จะไต่เพดานไปเป็นพรรค 60-70 คนตามที่แอบฝันกันไว้ ก็ยากยิ่ง...การที่จะไปกดดันหรือต่อรองให้ 'อนุทิน' เล่นบท 'หนู ช่วยราชสีห์' ก็ยากขึ้น...!!

ดังนั้น จากนี้ไปอย่าได้กระพริบตาสมรภูมิภาคใต้ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดใหญ่ชี้เป็นชี้ตาย เพราะมีเก้าอี้ ส.ส.รวมถึง 26 ที่นั่ง ได้แก่...

สุราษฎร์ธานี 7 คน, นครศรีฯ 10 คน และ สงขลา  9 คน...

ใครกวาดเก้าอี้ 3 จังหวัดนี้ได้เกิน ถึง 20 ที่นั่ง...ก็โล่งโปร่ง
 

รมว.พิพัฒน์ เปิดกิจกรรมสัมมนาเพื่อสร้างการรับรู้แนวทางการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน

วันศุกร์ท่ี ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๖
ณ ห้องสมิหลา แกรนด์ โรงแรมบีพี สมิหลา บีช แอนด์ รีสอร์ท อําเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา นายพิพัฒน์  รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดกิจกรรมสัมมนา เพื่อสร้างการรับรู้แนวทางการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการดําเนนิ งาน ตามมาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน Sustainable Tourism management Standards หรือเรียกสั้นๆว่า (STMS) ซึ่งจัดโดย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. โดยมีนาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยอย่างยั่งยืน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 142 องค์กร ให้การต้อนรับ

รมว.พิพัฒน์ กล่าวว่า พื้นที่ลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ มีความหลากหลายทางระบบนิเวศ มีวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ มีวิถีชีวิตที่เป็นอัตลักษณ์ ท่ีโดดเด่น และเป็นพ้ืนท่ีท่ีมีศักยภาพด้านการท่องเท่ียว อย่างไรก็ตาม พื้นท่ีลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา ยังคงต้องการการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นด้านการอนุรักษ์ การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และวิถี ลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลาให้มีความยั่งยืน และช่วยกันยกระดับเพื่อนําไปสู่มาตรฐาน ท้ังในระดับประเทศ และระดับโลก อพท. จึงได้เสนอคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ให้ความเห็นชอบ การประกาศพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา และเห็นชอบ แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา ระยะ ๕ ปี (พ.ศ.๒๕๖๖ - ๒๕๗๐) ท่ีประกอบด้วยโครงการกว่า ๒๗๐ โครงการ งบประมาณ รวมกว่า ๕,๐๐๐ ล้านบาท

ภายใต้วิสัยทัศน์ “ลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา ต้นแบบการท่องเที่ยว เชิงนิเวศและวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน” ซึ่งจะเป็นกรอบและแนวทางสําหรับบูรณาการ ความร่วมมือและดําเนินงานร่วมกับของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการมีส่วนร่วม ขับเคลื่อน การพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างสรรค์ จากฐานทรัพยากรการท่องเที่ยว ที่มีคุณค่าของทะเลสาบสงขลา และวิถีเขาโหนด-นา-เล สู่การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและยั่งยืนในบริบทของการเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเท่ียวอย่างยั่งยืน โดยมี โครงการภายใต้แผนยุทธศาสตร์ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จํานวน ๑๖๖ โครงการ งบประมาณรวมเกือบ ๓,๔๐๐ ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนงบประมาณกว่า ๗๐ เปอร์เซ็นต์ในแผน ที่มีหน่วยรับผิดชอบคือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของพวกท่าน ซึ่งเป็นผู้พัฒนาและดูแลพื้นที่อย่างแท้จริง “มาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน Sustainable Tourism management Standards (STMS)” เป็นมาตรฐานท่ีได้รับการรับรองว่าเทียบเท่ากับ หลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสําหรับสถานที่ท่องเที่ยวของสภาการท่องเที่ยว อย่างยั่งยืนโลก ซึ่งเป็นองค์กรระดับสากล มาตั้งแต่ปี ๒๕๖๑ นั่นหมายความว่า มาตรฐานนี้ เป็นแนวปฏิบัติที่ได้รับความเช่ือถือในระดับนานาชาติ การนําแนวทางตามมาตรฐานดังกล่าว ไปดําเนินงาน จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กรต่างๆ ที่มีภารกิจในการบริหาร จัดการการท่องเที่ยวให้สามารถบริหารจัดการการท่องเที่ยวได้อย่างมีระบบและบูรณาการ งานท่องเที่ยวที่สามารถตอบสนองความต้องการของทุกภาคส่วนได้

อพท. จึงได้นํามาตรฐาน ดังกล่าวไปส่งเสริมและประเมินผลการดําเนินงานองค์กรที่มีบทบาทในการบริหารจัดการ การท่องเที่ยว โดยเริ่มที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นองค์กรหลักในพื้นที่ที่จะบริหาร จัดการการท่องเท่ียวได้อย่างย่ังยืน

บิ๊กอู๊ด ลงพื้นที่ลุยค้นยาเสพติดและอาวุธปืนครั้งใหญ่กว่า 600 จุด ในพื้นที่ภูธรภาค 9 วันเดียวจับผู้ต้องหากว่า 200 คน สั่งขยายผลทลายเครือข่ายตัดเส้นทางการเงิน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 20 มี.ค. ที่ ห้องประชุมชัยจินดา สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.พิชัย กิระวาณิช รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.เธียรวิโรจน์  เชี่ยวชาญ รอง ผบก.อก.ภ.7 พ.ต.อ.ภัคพงศ์  สายอุบล รอง ผบก.วจ.สยศ.ตร. พ.ต.อ.จารุพันธ์  เสริมพงศ์ รอง ผบก.อฎ. พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ ร่วมกันแถลงผลการติดตาม และเร่งรัดการปฏิบัติขับเคลื่อนการดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (บช.ภ.9) โดยได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 319 เครือข่าย รวม 609 จุด ใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เมื่อเช้าตรู่ของวันนี้

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า การปฏิบัติการวันนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. สั่งการให้กวาดล้างคดียาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างหลังพบการแพร่ระบาดจำนวนมาก เช้าวันนี้ตนจึงได้เปิดปฏิบัติการตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติดใน 7 จังหวัด ประกอบด้วยสงขลา ตรัง สตูล พัทลุง ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวม 609 จุด จากการตรวจค้นสามารถจับกุมได้ 227 คดี รวมผู้ต้องหา 235 คน ยึดของกลางเป็นยาเสพติด ประกอบด้วย ยาบ้า 320,829 เม็ดไอซ์ 4.75 กรัม เฮโรอีน 4.81 กรัม อาวุธปืน 29 กระบอก นอกจากนี้ยังตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ จำนวน 72 รายการ มูลค่าทรัพย์สิน รวม 17,446,723 บาท โดยเบื้องต้นได้สั่งการตำรวจภูธรภาค 9 ขยายผลการจับกุมเพื่อสาวให้ไปถึงตัวการรายใหญ่ต่อไป

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมาถึงวันที่ 15 มี.ค. ในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 9 ได้มีการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ได้ 4 เครือข่าย ประกอบด้วย 1. เครือข่าย น.ส.สุภาพร หรือ สุ ฟักหมิด และนายพิชิต หรือ บิ๊ก บัวผุด (ในพื้นที่ จว.พัทลุง) 2. เครือข่าย นายนฎดล หรือ บ่าว เข็มนาค ( พื้นที่ จว.สงขลา ) 3. เครือข่าย นายวีรยุทธ หรือเล็ก ทส. (พื้นที่ จว.สงขลา ) และ 4. เครือข่าย นายมะตายูดิน หรือ แช เจ๊มะ (พื้นที่ จว.ยะลา ) ได้ผู้ต้องหารวมทั้ง 4 เครือข่าย รวม 18 คน ได้ของกลางยาบ้า 1,971,700 เม็ด ไอซ์ 30 กิโลกรัม ยึดทรัพย์สินทั้งหมด 14,274,500 บาท

นายกชายมั่นใจ สงขลา 'ประชาธิปัตย์' สู้ได้ทุกเขต

นายเดชอิศม์ ขาวทอง ( นายกชาย ) สส.เขต 5 จ.สงขลา และ รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ ที่รับผิดชอบการเลือกตั้งในภาคใต้ เปิดเผย หลังมีการประกาศยุบสภาฯ ว่า ในส่วนของ 'ประชาธิปัตย์' มีความพร้อมที่สุด เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งอย่างเต็มที่ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี่ในพื้นที่ภาคใต้ ตนและนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการเลือกตั้ง ร่วมกันในการรับผิดชอบ  ที่ผ่านมาพรรคฯได้มีการเปิดตัวผู้สมัคร และลงพื้นที่พบปะ ประชาชน ในแต่ละเขตเลือกตั้งตั้งแต่ก่อนหน้านี้ มีการจัดปราศรัยไปแล้วมากกว่าทุกพรรคที่ส่งผู้สมัครในภาคใต้ พรรคมีกระแสตอบรับที่ดี และดีขึ้นโดยตลอด ทั้งกระแสพรรคกระแสผู้สมัครและหัวหน้าพรรค

การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคมีความพร้อมทั้งหัวหน้าพรรค เลขาพรรค และรองหัวหน้าพรรคที่รับผิดชอบ ไม่หนักใจและยอมรับว่าเหนื่อย เพราะทุกพรรคที่เป็นคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ต่างหวังที่จะ เจาะที่นั่งในภาคใต้ให้มากที่สุด แต่เราก็สู้สุดฤทธิ์ ทั้งในการรักษาที่นั่งเดิม และเอาที่นั่งที่เสียไปเมื่อการเลือกตั้งในปี 2562 กลับคืนมา ให้ได้มากที่สุด ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ภาคใต้มี สส.เพิ่มขึ้นจำนวน 60 เขต เรายังมั่นใจเต็มร้อยว่าจะได้อย่างต่ำ 40 เขต ส่วนอีก 20 เขต เป็นการชิงกัน ระหว่าง ประชาธิปัตย์ กับพรรคอื่นๆ ซึ่งเรายังอาจจะได้จำนวน สส.ใน 20 เขตนี้เพิ่มขึ้นก็ได้

ประชาธิปัตย์ เขต 1 เขต 3 สงขลา “สรรเพชญ” และ”สมยศ” กระแส นำคู่แข่ง หายห่วง

ผู้สื่อข่าว จ.สงขลา รายงานความเคลื่อนไหวของสนามเลือกตั้งใน เขตเลือกตั้งที่ 1 สงขลา ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่าง 3 พรรคการเมืองใหญ่ คือพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมี นายสรรเพชญ บุญญามณี ลูกชายของนายนิพนธ์ บุญญามณี ลงสมัครในเขตนี้ พรรคภูมิใจไทยส่ง นายประสงค์ บริรักษ์ อดีตนายกเทศบาลเมืองเขารูปช้างลงสมัคร และพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่งนายเจือ ราชสีห์ ลงสมัคร สำหรับนายเจือ ราชสีห์ เป็นอดีต สส.บัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ เคยเป็น สส.เขต 1 มาหลายสมัย แต่ล่าสุดลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อไปสังกัดรวมไทยสร้างชาติ โดยได้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี มาตรวจราชการ จ.สงขลา โดยการเสนอโครงการสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลาแทนการใช้แพขนานยนต์

สำหรับกระแสของประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 1 นับตั้งแต่มีการเปิดตัวผู้สมัคร แม้จะมีผู้สมัครจากพรรคการเมืองต่างๆส่งผู้สมัครจำนวนมาก เช่นพรรคก้าวไกล พรรคพัฒนากล้า พรรคพลังประชารัฐ แต่เป็นที่รับรู้กันในหมู่ประชาชนคือการแข่งขันกันระหว่าง นายสรรเพชญ บุญญามณี จากพรรคประชาธิปัตย์ นายเจือ ราชสีห์ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายประสงค์ บริรักษ์ จากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจความนิยมของประชาชน ยังพบว่ากระแสความนิยมของคนในเขตเลือกตั้งที่ 1 ในเขตเทศบาลนครสงขลา เขตเทศบาลเมืองเขารูปช้าง และอีกหลายตำบลเป็นของนายสรรเพชญ บุญญามณี ส่วนนายเจือ ราชสีห์ มีกระแสนิยมในพื้นที่ ต.เกาะยอ และ ต.พะวง  และนายประสงค์ มีกระแสความนิยมในพื้นที่ เทศบาลเขารูปช้างบางส่วน เนื่องจากเป็นอดีตนายกเทศบาลเมืองเขารูปช้างมาก่อน

‘หาดใหญ่’ แฮปปี้!! สิงค์โปร์ยกกองมาถ่ายซีรีส์ ‘The Richer’  ‘รองนายกเทศบาลฯ’ ชวน ปชช. เป็นเจ้าบ้านที่ดี

(25 มี.ค.66) รายงานว่าเรื่อง The Richer เรื่องราวความฝันของหญิงสาว อยากมาเรียนเดินแบบในเมืองไทยกับชายหนุ่มผู้มีความฝันอยากเรียนมวยไทย ในเมืองหาดใหญ่และสงขลา จะมีฉากสถานที่ท่องเที่ยว หาดทรายธรรมชาติ ท้องทะเลอันสวยงามของเมืองสงขลาและหาดใหญ่ วันที่ 26 มี.ค. - 5 เม.ย.66

“มีนักแสดงนำที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศฮ่องกง สิงคโปร์ และมาเลเซีย อย่างแพร่หลาย ได้แก่ DESMOND TAN JEREMY CHAN HONG LING AYDEN SNG HE YING YING TYLER TEN จะออกอากาศ 3 ประเทศ ในช่องทางแพลตฟอร์ม”

รายงานว่าพื้นที่การถ่ายทำ

วันที่ 26 มี.ค. เวลา 09.30-11.30 น. ถนนเสน่หานุสรณ์ (หน้าโรงแรมลีการ์เด้นส์ พลาซ่า) เวลา 11.00-17.30 น. บริเวณ ป.ณัฐพล (ตลาดหน้าโชคดีติ่มซำ)

วันที่ 29 มี.ค. 2566 เวลา 09.00-21.00 น. ร้าน วิลล่า วนิลา ถ.ภราดร

วันที่ 30 มี.ค. 2566 เวลา 15.00-17.00 น. ร้าน Hood ถ.ประชารมย์

วันที่ 31 มี.ค. 2566 เวลา 07.00-09.30 น. ตลาดกิมหยงเวลา 10.30-12.30 น. ที่ทำการแพทย์รถไฟ

เวลา 13.30-18.30 น. บ้านเลขที่ 51 ถ.ภราดร

วันที่ 1 เม.ย. 2566 เวลา 15.00-18.00 น. ถ.ศุภสารรังสรรค์ ข้างมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ้ง สตรีทอาร์ทรูปสิงโต

วันที่ 2 เม.ย. 2566 เวลา 08.00-10.00 น. พระพุทธมงคลมหาราช สวนสาธารณะเทศบาลฯเวลา 11.00-15.00 น. ถ.นิพัทธ์อุทิศ 1

‘กรณ์’ ร่วมดีเบตเวที จ.สงขลา ยก ‘จูรี’ เป็นโรลโมเดล ปลุกความหวัง-สร้างโอกาส เติมเต็มรอยยิ้มให้คนใต้

เมื่อวานนี้ (25 มี.ค. 66) ที่จังหวัดสงขลา นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เข้าร่วมเวทีดีเบต ‘อนาคตประเทศไทย’ โดยมี 4 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดสงขลา ได้แก่ นายจูรี นุ่มแก้ว, นายกัณฑ์ นวกัณฑ์, รศ.ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ และนายพงศธร สุวรรณรักษา ร่วมให้กำลังใจ พร้อมด้วยกองเชียร์มาร่วมฟังการแสดงวิสัยทัศน์กันอย่างคึกคัก ซึ่งแม้ว่าจะมาจากต่างพรรคการเมือง แต่ส่วนใหญ่มาทักทายและรุมขอถ่ายรูปกับจูรี ขวัญใจคนใต้กันอย่างเนืองแน่น

โดยนายกรณ์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า โดยส่วนตัวมีความรักผูกพันกับพี่น้องชาว จ.สงขลา และเพิ่งเข้าร่วมกิจกรรมว่ายน้ำข้ามทะเลสาบสงขลาไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการว่ายต่อเนื่องเป็นปีที่สอง เพื่อร่วมกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ จ.สงขลา ทั้งนี้เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของพรรคชาติพัฒนากล้า เรามียุทธศาสตร์สำคัญที่จะทำให้คนใต้ทุกคนมีโอกาสร่ำรวยเหมือนคนที่ชื่อ ‘จูรี นุ่มแก้ว’ ดาวติ๊กต่อก ภาคใต้ หนึ่งในว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา ที่เหมาะสมที่จะเป็นผู้แทนของพี่น้องประชาชน คุณสมบัติเด่นของจูรี คือ รอยยิ้ม ยิ้มได้เพราะได้ทำงานที่ดี มีเงินในกระเป๋า มีรายได้เพียงพอ ต่อราคาสินค้าที่สูงขึ้นทุกวัน พรรคชาติพัฒนากล้าจะมาเติมรอยยิ้มให้พี่น้องชาวใต้ทุกคน ด้วยการสร้างโอกาสดี มีงานดี มีเงินในกระเป๋า ราคาสินค้าต้องไม่แพง

อย่างไรก็ตาม นอกจากรอยยิ้มแล้ว คุณสมบัติอีกอย่างของจูรี ที่พี่น้องชาวใต้ชื่นชอบ คือ การลงมือทำจริง ในช่วงที่เขาเรียนหนังสือ ขณะนั้น ครอบครัวมีฐานะยากจน จูรีต้องแบกกระสอบข้าวสารในตอนกลางวัน และช่วงค่ำมาทำงานที่เซเว่น เพื่อหาเงินส่งตัวเองเรียนหนังสือ แต่หลังจากที่เขามีโอกาส สร้างรายได้หลายสิบล้าน แต่เมื่อคิดจะซื้อบ้านให้คุณแม่อุไร นุ่มแก้ว ธนาคารกลับไม่อนุมัติ เพราะเขาติดแบล็กลิสต์ในช่วงโควิด แม้ตอนนี้ชำระหนี้หมดแล้ว ก็ยังต้องติดอยู่ในระบบอีก 3 ปี ถึงจะหลุด เรื่องนี้เป็นปัญหาที่พรรคชาติพัฒนากล้าประกาศชัดว่า ต้องแก้ปัญหาให้กับพี่น้องคนไทยทั่วประเทศ ให้มีโอกาสกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ไม่ต้องพึ่งหนี้นอกระบบเหมือนกับที่จูรีต้องทำ

เกิดเหตุระทึกกลางดึก เร่งอพยพคนงาน-ชาวบ้านนับร้อย เหตุ ‘สารแอมโมเนียรั่วไหล’ หลายคนอาเจียน-หมดสติ

สารแอมโมเนียโรงงานผลิตอาหารแช่แข็งส่งออกต่างประเทศหาดใหญ่ ‘รั่ว’ อพยพคนงานนับร้อยคนออกจากหอพักในโรงงาน ชาวบ้านที่อยู่รอบๆ โรงงาน และต้องนำส่งโรงพยาบาลหลายสิบคนเนื่องจากอาการหนัก อาเจียนเวียนศีรษะ และบางรายถึงขั้นหมดสติ

เมื่อวานนี้ (27 มี.ค.66) เกิดเหตุสารแอมโมเนียรั่วภายในโรงงานผลิตอาหารแช่แข็งส่งออกต่างประเทศแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รั่วมาจากไลน์การผลิตและฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งภายในโรงงานและบริเวณโดยรอบโรงงงาน ซึ่งมีบ้านของชาวบ้านอาศัยอยู่ แต่ขณะเกิดเหตุในส่วนของไลน์การผลิตไม่มีคนงานทำงาน มีเพียงเฉพาะทีมช่างเข้าเวรอยู่

จึงได้มีการอพยพคนงานที่พักอาศัยอยู่ภายในโรงงานนับร้อยคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาออกมาอยู่ยังศูนย์แพทย์ 3 ตำบล ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนกาญจนวนิชและพ้นจากรัศมีการรั่วไหลของสารแอมโมเนีย พร้อมมีชาวบ้านบางส่วนที่อาศัยอยู่ใกล้กับโรงงานก็ต้องอพยพออกมาด้วย

เลือกตั้งเขต 6 สงขลา เดือดปุด ๆ 'น้ำหอม' สู้สุดฤทธิ์ กับ 'เสี่ยโบ๊ต' และ 'รองอั๋น' ที่หวัง 'ปักธง' เป็น ส.ส.

เขตเลือกตั้งที่ 6 จ.สงขลา เป็นอีกหนึ่งเขตเลือกตั้งที่ มีการแข่งขันกันหนัก ระหว่าง น.ส.สุภาพร กำเนินผล 'น้ำหอม' ที่เป็น ส.ส.ในเขตนี้จากการเลือกตั้งซ่อม กรณีที่ 'ถาวร เสนเนียม' ถูกศาลตัดสิทธิ์ ให้พ้นจากการเป็น สส.ในเขตนี้ ในปี 2564 ซึ่งในการเลือกตั้งซ่อมในครั้งนั้น เป็นการแข่งขันระหว่าง น.ส.สุภาพร กำเนิดผล ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นภรรยาของนายเดชอิศม์ ขาวทอง หรือ 'นายกชาย' กับ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ หรือ 'เสี่ยโบ๊ต' ตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ ลูกชายของนายอนันต์ พฤกษานุศักดิ์ 'คหบดี' ของ อ.สะเดา จ.สงขลาและ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสะเดา หุ้นส่วนบริษัท 'ศรีตรัง' ผู้ค้ายางและส่งออกยาง รายใหญ่ของประเทศไทย ส่วนผู้สมัครของพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนั้น เป็นได้แค่ 'ไม้ประดับ' เท่านั้น

ในอดีตเขตเลือกตั้งที่ 6 ประกอบด้วย อ.สะเดา ยกเว้น ต.สำนักขาม ต.สำนักแต้ว อ.คลองหอยโข่ง ทั้งหมด และ ต.บ้านพรุ ต.พะตง อ.หาดใหญ่ แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.มีการ แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ พื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 6 คือ อ.สะเดา และ อ.คลองหอยโข่ง ทั้งหมด ทำให้การ 'หาเสียง' การลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชนของผู้สมัครมีความสะดวกขึ้น ที่สำคัญในการ เลือกตั้งซ่อม เมื่อปี 2564 แม้ว่านายถาวร เสนเนียม เจ้าของพื้นที่หลายสมัย จะไม่ได้ลงรับเลือกตั้ง แต่นายถาวร ก็ประกาศให้การ สนับสนุน นายอนุกูล ซึ่งเป็นผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐให้ได้เป็น ส.ส. อย่างเปิดเผย ทั้งที่นายถาวร เป็นอดีต สส.ของพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นหนึ่งในผู้ สนับสนุน ให้นายเดชอิศม์ ขาวทอง 'นายกชาย' ให้เข้าพรรคประชาธิปัตย์ จนได้เป็น ส.ส.เขต 5 จ.สงขลา ของพรรคประชาธิปัตย์ แต่สุดท้ายการเลือกตั้งครั้งนั้น จบลงที่ น.ส.สุภาพร กำเนิดผล จากพรรคประชาธิปัตย์ เอาชนะ นายอุกูล พฤกษานุศักดิ์ ไปถึง 4,000 กว่าคะแนน และเป็นการชนะอย่างถล่มทลายในพื้นที่เล็กอย่าง อ.คลองหอยโข่ง ส่วนนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ชนะในพื้นที่ใหญ่ในเขตเทศบาลอำเภอสะเดา แต่เป็นการชนะที่ไม่ขาด

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังมีมติส่ง สส.สุภาพร กำเนิดผล ลงสมัครในเขต 6 เช่นเดิม ซึ่งเหมือนกับเป็นการลงป้องกันแชมป์กับคู่ชิงคนเดิม คือนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ซึ่งยังคงสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ 'ลุงป้อม' เป็นหัวหน้าพรรค และเป็นผู้สมัครคนเดียวของ จ.สงขลา จากพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่มีการย้ายพรรคไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 'ลุงตู่' รักษาการนายกรัฐมนตรี โดยเสี่ยโบ๊ต ได้รับการปูนบำเหน็จ ในความจงรักภักดีกับ 'ลุงป้อม' ด้วยการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของ 'ลุงป้อม' ในการ เลือกตั้งครั้งนี้

แต่....เลือกตั้งใหญ่ครั้งนี้ ไม่เหมือนกับการเลือกตั้งซ่อม เมื่อ 2 ปีก่อน เพราะ นอกจากส.ส.น้ำหอม และเสี่ยโบ๊ตที่เป็นคู่ชิงในการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาแล้ว ยังมีผู้สมัครจากพรรคการเมืองอื่น ๆ ลงสมัครในพื้นที่ เขต 6 อีกหลายพรรค และหนึ่งในหลายพรรคที่กล่าวมามี นายภูวดล (อั๋น) วงษ์โสภณากุล ซึ่งลาออกจากการเป็น เลขานุการนายก อบจ.สงขลา มาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในเขตที่ 6 โดยสวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติของลุงตู่และที่สำคัญคือมีนายถาวร เสนเนียม ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยภักดี ประกาศให้การ สนับสนุนนายภูวดล วงษ์โสภณากุล เช่นเดียวกับที่เคยให้การสนับสนุนนายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ มาแล้วในการเลือกตั้งซ่อมเมื่อ 2 ปีก่อน

ปชป.ส่งผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ครบทั้ง 9 เขต ในวันแรกของการรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.จังหวัดสงขลา

วันนี้ 3 เม.ย.66 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรค ปชป. เข้าสังเกตการณ์และให้กำลังใจแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากพรรคประชาธิปัตย์แบบแบ่งเขตทั้ง 9 เขตเป็นวันแรก ในการเปิดรับสมัคร ณ อาคารศูนย์กีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยมีกรรมการสาขาพรรคทั้ง 9 เขต พร้อมแกนนำพรรค  เดินทางมาให้กำลังใจแก่ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้ง 9 เขตอย่างเนืองแน่น บริเวณอาคารศูนย์การกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งผลการรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายสรรเพชญ บุญญามณี หมายเลข  4

 

เขต 2 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร หมายเลข 4  
เขต 3 นายสมยศ พลายด้วง หมายเลข 4
เขต 4 นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว หมายเลข 6
เขต 5 นายเดชอิศม์ ขาวทอง หมายเลข 3
เขต 6 นางสาวสุภาพร กำเนิดผล หมายเลข 2
เขต 7 นายศิริโชค โสภา หมายเลข 2
เขต 8 พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ หมายเลข 7
เขต 9 นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง หมายเลข  1


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top