Saturday, 4 May 2024
สงขลา

สงขลา – บรรยากาศคืนแรก งดออกจากเคหะสถานตั้งแต่ 4 ทุ่ม ถึงตี 4 ที่อำเภอหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามคำสั่ง

ในส่วนของ อ.หาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอหาดใหญ่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบตามตลาดต่าง ๆ เช่น ตลาดหาดใหญ่ใน พบว่าในช่วงเวลา 20 นาฬิกา บรรดาร้านค้าแผงลอยริมถนนยังคงเปิดให้บริการ ตามปกติบางร้านก็มีลูกค้าเข้าไปนั่งเนื่องจากเข้าใจว่าต้องปิดตอน 22 นาฬิกา 

เจ้าหน้าที่จึงได้ชี้แจงทำความเข้าใจขอความร่วมมือเจ้าของร้านให้ปฏิบัติตามคำสั่งให้ปิดตอน 20 นาฬิกาเพื่อร่วมกันการระบาดของโควิด ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่เข้าใจสถานการณ์และให้ความร่วมมือและพร้อมปฏิบัติตาม

ส่วนบรรยากาศในเมืองหาดใหญ่หลังจากที่ย่างเข้าเวลา 22 นาฬิกา ปรากฏว่าตามถนนสายต่างๆในตัวเมืองหาดใหญ่เงียบเหงาลงทันที โดยเฉพาะถนนสายหลักที่เป็นสายเศรษฐกิจ ย่านบันเทิง เช่นถนนราษฎร์อุทิศ หรือเขต 8 ถนนเพชรเกษมวงเวียนน้ำพุ , ถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 , ถนนเสน่หานุสรณ์ ซึ่งเป็นถนนคนเดินย่านโรงแรมลีการ์เด้นพลาซ่า เริ่มว่างเปล่าแทบไม่มีรถวิ่งผ่านไปมา และทั้งเมืองเงียบสงบลงทันที

ชาวเมืองหาดใหญ่พร้อมให้ความร่วมมือเป็นผลมาจากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ มียอดผู้ป่วยโควิดมากที่สุดใน จ.สงขลา จำนวน 447 คน จากผู้ป่วยทั้งหมดของ จ.สงขลา 567 คน


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

สงขลา – เจ้าอาวาสวัดเลียบ ขึ้นป้ายรณรงค์ให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นภาษาใต้ ขู่ทีเล่นทีจริง ใครไม่ปฏิบัติจะส่งผีไปหลอกที่บ้าน

ที่ จ.สงขลา ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ซึ่ง จ.สงขลารอบนี้มีผู้ติดเชื้อติดอันดับท๊อปเท็นของประเทศตัวเลขผู้ป่วยล่าสุดอยู่ที่ 691 คนแล้วแต่ท่ามกลางโควิดและความเครียดความกลัวของประชาชนก็ยังพอมีสีสันให้ยิ้มได้บ้าง

โดยเฉพาะที่วัดเลียบ ใน อ.เมืองสงขลา พระครูนพกิจโกศล เจ้าอาวาสวัดเลียบ อ.เมือง จ.สงขลา เจ้าตำรับภาษาใต้ทองแดงวัดเดียวของ จ.สงขลา ที่มักจะเขียนป้ายประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ของวัดเป็นภาษาใต้แท้ ๆ

ล่าสุดก็ได้ขึ้นป้ายบนกำแพงหน้าวัดรณรงค์ป้องกันโควิดให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นภาษาใต้ว่า”ใสหน้ากาก นั่งหาง ล้างมือ กันทุกคนน๊ะโยม ใครไม่ปฏิบัติตาม ส่งผีไปหลอกที่เรือน” ซึ่งคำว่าใสหน้ากาก ก็คือใส่หน้ากาก นั่งหางคือนั่งห่าง  ส่วนส่งผีไปหลอกที่เรือนก็หมายถึงส่งผีไปหลอกที่บ้าน

ทำให้ญาติโยมที่มาทำบุญที่วัดรวมทั้งผู้คนที่ขับรถผ่านไปมาเมื่ออ่านแล้วก็เข้าใจได้ทันทีและต่างก็อมยิ้ม โดยเฉพาะหากใครไม่ปฏิบัติตามจะส่งผีไปหลอกที่เรือนนั้นก็เป็นกุสโลบายทีเล่นทีจริงที่หยอกให้ญาติโยมได้กลัวและต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยกันทุกคน


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์

สงขลา - บุกจับแอลบ่ออิฐนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ของ จ.สงขลาได้คาขนำในพื้นที่ ต.พะวง อ.เมืองสงขลา

พยายามวิ่งหนีลงไปในบึงน้ำแต่ตำรวจตามจับกุมได้ หลังขนยาบ้า 1 ล้านเม็ด ไอซ์ 10 กิโลกรัมมากับลูกและเมียแต่รถเก๋งเสียหลักชนราวเหล็กริมทางในพื้นที่ ต.ถ้ำพรรณรา อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช และทิ้งรถหลบหนีส่วนแฟนสาวยอมเข้ามอบตัวไปก่อนแล้วเผยประวัติถูกจับกุมคดียาเสพติดเข้าออกเรือนจำมาแล้ว 4ครั้งนับตั้งแต่ ปี 2530 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5

ภาพเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธร จ.สงขลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พ.ต.ท.ขวัญชาติ จันทะ สารวัตรกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา

เข้าปิดล้อมจับกุมนายมงคล สังข์แจ้ง อายุ 53 ปี หรือแอลบ่ออิฐ ซึ่งเป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สงขลา ขณะซ่อนตัวอยู่ที่ขนำในพื้นที่บ้านโคกไร่ ม.8 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา แต่นายมงคล พยายามวิ่งหลบหนีการจับกุมลงไปในบึงน้ำข้างขนำ แต่ไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามจับกุมได้พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

โดยนายมงคล เป็นผู้ต้องหาในคดียาเสพติดตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง หลังจากที่เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ได้ขนยาบ้าเกือบ 1ล้านเม็ด และไอซ์อีก 10 กิโลกรัม จากกรุงเทพฯมากับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอ็กคอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ. 2636 สงขลา โดยมีน.ส.จุฑาลักษณ์ เมืองคุ้ม แฟนสาวและเด็กหญิงอายุประมาณ 2 ขวบนั่งมาด้วยซึ่งเป็นลูกติดของแฟน ทำเหมือนกันเดินทางมาเป็นครอบครัวเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากเจ้าหน้าที่

แต่รถเกิดอุบัติเหตุชนราวเหล็กทางค้างริมถนนสายเอเชีย พื้นที่หมู่ 6 ต.ถ้ำพรรณรา อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ล้อหน้าซ้ายหลุดไปต่อไม่ได้ และได้ทิ้งรถขึ้นรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า สีขาวไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป

เมื่อตำรวจเข้าตรวจสอบก็พบยาบ้าเกือบ 1ล้านเม็ด และไอซ์อีก 10กิโลกรัมอยู่ภายในรถและสอบสวนขยายผลจนรู้ตัวผู้ที่ขับขี่รถเก๋งคันนี้มา  ต่อมาเมื่อวันที่ 16 เมษายนได้ถูกศาลจังหวัดทุ่งสงได้ออกหมายจับ โดยน.ส. จุฑาลักษณ์ ได้ยอมเข้ามอบตัวไปก่อนแล้ว

ส่วนนายมงคล  ยังหลบหนีและเจ้าหน้าที่สืบสวนจนทราบว่าได้มากบดานอยู่ในพื้นที่บ้านโคกไร่ หมู่ 8 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา จึงวางแผนเข้าจับกุมได้ในที่สุด

พร้อมแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกิน20กรัมขึ้นไปไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าจำนวน 1,000,000 เม็ด) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย”

สำหรับประวัติของนายมงคล หรือแอลบ่ออิฐ เป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่เคยถูกจับกุมเข้าออกเรือนจำมาแล้วถึง4 ครั้ง นับตั้งแต่ปี2530 ครั้งนี้เป็นครั้งที่5 เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวส่งสภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ท้องที่เกิดเพื่อดำเนินคดีต่อไป


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

สงขลา - ชาวบ้านจะนะ ขอให้นายกรัฐมนตรี เร่งผลักดัน “เมืองต้นแบบที่ 4” ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว เชื่อแก้ปัญหาว่างงาน และยากจนได้แน่

จากการเปิดเผยของกลุ่มประชาชนใน อำเภอจะนะ จ.สงขลา ที่ต้องการให้โครงการ “เมืองต้นแบบที่ 4” เกิดขึ้น ที่ อ.จะนะ ได้กล่าวกับ ผู้สื่อข่าวว่า โครงการ เมืองต้นแบบที่ 4 ขาดการ ขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรม หลังจากที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปรับเปลี่ยนบทบาทจากผู้ที่เข้ามาดำเนินการในด้านการสร้างความเข้าใจ และการพัฒนาในพื้นที่ไปเป็นฝ่ายอำนวยการให้กับหน่วยงานที่เข้ามา ขับเคลื่อนโครงการเมืองต้นแบบแห่งนี้ ตามคำสั่งของ ค.ร.ม.รวมทั้งยังมีการตั้งให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช. เกษตรและสหกรณ์และคณะมาตรวจสอบว่าการดำเนินการทั้งหมดที่ผ่านมาของ ศอ.บต.,สำนักงานที่ดิน, โยธาธิการ มีความถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่

ต่อมาหลังจากที่ผ่านพ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ซึ่งมีเรื่องของ เมืองต้นแบบที่ 4 รวมอยู่ด้วย แต่การอภิปรายไม่มีน้ำหนัก ข้อมูลไม่ชัดเจน และผู้ถูกอภิปราย ชี้แจงได้ชัดเจนรวมทั้งมีการตรวจสอบแล้ว พบว่าการดำเนินการของ ศอ.บต. สำนักงานโยธาธิการ และ สำนักงานที่ดินเป็นไปตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงมีคำสั่งให้มีการดำเนินการ ขับเคลื่อนเมืองต้นแบบต่อไปโดย มี ศอ.บต. และ กอ.รมน.เป็น ฝ่ายเลขานุการอำนวยการ ให้กับหน่วยงานที่เข้ามารับผิดชอบ การเกิดขึ้นของปัญหาข้างต้น ซึ่งทำให้โครงการ เมืองต้นแบบที่ 4 หยุดชะงัก ไปถึง 5-6 เดือนแล้ว

ตัวแทนของกลุ่มผู้ต้องการเห็นการพัฒนาพื้นที่ อ.จะนะ ได้กล่าวว่า ขอให้ นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ในการขับเคลื่อน ให้ เมืองต้นแบบที่ 4 เดินหน้าได้มีการลงพื้นที่ทำการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความมั่นใจว่า อำเภอจะนะ และ จังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้มีการพัฒนาอย่างแน่นอน เพราะสถานการณ์ของคนในพื้นที่คนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้ทวีความลำบากได้รับความเดือดร้อน จากการที่ในพื้นที่ไม่มีงานทำ เมื่อก่อนคนส่วนใหญ่ ที่ไม่มีที่ดินทำกิน ไม่มีอาชีพ ได้ไปรับจ้าง ขายของ อยู่ร้านอาหาร และขายแรงงาน ทั้งก่อสร้าง และตัดยาง ทำสวนปาล์ม ทำประมง แต่ 2 ปีมานี้ ต้องกลับมาอยู่บ้าน เพราะปัญหาของ”โควิด 19” และเข้าใจว่าในอนาคตข้างหน้าแรงงาน ที่เคยทำงานในมาเลเซีย หลายหมื่นคน จะตกงานอย่างถาวร  วันนี้เราลำบากจริงๆ และมีคนที่ ตกงาน 30,000- 40,000 คน ในพื้นที่ 3 จังหวัด 4 อำเภอ ของสงขลา

รัฐบาลต้องเร่ง ขับเคลื่อน ให้โครงการเมืองต้นแบบเกิดขึ้นโดยเร็ว ต้องเป็นรูปเป็นร่างภายใน 2-3 ปี จึงจะสามารถช่วยให้ คนในพื้นที่ และ ใน 3 จังหวัดได้มีงานทำ รวมทั้งผู้จบการศึกษา ที่ยังไม่มีงานทำ ในพื้นที่อีกจำนวนหนึ่ง และที่จบใหม่ทุกปีอีกจำนวนหนึ่งที่อยู่ในสภาพของคนว่างงาน ต้องช่วยครอบครัวทำอาชีพเดิม ๆ ทำสวน ทำไร่ ทำนา ซึ่งเป็นอาชีพที่ พอเลี้ยงตัว แต่ไม่มีอนาคต

วันนี้คนที่มีอาชีพประมงพื้นบ้านอาจจะไม่เดือดร้อน เพราะในทะเลยังมีสัตว์น้ำให้จับมาขาย แต่คนอาชีพอื่น ๆ เดือดร้อน และต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง เห็นการเกิดขึ้นของ อุตสาหกรรม เพื่อที่จะมีงานทำ และมีโอกาสลงทุน การค้าขาย การทำธุรกิจอื่น ๆ ที่ตามมากับการเกิดขึ้นของโครงการขนาดใหญ่ จึงขออ้อนวอน ให้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ หน่วยงาน ที่ท่านให้เข้ามา ขับเคลื่อน เมืองต้นแบบที่ 4 ที่ อ.จะนะ ได้ลงมือ ขับเคลื่อน ให้เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตามในขณะที่ ฝ่ายราชการยังขับเคลื่อนด้วยความล่าช้า ซึ่งอาจเพราะมีปัญหาการระบาดของ ‘โควิด-19’ รอบใหม่ ทำให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว แต่ในส่วนของ บริษัท  ทีพีไอ โพลีน พาวเวอร์ จำกัด ( มหาชน ) ได้มีการ เดินหน้าไปมากแล้ว ตั้งแต่การ ทำ เอ็นโอยู กับ บริษัทต่างชาติ และ บริษัทในประเทศ ที่สนใจเข้ามาลงทุน ในโครงการ พลังงานไฟฟ้า อุตสาหกรรมการแปรรูป การประมง การผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมต่าง ๆ และขณะนี้ บริษัท ได้ให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ดำเนินการวิจัยในประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจและมีคำตอบในทุกปัญหาที่เป็นข้อข้องใจของกลุ่มที่ ‘เห็นต่าง’ และต้องการคำตอบในประเด็นที่นำมาเป็นข้อโต้แย้งในโครงการนี้มาโดยตลอด


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

สงขลา - พลเอกประวิตรฯ ห่วงใยคณะสงฆ์และประชาชนไทยพุทธในชุมชนห่างไกลเมืองจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 และสิบวันสุดท้ายรอมฎอน 64 พร้อมสั่งการให้ทุกฝ่ายเร่งช่วยเหลือโดยด่วน

วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการเร่งด่วนให้  ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับส่วนราชการและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วนที่สุดแก่คณะสงฆ์และประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธที่พักอาศัยบริเวณพื้นที่โดยรอบวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่บ้านและชุมชนรอบวัดที่ห่างไกลเมืองซึ่งมักพบว่ามีประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธเป็นจำนวนน้อยส่งผลให้การส่งเสริมกิจกรรมทางพุทธศาสนาไม่มีความสะดวกเท่าที่ควร บางพื้นที่มีประกาศงดปฏิบัติศาสนกิจของสงฆ์เป็นการชั่วคราว ทำให้พระและลูกวัดมีความเป็นอยู่และการปฏิบัติศาสนากิจประจำวันยากลำบากมากขึ้น ประกอบกับช่วงเวลานี้ เป็นช่วงสิบวันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ประจำฮิจเราะห์ศักราช 1442/2564 ซึ่งมักเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มากกว่าในช่วงเวลาอื่น

ในการนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า พลเอก ประวิตรฯ ได้มีความห่วงใยต่อเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะคณะสงฆ์และประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธ โดยเฉพาะที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเมือง ล้วนได้รับผลกระทบ 2 ทาง ทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 และเหตุการณ์ความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีการใช้ความรุนแรงเป็นจำนวนมากกว่าเวลาอื่น พร้อมนี้ ได้มอบหมายให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เร่งไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือคณะสงฆ์และประชาชน มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบรรเทาความเดือดร้อนตามปัญหาข้างต้นทั้งในระดับพื้นที่ อาทิ การมอบหมายให้ส่วนราชการในจังหวัดรับผิดชอบดูแลให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของวัดและประชาชนในพื้นที่ห่างไกลในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง การจัดตั้งโรงครัวเพื่อจะได้ถวายอาหารแก่พระภิกษุสงฆ์สามเณรที่ไม่สามารถปฏิบัติศาสนากิจได้อย่างเต็มที่ตลอดห้วงเวลานี้ เป็นต้น ขณะเดียวกันก็ได้ประสานให้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนการปฏิบัติงานให้กับหน่วยงานในระดับพื้นที่ต่อไปโดยไม่ชักช้า ดังนั้น หากคณะสงฆ์และวัดใดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประสบปัญหาและความเดือดร้อนในเรื่องใด ขอให้ประสานงานโดยตรงไปยังจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดและสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดที่ตั้งเป็นลำดับแรก หรือ อาจจะประสานไปที่ ศอ.บต. ทางสายด่วน ศอ.บต. 880

ภายหลังจากที่พลเอก ประวิตรฯ ได้สั่งการในข้างต้นนั้น ศอ.บต. ได้ลงพื้นที่พบปะเจ้าคณะประจำอำเภอในปัตตานี และเสาร์-อาทิตย์นี้ จะส่งทีมบัณฑิตอาสาในหมู่บ้านที่เป็นที่ตั้งของวัดและสำนักสงฆ์เพื่อจัดทำข้อมูลปัญหาและความเดือดร้อนของวัด พระภิกษุสงฆ์ สามเณรและประชาชนในพื้นที่ที่นับถือศาสนาพุทธโดยรอบวัดที่ห่างไกลและการดูแลให้ความช่วยเหลือยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรวบรวมปัญหาและความจำเป็นให้สำนักปลัด    สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเหลือเร่งบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพระภิกษุสงฆ์ สามเณรและประชาชนตามที่รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตรฯ มอบหมายต่อไป

ทั้งนี้ มีการแสดงข้อมูลของพระอารามหลวง วัด สำนักสงฆ์ และที่พักสงฆ์ หรือ เทียบเท่า ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีจำนวนทั้งสิ้น 392 แห่ง แบ่งเป็นวัด จำนวน 309 แห่ง สำนักสงฆ์ จำนวน 11 แห่ง ที่พักสงฆ์ จำนวน 72 แห่ง มีพระภิกษุสงฆ์ รวมทั้งสิ้น 1,509 รูป และสามเณร รวมทั้งสิ้น 33 รูป มีชุมชนไทยพุทธที่อาศัยรอบบริเวณวัดที่เปราะบางและต้องการให้หน่วยงานรัฐเข้าไปช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อน มากถึง 26 ชุมชน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันในการให้ความช่วยเหลือเพื่อธำรงไว้ซึ่งความเป็นพหุสังคมและวัฒนธรรมที่ดีงามของจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามนโยบายของรัฐบาล


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

สงขลา - เทศบาลนครสงขลา จับมือสาธารณสุขจังหวัดสงขลา และโรงพยาบาลสงขลาเปิดจุดคัดกรองกลุ่มเสี่ยง เร่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชน

ในพื้นที่เขตเทศบาลนครสงขลากลุ่มเป้าหมายวันนี้เป็นพนักงานเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา บริเวณถนนทะเลหลวง 36 คน และแม่ค้าตลาดรถไฟ 280 คน รวม 316 คน

วันนี้  12 พ.ค.64 ที่บริเวณลาน 5 ไร่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา เทศบาลนครสงขลา ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลาและโรงพยาบาลสงขลาเปิดจุดคัดกรองกลุ่มเสี่ยงตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุกให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่เขตเทศบาลนครสงขลา  ในวันนี้ กลุ่มเป้าหมายเป็นพนักงานเซเว่นอีเลฟเว่น ทุกสาขาบริเวณถนนทะเลหลวง เขตเทศบาลนครสงขลา จำนวน 36 คน และแม่ค้าตลาดรถไฟ จำนวน 280 คนรวม 316 คน โดยตั้งจุด swab ที่บริเวณลาน 5 ไร่ตรงข้ามพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติจังหวัดสงขลา เขตเทศบาลนครสงขลา

โดยประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ทั้งพนักงานเซเว่นอีเลฟเว่น และแม่ค้าตลาดรถไฟก็เดินทางมาเพื่อทำการคัดกรอง บริเวณจุด swab อย่างต่อเนื่องมีการจัดระเบียบ ตรวจคัดกรองเข้มทั้งการวัดอุณหภูมิร่างกาย ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือและจัดระยะห่าง ในการคัดกรองเข้าไปบริเวณที่ทำการตรวจหาเชื้อ covid-19

ในวันนี้ กลุ่มเป้าหมายทุกคนให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยตั้งใจเดินทางมาตรวจคัดกรองเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง ที่ต้องเผชิญสภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 รอบที่ 3 ในครั้งนี้ หลังจากเมื่อวานนี้ได้ทำการคัดกรองกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเป้าหมาย เป็นแม่ค้าตลาดทรัพย์สินพลาซ่าและพนักงานร้านลีวิวัฒน์และประชาชนถนนเทศบาล 1 รวม 220 คน ไปเรียบร้อยแล้ว

เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ในพื้นที่เทศบาลนครสงขลาที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้เทศบาลนครสงขลาปฏิบัติการเชิงรุกตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงพร้อมเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขและให้ความร่วมมือในการรับผิดชอบต่อสังคมอย่างเคร่งครัดอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

สงขลา - สงขลานครินทร์ ส่งมอบ “นวัตกรรมสู้ภัยโควิด-19” แก่ รพ. กว่า 200 แห่ง ทั่วประเทศ

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยคณะวิทยาศาสตร์ ส่งมอบ 4 นวัตกรรม ในโครงการ SciJai แก่โรงพยาบาลกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการต่อสู้กับ COVID-19 พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือและบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดให้คลี่คลายลง

รองศาสตราจารย์ ดร.อัญชนา ประเทพ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. ได้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนทุกท่านมีส่วนร่วมในการสนับสนุนนวัตกรรม โดยนักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้กับ COVID-19 ของบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อส่งมอบไปยังโรงพยาบาลในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดย 4 นวัตกรรมที่ได้ส่งมอบไปแล้ว ได้แก่ แผ่นกรองเพิ่มประสิทธิภาพหน้ากากผ้าใกล้เคียง N95, เครื่องจ่ายเจลล้างมืออัตโนมัติ, ระบบตรวจจับอุณภูมิร่างกายและคัดกรองอาการไข้ด้วยภาพถ่ายความร้อน และเครื่องวัดอุณหภูมิระยะไกล ซึ่งได้ส่งมอบนวัตกรรมให้กับโรงพยาบาลและโรงเรียนกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ

โดยหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้ส่งมอบให้กับโรงพยาบาล และเพจดัง “Drama Addict” เพื่อส่งต่อไปยังทีมแพทย์ คือ แผ่นกรองเพิ่มประสิทธิภาพหน้ากากผ้าใกล้เคียง N95 ซึ่งแผ่นกรองดังกล่าว เป็นการผลิตเส้นใยนาโนอิเล็กเทรทพอลิเมอร์ด้วยเทคนิคอิเล็กโตรสปินนิงมาใช้เป็นตัวกรองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของหน้ากากผ้าใกล้เคียง N95 คุณลักษณะเด่น คือ มีประสิทธิภาพเทียบเท่าหรือใกล้เคียงกับหน้ากากทางการแพทย์ โดยการผลิตเส้นใยนาโน ด้วยเทคนิคอิเล็กโทรสปินนิง ทำเป็นแผ่นกรอง "Sci-Mask Filter" จึงมีคุณสมบัติเป็น Biocompatible มีความปลอดภัยในการใช้งาน มีประสิทธิภาพในการกรองที่สูง ทั้งการกรองอนุภาคและการกรองไวรัสเทียบเท่าใกล้เคียงกับหน้ากาก N95 และที่สำคัญมีคุณสมบัติ Super hydrophobic ซึ่งจะไม่ยอมให้ละอองน้ำหรือละอองลอยสามารถซึมผ่านแผ่นกรองได้ ทีมนักวิจัยได้นำแผ่นกรอง "Sci-Mask Filter" ไปทดสอบทางวิทยาศาสตร์ พบว่า มีประสิทธิภาพการกรองสูงถึง 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งได้ทำการทดสอบเรื่องความปลอดภัยในเซลล์ของปอด ร่วมกับ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผลพบว่าสามารถใช้งานและมีประสิทธิภาพในการกรองแบคทีเรีย (ขนาด 1 micron) และไวรัส (ขนาด 0.2 micron) ที่ปนเปื้อนในละอองฝอยได้มากกว่า 99% เฉพาะแผ่นกรองมีประสิทธิภาพกรองฝุ่นที่ PM 2.5 ได้ถึง 91.17 %

“สำหรับการส่งมอบนวัตกรรมของคณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ด่านหน้าในการต่อสู้กับ COVID-19 ในครั้งนี้ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักวัจิยของคณะฯ ที่จะนำเอาองค์ความรู้ที่มี มาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ สิ่งใดที่สามารถแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์ หรือทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิดคลี่คลายลง ทางคณะวิทยาศาสตร์ ม.อ. ยินดีอย่างยิ่งในการช่วยเหลือ ขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นส่วนสำคัญในการสู้วิกฤตในครั้งนี้” รองศาสตราจารย์ ดร.อัญชนา กล่าว

ทั้งนี้ หน่วยงานราชการ หรือท่านใดต้องการนำนวัตกรรมในโครงการ Scijai สามารถติดต่อมาที่ งานบริการวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โทร. 074-288023

สงขลา – ชาวอำเภอนาทวี แห่ฉีดวัคซีนที่ รพ.สมเด็จพระบรมราชินี ณ อำเภอนาทวี หลังเกจิดังภาคใต้ และผอ.รพ.เชิญชวน ส่วนเจ้าคณะอำเภอสะเดา ยืนยันฉีดแล้วไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น

วันนี้ 17 พฤษภาคม 2564 ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินี ณ อำเภอนาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา ได้มีประชาชนชาวอำเภอนาทวีประมาณ 400 คน เดินทางเข้ามารับการฉีดวัคซีนชิโนแวค หลังจาก ที่ พระครูสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนาทวี/รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา หรือเกจิดังภาคใต้ พร้อมด้วยนายแพทย์สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินี ณ อำเภอนาทวี ก่อนหน้านี้ได้มีการเชิญชวนชาวอำเภอนาทวี ให้มาลงทะเบียนและรับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด 19 กัน และในวันนี้จึงมีประชาชนชาวอำเภอนาทวีแห่กันมาที่ รพ.ฯเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนชิโนแวคเพื่อป้องกันเชื้อโควิด 19 กัน โดยทาง รพ.ฯจะมีขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อการตรวจ และสอบประวัติผู้เข้ามารับการฉีดวัคซีน อย่างพร้อมเพียง สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่เข้ามารับการฉีดวัคซีนชิโนแวคในครั้งนี้

ครูบัณฑิตธรรมาลังการ (ประสิทธิ์ ปณฺฑิโต) เจ้าอาวาส วัดยางทอง – เจ้าคณะอำเภอสะเดา กล่าวว่า เจริญพร อาตมาได้มีโอกาสได้ไปฉีดวัคซีนโควิดชิโนแวค เมื่อวันที่ 5 เมษายน เป็นเข็มที่ 1 แล้วก็วันที่ 25 เมษายน เข็มที่ 2 ครบ อาการหลังจากที่ได้ฉีดวัคซีนนั้น ก็จะทำให้มีความเชื่อมั่นในเรื่องของการติดต่อเชื้อโรค จะได้ไปไหนมาไหนก็จะมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ในส่วนอาการนั้นก็ไม่ได้พบว่าจะมีอาการใด ๆ เกิดขึ้น จากที่บรรดาท่านทั้งหลายนั้นได้เสพข่าวไม่ว่าในทางทวีก็ดี ทางด้านหนังสือพิมพ์หรือในกลุ่มไลน์ เฟสบุ๊คอะไรต่าง ๆ นา ๆ ซึ่งสื่อส่วนใหญ่นั้นก็บางครั้งก็อาจจะลงไปผิดพลาดทำให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจ แต่หลังจากที่อาตมาฉีด 2 เข็มผ่านไป ซึ่งถือว่าฉีดอยู่ในล็อตแรก ๆ ของส่วนภูมิภาคที่ทางรัฐบาลได้แจกจ่ายให้ส่วนภูมิภาคต่าง ๆ ก็ยังไม่ได้พบอาการใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นอาการผื่นคันก็ดีหรืออาการแพ้ยา หรือจะอะไรก็ตามที่บรรดาท่านทั้งหลายมีความวิตกกังวน ว่าเมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะมีอาการใกล้เคียงอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งรับว่าไม่เป็นความจริง เพราะฉนั้นก็ขอเชิญชวนบรรดาพระภิกษุซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง เนื่องจากว่าต้องติดต่อกับบรรดาญาติโยมตามสถานที่ต่าง ๆ ก็จัดว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงกลุ่มหนึ่ง จึงขอนิมนต์เชิญชวนเพื่อไปลงทะเบียนแล้วก็ฉีดให้ครบ ไม่ฉะนั้นถ้าแม้ว่าเรายังฉีดกันไม่ทั่ว ก็จะเป็นผลทำให้เกิดโรคติดต่อที่กำลังรุมเร้าอยู่ในยุคปัจจุบัน แล้วก็ฝากว่าเราอย่าพึ่งไปเชื่อข่าวเสพข่าวจนเกินไป แล้วก็อย่าไปวิตกกังวนเป็นโรคตาขาวนั้นก็คือมีความกลัว ว่าจะติดเชื้อให้เราคิดว่าการฉีดวัคซีนนั้นเป็นการป้องกันการติด ไม่ได้ป้องกันการตาย เพราะฉนั้นบางท่านนั้นจะกลัววัคซีนโควิดมากกว่ากลัวเชื้อที่จะมาติดกับตัวตน จึงอยากที่จะเชิญชวนท่านทั้งหลายให้ไปลงทะเบียนและก็ไปฉีดวัคซีนตามระบบไม่มีอาการใกล้เคียงใด ๆ ทั้งสิ้น ขอเจริญพร

ทางด้านพระครูสุวัฒนาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนาทวี และ รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา หรือเกจิดังภาคใต้ กล่าวว่า วันนี้ก็มีญาติโยมพุทธบริษัทเข้ามารับวัคซีนกันมาก วันนี้มีเข็ม 2 เยอะ เช่นอำเภอนาทวี ก็เยอะ ดั่งนั้นก็ขอเชิญญาติโยมพี่น้องพุทธบริษัทที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนรับวัคซีนก็ขอเชิญมาเพื่อปกป้องร่างกายตนเอง วัคซีนแต่ละตัวดีหมด ที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่เราฉีดในปัจจุบันนี้เอง อย่าเที่ยวรอโยม เมื่อคืนวาน เมื่อคืน อาตมาภาคได้ไปหาพระเพื่อนที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา คือวัดหาดใหญ่ใน ก็นั่งๆอยู่ก็เห็นมีศพเข้ามา ศพเข้ามาก็เป็นเรื่องธรรมดาที่วัดก็ไม่มีอะไร แต่พอเข้ามาแล้วเห็นคนนั่งศาลาวิ่งกันหมด เขาบอกว่าเป็นศพที่เสียชีวิตจากโรคโควิด ก็เลยเห็นแล้วสงสาร เมื่อคืนมี 2 ศพด้วยกัน ก็อยากคิดว่าเรายังมีชีวิตอยู่ เรายังดำเนินชีวิตของเราได้อยู่ สงสารครอบครัวสงสารตัวเองก็อยากขอเชิญญาติโยมพี่น้องพุทธบริษัททุกคนทุกท่านได้มาร่วมกันลงทะเบียนเพื่อปกป้องตัวเองตามที่พูดไว้ก็คือ สร้างกำแพงเพื่อปกป้องร่างกายของเราจากโรคโควิดโดยการฉีดวัคซีนชิโนแวค ขอเจริญพร

สงขลา - นิพนธ์ เติมเครื่องอุปโภค-บริโภค ตู้ปันสุข ร่วมกิจกรรม “คนมหาดไทย แบ่งปันน้ำใจ สู้ภัยโควิด-19” ขอความร่วมมือปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A อย่างจริงจัง

วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 ณ บริเวณหน้ากระทรวงมหาดไทย (ถนนบำรุงเมือง) นายนิพนธ์  บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง ข้าราชการในสังกัดกรมการปกครอง ร่วมเติมของอุปโภค-บริโภคในกิจกรรม “มหาดไทยปันสุข ส่งต่อความห่วงใยสู้ภัยโควิด-19” ให้กับประชาชนที่พักอาศัยชุมชนโดยรอบกระทรวงมหาดไทย เน้นกลุ่มเป้าหมายผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส คนไร้ที่พึ่ง และผู้ที่กำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  โดยนำเครื่องอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็น ทั้ง ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นมกล่อง หน้ากากอนามัยแจลแอลกอฮอล์  และของใช้จำเป็นต่าง ๆ ใส่ในตู้ปันสุข

ทั้งนี้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มท. ได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนให้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 D-M-H-T-T-A คือ D : Distancing เว้นระยะห่าง M : Mask wearing สวมหน้ากาก H : Hand washing ล้างมือสม่ำเสมอ T : Temperature ตรวจวัดอุณหภูมิ T : Testing ตรวจหาเชื้อโควิด-19 และ A : Application Thaichana ใช้แอปพลิเคชันไทยชนะ/หมอชนะ เพื่อเป็นการป้องกันคนในครอบครัวและป้องกันการแพร่เชื้อไปยังผู้คนในชุมชน สังคม โดยขอให้ร่วมมือกันอย่างจริงจัง พร้อมทั้งเชิญชวนให้ประชาชนได้ลงทะเบียนและไปฉีดวัคซีนฯให้มากขึ้น

ทั้งนี้ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้จัดกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน(อส.)ให้ปฏิบัติหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและกำกับดูแลแถวให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนที่มารับสิ่งของได้ใช้วิธีแจกคูปองให้กับคนในชุมชนเพื่อมีคัดกรองคนที่จะมารับในเบื้องต้น ขณะที่ในช่วงของการรอรับสิ่งของบริจาค กระทรวงมหาดไทย มีการเว้นระยะห่างวัดอุณหภูมิเพื่อไม่ให้เกิดความแออัด และจะดำเนินการโครงการนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ต่อไป


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ หาดใหญ่ จ.สงขลา

สงขลา - ผู้บริหาร ศอ.บต.ร่วมกับ อบจ.สงขลา และผู้นำท้องที่ ลงพื้นที่อำเภอเทพาและอำเภอจะนะ ช่วยเหลือเกษตรกรระบายผลผลิตฟักทองอย่างต่อเนื่อง

ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา นายอิสระ ละอองสกุล ผู้อำนวยการกองประสานและเร่งรัดการพัฒนาพื้นที่พิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย นายพิทยา รัตนพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาคารสถานที่และยานพาหนะ ศอ.บต. และเจ้าหน้าที่ ศอ.บต. ร่วมพบปะหารือเกษตรกรอำเภอเทพา และอำเภอจะนะ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือผลผลิตในพื้นที่ ซึ่งได้ประสบปัญหาการส่งออกเนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อสินค้าทางการเกษตรที่ให้ผลผลิตในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเฉพาะฟักทองและฟักเขียวที่มีเกษตรกรหลายรายจำนวนหลายร้อยไร่ ทยอยให้ผลผลิตเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้ระดมให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง


โอกาสนี้ ทางคณะผู้บริหาร ศอ.บต.พร้อมด้วย พลตำรวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายเสรี เหล๊าะเหม สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นางสาวปรินดา ปาลาเร่ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) นายเจะโส๊ะ หัดเหาะ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน (อบต.ตลิ่งชัน) นายจิรวัฒน์ สนิหลำ กำนันตำบลตลิ่งชัน ผู้นำท่องถิ่นและส่วนราชการในพื้นที่ ลงพื้นที่ร่วมพบปะกลุ่มเกษตรกร ณ บ้านป่าโอ หมู่ 6 ตำบลเทพา อำเภอเทพา  และบ้านป่างาม หมู่ 3 ตำบลตลิ่งชัน อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา พร้อมนำผู้ประกอบการเอกชนซื้อฟักทอง ประกอบด้วย นายประเสริฐ คณานุรักษ์ ได้รับซื้อฟักทอง จำนวน 2 ตัน เพื่อนำส่งไปที่วัดนาประดู่และที่สมาคมหลังตลาดนาประดู่ และบริษัท ปาล์มพัฒนาชายแดนใต้ จำกัด รับซื้อจำนวน 13 ตัน โดยทาง อบจ.สงขลา และ อบต.ตลิ่งชัน ได้อำนวยความสะดวกจัดรถขนส่งเพื่อนำส่งผลผลิตถึงที่ รวมถึง บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) รับซื้อจำนวน 2140 กิโลกรัม อีกด้วย


ทั้งนี้ คณะผู้บริหาร ศอ.บต. ได้ร่วมพบปะหารือ นายสถานีรถไฟจะนะ จังหวัดสงขลา เพื่อหาแนวทางด้านความร่วมมือการส่งสินค้าฟักทองเข้าส่วนกลางตามความต้องการของผู้ประกอบการอีกด้วย อย่างไรก็ตามภาครัฐและภาคเอกชนได้ระดมช่วยเหลือระบายผลผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่


นอกจากนี้ คณะฯ ได้เดินทางไปยัง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (โรงงานบ้านพรุ) บ้านพรุ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อรับไก่สด CP จำนวน 300 กิโลกรัม และไข่ไก่จำนวน 4,000 ฟอง โดยทาง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร ได้ให้การสนับสนุนผ่าน ศอ.บต. เพื่อมอบให้แก่พี่น้องประชาชนที่รับผลกระทบฯ จากโควิด-19 ในพื้นที่ จชต.



ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top