Sunday, 5 May 2024
ภาคใต้

กระตุ้นเที่ยวใต้!! เปิดตัว e-book 'คู่มือเส้นทางท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อมุสลิม' ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว 14 จังหวัดภาคใต้

รัฐบาล เปิดตัว e-book ‘คู่มือเส้นทางท่องเที่ยว ที่เป็นมิตรต่อมุสลิม และการท่องเที่ยวเชิงอาหาร’ ส่งเสริมการท่องเที่ยว 14 จังหวัดภาคใต้ เชื่อมโยงมาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ 

(2 มี.ค.66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนและผลักดันภาคธุรกิจการท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสลามทั่วโลกที่กำลังเติบโต และเป็นกลุ่มที่มีกำลังใช้จ่ายสูง ให้เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ รัฐบาลโดยกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เปิดตัวคู่มือเส้นทางท่องเที่ยว ‘Muslim Friendly & Gastronomy Tourism Routes’ หรือ คู่มือเส้นทางท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อมุสลิมและการท่องเที่ยวเชิงอาหาร เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ อีกทั้ง ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้ตลอดเส้นทางการท่องเที่ยวใน 14 จังหวัดภาคใต้

น.ส.รัชดา กล่าวว่า คู่มือเส้นทางท่องเที่ยว Muslim Friendly & Gastronomy Tourism Routes นี้ เป็นการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย เชื่อมโยงกับ 3 ประเทศเพื่อนบ้าน คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ และเกาะบาตัม อินโดนีเซีย โดยมี 2 เส้นทางท่องเที่ยว คือ...

1. เส้นทางท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อมุสลิม (Muslim Friendly Tourism Route) เป็นการนำเสนอสถานที่ที่เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม โดยไม่ขัดต่อหลักศาสนา อีกทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไปก็สามารถแวะได้เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมอาหารและกิจกรรมต่าง ๆ ของชาวมุสลิม และ 2. เส้นทางท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism Route) เส้นทางนี้นอกจากจะนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวทั่วไปแล้ว ยังนำเสนอร้านอาหารท้องถิ่นและเป็นที่นิยมของแต่ละแห่ง ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสวัฒนธรรมของคนท้องถิ่นผ่านอาหารในแต่ละมื้ออย่างเต็มอิ่ม

โจรใต้ลอบวางระเบิดขบวนรถ รองแม่ทัพภาค 4 ทหารเสียชีวิต 2 เจ็บ 1 ‘พ.ต.ไพศาล’ รอดหวุดหวิด

(4 มี.ค. 66) ‘คุณวาสนา นาน่วม’ ผู้สื่อข่าวสายทหาร หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ และโพสต์ทูเดย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า…

บึ้ม! ขบวนรถ รองแม่ทัพภาค 4 ‘พลตรีไพศาล หนูสังข์’ รอดหวุดหวิด หน่วย EOD พลีชีพ 2 หลังนำทีมเข้าตรวจสอบเหตุยิงฐาน ฉก.ทพ. 4906 บ้านไออาร์แซ อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส คาดเป็นแผนก่อเหตุ และลวงให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบวางระเบิด ดักใต้ถนนลากสายกดชนวนรถ EOD ติดเครื่อง Jammer โดนระเบิด ถือเป็นเหตุใหญ่ที่เกิดขึ้น ในขณะที่ ‘พลเอก Zulgifli’ ผู้อำนวยความสะดวก การพูดคุยสันติสุขฯ ของรัฐบาลมาเลเซีย เพิ่งเสร็จสิ้นการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย

มีรายงานว่า เมื่อช่วง บ่าย 15.10 น. วันที่ 3 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา เกิดเหตุวางระเบิดในพื้นที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ขบวนรถของพลตรีไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาค 4 ที่เดินทางออกจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังยิงฐานปฎิบัติการ ฉก.ทพ. 4906 บ้านไออาร์แซ ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ที่เกิดเหตถ ตั้งแต่เช้า 2 มีนาคม 2566

จากแรงระเบิดทำให้รถนำขบวนที่เป็นชุด EOD ฉก.อโณทัย ได้รับความเสียหาย ทหารหน่วย EOD บาดเจ็บ 3 นาย และพบว่า 2 นาย เสียชีวิตในเวลาต่อมา

‘บิ๊กตู่’ แสดงความเสียใจเหตุลอบวางระเบิดชุด EOD สั่งเยียวยา-ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตให้ดีที่สุด

(4 มี.ค. 66) พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวแสดงความเสียใจ กับครอบครัวของกำลังพลชุด EOD จำนวน 2 นาย และกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย จากการถูกกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ จชต.ลักลอบวางระเบิด ขณะเดินทางปฏิบัติงานในพื้นที่ บ้านไออาร์แซ ตำบลศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ในช่วงเย็นวานนี้ (3 มี.ค.66)

โดยทางนายกระฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ กองทัพบก และ กอ.รมน.ภาค 4 นำผู้เสียชีวิต ร่วมประกอบพิธีทางศาสนาอย่างสมเกียรติ และช่วยเหลือดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างดีที่สุด รวมทั้งให้เยียวยาและดูแลสิทธิกำลังพลและครอบครัว ผู้ได้รับบาดเจ็บและสูญเสียอย่างต่อเนื่อง

ครม. ไฟเขียว ปรับเกณฑ์ปล่อยกู้ 3 จว.ชายแดนใต้ ช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงเงินทุน-เดินหน้าธุรกิจต่อเนื่อง

(14 มี.ค.66) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. เห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นการทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม  2565 เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอในการลงทุนและดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง 

การปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการในครั้งนี้ มีสาระสำคัญ คือ 
1.คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อ ปรับปรุงโดยขยายกลุ่มผู้ขอสินเชื่อให้ครอบคลุมลูกหนี้รายเดิมที่เคยได้รับสินเชื่อโครงการมาแล้วเกิน 5 ปี สามารถเข้าร่วมโครงการได้ จากเดิมที่ผู้ขอสินเชื่อโครงการนี้ จะต้องไม่เคยได้รับสินเชื่อโครงการ หรือได้รับสินเชื่อโครงการมาแล้วไม่เกิน 5 ปี 

2.วงเงินโครงการ 25,000 ล้านบาท ปรับปรุงโดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ 
(1) วงเงิน 20,000 ล้านบาท สำหรับผู้กู้รายเดิมที่เคยได้รับสินเชื่อของโครงการมาแล้วเกิน 5 ปี ซึ่งสิ้นสุดระยะเวลาไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2565 และมีต้องการขอรับสินเชื่อโครงการต่อเนื่อง 
(2) วงเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับผู้กู้รายใหม่ที่ยังไม่เคยได้รับสินเชื่อของโครงการมาก่อน  

ทั้งนี้ สถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการจะพิจารณาปล่อยสินเชื่อ โดยให้ความสำคัญกับผู้กู้รายใหม่ที่ยังไม่เคยได้รับสินเชื่อมาก่อนเป็นลำดับแรก 

‘ผบช.ภ.7’ แถลง จับยาไอซ์ล็อตใหญ่ มูลค่ากว่า 100 ล้าน ลั่น!! รับจ๊อบ ส่งให้เครือข่ายใหญ่ในภาคใต้

(15 มี.ค. 66) พล.ต.ต.ธนายุติม์ วุฒิจรัสธรรมรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย นายปิยะพงษ์ ชูวงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานแถลงข่าวผลการจับกุมตัวนายนิวัฒน์ บุญเรือง ประทุมดวง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 ม.15 ต.ปางมะค่า อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร และผู้ต้องหาตามหมายจับ ประกอบด้วย นายอ๊ะหมัด บังคม อายุ 35 ปี, นายริดูวาน บูแล อายุ 22 ปี, น.ส.ซารีนา โต๊ะนอ อายุ44 ปี, น.ส.นอรีชา บูละ อายุ34 ปี และ น.ส.กอมีละ แวหะมะ อายุ 39 ปี 6 ผู้ต้องหาร่วมกัน ลักลอบขนยาเสพติดประเภท 1 ยาไอซ์ 2 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 100 ก.ก. พร้อมรถของกลางยี่ห้อ เซฟโลเล็ตสีขาว หมายเลขทะเบียน ฒว.2737 กทม. รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ หมายเลขทะเบียน 2 กผ 8721 กทม ที่ สภ. ชะอำ

สำหรับคดีจับกุมยาไอช์ล็อตใหญ่ดังกล่าว พล.ต.ต.ธนายุติม์ เผยว่า สืบเนื่องจาก พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ ได้รับแจ้งจากสายลับ เมื่อวันที่12 มี.ค.ว่าจะมีการลักลอบขนส่งยาเสพติดจำนวนมากประปนมากับเสื้อผ้าจากต้นทางจังหวัดนนทบุรีเพื่อลำเลียงลงสู่จังหวัดนราธิวาส ผ่านจังหวัดเพชรบุรี จึงรายงานให้ พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ทราบ และทำการตั้งด่านตรวจสกัดจับที่บริเวณจุดสกัด ถ.เพชรเกษมขาล่องใต้ บ้านนิคม ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น ของวันถัดมา เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นรถกระตู้ทึบสีขาวตามที่สายลับแจ้งลักษณะมา จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถและสังเกตเห็นนายวิวัฒน์ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าว มีท่าทางลุกลี้ลุกลนอย่างมีพิรุธ จึงขอตรวจค้นจนพบของกลางเป็นยาไอช์จำนวน 2 กระสอบรวม น้ำหนัก 100 กิโลกรัม ซุกซ่อนปะปนมากับกระสอบเสื้อผ้าเพื่ออำพรางอีก 5 กระสอบ

จากนั้นได้นำตัวนายนิวัฒน์มาทำการสอบสวนขยายผลทันที โดยนายนิวัฒน์สารภาพว่า ยาไอช์ดังกล่าว ตนเองพร้อมพวกอีก 5 คน ได้เช่ารถกระบะตูทึบกับรถเก๋งเพื่อรับจ้างจากเอเย่นต์รายหนึ่งในราคาสามแสนบาทลำเลียงมาจากจังหวัดนนทบุรี โดยนำยาไอซ์ซุกมาพร้อมกระสอบเสื้อผ้าในรถกระบะทึบ ส่วนรถเก๋งจะใช้เป็นรถวิ่งสังเกตเส้นทางล่วงหน้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำยาเสพติดไปส่งให้กับเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส กระทั่งรถกระบะตู้ทึบวิ่งมาถึงด่านตรวจนิคมจึงตรวจพบของกลางดังกล่าว

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง นราธิวาส สตูล และสงขลา จัดทีมลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่า 9 ล้านบาท ในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด

วานนี้ (วันที่ 16 มีนาคม 2566) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก และนายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคในโครงการฟื้นฟูหลังน้ำลด ประกอบด้วย ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋องน้ำมันพืช และน้ำปลา ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอนาหม่อม และอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รวม 3,400 ชุด โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งมูลนิธิสงเคราะห์ 14 จังหวัดภาคใต้ และ มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี รวมทั้งอาสาสมัครมูลนิธิฯ นำโดย นายสำอาง สว่างแจ้ง ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกอาสาสมัคร นางศิริวรรณ โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์ และนางศิริพร โอภาสวงศ์ อาสาสมัครกิตติมศักดิ์ ร่วมลงพื้นที่แจกจ่ายสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคในพื้นที่

โดยระหว่างระหว่างวันที่ 6-18 มีนาคม 2566 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง นราธิวาส สตูล และสงขลา รวม 5 จังหวัด คิดมูลค่าเครื่องอุปโภคบริโภคทั้งสิ้น 9,000,000 บาท (เก้าล้านบาทถ้วน) โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมทั้งมูลนิธิสงเคราะห์ 14 จังหวัดภาคใต้ และ มูลนิธิฯ / สมาคม ประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี  

นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้จัดทีมลงพื้นที่แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อเป็นการฟื้นฟูหลังน้ำลดทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และพื้นที่ส่วนภูมิภาค รวม 24 จังหวัด รวมงบประมาณเครื่องอุปโภคบริโภคในการแจกจ่ายไม่ต่ำกว่า 14.8 ล้านบาท

ยังไม่จบ! บิ๊กอู๊ด ลุยต่อเนื่องจับแก๊งยาเสพติดภาคใต้ สั่งภูธรภาค 8 เปิดยุทธการ "สยบอันดามัน 1/66" จับแก๊งยาครั้งใหญ่กว่า 300 คน

วันที่ 21 มีนาคม ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (บช.ภ.8) จ.ภูเก็ต พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.พีรยุทธ การะเจดีย์ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รอง ผบช.ภ.8  พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน บก.สส.ภ.8 พ.ต.อ.เธียรวิโรฒ เชี่ยวชาญ รอง ผบก.อก.ภ.7 พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.วจ.สยศ.ตร. และ พ.ต.อ.จารุพันธ์ เสริมพงศ์ รอง ผบก.อฎ. ร่วมกันแถลงข่าว ตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัดภูธรภาค 8 รวม 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติด ตามยุทธการ "สยบอันดามัน 1/66" เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติด และยึดทรัพย์เครือข่ายกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ให้เป็นรูปธรรม และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนมาก

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ยุทธการ "สยบอันดามัน 1/66" สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. สั่งการให้กวาดล้างคดียาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ ตนจึงสั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งประกอบด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร สุราษฎธานี นครศรีธรรมราช ระนอง กระบี่ พังงา และภูเก็ต เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเครือข่ายยาเสพติดที่จะทำลาย จำนวน 247 เครือข่าย เป้าหมายการปิดล้อมตรวจค้น
จำนวน 516 เป้าหมาย แบ่งเป็นเป้าหมายการตรวจคัน 468 เป้าหมาย และเป้าหมายเพื่อจับ จำนวน 48 เป้าหมาย

แถลงข่าว โชว์ผลการปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ พร้อมของกลาง ยาไอซ์ ๕๐ กก. พร้อมยาบ้า ๒,๐๐๐ เม็ด ขานรับนโยบายรัฐบาลให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังในพื้นที่ภาคใต้

(1 เม.ย.66) เวลา 15.00 น. ที่ สภ.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส น.อ.ธัชธรรม์ ณ สงขลา รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนราธิวาส และ พ.ต.ท.อรรถพล สลับเพชร สว.สภ.ปะลุกาสาเมาะ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ จำนวน ๑ เครือข่าย ผู้ต้องหา จำนวน ๕ คน, ของกลาง ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ ๕๐ กก., ยาบ้า จำนวน ๒,๐๐๐ เม็ด ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับ การกระทำผิดมูลค่าประมาณ 1,200,000 บาท (อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม) 

ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลให้มีการปราบปรามยาเสพติด อย่างจริงจังโดยให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ เป็นแหล่งแพร่ระบาด เป็นจุดพักยา และเป็นเส้นทางลำเลียงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ระดมสรรพกำลังเพื่อขับเคลื่อนนโยบายในการ แก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่องตลอดมา ต่อมาได้มีการกำหนดแผนปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม ทำลายโครงสร้างเครือข่าย กระบวนการผู้ค้ายาเสพติดและในห้วงตั้งแต่วันที่ ๒๐ - ๓๑ มี.ค. ๖๖ ที่ผ่านมา

โดยพล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้แถลงข่าวพอสรุปใจความว่าเมื่อวันที่ ๓๐ มี.ค.๖๖ ที่ผ่านมา ได้ร่วมกันทำการจับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ได้แก่ 1.นายอาเฟนดี นิมะ บ้านเลขที่ ๑๒๙/๕ ม.๕ ต.ฆอเลาะ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ๒. นายอิบรอเฮม การียา บ้านเลขที่๑๑๔/๒ ม.๑๐ ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ๓. นายอะหะหมัด ดอเลาะ บ้านเลขที่ ๒๐/๔ ม.๓ ต.ปะกาฮะรัง อ.เมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ๔. นายอาซฮา อูเซ็ง บ้านเลขที่๑๐๓ ม.๑ ต.โละจูด อ. แว้ง จ.นราธิวาส ๕. นางสาวซีลาวาตี กือจิ บ้านเลขที่๑๗๔ ม.๑ ต. โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส พร้อมด้วยของกลาง ดังนี้ 1.ยาเสพติด(เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) น้ำหนัก ประมาณ ๕๐ กิโลกรัม บรรจุอยู่ในลังกระดาษ และ กระเป๋ากระสอบลายสีรุ้ง  ๒. ยาเสพติด(เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน ๑ มัด จำนวน  (๒,๐๐๐ เม็ด) บรรจุอยู่ในห่อกระดาษ สีขาว ๓. รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ๘กผ ๘๕๔๓ กรุงเทพมหานคร ๔. รถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีขาว หมายเลข ทะเบียน ขร ๓๕๗๒ สงขลา ๕. รถยนต์ ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นฟอร์ดเรนเจอร์ สีขาวหมายเลขทะเบียน กจ ๙๘๘๓ นราธิวาส และ โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง เหตุเกิดริมถนนทางหลวงหน้าด่านกองร้อยทหาร พรานนาวิกโยธินที่ ๑๑ ม.๑ กาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส

“ชวน”ชื่นชม3อดีต ส.ส.เพชรบุรี มั่นคงอุดมการณ์ไม่ขายตัวไม่ทิ้งพรรค วอนคนเพชรเลือก ”อลงกรณ์-กัมพล-อภิชาติ”เบอร์7ทั้ง3เขตพ่วงกาประชาธิปัตย์เบอร์26

เมื่อวันที่ 15 เม.ย เวลา 18.00 น.อดีตประธานรัฐสภาและอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่หาเสียงที่อำเภอบ้านลาดจังหวัดเพชรบุรีขึ้นรถแห่ปราศรัยหาเสียงพร้อมด้วยนายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครเขต1 นายกัมพล สุภาแพ่่ง ผู้สมัคร เขต 2 
นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ผู้สมัครเขต3 พรรคประชาธิปัตย์เบอร์7ทั้ง3เขตจากนั้นจึงเดินทักทายประชาชนในตลาดบ้านลาดมีประชาชนให้การต้อนรับอย่างคึกคัก


     นายชวนปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตนเป็น ส.ส.16สมัยเห็นความจริงทางการเมืองมายาวนาน55ปี การเมืองทุกวันนี้ใช้เงินซื้อนักการเมืองเหมือนประมูลตัวแต่นักการเมือง3คนของจังหวัดเพชรบุรีมีอุดมการณ์มั่นคงไม่ทิ้งพรรคไม่ขายตัว ขอให้คนเมืองเพชรสนับสนุนนักการเมืองที่ดีมีอุดมการณ์ โดยช่วยกันเลือกอดีตส.ส.ทั้ง3คนคือนายอลงกรณ์ พลบุตร ผู้สมัครเขต1 นายกัมพล สุภาแพ่่ง ผู้สมัคร เขต 2  นายอภิชาติ สุภาแพ่ง ผู้สมัครเขต3 พรรคประชาธิปัตย์เบอร์7ทั้ง3เขตและพรรคประชาธิปัตย์เบอร์26 สถาบันการเมืองของประชาชนเป็นพรรคการเมืองพรรคแรกของประเทศอยู่มายาวนานกว่า77ปีเป็นหลักของบ้านเมือง


  นับเป็นการมาช่วยหาเสียงผู้สมัครส.ส.เพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์แบบเซอร์ไพรส์ครั้งที่2ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา.

‘ชุมสาย ศรียาภัย’ ล่องใต้ติวผู้สมัคร 14 จังหวัด 60 เขตหาเสียง ชี้!! กระแสพรรคในภาคใต้แรงมาก เชื่อ ได้ ส.ส.หลายเขตแน่นอน

(17 เม.ย.66) นายชุมสาย ศรียาภัย รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ปราศรัยย่อยช่วยเหลือผู้สมัคร ตลอดจนให้ความรู้ทางกฎหมายเลือกตั้งและวิธีการป้องกันการโกงเลือกตั้ง และช่วยงานปราศรัยย่อยแก่ผู้สมัครและทีมงาน เป้าหมายจะไปให้ครบทั้ง 60 เขต 14 จังหวัดภาคใต้ โดยเริ่มเดินทางตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2566 พบว่าพรรคเพื่อไทยได้รับการตอบรับจากประชาชนภาคใต้สูงเป็นอย่างมาก อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

จากการพบปะพ่อแม่พี่น้อง พบว่าให้การสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยได้ทำงานบริหารประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้น ตามนโยบายต่างๆที่ได้ประกาศไว้ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นนโยบายที่ทำได้จริง เคยทำได้ดีมาแล้วในอดีต ในหลาย ๆ นโยบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาทสำหรับคนไทย อายุ 16 ปีขึ้นไป นโยบายเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท/วัน และเงินเดือนสำหรับผู้จบการศึกษาปริญญาตรี 25,000 บาท/เดือน นโยบายเรื่องการเพิ่มราคาผลผลิตทางการเกษตร เอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหายาเสพติด ที่ระบาดรุนแรงมาก และนโยบายการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน เป็นต้น

นายชุมสาย กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าว ได้รับความร่วมมือจากผู้สมัครของพรรคเป็นอย่างดีเพราะเป็นการประสานงาน และเสริมกันระหว่างพรรคและผู้สมัครในพื้นที่ ทำให้การทำงานในภารกิจเลือกตั้ง เชื่อมโยงและไปในทางเดียวกันกับพรรค และเพื่อทราบปัญหาและอุปสรรคในการทำงานในพื้นที่ เพื่อจะได้นำเสนอพรรคเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top