Sunday, 5 May 2024
พรรคภูมิใจไทย

'อุทัย' ปลื้ม!! ชาวบ้านเข้าใจ ภท.หนุนกัญชาเพื่อการแพทย์ เมินกัญชาเสรี แถมตอบกลับ "เลือกตั้งหนนี้ พร้อมกาให้เบอร์ 2 เขต 1 ยโสธร"

(16 เม.ย.66) นายอุทัย มิ่งขวัญ ผู้สมัครสมาชิกผู้แทนราษฎร พรรคภูมิใจไทย เขต 1 จังหวัดยโสธร เบอร์ 2 ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้าน โดยในวันนี้ นายอุทัย เดินหน้าทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องพืชสมุนไพร​ไทย 'กัญชาไทย มีประโยชน์ต่อสุขภาพและเป็นประโยชน์​ในทางการแพทย์' 

"วันนี้ขอใช้เวลาแบบยาวๆ เพื่อมาเดินเคาะประตูบ้านแบบทั่วถึงอีกหนึ่งวัน โดยหาเสียงแจกแผ่นผับโบว์ชัวร์​รณรงค์​ให้เลือกเบอร์ 2 เด็กวัด ลูกชาวนา ค่ายภูมิใจไทยในเขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัด​ยโสธร​ ประกอบด้วย​ อำเภอ​เมืองยโสธร​ อำเภอ​ทรายมูล​ อำเภอป่าติ้ว​ (เฉพาะตำบาลกระจาย และตำบลศรีฐาน)​ และ อำเภอคำเขื่อน​แก้ว​ (เฉพาะตำบลทุ่งมน)​ 

"สิ่งที่น่าประทับใจอย่างมาก คือ วันนี้เราอยากมาทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในแง่ของกัญชาในมิติที่ถูกต้อง แต่กลับกันชาวบ้านฝากบอกผมไปบอก 'เสี่ยหนู' อนุทิน ว่า..."ไม่ต้องห่วง ประชาชนเข้าใจในสาระสำคัญที่ภูมิใจไทยนำเสนอ และพร้อมสนับสนุน​เต็มที่ เพราะกัญชาพืชสมุนไพร​ไทยเป็นประโยชน์​ต่อสุขภาพ​และมีการปลูกตามครัวเรือน สวนหลังบ้าน ตามที่ทางการกำหนด และพร้อมสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.จากภูมิใจไทยอย่างแน่นอน" 

‘ศุภชัย’ จี้!! ยกเลิก 'Khaosan420' งานรวมตัวสูบบ้อง ยัน!! สูบกัญชาในที่สาธารณะผิดกฎหมาย

(19 เม.ย.66) นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวต่อกรณีที่มีการประกาศว่าจะมีการจัดงานข้าวสาร 420 ในวันที่ 20 เมษายน 2566 โดยกิจกรรมดังกล่าวจะมีการรวมตัวกันเพื่อสูบบ้องบริเวณถนนข้าวสาร ถนนรามบุตรี และจะมีการรวมตัวเดินขบวนพาเหรดกัน การดำเนินกิจกรรมดังกล่าว เกิดข้อห่วงใยจากสังคม ถึงความถูกต้องเหมาะสมของการจัดกิจกรรม ทางพรรคภูมิใจไทยยืนยันถึงจุดยืนของกรณีดังกล่าว และเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกัญชาดังนี้

1. จุดยืนพรรคภูมิใจไทยคือ สนับสนุนกัญชาเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพของประชาชน โดยพรรคได้แสดงจุดยืนด้วยการเสนอร่างพระบัญญัติกัญชา กัญชง เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพราะพรรคภูมิใจไทยตั้งมั่นว่าประเทศไทยจะต้องมีกฎหมายควบคุมการใช้กัญชาจึงจะทำให้การใช้ และการคุ้มครองผู้บริโภคเกิดความสมดุล แม้ว่ากฎหมายดังกล่าวจะได้รับการขัดขวางจากทางการเมือง แต่พรรคก็ยังยืนยันว่า ประเทศไทยต้องมีกฎหมายควบคุมกัญชา โดยจะต้องผลักดันกฎหมายพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

2. เกี่ยวกับกิจกรรมที่เกิดขึ้น ในการจัดงานกัญชาทั่วประเทศ พรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนว่าการจัดกิจกรรมใดๆ ก็ตาม จะต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยในขณะนี้กัญชาเป็นพืชสมุนไพรตามพระราชบัญญัติผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 การดำเนินการใดเกี่ยวกับกัญชาจะต้องเป็นการไม่ละเมิดกฎหมาย โดยเฉพาะการคุ้มครองผู้ไม่ใช้กัญชา และการใช้กัญชาโดยวิธีการสูบในพื้นที่สาธารณะ ฉะนั้นการจัดกิจกรรม Khaosan420 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 เมษายน 2566 ไม่ได้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และอาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั่วไป และไม่เหมาะสม พรรคภูมิใจไทยจึงขอเรียกร้องให้ผู้เตรียมการจัดงาน ให้ยกเลิกงานนี้

‘ศุภชัย’ เมิน!! ‘ชูวิทย์’ โพสต์คลิปซื้อเสียง พบแผ่นพับ ‘หมอมิลล์’ ลั่น!! ไม่รู้จักคนในคลิป เชื่อ!! มีขบวนการจ้องใส่ร้ายป้ายสี

‘ภท.’ ไม่ให้ ราคา ‘ชูวิทย์’ โพสต์ซื้อเสียง ลั่นสอบแล้ว ไม่จริง เชื่อมีกระบวนการใส่ร้าย ด้าน ผู้สมัครในคลิป โร่ แจ้งความตำรวจ-กกต.หนองคาย ยันถูกใส่ร้าย ไม่รู้จักบุคคลในคลิป

(20 เม.ย.66) นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์คลิประบุว่า อสม. เริ่มเดินสายจดรายชื่อตามบ้านเพื่อซื้อเสียง พร้อมระบุเป็นส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล โดยคลิป เป็นแผ่นพับของ นางจิดาภา สุนทรธนากุล ผู้สมัครส.ส.หนองคาย เขต 2 เบอร์ 4 พรรคภูมิใจไทย ว่า พรรคได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ยืนยันว่า ผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย ที่อ้างว่า มีชื่ออยู่ในคลิปนั้น รวมทั้งผู้ช่วยหาเสียงทั้งหมดไม่มีพฤติการณ์ทำตามที่ปรากฏอยู่ในคลิป และมั่นใจว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นเป็นกระบวนการใส่ร้าย ถ้าเจ้าตัวไม่ได้ทำ ซึ่งก็ได้ไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ กกต.จว.หนองคายแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ามีกระบวนการจ้องทำลาย นายศุภชัย กล่าวว่า เมื่อเจ้าตัวไม่ได้ทำ แล้วมีความพยายามว่าทำ ตรงนี้ก็เป็นการใส่ร้ายป้ายสี ถือเป็นความไม่ประสงค์ดี ซึ่งเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ เกิดขึ้นเป็นประจำ เป็นระยะๆ แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ซื้อเสียง มีการถ่ายคลิป แล้วมีการสะบัดๆ ให้เห็นชื่อ เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ทำให้คะแนนเสีย นายศุภชัย กล่าวว่า คงไม่ เพราะผู้สมัครได้ลงพื้นที่อย่างหนักและเต็มที่ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. ก็ได้ลงนามประกาศพรรค ห้ามผู้สมัครทุกคนกระทำการใดๆที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งทุกคนก็ถือปฏิบัติ เคร่งครัด แล้วจู่ ๆ ก็มีเรื่อง แล้วก็มีคนออกมาแฉแบบ ทันทีทันใด และเชื่อว่าจะเกิดขึ้นใน ทุกๆ ที่ เพราะทำกันง่ายเหลือเกิน

“ผมไม่ให้ราคาคนโพสต์ วันนี้มีพรรคการเมืองที่ถูกกล่าวหาแบบนี้ ก็ควรมาช่วยกันปกป้องว่ามีการใส่ร้ายป้ายสีหรือไม่ ควรมาช่วยกันใช้สติ ปัญญา ตรึกตรองว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ เพราะอาจถูกกลั่นแกล้ง แต่ก็ไม่เป็นไร ซึ่งผู้สมัครส.ส.ก็ไปแจ้งความแล้ว และก็จะไปแจ้งต่อกกต. ต่อไป”นายศุภชัย กล่าว

ด้านนางจิดาภา สุนทรธนากุล ผู้สมัคร ส.ส. หนองคาย เขต2 พรรคภูมิใจไทย ที่ปรากฏแผ่นพับหาเสียงในโลกโซเชียล และถูกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำมาโพสต์ ถึงการซื้อเสียงว่า ถูกใส่ร้าย ซึ่งได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. โพนพิสัยแล้ว เมื่อช่วงเวลา 11.00น. ใน 2 เรื่องคือ ป้ายถูกทำลายและคลิปที่เผยแพร่ทางโซเชียล และขอให้เป็นเรื่องของกระบวนการตามกฎหมาย ที่เจ้าหน้าที่จะไปดำเนินการ ตำรวจและ กกต. ก็ดำเนินการสืบสวนสอบสวน

‘อนุทิน’ แจง!! ปมมีคนพาดพิงสมาชิกพรรคซื้อเสียง ลั่น!! พฤติกรรมน่ารังเกียจ คนในพรรคไม่ทำเรื่องเลวๆ 

‘อนุทิน’ ลั่น ไม่มีผู้สมัครพรรคซื้อเสียง ซัด เป็นสิ่งเลวมั่นใจลูกพรรคไม่ทำ      

(22 เม.ย.66) ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุขในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์กรณีคลิปซื้อเสียงที่ จ.หนองคาย ว่าคนในคลิปไม่ใช่ตัวแทนพรรค ซึ่งพรรคมีจดหมายของพรรคแจ้งไปยังผู้สมัครทุกคน ว่าพรรครังเกียจ และไม่สนับสนุนการเลือกตั้งที่ผิดกฎหมายทุกรูปแบบ ใครทำแบบนั้นถือว่าไม่หวังดีกับพรรค เชื่อไม่มีใครทำเลวๆ แบบนั้น คลิปทำขึ้นมาเองก็ได้ ช่วงที่พรรคถูกรังแกด้อยค่า แต่เราก็มีความหนักแน่น ผู้สมัครล้วนได้รับการปลูกฝังที่ที่ดีจากพรรคให้ปฏิบัติตามกฎหมาย จะไม่มีสิ่งนั้นเกิดขึ้นแน่นอน ทั้งนี้ นางจิดาภา สุนทรธนากุล ผู้สมัคร ส.ส.หนองคาย เขต 2 ของพรรค ท่านได้ปฏิเสธกับพรรค และแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ซึ่งคนที่ทำอาจเป็นคู่แข่ง

‘พุทธิพงษ์’ ชูนโยบายติด ‘โซล่ารูฟ’ ฟรี ช่วยลดภาระปชช. มั่นใจ!! ตอบโจทย์ แก้ปัญหาค่าไฟแพงในระยะยาว

‘พุทธิพงษ์’ ย้ำ ภูมิใจไทย เน้นลดรายจ่ายให้ประชาชน ชู นโยบายติด โซล่ารูฟ ฟรี ยัน ประชาชนต้องไม่จ่ายค่าไฟเกินจริง พร้อมผลักดันทำได้ทันที ลดค่าไฟถึง 450 บาทต่อหลัง มั่นใจ ตอบโจทย์แก้ปัญหาค่าไฟระยะยาว 

(22 เม.ย.66) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผอ.การเลือกตั้งกทม. พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่ร้อนมาก พี่น้องประชาชนต้องหาตัวช่วยโดยการเปิดพัดลม เปิดแอร์ ช่วยลดอุณหภูมิ สิ่งทีตามมาคือค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น จึงเป็นเรื่องนี้ต้องเร่งแก้ไข เพื่อคนไทยไม่เจอกับปัญหาค่าไฟฟ้าแพงเกินจริง มีแต่ขึ้น ไม่มีลง ซึ่งการนำพลังงานทดแทนมาช่วยเป็นเรื่องจำเป็น และทำได้ทันที โดยโซล่าเซลล์ หรือ โซล่ารูฟ ใช้แสงอาทิตย์ให้เป็นประโยชน์ นำมาติดตั้งให้ทุกครัวเรือน สามารถลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชนได้ถึงเดือนละ 450 บาท โดยภาครัฐลงมือติดตั้งให้ฟรี  ลดภาระให้ประชาชน สิ่งที่ภาครัฐจะได้ คือ การลดกำลังผลิตไฟฟ้าจากโรงงานถ่านหิน ประหยัดการซื้อไฟฟ้า และเมื่อประชาชนใช้โซล่ามากขึ้น นำพลังงานสะอาดมาทดแทน ทำให้รัฐบาลสามารถนำปริมาณคาร์บอนเครดิตของทั้งประเทศ ไปทำเป็นรายได้กลับเข้าประเทศได้อีกด้วย 

‘ชาวพระโขนง’ ขอบคุณ ‘มณีรัตน์’ ประสานหน่วยงาน เร่งต่อไฟช่วยเหลือผู้ประสบภัย หลังเกิดเหตุไฟไหม้

(23 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือน ภายในซอยปุณณวิถี 48 (สุขุวิท 101) แขวงบางจาก เขตพระโขนง เมื่อช่วงกลางคืนวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยนางน้อย แม่ค้าขายปลาในตลาดประวิทย์และเพื่อน ย่านพระโขนง หนึ่งในผู้ประสบภัย บอกกับผู้สื่อข่าวด้วยความรู้สึกตื่นตกใจมาก โดยเล่าเหตุการณ์ระทึกหนีตาย และต้องรีบขนข้าวของและสัตว์เลี้ยงออกมาจากบ้าน 

ขณะที่พบว่าในช่วงดังกล่าวมีน.ส.มณีรัตน์ ลิมป์รัตนกาญจน์ ผู้สมัครส.ส.กทม. พระโขนง-บางนา พรรคภูมิใจไทย หมายเลข 6 ได้ทราบข่าว หลังจากลงพื้นที่จึงเข้ามาติดตามสถานการณ์พร้อมกับโดยได้ประสาน อพปร.ในพื้นที่ทันที  เพื่อนำเครื่องปั่นไฟมาให้ชาวบ้านอีก 3 หลังที่เหลือได้มีไฟใช้ชั่วคราวก่อน พร้อมทั้งประสานการไฟฟ้ามาช่วยต่อไฟให้ชาวบ้าน  ทำให้ผู้ประสบภัยต่างรู้สึกอุ่นใจและขอบคุณนางสาวมณีรัตน์ เป็นอย่างมากที่ไม่เพียงแค่มาเยี่ยมพบปะเท่านั้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินก็เข้ามาช่วยประสานงานอย่างทันท่วงที

‘อิทธิเดช’ เผย!! ‘อนุทิน’ มุ่งสร้างแลนด์บริดจ์ชุมพร–ระนอง เชื่อมการค้า 2 ฝั่งทะเล พลิกโฉมเศรษฐกิจของประเทศ

‘อนุทิน’ ชู นโยบายแลนด์บริดจ์ชุมพร - ระนอง เชื่อมโยงการค้า 2 ฝั่งทะเล พลิกโฉม ศก.ไทย ลั่นทำได้ทันทีหาก ภท. ได้เป็นรัฐบาล

(23 เม.ย.66) นายอิทธิเดช สุพงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 15 ในฐานะโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า หากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล สิ่งที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ตั้งใจจะดำเนินการเพื่อพลิกโฉมเศรษฐกิจของประเทศ คือโครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร - ระนอง เชื่อมโยงทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ผลักดันให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ Southern Economic Corridor แทนช่องแคบมะละกาที่ปัจจุบันเป็นเส้นทางเดินเรือหลักของการค้าระหว่างมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก ซึ่งมีแนวโน้มแออัดมากขึ้น

นายอิทธิเดช กล่าวว่า โครงการนี้เรียกว่าเป็น One Deep Sea Port Two Site ซึ่งจะมีทั้งการสร้างท่าเรือชุมพรให้เป็นท่าเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ พัฒนาท่าเรือระนองให้เป็นท่าเรือสินค้าคอนเทนเนอร์ พัฒนาถนนมอเตอร์เวย์และรถไฟทางคู่เชื่อมโยงท่าเรือ 2 ฝั่งทะเล มีระบบ Pipe Lines ขนส่งน้ำมันและก๊าซ และสร้างนิคมอุตสาหกรรม Warehouse ในพื้นที่รอบโครงการ ยกเว้นบริเวณที่ติดชายฝั่งทะเล เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและแหล่งท่องเที่ยวเอาไว้

‘อุ้ม อัชญา’ ผู้สมัคร กทม.ของ ‘ภท.’ ชูนโยบาย ‘กล้อง CCTV’ ตรวจจับรถที่ไม่หยุดให้คนข้ามถนน เพิ่มความปลอดภัยให้ ปชช.

(24 เม.ย. 66) น.ส.อัชญา จุลชาต หรือ ‘อุ้ม’ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 32 บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย ภาษีเจริญ ตลิ่งชัน ธนบุรี เบอร์ 7 พรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ‘อุ้ม อัชญา จุลชาต’ บอกเล่าประสบการณ์ที่พบเจอขณะลงพื้นที่ ว่าตนได้เข้าช่วยเหลือและปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้ประสบอุบัติเหตุ ถูกรถชนขณะกำลังข้ามถนนบริเวณทางม้าลาย โดยระบุว่า…

“ขณะที่อุ้มกำลังลงพื้นที่ อุ้มได้เจออุบัติเหตุรถชนคนที่กำลังข้ามถนนบริเวณทางม้าลายใกล้ ๆ MRT สถานีอิสรภาพ อุ้มและทีมงานเลยรีบเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้วยการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และช่วยติดต่อประสานงานเจ้าหน้าที่มาให้ความช่วยเหลือ

ซึ่งพรรคภูมิใจไทย มีนโยบายการเชื่อมกล้อง CCTV บริเวณทางม้าลาย เพื่อยกระดับความปลอดภัยให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชน (ไว้ตรวจจับรถที่ไม่หยุดให้คนข้าม ทำให้เกิดอุบัติเหตุ แล้วนำข้อมูลมาปรับคะแนนจราจรของผู้ขับ) และจากมุมมองของคนพื้นที่อย่างอุ้ม การเชื่อมต่อกล้อง CCTV บริเวณทางม้าลาย ถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายสำหรับกลุ่มกรุงเทพฯ ฝั่งธน ที่ตอบโจทย์ความต้องการและแก้ไขปัญหาของประชาชน

‘อนุทิน’ ชูนโยบายการท่องเที่ยว-ประกันชีวิต-คมนาคม ชี้!! กระแสดีขึ้น รับ!! คลายกังวลประชาชนไม่เลือก ‘ภท.’

( 24 เม.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัดพังงา อ.เมือง จ.พังงา มีการปราศรัยของทางพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีประชาชนเข้าร่วมจำนวนกว่า 3,000 คน โดยเริ่มจากการขึ้นเวทีแนะนำตัวของ นายพงศกร เกตุประภากร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพังงา ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย และนายเลิศศักดิ์ ปนกลิ่น นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ผู้สมัคร ส.ส.แบ่งบัญชีรายชื่อ พรรคพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเวทีแนะนำตัว ต่อด้วย นายอรรถพล ไตรศรี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.พังงา เบอร์ 8 พรรคภูมิใจไทย และ นายอำนาจ ดำรงค์พิทยากุล ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.พังงา เบอร์ 1 พรรคภูมิใจไทย ขึ้นปราศรัยบนเวที ต่อมาแกนนำพรรคภูมิใจไทย อย่าง นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต ส.ส.ราชบุรี สลับกับแกนนำคนอื่นๆ ขึ้นปราศรัย
.
จากนั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร่วมกับแกนนำพรรค ขึ้นเวทีปราศรัย ในการพัฒนาเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยว การประกันชีวิต สิทธิการฟอกไต โรงพยาบาล อุปกรณ์การแพทย์ การกระจายการรักษายังโรงพยาบาลชุมชน และการคมนาคม
.
นอกจากนี้ นายอนุทิน กล่าวว่า กระแสพรรคภูมิใจไทยขณะนี้ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะที่ตนเองลงพื้นที่บ่อยขึ้น เนื่องจากแต่ละครั้งที่ลงพื้นที่ได้รับการตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ ความกังวลนั้นคือกังวลว่าพี่น้องประชาชนไม่เลือก แต่ที่ผ่านมาค่อยเบาใจ และหายความกังวลมากขึ้น


ที่มา : https://www.naewna.com/politic/726385

‘ครูพรีมมี่’ หนุน การศึกษาออนไลน์แก่ผู้สูงวัย ใช้ต่อยอดวิชาชีพ สร้างรายได้เลี้ยงตัวเอง สอดคล้องนโยบายเรียนรู้ตลอดชีพ ของ ‘ภท.’

(26 เม.ย. 66) ที่ห้องเรียนศาลาอเนกประสงค์ริมน้ำ วัดทองบน นายนรเสฏฐ์ เธียรประสิทธิ์ หรือ ‘ครูพรีมมี่’ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 ยานนาวา-บางคอแหลม เบอร์ 10 พรรคภูมิใจไทย ได้เข้าร่วมกิจกรรมจัดการเรียนการสอนกับกลุ่มนักเรียนผู้สูงวัย ในโรงเรียนผู้สูงอายุยานนาวา วัดทองบน ถนนพระราม 3 ซึ่งเป็นโรงเรียนที่รับรองโดยสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เขตยานนาวา ตามหลักสูตรการศึกษาตลอดชีวิต

ครูพรีมมี่ได้ใช้เวลาช่วงเว้นว่างจากกิจกรรมนันทนาการให้ห้องเรียนรู้ เพื่อขอโอกาสแนะนำตัวและนำเสนอนโยบาย อันเป็นที่ถูกใจชาวสูงวัยเขตยานนาวาอย่างมาก เพราะครูพรีมมี่ อาศัยความเป็น ‘ครู’​ สอนหนังสือมาก่อน จึงสามารถเรียกร้องความสนใจของผู้ใหญ่ในห้องเรียนได้ไม่ยาก โดยเฉพาะเมื่อได้รับไมค์มา ครูพรีมมี่ก็เริ่มต้นด้วยประโยคที่คุ้นเคยทันทีว่า “หากพวกเรากำลังสบาย จงตบมือพลัน”​ ผู้สูงวัยทุกท่านก็พร้อมรับมุกโดยพร้อมเพรียง ตบมือเสียงดัง ๆ ตามด้วยเสียงหัวเราะด้วยความเป็นกันเอง ก่อนที่ครูพรีมมี่จะขอให้ทุกคนชูมือขึ้นทั้งสองข้างและถามไปว่า “ครูพรีมมี่เบอร์อะไร” แน่นอนว่าเหล่าผู้สูงวัยต่างประสานเสียงโดยพร้อมเพรียงกันว่า  “เบอร์10”

ครูพรีมมี่ได้แนะนำตัวเองว่า จบการศึกษาปริญาตรี BBA จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลังจากนั้นได้ทำงานกับกลุ่มซีพี ที่กรุงปักกิ่ง และไปศึกษาต่อปริญญาโท MBA สาขาการเงิน ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน และได้เปิดโรงเรียนกวดวิชาภาษาอังกฤษให้กับคนจีน รวมทั้งได้เปิดคอร์สอบรมคุณครูสอนภาษาอังกฤษโรงเรียนอนุบาลที่ปักกิ่ง นับเป็นคนไทยคนแรกที่เข้าไปเปิดธุรกิจด้านการศึกษาในประเทศจีน ต่อมาบังเอิญว่ามีผู้บริหารกระทรวงการศึกษาธิการของไทยในขณะนั้น ได้ไปศึกษาดูงานที่สาธารณรัฐประชาชนจีน และได้มีโอกาสพบกับครูพรีมมี่ จึงได้เชิญชวนครูพรีมมี่กลับมาช่วยประเทศไทยด้านการศึกษา เพื่อพัฒนาหลักสูตรภาษาจีนในไทย

“ผมโตมากับครอบครัวการศึกษา ที่บ้านทำโรงเรียนอนุบาล ได้ถูกปลูกฝังมาตลอดว่าต้องช่วยเหลือสังคม สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมได้ก็คือการศึกษา พอเรามาเห็น เราก็รู้สึกว่าสิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยพัฒนาได้คือ การศึกษา วันนี้ยิ่งได้มาเห็นพี่ ๆ (ครูพรีมมี่อ้อนผู้สูงวัยขอเรียกพี่)​ ยังมาเรียนกันพร้อมหน้าแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้เชื่อมั่นในความสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งตรงกับนโยบายของพรรค

วันนี้รู้สึกประทับใจมากที่เข้ามาเห็นคุณครูกำลังสอนเรื่องภัยคุกคามด้านออนไลน์ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของทุกคนมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ได้ให้ความรู้เรื่องออนไลน์กับผู้สูงวัย ซึ่งเหมือนกับที่ผมตั้งใจมาสนับสนุนเรื่องการศึกษาเท่าเทียมอยู่แล้ว โดยสอดคล้องกับนโยบายพรรคภูมิใจไทย ที่ผลักดันการศึกษาตลอดชีพผ่านการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ซึ่งจะพัฒนาหลักสูตรให้เข้มแข็งและตอบโจทย์กับทุกช่วงวัย โดยเฉพาะให้เหมาะกับผู้สูงวัยด้วย เพราะวัยนี้การเรียนแบบในห้องเรียนเพียงอย่างเดียวนั้น อาจจะไม่คล่องตัว เพราะวัยนี้แล้วอาจจะมีภาระ มีงานมีการติดพัน ต้องค้าต้องขาย ไม่สะดวกมาเรียน แต่เชื่อว่าทุกคนอยากได้โอกาสพัฒนาตนเอง ฉะนั้น ถ้ามีหลักสูตรออนไลน์ จึงจะทำให้เรียนที่ไหนก็ได้ เวลาใดก็ได้ จะทำธุระอะไรอยู่ก็สามารถเรียนรู้ด้วยตนเองได้ เพราะเป็นหลักสูตรออนดีมานด์ ขอเพียงแค่มีโทรศัพท์มือถือก็สามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม” ครูพรีมมี่ กล่าว

ความสำคัญคือ การสร้างหลักสูตร ไม่ได้มุ่งหมายเพียงให้มีแต่ความรู้​ แต่หวังผลให้นำไปใช้ปฏิบัติได้จริง ประกอบอาชีพ หรือสร้างอนาคตได้

“​นโยบายภูมิใจไทยตั้งเป้าหมายจะสร้างผู้ประกอบการนักธุรกิจออนไลน์ให้ได้ถึง 9 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งผู้สูงวัยชาวยานนาวาจะเป็นส่วนหนึ่งในนี้ด้วย การเรียนให้ได้มีความรู้ขึ้นมาก็ดี แต่เราจะต้องคิดต่อไปว่า จะสอนจะอบรมอย่างไรให้ทุกคนนำไปใช้ได้จริง ยกตัวอย่าง สอนให้ทำอาหาร ทำของขายแล้ว อาจจะไม่พอ ต้องมีคอร์สอบรมสอนให้รู้จักขายสินค้า นำเสนอขายแบบอินฟลูเอนเซอร์ หรือจะเป็นยูทูบเบอร์ ต้องทำอย่างไร ลองคิดดูผู้สูงวัยบางท่านอาจจะไม่มีงานทำเพราะเกษียณแล้ว แต่อาจจะสามารถไปรีวิวสินค้า หรือ มีทักษะทำอาหารขนมเก่งอยู่แล้ว แต่อาจจะเรียนเพิ่มเรื่องขายของออนไลน์ เพื่อจะเพิ่มช่องทางการตลาดให้ได้”​ ครูพรีมมี่ กล่าว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top