Sunday, 5 May 2024
พรรคภูมิใจไทย

‘ศุภชัย’ มองเกม ‘ก้าวไกล’ ค้านย้าย ‘หมอสภัทร’ เข้าตำรา ‘น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า’ ของคนพวกเดียวกัน

‘ศุภชัย ใจสมุทร’ ตั้งข้อสังเกต ‘ก้าวไกล’ ออกตัวคัดค้าน ย้าย ‘หมอสุภัทร’ เข้าตำรา น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ชี้ โยกย้ายข้าราชการโดยไม่กลั่นแกล้งถือเป็นเรื่องปกติ

กระทรวงสาธารณสุขได้มีคำสั่งย้ายนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ จากผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา ประธานชมรมแพทย์ชนบทไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งไม่ห่างไกลกันมากนัก

ต้องยอมรับความจริงว่า ในช่วงที่นายแพทย์สุภัทร นั่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ ได้ปรับปรุงระบบบริการ การบริหารจัดการโรงพยาบาลจะนะไปมากจนเป็นที่พอใจของประชาชน

อีกบริบทหนึ่งของนายแพทย์สุภัทร คือการขับเคลื่อนทางสังคมในฐานะประธานชมรมแพทย์ชนบท และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการคัดค้านนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะ ที่มีเยาวชนกลุ่มรักษ์บ้านเกิดจะนะ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการคัดค้าน ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การผลักดันของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อให้เกิดเมืองต้นแบบของเหลี่ยมเศรษฐกิจ และนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะ เป็นหนึ่งในสี่ของเมืองเหลี่ยมเศรษฐกิจ

ถ้านิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าจะนะเกิดขึ้นจริง จะเกิดการลงทุนหลายแสนล้าน เกิดการจ้างงานหลายหมื่นอัตรา จะเกิดท่าเรือ ภายใต้การลงทุนของภาคเอกชน

แต่เมื่อมีกลุ่มคัดค้าน ทางภาครัฐก็ต้องรับฟังความคิดเห็นที่รอบด้าน ทำให้โครงการนี้ยังชะลออยู่ โดยอยู่ระหว่างการศึกษารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (SEA) โดยนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการจัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) สำหรับแผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและปัตตานี ว่า เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2565 สศช.ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ในการจัดทำ SEA แผนแม่บทการพัฒนาเชิงพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและปัตตานี วงเงินค่าจ้าง 28.22 ล้านบาท 

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จะเริ่มต้นศึกษา SEA แผนแม่บทฯดังกล่าว ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2566 โดยใช้เวลาศึกษานาน 18 เดือน หรือแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2567 ขณะที่การจัดทำ SEA ครั้งนี้ จะมีการจัดเวทีประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนรวม 40 เวที และมีผู้เข้าร่วมฯไม่น้อยกว่า 3,000 คน แบ่งเป็นปี 2566 จำนวน 32 เวที โดยมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 2,100 คน และปี 2567 จำนวน 8 เวที โดยมีผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 900 คน 

'สภาพัฒน์ฯ' พยายามที่จะให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการจัดทำแผนแม่บทในครั้งนี้เพื่อลดความขัดแย้ง และความซ้ำซ้อนในการทำงานลง เบื้องหากแผ่นแม่บทการพัฒนาพื้นที่สงขลา และ ปัตตานีแล้วเสร็จ จะมีการคัดเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับการพัฒนาพื้นที่ต่อไป ทั้งนี้สภาพัฒน์ฯคาดกการณ์ว่า หากแผนออกมาแล้วจะเกิดการพัฒนาเชิงพื้นที่ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

สภาพัฒน์ใช้คำว่า แผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่สงขลา-ปัตตานี เข้าใจได้ว่ายังไม่เลือกพื้นที่ แต่ประชาชนทั่วไปรับรู้กันหมดแล้วว่า จะเกิดขึ้นในสามตำบลของอำเภอจะนะ ย่านตำบลตลิ่งชัน ต.สะกอม นั่นแหละ

‘ก้าวไกล’ ขวางย้าย ‘หมอสุภัทร’ 

โดย 'ก้าวไกล' ออกแถลงการณ์ ไม่เห็นด้วย ปมย้าย 'หมอสุภัทร' พร้อมเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข ทบทวนคำสั่ง

โดยแถลงการณ์ระบุว่า พรรคก้าวไกลขอแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว และขอตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการโยกย้ายด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากนายแพทย์สุภัทรเป็นข้าราชการที่ทำงานเป็นปากเสียงแทนประชาชน มีความกล้าหาญในการแสดงความเห็นคัดค้านผู้มีอำนาจ และเปิดเผยข้อมูลสาธารณสุขที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนคำสั่งดังกล่าวโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชน

ด้านนายแพทย์สุภัทร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุตอนหนึ่งว่า ปี 2563 ผมรับภารกิจเป็นประธานชมรมแพทย์ชนบทอีกตำแหน่งหนึ่ง ทำหน้าที่ทักท้วงเสนอแนะเรื่องราวใน สธ. อาทิ การไม่เห็นด้วยต่อนโยบายกัญชาเสรี การโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม การบริหารจัดการโควิดและวัคซีน การไม่ลงนามงบส่งเสริมป้องกันปี 2566 หรือ การซื้อ ATK ที่มีข้อสงสัย สิ่งเหล่านี้สร้างความหงุดหงิดต่อใครบางคน จนนำมาสู่คำสั่งให้ย้ายผมให้ได้ก่อนยุบสภา

จริง ๆ การจะย้ายผมไม่ยากเลย เพียงแค่ปลัดกระทรวงสั่งย้ายตามอำนาจที่ท่านมี (แต่ต้องมีเหตุมีผลด้วยนะ) แต่เพราะตำแหน่งผมเป็นตำแหน่งวิชาการระดับเชี่ยวชาญ ไม่มีเกณฑ์ที่ต้องถูกย้ายตามวาระ เหตุความผิดที่ต้องถูกย้ายก็ไม่มี ผมเองก็ไม่ได้สมัครใจย้าย ปลัดกระทรวงจึงไม่กล้าเซ็นเอง เพราะกลัวผิดกฎหมายอาญา ม. 157 ก็เลยต้องมีการสั่งการให้ผู้ตรวจราชการเป็นคนเซ็น ใครลงนามจะได้เลื่อนชั้นรวดเร็ว เรื่องราวจึงโกลาหล

เมื่อการโยกย้ายนายแพทย์สุภัทร มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง พรรคก้าวไกลคัดค้านเรียกร้องให้ทบทวน เจ้าตัวก็ไม่เต็มใจ แต่อาชีพรับราชการการโยกย้ายถือเป็นเรื่องปกติ และไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งแห่งหนใดก็สามารถแสดงความคิดเห็น จุดยืนได้อยู่แล้ว นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย จึงออกมาตั้งข้อสังเกตผ่านโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (Suphachai  Jaismut) ว่า 

'อนุทิน' รุดโคราชพบ 'บุญจง' คืนถิ่นภูมิใจไทย พร้อมส่งชนเด็ก 'กำนันป้อ' หลังชิ่งไปซบ พท.

'ลุงหนู' ลงพื้นที่โคราช พบ 'บุญจง' หลังรีเทิร์น พรรคภูมิใจไทย ชนเด็ก 'กำนันป้อ' ที่หอบกันไปย้ายซบเพื่อไทย

เมื่อวานนี้ (27ม.ค.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว. สาธารณสุข และ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ลงพื้นที่นครราชสีมา และได้พบกับ นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต รมช.มหาดไทย 

โดยมีรายงานว่า นายบุญจง จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยอีกครั้ง และลงสมัคร ส.ส. นครราชสีมา เขต 9 แข่งกับ นายอภิชา เลิศพชรกมล อดีต ส.ส.นครราชสีมา ที่พึ่งลาออกจากพรรคภูมิใจไทย พร้อม นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต รมช.คมนาคม ที่มีกระแสข่าวจะไปอยู่พรรคเพื่อไทย

'โพล' ชี้!! นโยบาย 'ภูมิใจไทย' โดนใจคนกรุงเทพฯ ยก 'บี-พุทธิพงษ์' มีผลงาน ไร้ประวัติด่างพร้อย

(28 ม.ค.66) ดร.นพดล กรรณิกา หัวหน้าโครงการวิจัย สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ ประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศจำนวน 2,078 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 25-27 ม.ค. เรื่อง 'ใจคน กทม. กับ นโยบาย ภูมิใจไทย' เมื่อถามประชาชนคนกรุงเทพมหานคร ต่อ นโยบายภูมิใจไทย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.6 ชอบนโยบาย เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง ศูนย์เครื่องฟอกไต ผู้สูงอายุ ฉีดวัคซีนฟรีถึงบ้าน 

รองลงมาคือ ร้อยละ 94.0 ชอบนโยบายรักษามะเร็งฟรี ร้อยละ 93.0 ชอบ นโยบาย วัคซีน ป้องกัน ปอดอักเสบ ไข้หวัดใหญ่ โควิดฟรีฉีดถึงบ้าน ร้อยละ 92.9 ชอบ นโยบาย ลดรายจ่าย รถ เรือ เริ่มต้น 15 บาทตลอดวันไม่เกิน 50 บาท ร้อยละ 92.8 ชอบ นโยบาย ลดค่าไฟ ติดโซล่าร์ ลูฟฟรี ทุกครัวเรือน ร้อยละ 92.2 ชอบ นโยบาย ฟอกไตฟรี ร้อยละ 91.8 ชอบนโยบายเครื่องกรองน้ำฟรีทุกชุมชน ร้อยละ 91.7 ชอบ นโยบายลดรายจ่าย พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย ลดภาษี 

ขณะที่ร้อยละ 91.6 ชอบ นโยบาย เพิ่มรายได้คนกรุงเทพ เปิดพื้นที่การค้าขาย กระจายรายได้เพิ่มกิจกรรมรองรับนักท่องเที่ยวได้ 24 ชั่วโมง ร้อยละ 90.4 ชอบนโยบาย เพิ่มรายได้คนกรุงเทพ พันธบัตรรัฐบาลที่ประชาชนทั่วไปมีสิทธิก่อน ส่งเสริมการออมประกันเงินฝาก เพิ่มความมั่นคงในการออม ร้อยละ 90.2 ชอบ นโยบาย ลดรายจ่าย รถไฟฟ้า เริ่มต้น 15 บาท ตลอดสาย ไม่เกิน 40 บาท และร้อยละ 88.3 ชอบนโยบาย มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า สำหรับวินรับจ้าง คันละ 6,000 บาท ตามลำดับ

เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นของคนกรุงเทพมหานคร ต่อ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้แถลงข่าวนำเสนอนโยบายพรรคภูมิใจไทยให้คนกรุงเทพมหานคร พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.7 เชื่อมั่นเพราะ เคยเป็น ส.ส. กทม. รองผู้ว่าฯ กทม. มีผลงานช่วงเป็นรัฐมนตรี ปกป้องสถาบันหลักของชาติ ไม่มีประวัติด่างพร้อย เป็นแกนนำต่อสู้คนโกง เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ควบรวมกิจการสื่อสารโทรคมนาคม ในขณะที่ ร้อยละ 43.3 ไม่เชื่อมั่น

ส่วนผลการประมาณการคะแนนผลการเลือกตั้งของพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง พบว่าพรรคภูมิใจไทยมีความเป็นไปได้จะได้คะแนนมากถึง 1,007,529 คะแนน โดยมีค่าต่ำสุดจำนวน 779,581 คะแนน และ ค่าสูงสุดจำนวน 1,235,477 คะแนน

'ศักดิ์สยาม' ลุย!! 'อุบลราชธานี-อำนาจเจริญ-ยโสธร' เปิดตัว 10 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ตอกเสาเข็ม 'ภท.' ในอีสาน

เมื่อวันที่ 28-29 ม.ค.2566 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เดินทางลงพื้นที่ในกิจกรรมประชุมชี้แจงนโยบายพรรคภูมิใจไทย พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคจำนวน 10 เขต ในพื้นที่ 3 จังหวัดคือ อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ และยโสธร ท่ามกลางประชาชนที่มารอต้อนอย่างคึกคักในแต่ละจุดจำนวนหลายพันคน

โดยนายศักดิ์สยาม ยืนยันว่า ว่าที่ผู้สมัครฯ ของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ล้วนมีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ ที่ตนเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อการันตีความเป็นภูมิใจไทยว่า พูดแล้วทํา และมาตอกเสาเข็มทุกต้นให้ทุกพื้นที่เจริญก้าวหน้าต่อไป ส่วนว่าที่ผู้สมัครฯ บางคน แม้จะยังไม่มีตำแหน่ง ส.ส. แต่ที่ผ่านมาก็เป็นที่ประจักษ์ว่า ได้ลงพื้นที่คอยอยู่เคียงข้างประชาชนเสมอ เลือกตั้งรอบนี้จึงอยากให้พี่น้องประชาชนให้โอกาสเข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯ

'ลุงหนู' ขอคนกรุงเชื่อมั่น!! 'พรรค ภท.' เลือกแต่คนมีของ ขอโอกาสได้ลองทำงานตามสไตล์พรรครับใช้กรุงเทพฯ

'อนุทิน' เสนอตัวทำงานให้คนกรุงเทพฯ ครั้งแรก ดึงส.ส.กรุงเทพฯ หวังแก้ปัญหาให้ สั่น พร้อมเป็นนายกฯ หาก ภท.ชนะเลือกตั้ง ไม่หวั่นเสียงส.ว. ระบุ ทำงานได้กับทุกคน แจง ปมย้าย 'หมอสุภัทร' ไม่ใช่หน้าที่รมต. พร้อมไม่เคยมองใครในกระทรวงเป็นเสี้ยนหนาม

(29 ม.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ขณะลงพื้นที่บริเวณชุมชนวัดมะกอก เขตสามเสนใน กรุงเทพฯว่า การลงพื้นที่นี้ก็ถือเป็นการมาศึกษาปัญหาของพี่น้องที่อยู่ในชุมชนที่ตนเองเกี่ยวข้อง และแก้ปัญหาให้ถูกต้อง ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเราก็เป็นครั้งแรกที่มาเสนอตัวเป็นตัวเลือกให้กับพี่น้องประชาชนคนกรุงเทพฯ โดยตนเชื่อว่าถ้าคนกรุงเทพฯ รู้จักพรรคภูมิใจไทยแล้วก็น่าจะชอบในสไตล์พรรคที่กล้าตัดสินใจ

โดยคนกรุงเทพฯ ก็คงได้เห็นสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยทำไว้ทั่วประเทศที่ได้ให้สัญญาไว้เมื่อครั้งเลือกตั้งปี 2562 ในหลาย ๆ เรื่องเราก็ได้ส่วนงานที่เราเกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาให้กรุงเทพฯ ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีส.ส.ในกรุงเทพฯ เลยก็ตาม วันนี้เราได้นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และส.ส.หลายมา เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยจะผลักดันนโยบายและเจตนารมณ์ได้ด้วยสไตล์การทำงานของพรรคภูมิใจไทย พูดง่าย ๆ ว่าตอนนี้เรามีของ มีน้ำมีเนื้อ ไม่ใช่ว่าเอาใครก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จักกันมาเสนอให้คนกรุงเทพฯ แต่นี่เราเอาส.ส.กรุงเทพฯ มาเสนอจะได้ทำงานต่อเนื่องไป

เมื่อถามพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ติด 1 ใน 4 ของกรุงเทพฯ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็สาเหตุนี้เราจึงต้องเชิญนายพุทธพงษ์ และส.ส.กรุงเทพฯ มาทำงาน เราเลือกส.ส.ที่เข้าใจ ปัญหาต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ และใกล้ชิดกับประชาชน 

‘ศักดิ์สยาม’ คิกออฟรถเมล์ EV สาย 38 และ 48 เติมอากาศบริสุทธิ์ ช่วยสังคม กทม.ไร้มลพิษ

‘ศักดิ์สยาม’ เปิดตัว รถโดยสารพลังงานไฟฟ้าสาย 38 และสาย 48 ช่วยคนกรุงใช้บริการทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หลังกลุ่มบริษัทไทย สมายล์ กรุ๊ป จับมือกับ สมาร์ทบัส เปลี่ยนรถเมล์ NGV เป็น EV 100%

(30 ม.ค. 66) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิด ให้บริการรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าสาย 38 เส้นทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสาย 48 เส้นทางมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา – ท่าช้าง ภายใต้แนวคิด Thai Smile Bus Change For The Better เปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ณ ไทย สมายล์ บัส สาขา รามคำแหง 2

ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้แสดงความเชื่อมั่นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของระบบขนส่งมวลชนไทย ทั้งการเปลี่ยนรถโดยสาร NGV ของบริษัท สมาร์ทบัส จำกัด มาเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ของกลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ กรุ๊ป พร้อมทั้งเปลี่ยนระบบการเก็บค่าโดยสารจากตั๋วแบบกระดาษ มาเป็น HOP CARD ซึ่งเป็นบัตรโดยสารอิเล็คทรอนิคส์ สำหรับใช้ในโครงข่ายรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ของ ไทย สมาย กรุ๊ป ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนให้มีความทันสมัย สะดวกสบาย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของกลุ่มบริษัท ไทย สมายล์ กรุ๊ป เปิดเผยว่าปัจจุบัน ไทย สมายล์ กรุ๊ป กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า (Change For The Better) ประการแรก คือ ไทย สมายล์ กรุ๊ป ได้ผนึกกำลังกับ บริษัท สมาร์ทบัส จำกัด และจะทำการเปลี่ยนรถโดยสาร NGV ของสมาร์ทบัส ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ให้กลายเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% และประการที่สอง คือ ไทย สมายล์ กรุ๊ป จะยกเลิกการใช้ตั๋วแบบกระดาษ เปลี่ยนไปใช้ HOP Card ชำระค่าโดยสารตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป 

นอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนด้วยระบบสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ผู้โดยสารที่ใช้ HOP Card ยังสามารถใช้แพ็คเกจ เดลิ แมกซ์ แฟร์ (Daily max fare) ทั้ง 2 แพ็คเกจ คือ แพ็คเกจที่หนึ่ง เหมาจ่ายค่าโดยสารไม่เกิน 40 บาทต่อวัน โดยไม่จำกัดสาย และไม่จำกัดจำนวนเที่ยว ในโครงข่ายรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ไทย สมายล์ กรุ๊ป กว่า 120 เส้นทาง แพ็คเกจที่สอง เหมาจ่ายค่าโดยสารไม่เกิน 50 บาทต่อวัน โดยไม่จำกัดสาย และไม่จำกัดจำนวนเที่ยวต่อวัน ในโครงข่ายรถและเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า ไทย สมายล์ กรุ๊ป 

‘รมช.มนัญญา’ เคาะ 86 ลบ. ช่วยเกษตรกรอุทัยธานี บรรเทาความเดือดร้อน หลังประสบภัยพิบัติ

4 ก.พ.66) นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรจังหวัดอุทัยธานี โดยมี นายอลงกต วรกี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี, นายธนะสิทธิ์ ธนากีรตินันท์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุทัยธานี หัวหน้าส่วนราชการ และเกษตรกรจำนวน 240 คน เข้าร่วม ณ หอประชุมอาคารภักดี เทศบาลตําบลสว่างอารมณ์ อ.สว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี ว่า...

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีภารกิจหลักในการช่วยเหลือเยียวยาให้กับเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกร ตลอดจนส่ง เสริมสนับสนุน ปัจจัยพื้นฐานทางการเกษตร โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา จังหวัดอุทัยธานีมีเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยพิบัติด้านการเกษตร ส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อนทั้งด้านพืช ด้านประมง และด้านปศุสัตว์ ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 8 อำเภอ วงเงินขอความช่วยเหลือ จำนวน 187,019,539.50 บาท ซึ่งจังหวัดอุทัยธานีได้รับการอนุมัติโอนเงินช่วยเหลือแล้ว จำนวน 86,221,714.50 บาท ได้แก่...

1. ด้านพืช เกษตรกรได้รับเงินรวม 3,173 ราย วงเงิน 85,719,118 บาท 

2. ด้านประมง เกษตรกรได้รับเงินรวม 19 ราย วงเงิน 108,856.50 บาท 

และ 3. ด้านปศุสัตว์ เกษตรกรได้รับเงินรวม 22 ราย วงเงิน 393,740 บาท ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างขออนุมัติขยายวงเงินจากกรมบัญชีกลาง เพื่ออนุมัติโอนเงินให้แก่เกษตรกรต่อไป

.

สำหรับข้อมูลความเสียหายภัยพิบัติด้านการเกษตรในปี 2565 เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุทัยธานี รายงาน ดังนี้...

1) เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยด้านพืช 9,391 ราย พื้นที่เสียหายรวม 96,294.38 ไร่ แบ่งเป็น นาข้าว 16,901 ไร่ พืชไร่/พืชผัก 78,057.75 ไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้น และอื่น ๆ 1,335.63 ไร่ วงเงินขอความช่วยเหลือรวม 182,608,295 บาท 

2) เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยด้านประมง 395 รายพื้นที่เสียหาย แบ่งเป็น พื้นที่ที่เลี้ยงในบ่อดิน นาข้าว หรือร่องสวน 385.25 ไร่ และพื้นที่ที่เลี้ยง ในกระชัง บ่อซีเมนต์ 1,825.50 ตารางเมตร วงเงินขอความช่วยเหลือรวม 2,475,524.50 บาท 

และ 3) เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยด้านปศุสัตว์ 198 ราย สัตว์เลี้ยงตาย/สูญหาย 10,565 ตัว แบ่งเป็น สุกร 9 ตัว แพะ 38 ตัว แกะ 95 ตัว ไก่พื้นเมือง 8,105 ตัว ไก่ไข่ 693 ตัว เป็ดไข่ 1,545 ตัว เป็ดเนื้อ/เป็ดเทศ 75 ตัว ห่าน 5 ตัว และแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์เสียหาย 354 ไร่ วงเงินขอความช่วยเหลือรวม 1,935,720 บาท

นอกจากนี้ ยังได้มอบหนังสืออนุญาตการเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินให้แก่เกษตรกรที่ได้รับเอกสารสิทธิจาก ส.ป.ก.4-01 จำนวน 10 ราย และการออกร้านจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน พร้อมทั้งการสนับสนุนปัจจัยการผลิตเบื้องต้นให้แก่เกษตรกรอีกด้วย

ย้อนไทม์ไลน์!! แผนแก้ฝุ่นพิษ 2.5 'พรรคภูมิใจไทย' เปลี่ยนรถเมล์ EV กว่า 1,250 คัน ยังแค่ออเดิร์ฟ!!

สิ่งที่คล้ายหมอก คล้ายควัน ที่กำลังคลุมทั่วท้องฟ้ากรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยนั้น ใคร ๆ ต่างก็ทราบดีว่ามันคือ ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กลับมาทุก ๆ ปี และคงไม่ต้องสาธยายว่ามันคือ ต้นเหตุของปัญหาระบบทางเดินหายใจ และต้นเหตุของมะเร็งปอดที่คร่าชีวิตคนไทยไปนับไม่ถ้วน ติด 1 ใน 5 ของโรคที่คร่าชีวิตประชาชนคนไทย 

คำถาม คือ เหตุซ้ำซากเช่นนี้ ทำไมไร้แผนการ ไม่มีแผนระยะยาวเพื่อดูแลเลยหรือ? ถ้าให้ตอบโดยมีฝุ่นพิษในวันนี้เป็นตัวชี้วัด ก็คงตอบว่าใช่ แต่ถ้าจะให้ตอบว่าในอนาคตอันใกล้ อาจจะต้องบอกว่า 'มันกำลังถูกแก้' แบบยั่งยืน โดยเรื่องนี้ ต้องยอมให้กับพรรคภูมิใจไทย ที่ขับเคลื่อนผ่านกระทรวงคมนาคม

เหตุที่กล่าวเช่นนั้นเพราะ...

เท่าที่สำรวจตรวจสอบ พบว่า ขณะนี้การแก้ปัญหาฝุ่นพิษ แบบเอาจริงเอาจังนั้น ทางกระทรวงคมนาคม ที่ได้มีการตั้งด่านสกัดรถบรรทุก รถกระบะควันดำ ควันขาว จากการเผาไหม้ในห้องเครื่องที่ไม่สมบูรณ์ เป็นประจำสม่ำเสมอ ใครทำผิดก็ให้ไปแก้ไข ปรับปรุงสภาพเครื่องยนต์ แต่ไม่มีการรายงานข่าวแม้แต่น้อย ทั้งที่เป็นเรื่องที่จะสร้างจิตสำนึกให้กับคนในชาติ ขณะที่การแก้ปัญหาด้านอื่น ๆ ก็ยังมีความพยายาม  

ขณะเดียวกันในส่วนของรถโดยสารประจำทาง หรือรถเมล์ เป็นส่วนสำคัญ เป็นต้นเหตุของปัญหานี้เช่นกัน เพราะรถเมล์ในเมืองไทยจำนวนหลายพันคันมีอายุหลายสิบปี สภาพเก่าแก่ เครื่องยนต์ทรุดโทรมตามกาลเวลา ปัญหารถเมล์แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ภาครัฐ ที่เป็นของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กับ รถร่วมเอกชน   

เอาในส่วนของภาครัฐ กระทรวงคมนาคม พยายามทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง ยุค โสภณ ซารัมย์ เป็น รมว.คมนาคม พยายามเสนอเปลี่ยน รถ ขสมก.เป็นรถเมล์พลังงานสะอาด ใช้ก๊าซ NGV แต่ก็ถูกคัดค้านตีตกไปจาก พรรคพวกดีแต่พูด ไม่เคยมีผลงาน

'ศักดิ์สยาม' ย้ำ!! 'อนุทิน' แคนดิเดตนายกฯ คนเดียวของ ภท. มั่นใจ!! มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

'ศักดิ์สยาม' ย้ำ 'ภูมิใจไทยส่ง' ส่ง 'อนุทิน' เป็นนายกฯ คนเดียว ลั่น มีโอกาสเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสูง

(19 ก.พ. 66) ที่ ร.ร.ชุมชนกระนวน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว. คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ขึ้นเวทีปราศรัยนโยบาย และแนะนำตัว นายชัชวาล โนนใหม่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จ.ขอนแก่น โดยช่วงหนึ่งนายศักดิ์สยาม ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยต้องการอาสาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จากผลสำรวจที่ไลน์ทูเดย์ทำออกมาพบว่าเรามีโอกาส เพราะตัวเลข 33% เราจะได้ ส.ส.เข้าสภาฯจำนวนมาก ซึ่งเราสามารถเอานโยบายที่บอกกับพี่น้องประชาชนไปทำให้เกิดขึ้นจริงได้

โดนใจวัยเกษียณ!! ‘ภูมิใจไทย’ ปิ๊งไอเดีย "กองทุนประกันชีวิต 60 อัพ" ให้สิทธิ์อัตโนมัติรองรับสังคมผู้สูงอายุ

‘ภูมิใจไทย’ ปิ๊งไอเดีย "กองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป" ให้สิทธิ์อัตโนมัติรองรับสังคมผู้สูงอายุ มีวงเงินกู้ยืมดูแลตัวเอง-ประกอบอาชีพ 2 หมื่นบาท โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำ แถมมรดกให้ลูกหลานรายละ 1 แสนลั่นขอดูแลผู้สูงอายุตราบจนสิ้นลมหายใจ

วันที่ 5 มี.ค.2566 นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว ถึงนโยบาย “กองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป” ว่า ที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย ได้มีโอกาสลงพื้นที่ พบปะกับพี่น้องประชาชนเพื่อที่จะไปรับฟังถึงปัญหาของกลุ่มต่างๆซึ่ง กลุ่มหนึ่งที่เราได้ไปพบปะพูดคุย เป็นจำนวนมากนั่นก็คือกลุ่มของ ผู้สูงอายุ ที่ต่างก็มีความกังวลว่า ในวันที่ไม่สามารถทำงานเลี้ยงดูตัวเองได้ จะเป็นเหมือนภาระของลูกหลาน  ต้องยอมรับว่า วันนี้สังคมไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ในปี 2565 มีผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ในประเทศไทยถึง 12.5ล้านล้านคน และจะทยอยสูงขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นสิ่งที่ท้าทารัฐบาลในสมัยหน้า ที่จะต้องออกแนวทางนโยบายว่า จะดูแลผู้สูงอายุ และต้อนรับสังคมผู้สูงอายุ ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้อย่างไร

นายภราดร กล่าวต่อว่า พรรคภูมิใจไทยจึงออกเป็นนโยบายคือ กองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป ที่จะเป็นสวัสดิการใหม่ สำหรับพี่น้องประชาชนไทยทุกคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่จะได้รับสิทธิทันทีโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องสมัครและไม่เสียค่าใช้จ่าย และที่สำคัญคือ ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต นี่คือนโยบายใหม่ที่พรรคภูมิใจไทย ได้คิดขึ้นมา หลังจากที่ได้ไปรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน เนื้อหาสาระของกองทุนประกันชีวิตคือ ในวันที่ยังมีชีวิตอยู่ ผู้สูงอายุจะต้องไม่เป็นภาระให้กับลูกหลาน และจะมีสิทธิกู้เงินเพื่อดูแลตัวเองหรือประกอบอาชีพ หาเลี้ยงตัวเองได้วงเงินกู้รายละไม่เกิน 2 หมื่นบาท โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ใช้กรมธรรม์ที่รัฐบาลจะมาทำให้เป็นหลักประกันในการค้ำประกันตัวเอง จนถึงวันที่เขาจากไป ผู้สูงอายุนอกจากจะไม่เป็นภาระให้กับลูกหลานแล้วทุกคนจะมีมรดกให้ลูกหลานให้กับทายาทและครอบครัวรายละ 1 แสนบาท


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top