Sunday, 5 May 2024
พรรคภูมิใจไทย

‘กรณิศ’ ทิ้ง พปชร. ซบ ภูมิใจไทย ตามคาด อ้อนคนคลองเตย - วัฒนา เชื่อมั่นแม้อยู่พรรคใหม่

นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า 

เรียนพี่น้องประชาชนในเขตวัฒนา-คลองเตยที่รักและเคารพทุกท่าน

วันนี้เป็นวันที่ดิฉันลำบากใจที่สุดวันหนึ่งในชีวิตทางการเมืองของดิฉันเพราะจะต้องเลือกทำงานการเมืองต่อกับพรรคที่สนับสนุนท่านนายกฯโดยตรงกับพรรคที่ปัจจุบันก็กำลังสนับสนุนการทำงานของท่านนายกฯทางอ้อมซึ่งก็คือพรรคภูมิใจไทย

ตลอดชีวิตทางการเมือง 16 ปีของดิฉัน ทำให้ทราบดีถึงปัญหาในพื้นที่ทั้งในเขตคลองเตยและเขตวัฒนา ซึ่งทั้ง 2 ที่ มีพี่น้องประชาชนที่มีความเหลื่อมล้ำและความแตกต่างกันในทางสังคมเป็นอย่างมาก โดยในเขตคลองเตยนั้นมีชุมชนแออัดถึง80%ของพื้นที่ ส่วน20%ที่เหลือจะเป็นผู้อยู่อาศัยที่มีฐานะ ซึ่งพวกเราจะเรียกว่าบ้านมีรั้วหรือคอนโด

ส่วนเขตวัฒนานั้นจะมีชุมชนแออัดประมาณ 20% แต่จะมีสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ที่ดีกว่าคลองเตย ปัญหาจึงซับซ้อนน้อยกว่าและ 80% เป็นบ้านมีรั้วซึ่งจะมีปัญหาเรื่องสาธารณูปโภคเช่นไฟทางไม่สว่าง ถนนไม่ดี สายไฟฟ้า-สายสื่อสารรกรุงรัง เป็นต้น

จากปัญหาสภาพแวดล้อมในพื้นที่ตามที่ดิฉันได้กล่าวมา ทำให้ดิฉันต้องทุ่มเทและทำงานหนักเพื่อดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนและยึดเอาประโยชน์สูงสุดให้กับประชาชนเป็นสำคัญ เห็นได้จากผลงานที่ผ่านมาและดิฉันทราบดีว่า นอกจากสิ่งที่เราทุ่มเททำงานแล้ว จะต้องได้รับการสนับสนุนจากพรรคการเมืองที่เข้มแข็งและต่อเนื่องเป็นเวลานาน จึงจะสามารถยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในชุมชนให้ดีขึ้นได้

'อนุทิน' ลุ้น!! ฝ่ากระแส 'เพื่อไทย-ก้าวไกล' แบ่งเค้ก ส.ส.กทม. หลังดึง 'พุทธิพงษ์' นั่งแท่นว่าที่แม่ทัพเมืองหลวงของพรรค

นาทีนี้แลดู อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะมั่นใจมากขึ้น สำหรับความหวังในการปักธงสีน้ำเงิน ในสนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร หลังจากมี ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ทยอยลาออกมากรอกใบสมัครเข้าพรรคเพิ่มขึ้น

ผู้อยู่เบื้องหลังในการเจรจาดึงตัว ส.ส.เหล่านั้น คือ 'เสี่ยบี-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์' อดีต รมว.ดีอีเอส ว่าที่แม่ทัพเมืองหลวงของพรรคสีน้ำเงิน  

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2565 กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา และ ภาดาท์ วรกานนท์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย โดยก่อนหน้านั้น ก็มี 3 ส.ส.กทม. อย่าง จักรพันธ์ พรนิมิตร, กษิดิ์เดช ชุติมันต์ และพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ได้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว รวมๆ แล้ว ส.ส.กทม.พรรคลุงป้อม ที่ย้ายมาพรรคเสี่ยหนู 5 คน ส่วนจากพรรคเพื่อไทย มี 1 คนคือ ส.ส.อ๊อด-ประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ (เขตห้วยขวาง-ดินแดง)

จะว่าไป พรรคภูมิใจไทย ก็มี ส.ส.กทม.อยู่แล้ว 2 คนคือ ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย (เขตสวนหลวง) และโชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี (เขตจอมทอง) ทั้งคู่เป็น ส.ส.สมัยแรก สังกัดพรรคอนาคตใหม่ ภายหลัง มีการยุบพรรคอนาคตใหม่ พวกเขาจึงเลือกมาอยู่พรรค ภท. ไม่ไปพรรคก้าวไกล

อย่างไรซะ ภูมิใจไทยของ 'อนุทิน' ก็มีภาพลักษณ์เป็นพรรคบ้านใหญ่ พรรคทุนท้องถิ่น ซึ่งความล้มเหลวในสนาม กทม. เมื่อการเลือกตั้งปี 2554 และปี 2562 ก็ให้คำตอบชัดว่า พรรคเสี่ยหนู ไม่ถูกจริตคนเมืองหลวง

แต่เมื่อมีขุมกำลังจากพรรค พปชร.ย้ายเข้ามาอยู่พรรค ภท. เสี่ยหนูจึงแอบหวังว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคจะได้ ส.ส.กทม. 

เพราะสมัยที่แล้ว พรรคพลังประชารัฐ ได้ ส.ส. 12 ที่นั่ง หลัง 2 ส.ส.อย่าง ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ (เขตบางซื่อ) และสิระ เจนจาคะ (เขตหลักสี่-จตุจักร) เจออุบัติเหตุการเมืองต้องพ้น ส.ส. จึงเหลืออยู่ 10 คน โดย ส.ส.ทั้งหมดนี้ จะไม่มีใครอยู่พรรค พปชร.อีกต่อไป 

อย่างตอนนี้ 5 คน ประกอบด้วย พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ (เขตปทุมวัน-บางรัก), กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา (เขตคลองเตย), ภาดาท์ วรกานนท์ (เขตพญาไท), กษิดิ์เดช ชุติมันต์ (เขตลาดพร้าว) และจักรพันธ์ พรนิมิตร (เขตบางพลัด) ที่เลือกไปพรรคภูมิใจไทย

มีข่าวว่า ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ (เขตบางกะปิ) และ ประสิทธิ์ มะหะหมัด (เขตสะพานสูง) จะไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ 

ศิริพงษ์ รัสมี (เขตหนองจอก) เตรียมย้ายไปสังกัดพรรค ปชป. และกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ (เขตพระนคร) ไปพรรคเพื่อไทย ส่วน ชาญวิทย์ วิภูศิริ (เขตมีนบุรี) มีข่าวว่าจะเว้นวรรค

‘เนวิน’ ทำนายหลังเลือกตั้ง ทุกพรรคร่วมจัดรัฐบาลได้ การเมืองไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร ชี้ ที่บุรีรัมย์เจริญแบบก้าวกระโดด เพราะไม่แบ่งขั้ว แง้ม ‘อนุทิน-ทักษิณ’ ไม่มีปัญหากัน อย่าเอาตนเป็นที่ตั้ง 

วันที่ 25 ธันวาคม 2565  นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ในฐานะครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์รายการข่าว สถานีโทรทัศน์ Thai pbs ถึงสถานการณ์การเมือง หลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 ว่า ประเทศไทยกับการเมืองไทย ไม่มีมิตรแท้ ไม่มีศัตรูถาวร เชื่อผมเลย และสิ่งที่มันเป็นกลไกสำคัญที่สุด การตัดสินของประชาชน ณ วันลงคะแนนเลือกตั้ง จะเป็นตัวบังคับให้นักการเมือง และพรรคการเมืองต้องรู้ว่าประชาชนต้องการอะไร 

ผู้ดำเนินรายการถามถึงการแบ่งขั้วการเมือง จะทำให้เป็นปัญหาจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายเนวิน กล่าวว่า เรื่องแบ่งขั้ว เลิกคิดได้แล้ว เรื่องขั้ว ถ้าเมื่อไร เรายังแบ่งขั้ว แบ่งสี อยู่แบบนี้ บ้านเมืองมันไปไหนไม่ได้ 

“ส่วนหนึ่งที่บุรีรัมย์มาถึงวันนี้ แล้วพัฒนาแบบก้าวกระโดด ใน 10 ปี เติบโตกว่าจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทย เพราะเราไม่มีขั้ว”

ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าโยบายที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน จะเป็นสิ่งที่ทำให้พรรคการเมืองต้องตัดสินใจ ถ้าคุณทำในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน และส่วนรวม ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร  เราก็คงจะร่วมด้วยไม่ได้ แต่ถ้านโยบาย วิธีคิดมันนำไปสู่ประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนส่วนรวมมาก่อนส่วนตัว ทุกอย่างมันไปได้หมด

ผู้ดำเนินรายการ ถามว่าความสัมพันธ์กับคุณทักษิณ ถ้าจะไปจับมือจัดตั้งรัฐบาลกันเรื่องในอดีตลืมไปหมดหรือยัง นายเนวิน กล่าวว่าเป็นเรื่องในอดีต คำถามวันนี้ คือว่า วันนี้พรรคเพื่อไทย เป็นของใคร ตอบผมหน่อยสิ พรรคเพื่อไทย ขับเคลื่อนด้วยใคร ใครกำหนดนโยบายพรรคเพื่อไทย ใครบริหารพรรคเพื่อไทย 

“ถ้าหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค แกนนำพรรคในปัจจุบัน เป็นผู้บริหารทั้งหมดนี่นะ แล้วมันมีความขัดแย้งอะไรกับ คุณอนุทิน เขาล่ะ ผมก็ไม่เห็นว่ามีความขัดแย้ง แม้กระทั่งตัวท่านนายกฯ ทักษิณ เองนี่นะ ในอดีตกับคุณอนุทิน นี่นะ เขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน อย่าเอาตัวผมมาเป็นที่ตั้งสิ ผมไม่ได้เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย นะ ผมแค่ครูใหญ่ ผมเป็นแค่ลุงเนวิน”

‘เนวิน’ ยก 3 เหตุผล ‘อนุทิน’ พร้อมเป็นนายกฯ หลังผ่านบทพิสูจน์ ‘พูดแล้วทำ’ จน ปชช.ยอมรับ

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์รายการ “ชั่วโมงข่าวเสาร์-อาทิตย์” ทาง Thai PBS ถึงกรณีที่จะผลักดันนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า นายอนุทิน มีความพร้อมทุกด้าน คือ 1. การศึกษา 2. ฐานะ 3. ประสบการณ์ชีวิตในการทำธุรกิจ เขาผ่านร้อนผ่านหนาวมาหมด เขาเรียนรู้มาหมด เขาอยู่มาในทุกบริบท ฉะนั้น นายอนุทินวันนี้ กับนายอนุทิน เมื่อปี 2562 เป็นคนละคน

“ผมว่าเขามีความพร้อมในการที่จะรับผิดชอบส่วนรวม ทำเพื่อส่วนรวมมากกว่าเดิม และเขาเข้าใจความรู้สึกของคนไทยในทุกระดับมากกว่าเดิม นายอนุทิน เมื่อปี 61 อาจจะเข้าใจบริบทของคนจน คนรากหญ้า คนชนบท คนต่างจังหวัดเกือบไม่เข้าใจเลย เพราะความที่เป็นเจ้าของซิโนไทยในอดีต แต่มาวันนี้บนบริบทที่ทำหน้าที่เป็นรมว.สาธารณสุข ได้ลงมาเห็นปัญหาความทุกข์ยาก เศรษฐกิจ โควิด อะไรทั้งหลายแหล่ รวมไปถึงประสบการณ์ในชีวิตเขา ผมว่าเขาพร้อมแล้ว” นายเนวิน กล่าว 

‘อนุทิน’ เผย พร้อมแจงอภิปราย ม.152 ลั่น!! ทำงานเต็มที่ ไม่มีเสียหายต่อประชาชน

(3 ม.ค. 65) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเตรียมความพร้อมการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ภายใต้ยุทธการถอดหน้ากากคนดี ว่า ต้องเตรียมความพร้อม ต้องดูว่าผู้อภิปรายอภิปรายเรื่องอะไร หากอภิปรายเรื่องงานที่ทำมา ทุกอย่างก็พร้อมที่จะตอบ ตนคิดว่าพวกเราทำงานเต็มที่ ในส่วนที่รับผิดชอบไม่มีประเด็นอะไรที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับพี่น้องประชาชน

ชัดเจน! ‘บี พุทธิพงษ์’ ร่วมทัพ ‘ภูมิใจไทย’ แน่ ด้าน ‘อนุทิน’ ขอบคุณ ชี้ ช่วยเสริมแกร่ง สู่พรรคระดับประเทศ ให้ความสำคัญกับเมืองหลวง ย้ำ แนวทางพรรคไม่ทะเลาะกับใคร มุ่งทำงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวล่าสุดในการเข้าร่วมพรรคภูมิใจไทย ของนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระบุว่า

นายพุทธิพงษ์ จะเข้ามาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยแน่นอน หลังจากที่มีนักการเมืองในเครือข่ายนายพุทธิพงษ์ได้ต่อสายพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถึงจุดยืนทางการเมือง 

ก่อนได้คำตอบจากนายอนุทิน ว่า รู้สึกยินดีที่พรรคได้นายพุทธิพงษ์ และทีมงานเข้ามาร่วมทำงานด้วย เป็นการสะท้อนว่า พรรคให้ความสำคัญกับเมืองหลวง ชัดเจนว่า ภูมิใจไทย กำลังขยับเป็นพรรคระดับชาติ ไม่ใช่พรรคเฉพาะท้องถิ่น เหมือนที่บางคนเชื่อเช่นนั้น

นายพุทธิพงษ์ จะช่วยเราในพื้นที่ กทม.และเราก็จะช่วยให้นายพุทธิพงษ์ มองเห็นโอกาสของคน กทม.ในพื้นที่ต่างจังหวัด การทำงานร่วมกันจะเป็นประโยชน์ของประชาชนแน่นอน

'อนุทิน' ขอบคุณ อสม. ด่านหน้าดูแลสุขภาพคนไทย ยัน!! 'สาธารณสุข' มอบ 'สวัสดิการ-ดูแล' ต่อเนื่อง

(12 ม.ค. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ประเทศไทยประกาศปรับระดับโรคโควิด19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง มาตั้งแต่ 1 ต.ค. 65 โดยภาพรวมขณะนี้ถือว่ายังดีขึ้นต่อเนื่อง และรายงานล่าสุดของกรมควบคุมโรค วันที่ 1-7 ม.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่าทั่วประเทศมีผู้ป่วยรายใหม่ 997 คน หรือเฉลี่ยวันละ 142 คน นับว่าเป็นความสำเร็จจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน หน่วยงานของรัฐ เอกชน ภาคประชาชน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุข

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทินได้เน้นย้ำว่าความสำเร็จในการบริหารจัดการโควิด19 ของไทย มีส่วนสำคัญจากการทำงานหนักของบุคลากรทุกระดับ รวมถึงอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่เป็นกองหน้าในการช่วยดูแลสุขภาพคนไทยไปถึงชุมชนระดับฐานรากทั้งในช่วงเกิดโรคระบาดและสถานการณ์ปกติ และขอบคุณพี่น้องอสม. ที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานต่างๆในการดูแลคนไทยมาโดยตลอด เป็นด่านหน้าคนแรก ๆ ที่เข้าไปดูแลคนชุมชนหรือพื้นที่ห่างไกล ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขตระหนักถึงความสำคัญของพี่น้อง อสม. จึงได้เน้นย้ำถึงนโยบายการดูแลและมีสวัสดิการเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ อสม. ทั่วประเทศให้ต่อเนื่องสอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งช่วงมีการแพร่ระบาดของโควิด19 และสถานการณ์ปกติ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข มีสวัสดิการที่เป็นขวัญกำลังใจแก่ อสม.และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร(อสส.) 1,050,306 คน อาทิ ค่าตอบแทนเดือนละ 1,000 บาท ในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด19 คณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้เพิ่มเติมอีกเดือนละ 500 บาท เป็นเวลา 30 เดือนหรือ 2 ปีครึ่ง ตั้งแต่ มี.ค. 63- ก.ย. 65 รวมกว่า 15,000 ล้านบาท และมีสวัสดิการดูแลสุขภาพตามรายการตรวจสุขภาพประจำปี ภายใต้ระเบียบสาธารณสุข ว่าด้วยการช่วยเหลือในการรักษาพยาบาล เพื่อให้ อสม. ได้รับการตรวจสุขภาพตามช่วงวัย อาทิ การประเมินคัดกรองความดันโลหิต, ความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด(Thai CV risk score), ภาวะซึมเศร้า,ภาวะเครียด  สำหรับผู้มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เพิ่มการตรวจความเข้มข้นระดับน้ำตาลในเลือด(FBS)ตรวจอุจจาระ (Stool examination)สำหรับผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงพยาธิใบไม้ตับ และกรณีผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับบริการประเมินภาวะถดถอย 9 ด้าน

ลือหึ่ง! ลูก-หลานชาย ‘วีรศักดิ์’ ย้ายซบ ‘เพื่อไทย’ ลงเลือกตั้ง ‘เสิงสาง - ปักธงชัย’ แข่ง ส.ส.ภูมิใจไทย

สะพัด! ลูก-หลานชาย ‘วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล’ ย้ายซบ ‘เพื่อไทย’ สู้ศึกเลือกตั้งแข่ง ส.ส.ภูมิใจไทย หลังเข้าประกาศวางมือการเมือง อ้างปัญหาสุขภาพ

(12 ม.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม และกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ประกาศจะยุติบทบาททางการเมือง เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ แต่ยังคงให้การสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยอยู่นั้น

‘จักรพันธ์ พรนิมิตร’ ลงพื้นที่ในสีเสื้อใหม่ต่อเนื่อง ย้ำ ‘ภูมิใจไทย’ กรุงเทพฯ เปิดตัวแล้วเดินหน้าทันที

ดร.จักรพันธ์ พรนิมิตร พร้อมทีมงานคนรุ่นใหม่พรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนประชาชนตลาดเช้า วัดบางพลัด จรัญสนิทวงศ์ 79 และร่วมงานวันเด็กชุมชนพัฒนา 79 ชุมชนดวงดีและชุมชนคลองสวนพริก

‘ภูมิใจไทย’ ปรับเป้า ขอกวาด 5 ส.ส. เมืองคอน หลัง ‘อารี’ เดินสายถี่ยิบ ทำกระแสเริ่มมาแรง

‘อารี ไกรนารา’ นำทีมผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เดินหน้าเต็มสูบ พบปะประชาชนวันละหลายจุด หลัง กก.บริหารพรรคตั้งเป้าหมายชนะเลือกตั้งเพิ่มเป็น 5 เขต ยืนยันคะแนนนิยมดีวันดีคืน

เมื่อวานนี้ (17 ม.ค. 66) ที่ศาลาประชาคมหมู่บ้านโคกเลา หมู่ 6 ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช นายอารี ไกรนรา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หัวหน้าทีมเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมทีมงานรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ของนายณัฐกิตติ์ หนูรอด ว่าที่ผู้สมัคร โซนชะอวด-จุฬาภรณ์ ร่วมกันจัดกิจกรรม 'เหลียวหน้าแลหลัง พัฒนาบ้านเรา' เปิดตัวนายณัฐกิตติ์ หนูรอด ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.โซนนี้ของพรรคภูมิใจไทย จ.นครศรีธรรมราช โดยเชิญนายไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวอาวุโส จังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะที่เป็นคน ต.เคร็ง โดยกำเนิด มาร่วมปราศรัยทำความเข้าใจในกฎระเบียบการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นช่วงกลางปี 2566 มีประชาชนในพื้นที่หมู่ 6 ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช กว่า 200 คนเดินทางมาร่วมกิจกรรมและรับฟังการปราศรัยในแนวนโยบายของพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งต่อไป 

ในขณะที่พื้นที่ อ.ชะอวด และ ต.เคร็ง ประกาศชัดเจนที่จะสร้าง ส.ส.ของคนพื้นที่เขตป่าพรุควนเคร็งด้วยกันเอง โดยการเลือกนายณัฐกิตติ์ หนูรอด จากพรรคภูมิใจไทยที่เป็นคน ต.เคร็ง อ.ชะอวด โดยกำเนิด และในวันเดียวกันนี้ได้มีการเปิดเวที 'เหลียวหน้าแลหลัง พัฒนาบ้านเรา' ในพื้นที่บ้านเสม็ดงาม หมู่ 8 ต.เคร็ง อ.ชะอวด อีกด้วยและมีประชาชนมาร่วมกิจกรรมกว่า 200 คนเช่นเดียวกัน

นายอารี ไกรนรา กล่าวว่า ตนได้ตัดสินใจลาออกจาก ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อชาติและย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2565 โดยได้รับความไว้วางใจจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้รับผิดชอบพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ทั้ง 9 เขตเลือกตั้ง และจากการลงพื้นที่พบปะประชาชนในพื้นที่ทั้ง 9 เขตเลือกตั้ง พบว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและมีกระแสดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะนายณัฐกิตติ์ หนูรอด ว่าที่ผู้สมัคร เขต อ.ชะอวด ,จุฬาภรณ์ และบางส่วน อ.ร่อนพิบูลย์ 

ล่าสุดพรรคภูมิใจไทยได้จัดประชุมว่าที่ผู้สมัครในภาคใต้ และสรุปว่าพรรคภูมิใจไทยมีโอกาสสูงที่จะชนะการเลือกตั้ง และบางจังหวัดมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยจะชนะยกจังหวัด สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราช เดิมผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคตั้งเป้าว่าจะชนะการเลือกตั้ง 3 เขต แต่หลังจากที่มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครและตนลงพบปะประชาชนทั่วจังหวัดต่อเนื่องกว่า 1 เดือน และทางพรรคได้ทำโพลสำรวจพบว่าโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งมากถึง 6-7 เขต ทางผู้หลักผู้ใหญ่และคณะกรรมการพรรคจึงปรับการตั้งเป้าหมายที่จะชนะการเลือกตั้งเป็น 5 เขตจาก 9 เขตเลือกตั้ง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top