Thursday, 9 May 2024
นราธิวาส

นราธิวาส - พัฒนาการจังหวัดนราธิวาส ติดตามผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล”

นายอับดุลนัสเซอร์ หะมิ  พัฒนาการอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า นายอนันต์  แสงชาตรี พัฒนาการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนางสาวณัฐชยา  ศรีดำ  ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน  สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนราธิวาส  ติดตามผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” และโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบ “โคก หนอง นา โมเดล”  เพื่อสร้าง ปรับปรุง และพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับประชาชนในรูปแบบ “โคก หนอง นา โมเดล” ณ  พื้นที่อำเภอรือเสาะ  จังหวัดนราธิวาส

ก่อนลงพื้นที่ได้มีการประชุมชี้แจงกับเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน จำนวน 7 คน, นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ(นพต.) จำนวน 14 คน,นักพฒนารัฐบาลดิจิตอล(นพร.) จำนวน 5 คน ซึ่งอำเภอรือเสาะมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก รวม 56 แปลง มีขนาดทั้งขนาดพื้นที่ 1 ไร่ 3 ไร่ 5 ไร่และ 15 ไร่ ซึ่งทุกรายที่เข้าร่วมโครงการฯ ต้องการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นประโยชน์ เป็นศูนย์เรียนรู้ของหมู่บ้าน และที่สำคัญคือ การได้ทำงานสนองพระราชดำริ โครงการทฤษฎีใหม่ ของในหลวง เป็นความภาคภูมิใจของตนเองและครอบครัว สามารถสร้างความสุขทั้งใจได้

นายอนันต์  แสงชาตรี  พัฒนาการจังหวัดนราธิวาส  กล่าวว่า  จังหวัดนราธิวาสได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินงานโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ในพื้นที่ 11 อำเภอของจังหวัด 39 ตำบล 74 ครัวเรือน และดำเนินงานโครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง  กิจกรรมการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบ “โคก หนอง นา โมเดล” ในพื้นที่ 13 อำเภอของจังหวัด 66 ตำบล  213  หมู่บ้าน  ซึ่งในการติดตามผลการดำเนินงานในครั้งนี้เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน  ปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ในระดับพื้นที่ และลงพื้นที่เยี่ยมเยือนแปลงครัวเรือนเป้าหมายที่กำลังดำเนินการขุดปรับพื้นที่ตามโครงการฯ 

สำหรับการลงพื้นที่เยี่ยมเยือนครัวเรือนเป้าหมายในการดำเนินงานในวันนี้  ได้ลงพื้นที่แปลงของนายอาบ๊ะ  ดาระแม หมู่ที่1 บ้านสะแนะ และนายมูฮำหมัดรุสลัน บือราเฮง หมู่ที่ 7 บ้านตือโละ ตำบลเรียง อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส


ภาพ/ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

นราธิวาส - ผกก.สภ.สุ ไหงโก-ลก เยือนถิ่นเก่า มอบข้าวสาร อาหารแห้ง พร้อมผลอินทผลัม ให้ผู้พิการและผู้ยากไร้ในเขตพื้นที่อำเภอแว้ง

พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สุ ไหงโก-ลก อ.สุไหลโก-ลก จ.นราธิวาส นำเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสุ ไหงโก-ลก เยือนถิ่นเก่า นำข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำดื่ม อินทผาลัม อาหารแห้ง  และ หน้ากากอนามัย พร้อมเจลแอลกอฮอล์ ไปมอบให้ผู้พิการและผู้ยากไร้ในเขตพื้นที่อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส เนื่องในเดือน “รอมฎอน” เดือนอันประเสริฐ และเดือนแห่งการทำความดี  เป็นการสร้างความอบอุ่นใจ สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นและลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด - 19 ระลอกใหม่ พร้อมแนะให้ประชาชนป้องกันตนเอง โดยยึดหลัก D-M-H-T-T หากกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงให้รักษาระยะห่างจากสมาชิกในครอบครัวและคนในชุมชน และสังเกตอาการตนเอง

 


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

นราธิวาส - ผบ.ฉก.นราธิวาส ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ คัดกรองโรค COVID -19 ในพื้นที่ อ.ศรีสาคร

พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ คัดกรองโรค COVID -19 ณ ด่านตรวจกาหลง อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส  โดย พลตรี ไพศาล หนูสังข์ ได้มอบแนวทางการปฏิบัติงาน พร้อมเน้นย้ำให้กำลังพลเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามมาตรการ ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid 19 อย่างเคร่งครัด แนะนำประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนที่สัญจร เนื่องจาก จังหวัดนราธิวาสเป็น 1 ในจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อไวรัส COVID 19 ระลอกที่ 3 อย่างต่อเนื่อง จึงต้องมีการยกระดับเพิ่มมาตรการ เฝ้าระวังและป้องกันในพื้นที่เสี่ยงเป็นกรณีพิเศษ โดยให้กำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน

ทั้งนี้ พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวขอบคุณกำลังพลที่เสียสละตน และปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมทั้งมอบความห่วงใย ตลอดจนมอบสิ่งของบำรุงขวัญ เพื่อเป็นกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ต่อไป


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

นราธิวาส - ประธานรัฐสภา ลงพื้นที่มอบหน้ากากอนามัยให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นำไปแจกจ่ายให้บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนในพื้นที่

 

วันนี้ 29 เม.ย.64 นายชวน  หลีกภัย ประธานรัฐสภา เดินทางลงพื้นที่เพื่อส่งมอบหน้ากากอนามัย จำนวน 5,000 ชิ้น ให้กับนายเจษฎา  จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ที่ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส พร้อมกล่าวว่า ในวันนี้ถือโอกาสในช่วงปิดประชุมรัฐสภา ประกอบกับรัฐบาลได้กำชับให้ทุกคนสวมหน้ากากป้องกันโรคโควิด-19 และในฐานะมูลนิธิเพื่อการศึกษาและสังคม ได้รับการสนับสนุนหน้ากากอนามัย จำนวน 120,000 ชิ้น เพื่อนำแจกจ่ายให้กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้

ประธานรัฐสภา กล่าวด้วยว่า จะเป็นประโยชน์ในแง่อุดช่องว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับกรณีของชาวบ้านที่ไม่มีหน้ากากอนามัย นำมามอบให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส จำนวน 5,000 ชิ้น หลังจากนี้จะไปมอบที่จังหวัดปัตตานีและยะลา ซึ่งแล้วแต่ทางจังหวัดจะพิจารณามอบต่อให้ อสม. หรือเจ้าหน้าที่ หรือประชาชน และคิดว่าต้องร่วมมือกัน ขอพี่น้องทั้งหลายได้ร่วมมือกันเพื่อสะกัดกั้นการแพร่กระจายของเชื้อโดยการที่เราป้องกัน ไม่ว่าที่ตัวเราเอง ไปถึงส่วนรวมด้วย ในแง่สวมหน้ากากอนามัย แพทย์ใหญ่ก็ยืนยันว่า สามารถป้องกันได้ถึงร้อยละ 90 เราต้องให้ความร่วมมือและไม่ยากเกินไป คิดว่าหน้ากากอนามัยช่วยได้มากถือโอกาสนำมามอบให้

โอกาสนี้นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนายแพทย์วิเศษ  สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส ได้สรุปรายงานสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ ซึ่งการระบาดในระลอกที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นมา มีผู้ป่วยสะสม 512 ราย กำลังรักษา 82 ราย รักษาหายแล้ว 429 ราย เสียชีวิต 1 ราย โดยการดูแลรักษาผู้ป่วยทั้ง 82 ราย รักษาในโรงพยาบาลภาครัฐ 38 ราย และรักษาในโรงพยาบาลสนามที่เรือนจำจังหวัดนราธิวาส 28 ราย และที่ศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติดจังหวัดนราธิวาส 16 ราย

ทั้งนี้ทางจังหวัดนราธิวาส ได้ออกมาตรการควบคุมทางสาธารณสุข อาทิ การปิดสถานบริการ สถานบันเทิง การห้ามใช้อาคารหรือสถานที่โรงเรียน ห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคล และมาตรการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการกำหนดบทลงโทษกรณีประชาชนไม่ใส่หน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย เมื่ออยู่นอกเคหะสถาน/สถานที่สาธารณะ


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

นราธิวาส - ผบ.ฉก.นราธิวาส ตรวจเยี่ยม กำชับหน่วยทหารพรานในพื้นที่ เพิ่มมาตราการ ควบคุมพื้นที่ ในห้วง 10 วันสุดท้าย แห่งเดือนรอมฎอน

วันที่ 6 พฤษภาคม 2564 พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหาราบที่15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เดินทางลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมหน่วย มอบนโยบาย ข้อสั่งการ พร้อมทั้ง เพื่อรับทราบแนวความคิดในการปฏิบัติงานด้านการข่าว ด้านยุทธการ และ ด้านกิจการพลเรือน  รวมถึงรับฟังแนวคิดการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฎิบัติงาน และแผนการปฎิบัติที่สำคัญงานในห้วงต่อไป ของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานในพื้นที่ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 2 หน่วย ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานใหม่ ได้แก่ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 อำเภอระแงะ  โดยมี พันเอก ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ และ และ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 อำเภอศรีสาคร  โดยมี พันเอก จิรวัฒน์ จุฬากาญจน์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 49 เพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่  ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมทั้งร่วมรับฟังนโยบาย พร้อมกำลังพลของหน่วย

โดย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้มอบนโยบาย ข้อสั่งการสอบถามข้อขัดข้องในการปฎิบัติงาน พร้อมทั้งเน้นย้ำการปฏิบัติงาน ของชุดปฎิบัติการจรยุทธ์ ต้องอยู่ในความไม่ประมาท การรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ กำชับเพิ่มมาตราการ ควบคุมพื้นที่ ในห้วง 10 วันสุดท้าย แห่งเดือนรอมฎอน ย้ำ!!!! ไม่ให้เกิดเหตุ  เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งการเฝ้าตรวจให้เป็นไปตามสั่งการของ ผอ.รมน.ภาค4 การใช้ระเบียบการนำหน่วย มอบแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกัน การสังเกตุการณ์  รวมทั้งเน้นย้ำผู้บังคับหน่วย เรื่องสวัสดิการ สิทธิกำลังพล โดยฝากความห่วงใยแก่กำลังพล ให้ดูแลตนเอง และเฝ้าติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid -19 อย่างใกล้ชิด


ภาพ/ข่าว  ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน

นราธิวาส – ทหารพราน 48 เดริเวอร์รี่ ห่วงใย ส่งข้าวกล่องพร้อมกำลังใจ สู้ภัยโควิด-19

เมื่อวันที่ 5 พ.ค.64 เวลา 1500 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่48 จัดกิจกรรม ทหารพราน48เดริเวอร์รี่ ห่วงใย ส่งข้าวกล่องพร้อมกำลังใจ สู้ภัยโควิด19 ในพื้นที่ บ้านไอสะเตีย บ้านกูเว บ้านบือราแง ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส โดย เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว มีประชาชนส่วนหนึ่งต้องตกอยู่ในภาวะลำบาก ขาดแคลนอาหาร ของใช้จำเป็น และยารักษาโรค พันเอก เอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่48 เล็งเห็นความสำคัญถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ได้มอบหมายให้ฝ่ายกิจการพลเรือน จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือนทั้งชายและหญิง ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น และมวลชนจิตอาสาญาลันนันบารู จัดทำข้าวกล่องนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน พร้อมทั้งใส่ในตู้ปันสุข ทั้งยังเข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ส่งอาหารกล่องสำเร็จรูป เครื่องอุปโภคบริโภค, ข้าวสาร, อาหารแห้ง หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ล้างมือ พร้อมทั้งการช่วยเหลืออื่น ๆ แบบเดริเวอรี่ให้แก่ประชาชนถึงที่พักอาศัย

โดยกิจกรรมนี้มุ่งเน้นในการเข้าช่วยเหลือประชาชนที่มีความเดือดร้อนอย่างมาก ที่อยู่ห่างไกล โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียง ที่ไม่สามารถเดินทางออกมารับความช่วยเหลือด้วยตนเองได้ พร้อมทั้งได้ประชาสัมพันธ์ถึงวิธีการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างถูกวิธีตามหลัก DMHTT ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่รู้จักป้องกันตนเองและครอบครัว และเพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้กำลังพลทุกนายที่ออกปฏิบัติภาระกิจต่างป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด โดยการสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ทุกครั้งก่อนหยิบจับหรือส่งอาหารให้แก่ประชาชน และปฏิบัติตามหลักการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อีกด้วย


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ​ หะไร​ จ.นราธิวาส

นราธิวาส - ตำรวจโกลก มอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภคแก่กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง ที่อยู่ในชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่

พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก พร้อมด้วย พ.ต.ท.กิติเดช มะแซ สวป.สภ.สุไหงโก-ลก นำข้าราชการตำรวจ มอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค บริโภค อาทิ ข้าวสาร ไข่ไก่ น้ำดื่ม อินทผาลัม รวมไปถึงหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิตแก่กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้าน ติดเตียง ที่อยู่ในชุมชนต่าง ๆ ในเขต อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นและลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนข้ามผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปด้วยกัน

พร้อมให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนในภาวะการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 ระลอกใหม่ ให้ประชาชนดูแลตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อย ๆ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล โดยยึดหลัก D-M-H-T-T ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ​ หะไร​ 

นราธิวาส - ผบ.ฉก.นราลงเรือกำชับทหารเข้ม หวั่นโควิดแอฟริการะบาดไทยหลังปิด 9 หมู่บ้านที่ตากใบ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 พ.ค. 64 พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส พ.อ.เรวัตร เซ่งเข็ม เสนาธิการกรมทหารราบที่ 5 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมนั่งเรือยนต์ตรวจการณ์ของชุดเฉพาะกิจนราธิวาส แล่นไปตามลำน้ำของแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่บริเวณด่านพรมแดน อ.ตากใบ เพื่อสำรวจการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 2 ซึ่งมี ร.อ.ธนาคาร ทองขำ เป็น ผบ.ร้อย ในการควบคุมกำลังเสริมทั้งหมด ที่ได้รับการสนับสนุนกำลังจาก พ.อ.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.ทพ.45 และจากที่ว่าการ อ.ตากใบ รวม 3 หน่วยงานหลัก ที่ถูกส่งตัวมาปฏิบัติหน้าที่ตรึงแนวพรมแดนด้าน อ.ตากใบ ซึ่งมีระยะทาง 21 ก.ม. เพื่อสกัดกั้นคนไทยที่เดินทางไปขายแรงงานอยู่ในรัฐต่าง ๆ ของประเทศมาเลเซีย ที่อาจจะมีการลักลอบข้ามแดนโดยนำเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ เชื้อไวรัสแอฟริกา ซึ่งเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในประเทศมาเลเซีย เข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่ประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลฮารีรายอที่คนไทยจะลักลอบข้ามแดนเข้ามาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลดังกล่าว ซึ่งจะมีขึ้นประมาณในวันที่ 13 หรือ 14 พ.ค.64 ที่จะถึงนี้

โดย พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้นั่งเรือเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กองกำลัง และมอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เจ้าหน้าที่เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ จำนวน 3 จุด จุดที่ 1 ที่บริเวณกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่บ้านศรีพงัน ม.3 ต.เกาะสะท้อน จุดที่ 2 ที่บริเวณบ้านนาฆออีบู ม.2 ต.นานาค และจุดที่ 3 เยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4502 กรมทหารพรานที่ 45 พร้อมทั้งได้เน้นย้ำให้ทหารทุกนาย มีความตื่นตัวในการตรวจตราและมีความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคล ที่อาจจะมีการลักลอบข้ามแดนเข้ามาในช่วงระยะนี้เป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีครอบครัวคนไทย 3 พ่อแม่ลูก ได้ลักลอบข้ามแดนเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย ด้าน อ.ตากใบ โดยได้นำเชื้อไวรัสโควิด-19 มาแพร่ระบาดในหมู่บ้าน จนทำให้นายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอตากใบ ได้ประกาศปิด 9 หมู่บ้าน ของ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ ไปเมื่อวันที่ 9 พ.ค.64 ที่ผ่านมา เนื่องจากพบมีชาวบ้านติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว 17 ราย และหากเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์แอฟริกา ก็จะทำให้เกิดความโกลาหนครั้งใหญ่ขึ้นได้


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ​ หะไร​ จ.นราธิวาส

นราธิวาส - โควิด-19 พ่นพิษ แม่ค้าร้านเสื้อผ้านราธิวาสโอดครวญ เสื้อผ้ารับเทศกาล ’ฮารีรายอ’ ปีนี้ไม่คึกคัก

วันนี้ 10 พ.ค.64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศร้านเสื้อผ้าย่านถนนพิชิตบำรุง ย่านธุรกิจ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส  ก่อนเทศกาลฮารีรายออิฎิ้ลฟิตรี รีหรือเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของพี่น้องชาวมุสลิม ที่จะถึง ภายหลังที่ทางสำนักจุฬาราชมนตรีได้ประกาศวันดูดวงจันทร์ เพื่อกำหนดวันฎิ้ลฟิตรี ในคืนวันที่ 11 พ.ค.64 นี้

โดยที่บริเวณถนนสายหอนาฬิกา ถนนพิชิตบำรุง เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ได้มีประชาชนออกมาซื้อเสื้อผ้า ผ้าโสร่ง รองเท้า เสื้อโตป หมวกกาปีเยาะ ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายแบบมุสลิม เพื่อใส่ไปละหมาดในวันฮารีรายออิฎิ้ลฟิตรี นี้ ก็มีประชาชนเดินทางมาจับจ่ายซื้อของกันอย่างคึกคัก

ขณะที่ น.ส นิสา นิแมเราะ อายุ 20 ปี พนักงานร้าน ELAMIN (แอลลานมีน) ตั้งอยู่ที่ถนนพิชิตบำรุง เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ให้ข้อมูลว่า ในปีนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีเหมือนปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างหนักในตอนนี้ และราคายางพาราที่ตกต่ำ ทำให้ประชาชนออกมาจับจ่ายน้อยกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วง 10 วัน สุดท้ายของเดือนรอมฎอน จะมีประชาชนออกมาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้ากันอย่างคึกคัก และขายได้ดี ซึ่งปีนี้เศรษฐกิจย่ำแย่เป็นอย่างมาก แม้ว่าจะมีพี่น้องประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อสินค้า แต่ส่วนใหญ่จะเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาถูกลง เนื่องจากผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ ทำให้มีกำลังในการซื้อสินค้าน้อยลง ทำให้ร้านค้าจำนวนมากต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าย่ำแย่

ทั้งนี้ จากการประกาศจากสำนักจุฬาราชมนตรี ให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์  กำหนดวันที่ 1 เดือนเชาวาล (วันอิฎิ้ลฟิตรี)  ฮิจเราะห์ศักราช 1442 ในวันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2564  เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า หากมีผู้เห็นดวงจันทร์ แสดงว่า วันที่ 1 เดือนเชาวาล (วันอิดิลฟิตรี)  ตรงกับวันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564  หากไม่มีผู้เห็นดวงจันทร์ วันอิดิลฟิตรี ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม 2564


ภาพ/ข่าว  ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน

นราธิวาส – โจรใต้ตาย 1จับเป็น 2 หลบหนีไปได้ 1 หลังทหารบังคับใช้กฎหมายพื้นที่บาเจาะ

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 11 พ.ค. 64 น.อ.ธงฉาน บุญระเทพ ผบ.ฉก.ทพ.นย.ทร. พ.ต.อ.ดุลมาน แยนา ผกก.สภ.บาเจาะ ได้ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ศูนย์ซักถามและรวบรวมข่าวสาร ฉก.นย.ภต. จำนวน 4 ชุดปฏิบัติการณ์ บังคับใช้กฎหมายในการบุกจู่โจมตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 7 จุด ในพื้นที่ อ.บาเจาะ เพื่อกดดันสมาชิกกองกำลังติดอาวุธในช่วง 10 วันสุดท้ายในช่วงเดือนรอมฎอน หรือ ถือศีลอด ในการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่ง 1 ใน 7 เป้าหมาย เป็นบ้านปูน 2 ชั้น เลขที่ 3 ม.9 ต.บาเจาะ ที่เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันโอบล้อม ก่อนที่จะแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่คนร้ายที่หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ได้ใช้อาวุธปืนสงครามและอาวุธปืนพก ยิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกันเป็นระลอกๆนานกว่า 15 นาที

เมื่อเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่โดยรอบของบ้านหลังดังกล่าว พบศพนายซูไรดิน กะแต หรือ มะดง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/2 ม.5 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณด้านในของประตูหลังบ้านดังกล่าว โดยมีอาวุธปืนสงคราม AK102 จำนวน 1 กระบอก ตกอยู่ที่ข้างศพ และมีอาวุธปืนพกขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่ห่างจากศพ ประมาณ 5 เมตร จำนวน 1 กระบอก และมีปลอกกระสุนปืนของคนร้าย ตกกระจายเกลื่อนทั่งบริเวณ จำนวนกว่า 100 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบและเก็บรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง

ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว 2 พี่น้อง เจ้าของบ้านพักหลังดังกล่าว คือ นายกูอัฟนัน และนายกูอัมรัน กุพะมา มาทำการสอบสวนในเบื้องต้น พบว่าทั้ง 2 คน ไม่มีปะวัติอาชญากรรมและก่อคดีความมั่นคง เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลที่ศูนย์ซักถามที่ ฉก.ทพ.นย.ทร. และจากการตรวจสอบประวัตินายซูไรดิน ผู้เสียชีวิต เป็นสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป. วิ  อาญา จำนวน 2 หมาย ซึ่ง 1 ในนั้น ก่อเหตุยิง 2 แม่ลูกเสียชีวิต คือนางนิตยา และน.ส.อัจฉริยา แก่นเรือง เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2561 ส่วนอาวุธปืนและปลอกกระสุนปืนในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบว่า อาวุธปืน AK102 คนร้ายใช้ก่อเหตุดักซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณป้อมจุดตรวจหลัง สภ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2564 และใช้อาวุธปืนดักซุ่มยิงจุดตรวจบาตู ในพื้นที่ ต.ต้นไทร อ.บาเจาะ เมื่อ 8 เม.ย. 2561 ส่วนอาวุธปืนพก ขนาด 11 ม.ม. เป็นอาวุธปืนที่คนร้ายได้ขโมยจากอาสารักษาดินแดนมูฮำหมัดซับรี สาและ ประจำที่ว่าการ อ.บาเจาะ ที่คนร้ายยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2564 ที่ผ่านมา

ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ อาสาสมัครทหารพรานนาวิกโยธินกำพล แก้วจำรัส อายุ 28 ปี ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณข้อมือซ้าย เพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลบาเจาะ

และจากการตรวจสอบคนร้ายที่สามารถหลบหนีไปได้ 1 คน คือ นายซูเฟียน ยูโซ๊ะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังในการติดตามไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด คาดว่าจะหลบหนีไปอาศัยบ้านพักของสมาชิกแนวร่วมหลังใดหลังหนึ่งในพื้นที่รอยต่อกับจุดเกิดเหตุ โดย พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา ผกก.สภ.บาเจาะ ได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ตามจุดตรวจจุดสกัดทุกจุดในพื้นที่ อ.บาเจาะ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดในการตรวจสอบยานพาหนะทุกชนิด เกรงจะมีสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่นำนายพาหนะมารับหลบหนี ซึ่งการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถตรวจสอบพบนายซูเฟียน ยูโซ๊ะ แต่อย่างใด


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top