Monday, 20 May 2024
นราธิวาส

นราธิวาส-ตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส  เร่งประชาสัมพันธ์โครงการ Smart safety 4.0 เชิงรุก ในเขตเซฟตี้โซน ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล  ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส นำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส  ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการ ร้านอาหาร  ร้านค้า และห้างสรรพสินค้าในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ตั้งแต่ หอนาฬิกา-แยกออมสิน-แยกท่าพระยาสาย-แยกซูซูกิ  ซึ่งอยู่ในเขตเซฟตี้โซน ของโครงการ smart safety 4.0 สภ.เมืองนราธิวาส  พร้อมถือป้ายประชาสัมพันธ์โครงการ Smart safety 4.0 เชิงรุก เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบถึงการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวอย่างทั่วถึง ในการป้องกันอาชญากรรมของโครงการดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

นราธิวาส-รมว.ศึกษาเร่งจัดงบฉุกเฉินกว่า47ล้านฟื้นฟูโรงเรียนน้ำท่วม197โรง ส่วนน้ำท่วมตลาดมูโนะใกล้คลี่คลายกรมชลเร่งนำBIG BAGปิดทางน้ำ

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายสุทธิชัย ขรูญเนตร ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะ ได้เดินทางมายังโรงเรียนบ้านตือระมิตรภาพที่ 172 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแก่ครูและบุคลากรทางศึกษา รวมทั้งรับฟังการบรรยายสรุปความเสียหายแก่โรงเรียนที่อยู่ในเขตตรวจราชการที่ 8 ประกอบด้วย จ.ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมขังในช่วงวันที่ 25 ถึง 27 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา โดยสรุป มีโรงเรียนถูกน้ำท่วมขัง จำนวน 197 โรง มีนักเรียน ครูและบุคคลากรทางการศึกษาได้รับความเดือดร้อน จากสภาวะน้ำท่วมบ้านพักอาศัย โดยแยกเป็นนักเรียน จำนวน 14,645 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 342 คน ในเบื้องต้นจากการสำรวจความเสียหายและได้ประเมินเป็นจำนวนเงิน 47,420,787 บาท โดยทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ดำเนินการโอนเงินเพื่อเข้าดำเนินการฟื้นฟูในเบื้องต้น จำนวน 260.000 บาท เพื่อให้สถานศึกษาหรือโรงเรียนที่ได้รับความเสียหาย สามารถเปิดการเรียนการสอนชั่วคราวได้ตามปกติ

ต่อมา น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบถุงยังชีพ แก่ตัวแทนผู้อำนวยการพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 12 เขตทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งตัวแทนผู้อำนวยการพื้นที่มัธยมศึกษาทั้ง 3 เขตใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมจำนวน 500 ชุด เพื่อนำไปมอบช่วยเหลืออีกทอดหนึ่งแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้

นอกจากนี้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ยังได้มอบเงิน จำนวน 30,000 บาท แก่นายอับดุลฮาลี มะ ซึ่งเป็นพ่อตาของนายนภดล มะลิลา พนักงานราชการโรงเรียนบ้านนิคมพัฒนา 10 อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ที่เสียชีวิตพร้อมครอบครัวและเครือญาติรวม 7 คน ขณะขับรถยนต์บนคอสะพานบ้านโนนสมบูรณ์ ม.5 ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส และคอสะพานได้ทรุดตัวไปพร้อมกับรถยนต์ เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 65 ที่ผ่านมา ซึ่งได้นำ ด.ญ.นูรฟาราเดีย มะลิลา อายุ 5 ปี ติดสอยห้วยตามมาด้วย โดย น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ต่อมา น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบนโยบายและให้กำลังใจแก่ครูและบุคคลากรทางการศึกษา ที่ทุกคนเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยง แต่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น ให้การอบรมเยาวชนให้เติบโตเป็นคนดี ตนจะเร่งพิจารณาดำเนินการในส่วนชองเงินงบประมาณฉุกเฉิน ในการฟื้นฟูโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมขังโดยเร็วใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้กลับมาเปิดการเรียนการสอนได้เต็มรูปแบบ

‘พรรคประชาชาติ’ ไม่ทิ้งประชาชนประสบอุทกภัย ลั่น!! ประชาชน คือ ประชาชาติ พร้อมเปิดตัวผู้สมัครในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้

นราธิวาส - พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย นายอับดุลอายี สาแม็ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต.3 จังหวัดยะลา นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต.4 จังหวัดปัตตานี นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต.4 จังหวัดนราธิวาส และคณะ เดินทางลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดนราธิวาส พร้อมหารือแนวทางช่วยเหลือฟื้นฟูทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย โดยคณะได้เยี่ยมชาวประมงที่เรือประมงถูกน้ำหลากซัดออกทะเลที่หาดเสด็จตาบา ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ ต่อด้วยเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยประมาณ 100 คน ที่บ้านปูโป๊ ะ ต.มูโน๊ะ อ.สุไหงโกลก และเยี่ยมศูนย์ พักพิงชั่วคราวผู้ประสบภัยน้ำท่วม มีผู้อพยพประมาณ 150 คน ที่ รร.ดารุลฟุรกอน ต.มูโน๊ะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ทั้งนี้ ในช่วงเย็นได้เดินทางเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราวผู้ประสบภัยน้ำท่วม มีผู้ประสบภัยประมาณ 600 คน ที่ รร.ศึกษาสงเคราะห์ ต.โล๊ะจูด อ.แว้ง และเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วม ที่ ต.สากออ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส

นอกจากนี้พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเลขาธิการพรรคประชาชาติ ยังมีการลงพื้นที่ต่อเนื่องใน วันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2565 ลงพื้นที่ เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่วัดลำภู อ.เมืองจ.นราธิวาส และในพื้นที่จังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานีอีกด้วย

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า คณะประชาชาติได้มาเยี่ยมให้กำลังใจ และหาแนวทางช่วยเหลือผู้ที่ประสบ อุทกภัยในสามจังหวัด โดยเริ่มต้นที่จังหวัดนราธิวาสก่อน เป็นจุดที่เกิดการสูญเสียมากที่สุด อย่างเรือประมงที่ออกหาปลาต้องโดนพายุซัดเกิดการเสียชีวิตและเรือจม 2 - 3 ลำ ก็ร่วมทำการกู้โดยต้องขอความช่วยเหลือจากกองทัพเรือให้มาช่วยเหลือเพราะความลำบากต่อการค้นหา สิ่งสำคัญอาชีพประมงเกิดชะตากรรมที่ไม่ใช่ชะตากรรมของความขยัน เป็นชะตากรรมที่รัฐกำหนดให้ ที่รัฐมาจัดระเบียบการประมง ทำให้ชาวประมงใช้ระเบียบที่ไม่เป็นธรรม ใช้กฎหมายที่อยู่เหนือกว่าเป็นธรรม จึงทำให้ประมงพาณิชย์ประมงชายฝั่ง และประมงพื้นบ้านได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง แม้รัฐจะปรับเพดานลงแต่กฎหมายยังอยู่ ซึ่งพรรคการเมืองทุกฝ่ายกำลังนำเสนอแก้อยู่ ในส่วนของพรรคประชาชาติเอาร่างกฎหมายที่แก้แล้วให้ประชาชนดูว่าความสมดุลระหว่างประมงพื้นบ้านที่หาดนราทัศน์ หรือประมงทั้งหมด คือกฎหมายจะต้องให้เกิดความยุติธรรมกับทุกคนและทุกสิ่ง

เลขาพรรคประชาชาติ ยังได้บอกอีกว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้เรามีต้นทุนที่ยิ่งใหญ่มากคือเป็นจังหวัดชายแดน เราจะต้องพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เหนือกว่าประเทศเพื่อนบ้านแต่ในช่วงหลังนี้ทางรัฐได้หลงลืมโดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และในช่วงประสบอุทกภัยอยากจะวิงวอนรัฐบาลเมื่อเรามาประสบกับโรคระบาดโควิด-19 และอุทกภัยต่างๆ สิ่งที่รัฐบาลจะทำได้คือการเข้ามาช่วยเหลือเยียวยาหรือเข้ามาฟื้นฟู ให้ประชาชนมีคุณภาพที่ดียืนอยู่ได้ และการส่งเสริมสนับสนุนคุณเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ ถ้าหากเค้าคิดจะทำอะไรอยู่แล้วก็ควรส่งเสริมขยายอำนาจให้เขา ไม่ควรจะขยายอำนาจมาครอบงำจนไม่สามารถจะทำอะไรได้ นายกเคยพูดว่าถ้ามีปัญหา ไม่ต้องไปบอกกับนายกฯแต่ให้บอกกับข้าราชการอันนี้เป็นความคิดที่ผิด ถ้าหากมีปัญหาควรให้ชุมชนท้องถิ่นเค้ายืนได้ด้วยตัวเองช่วยเหลือตัวเองได้ไม่ยังงั้นรัฐก็เข้าไปอำนาจเอาทรัพยากร เข้าไปเอางบประมาณไว้หมด ไม่ได้กระจายงบประมาณเข้ามาในท้องถิ่น ส่วนข้าราชการที่มาก็เป็นตัวแทนของส่วนกลางและวิธีคิดของรัฐบาลกับวิธีคิดของประชาชนจะต่างกันไป

‘ผู้ว่าฯ นราธิวาส’ นำจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ร่วมบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ ที่บริเวณตลาดมูโนะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส หลังเกิดอุทกภัยอย่างหนักในรอบ 23 ปี

(4 มี..65) นราธิวาส - ที่บริเวณตลาดมูโนะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ โดยมีปลัดจังหวัดนราธิวาส นายอำเภอสุไหงโกลก ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ และคณะจิตอาสาในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสเข้าร่วมกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์อย่างพร้อมเพรียงกัน

โดยคณะจิตอาสาในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสได้ร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เช่น เก็บกวาดขยะ กวาดล้างถนน บริเวณถนนบริเวณหน้าถนนใหญ่ และโดยรอบบริเวณตลาดมูโนะ อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส หลังจากเกิดอุทกภัยอย่างหนักในรอบ 23 ปี ประชาชนผู้ประสบภัยได้รับความเดือดร้อนเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่ทุกภาคส่วนผนึกกำลังบูรณาการช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่สำหรับจังหวัดนราธิวาสมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 13 อำเภอ 75 ตำบล 541 หมู่บ้าน

นราธิวาส - ผบ.ฉก.ทหารพราน 45 ร่วมใจชาวบ้าน "ลงแขกเกี่ยวข้าว" อนุรักษ์และสืบสานประเพณี วัฒนธรรม วิถีชีวิตพื้นบ้าน สร้างสัมพันธ์มิตรภาพพื้นที่แดนใต้

พันเอกทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 45 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานทั้งชายและทหารพรานหญิง นายรพี มามะ ผู้ช่วยกองเลขานุการประสานระดับพื้นที่ คณะที่ 3 ฝ่ายปกครอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำบลสะโลว์ ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส  อสม.บ้านสะโลว์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านนิบง และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกิจกรรมเกี้ยวข้าวสามัคคี ณ.ทุ่งนาชาวบ้าน บ้านนิบง ม.3 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส

น.ส.มาริสา อับดุลเลาะห์ รักษาการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลบ้านสะโลว์ ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ กล่าวว่า วันนี้ได้พา อาสาสมัครตำบล หรือ อสม.ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ และทหารพราน มาร่วมช่วยกันเกี่ยวข้าว ซึ่งนับเป็นประเพณีคนพื้นที่ และคนไทยอีกอย่างหนึ่งของชาวนาไทย ซึ่งนับวันจะหาดูได้ยากในสภาพปัจจุบัน มีในแถบภาคใต้ และอีสานส่วนใหญ่ จะเป็นผู้มีน้ำใจไมตรี และในการทำกิจการ งานใดๆ ไม่ว่างานเล็กงานใหญ่ จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีเพราะทุกคนต่างมีน้ำใจให้กันและกัน ช่วยงานกันคนละมือละไม้ใช้เวลาไม่นานงานก็สำเร็จลุล่วงไปได้สมปรารถนา

การทำงานแบบนี้ เรียกว่า “ลงแขก” การลงแขก  คือการบอกกล่าว ขอแรงบรรดาญาติสนิทมิตรสหาย หรือมิตรชาวบ้านในพื้นที่ ให้มาช่วยทำงานนั่นเอง งานที่จะลงแขกกันนั้นอาจจะเป็นงานส่วนรวมหรืองานส่วนตัวก็ได้ สำหรับงานส่วนตัวนั้นส่วนมากมักจะเป็นงานใหญ่สุดกำลังคนในครอบครัวจะทำได้ หรืออาจจะเป็นงานหนักแต่จำเป็นต้องทำให้เสร็จภายในวันเดียว จึงต้องบอกกล่าวให้ญาติพี่น้องเพื่อนบ้านมาช่วยเหลือเพื่อให้งานเสร็จสิ้นไปงานที่มักลงแขก อาทิ การลงแขกทำนา ซึ่งมีการลงแขกดำนา ลงแขกเกี่ยวข้าว ลงแขกตีข้าว (นวดข้าว)  เป็นประเพณีไทยที่แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจ หรือการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งยังเป็นการสร้างความสามัคคีกันภายในหมู่บ้านอีกด้วย เอาไว้เลี้ยงเพื่อนบ้าน ที่เข้ามาช่วยลงแขกดำนา....

รองแม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจเยี่ยมการดำเนินการ 'โครงการทหารพันธุ์ดี ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย' ของกรมทหารราบที่ 151

ที่ โรงเรียนบ้านเขาตันหยงมิตรภาพที่ 153 หมู่ที่ 4 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะ เดินทางลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยมการดำเนินการ 'โครงการทหารพันธุ์ดี ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย' ของกรมทหารราบที่ 151  โดยมี พันเอก ยุทธนา สายประเสริฐ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 151, นายมะลีเป็ง ลีฆะ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเขาตันหยงมิตรภาพที่ 153  หน่วยงานราชการ คณะครู นักเรียน ร่วมให้การต้อนรับ โดยพลตรีไพศาล หนูสังข์ และคณะ ได้รับฟังบรรยายสรุปการดำเนินการ ของ 'โครงการทหารพันธุ์ดี ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย' ของกรมทหารราบที่ 151 พร้อมทั้งได้เยี่ยมชม แปลงเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ของบ้านเขาตันหยงมิตรภาพ ที่ 153 โดยมีน้องนักเรียน มัคคุเทศก์น้อย ทำหน้าที่เป็นวิทยากรคอยให้ความรู้ ในแต่ส่วนของแปลงเกษตร ซึ่งโครงการดังกล่าว ดำเนินงานตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานโครงการทหารพันธุ์ดีแก่หน่วยมาเพื่อดำเนินการขยายผลสู่สถานศึกษา และเปิดโอกาสให้เยาวชนได้รับความรู้ ซึมซับในวิถีพอเพียงการเรียนรู้ร่วมกับการปฏิบัติจริง 'เรื่อง การผลิตอาหารให้ชุมชน' ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายผลการดำเนินงานโครงการทหารพันธุ์ดีสู่สถานศึกษา ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติแก่นักเรียน รวมถึงเพื่อเป็นแหล่งอาหารให้กับโรงเรียน และชุมชนโดยรอบ ตลอดจนเพื่อให้นักเรียน และพี่น้องประชาชนตระหนักในการเรียนรู้วิถี ความพอเพียง สามารถต่อยอด พัฒนาเป็นองค์ความรู้ใหม่สู่การปฏิบัติในการดำเนินชีวิตต่อไป

นราธิวาส-รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสเป็นประธานพิธีงานพหุวัฒนธรรมสานสัมพันธ์ไทยพุทธ ไทยมุสลิม

วันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ณ.โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 89 (บ้านโคกสยา)
พันเอกก่อเกียรติ เข็มแดง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เดินทางมาเป็นประธานในพิธีพหุวัฒนธรรมสานสัมพันธ์ไทยพุทธ มุสลิม โดยมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระเทพศีลวิสุทธิ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18

นายสุพจน์ มณีรัตนโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นราธิวาส เขต 2 นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายธนาธิป พรหมชื่น กำนันตำบลสุไหงปาดี นายเพียร มโนภักดิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสุไหงปาดี นายคณิตพงษ์ พันธ์โภชน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนไทยรัฐวิทยา(89) หน่วยงานราชการทุกหน่วยงาน ผู้นำศาสนาอิสลาม ผู้นำชุมชน คณะครู ประชาชนและนักเรียนร่วมให้การต้อนรับ

โครงการพหุวัฒนธรรมสานสัมพันธ์ไทยพุทธ ไทยมุสลิม มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ อันดีระหว่างชุมชนไทยพุทธ ไทยมุสลิมภายใต้การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่ดีงามร่วมกันอย่างมีความสุขและเข้าใจในวิถีชีวิตของแต่ละสังคม

'บิ๊กป้อม' ติดตามสถานการณ์น้ำ-ศก.ภาคใต้ ยิ้มเขินถูกเรียกนายกฯ รีบออกตัว เป็นแค่รองนายกฯ

วันที่ (19 กันยายน 2565) เมื่อเวลา 8.45 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมพล.อ ชัยชาญ ช้างมลคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และคณะ เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร 2 บน.6 ด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศ หมายเลข 60206 ไปยังท่าอากาศยาน จ.นราธิวาส ในเวลา 10.10 น 

โดยทันทีที่ถึงสนามบิน ได้มีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และว่าที่ผู้สมัคร ให้ต้อนรับประกอบด้วย อาทิ นายสัมพันธ์ มะยูโซะ ส.ส.นราธิวาส, นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา, ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา, นายวันชัย ปริญญาศิริ ส.ส.สงขลา, นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา และเข้าห้องรับรองพูดคุยร่วมกัน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก่อนจะออกเดินทางจากสนามบินด้วยรถโตโยต้า อัลพาร์ด ป้ายแดง หมายเลขทะเบียน บ 7240 กรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ และประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) พร้อมตรวจติดตามการขับเคลื่อนมติ กพต. ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.นราธิวาส

เมื่อเวลา 11.00 น. พล.อ.ประวิตรพร้อมคณะ เดินทางถึงมหาวิทยาลัยนราธิวาส โดยมีพล.ร.ต.สมเกีบรติ ผลประยูร เลขาธิการศอ.บต.ให้การต้อนรับ พร้อมรายงานสรุปการขับเคลื่อนพัฒนาศักยภาพด่านศุลกากรไทย - มาเลเซียเสริมอัตลักษณ์ทางภาษา ประเพณีและวัฒนธรรม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเยี่ยมชมนิทรรศกรเสริมสร้างศักยภาพมหาวิทยาลัยเพื่อรองรับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกิจกรรมโคบาลชายแดนใต้ภายใต้โครงการเมืองปศุสัตว์ตามกรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมฟังบรรยายภาพรวมในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากนายสุรสีห์ กิตติมลฑล เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการรับฟังบรรยายสรุป โครงการสร้างเสริมศักยภาพมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์เพื่อการพัฒนาจังหวัด นราธิวาส พล.อ.ประวิตรได้กล่าว ฝากมหาวิทยาลัยดังกล่าวให้ดูแลเรื่องภาษาไทย ทำอย่างไรให้เด็กในพื้นที่ใช้ภาษาไทยได้ดี เพราะเวลากลับบ้านใช้ภาษามาลายูกัน

จากนั้นพล.อ.ประวิตร ได้พูดคุยกับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคผ่านระบบ Video Conference กับเกษตรกรชาวอำเภอรามันและสุไหงปาดี ซึ่งเกษตรกรได้รายงานถึงความก้าวหน้าของการดำเนินการ พร้อมยังขอเสาไฟฟ้า เพื่อใช้ในการเกษตร 

ผบ.ตร. บินด่วนนราธิวาส เร่งตรวจสอบเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ ถล่มแฟลตตำรวจ เบื้องต้น ผู้กองจราจร เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

จากกรณี เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2565 เวลาประมาณ 12.50 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นภายในบริเวณแฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส (แฟลต ตร)  ถ.สุริยะประดิษฐ์ เทศบาลเมืองนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 1 ราย  คือ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธะนิยะ รอง สว.จร.เมืองนราธิวาส และบาดเจ็บจำนวนมาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

จากการตรวจสอบในเบื้องต้น ทราบว่ามีคนร้ายจำนวน 1 คน แต่งกายคล้าย จนท.ได้นำรถยนต์กระบะประกอบระเบิด(คาร์บอมบ์) นำมาจอดไว้ภายในบริเวณแฟลตข้าราชการตำรวจ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างปิดกั้นพื้นที่ รอเข้าตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย 

รองแม่ทัพภาค 4 ระบุคาร์บอมบ์ รุนแรง  กระทบประชาชนเศรษฐกิจ ยันมีคืบหน้าคนร้าย ที่ก่อเหตุแล้ว

เวลา 10.00 น. วันที่ (23 พ.ย. 65) พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพแม่ทัพภาคที 4 ลงตรวจพื้นที่ จุดเกิดเหตุ..คาร์บอมส์แฟลตตำรวจจังหวัดนราธิวาส เพื่อตรวจสอบความเสียหายที่เกิด ขึ้น พร้อมเปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า..

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้อง ได้ตรวจสอบรถยนต์ ประกอบระเบิดคาร์บอมบ์ที่ถูกนำมาจอดไว้ที่แฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ก่อนถูกจุดชนวนขึ้นเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 65 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 36 คน โดยจากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่า เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีดำ ป้ายทะเบียน กค 6961 ตรัง จดทะเบียนวันที่ 8 มีนาคม ปี2550 มีผู้ครอบครองรถ คือ ชายคนหนึ่ง มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง โดยได้นำรถยนต์มาขายให้เต็นท์รถแห่งหนึ่งใน อ.เมืองตรัง เมื่อปี 2564 ก่อนที่เต็นท์รถจะนำไปขายต่อที่ จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีผู้พบเห็นรถคันนี้ครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 65 เวลา 16.52 นาฬิกา รถขับผ่านด่านตรวจ ต.ลำภู อ.เมืองนราธิวาส โดยมีผู้หญิงเป็นผู้ขับขี่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่จึงพยายามติดต่อหญิงสาวคนขับรถเข้าพื้นที่ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ เป็นรถหนีไฟแนนท์ 

โดยวันนี้ (23 พ.ย.65) เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเร่งมือในการเคลื่อนย้ายซากรถยนต์ เเละรถจักรยานยนต์หลายสิบคัน ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดในรถยนต์ หรือ คาร์บอมบ์ออกจากเเฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาสเเละเก็บกวาดซากความเสียหายจากเเรงอัดของระเบิดภายในเเฟลต คืนสภาพตามปกติ อย่างไรก็ตาม อนุภาพของระเบิดคาร์บอมบ์ที่รุนเเรง ทำให้ร่องรอยความเสียหาย โดยเฉพาะบริเวณห้องพักของเจ้าหน้าที่ประมาณ 70 ครอบครัว บริเวณชั้น 1 เเละชั้น 2 ที่เสียหายเกือบทั้งหมด

พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด พร้อมทั้งประนามผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งในส่วนของนายกรัฐมนตรีนั้น ได้กำชับให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เข้ามาดำเนินการในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา โดยเมื่อวานนี้ ศอ.บต. ได้ลงพื้นที่และดำเนินการพร้อมสำรวจในเรื่องนี้แล้ว นอกจากนี้เป็นการดำเนินการด้านกฏหมาย และยกระดับมาตรการการดูแลความปลอดภัยเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความมั่นใจในชีวิตและทรัพย์สิน 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top