Sunday, 12 May 2024
จีน

สหรัฐฯ ขีดเส้นตาย 6 เดือนให้ ByteDance หากไม่ขายแอปฯ TikTok ทิ้ง เจอแบนแน่

(7 มี.ค.67) ทางการสหรัฐฯ กำลังกดดันให้ บริษัทเทคฯ จีนอย่าง ByteDance ขายแอปพลิเคชัน TikTok ภายใน 6 เดือนหรือจะพบกับการแบนจากสหรัฐฯ 

สืบเนื่องจากปัจจุบัน ทางการสหรัฐฯ มีความกังวลอย่างมากจากการที่ข้อมูลผู้ใช้ในแอปพลิเคชันอาจตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลจีน ทำให้ทั้งสองพรรคในสภาสหรัฐฯ กำลังกดดันทางกฎหมายอย่างหนัก ทำเอาทาง TikTok ไม่พอใจอย่างมากและกล่าวว่านี่คือการแบนโดยสมบูรณ์ และกล่าวว่าการออกกฎหมายนี้จะเป็นการเหยียบย่ำสิทธิของชาวอเมริกันถึง 170 ล้านคน และทำลายธุรกิจเล็ก ๆ กว่า 5 ล้านแห่งบนแพลตฟอร์ม

ในร่างกฎหมายที่ออกโดยสภานิติบัญญัติสหรัฐฯได้กล่าวอ้างว่า TikTok ถูกควบคุมโดยชาติอื่นที่ตั้งตัวเป็นปรปักษ์และสร้างความเสี่ยงอันไม่สามารถยอมรับได้ต่อความมั่นคงของชาติ โดยบริษัทมีเวลา 165 วันในการถอนทุนออกก่อนที่จะถูกบล็อกจาก App Store และแพลตฟอร์มในสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ก็มีการเคลื่อนไหวจากทางสภาของสหรัฐฯ รวมถึงเคยมีความพยายามที่จะแบบอย่างสมบูรณ์ในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

'จีน' ประกาศดำเนินนโยบาย 'ฟรีวีซ่า' 6 ประเทศยุโรป  กระตุ้นการฟื้นคืนเที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศโดยเร็ว

(7 มี.ค.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายหวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เข้าร่วมการแถลงข่าวนโยบายต่างประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีน นอกรอบการประชุมครั้งที่ 2 ของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ 14 ในกรุงปักกิ่งของจีน

โดยสาระสำคัญจากการแถลงนั้น หวังอี้ ได้เปิดเผยว่า จีนจะดำเนินนโยบายฟรีวีซ่า (ระยะทดลอง) กับ สวิตเซอร์แลนด์, ไอร์แลนด์, ฮังการี, ออสเตรีย, เบลเยียม และลักเซมเบิร์ก เริ่มต้นวันที่ 14 มี.ค. นี้

หวังแสดงความหวังว่าประเทศต่างๆ จะอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าแก่พลเมืองจีนเพิ่มขึ้นเช่นกัน รวมถึงทำงานร่วมกับจีนเพื่อสร้างโครงข่ายการเดินทางข้ามพรมแดนที่รวดเร็ว และกระตุ้นการฟื้นคืนเที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศโดยเร็ว

หวังเสริมว่าการดำเนินนโยบายฟรีวีซ่าจะเพิ่มความสะดวกสบายแก่การเดินทางไปยังต่างประเทศของพลเมืองจีน และช่วยให้เพื่อนพ้องชาวต่างชาติในจีนรู้สึกอบอุ่นใจเหมือนอยู่บ้านของตัวเอง

เปิดความเร็ว T-Flight สุดยอดม้าเหล็กจีนที่ลุ้นพิชิตสปีด 2 พัน กม.ต่อชม. เทียบระยะเวลา 'กรุงเทพ' ไป 'เชียงใหม่' แค่ 30 นาทีถีง

เมื่อวันที่ 5 มี.ค.67 Techhub รายงานว่า เป็นอีกครั้งที่จีนประสบความสำเร็จในการสร้างรถไฟความเร็วสูง รถไฟใหม่นี้เรียกว่า T-Flight และมันเพิ่งทำลายสถิติความเร็วใหม่ที่ 387 ไมล์ต่อชั่วโมง (623 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ทำลายสถิติรถไฟที่เร็วที่สุดของญี่ปุ่นอย่าง MLX01 ที่วิ่งด้วยความเร็ว 361 ไมล์ต่อชั่วโมง ไปแล้ว

T-Flight ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า maglev (Magnetic Levitation) เป็นรถไฟที่ใช้หลักการทางแม่เหล็กในการยกตัวลอยเหนือราง ช่วยลดแรงเสียดทาน รวมกับท่อสุญญากาศต่ำ (Hyperloop) ทำให้ T-Flight จึงสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงได้ขนาดนี้ได้

วิศวกรชาวจีนได้ตั้งเป้าหมายความเร็วนี้ที่ 1,243 ไมล์ต่อชั่วโมง (2,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ซึ่งเร็วกว่าความเร็วกว่าเครื่องบินโบอิ้ง 737 ถึงสองเท่า ซึ่งถ้าหากได้ความเร็วนี้ เราสามารถโดยสารจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ ได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น

ทั้งนี้ รถไฟ T-Flight ได้รับการพัฒนาโดย China Aerospace Science and Industry Corporation (CASIC) ซึ่งในระหว่างการทดสอบที่เมืองต้าถง มณฑลซานซี ทางตอนเหนือของจีน รถไฟ T-Flight ทำความเร็วได้ที่ 387 ไมล์ต่อชั่วโมง ภายในท่อสุญญากาศต่ำที่มีความยาวเพียง 1.2 ไมล์ หรือ 2 กิโลเมตรครับ  และต้องรอดูการทดสอบในระยะไกล ๆ อีกครั้ง ว่ามันจะมีปัญหาอะไรไหม

‘หวังอี้’ ย้ำ!! จีนไม่ปล่อย ‘ไต้หวัน’ แยกตัวจากมาตุภูมิ ฮึ่ม!! ใครหนุน ‘เอกราชไต้หวัน’ เท่ากับท้าทายอธิปไตยจีน

(7 มี.ค. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน เปิดเผยว่านโยบายของจีนต่อปัญหาไต้หวันนั้นชัดเจน นั่นคือยังคงพยายามรวมชาติอย่างสันติด้วยความจริงใจที่สุด

"บรรทัดฐานสำคัญที่สุดนั้นชัดเจนอย่างยิ่ง นั่นคือจีนจะไม่มีทางปล่อยให้ไต้หวันแยกตัวจากมาตุภูมิ" หวังกล่าวที่การแถลงข่าวนอกรอบการประชุมประจำปีของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ

หวังตอบคำถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์ข้ามช่องแคบหลังมีการเลือกตั้งผู้นำและสมาชิกสภานิติบัญญัติของไต้หวันว่าการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นของจีน และผลลัพธ์จะไม่เปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และจะไม่เปลี่ยนแปลงกระแสธารแห่งประวัติศาสตร์ที่ว่าไต้หวันจะกลับคืนสู่มาตุภูมิ

"เราจะมีภาพถ่ายรวมประชาคมระหว่างประเทศที่เหล่าสมาชิกล้วนยึดมั่นหลักการจีนเดียว นี่เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น"

หวังกล่าวว่าหลักการจีนเดียวเป็นฉันทมติของประชาคมระหว่างประเทศ พร้อมเตือนว่าผู้ที่ยังคงสมรู้ร่วมคิดและสนับสนุน ‘เอกราชไต้หวัน’ กำลังท้าทายอำนาจอธิปไตยของจีน และประเทศที่ยืนกรานรักษาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับไต้หวันกำลังแทรกแซงกิจการภายในของจีน

กิจกรรมแบ่งแยกดินแดนที่แสวงหา ‘เอกราชไต้หวัน’ ยังคงเป็นปัจจัยบั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบไต้หวันมากที่สุด ดังนั้นยิ่งยึดมั่นหลักการจีนเดียวอย่างแน่วแน่มากเท่าไร ย่อมจะยิ่งช่วยรับประกันสันติภาพข้ามช่องแคบมากเท่านั้น

ใครก็ตามที่มีส่วนร่วมใน ‘เอกราชไต้หวัน’ บนเกาะไต้หวันจะต้องรับผิดชอบต่อประวัติศาสตร์ และใครก็ตามในโลกที่สมรู้ร่วมคิดและสนับสนุน ‘เอกราชไต้หวัน’ จะต้องถูกแผดเผาเพราะเล่นกับไฟ และลิ้มรสชาติอันขมขื่นจากการกระทำของตนเอง

ทั้งนี้ หวังเรียกร้องประชาชนชาวจีนทั้งผองยึดมั่นผลประโยชน์โดยรวมของชนชาติจีน ร่วมกันคัดค้าน ‘เอกราชไต้หวัน’ และสนับสนุนการรวมชาติอย่างสันติ

‘สื่อ UK’ ชี้ รถยนต์ไฟฟ้า ‘จีน’ ยอดขายดีกว่า ‘สหรัฐฯ’ เหตุ ‘ราคาย่อมเยา - ประสิทธิภาพดี’ ถูกใจผู้ซื้อ

เมื่อวานนี้ (7 มี.ค. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์ส (Financial Times) ของสหราชอาณาจักร อ้างอิงมาเธียส เมเดรช ซีอีโอของยูมิคอร์ (Umicore) ผู้ผลิตวัสดุแบตเตอรี่ระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เบลเยียม รายงานว่า รถยนต์ไฟฟ้าของจีนมียอดจำหน่ายดีกว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ ‘ด้อยกว่า’ ของสหรัฐฯ เนื่องจากมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าและมีราคาย่อมเยา ทำให้รถจีนเป็น ‘รถยนต์ที่ดีและผู้คนเลือกซื้อ’

ด้าน เมเดรช ซีอีโอของยูมิคอร์ ให้สัมภาษณ์ว่าผู้ผลิตสัญชาติอเมริกันหลายราย ‘พยายามนำยานยนต์ไฟฟ้าที่ดี’ เข้าสู่ตลาด ซึ่งขณะที่ยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในจีนกำลังเพิ่มสูง แต่ตลาดในสหรัฐฯ กลับยังมีขนาดเล็ก และผู้ผลิตยานยนต์ของสหรัฐฯ หลายรายยังได้ระงับแผนการขยายโรงงานยานยนต์ไฟฟ้าเนื่องจากอุปสงค์อ่อนตัว

ทั้งนี้ ตลาดยานยนต์พลังงานใหม่มีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในจีนตลอดหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากการผลักดันการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการเติบโตของตลาดรถยนต์อย่างรวดเร็วของประเทศ โดยในปี 2023 รถยนต์โดยสารไฟฟ้าคิดเป็นร้อยละ 69 ของยอดจำหน่ายทั้งประเทศ ขณะรถไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริดครองสัดส่วนร้อยละ 31

‘จีน’ ยกระดับ สามารถสลับแบตฯได้ภายใน 80 วินาที ที่มณฑลเจียงซู ประหยัดเวลาชาร์จ คาดรองรับ ผู้ใช้ยานยนต์พลังงานใหม่ ได้มากกว่า 500,000 ราย

(10 มี.ค.67) การไฟฟ้าแห่งประเทศจีน สาขาเจียงซู เปิดเผยว่าเขตสาธิตดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่เกือบ 500 ตารางกิโลเมตรในเมืองซูโจว อู๋ซี และฉางโจว พร้อมด้วยเสาชาร์จราว 1,300 ต้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับผู้ขับขี่ยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ได้มากกว่า 500,000 ราย

สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการสลับแบตเตอรี่ที่ทำให้ยานพาหนะสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ภายในเวลาเพียง 80 วินาทีจะเปิดให้บริการในเมืองอู๋ซี ก่อนขยับขยายทั่วเขตสาธิตแห่งนี้

ก่อนหน้านี้ ผู้ขับขี่ยานยนต์ไฟฟ้ามักต้องค้นหาสถานีชาร์จบริเวณใกล้เคียง แต่เขตสาธิตใหม่นี้จะใช้อัลกอริธึมอัจฉริยะเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ค้นหาโซลูชันการชาร์จที่รวดเร็วและประหยัดที่สุด ตลอดจนช่วยค้นหาเวลาและสถานที่ที่เหมาะสมในการชาร์จ

หยวนเสี่ยวตง ผู้อำนวยการด้านเทคนิคของสถาบันวิจัยพลังงานไฟฟ้า สังกัดการไฟฟ้าฯ คาดว่าเขตสาธิตข้างต้นจะสามารถช่วยลดเวลาการเข้าคิวรอชาร์จเฉลี่ยเกือบร้อยละ 50 ต่อเดือน โดยคาดว่าเขตสาธิตแห่งนี้จะขยายไปยังมณฑลอันฮุยและเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อส่งเสริมการยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี

สำนักบริหารพลังงานแห่งชาติของจีน ระบุว่าสัดส่วนการเป็นเจ้าของยานยนต์พลังงานใหม่ของจีนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องช่วงไม่กี่ปีมานี้ โดยมีการใช้ยานยนต์พลังงานใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 20.41 ล้านคันเมื่อนับถึงสิ้นปี 2023 และเพื่อตอบสนองการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นนี้ จีนจะเดินหน้าปรับปรุงและขยายเครือข่ายสิ่งอำนวยความสะดวกการชาร์จ ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 65 เมื่อเทียบปีต่อปีในปีก่อน และเกือบแตะ 8.6 ล้านเครื่องเมื่อช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา

‘นักวิจัยจีน’ เจ๋ง!! พัฒนาอุปกรณ์นาโนดีเอ็นเออัจฉริยะ ช่วยค้นหาลิ่มเลือด พร้อมจ่ายยาอัตโนมัติอย่างแม่นยำ

(11 มี.ค. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยไปรษณีย์และการสื่อสารโทรคมนาคมแห่งหนานจิง (NJUPT) ได้พัฒนาอุปกรณ์นาโนดีเอ็นเออัจฉริยะ สำหรับการละลายลิ่มเลือด ซึ่งสามารถค้นหาลิ่มเลือดและจ่ายยาอย่างแม่นยำโดยอัตโนมัติ

รายงานระบุว่าทีมนักวิจัยใช้เทคโนโลยีเรียงดีเอ็นเอมาประสานแผ่นนาโนดีเอ็นเอกับตำแหน่งจับยาละลายลิ่มเลือด (tPA) ที่ออกแบบไว้ล่วงหน้า และตัวยึดดีเอ็นเอที่ไวต่อทรอมบิน (thrombin) หรือการแข็งตัวของเลือด โดยตัวยึดดังกล่าวมีโครงสร้างดีเอ็นเอสามสายประสานกัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้ทรอมบิน ตัวควบคุม และสวิตช์เปิด

วังเหลียนฮุย สมาชิกทีมนักวิจัย ระบุว่ายาละลายลิ่มเลือดเปรียบเสมือนดาบสองคม อาจเป็นอันตรายหากใช้ไม่ถูกต้อง โดยยาดังกล่าวอาจละลายไฟบริน (fibrin) ในบาดแผลปกติอย่างมั่วซั่ว ส่งผลให้เกิดการแข็งตัวผิดปกติของเลือด ซึ่งในกรณีรุนแรงอาจส่งผลให้บาดแผลเปิดและมีเลือดออก

ทว่าอุปกรณ์นาโนนี้สามารถตรวจสอบว่าพวกมันอยู่ใกล้ลิ่มเลือดหรือบาดแผลปกติโดยอ้างอิงความเข้มข้นของทรอมบิน โดยหากความเข้มข้นของทรอมบินสูง เป็นไปได้ว่าบริเวณนั้นมีลิ่มเลือดอุดตัน และอุปกรณ์จะปล่อยยาละลายลิ่มเลือดออกมา

ทีมนักวิจัยเสริมว่าอุปกรณ์นี้สามารถย่อยสลายและถูกเผาผลาญในร่างกายมนุษย์ และคาดว่าจะเป็นแนวทางใหม่ในการบำบัดรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายและโรคหลอดเลือดสมอง อนึ่ง ผลการศึกษานี้เผยแพร่ผ่านวารสารเนเจอร์ แมทีเรียลส์ (Nature Materials)

‘จีน’ ผุดมาตรการแก้ปัญหา ‘การชำระเงินแบบไร้เงินสด’ หลัง นทท.ประสบพบเจอ เล็งทำให้สะดวก-ราบรื่นยิ่งขึ้น

(12 มี.ค. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ซุนเย่หลี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน กล่าวถ้อยคำดังกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ ระหว่างชี้แจงถึงมาตรการต่างๆ ที่กำหนดขึ้นเพื่อทำให้การท่องเที่ยวของชาวต่างชาติในจีนสะดวกสบายและราบรื่นยิ่งขึ้น เมื่อวันจันทร์ (11 มี.ค.) ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ซุนเย่หลี่ ย้ำถึงปัญหาการชำระเงินที่นักท่องเที่ยวขาเข้าประสบพบเจอ โดยพวกเขาไม่ได้รับความสะดวกสบายจากการชำระเงินแบบไร้เงินสดผ่านโทรศัพท์มือถือที่พบเห็นได้ส่วนใหญ่ในพื้นที่เชิงพาณิชย์ในจีน ตั้งแต่โรงแรมไปจนถึงร้านสะดวกซื้อ

ซุนเย่หลี่ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวหลังปิดการประชุมสภานิติบัญญัติระดับชาติประจำปีว่านี่เป็นปัญหาใหม่ที่คาดไม่ถึงอย่างแท้จริง เนื่องจากการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือในจีนพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทว่าหน่วยงานส่วนกลางให้ความใส่ใจอย่างมากต่อปัญหานี้และได้จัดตั้งกลไกการประสานงานเพื่อแก้ไขแล้ว

ซุนเย่หลี่ กล่าวว่า จีนกำลังดำเนินมาตรการโดยละเอียด อาทิ การติดตั้งและอัปเกรดอุปกรณ์ของจุดชำระเงินหน้าร้านใหม่ เพื่อรับประกันว่าเมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวจีนจะสามารถใช้บัตรธนาคารได้ในหลายพื้นที่ อาทิ โรงแรม สนามบิน สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และแหล่งชอปปิง โดยพวกเขายังสามารถเลือกได้ว่าจะชำระเงินแบบสแกนรหัสคิวอาร์ (QR code) หรือใช้เงินสด

นอกจากนี้ กลุ่มแพลตฟอร์มและบริษัทการชำระเงินในจีนได้ทำงานร่วมกันเพื่อลดความซับซ้อนของกระบวนการซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติขาเข้าต้องลงทะเบียนเพื่อใช้งานแอปพลิเคชันการชำระเงินของจีน และสั่งการให้สถานที่ด้านการบริโภคทั้งหมดรับสกุลเงินจีนแบบเงินสด

โดยซุนเย่หลี่ กล่าวว่า จีนกำลังเพิ่มประสิทธิภาพแต่ละขั้นตอนของกระบวนการท่องเที่ยวขาเข้า ปรับปรุงขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่การขอวีซ่าไปจนถึงการจัดเตรียมเที่ยวบิน การเช็กอินโรงแรม การชอปปิง และการเที่ยวชมสถานที่ ซึ่งการปรับใช้มาตรการเหล่านี้จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนจีนได้รับความสะดวกสบายในด้านที่พัก การคมนาคม และการชอปปิ้งระดับเดียวกับนักท่องเที่ยวในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ซุนเย่หลี่ ทิ้งท้ายว่าเรายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมชมจีน เพลิดเพลินไปกับมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมจีน ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของจีน และสัมผัสความมีมิตรไมตรีจิตจากชาวจีน

‘จีน’ สั่ง รร.ประถม-มัธยม จัดช่วงพัก 30 นาที/วัน เพื่อให้นักเรียนได้ ‘ขยับร่างกาย - พักผ่อนสายตา’

เมื่อวานนี้ (12 มี.ค. 67) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการของจีนและหน่วยงานอื่นอีก 3 หน่วยงาน ออกหนังสือเวียนว่าด้วยการป้องกันและควบคุมภาวะสายตาสั้น ซึ่งเรียกร้องให้โรงเรียนประถมและมัธยมของจีนรับรองว่านักเรียนได้ออกทำกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายนอกห้องเรียนอย่างเหมาะสมระหว่างชั้นเรียน

หนังสือเวียนดังกล่าวประกาศเปิดตัวโครงการรณรงค์ทั่วประเทศระยะ 1 เดือนเพื่อป้องกันและควบคุมภาวะสายตาสั้นในเดือนมีนาคม โดยระบุว่าโรงเรียนควรจัดให้มีช่วงพักสำหรับทำกิจกรรมกีฬาเป็นเวลา 30 นาทีทุกวัน เพื่อให้นักเรียนได้ผ่อนคลายความเมื่อยล้าทางสายตาได้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ หนังสือเวียนยังเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลตลาดทั่วจีน ตรวจสอบและจัดการกิจกรรมทางการตลาดและการประชาสัมพันธ์ที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดของผลิตภัณฑ์ป้องกันและควบคุมภาวะสายตาสั้นสำหรับเด็กและวัยรุ่นอย่างเคร่งครัดตามกฎหมาย

‘จีน’ ประณาม ‘สหรัฐฯ’ หลังผ่านร่าง กม.แบน ‘TikTok’ พร้อมเตือน!! ท้ายสุดเรื่องนี้จะย้อนกลับมาเล่นงานตัวเอง

(14 มี.ค.67) จากกรณีสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 352 ต่อ 65 ก่อนที่จะส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อพิจารณาต่อไป โดยสมาชิกรัฐสภาสหรัฐที่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายดังกล่าวมองว่า TikTok เป็นแอปพลิเคชันที่เป็นภัยต่อความมั่นคง เนื่องจากถูกควบคุมโดยชาติที่เป็นศัตรูของสหรัฐ

ทางด้าน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาพร้อมที่จะลงนามในร่างกฎหมายดังกล่าว หากผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส

ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ออกมากล่าวหาสหรัฐว่า พยายามปราบปราม TikTok ทั้งที่ไม่เคยพบหลักฐานว่า TikTok เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ

“พฤติกรรมรังแกกันแบบนี้ เพราะไม่สามารถเอาชนะในการแข่งขันอย่างเป็นธรรมได้ เป็นตัวขัดขวางกิจกรรมทางธุรกิจปกติของบริษัทต่างๆ, สร้างความเสียหายต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนระหว่างประเทศในสภาพแวดล้อมการลงทุน และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการซื้อขาย ท้ายที่สุดเรื่องนี้จะย้อนกลับมาเล่นงานสหรัฐเอง" นายหวัง กล่าว

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ‘กฎหมายปกป้องชาวอเมริกันจากแอปพลิเคชันที่ควบคุมโดยปรปักษ์ต่างชาติ’ (Protecting Americans from Foreign Adversary Controlled Applications Act) ยังจำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาสหรัฐและให้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ลงนาม เพื่อบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งประธานาธิบดีไบเดนกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาพร้อมที่จะลงนามในร่างกฎหมายดังกล่าว หากผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส

โดยสหรัฐแสดงความกังวลมาตลอด ว่า TikTok อาจแบ่งปันข้อมูลผู้ใช้กับรัฐบาลจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ขณะที่ ไบต์แดนซ์ ซึ่งเป็นเจ้าของ TikTok ปฏิเสธเรื่องความเสี่ยงใดๆ และยืนยันว่าพวกเขาปรับโครงสร้างบริษัทไปแล้ว เพื่อให้ข้อมูลของชาวอเมริกันอยู่แต่ในสหรัฐเท่านั้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top