Thursday, 16 May 2024
กระทรวงแรงงาน

รมว.สุชาติ มอบ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ เป็นประธานและสักขีพยาน MOU สปส.กับ รพ.10 แห่ง เพิ่มประสิทธิภาพผู้ประกันตนเข้าถึงการรักษาด้วยการผ่าตัดหรือทำหัตถการนำร่องในกลุ่ม 5 โรค

(26 ธ.ค. 65) เวลา 09.30 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานและร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการให้บริการทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงการรักษาของผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม โดยมี นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม รวมทั้งผู้บริหารสถานพยาบาลทั้ง 10 แห่ง พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมให้การต้อนรับ ณ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 

นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลและเข้าถึงการให้บริการรักษาทางการแพทย์ของประชาชนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกัน นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบนโยบายในเรื่องการจัดการและพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์  ซึ่งสำนักงานประกันสังคมเป็นหน่วยงานหลักที่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประกันตนโดยมีภารกิจสำคัญในการพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์พร้อมการบริหารจัดการที่เป็นเลิศ เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิประโยชน์ในการเข้ารับบริการทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทันท่วงที ในวันนี้ ตนรู้สึกยินดีที่ได้รับมอบหมายจากท่านสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มาเป็นประธานและร่วมเป็นสักขีพยานการทำบันทึกข้อตกลงการให้บริการทางการแพทย์ ระหว่างสำนักงานประกันสังคมกับสถานพยาบาลทั้ง 10 แห่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเข้าถึงการรักษาให้กับผู้ประกันตน ด้วยการผ่าตัดหรือทำหัตถการนำร่องในกลุ่ม 5 โรค “นับเป็นของขวัญปีใหม่ชิ้นหนึ่งที่รัฐบาล และกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม มอบให้ผู้ประกันตนในกรณีเจ็บป่วยและมีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดหรือทำหัตถการกับโรงพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด ผมมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการทำบันทึกข้อตกลงในวันนี้ สามารถทำให้ผู้ประกันตนได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ในระบบประกันสังคม ซึ่งเป็นการลดระยะเวลาการรอคอย ลดภาวะแทรกซ้อน ไม่ให้อาการของโรคมีความรุนแรงมากขึ้น อีกทั้ง ช่วยลดระยะเวลาในการพักฟื้น ส่งผลให้ผู้ประกันตน สามารถกลับไปทำงานได้อย่างรวดเร็ว และดำเนินชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงนับได้ว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่สามารถช่วยเหลือผู้ประกันตนอย่างแท้จริง” 

‘เสี่ยเฮ้ง’ รักษาคำพูด “ลุงตู่อยู่ไหนไปที่นั่น” โว!! ส.ส.ย้ายค่าย ได้กลับเข้าสภาชัวร์

(9 ม.ค. 65) ที่ศูนย์สิริกิติ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน อดีตส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เดินทางมาร่วมเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) โดยให้สัมภาษณ์ ว่า วันนี้มาให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และพา ส.ส.มา ครบ โดยมี ส.ส.มา 15 คน ทั้งนี้ตนได้ลาออกจากส.ส.พปชร.ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา และได้สมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช. เมื่อเช้าวันที่ 9 ม.ค. ขณะที่ ส.ส.ยังไม่ได้มา เพราะต้องมีหน้าที่ต้องพิจารณากฎหมายอีกเยอะ ดังนั้นวันนี้จึงมานับหนึ่งพร้อมกับ นายกฯ ก่อน ตามที่รับปากไว้ว่านายกฯ ไปที่ไหนก็จะไปที่นั่น นอกจากนี้ยังมีพี่น้องชาวชลบุรีมาให้กำลังใจนายกฯ 5,000 กว่าคน 

ผู้สื่อข่าวถามว่าเวลานี้มียอด ส.ส.ทั้งหมดในมือจำนวนเท่าไหร่ นายสุชาติ กล่าวว่า กลุ่มเพื่อนตนประมาณ 15 คน และวันนี้เพื่อนก็มาให้กำลังใจนายกฯและมาให้กำลังใจตน แต่ที่ยังไม่ได้ลาออกจากพรรค พปชร.เพราะสภายังต้องทำงานอยู่ แต่ทั้งหมดก็เป็นเพื่อนตน และมั่นใจเจตนารมณ์ของเพื่อน

‘สุชาติ’ เสียใจ เหตุเครื่องย่อยยางบดร่างแรงงานดับ สั่ง ‘กสร.-สปส.’ ตรวจสอบเหตุ-ช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต

รมว.แรงงาน ห่วงเหตุลูกจ้างถูกเครื่องบดย่อยยางดึงร่างเข้าไปทำให้เสียชีวิต จังหวัดบุรีรัมย์ สั่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ร่วมกับสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุ และเร่งช่วยเหลือให้ญาติได้รับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามกฎหมาย โดยเชิญนายจ้างสอบ 12 มกราคมนี้

(11 ม.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงอุบัติเหตุลูกจ้างถูกเครื่องจักรซึ่งเป็นเครื่องบดย่อยยางดึงร่างเข้าไปทำให้เสียชีวิต ว่า ทันทีที่ทราบข่าว ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวลูกจ้างผู้เสียชีวิต พร้อมได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ส่งพนักงานตรวจความปลอดภัย สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ และศูนย์ความปลอดภัยในการทำงานเขต 3 (นครราชสีมา) ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ ตรวจสอบหาสาเหตุ และเร่งดำเนินการช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายทันที 

เบื้องต้นได้รับรายงานว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 22.30 น. สถานที่เกิดเหตุสถานประกอบกิจการในอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายยางพารา มีลูกจ้างประมาณ 1,092 คน ทำงานประจำแผนกเครื่องจักร จำนวน 47 คน โดยมีนายศุภชัย ศรีผง อายุ 31 ปี ลูกจ้างผู้เสียชีวิต กำลังปฏิบัติงานที่แผนกเครื่องจักรอยู่ ขณะเกิดเหตุได้นำแผ่นยางเพื่อใส่เครื่องบดย่อยยาง ซึ่งแผ่นยางได้ติดค้างที่เครื่องบดย่อยยาง นายศุภชัยฯ จึงได้โน้มตัวเข้าไปดึงแผ่นยางออก โดยไม่ได้ปิดสวิตช์หยุดเครื่องจักร ทำให้ตัวนายศุภชัยฯ ถูกเครื่องบดย่อยยางดึงเข้าไปในเครื่องพร้อมแผ่นยางเป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที ซึ่งพนักงานตรวจความปลอดภัย สสค.บุรีรัมย์ ได้มีหนังสือเชิญนายจ้าง และ ผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในวันที่ 12 มกราคม 2566 และสำนักงานประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ญาติลูกจ้างผู้เสียชีวิตพึงได้รับตามกฎหมายต่อไป

‘รมว.สุชาติ’ สั่งด่วน ‘สปส. บุรีรัมย์’ เยียวยาผู้สูญเสีย จากเหตุลูกจ้างถูกเครื่องย่อยยางบดร่างเสียชีวิต

รมว.สุชาติ มีความห่วงใยเหตุลูกจ้างถูกเครื่องบดย่อยยางดึงร่างเข้าไปทำให้เสียชีวิต จังหวัดบุรีรัมย์ สั่ง สำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือให้ทายาทได้รับสิทธิประโยชน์ในทันที

(13 ม.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงเหตุการณ์ลูกจ้างถูกเครื่องบดย่อยยางดึงร่างเข้าไปทำให้เสียชีวิตว่า ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวลูกจ้างผู้เสียชีวิต พร้อมได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคม จังหวัดบุรีรัมย์ ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเร่งดำเนินการช่วยเหลือให้ทายาทได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายทันที จากการตรวจสอบพบว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 22.30 น. สถานที่เกิดเหตุคือ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายยางพารา โดยมีนายศุภชัย ศรีผง อายุ 31 ปี กำลังปฏิบัติงาน ขณะเกิดเหตุแผ่นยางได้ติดค้างที่เครื่องบดย่อยยาง จึงได้โน้มตัวเข้าไปดึงแผ่นยางออก โดยไม่ได้ปิดสวิตช์หยุดเครื่องจักร ทำให้ถูกเครื่องบดย่อยยางดึงเข้าไปในเครื่องพร้อมแผ่นยางเป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที

‘สุชาติ’ โต้ดราม่า ปมตำรวจเข้ามอบพวงมาลัย ซัด เพจไร้ตัวตน ด้อยค่านักการเมือง - ขรก. น้ำดี

‘สุชาติ’ จวก เพจไร้ตัวตน ด้อยค่านักการเมือง-ข้าราชการน้ำดี ซัด อย่าหาเสียงแบบนี้ ปลุก นักการเมืองป้องศักดิ์ศรี ลั่น ไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวแต่งตั้งตำรวจ 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีเพจเฟสบุ๊กนำเสนอภาพข้าราชการ ตำรวจพื้นที่ภูธรภาค 2 นำพวงมาลัยใส่พานมาขอบคุณนักการเมืองจะกระทบภาพลักษณ์ข้าราชการตำรวจหรือไม่ ว่า หลังจากตนเปิดงานวันเด็กที่ศาลากลางจังหวัดชลบุรี และกลับมาที่สำนักงาน มีผู้นำท้องถิ่นมาอวยพรปีใหม่ ซึ่งในวันนั้นเป็นวันหยุดราชการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ก็ทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีคนไทย ที่ต้องมาอวยพรและขอพรกัน ความจริงภาพที่เห็นมีข้าราชการจากหลายหน่วยงาน แต่มาประจบเหมาะกับการมีคำสั่งแต่งตั้งออกมาพอดี 

ทั้งนี้ ตนอยากให้สื่อมวลชนอย่านำภาพ ภาพหนึ่ง มาวิสามัญข้าราชการดี ๆ หรือมาตำหนินักการเมือง เมื่อมีรูปตนอยู่ในนั้นก็ต้องมาถามตน แต่ไม่ใช่เอามาคิดเองเออเอง สุดท้ายข้าราชการที่ดี ที่ไปลามาไหว้ หรือทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ที่มาอวยพรและขอพร กลับมีปัญหา โดยภาพที่เห็นก็มาจากหลายที่ แต่อย่าเอาภาพ ๆ เดียว มาวิสามัญข้าราชการดี ๆ หรือมาตำหนินักการเมือง แต่ควรจะมาถามจากตน เพื่อให้ได้ความจริง ไม่ใช่ไปออกสื่อ โดยคิดเอง เออเอง จนทำให้ข้าราชการที่ดีไปลามาไหว้ เขามีปัญหา 

"ผมถามสื่อกลับว่าในช่วงปีใหม่ ข้าราชการต่างๆก็มาอวยพรสื่อใช่หรือไม่ ซึ่งผมเชื่อว่าสื่อมวลชนทุกช่องก็มีข้าราชการ มาอวยพรปีใหม่ มันก็เหมือนกัน หรืออีกหน่อยในอนาคตถ้ามีการเสียชีวิต ก็คงไม่ต้องไปงานกันแล้วใช่หรือไม่ เยาวชนรุ่นใหม่ที่อยากจะมาเป็นนักการเมืองน้ำดี ก็คงไม่อยากเข้ามาในวงการการเมือง เพราะจะถูกวิสามัญทางการเมือง โดยไม่รู้เลยว่านักการเมืองแต่ละคนเป็นอย่างไร ผมบอกส.ส.และนักการเมืองหลายคนว่า เราเป็นสถาบันการเมืองที่ทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ถ้ามีสิ่งหนึ่งที่กระทบสถาบันการเมือง เราก็ต้องปกป้องตัวเรา อย่าให้เพจ เพจหนึ่งที่ไม่รู้จักตัวตน ไม่เปิดหน้า มาพูดด้อยค่าข้าราชการแบบนี้ ผมเป็นลูกผู้ชาย พูดคำไหนคำนั้น ถ้าคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการออกแล้ว ก็รู้ว่าคนไหนจะขึ้น ซึ่งเป็นอำนาจของผบ.ตร. และเกี่ยวข้องกับกฎหมายของตำรวจ เราไปเกี่ยวข้องไม่ได้ ทุกคนที่มาหาผมในวันนั้น รวมผู้นำท้องถิ่นเป็นพันคน ผมจึงให้เกียรติเข้ามาที่สำนักงาน เพื่อไม่ให้สื่อมวลชนที่อยู่หน้าสำนักงานถ่ายภาพ ผมจึงไม่เข้าใจว่าภาพที่หลุดไป ในรูปนั้นไม่ได้มีข้าราชการตำรวจอย่างเดียวแต่มีผู้ใหญ่ฝ่ายตุลาการ ซึ่งเป็นคนรู้จักผม เราเป็นนักการเมือง เราเป็นรัฐมนตรีทำเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่ใช่เป็นพ่อค้า หรือเป็นคนที่อยู่ในข่าวประเภททำผิดกฎหมาย อาจจะเป็นภาพที่ถ่ายกันเองซึ่งไม่ควรนำมาด้อยค่าข้าราชการที่ดี แล้วต่อไปข้าราชการดี ๆ จะกล้าเข้ามาอวยพรสื่อมวลชนหรือไม่ ตกลงแล้วรัฐมนตรีไม่มีสิทธิ์รับแขกใช่หรือไม่ และรับคนที่จะมาอวยพรปีใหม่ใช่หรือไม่ เราต้องมองเป็นกลาง" นายสุชาติ กล่าว

'เสี่ยเฮ้ง' เร่ง 'ผลิต-บรรจุ' แรงงานป้อน 'ท่องเที่ยว-บริการ' หลัง 'นายกฯ' ห่วงภาคธุรกิจขาดแรงงานช่วง ศก.ฟื้น

(21 ม.ค.66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวขณะเปิดงานเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนที่จังหวัดราชบุรีเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมาถึงกรณีที่ผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวและบริการประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากธุรกิจมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วทำให้ผู้ประกอบการมีความต้องการแรงงานสูงขึ้นนั้น และท่านนายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงแรงงานเร่งขับเคลื่อนแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคท่องเที่ยวและบริการโดยเร่งฝึกอาชีพเพื่อผลิตแรงงานในสาขาที่ขาดแคลนรวมทั้งบรรจุตำแหน่งงานว่างในภาคท่องเที่ยวและบริการอย่างเร่งด่วน ซึ่งในเรื่องนี้กระทรวงแรงงานไม่ได้นิ่งนอนใจ ผมได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการมาโดยตลอด 

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินงานของกระทรวงแรงงาน ได้ให้สำนักงานแรงงานจังหวัดลงพื้นที่สอบถามความต้องการแรงงานจากผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งจากรายงานของสำนักงานแรงงานจังหวัด 60 จังหวัด พบว่า มีสถานประกอบกิจการประเภทโรงแรม ที่พัก ภัตตาคาร ร้านค้า จำนวน 32,359 แห่ง ลูกจ้าง 297,824 คน สถานประกอบกิจการที่มีความต้องการแรงงาน จำนวน 1,817 แห่ง ลูกจ้าง 9,763 คน ในส่วนของกรมการจัดหางาน ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นมีสถานประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและบริการแจ้งความต้องจ้างงานในแพลตฟอร์มไทยมีงานทำ จำนวน 4,881 อัตรา มีผู้สมัครงาน จำนวน 4,019 คน ได้รับการบรรจุงานแล้ว จำนวน 3,491 คน และที่จังหวัดภูเก็ตได้มีการจัดงานนัดพบแรงงาน มีนายจ้าง/สถานประกอบการแจ้งความประสงค์ต้องการแรงงานกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต จำนวน 178 แห่ง ตำแหน่งงานว่าง 1,313 ตำแหน่ง 3,698 อัตรา บรรจุงานในสถานประกอบการแล้วจำนวน 50 แห่ง ลูกจ้างจำนวน 550 อัตรา มีนักศึกษาฝึกงานในสถานประกอบการ จำนวน 3,749 คน และนักเรียน นักศึกษาทำงานพาร์ทไทม์ช่วงว่างจากการเรียน จำนวน 345 คน

ขณะที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานกำลังเร่งดำเนินการฝึกอบรมทักษะฝีมือแรงงานให้แก่แรงงานภาคท่องเที่ยวและบริการ อาทิ พนักงานต้อนรับ พนักงานผสมเครื่องดื่ม นวดแผนไทย เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ได้ฝึกไปแล้ว จำนวน 1,649 คน จากเป้าหมาย 4,900 คน และปรับแผนการฝึกเพิ่มเป็น 9,000 คน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการมากขึ้น 

ด้าน คุณรังสิมันต์ กิ่งแก้ว อุปนายกฝ่ายยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ขาดแคลนแรงงานในธุรกิจท่องเที่ยวและบริการจังหวัดภูเก็ตได้เริ่มคลี่คลายลงแล้ว หลังจากที่รัฐบาล กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดนัดพบแรงงาน การฝึกอบรมทักษะระยะสั้น การให้นักเรียน นักศึกษาได้ทำงานพาร์ทไทม์ช่วงว่างจากการเรียน ทำให้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานลดน้อยลง และคาดการณ์ว่าไตรมาส 2 สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ เนื่องจากในช่วงเดือนมีนาคม 2566 จะมีนักศึกษาที่จบการศึกษาเข้าสู่ตลาดแรงงานเพิ่มมากขึ้น 

‘รมว.เฮ้ง’ เปิดอาคารสำนักงานจัดหางาน จ.นครปฐม แห่งใหม่ หนุนแรงงานทุกคนในไทยมีอาชีพ ‘มั่นคง-ยั่งยืน’

(23 ม.ค.66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครปฐม (แห่งใหม่) โดยมี นางสาวบุณยวีร์ ไขว้พันธุ์ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครปฐม ร่วมต้อนรับ พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เจ้าคณะภาค 14 เป็นประธานสงฆ์ ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครปฐม ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 39 หมู่ 6 ตำบลดอนยายหอม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม

นายสุชาติ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานตระหนักดีว่าภารกิจในการให้บริการประชาชนของสำนักงานจัดหางานจังหวัด เป็นภารกิจที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องให้บริการแก่ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษา ผู้พ้นโทษ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ขาดโอกาสทางสังคม ผู้ประกอบการที่ต้องการหาคนทำงาน แรงงานไทยที่ต้องการหางานทั้งในประทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงแรงงานต่างด้าว ล้วนเป็นหน้าที่ที่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ต้องให้บริการอย่างเอาใจใส่ ซึ่งบุคคลเหล่านี้คาดหวังมาแล้วว่าต้องได้งาน ได้อาชีพ มีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ‘เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง’ ซึ่งผมจะได้ผลักดันให้ประสบความสำเร็จในทุกกลุ่มเป้าหมาย

‘สุชาติ’ เตือน นายจ้าง มีโทษหนัก ใช้แรงงานต่างด้าวลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย

กระทรวงแรงงานเตือนนายจ้างฝ่าฝืนกฎหมายจ้างคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ต่อคนต่างด้าวหนึ่งคน หากทำผิดซ้ำมีโทษถึงจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000 – 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คนต่างด้าวที่ลักลอบทำงานมีโทษปรับสูงสุด 50,000 บาท ถูกส่งตัวกลับประเทศต้นทาง

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้กระทรวงแรงงานบริหารจัดการการทำงานของแรงงานข้ามชาติ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19 คลี่คลาย โดยคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจ และความสำคัญของกำลังแรงงานอันเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ในการฟื้นฟูประเทศ ซึ่งกระทรวงแรงงานมีการปรับกฎ ระเบียบ ข้อบังคับให้ยืดหยุ่นสอดคล้องตามสถานการณ์จริง โดยมุ่งหวังให้นายจ้าง สถานประกอบการ และแรงงานข้ามชาติ ปฏิบัติตามมติครม.ในคราวต่าง ๆ ที่อนุญาตให้แรงงานข้ามชาติอยู่และทำงานได้เป็นการชั่วคราว แต่ในปัจจุบันยังพบเห็นการลักลอบเข้ามาทำงานของคนต่างด้าวอยู่เนือง ๆ กระทรวงแรงงานจึงดำเนินการบูรณาการร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง จัดชุดเฉพาะกิจตรวจสอบ ปราบปราม จับกุม และดำเนินคดี คนต่างด้าว นายจ้าง/สถานประกอบการ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบทำงานของคนต่างด้าวผิดกฎหมาย เพื่อป้องปรามมิให้กระทำความผิดและลงโทษผู้กระทำความผิดให้เกิดความหลาบจำไม่กระทำผิดซ้ำอีก

‘สุชาติ’ ขึ้นเชียงรายติดตามสถานการณ์แรงงาน เร่งพัฒนากำลังคนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ - ท่องเที่ยว

รมว.สุชาติ ขึ้นเชียงรายติดตามสถานการณ์แรงงาน พัฒนากำลังคน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ - ท่องเที่ยวภาคเหนือตอนบน 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุม หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย แพร่ น่าน พะเยา เพื่อติดตามผลการดำเนินการตามนโยบายกระทรวงแรงงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ไตรมาสที่ 1 ผลการเร่งรัดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว และส่งเสริมการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นระบบ และการดำเนินการส่งเสริมการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานในเศรษฐกิจระดับชุมชน สินค้าอุตสาหกรรมในชุมชน วิสาหกิจชุมชน โดยมี นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวต้อนรับ ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 เข้าร่วมประชุมด้วย ณ ห้องประชุมจอมกิตติ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย

'รมว.สุชาติ' เยี่ยมการฝึกบุคลากรดูแลผู้สูงอายุ ป้อนสถานประกอบการ รองรับสังคมผู้สูงอายุ

(26 ม.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเยี่ยมชมการฝึกเตรียมเข้าทำงาน หลักสูตร การดูแลผู้สูงอายุ 420 ชั่วโมง โดยมี ดร.อุดม สุวรรณพิมพ์ ผู้ช่วยคณบดี คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์, นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดเชียงราย และผู้เข้ารับการฝึกอบรม ร่วมต้อนรับ ณ ศูนย์ฝึกอบรมวิสาหกิจชุมชนอำเภอแม่จัน (ป่าตึง) เชียงราย หลั่นล้าอีโคโนมี ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย

นายสุชาติ กล่าวว่า ในวันนี้ผมและคณะได้ลงพื้นที่มายังจังหวัดเชียงราย เพื่อเยี่ยมชมการฝึกเตรียมเข้าทำงาน หลักสูตร การดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลภายใต้การนำของท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานส่งเสริมคนไทยมีงานทำ เพื่อพัฒนาศักยภาพกำลังแรงงานให้สามารถนำทักษะไปประกอบอาชีพทั้งในและต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน จึงได้ให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 20 เชียงราย เป็นผู้ดำเนินการฝึกตามโครงการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อสนับสนุนส่งเสริมการสร้างทักษะฝีมือแรงงานให้ได้มาตรฐาน รวมทั้งพัฒนาบุคลากรหรือแรงงานที่ให้บริการด้านการดูแลผู้สูงอายุให้มีทักษะเพิ่มขึ้นเตรียมพร้อมก่อนเข้าทำงาน ตลอดจนการเตรียมความพร้อมให้กับประเทศไทยที่จะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ และหลายประเทศที่มีลักษณะของโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกัน ส่งผลให้ตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศมีความต้องการผู้มีความรู้ด้านการดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น 

ด้าน นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า โครงการดังกล่าว สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 20 เชียงราย ได้บูรณาการกับโรงเรียนนวัตกรรมบริหารจัดการสถานพยาบาล คณะเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งได้รับการรับรองให้ดำเนินการฝึกอบรมนอกสถานที่จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) มีผู้รับการฝึกซึ่งเป็นสมาชิกของวิสาหกิจชุมชนอำเภอแม่จัน (ป่าตึง) เชียงราย หลั่นล้าอีโคโนมี จำนวน 26 คน ฝึกระหว่างวันที่ 16 ม.ค.65 - 8 พ.ค. 66


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top