‘เพื่อไทย’ ยก 5 ปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทย เตือนรัฐบาลหาทางรับมือก่อนเศรษฐกิจย่ำแย่

(3 ม.ค. 66) จุฑาพร เกตุราทร โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และ ผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ว่าพรรคเพื่อไทยได้เตือนไว้ก่อนแล้วว่าเป็นสัญญาณเศรษฐกิจที่ไม่ดี และแนวโน้มจะทำให้การส่งออกของไทยในปีนี้น่าจะไม่สดใส ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ทีมเศรษฐกิจจึงขอเตือน 5 ปัจจัยเสี่ยงดังนี้ 

1. ปัญหาหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งหนี้สาธารณะ หนี้ครัวเรือน หนี้จากธุรกิจหลังสถานการณ์โควิด ส่งผลกระทบให้มีหนี้เสียในระบบธนาคาร และหนี้นอกระบบมากขึ้น ซึ่งจะเป็นเหมือนระเบิดเวลาทางเศรษฐกิจ หากรัฐบาลไม่สามารถจัดการกับเรื่องหนี้เหล่านี้ได้ 

2. ปัญหาเศรษฐกิจโลกที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย จากการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ เพื่อหยุดเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลกระทบไปทั้งโลก ทั้งเศรษฐกิจของ สหรัฐ ยุโรป จีน และ ญี่ปุ่น ก็จะไม่ดี ซึ่งจะทำให้การส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุนของไทยลดลงได้ 

3. ปัญหาอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และยังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ไทยอาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยตาม และจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชน

4. ปัญหาเงินเฟ้อ ราคาสินค้าแพง ยังเป็นปัจจัยที่น่ากังวล และต้องจับตาให้ดี เพราะจะมีผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และค่าครองชีพของประชาชน 

5. ปัญหาราคาพลังงาน ทั้งราคาน้ำมัน ไฟฟ้า และก๊าซ ที่ยังผันผวนสูง โดยคาดกันว่าราคาน้ำมันอาจจะกลับมาขึ้นสูงอีกครั้งได้ รวมถึงการตั้งข้อสังเกตกรณีการผลิตไฟฟ้าที่รัฐบาลให้ใบอนุญาตกับเอกชนจนล้นเกิน จนการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. ต่ำกว่า 51% จะผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

นี่เป็น 5 ปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ซึ่งหากรัฐบาลไม่เตรียมรับมือหรือยังไม่ทราบ ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ได้ ดังนั้นในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ อยากขอให้พี่น้องประชาชนได้พิจารณาเลือกทางออกที่ดีที่สุดของประเทศ เลือกพรรคการเมืองที่บริหารเศรษฐกิจได้จริงและเคยทำจนประสบความสำเร็จมาแล้ว ให้มาบริหารประเทศโดยเร็ว ประชาชนจะได้หลุดพ้นจากความลำบากได้


ที่มา: https://www.facebook.com/pheuthaiparty/posts/pfbid02hamjjj2GF1bTfyLKtyUbF7atqL3uhqcdwHRSewTZBGT1MSrUoSRKnCg1YmRkny5cl