Thursday, 25 April 2024
ประเทศไทย

Bloomberg เผย 'โซลาร์เซลล์ลอยน้ำ' ที่เขื่อนสิรินธร ขนาดใหญ่เท่าสนามฟุตบอล 70 สนาม

ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า... 

สำนักข่าว Bloomberg ตีข่าว “โซลาร์เซลล์ลอยน้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก" ที่เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี เริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าแล้ว โดยมีขนาดเท่ากับสนามฟุตบอล 70 สนาม มีแผงโซลาร์เซลล์ทั้งสิ้นถึง 145,000 แผง รวมกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ซึ่งความพิเศษอีกอย่างคือเป็นการผลิตไฟฟ้าแบบไฮบริดจ์ ผสมผสานการผลิตไฟฟ้าระหว่างพลังงานแสงอาทิตย์และพลังน้ำ โดยโซลาร์เซลล์จะผลิตไฟฟ้าได้ในช่วงกลางวัน และพลังน้ำจะช่วยผลิตไฟฟ้าเสริมในช่วงกลางคืนหรือช่วงที่มีแสงไม่เพียงพอ ทำให้ผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง

เรื่องไหนควรพอ เรื่องไหนควรไปต่อ! ย้อนมองประเทศไทย ปี 2021 | Click on Clear THE TOPIC EP.115

📌 คุย ‘เรื่องเด่น-เรื่องดับ’ ประเทศไทย!! ไปกับ ‘คุณพงศ์พรหม ยามะรัต’ เจ้าของบริษัทพัฒนาเทคโนโลยี!!

📌ใน Topic : เรื่องไหนควรพอ เรื่องไหนควรไปต่อ! ย้อนมองประเทศไทย ปี 2021

จับประเด็น เน้นความรู้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

ผลักดันจนสำเร็จ!! เปิดเนื้อหา ฟื้นสัมพันธ์ ไทย-ซาอุฯ สู่ผลงานชิ้นโบว์แดง ‘รัฐบาลลุงตู่’ 

หลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เสร็จสิ้นการเดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างกันให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง หลังความสัมพันธ์ตกต่ำมาตลอด 32 ปีที่ผ่านมา 

การเดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศแล้วผ่านพิธีการต้อนรับอย่างสมเกียรติ ในขณะเดียวกันยังมีการเจรจาในแบบทวิภาคีอีกหลายเรื่อง

แน่นอนว่า การเดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียของ พล.อ.ประยุทธ์ ในครั้งนี้ ย่อมถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เป็นการเปิดประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์หน้าใหม่ระหว่างสองประเทศในรอบกว่า 30 ปี ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับกันว่า นี่คือ ผลงานชิ้นโบว์แดงของรัฐบาล ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ อย่างปฏิเสธไม่ได้ 

การไปเยือนซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้ มีรายละเอียดที่กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ สรุปไว้น่าสนใจหลายอย่าง ลองไปดูว่ามีอะไรบ้าง เหตุใดจึงสร้างอิมแพค ทั้งในไทยและทั่วโลก ต่างจับตามอง

1.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทยได้เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 มกราคม 2565 ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด (His Royal Highness Prince Mohammad bin Salman bin Abdulaziz Al Saud) มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

2.) มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียทรงให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย และทั้งสองฝ่ายได้ประชุมหารืออย่างเป็นทางการ โดยทั้งสองฝ่ายได้ยืนยันความตั้งใจร่วมกันในการสะสางประเด็นที่คั่งค้างทั้งหมดระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียและปรับความสัมพันธ์ระหว่างสองราชอาณาจักรให้เป็นปกติ ทั้งสองฝ่ายยังได้ย้ำความสำคัญของการส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรของสองราชอาณาจักรและการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทยย้ำว่า ไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับความสัมพันธ์ฉันมิตรกับซาอุดีอาระเบีย และแสดงความเสียใจยิ่งต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทยระหว่างปี พ.ศ. 2532-2533 (ค.ศ. 1989-1990)

นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทยยืนยันว่า ไทยได้พยายามอย่างที่สุดแล้วในการสะสางกรณีต่างๆ และหากมีหลักฐานใหม่เกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้น ก็พร้อมที่จะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยพิจารณา นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทยยังได้ยืนยันความมุ่งมั่นของไทยในการให้ความคุ้มครองที่เหมาะสมแก่บุคคลในคณะผู้แทนของสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียที่กรุงเทพฯ ตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางทูต ปี ค.ศ. 1961 ทั้งสองฝ่ายยังได้ยืนยันความมุ่งมั่นในการดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อดูแลความปลอดภัยของคนชาติของกันและกันในแต่ละประเทศ

3.) ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นในภูมิภาคและระหว่างประเทศต่างๆ และได้หารือถึงแนวทางในการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกสาขา ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์และการติดต่อประสานงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของแต่ละฝ่ายเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีเพื่อประโยชน์ร่วมกันของราชอาณาจักรทั้งสอง

4.) โดยคำนึงถึงจิตวิญญาณของความร่วมมือและความตั้งใจร่วมกันเพื่อฟื้นฟูมิตรภาพและความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างสองราชอาณาจักรและประชาชน ภายใต้การนำและพระราชวิสัยทัศน์อันเข้มแข็งของผู้พิทักษ์ สองมหามัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์ สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด (His Majesty King Salman bin Abdulaziz Al Saud) และมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกันให้ปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันให้เป็นปกติอย่างสมบูรณ์ ความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์นี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากความพยายามในหลายระดับของทั้งสองฝ่ายที่มีมาอย่างยาวนานเพื่อฟื้นฟูความไว้เนื้อเชื่อใจและความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกัน

5.) ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกับขั้นตอนสำคัญต่างๆ ที่จะดำเนินการเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งรวมถึงการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำเมืองหลวงของทั้งสองประเทศในอนาคตอันใกล้ และการจัดตั้งกลไกการปรึกษาหารือเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี การติดต่อประสานงานอย่างเต็มที่จะเริ่มต้นขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้าเพื่อหารือความร่วมมือทวิภาคีในสาขายุทธศาสตร์ที่สำคัญ

6.) ทั้งสองฝ่ายได้หารือแนวทางในการส่งเสริมและเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองราชอาณาจักรโดยการแสวงหาโอกาสในด้านการลงทุนและอื่นๆ ในบริบทของวิสัยทัศน์ ค.ศ. 2030 ของซาอุดีอาระเบียและวาระการพัฒนาแห่งชาติของไทย กล่าวคือ นโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio - Circular - Green Economy) ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะแสวงหาความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ อาทิ พลังงานทดแทน สิ่งแวดล้อม การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนา และความมั่นคงทางไซเบอร์ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำความสำคัญของการส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับประชาชน ซึ่งจะเป็นรากฐานสำหรับความสัมพันธ์ที่กำลังเติบโตระหว่างทั้งสองราชอาณาจักร รวมทั้งการส่งเสริมการสนทนาแลกเปลี่ยนระหว่างศาสนาและพหุวัฒนธรรม

5 โรงพยาบาล สังกัดสธ. ติดอันดับโลก! สะท้อนคุณภาพสาธารณสุขไทยที่ยอดเยี่ยม

เมื่อวันที่ 12 มี.ค. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ของสหรัฐอเมริกา “Newsweek” ได้จัดอันดับโรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2565 หรือ The World’s Best Hospitals 2022 ใน 27 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส อิตาลี เป็นต้น รวมถึงประเทศไทย การให้คะแนนในแต่ละ รพ. มาจาก 3 แหล่ง คือ 

1.) การแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ เช่น แพทย์ ผู้จัดการ รพ. ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ กว่า 80,000 คนทั่วโลก 
2.) ผลสำรวจประสบการณ์และความพึงพอใจของผู้ป่วยในการรักษา 
และ 3.) ตัวชี้วัดประสิทธิภาพทางการแพทย์ของ รพ. เช่น คุณภาพการดูแลรักษาเฉพาะทาง มาตรการด้านสุขอนามัย ความปลอดภัยของผู้ป่วย และจำนวนผู้ป่วยต่อแพทย์และพยาบาล เป็นต้น

สำหรับประเทศไทย มี รพ. ที่ได้รับการจัดอันดับทั้งสิ้น 30 แห่ง ส่วนใหญ่เป็น รพ. ในภาคเอกชน และมี รพ.ในสังกัด สธ. ติดอันดับ 5 แห่ง ได้แก่ 

- รพ.ราชวิถี อันดับที่ 11 คะแนน 75.04%
- รพ.ขอนแก่น อันดับที่ 24 คะแนน 74.25%
- รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก อันดับที่ 25 คะแนน 74.19%
- รพ.สงขลา อันดับที่ 28 คะแนน 74.09% 
- และ รพ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อันดับที่ 29 คะแนน 74.03%

“การประเมินและจัดให้อยู่ในอันดับ รพ.ที่ดีที่สุดในประเทศไทยดังกล่าว เป็นตัวชี้วัดและสะท้อนว่า รพ.สังกัด สธ. มีศักยภาพในการให้บริการ ทั้งในสายตาของผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และประชาชน ซึ่ง สธ. จะยังเดินหน้าพัฒนาระบบบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพและคุณภาพต่อไป” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

'ดร.สมเกียรติ' เปิด 29 ข้อเท็จจริง 'ไทยในสังคมโลก' พร้อมชวนคนไทย 'ภูมิใจ-กตัญญู' ในชาติให้มากขึ้น

ดร.สมเกียรติ โอสถสภา อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Somkiat Osotsapa ระบุว่า...

ขอกราบไหว้ ประเทศไทย และ คนไทยเราทุกคน ที่ได้ช่วยสร้างชาติ

มาดูว่า 'ประเทศไทย' ในสังคมโลกเป็นอย่างไร

สถานภาพของประเทศไทยที่คนไทยควรรู้...

1. ในบรรดาประเทศ…ที่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ…เกือบ 200 ประเทศ …แต่ มีประเทศ…ที่มีคุณสมบัติเพียงพอ…ที่จะเป็นสมาชิกขององค์การ การค้าโลก จำนวน 156 ประเทศ เท่านั้น…สำหรับประเทศไทย…มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่…เป็นอันดับที่ 31 ของโลก

2. ไทย…เป็นตลาดที่มีกำลังซื้ออันดับที่ 24 ของโลก…ดังนั้น…อียู และ…อเมริกาจืงกระตือรือร้น…ที่จะมาขอทำเขตการค้าเสรี …ที่เรียกว่า Free Trade Area กับไทย

3. ประเทศไทย…เป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับที่ 28 ของโลก…ซื่งแสดงว่า …ถ้าประเทศไทยส่งออกไม่ได้ …หรือ มีปัญหาการส่งออก…ก็ทำให้โลกวุ่นได้เหมือนกัน… เห็นกันมาแล้ว…ในตอนที่รัฐบาลบริหารงานน้ำไม่เป็น …ในปี 2554…ที่เกิดอุทกภัยใหญ่…นิคมอุตสาหกรรม 7 แห่ง…ถูกน้ำท่วม…การผลิตรถยนต์ …การผลิตชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ชะงัก …ทำให้วุ่นวายไปหมดทั้งโลก

~ เมื่อไทยเกิดวิกฤติการเงิน…ก็ส่งผลให้ลามไปทั้งเอเซีย …รัสเซีย …ยุโรปด้วย …ไปจนถืงละตินอเมริกา ……เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว…ในคราววิกฤติต้มยำกุ้ง

4. CIA แอบรวบรวมข้อมูล…เงินต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทย แล้วตะลืงว่า…ไทยมีถืง 200 พันล้านเหรียญ …อันนี้เป็นลงทุนจริงๆ …ไม่ใช่เงินในตลาดหุ้น …เป็นที่อิจฉาของประเทศใกล้เคียงมากพอสมควร

~ เวียดนาม…ได้ทุ่มสุดตัว…สร้างโรงกลั่นน้ำมัน …ปรากฏว่า…กลั่นไม่ได้เรื่อง …น้ำมันที่ได้คุณภาพต่ำ …ต่างจากฝีมือวิศวกรไทย …นักเคมีไทย …ไทยเป็น…ประเทศผู้กลั่นน้ำมันที่สำคัญของเอเชีย

5. เทียบกันทั่วโลกแล้ว …ประเทศไทย…จัดว่า…เป็นประเทศที่การลงทุนทำได้ง่ายเป็นอันดับที่ 17 ของโลก… เท่าๆแคนาดา …และเยอรมัน …เช่น กู้เงินได้เร็ว …ก่อสร้างได้เร็ว …หาคนทำงานได้เร็ว …จดทะเบียนบริษัทได้เร็ว

6. ไทย …เป็นประเทศที่ส่งออกและนำเข้า…อันดับที่ 20 ของโลก……ประเทศไทยทำได้ไม่เลว …

7. ไทย ทำรายได้จากอุตสาหกรรม…ฐานความรู้ ความชำนาญเป็นอันดับที่ 30 ของโลก

8. ไทย เป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมอันดับ 17 ของโลก

9. ประเทศไทย…ผลิตสินค้าเกษตร…เป็นอันดับที่ 11 ของโลก

10. ไทย…เป็นผู้ส่งออกอาหาร…อันดับ 6 ของโลก พอๆกับเดนมาร์ก ออสเตรเลีย

11. ประเทศไทย มีนักท่องเที่ยว…เข้ามาเป็นอันดับที่ 19 ของโลก

12. ไทย ขายบริการสนามบิน…ได้เป็นอันดับที่ 17 ของโลก

13. กรุงเทพและลอนดอน…แย่งกันเป็นเมืองอันดับหนึ่ง…ด้านการท่องเที่ยวของโลก …มาหลายปี …ในที่สุด…กรุงเทพได้คะแนนจากชาวต่างชาติเป็นอันดับ 1 ของโลก

14. ประเทศไทย…มีสำรองเงินตราต่างประเทศ…อันดับ 12 ของโลก สูงกว่าเยอรมัน ค่าเงินเสถียรมาก แข็งเหมือนกับเงินสวิสเซอร์แลนด์ ถือเป็น Safe Haven ของโลกด้านการเงิน… ในขณะนี้…ถือว่า…พวกเราโชคดี…ที่อยู่ในประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ…และ…เราจะเจริญรุ่งเรืองต่อไป

15. เมื่อเดือนกรกฏาคม 2554 ธนาคารโลก…เลื่อนประเทศไทย…ขื้นสู่ประเทศกลุ่มรายได้ปานกลางขั้นสูง …upper middle income country …เพราะเขาบอกว่ารายได้เข้าเกณท์มาตั้งแต่ปี 2551 …

16. ประเทศไทย…มีอัตราคนว่างงานต่ำ…เป็นอันดับ 2 ของโลก แถมยังมีคนต่างชาติมาทำงานอีกประมาณ 3.7 ล้านคน แสดงว่า…ไทยมีงานเกินจำนวนแรงงานคนในชาติ

~ การที่เรามีการทำเขตเศรษฐกิจเสรี…กับออสเตรเลีย …นิวซีแลนด์ …จีน …อินเดีย …อาเซียน …เกาหลี …รวมประชากร…ร่วม 2,000 ล้านคน …90 % ของสินค้าในกลุ่มอาเซียน…ภาษีเท่ากับศูนย์ …เมกา กับยุโรป…จืงต้องการเข้ามาร่วมมาก

17. ค่าครองชีพเมืองไทย…อยู่ที่อันดับ 81 ของโลก…ถูกกว่าพม่า… อินโดเยอะ

18. ไทยถูกจัดเป็นประเทศ…ที่น่าลงทุนอันดับ 8 ของโลก

19. ถ้าคนในโลกจะเกษียนอายุ …ผลการสำรวจบอกว่า…เมืองไทยเหมาะมาก ที่จะมาใช้ชีวิตหลังเกษียณในไทย…ในอันดับ 9 ของโลก

20. ไทยเป็นประเทศผู้ส่งออก…ดิสค์อันดับ 1 ของโลก ส่งออกยาง และ น้ำตาลอันดับ 2 ของโลก…ส่งข้าวออก…เป็นที่ 6 ของโลก ส่งรถยนต์ไปขายอันดับที่ 15 ของโลก … ไทยเป็นผู้ผลิตส่งออก…หมู ไก่ ไข่ เป็ด ชั้นนำ ผัก ผลไม้เพียบ ต่อไปจะส่งดอกไม้…ตีตลาดโลก…แบบโคแวนท์ มาร์เกตของอังกฤษ

21. คนต่างชาติ…ชอบมาอยู่เมืองไทย …มาทำงานเมืองไทย… ที่พักระดับดีถูกสุดในเอเชีย …อาหารดี …โรงพยาบาลดี ทุกสถานทูตในย่านเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทใหญ่ๆ …ในเวียดนาม ลาว กัมพูชา ตะวันออกกลาง…มาใช้บริการทางการแพทย์ของไทย…การแพทย์ไทยดังมาก…อยู่ประเทศอื่น…ต้องมาใช้บริการรักษาพยาบาลในเมืองไทย …มีโรงเรียนอินเตอร์ชั้นนำหลายสิบแห่ง …เที่ยวได้ทั้งคืน …กินเหล้าได้ทั้งคืน …มีทะเลภูเขา …ป่าไม้ …มีอาหารทุกชาติ …ห้างใหญ่สุด…ให้เมียได้เดินช้อปปิ้งเป็นวันๆ… รถไฟฟ้าก็มี …เป็นเมืองของหนุ่มสาว …บรรยากาศทั่วไปปลอดภัยดีกว่าอีกหลายประเทศมาก

22. คนไทย…ต้อนรับคนทุกศาสนา…ทุกคน… มีเสรีภาพในการ…เป็นเกย์ ทอม ดี้ เลสเบี้ยน

23. ไทย มี ระบบคมนาคม…ดีกว่าจาร์กาต้า …ฮานอยเยอะ

24. ในเมืองไทย คุณหาห้องน้ำสะอาดได้ทั่วไป …เรื่องนี้สำคัญสุดๆ…สำหรับผู้หญิงทุกคน

25. สถานทูตอเมริกัน…ขนชาวอเมริกันมารับเอกสิทธิ์ทางการทูต…มาอยู่กันในไทย…มากกว่า 4,000 คน อาจมีจำนวนคนในสถานทูตอเมริกัน มากกว่าคนในสถานทูตอเมริกัน…ที่ไปอยู่ในประเทศอื่นๆก็ได้

26. คนไทยส่วนใหญ่ …มีนิสัยดี …มีกาละเทศะ …ไม่วุ่นวายเหมือนคนชาติอื่น ให้เกียรติคนต่างชาติ

27. ประเทศไทย…อากาศไม่ร้อนจัด …ไม่เย็นจัด…เหมือนประเทศอื่น

28. เมืองไทย…น่าอยู่ …น่าทำงาน …คนแพรคติคอล …ดีกว่าคนในประเทศอื่น

29. ชาวต่างชาติ …ยกย่องวัฒนธรรมไทย…ว่าสูงเด่น …เข้มแข็ง …เป็นอันดับ 8 ของโลก

'อดีตทูตไทยฯ' ย้อนอดีต ประเทศไทยอยู่รอดปลอดภัยมาตลอด ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์

นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า...

หลังจากที่เขียนเล่าประสบการณ์ที่ได้เคยปฏิบัติหน้าที่เป็นล่ามถวายงานในหลวง ร.10 ตอนที่เสด็จฯ เยือนลาตินอเมริกาใต้ ไปแล้ว ปรากฏว่ามีเสียงตอบรับจาก FC จำนวนมาก บอกว่าอยากฟังอีก ผมก็พยายามเรียบเรียงจากความทรงจำเท่าที่พอจะจำได้ ให้เพื่อนๆ ฟังอีกนะครับ

ช่วงที่เสด็จฯ เยือนเปรู มีเหตุการณ์ประทับใจ และเหตุการณ์น่าตื่นเต้น เท่าที่จำได้คือ...

มีหมายกำหนดการนึงพระองค์ต้องเสด็จฯ ไปที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติของเปรู ที่กรุงลิมา ซึ่งตอนนั้นมีจัดนิทรรศการเกี่ยวกับอารยธรรมอินคาอยู่ ซึ่งพระองค์ทรงสนพระทัยในเรื่องประวัติศาสตร์และอารยธรรมอินคามาก 

จนเสด็จฯ มาถึงหน้าบอร์ดนิทรรศการนึงเป็นรูปภาพแกะสลักที่หน้าผาแห่งหนึ่งเป็นรูปเหมือนพระธิเบตนั่งสมาธิมีหมวกทรงสูงครอบศีรษะ เรียงรายไปตามแนวของหน้าผาหลายรูป 

ตอนนี้พระองค์ท่านทรงหันมาทางผมและมีรับสั่งว่า ดูเหมือนพระทางพุทธศาสนากำลังนั่งสมาธิ ผมก็เลยแปลบอกกับ ภัณฑารักษ์ ที่ทำหน้าที่บรรยายตามที่ทรงมีรับสั่ง ปรากฏว่า ภัณฑารักษ์ พยักหน้าทันทีบอกว่า ใช่ เหมือนพระพุทธรูป (ภาษาสเปนเรียก El Buda) และชมว่าพระองค์ทรงช่างสังเกตมาก นักโบราณคดีก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมรูปแกะสลักเหล่านี้ถึงเหมือนพระพุทธรูป ที่มาปรากฏถึงลาตินอเมริกาใต้ได้ 

กำหนดการต่อมาก็เสด็จฯ ไปเยือน รร.นายร้อยของเปรู พระองค์ทรงฉลองพระองค์ในเครื่องแบบพลเอกทหารบก ตอนนั้นผมได้ยิน จนท.ทหารหญิงที่เฝ้ารอรับเสด็จฯ แอบชมพระองค์ท่านกับผมว่าทรง muy guapo ซึ่งภาษาสเปนแปลว่า ทรงหล่อมากนั่นเอง 

จากนั้นทางรัฐบาลเปรู ก็ได้จัดเครื่องบินพระที่นั่งแบบ Fokker F27 ซึ่งเป็นไอพ่น 2 เครื่องยนตร์ เพื่อให้พระองค์ได้บินขึ้นไปชมความมหัศจรรย์ของ Nazcar Line ซึ่งเป็นลวดลายต่างๆ บนพื้นดินเช่น ลิงม้วนหาง นกอินทรี แมงมุม เป็นต้น แต่ละลวดลายนั้นมันกว้างใหญ่มาก ซึ่งหากยืนบนพื้นดินก็จะมองไม่ออก จะต้องมองมาจากที่สูงเท่านั้น ถึงจะเห็นลวดลายทั้งหมด ซึ่ง Nazcar Line นั้นก็ยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ว่าใครเป็นคนสร้าง จนเกิดเป็นทฤษฎี UFO นั่นเอง

ต่อมาพระองค์ท่านก็ได้เสด็จฯไปเยือนอาณาจักรอินคาที่เมือง Cuzco และ Machu Pichu ซึ่งก็มีเหตุการณ์ประทับใจที่ผมยังจำภาพได้ถึงทุกวันนี้คือ ตอนที่เสด็จฯ ไปยืนที่หน้าป้อมโบราณของอินคา ตรงนั้นเป็นลานสนามหญ้ากว้าง ทางฝ่ายเปรูก็ได้นำนักเรียนอนุบาลตัวเล็กๆ มารอรับเสด็จฯ 

พอเสด็จฯ ถึงที่นั้น ทางเปรูก็ปล่อยให้เด็กๆ ชาวเปรู (ลูกหลานอินคา) ทั้งหญิงและชายวิ่งเข้ามาหาพระองค์ท่าน โดยเด็กๆ วิ่งเข้ามาพร้อมร้องว่า El Principe (แปลว่า เจ้าชาย) เข้าไปรายล้อมพระองค์ท่าน พระองค์ท่านก็ทรงเป็นกันเองแย้มพระสรวลลูบศีรษะเด็กๆ เหล่านั้นด้วยพระเมตตายิ่ง เป็นภาพที่ยังติดตาผมจนถึงทุกวันนี้

จากเปรู ก็ต้องเสด็จฯ ต่อไปที่ เอกวาดอร์ เนื่องจากคณะฝ่ายไทยบางส่วนต้องเดินทางล่วงหน้าไปรอรับเสด็จฯ ที่เอกวาดอร์ก่อน ซึ่งทางการเปรูก็ได้จัดเครื่องบิน Fokker F 27 ลำเดิมที่ใช้บินชม Nazcar Line ให้คณะล่วงหน้าไปรอที่เอกวาดอร์

ตอนนี้มีเรื่องตื่นเต้นคือ เครื่อง Fokker F 27 ลำนั้น เกิดเครื่องไอพ่นดับไป 1 เครื่องก่อนที่จะร่อนลงสนามบินกรุง Quito ทำให้นักบินต้องขอเคลียร์รันเวย์ทำ emergency landing เดชะบุญที่เครื่องร่อนลงอย่างปลอดภัย พอตรวจก็พบว่าไอพ่นเครื่องนึงนั้นมีละอองทรายซึ่งสันนิษฐานว่าอาจฟุ้งเข้าเครื่องตอนที่บินเหนือ Nazcar Line นั่นเอง

การเสด็จฯ เยือนเอกวาดอร์ก็เป็นไปโดยราบรื่น เสด็จฯ ไปเยี่ยมชมจุดที่เรียกว่าเป็น “สะดือโลก” ซึ่งเอกวาดอร์เคลมว่าเป็นจุดศูนย์กลางของโลก 

จากเอกวาดอร์ ต้องเสด็จฯ จากกรุง Quito ไปเยือนหมู่เกาะกาลาปาโกส ซึ่งเป็นหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิก มีความน่าสนใจทั้งด้านธรณีวิทยา สัตววิทยา และนิเวศวิทยา มีชื่อภาษาสเปนอย่างเป็นทางการว่า กลุ่มเกาะ Colon (เป็นชื่อของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ในภาษาสเปน) ตั้งอยู่ในแนวเส้นศูนย์สูตร 

'หมอวรงค์' เปิดแผง สาวไส้พวกทำลายชาติ ชี้!! รับเงินต่างชาติ มีวิธีการบ่อนเซาะแยบยล

เมื่อวานนี้ (4 มิ.ย. 65) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้ อุดมการณ์ชาติ ผมเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว ของกลุ่มการเมืองกลุ่มหนึ่ง ที่พยายามปลุกระดมคนไทยด้วยกัน ให้เกลียดชัง ด้อยค่า อุดมการณ์ชาติ ซึ่งเป็นอุดมการณ์ ของความเป็นชาติไทย

คนกลุ่มนี้นับวัน มีการขยายตัว ทั้งจากกลุ่มการเมือง กลุ่มอาจารย์ เยาวชนคนรุ่นใหม่ สื่อมวลชน NGO ศิลปินดารา และ influencer แน่นอนว่า การขับเคลื่อนกิจกรรมทำลายอุดมการณ์ชาติ ย่อมหนีไม่พ้นการสนับสนุนจากต่างชาติ แต่แฝงมาในรูปแบบต่างๆ

เพื่อให้เกิดความเข้าใจ อุดมการณ์ชาติ เป็นเรื่องของความคิด ความเชื่อ ความศรัทธาของคนในชาติที่ยอมรับร่วมกัน ขณะเดียวกันยังสามารถยึดเหนี่ยว สมาชิกของคนในชาติ ไว้ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว และเป็นแบบแผนปฏิบัติ ในทางดำเนินชีวิตที่ดีของคนในชาติ นำมาซึ่งจุดร่วมของความรักและสามัคคีร่วมกัน

อุดมการณ์ชาติ ในแต่ละชาติ จะไม่เหมือนกัน แต่อุดมการณ์ชาติ ของไทยเรา ที่เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวของคนไทยทั้งชาติ และปลูกฝังมาอย่างยาวนาน ก็คือสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ในวันนี้มีความชัดเจนขึ้นมาก ของแผนการจ้องทำลายอุดมการณ์ชาติของคนไทย

เราไม่ต้องพูดถึง สถาบันพระมหากษัตริย์ ที่คนกลุ่มนี้พุ่งเป้าทำลาย ผ่านการกระทำที่หยาบคาย ให้ร้าย ปล่อยเฟกนิวส์ ต้องการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ยกเลิกมาตรา ๑๑๒ รวมทั้งการนำเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์ เพื่อด้อยค่าสถาบัน และทำลายล้างในที่สุด

ในส่วนสถาบันศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องของศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ภารกิจที่เห็นกันชัดเจน ก็คือขบวนการจ้องทำลายสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า ทั้งเรื่องหลวงปู่แสง พระกาโตะ ตามข่าวที่คนไทยรับทราบ เพื่อให้ศาสนาของชาติเสื่อมลง

ที่เลวร้ายที่สุดของขบวนการเหล่านี้ กำลังค่อยๆ บ่อนเซาะทำลายชาติ ซึ่งคำว่าชาติ ไม่เพียงหมายถึงแผ่นดินที่เป็นประเทศ แต่หมายถึงประชาชน รวมถึงรากเหง้า วัฒนธรรม ประเพณี ภาษาไทย อักษรไทย เลขไทย

ขบวนการเหล่านี้มีความแยบยลที่เสนอ เช่นอ้างการกระจายอำนาจ แต่กำลังแบ่งแยกชาติ ให้เลือกผู้ว่าราชการจังหวัด เหมือนเลือกผู้ว่าการรัฐ ซึ่งต้องเข้าใจว่า ผู้ว่ากทม. ไม่ใช่ผู้ว่าราชการจังหวัด เพียงแต่การเรียกชื่อให้คนเข้าใจผิด เพราะตำแหน่งนี้ไม่ต่างจากนายกมหานครกรุงเทพฯ

'งานวิจัย' ชี้!! พื้นที่ต้นกำเนิดการเลี้ยงไก่แห่งแรกของโลก พิกัด 'บ้านโนนวัด' ประเทศไทย ราว 3,500 ปีก่อน

ปัจจุบัน ไก่และผลิตภัณฑ์จากไก่ถือเป็นอาหารที่มีสำคัญต่อประชากรโลก และมีการเลี้ยงไก่กันแพร่หลายทั่วโลก โดยเริ่มต้นจากการนำไก่ป่ามาเลี้ยง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้มีการถกเถียงถึงแหล่งกำเนิดพื้นที่การเลี้ยงไก่มาเป็นเวลานาน ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย และจีนเหนือ ซึ่งได้มีการเสนอว่าเป็นแหล่งกำเนิด โดยเริ่มต้นในช่วงราว 4,000 ปี - 10,500 ปีก่อน 

อย่างไรก็ตาม สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา (PNAS) ได้ตีพิมพ์งานวิจัย 'The biocultural origins and dispersal of domestic chickens' (6 มิถุนายน 2565) โดยเผยข้อมูลว่าพื้นที่ที่เลี้ยง 'ไก่บ้าน' เป็นที่แรกของโลกอยู่ที่บ้านโนนวัด จังหวัดนครราชสีมา (เท่าที่พบหลักฐาน ณ ตอนนี้)

งานวิจัยของ PNAS ได้เผยหลักฐานถึงจุดแหล่งกำเนิดการเลี้ยงไก่บ้าน โดยได้ทำการวิเคราะห์ซากไก่ในพื้นที่โบราณ 600 แห่ง 89 ประเทศ ซึ่งกระดูกไก่ชิ้นแรกที่เป็นไก่บ้านไม่ใช่ไก่ป่า พบที่บ้านโนนวัด จังหวัดนครราชสีมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย โดยมีอายุระหว่าง 1,650-1,250 ปีก่อนคริสต์ศักราช ตรงกับยุคหินใหม่ หรือเมื่อราว 3,500 ปีก่อน ในยุคสัมฤทธิ์ 

ก่อนหน้านี้มีการศึกษาจุดกำเนิดของไก่ในช่วงก่อนหน้า โดยอ้างว่า มีการค้นพบกระดูกสัตว์ปีกคล้ายไก่เก่าแก่ในหลายพื้นที่ อาทิ การค้นพบกระดูกสัตว์ปีกที่คาดว่าอาจเป็นไก่ ในประเทศจีน อายุประมาณ 6,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช แต่ภายหลังก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นไก่ฟ้า (Pheasants) หรือแม้แต่การค้นพบกระดูกสัตว์ปีกที่ฮารัปปาในลุ่มแม่น้ำสินธุ อายุประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช แต่เมื่อนำมาจำแนกทางพันธุกรรมแล้วมีความคล้ายคลึงกับสายพันธุ์ไก่ป่า ตระกูลไก่ป่าแดง (Red forestflow) มากกว่าจะเป็นสายพันธุ์ไก่บ้านแบบในปัจจุบัน

หากแต่ผลการวิจัยชิ้นนี้ของ PNAS ที่บ้านโนนวัด ซึ่งระบุว่าเป็นต้นกำเนิดของการเลี้ยงไก่บ้านนั้น พบว่า มนุษย์ในสมัยก่อนได้ฝังกระดูกไก่ ซึ่งอยู่ในวงศ์ Gallus (สายพันธุ์เดียวกับไก่บ้านในปัจจุบัน) จำนวนมาก รวมกับสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เช่น หมู สุนัข และวัว ในฐานะสิ่งของฝังไปพร้อมกับผู้ตายในยุคนั้น ลักษณะดังกล่าวเป็นหลักฐานที่หนักแน่นชี้ว่า สัตว์ปีกเหล่านี้เป็น 'ไก่เลี้ยง' ไม่ใช่ 'ไก่ป่า'

TOPIC18 : อย่ายึดติดแค่เจ้าเดียว!! ส่องทิศทางโซเชียลมีเดียไทย ในวันที่ใครๆ ก็ล้มหายได้ ถ้าไม่ปรับตัว

อย่ายึดติดแค่เจ้าเดียว!!
ส่องทิศทางโซเชียลมีเดียไทย
ในวันที่ใครๆ ก็ล้มหายได้...ถ้าไม่ปรับตัว

Click on Clear Original 
โดย ปริม THE STATES TIMES (กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา) 

ประเทศไทยสุดยอดแค่ไหน!! ตามติดอันดับของไทยด้านการท่องเที่ยว จากผลสำรวจทั่วโลก ปี 2565

- เกาะพะงัน เป็นสถานที่เหมาะสมสำหรับการทำงานที่สุดในโลก ประจำปี 2565 (Workation)

(ที่มา : William Russell.com)

- กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกชื่นชอบมากที่สุด (Best City) ในการท่องเที่ยวเอเชียแปซิฟิก

(ที่มา : นิตยสาร DestinAsian)

- 'เกาะที่ดีที่สุด' ภูเก็ต และเกาะสมุยในภาคการท่องเที่ยว ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

(ที่มา : นิตยสาร DestinAsian)

- จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวน่ามาเยือนมากที่สุดในโลก หลังสถานการณ์โควิด-19

(ที่มา : Visa Global Travel Intentions Study)

- ประเทศที่มีความปลอดภัยในการเดินทางสูงที่สุด

(ที่มา : Berkshire Hathaway Travel Protection)

- ประเทศที่มีผู้เข้าชมใน Street View มากที่สุดจากทั่วโลก

(ที่มา : Google Street View)

- 'ต้มยำกุ้ง' ซุปที่ดีที่สุดในโลกในปี 2022 ของ CNN Travel ในปี 2565

(ที่มา : CNN Travel)


ที่มา : กระทรวงการต่างประเทศ www.mfa.qo.th


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top