‘บิ๊กโจ๊ก’ ชี้!! คดีทุนจีนสีเทา คืบหน้ากว่า 90% ลั่น!! ไม่มีมวยล้ม แม้ต้องสู้กลุ่มอำนาจเงิน

(1 ธ.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการดำเนินคดีกลุ่มทุนจีนผิดกฎหมาย ว่า เรื่องดังกล่าวตนรายงานพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งผบ.ตร. จะเป็นผู้รายงานนายกรัฐมนตรี โดยเรื่องนี้ นายกฯ ได้กำชับครั้งล่าสุดในที่ประชุม ก.ตร. ว่าให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ยืนยันเราทำงานยึดหลักกฎหมายตรงไปตรงมา สาวถึงใครก็ว่าไปตามนั้น ถ้าไม่ถึงก็ต้องให้ความเป็นธรรม 

รองผบ.ตร. กล่าวว่า อย่างไรก็ตามการดำเนินคดีนี้ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่เพราะเราใช้กำลังเยอะมาก ทำให้ต้องใช้เวลาเยอะ เช่น กรณีวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ใช้เวลาทั้งวัน ค้น 3-4 จุด ยึดทรัพย์ 4,000 กว่าล้านบาท ที่เป็นวัตถุทั้งบ้าน รถ เครื่องบิน และต้องนำทรัพย์ที่ยึดมาได้มาโยงเส้นทางการเงิน และยังต้องไล่ต่อว่ายังมีเงินสดอีกหรือไม่แล้วอยู่ที่ไหน

เมื่อถามว่า ปัจจุบันยังมีกลุ่มทุนผิดกฎหมายอยู่ในเมืองไทยอีกหรือไม่ รองผบ.ตร. กล่าวว่า คิดว่าวันนี้หนีออกไปเยอะแล้ว กลุ่มเหล่านี้หลบหนีจากจีนมาอยู่กัมพูชา เมื่อถูกกวาดล้างหนักก็หนีมาอยู่ไทยและสปป.ลาว เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนได้คุยกับ ผบ.ตร.สปป.ลาว เมื่อเราจับมือกันแบบนี้ คนสองสัญชาติ ก็ต้องไม่มีแผ่นดินอยู่ ไปอยู่ที่อื่น

วันนี้กลุ่มคนที่อยู่แบบผิดกฎหมายที่ไม่ใช่กลุ่มทุนจีนที่มีปัญหา เขาก็หนีไปเป็นร้อยคนแล้ว เพราะเขาก็กลัวจึงออกไปก่อนดีกว่า แต่หลังจากนี้เราต้องเข้มงวดตั้งแต่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และการให้วีซ่า อย่างกรณีการจับกุม นายโทนี่ หรือนายเฉิน จ้าวฮุ้ย ที่ถือวีซ่าธุรกิจ ก็ต้องตรวจสอบว่าออกได้อย่างไร ถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกก็ต้องเพิกถอน หากใครเกี่ยวข้องกับการให้วีซ่าที่ไม่ถูกกฎหมายต้องถูกดำเนินคดีหมด เช่นวีซ่านักเรียนที่ให้กับคนอายุ 57 ปี แบบนี้ออกมาได้อย่างไร ต้องถูกดำเนินคดีแน่ไม่ปล่อยไว้ เพราะบุคคลเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาเพื่อลงทุน แต่มาก่ออาชญากรรม

เมื่อถามว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น มีการเชื่อมโยงนักการเมืองหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่พบการเชื่อมโยง ตอนนี้เรารวบรวมพยานหลักฐานและมาวิเคราะห์ ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) หากถึงใครก็ว่าไปตามนั้น ซึ่งปัจจุบันการสืบสวนถือว่าไปได้ประมาณ 90% แล้ว แต่ต้องทำอย่างรอบคอบเพราะบุคคลนี้มีทนายความ มีนักกฎหมายที่เก่ง มีเงินเยอะ เรากำลังสู้กับคนมีฐานะการเงินที่สูง จึงต้องทำอย่างรอบคอบ แต่ไม่ได้หมายความเราจะกลัว วันนี้เราต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างรวดเร็วและและเป็นธรรม

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่ากลุ่มทุนจีนมีทั้งอำนาจและเงิน จะไม่เกิดมวยล้มใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า "ไม่มีๆ ถ้าผมทำ ไม่มีมวยล้มแน่ ถ้าเราไม่มีผลประโยชน์เราตัดสินใจง่าย เรื่องนี้ผมทำสบายใจมาก เพราะทำอย่างตรงไปตรงมา แต่อาจจะเหนื่อย เพราะเอกสารเยอะ เนื้อหาเยอะเราก็ต้องกรองให้ดีจะออกหมายจับหมายค้นก็ต้องอธิบายศาล แม้เป็นคดีที่ต้องใช้คนเยอะ แต่เราเป็นตำรวจก็ต้องทำ เมื่อไม่มีผลประโยชน์มันตัดใจง่าย รับเรื่องนี้ไม่มีมวยล้ม"