เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม2564 นายปิติพัฒน์ สุธีรัตน์วัฒนา เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดมุกดาหาร ดาบตำรวจพร้อมพงษ์ มาพงษ์ รองหัวหน้ากลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. จังหวัดมุกดาหาร และองค์การบริหารส่วนตำบลบางทรายน้อย ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบการดูดทรายของผู้ประกอบการท่าทรายที่ได้รับอนุญาตให้ดูดทรายในพื้นที่ตำบลบางทรายน้อย อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่าผู้ประกอบการท่าทรายได้ทำการดูดทรายนอกพื้นที่ได้รับอนุญาต จนทำให้ระบบนิเวศน์เสียหาย ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงเดือดร้อน และก่อให้เกิดการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติอย่างมากมายมหาศาล
โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดมุกดาหาร ได้ทำการนำเครื่องมือรับสัญญาณดาวเทียมแบบจลน์โดยโครงข่ายดาวเทียม RTK GNSS Network ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยมีค่าความผิดเพี้ยนน้อยมาก มาใช้หาค่าพิกัดพื้นที่ได้อนุญาตให้ดูดทรายของผู้ประกอบการรวม 4 ราย ประกอบด้วย หจก.เอ พี แมชชีนเนอรี่ คอนสตั้คชั่น หจก.ท่าทรายโชคบริบูรณ์ หจก.ป.มุกดาหาร และ น.ส.วาสนา กำยาน
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้นพบว่าผู้ประกอบการบางรายไม่ได้จัดทำหมุดหลักฐานแผนที่ด้วยการปักหลักคอนกรีตบนฝั่งพื้นดินด้านซ้ายและขวาให้มีความคงทนถาวรโดยใช้เพียงลำไม้ไผ่มาปัก และมีการเคลื่อนย้ายจากตำแหน่งเดิมไปปักที่ใหม่ เมื่อเจ้าหน้าที่นำเครื่องมือรับสัญญาณดาวเทียมตรวจสอบค่าพิกัดปรากฏว่าไม่ตรงกับค่าพิกัดตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาตให้ดูดทรายของผู้ประกอบการทั้ง 4 ราย โดยมีค่าพิกัดที่ทำการตรวจสอบกับหลักหมุดในเบื้องต้นผิดเพี้ยนไปจากตำแหน่งที่ได้รับอนุญาตประมาณ 20 ถึง 600 เมตร ซึ่งอาจส่งผลทำให้มีผู้ประกอบการดูดทรายนอกพื้นที่ได้รับอนุญาต อันเป็นการผิดเงื่อนไขการอนุญาตให้ดูดทรายเนื่องจากไม่ได้ดูดทรายแต่เฉพาะในบริเวณพื้นที่ได้รับอนุญาต อันอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตได้ทันที
นายปิติพัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบตำแหน่งหลักเล็งพื้นที่ได้รับอนุญาตให้ดูดทรายของผู้ประกอบการทั้ง 4 ราย พบว่ามีความคลาดเคลื่อนลงมาทางทิศใต้ในแนวทางเดียวกันทุกแปลง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะนำค่าพิกัดที่วัดได้ในวันนี้ไปดำเนินการหาค่าความคลาดเคลื่อนโดยละเอียดบนแผนที่อีกครั้ง โดยหากพบว่ามีการคลาดเคลื่อนหรือหลุดไปจากพื้นที่ได้รับอนุญาตมาก ก็จะต้องสั่งให้ผู้ประกอบการหยุดดูดทรายเป็นเวลา 3 วัน โดยจะเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการจัดทำหลักเล็งใหม่ให้ถูกต้องตรงกับพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ดูดทรายทุกหลักต่อไป
ดาบตำรวจพร้อมพงษ์ กล่าวว่า ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมุกดาหารได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบว่าผู้ประกอบการได้ทำการดูดทรายนอกพื้นที่ได้รับอนุญาตตามที่ถูกร้องเรียนจริงหรือไม่ ในเบื้องต้นเมื่อผู้ประกอบการทราบว่าหลักเล็งพื้นที่ดูดทรายมีความคลาดไปจากพื้นที่ได้รับอนุญาตก็ได้รับปากที่จะไปดำเนินการของรังวัดสอบเขตเพื่อปักหลักเล็งใหม่ให้มีความถูกต้องตรงตามพิกัด ขณะที่ผู้นำหมู่บ้านก็จะช่วยทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งหากมีการจัดทำหลักเล็งพื้นที่อนุญาตดูดทรายใหม่ถูกต้องก็จะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย ทั้งยังสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้โดยง่ายอีกด้วย ทั้งนี้ ความคลาดเคลื่อนของหลักเล็งอาจเกิดจากความผิดพลาดทางด้านเทคนิคหรือการรางวัดในขณะที่ดำเนินการปักหลักโดยอาจเป็นการทำโดยไม่มีเจตนาที่จะกระทำผิด ซึ่งเมื่อตรวจพบว่ามีความบกพร่องก็ต้องดำเนินการแก้ไขให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป
อนึ่ง ที่ผ่านมามีชาวบ้านออกมาร้องเรียนทั้งเป็นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร หน่วยงานราชการและผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่ามีการลักลอบดูดทรายในแม่น้ำโขงและดูดทรายนอกพื้นที่ได้รับอนุญาตเป็นจำนวนมากแต่แทบจะไม่มีเจ้าหน้าที่ออกมาตรวจสอบหรือจับกุมดำเนินคดี โดยมักจะอ้างว่าอาจเป็นการดูดในเขตประเทศลาวทั้งที่ยังไม่ได้ออกมาตรวจสอบ จนทำให้มีนายทุนนำเรือมาดูดทรายในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารเพิ่มมากยิ่งขึ้น เนื่องจากในจังหวัดอื่นที่มีพื้นติดแม่น้ำโขงมีการตรวจสอบจับกุมดำเนินคดีอย่างเข้มงวด
ภาพ/ข่าว ชุดฉก.พญาอินทรีย์ / เดวิท โชคชัย