Friday, 17 May 2024
สุรเชษฐ์หักพาล

คณบดี Sam Houston State เดินทางดูงาน ศูนย์ ศพดส.ตร.

วันนี้ (8 พ.ย. 65) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. ได้ต้อนรับผู้แทนจากมหาวิทยาลัยแซมฮูสตัน สเตท นำโดย ดร.ฟิลลิป ลียง คณบดีคณะบริหารงานยุติธรรม และ นายเจิร์ก เกอร์เบอร์ อาจารย์คณะบริหารงานยุติธรรม ซึ่งได้เดินทางมาดูงานที่ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกับปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง (ศพดส.ตร.) โดยคณะผู้แทนมีความสนใจเกี่ยวกับกระบวนการในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ศพดส.ตร. และผู้แทนจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้มีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับที่มาและจุดเริ่มต้นในการก่อตั้ง ศพดส.ตร. ซึ่งได้จัดตั้งขึ้นเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2559 โดยแนวคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกอบกับความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดตั้งชุดปฏิบัติการเพื่อทำหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามปัญหาการค้ามนุษย์ จึงได้จัดตั้ง ศพดส.ตร. ขึ้น โดยมีชุดปฏิบัติการที่อยู่ภายใต้ศูนย์ดังกล่าวอีก 2 หน่วย คือ TICAC และ TATIP ซึ่งในส่วนของ TICAC เป็นชุดปฏิบัติการที่จะทำหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กและเยาวชนทางอินเตอร์เน็ต และ TATIP จะเป็นชุดปฏิบัติการที่ช่วยสนับสนุนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

‘บิ๊กโจ๊ก’ ชี้!! คดีทุนจีนสีเทา คืบหน้ากว่า 90% ลั่น!! ไม่มีมวยล้ม แม้ต้องสู้กลุ่มอำนาจเงิน

(1 ธ.ค. 65) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการดำเนินคดีกลุ่มทุนจีนผิดกฎหมาย ว่า เรื่องดังกล่าวตนรายงานพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งผบ.ตร. จะเป็นผู้รายงานนายกรัฐมนตรี โดยเรื่องนี้ นายกฯ ได้กำชับครั้งล่าสุดในที่ประชุม ก.ตร. ว่าให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ยืนยันเราทำงานยึดหลักกฎหมายตรงไปตรงมา สาวถึงใครก็ว่าไปตามนั้น ถ้าไม่ถึงก็ต้องให้ความเป็นธรรม 

รองผบ.ตร. กล่าวว่า อย่างไรก็ตามการดำเนินคดีนี้ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่เพราะเราใช้กำลังเยอะมาก ทำให้ต้องใช้เวลาเยอะ เช่น กรณีวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ใช้เวลาทั้งวัน ค้น 3-4 จุด ยึดทรัพย์ 4,000 กว่าล้านบาท ที่เป็นวัตถุทั้งบ้าน รถ เครื่องบิน และต้องนำทรัพย์ที่ยึดมาได้มาโยงเส้นทางการเงิน และยังต้องไล่ต่อว่ายังมีเงินสดอีกหรือไม่แล้วอยู่ที่ไหน

เมื่อถามว่า ปัจจุบันยังมีกลุ่มทุนผิดกฎหมายอยู่ในเมืองไทยอีกหรือไม่ รองผบ.ตร. กล่าวว่า คิดว่าวันนี้หนีออกไปเยอะแล้ว กลุ่มเหล่านี้หลบหนีจากจีนมาอยู่กัมพูชา เมื่อถูกกวาดล้างหนักก็หนีมาอยู่ไทยและสปป.ลาว เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนได้คุยกับ ผบ.ตร.สปป.ลาว เมื่อเราจับมือกันแบบนี้ คนสองสัญชาติ ก็ต้องไม่มีแผ่นดินอยู่ ไปอยู่ที่อื่น

วันนี้กลุ่มคนที่อยู่แบบผิดกฎหมายที่ไม่ใช่กลุ่มทุนจีนที่มีปัญหา เขาก็หนีไปเป็นร้อยคนแล้ว เพราะเขาก็กลัวจึงออกไปก่อนดีกว่า แต่หลังจากนี้เราต้องเข้มงวดตั้งแต่กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และการให้วีซ่า อย่างกรณีการจับกุม นายโทนี่ หรือนายเฉิน จ้าวฮุ้ย ที่ถือวีซ่าธุรกิจ ก็ต้องตรวจสอบว่าออกได้อย่างไร ถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกก็ต้องเพิกถอน หากใครเกี่ยวข้องกับการให้วีซ่าที่ไม่ถูกกฎหมายต้องถูกดำเนินคดีหมด เช่นวีซ่านักเรียนที่ให้กับคนอายุ 57 ปี แบบนี้ออกมาได้อย่างไร ต้องถูกดำเนินคดีแน่ไม่ปล่อยไว้ เพราะบุคคลเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาเพื่อลงทุน แต่มาก่ออาชญากรรม

ผบ.ตร.มอบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เข้าร่วมคณะผู้แทนไทย ประชุมกลไกแก้ไขค้ามนุษย์ Bali Process ณ เครือรัฐออสเตรเลีย

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ได้ร่วมกับ นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงแคนเบอร์ร่า และนายพืชภพ มงคลนาวิน รองอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมกระบวนการบาหลี (Bali Process) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-9 ก.พ.66 และจะมีการประชุมในระดับรัฐมนตรีต่อในวันที่ 10 ก.พ.66 ณ หอประชุมอะดิเลด คอนเวนชั่น เซนเตอร์ เมืองอะดิเลด เครือรัฐออสเตรเลีย

กระบวนการบาหลี (Bali Process) เป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และการลักลอบขนคนเข้าเมือง อาชญากรรมข้ามชาติโดยมีเครือรัฐออสเตรเลียเป็นเจ้าภาพในการผลักดันร่วมกับประเทศอินโดนีเซีย และไทย ซึ่งมีประเทศสมาชิกที่ให้ความร่วมมือกันถึง 45 ประเทศในเขตพื้นที่เอเชียแปซิฟิก ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการซึ่งได้มีการดำเนินการไปในห้วงปีที่ผ่านมา รวมทั้งขอความคิดเห็นจากประเทศสมาชิกเพื่อพัฒนาแนวทางการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และการลักลอบขนคนเข้าเมือง โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้มีโอกาสในการนำเสนอเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ และการบังคับใช้แรงงานที่เป็นการค้ามนุษย์ ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้มีการประสานงานกับหลายประเทศเพื่อช่วยเหลือคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อการถูกหลอกไปบังคับใช้แรงงานกลับมายังประเทศไทยได้มากถึง 1,105 คน

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้มีการหารือกับผู้แทนจากสหรัฐอเมริกา และประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีในการสืบสวน และการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ และยังได้มีโอกาสในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการประสานงานระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่มีผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 

‘บิ๊กโจ๊ก’ แจง เป็นหน้าที่ ตม. คุมตัว ‘ทักษิณ’ ส่งศาลตามหมายจับ เผย ยังไร้ข่าวป่วนของกลุ่มการเมือง กำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเข้ม

(27 ก.ค. 66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เปิดเผย ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับไทยในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ในฐานะอดีต ผบช สตม. ว่า สำหรับกรณีผู้ที่มีหมายจับและคดียังอยู่ในอายุความ ตามหลักการแล้วหมายจับจะแสดงในระบบฐานข้อมูลของด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินอยู่แล้ว ซึ่งหมายความว่า เมื่อนายทักษิณเดินทางเข้ามาผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบิน ระบบจะปรากฏข้อมูลหมายจับของศาล ให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหน้าด่านตรวจนั้นๆ ทราบทันที หน้าที่ของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองคือ จะต้องแจ้งให้บุคคลนั้นทราบ และควบคุมตัวต้องหาส่งให้กับศาลตามหมายจับ

ซึ่งขั้นตอนหลังจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคำสั่งศาล ว่า มีคำสั่งดำเนินการอย่างไรต่อผู้ต้องหาขณะเดียวกัน ในกรณีเดินทางเข้าเมืองโดยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แล้วลงจอดในสนามบินอื่น เช่น บน.6 ของกองทัพอากาศ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับสนามบินดอนเมือง ก็จะต้องผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองเช่นเดียวกับการทางเข้าเมืองผ่านสนามบินทั่วไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยต่อว่า ส่วนด้านการข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ ขณะนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มใดและยังไม่พบการข่าวที่น่ากังวล แต่เจ้าหน้าที่จะเฝ้าระวังไปจนถึงช่วงเวลาที่นายทักษิณจะเดินทางกลับ ตลอดจนช่วงเวลาหลังเดินทางกลับไทยแล้ว

‘บิ๊กโจ๊ก’ ปัดเอี่ยวเครื่อข่ายพนันออนไลน์ หลังตร.ไซเบอร์บุกค้น ส่วนที่ออกหมายจับลูกน้อง กร้าว!! หากทำผิดไม่มีการละเว้น

(25 ก.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ภายหลังพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ตรวจค้นบ้านพักภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซอยวิภาวดี 60 อ้างเกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์ว่า ในการออกหมายค้นวันนี้ผมนำตรวจค้นเอง ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ส่วนที่ออกหมายจับลูกน้องผม ใครที่ถูกออกหมายจับก็ต้องไปชี้แจง

เมื่อถามว่าเห็นว่ามีเกี่ยวข้องกับเว็บพนันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผมเกี่ยวข้องกับการปราบปรามอย่างเดียว แต่ไม่เป็นไรเมื่อวันนี้มีหมายค้นหมายจับก็ให้ความร่วมมือปฎิบัติตามหมาย

“ส่วนเงินที่เข้าบัญชีต่างๆ ไม่มีหรอกผมมั่นใจ เมื่อมีหมายก็ต้องชี้แจงข้อกล่าวหา เมื่อลูกน้องทำผิดก็ต้องไม่ละเว้น”

‘บิ๊กโจ๊ก’ ยัน!! ไม่รู้จัก 'มินนี่' เจ้าแม่เว็บพนัน หลังคลิปร้องเพลงคู่ว่อนเน็ต ย้ำ แค่ไปงานเลี้ยงลูกน้องเท่านั้น เชื่อ!! เหตุการณ์นี้เป็นการดิสเครดิตตน

(25 ก.ย. 66) ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีในโลกโซเซียลได้แชร์คลิปร้องเพลงคู่กันกับ ‘มินนี่’ เจ้าของเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ ว่า ตนนั้นรู้มานานแล้วว่าจะมีการนำเอาคลิปนี้นั้นมาทำการดิสเครดิตตน และบอกว่าตนไม่ได้รู้จักเลย ว่าผู้หญิงที่มาร้องเพลงด้วยนั้นเป็นใคร

โดยวันนั้นเป็นงานเลี้ยงลูกน้องของตนโดยมีตนเป็นเจ้าภาพ แต่ว่าการที่ใครจะนำคนนอกเข้ามาในงานนั้นตนไม่ทราบ ยืนยันว่าตนไม่ได้รู้จักหรือมีการติดต่อตัวของ ‘มินนี่’ แต่อย่างใด ส่วนในเรื่องที่มีภาพออกมาว่าลูกน้องของตนนั้นมีการไปโอบกอดตัวของ ‘มินนี่’ อย่างสนิทสนมนั้น ทางลูกน้องนั้นก็ต้องไปตอบให้ได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร หากเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดก็ต้องดำเนินคดี

“ผมนั้นไม่ได้ท้อแท้ ผมก็ยังออกมาทำงานตามปกติ เบื้องต้น สิ่งที่ออกมาในวันนี้ไม่ได้กระทบการทำงานของผม แต่อย่างใดก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษา ก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ต้องว่าไปตามกระบวนการพยานหลักฐาน ส่วนประเด็นที่นายอัจฉริยะจะออกมาแฉ ถ้าไม่ใช่ความจริงก็จะดำเนินคดีกลับไป ซึ่งตนก็ได้มีการดำเนินการฟ้องนายอัจฉริยะอยู่แล้วที่ศาลอาญาเรื่องของการหมิ่นประมาท” รอง ผบ.ตร.กล่าว

‘จากสมาคมชาวปักษ์ใต้’ รวมพล 26 ก.ย.สโมสรตำรวจ ร่วมให้กำลัง ‘บิ๊กโจ๊ก’ เชื่อ!! ถูกรังแกจากอิทธิพลมืด

(25 ก.ย.66) สมาคมชาวปักษ์ใต้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เขียนจดหมายเปิดผนึก ขอเชิญร่วมให้กำลังใจแก่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล นายกสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ ความว่า…

เรียน ที่ปรึกษา/กรรมการ/อนุกรรมการ/สมาชิกสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ/นายกสมาคมประธานชมรมชาวใต้ทั้ง14จว.ภาคใต้ทุกพื้นที่/เครือข่ายสมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ/สมาชิกสมาคมชมรมชาวใต้ทุกพื้นที่/ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน

สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ ขอเชิญทุกท่านร่วมให้กำลังใจ แก่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล นายกสมาคม ชาวปักษ์ใต้ฯ ปกป้องคนดีที่ถูกรังแกจากอิทธิพลมืด

นัดหมายตามรายละเอียดดังนี้...
พบกันในวันอังคารที่ 26 กันยายน 2566
เวลา 09.00 น. ณ สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร
การแต่งกาย สวมเสื้อสีเหลือง กรรมการสวมสูททับ และติดโลโก้สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ บุคคลทั่วไปสวมเสื้อเหลืองใช้สูททับหรือแต่งกายด้วยชุดสุภาพ (สวมเสื้อเหลือง) สมาคมชมรมชาวใต้ใส่เสื้อเหลือง(สูททับ)หรือสวมเสื้อเหลืองแต่งกายสุภาพ

"เราทำความดีด้วยหัวใจ"
เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน

ขอแสดงความนับถือ
ดร.อนันต์ ชูรักษ์
ผอ.สำนักอำนวยการ เลขาธิการ
สมาคมชาวปักษ์ใต้ฯ
0813508549

รศ.(พ)ดร.เชวงศักดิ์ ลักษณะวิลาศ
อุปนายกฝ่ายประชาสัมพันธ์
ผู้แจ้งข่าว/ประสานงาน 0628539645

หมายเหตุ...
ขอความกรุณาช่วยส่งต่อข่าวนี้ไปยังสายงานของท่านด้วย

‘เอ ศุภชัย’ ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ปมร่วมเฟรม ‘บิ๊กโจ๊ก-มินนี่’ แต่คนใกล้ชิดช่วยยืนยัน!! ไม่รู้จักแน่นอน แค่ไปงานเลี้ยงเท่านั้น

(27 ก.ย.66) หลังจากที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาเผยภาพในงานเลี้ยงที่มี บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และคุณกุ๊บกิ๊บ ภรรยา และยังมีนางสาวมินนี่ ผู้ต้องหาคดีเว็บพนัน และ เอ ศุภชัย ผู้จัดการดาราชื่อดัง ร่วมเฟรมเดียวกัน

โดยเฟซบุ๊กของ น้อง-ธัญญารัตน์ ถาม่อย ผู้สื่อข่าว PPTV เปิดเผยว่า คนใกล้ชิดของ ‘เอ ศุภชัย’ ซึ่งอยู่ในงานเลี้ยงวันดังกล่าวด้วย ให้ข้อมูล PPTV ว่า ‘เอ ศุภชัย’ ได้รับเชิญไปงานเลี้ยง เนื่องจากรู้จักกับบิ๊กโจ๊กและภรรยามานานแล้ว

โดยงานเลี้ยงดังกล่าวจัดขึ้นหลังงานศพของคุณพ่อบิ๊กโจ๊กเพื่อขอบคุณลูกน้องและคนใกล้ชิดตามที่บิ๊กโจ๊กให้สัมภาษณ์ วันนั้นคนที่มาร่วมงาน ก็มีการถ่ายรูปร่วมกันหลายรูป บางคนก็รู้จักกันบางคนไม่รู้จักกัน ส่วนภาพที่มีการเผยแพร่ออกมา นางสาวมินนี่เข้ามาขอถ่ายรูปกับ ‘เอ ศุภชัย’ พร้อมกับบิ๊กโจ๊กและภรรยา ซึ่งก็เป็นปกติของคนที่มีชื่อเสียง สามารถถ่ายรูปกับทุกคนได้ แต่ยืนยันว่า ‘เอ ศุภชัย’ ไม่รู้จักนางสาวมินนี่เป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน

ขณะที่ ‘เอ ศุภชัย’ ระบุสั้นๆ ว่าตอนนี้ยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์สื่อไหนเลย เนื่องจากอยู่ระหว่างการทำงาน โปรโมตการท่องเที่ยว ที่บ้านเกิดในจังหวัดนครศรีธรรมราช 

เปิดใจ ‘ผบ.ตร.’ เคลียร์ใจ ‘บิ๊กโจ๊ก’ มีอะไรให้ใช้สติ บอก "ถ้าขาดพี่ จะหาคนจริงใจอีกไม่ได้แล้ว"

(2 ต.ค.66 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์รายการ ‘เจาะลึกทั่วไป อินไซต์ไทยแลนด์’ เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นภายในองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)

>> ปัญหาที่เกิดขึ้นใน ตร.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเยียวยาอย่างไร?

“กำลังจัดวางตำแหน่งรอง ผบ.ตร.และการแต่งตั้งโยกย้ายระดับนายพลให้เป็นระบบคุณธรรม อยากสร้าง ตร.ให้เป็นโฮม ซึ่งอยู่ที่น้องๆ ช่วยกัน ผมใช้คำว่า พี่ น้อง เรื่องนี้ต้องเริ่มจากผู้บังคับบัญชาที่ดี การแต่งตั้งหน้างาน ผมอยากให้รอดู ขณะนี้กำลังจัดวาง ถ้าไม่เอาผู้ช่วยฯ ขึ้นมาด้วย จะไม่พอพิจารณา ทุกระดับต้องมีบอร์ดหมด”

>> การแต่งตั้งครั้งนี้ ทั้งระดับ รอง ผบ.ตร.ถือเป็นการเยียวยาองค์กรใช่หรือไม่?

“ทุกคนเราคุยกันหมด เราทำงานเพื่อ ตร.ผมมีเวลาแค่ 1 ปี ตอนนี้ผ่านไป 2 วันแล้ว จะเอาเวลามาทะเลาะกัน มดงานก็คาดหวังจาก ผบ.ตร.หมด ก็จะเร่งทำ ขอให้เราได้ทำงานก่อน ขอเวลานิดนึง”

>> แสดงว่าการแต่งตั้งรอง ผบ.ตร.จะเป็นการเยียวยา แล้ว พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.จะได้ดูงานเดิมหรือไม่?

“เดิมดูอาวุโส ตอนนี้ให้ทุกคนดูเลยว่าใครอยากได้งานอะไร ให้เลือกตามอาวุโส คือ รองฯ รอยได้เลือกก่อน ตามด้วยรองฯ โจ๊ก (พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล) จากนั้นเป็น ผช.ผบ.ตร.จะเป็นใครขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ จะมอบภาระงานให้เลย เพราะรอไม่ได้ ใครจะมาช่วยรอง ผบ.ตร.คนไหน โดย บก.1 บก.2 บก.3 บก.4 ก็ต้องเลือกคนที่ทำงานได้ด้วย จะต้องคุยกันหมด เพราะไม่ใครจะเก่งทุกเรื่อง กรณีรองฯ โจ๊ก ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่แถลงกันไปมา แล้วคนก็มโนทั้ง 2 ฝ่าย”

>> วันนั้น ใครส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ คอมมานโด หรือพีซีที ไปบ้านบิ๊กโจ๊ก?

“พีซีทีดูแลเรื่องเว็บพนันออนไลน์ เป็นเรื่องของ ตร.ไม่เกี่ยวกับการขอกำลังเข้าค้นทั่วไป ถ้าผมรู้ผมต้องไปแล้ว วันนั้นผมเข้าเวรอยู่ ไม่ได้ไป ท่านรองฯ โจ๊กโทรมา ผมก็ยังงงๆ อยู่ ผมไม่รู้จริงๆ เราอยู่กับพี่น้อง เป็นเรื่องของพีซีที ขึ้นตรงกับ ตร.วันนั้นผมเป็นรอง ผบ.ตร.ไม่ใช่ ผบ.ตร.ผมก็เช็กให้ ไม่ใช่ไม่คุย หรือไม่รับสาย”

>> คืนที่มีภาพกอดเอวถ่ายรูปกับรองฯ โจ๊ก ผบ.ตร.เรียกพบ หรือรองฯ โจ๊กขอเข้าพบ?

“ผมเรียกรองฯ โจ๊กมาพบ ว่ามีเรื่องอะไร ผมรับทราบนโยบายของนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน มาด้วย ว่าอยากให้แก้ปัญหาภาพรวมขององค์กร ตร.ถ้า ตร.ทะเลาะกัน เด็กๆ จะมองเราอย่างไร เราอาจจะไม่ได้ทะเลาะกัน แต่อาจมีคนไม่หวังดี ผมก็บอกน้องว่าเราอย่าทะเลาะกัน มีคนไม่หวังดี เรื่องนี้อาจมีคนนอกมองว่าองค์กร ตร.ทะเลาะกันหรือเปล่า อาจเป็นเพราะมีคดีเกิดขึ้นในช่วงนั้นหลายคดี นายกฯ บอกถ้าไม่ได้ทะเลาะกันก็ไปแก้ปัญหา เป็น ผบ.ตร.แล้ว ไปแก้ปัญหา”

>> คืนวันนั้นคุยอะไรกัน?

“คืนนั้นคุยกันว่า ในชีวิตผมเคยบอกโจ๊กเสมอว่า ถ้าขาดพี่ไปแล้ว จะหาคนจริงใจแบบผมไม่ได้ ผมเป็นคนไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ไม่ทำใครข้างหลัง ถ้าเอากันก็เอากันซึ่งหน้า ผมก็บอกว่าถ้ามีอะไร ให้ใช้สติ อย่าแก้ปัญหาด้วยอารมณ์ แต่ทุกวันนี้แก้ปัญหากันด้วยอารมณ์ ผมโดนมาเยอะ แต่ผมนิ่ง ใช้อุเบกขา คิดว่าให้เวลาเป็นตัวเล่าดีกว่า”

‘บิ๊กโจ๊ก’ เผย!! ผู้ต้องหาเยอรมันซื้อกามเด็ก 14 ปีจริง แต่ไม่ได้จ่ายสินบน 1 ลบ. แลกประกันตัวกลับประเทศ

(26 ม.ค. 67) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผย ผลการประชุมร่วมกับตำรวจสืบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ อัยการของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เมื่อวานนี้ (25 ม.ค. 67) เพื่อเคลียร์ประเด็นข้อเท็จจริง ที่มีสื่อต่างประเทศนำเสนอข่าว นายเจน คริช ชาวเยอรมัน จ่ายสินบนให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 ล้านบาท เพื่อแลกการประกันตัวกลับประเทศ

ภายหลังการประชุมร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและอัยการฯ พบว่าทางตำรวจสอบสวนและอัยการได้ดำเนินการสอบปากคำ นายเจน คริช พร้อมทำสำนวนเอกสารเป็นที่เรียบร้อย พบว่านายเจน คริช ได้ให้การยืนยันและยอมรับประเด็นที่นำเสนอในสื่อต่างประเทศไม่เป็นความจริง แต่เกิดจากการบิดเบือนข้อเท็จจริงของสื่อต่างประเทศบางสื่อ ที่เชิญนายเจน คริช สัมภาษณ์

ต่อคดีที่เกิดขึ้นในประเทศไทย นายเจน คริช ยืนยันในข้อมูลที่เป็นจริงว่า ได้กระทำความผิดคดีซื้อบริการทางเพศเด็กหญิงไทย อายุ 14 ปี และถูกจับกุมดำเนินคดี ในประเทศไทยจริง โดยไม่มีการจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อหลบหนีเดินทางกลับประเทศเยอรมัน แต่อย่างใด พร้อมทั้งได้กล่าวขอโทษที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงต่อข้าราชการตำรวจและกระบวนการยุติธรรมไทย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top