ภัยพิบัติแผ่นดินไหวระดับรุนแรงมากที่เกิดขึ้นในทางตอนใต้ของประเทศตุรเคียและตอนเหนือของประเทศซีเรีย ซึ่งมีศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่เมืองกาซีอันเตป (Gaziantep) สร้างความเสียหายใหญ่หลวง อาคารบ้านเรือนทลายลงมาเหลือสภาพเป็นซากปรักหักพัง เศษอิฐซากปูนที่ทับถมกองพะเนินมีครอบครัวของใครบางคนที่รอการค้นพบอยู่ในนั้น โดยไม่ทราบว่าจะพบในสภาพเป็นหรือตาย
ครบหนึ่งสัปดาห์ของเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ตุรเคียและซีเรีย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 33,000 รายแล้ว และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก คาดก็อาจจะขึ้นไปถึงหลักแสน การค้นหาผู้รอดชีวิตและผู้เสียชีวิตดำเนินไปท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของคนในพื้นที่ ขณะที่อากาศหนาวเหน็บเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร บวกกับความซับซ้อนทางการเมืองของพื้นที่ ทำให้ความช่วยเหลือจากนานาชาติเป็นไปอย่างล่าช้า
ความเสียหายทางด้านวัตถุสิ่งปลูกสร้างนั้น หนักหนากว่าการที่ผู้คนสูญเสียบ้านเรือนที่อยู่อาศัย เนื่องด้วยประเทศตุรเคียเป็นดินแดนแห่งอารยธรรมหลายจักรวรรดิสำคัญในประวัติศาสตร์โลก ตั้งแต่จักรวรรดิโรมันตะวันออก จักรวรรดิไบแซนไทน์ และจักรวรรดิออตโตมัน ซึ่งมรดกทางอารยธรรมเหล่านั้นยังหลงเหลืออยู่ให้เห็นหลายแห่งทั่วประเทศตุรเคีย รวมถึงประเทศที่มีพรมแดนติดกันอย่างซีเรีย ซึ่งในอดีตก็เคยเป็นพื้นที่ในจักรวรรดิเดียวกันความเสียหายหรือผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้จึงเกิดขึ้นกับโบราณสถานเหล่านั้นด้วย
ในพื้นที่ประเทศตุรเคียและซีเรียมีโบราณสถานหลายแห่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การ เพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization : UNESCO) ซึ่งตามข่าวที่ยูเนสโกเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ยูเนสโกเป็นกังวลและได้ร่วมกับพันธมิตรลงพื้นที่สำรวจความเสียหายแล้ว แต่ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีแหล่งมรดกโลกแห่งใดเสียหาย
สำหรับในซีเรีย ยูเนสโกกังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมืองโบราณอเลปโป ซึ่งอยู่ในรายชื่อมรดกโลกที่อยู่ในภาวะอันตราย (World Heritage in Danger List) จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่และพันธมิตรพบว่า หอคอยด้านตะวันตกของกำแพงเมืองเก่าและอาคารเก่าหลายแห่งในตลาดได้รับความเสียหาย
ส่วนในตุรเคีย ยูเนสโกบอกว่า “รู้สึกเศร้าใจกับการพังทลายของอาคารหลายแห่งในเมืองดิยาร์บากีร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ‘ป้อมปราการดิยาร์บากีร์ และภูมิทัศน์วัฒนธรรมสวนเฮฟเซล การ์เดน’ (Diyarbakır Fortress and Hevsel Gardens Cultural Landscape) ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของจักรวรรดิโรมัน จักรวรรดิไบแซนไทน์ และจักรวรรดิออตโตมัน”
นอกจากนี้ ยูเนสโกกังวลว่าแหล่งมรดกโลกอื่น ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวอาจได้รับผลกระทบด้วย เช่น โกเบคลี เทเป (Göbekli Tepe), เนมรุต ดัก (Nemrut Dağ) และเนินเขาอาร์สลันเตเป (Arslantepe) แม้จะไม่ใช่มรดกโลก แต่โบราณสถานที่เห็นชัดเจนว่าพังเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้ คือ 'ปราสาทกาซีอันเตป' (Gaziantep Castle) มรดกอารยธรรมยุคโรมันที่อยู่คู่เมืองนี้มากว่า 2,000 ปี
เมืองกาซีอันเตป (Gaziantep) ตั้งอยู่บนคาบสมุทรอานาโตเลีย เป็นหนึ่งในเมืองเก่าแก่ที่สุดในโลกที่มีประชากรอาศัยตั้งรกรากต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ในยุคจักรวรรดิออตโตมัน (ค.ศ. 1299-1922) เมืองนี้มีชื่อว่า 'แอนเตป' (Antep) ก่อนจะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น 'กาซีอันเตป' (Gaziantep) ในปี 1928 และใช้ชื่อนี้ต่อมาถึงทุกวันนี้
ปราสาทกาซีอันเตปตั้งอยู่ใจกลางเมืองกาซีอันเตป จากการขุดค้นทางโบราณคดีมีหลักฐานว่าปราสาทหินแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นครั้งแรก เพื่อเป็นหอสังเกตการณ์ในสมัยจักรวรรดิโรมัน ในช่วง 2-3 ศตวรรษก่อนคริสต์ศักราช และต่อมามีการขยายต่อเติมให้เป็นปราสาทเต็มรูปแบบ ตามข้อมูลจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของพิพิธภัณฑ์และแหล่งโบราณคดีในประเทศตุรเคีย ระบุว่ารูปแบบปราสาทที่เห็นในยุคปัจจุบันเป็นรูปแบบที่ต่อเติมปรับปรุงในสมัยจักรพรรดิจัสติเนียนแห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ ในช่วง ค.ศ. 527-565