Monday, 20 May 2024
CRIMES

"ครูใหญ่" นำม็อบคณะราษฎรขอนแก่น ปักหมุดสะท้อนแสงกลางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ประกาศชวนคนอีสานร่วมร่าง รธน.ฉบับคนอีสาน ต้นแบบ รธน.ไทยที่มาจากประชาชน พร้อมระบุลิเกโรงใหญ่ที่ทุกพรรคกำลังทำ ประชาชนต้องมีส่วนร่วมและวิจารณ์ได้อย่าหมกเม็ด

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. 2564 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมืองเขตเทศบาลนครขอนแก่น. นายอรรถพล. บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ แกนนำกลุ่มราษฎรขอนแก่น พร้อมด้วยภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ หรือ ไนซ์ ดาวดิน นำกลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายต่าง ๆ ในชื่อกลุ่มคณะราษฎรขอนแก่น อาทิ กลุ่มคนเสื้อแดงขอนแก่น,กลุ่ม ภาคีเครือข่ายนักเรียน KKC , กลุ่มขอนแก่น พอกันที และกลุ่มดาวดิน ได้รวมตัวกันจัดกิจกรรมคู่ขนานกับการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ โดยมีผู้ร่วมชุมนุมจากเครือข่ายต่าง ๆ เข้าร่วมชุมนุมอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนมาก

โดยการจัดกิจกรรมนอกจากจะมีการร่วมลงรายชื่อคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ยังคงมีการร่วมแสดงความคิดเห็นลงในป้ายผ้าตามการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย การจัดโรงทานของผู้ให้การสนับสนุน การแสดงละครเชิงสัญลักษณ์ แต่ที่ได้รับความสนใจที่สุดคือการที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้พร้อมใจร่วมกันปักหมุดคณะราษฎร์แบบสะท้อนแสงลงใจกลางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อแสดงจุดยืนตามข้อเรียกร้อง 3 ข้อคือการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นฉบับประชาชนและการปฎิรูปสถาบันกษัตริย์

นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ กล่าวว่า การชุมนุมวันนี้นอกจากจะเป็นการจัดกิจกรรมคู่ขนานกับการชุมนุมที่กรุงเทพฯแล้วมยังคงเป็นการประกาศความชัดเจนในการที่คนอีสานจะพร้อมใจร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับของคนอีสาน ที่จะเป็นต้นแบบและโมเดลที่แสดงให้เห็นถึงว่ารัฐธรรมนูญของคนอีสานนั้นคือรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนและเป็นของประชาชน โดยจากนี้ไปคณะทำงานร่วมทุกฝ่ายจะลงพื้นที่ตามแนวทางที่กำหนด

"ร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง 13 ร่างที่พรรคการเมทองเสนอมานั้ยยอมรับว่าบางส่วนนั้นเป็นไปตามข้อเรียกร้องแต่ก็ไม่ทั้งหมด  ซึ่งทุกคนก็รู้อยู่ว่าอะไรบ้างที่เราเรียกร้องและมีการรับฟังเสียงประชาชนหรือไม่ ซึ่งในการโหวตของ สส.และ สว.ต่อร่างรัฐธรรมนูญที่ที่ประชุมกำลังพิจารณานั้นก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นลิเกโรงใหญ่ ที่เหล่า สว. และ สส. ที่เป็นผู้ทรงเกียรตทั้งหลายกำลังต้มคนดูทั้งประเทศ"

นายอรรถพล กล่าวต่ออีกว่า เมื่อลิเกกำลังเล่น โดยมีประชาชนทั้งประเทศเป็นผู้ชม จะเล่นโรงเล็ก โรงใหญ่ผลการโหวตออกมาก็ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นคนดูก็จะวิจารณ์การเล่นลิเกละครโรงนี้ได้ทุกวัน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่สำรวจเหตุคนร้ายเป็นชาย ก่อเหตุบุกยิงโรงพยาบาลสนาม ภายในสถาบันธัญรักษ์ จ.ปทุมธานี

เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสอบคนร้ายบุกยิงที่โรงพยาบาลสนาม โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ร้อยตำรวจเอก ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง นายกเทศมนตรีนครรังสิต ลงพื้นที่ร่วมสำรวจเหตุการณ์ หาหลักฐานเพิ่มเติม

จากกรณีคนร้ายเป็นชาย ก่อเหตุบุกยิงโรงพยาบาลสนาม ภายในสถาบันธัญรักษ์ จ.ปทุมธานี เป็นเหตุให้มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต 1 ราย ก่อนขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว 4 ประตู 3ฒข 6233 หนีไป โดยพบว่า วันเดียวกัน ยังก่อเหตุบุกยิงพนักงานร้านสะดวกซื้อเสียชีวิตในพื้นที่ ใกล้ปากซอยลาดพร้าว 25 ถนนลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร​ กทม. ล่าสุดเมื่อเวลา 12.20 น. นายกวิน มอบตัวกับตำรวจ พร้อมปืนพก 2 กระบอก หลังจากนั้นตำรวจได้คุมตัวไปสอบสวนต่อไป


ภาพ/ข่าว ประภาพรรณ ขาวขำ รายงาน

"กลุ่มราษฎรขอนแก่น" จัดฟรีม็อบชิมลาง วันแรก คู่ขนานเวทีชุมนุมใหญ่ นักเรียน-นักศึกษา ร่วมชุมนุมคึกคัก ขณะที่แกนนำเผยชุมนุมใหญ่พรุ่งนี้ที่ขอนแก่นสนุกแน่ !!

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 23 มิ.ย.2564  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์อาหารและบริการ 1 มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ คอมเพล็กซ์ มข. กลุ่มราษฎรขอนแก่น ได้จัดกิจกรรมการชุมนุมในชื่อ "ทวงคืนวันชาติหยุดผูกขาดรัฐธรรมนูญ" ด้วยการตั้งโต๊ะให้ผู้ที่มาร่วมชุมนุมได้ลงชื่อคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ ที่กำลังพิจารณา รวมทั้งการเชิญชวนให้นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ลงชื่อเพื่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นเยียวยาลดค่าเทอม 30% จากการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น รวมทั้งการเชิญชวนให้ชาวขอนแก่นได้ออกมาร่วมชุมนุมใหญ่ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่น คู่ขนานกับการชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯในวันพรุ่งนี้ ( 24 มิ.ย.)ท่ามกลางความสนใจของชาวขอนแก่น นักเรียน นักศึกษาเข้าร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก

นายภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัตร หรือ ไนซ์ดาวดิน กล่าวว่า การชุมนุมวันแรกวันนี้ ต้องเรียงแบบแยกประเด็นเริ่มจากประเด็นการทวงคืนค่าเทอม 30 % เนื่องจากสถานการณ์โควิด ซึ่งมหาวิทยาลัยจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ดังนั้นค่าเทอมที่จ่ายไปจะมีค่าบำรุงรักษาสถานที่ที่ไม่ต้องใช้อะไร ดังนั้นในส่วนนี้ก็ควรจะคืนให้กับนักศึกษา ในประเด็นต่อมาคือเรื่องการบริหารสถานการณ์โควิดที่รัฐบาลล้มเหลวอย่างเห็นได้ชัด

"ประเด็นที่ 3 เป็นประเด็นของนักเรียน ว่าด้วย พรบ.การศึกษาที่ถูกวางยุทธศาสตร์ให้กดขี่นักเรียนกดขี่ยัดเยียดสิ่งที่รัฐต้องการให้นักเรียน ประเด็นที่ 4 เป็นประเด็นเรื่องการพิพากษาร่างรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐที่จะถูกยื่นเข้าไปในการประชุมสัปดาห์นี้ ประเด็นที่ 5 เป็นเรื่องรัฐธรรมนูญของประชาชนที่จะเป็นของประชาชน และสุดท้ายคือจุดยืนในสถานการณ์การบริหารบ้านเมืองแบบนี้ที่ทุกคนจะร่วมกันต่อสู้ต่อไป อย่างไรก็ดีสำหรับแกนนำผู้ชุมนุม ซึ่งส่วนใหญ่คือกลุ่มเพื่อนของเราที่โดนคดีไปหลาย ทำให้การเคลื่อนไหวของพวกเราสะดุด ซึ่งเราเชื่อว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเป็นสิ่งที่เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับประเทศกลับคืนมา"

นายภาณุพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า การเคลื่อนของเราจะไม่สะดุดหายไปเป็นเพราะสถานการณ์โควิคที่เราพยายามจะออกมาจัดกิจกรรมให้เกิดการรวมตัวกันน้อยที่สุด ขณะที่การจัดกิจกรรมในวันนี้และวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) เป็นการจัดกิจกรรมคู่ขนานกับกรุงเทพฯ ที่ทุกคนจะออกมาประกาศจุดยืนของกลุ่มราษฎรขอนแก่นออกมาประกาศจุดยืนว่าร่างรัฐธรรมนูพรรคพลังประชารัฐที่ยื่นเข้าไปไม่ยึดโยงกับประชาชน จึงเป็นสิ่งที่คณะราษฎรขอนแก่นขอประกาศจุดยืนตรงนี้

" กลุ่มราษฎรขอนแก่นจะทวงคืนวันชาติหยุดผูกขาดรัฐธรรมนูญก็จะเป็นวัตถุประสงค์เพื่อการรำลึกและการทวงคืนว่าวันชาติของฝั่งประชาธิปไตยคือวันนี้และอีกส่วนหนึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีการประกาศขบวนร่างรัฐธรรมนูญของอีสานซึ่งตอนนี้เรามีหลักการใหญ่ๆคือต้องมีส่วนร่วมของประชาชน  ที่ตรวจสอบได้  โดยมีการรับฟังความต้องการของประชาชนทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ต่อสู้เรื่องทรัพยากรธรรมชาติ,กลุ่มเสื้อแดงอีสานหรือกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ซึ่งเราเน้นเรื่องกระบวนการการมีส่วนร่วมกระบวนการที่เราจะเข้าไปหาพี่น้องในแต่ละกลุ่มเพื่อที่จะระดมความคิดเห็นและนำมาจัดทำร่างขึ้นมาอีกครั้ง"

ด่วน !! ปปท.เขต 8 ควงปปช.พังงา ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการเสาไฟฟ้าประติมากรรมของเทศบาลเมืองพังงา พบเกือบ 200 ต้น วงเงินกว่า 24 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 นายณัฐรดา ศิริวัฒนกุล ผอ.กลุ่มงานป้องกันการทุจริตในภาครัฐ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 8  (สำนักงาน ปปท. เขต 8) พร้อมด้วยนางอรดี ไกรยุทธศักดิ์ ผอ.สำนักงานปปช.ประจำจังหวัดพังงา นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโครงการเสาไฟฟ้าประติมากรรมของเทศบาลเมืองพังงา หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าเป็นโครงการที่ไม่คุ้มกับเงินงบประมาณและไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริง โดยมีนายจงรัก ผิวขำ ปลัดเทศบาลเมืองพังงา นำเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างเข้าชี้แจง

นายจงรัก ผิวขำ เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างเสาไฟฟ้าประติมากรรมเริ่มสร้างครั้งแรก 4 ต้นเป็นเสาไฟฟ้าประติมากรรมกินรี ที่วงเวียนเขาตาปู เมื่อปี 2547 จากนั้นในปี 2554 ได้สร้างเสาไฟประติมากรรมกินรีเพิ่มอีก3ต้นที่วงเวียนเขาตาปู สร้างเสาไฟประติมากรรมรูปช้างหมอบชูงวงอีก 54 ต้น รวม 4 สัญญา วงเงิน 9,599,190 บาท ในปี 2555 สร้างเสาไฟประติมากรรมรูปช้างหมอบชูงวง 39ต้น สร้างเสาไฟฟ้าเหล็กรีดปลาย 35 ต้น ติดตั้งเสาไฟฟ้าแสงสว่าง 36 ต้น รวม 4 สัญญา ราคา 5,750,000 บาท ในปี 2559 สร้างเสาไฟประติมากรรมรูปช้างหมอบชูงวง 69 ต้น รวม 3 สัญญา ราคา 12,279,850 บาทและในปี 2561 สร้างเสาไฟฟ้าประติมากรรมกินรี 8 ต้น 1สัญญาราคา 450,000 บาท รวมโครงการสร้างเสาไฟฟ้าประติมากรรมทั้งหมด 177 ต้น เสาไฟฟ้าแสงสว่างเหล็กรีดปลายอีก 71 ต้น งบประมาณรวมทั้งหมด 24,809,040 บาท ซึ่งโครงการทั้งหมดนี้เป็นโครงการที่ต้องการสร้างจุดเด่นส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ และใช้ประโยชน์ได้จริง และจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบทางราชการทุกโครงการ

นายณัฐรดา ศิริวัฒนกุล เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบในวันนี้ในทางกายภาพเบื้องต้นพบว่าเสาไฟฟ้าประติมากรรมของทางเทศบาลเมืองพังงา มีความเหมาะสมติดตั้งอยู่บนถนนสายหลัก ระยะห่างก็เหมาะสมดี รวมทั้งสามารถใช้งานได้จริง ในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้างนั้นทางสำนักงานปปช.ประจำจังหวัดพังงาจะเป็นหน่วยงานที่เข้าตรวจสอบว่ามีความโปร่งใส หรือจะมีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับจ้างรายหนึ่งรายใดหรือไม่ สำหรับพื้นที่จังหวัดพังงามีการร้องเรียนให้ตรวจสอบเสาไฟฟ้ารวม 3 เทศบาล ประกอบด้วยเทศบาลเมืองพังงา เทศบาลเมืองตะกั่วป่า และเทศบาลตำบลทับปุด


ภาพ/ข่าว  อโนทัย งานดี /พังงา

ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม มอบนโยบายและสิ่งของบำรุงขวัญ แก่กำลังพลในสังกัดสำนักงาน ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก

ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก  อ.แม่สอด จ.ตาก พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม มอบนโยบายและสิ่งของบำรุงขวัญ แก่กำลังพลในสังกัด สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก โดยมี พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตากพร้อมเจ้าหน้าที่กำลังพลให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง เริ่มจากการสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และไหว้พระภูมิเจ้าที่ ประจำสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ตรวจกำลังพล พร้อมมอบสิ่งของบำรุงขวัญแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก และต่อด้วยการประชุมบรรยายสรุปของหน่วยงานและมอบนโยบายตามลำดับ

พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวว่า การลงพื้นที่ในการตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ตามคำสั่งของ ท่าน ผบ.ตร.ให้มากวดขันด้านการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งอาจนำเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาในประเทสไทยได้ โดยเป็นไปตามนโยบายของท่านพลเอกประยุทธน์  จันโอชานายกรัฐมนตรี ในวันนี้จึงลงพื้นที่มาดูการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึง การปราบปรามบ่อนพนันออนไลน์ ตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกันนี้ยังได้นำสิ่งของมามอบเพื่อปลอบขวัญ บำรุงขวัญ เป็นไปตามนโยบายของ ผบ.ตร. ต้องขอบขอบคุณในการต้อนรับและความพร้อมในการปฏิบัติ ก็ต้องขอชมเชยและฝากให้ทุกคนระมัดระวังการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย


ภาพ/ข่าว  วรภา พันลุตัน จ.ตาก

มทบ.32 ร่วมปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมใน พท.ลำปาง

วันที่ 22 มิถุนายน 2564 ณ ลานหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง พลตรี อโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ร่วมปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ประจำไตรมาสที่ 3 โดยมีพลตำรวจตรี นันทวิทย์ เทียมบุญธง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยพันเอก โสภณ โสภณ นันทสุวรรณ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำปาง นายวาทิต ปัญญาคม นายอำเภอเมืองลำปาง ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดลำปาง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ร่วมพิธีปล่อยแถว

ด้วยสถานการณ์ที่ผ่านมา มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชาชนไม่มีงานทำและขาดรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีแนวโน้มในการเกิดอาชญากรรมมาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้มีการสั่งการให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและทำการปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมประจำไตรมาสที่ 3 ขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดลำปาง รวมทั้งเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงมาตรการในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าว ตามสั่งการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 5 ตำรวจภูธรจังหวัดลำปางจึงได้กำหนดให้มีการปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมประจำไตรมาสที่ 3 ขึ้นในวันนี้

ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง จึงได้บูรณาการหน่วยงานภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ มณฑลทหารบกที่ 32 ,กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดลำปาง,ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดลำปาง,ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง,อำเภอเมืองลำปาง,ศบภ.จังหวัดลำปาง,สมาคมกู้ภัยลำปาง,สมาคมกู้ภัยสว่างนครลำปางธรรมสถาน ,อส.ตบ. จำนวน 200 นายเพื่อรวมพลังในการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหาอาชญากรรม เพื่อร่วมเดินหน้าเมืองลำปาง “สุข ทุกด้าน”


ภาพ/ข่าว  ภาวินันท์ บุตรหล้า รายงาน

สนง.ศาลยุติธรรม ร่วมมือ สนง.ปลัดกระทรวงกลาโหม ลงนาม MOU มุ่งหวังสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมแก่สังคมอย่างยั่งยืน

วันนี้ (23 มิถุนายน 2564) เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 12 อาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และพลเอกประชาพัฒน์ วัจนะรัตน์ เจ้ากรมพระธรรมนูญ ทำการแทนปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรม กับ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เรื่อง ความร่วมมือ แลกเปลี่ยน สนับสนุนข้อมูลทางวิชาการ และพัฒนาบุคลากรทางวิชาการ

นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า สำนักงานศาลยุติธรรมและกรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ตระหนักถึงความสำคัญของหลักนิติธรรม และหลักธรรมาภิบาล อันเป็นหลักการสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่เพื่ออำนวยความยุติธรรมและดำรงไว้ซึ่งความสงบสุขของสังคม อีกทั้ง คำนึงถึงความจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม กับ ตุลาการพระธรรมนูญและข้าราชการสำนักตุลาการทหาร โดยการเพิ่มพูนความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านวิชาการ การบริหารงานยุติธรรม ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ ดังนั้น สำนักงานศาลยุติธรรม และกรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจลักษณะเดียวกัน คือ งานธุรการที่สนับสนุน และอำนวยความสะดวกแก่ศาลในการพิจารณาพิพากษาคดี รวมถึงงานด้านวิชาการ ตลอดจนการฝึกอบรมบุคลากรในด้านต่าง ๆ จึงได้ร่วมกันจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว เพื่อพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการในการแลกเปลี่ยน และสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการระหว่างหน่วยงาน อาทิ บทความทางวิชาการ เอกสารงานวิจัย คู่มือการปฏิบัติงาน แนวปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ

รวมถึงคำพิพากษา คำสั่ง หรือคำวินิจฉัยที่สามารถเปิดเผยและเป็นประโยชน์ต่อการเสริมสร้างงานวิชาการ ตลอดจนแลกเปลี่ยน และสนับสนุนการฝึกอบรมและดูงานในหลักสูตรต่าง ๆ ตามความเหมาะสมต่อการปฏิบัติงาน ด้วยความมุ่งหวังที่จะสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมแก่สังคมอย่างยั่งยืน โดยบุคลากรของทั้งสองหน่วยงานสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ สามารถอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน สร้างความสงบสุขในสังคม ความเชื่อมั่น และความศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยต่อไป

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนการแชร์ภาพหรือคลิปที่ไม่เหมาะสมบนสื่อสังคมออนไลน์

พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี การโพสต์ การแชร์ ภาพหรือคลิปวิดีโอที่ไม่เหมาะสมบนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย ว่าที่ผ่านมามีเหตุการณ์เกิดขึ้น เช่น กรณีเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 64 ในพื้นที่ จ.ชลบุรี เด็กหญิงผู้เสียหายได้ถูกกลุ่มรุ่นพี่รุมทำร้ายร่างกายและถ่ายคลิปวิดีโอไว้ ก่อนจะนำไปเผยแพร่ลงบนสื่อสังคมออนไลน์ จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงถึงการกระทำดังกล่าว และกรณีเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.64 ที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ชายวัย 32 ปี ได้ทะเลาะกับภรรยาและเกิดความน้อยใจ ก่อนจะฆ่าตัวตายโดยได้ถ่ายทอดสดการฆ่าตัวตายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ด้วย

ขอเรียนถึงประเด็นของการนำคลิปหรือภาพถ่าย ที่เป็นลักษณะการทำเรื่องที่ไม่ดี  ไม่เหมาะสม กลั่นแกล้ง ส่งต่อข้อความแสดงการเกลียดชัง  คุกคามทางเพศ ล้วนมีผลกระทบต่อสภาพร่างกายหรือจิตใจ ของผู้ถูกกระทำและผู้ที่พบเห็น ซึ่งขณะนี้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้เล็งเห็นความสำคัญและรณรงค์เรื่องนี้มาโดยตลอด อย่างเช่นโครงการล่าสุดที่ทาง สสส. ได้จัดแคมเปญ #UnknownTogether ที่มุ่งเป้าหมายไปที่การลดการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ ทำให้ผู้ใช้สื่อเกิดความเท่าทัน มีสติ ไม่กลั่นแกล้งผู้อื่น พร้อมฟื้นฟูจิตใจผู้ที่ตกเป็นเหยื่อให้รู้จักคุณค่าของตัวเอง

ในทางกฎหมายหากคลิปวิดีโอหรือภาพที่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผู้ที่แชร์หรือส่งต่อก็อาจจะมีความผิดในลักษณะของการเป็นผู้สนับสนุนซึ่งมีโทษ 2 ใน 3 ส่วนจากโทษของการกระทำความผิดนั้น ๆ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญและกำชับทุกหน่วยงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากมีการกระทำความผิดในลักษณะไม่เหมาะสมหรือกระทำผิดกฎหมายบนโลกออนไลน์ ให้ทำการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมสร้างการรับรู้ให้ประชาชนทุกภาคส่วน หยุดการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในทางที่ไม่เหมาะสม

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากเตือนในเรื่องการกระทำที่ไม่เหมาะสมบนโลกออนไลน์ ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ การโพสต์ แชร์ หรือการแสดงความคิดเห็น ควรทำในทางที่สร้างสรรค์ ไม่เป็นการละเมิดสิทธิหรือไปกระทบผู้อื่นและสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นความผิดตามกฎหมาย โดยเฉาะที่เกิดขึ้นกับเด็กซึ่งได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิเด็กและเยาวชนขององค์การสหประชาชาติ

ขอฝากเตือนเพิ่มเติมถึงทุกผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อพบเห็นการกระทำในลักษณะดังกล่าว อย่าเข้าไปดู แสดงความคิดเห็น หรือส่งต่อ เพราะยิ่งมีส่งต่อเรื่องราวดังกล่าวก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำผู้เสียหายและส่งเสริมการกระทำที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากทุกคนล้วนเป็นส่วนสำคัญในการช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวและทำให้สังคมออนไลน์เป็นสังคมที่น่าอยู่ต่อไป และหากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“ผู้ช่วยฯรอย”เผยตำรวจ สภ.วัฒนานคร รวบคนร้าย ชิงทรัพย์ร้านทอง พร้อมของกลาง คาจุดสกัด

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผช.ผบ.ตร.และ รรท ผบช.ภ.2 ได้เปิดเผยว่า จากกรณี ที่ สภ.พระอินทร์ราชจว.พระนครศรีอยุธยา ได้รับรายงานเหตุ ว่าเมื่อ เวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 22 มิ.ย ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 1 คน ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชเอเชีย ในห้างโลตัส บางปะอิน สภ.พระอินทร์ราชา จว.พระนครศรีอยุธยาได้สร้อยทองรูปพรรณน้ำหนักเส้นละ 1 บาทไปจำนวน 21 เส้น  แล้วหลบหนีไปโดยใช้รถยนต์โตโยต้า วีออส  ทะเบียนกษ 6547 นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน  ติดตามแกะรอยคนร้ายทราบข้อมูลว่าหลบหนีไปทาง จว.นครนายก มุ่งหน้า ปราจีน-สระแก้ว

ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้รับการประสานจากชุดสืบสวนติดตาม ให้ช่วยสังเกตุ ยานพาหนะคนร้าย และสกัดจับตั้งแต่เวลาประมาณ 18.00 น. จึงได้สั่งการทุก สภ.ตั้งจุดตรวจจุดสกัด จนกระทั่ง เวลาประมาณ  21.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ สภ.วัฒนานคร จว.สระแก้ว ซึ่งตั้งจุดสกัดบริเวณหน้าสวนสมเด็จพระนเรศวร ถ.สุวรรณศร ได้พบรถยนต์คนร้าย กำลังมุ่งหน้าไปทาง อ.อรัญประเทศขับขี่มาถึงจุดตรวจ จึงได้เรียกตรวจค้น พบนายธราเทพ จันทร์แดงอายุ 34 ปี  ขับขี่รถมาคนเดียว ผลการตรวจค้นพบ สร้อยคอทองคำจำนวน 19 เส้น ซึ่งนายธราเทพฯ ให้การยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองดังกล่าว แต่ทองตกหล่น ระหว่างวิ่งหลบหนีไป 1 เส้น และตนได้แวะขายทองที่ร้านทองในเขตนครนายกไป1 เส้น เหลือทองตามจำนวนที่ถูกตรวจพบ

 

จึงประสานแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. พระอินทร์ราชา ให้ทราบ และติดตามมาสมทบ ร่วมกันจับกุมตัวนายธราเทพฯ พร้อมของกลาง ขณะนี้ผู้ต้องหา และของกลาง อยุ่ที่ สภ.วัฒนานคร เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการจับกุม และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จว.สระแก้ว มาตรวจเก็บ DNA ของผู้ต้องหาไว้ด้วยแล้วและเตรียมส่งมอบตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระอินทร์ราชา รับไปดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

โครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เพื่อร่วมกันทุกฝ่ายในการแก้ไขปัญหายาเสพติดภายในชุมชนอย่างยั่งยืน ตามโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ

วันที่ 22 มิถุนายน 2564 เวลา 10.00 น. ณ ศาลาประชาคมบ้านชุมตาบงสอง อ.ชุมตาบง จังหวัด นครสวรรค์ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.(ปป) เป็นประธานการตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้าโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ พร้อมด้วย

พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส.,พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.(1),พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล รอง ผบช.ปส.(4),พล.ต.ต.สมบัติ ชูชัยยะ ผบก.อก.บช.ปส. และ พ.ต.อ.เกรียงไกร บุญซ้อน รอง ผบก.สส.สทส.ปรก.สนง.ผบช.ปส. โดยมี พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์,พ.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา รอง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์,พ.ต.อ.เดชา ศรีชัย ผกก.สภ.ชุมตาบง,นายอรรถการณ์ จิตถวิล นายอำเภอชุมตาบง,คุณวาสนา พันธ์สุข สาธารณสุขอำเภอชุมตาบง,นายจตุพล ยะจอม ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง,นายณัฐพล ยอดตลาด นักวิชาการสาธารณสุขโรงพยาบาลชุมตาบง,นายสุนทร รอดพุ่ม ประธาน กต.ตร.สภ.ชุมตาบง,นายอวยชัย มหัฆพงษ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลชุมตาชงบง,กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และส่วนราชการต่าง ๆ ในพื้นที่เข้าร่วมให้การต้อนรับพร้อมเสนอผลการปฏิบัติงานของชุมชนบ้านชุมตาบงสอง อ.ชุมตาบง จว.นครสวรรค์

ในการนี้ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.(ปป) และ พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. ได้มอบหน้ากากอนามัย พร้อมด้วยเจลแอลกอฮอล์ แก่ตัวแทนโครงการเพื่อใช้ในการแจกจ่ายให้กับคนในชุมชนสำหรับป้องกันโรคไวรัส COVID-19


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top