Monday, 20 May 2024
CRIMES

ดีอีเอส ร่วม ตร โชว์ผลจับกุมพนันยูโร 2020 พร้อมรับเรื่องร้องทุกข์กลุ่มผู้เสียหาย ถูกหลอกเล่นเว็บไซต์พนัน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. 64 ที่ห้องประชุม กระทรวง ดีอีเอส ชั้น 9 อาคารบี ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อม พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. - รองโฆษก ตร. ร่วมรับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายจากการถูกชักชวนร่วมลงทุนพนันออนไลน์เบื้องต้นมีผู้เสียหาย 39 ราย ทั้งสูญเงิน ถูกหลอกถ่ายคลิป และโพสต์ทวิตเตอร์ประจาน พร้อมแถลงผลการปฏิบัติการปราบปรามเว็บพนันออนไลน์ฟุตบอลยูโร 2020 โดยกระทรวงดิจิทัลฯ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้ประสานการปฏิบัติในการปราบปราม เว็บไซต์การพนันออนไลน์ทุกรูปแบบ ภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่ให้มุ่งเน้นการปราบปรามการกระทำความผิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์โดยเฉพาะในช่วงมีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 ที่ต้องเฝ้าระวังและเข้มงวดตรวจสอบการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลผ่านระบบออนไลน์

ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ฯ กล่าวว่า ผู้เสียหายกลุ่มนี้ถูกคนร้ายแอดเป็นเฟรนด์กับเหยื่อก่อนจะชักชวนร่วมลงทุนพนันออนไลน์ โดยคนร้ายจะเล่นให้เมื่อได้กำไรก็จะคืนเงินให้ แต่เมื่อเล่นไปถึงจุดหนึ่งผู้เสียหายต้องการถอนเงินคืน คนร้ายบอกต้องเพิ่มเงินเข้าไปตามจำนวนก่อน แต่เหยื่อรายหนึ่งมีเงินไม่พอ คนร้ายจึงขอให้ถอดเสื้อผ้าถ่ายรูป-คลิปเป็นประกัน ก่อนเอามาแบล็คเมลล์ สุดท้ายเอาคลิปไปปล่อยในทวิตเตอร์ประจานผู้เสียหายอีกเบื้องต้นมีผู้เสียหาย 39 ราย ทั้งสูญเงิน มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท

กรณีนี้จึงมีความผิด 2 ส่วน คือ เรื่องหลอกลวงลงทุน กับเรื่อง พ.ร.บ.คอมพ์ ม.14(4) ปล่อยภาพลามกอนาจาร และ ป.อาญา ม.309 บังคับขู่เข็ญให้หรือไม่กระทำการใด ๆ (แบล็คเมลล์) ซึ่งผู้เสียหายได้มีการแจ้งความทั้งที่สถานีตำรวจ และ บก.ปอท. โดยรมว.กระทรวง ดีอีเอส ได้กำชับให้ บก.ปอท.ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีโดยเร็วเพื่อไม่ให้เป็นภัยสังคมหลอกเหยื่อต่อไปอีก

อย่างไรก็ตาม ภายใต้นโยบายรัฐบาล ในเรื่องการลักเล่นการพนันทายผลฟุตบอลผ่านระบบออนไลน์นั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ได้กำชับให้ทุกหน่วยในสังกัดเพิ่มความเข้มในการสืบสวนปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการพนัน และบ่อนการพนัน ทุกรูปแบบทุกช่องทางอย่างเคร่งครัด และพร้อมบูรณาการประสานการปฏิบัติกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นการกระทำความผิดหรือพบเบาะแสเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ สามารถแจ้งไปยังสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลข 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 3 คดี ผู้ต้องหา 11 คน ไอซ์ 500 กิโลกรัม และยาบ้าจำนวน 4,200,000 เม็ด

วันอังคาร ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2564 เวลา 10.00 น. ณ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ

ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ปราบปรามแหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด ตลอดจนการป้องกันและปราบปรามแหล่งชุมชนที่มีการแพร่ระบาดของยาเสพติด และชุมชนที่เชื่อว่าเป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติดและพื้นที่ล่อแหลม

​ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.(ปป), พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป 6), พล.อ.วรเกียรต รัตนานนท์ เลขาธิการ กอ.รมน., พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่3/ผอ.ศอ.ปส.ชน., และ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รับบัญชานำข้อสั่งการนำสู่การปฏิบัติ

​กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด โดย พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส.,พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.นพดล ศรสำราญ รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.บรรพต มุ่งขอบกลาง ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ นาวิน ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ลีลาเขตต์ ผบก.ขส., พล.ต.ต.สมบัติ ชูชัยยะ ผบก.อก.บช.ปส., พล.ต.ต.หญิง วนิดา หาญบุญเศรษฐ ผบก.ประจำ บช.ปส.

สำนักงาน ป.ป.ส. โดย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส.,พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส., พ.ต.ท.ไพศิษฎ์  สังคหะพงศ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส.,นายธนากร คัยนันท์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส.,นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผอ.ปปส.ภ.5,นายอุดมชัย โลหณุต ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด,นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.ปป.6 ปปส., นายนพดล นุใหม่ นักสืบสวนฯ ชำนาญการพิเศษ, นางทิพย์ชนก โชติกเสถียร นักสืบสวนฯชำนาญการ, นายเชาวลิต ชูเลื่อน นักสืบสวนฯชำนาญการ, นายปทาน ช่วยเพชร นักสืบสวนฯชำนาญการ, นายศักดิ์วุฒิ ใจสมุทร นักสืบสวนฯชำนาญการ

​กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดย พล.ท.ธนณัฐ ยังเฟื่องมนต์ ผอ.ศปป.2 กอ.รมน., พล.ต.ศุรพงษ์ ชำนิยันต์ รอง ผอ.ศปป.2 กอ.รมน., พล.อ.ต.สมยศ  จุลเสน รอง ผอ.ศปป.2, พ.อ.เสกสรร โพทิพยวงศ์ ผช.ผอ.ศปป.2 กอ.รมน.

ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย โดย พล.ท.กนกพงษ์ จันทร์นวล ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย และ พ.อ.อภิชาติ ชูเกียรติตกุล ผอ.กอง 12

คดีที่ 1

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.2 ร่วมกับเจ้าที่ตำรวจ บก.ขส., ชุดวิเคราะห์ข่าวฯ บก.ปส.2, ปป.3 สปป.ป.ป.ส., เจ้าหน้าที่ ศรภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 4 คน

ผู้ต้องหา

1. นายพีรพัฒน์ หรือติมอร์ พิรักษา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/102 ม.7 ต.บางจาก อ.พระประแดง จว.สมุทรปราการ

2. นายสามารถ หรือแก๊ป คุ้มสมุทร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 ม.1 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ 

3. นายพุฒิพงศ์ หรือปอนด์ พวงสมบัติ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 ม.4 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ 

4. นายศุภฤกษ์ หรือแครอท  แรงกสิวิทย์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/9 ม.11 ต.บางครุ อ.พระประแดง จว.สมุทรปราการ

พร้อมของกลาง จำนวน 5 รายการ

​1. ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 516 กิโลกรัม

​2. รถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน

​3. รถยนต์เก๋ง จำนวน 1 คัน

​4. อาวุธปืน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 12 นัด

​5. โทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 8 เครื่อง

​โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้อนุญาต และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ใจครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

สถานที่เกิดเหตุ/จับกุม

​พิสมัยรีสอร์ท ต.จุมจัง อ.กุฉินารายณ์ จว.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 11.00 น.พฤติการณ์แห่งคดี  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทำการสืบสวนขยายผลและวิเคราะห์ข้อมูลจากการจับกุมเครือข่าย  ยาเสพติดรายสำคัญในห้วงที่ผ่านมารวม 7 คดี สามารถตรวจยึดยาบ้ารวม จำนวนประมาณ 20,000,000 เม็ด, ตรวจยึดไอซ์ รวมจำนวนประมาณ 2,000 กิโลกรัม และยาเสพติดอื่นอีกจำนวนมาก ทำให้พบข้อมูลว่ายังมีเครือข่าย ยาเสพติดที่พยายามลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้วนำไปซุกซ่อนอำพรางในสินค้าต่าง ๆ เพื่อลักลอบส่งออกไปยังต่างประเทศจึงได้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 พบข้อมูลว่ากลุ่มผู้ต้องหาจะขึ้นไปดำเนินการเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชุดจับกุมจึงร่วมบูรณาการออกสืบสวนติดตาม จนพบว่าในเวลาช่วงเช้ามืดของวันที่ 10 มิถุนายน 2564 กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ใช้รถยนต์จำนวน 2 คัน ขับขี่ตามกันเข้าไปในพื้นที่ริมแม่น้ำโขง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม แล้วขับขี่กลับออกมามุ่งหน้าเข้าสู่พื้นที่ตอนในและเข้าพักที่ พิศมัยรีสอร์ท ต.จุมจัง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ จึงเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง  4 คน พร้อมของกลาง ไอซ์ จำนวน 12 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 516 กก. และสืบสวนขยายผลยึดทรัพย์ เพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวต่อไป 

คดีที่ 2

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 00.10 น. ต่อเนื่องวันที่ 10 มิถุนายน 2564 เวลา 23.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. ได้จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 4 คน

ผู้ต้องหา

1. นายกมลชัย พูลสวัสดิ์ อายุ 21 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 120 ม. 3 ต. มงคลธรรมนิมิต อ. สามโก้ จว.อ่างทอง

2. น.ส.นภิศ พิกุลขาว อายุ 29 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 59 ม.6 ต.อบทม อ.สามโก้ จว.อ่างทอง

3. นายสาทร  อาหลี อายุ 26 ปี   บ้านเลขที่ 48 ม.4 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จว.สงขลา

4. นายฮารง  ยามา อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 2/9 ม.4 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จว.สงขลา 

พร้อมของกลาง จำนวน 6 รายการ

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด

2. รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ อีซูซุ จำนวน 1 คัน

3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ อีซูซุ จำนวน 1 คัน

4. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ มิซูบิชิ จำนวน 1 คัน

5. รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน

6. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต” 

​สถานที่เกิดเหตุและจับกุม บริเวณด่านตรวจพยุหะคีรี ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์ ต่อเนื่อง โรงแรม มิรา รีสอร์ท เลขที่ 173 ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง จว.พัทลุง

​พฤติการณ์แห่งคดี  เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนและติดตามกลุ่มบุคคล มีพฤติการณ์ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากกลุ่มผู้ว่าจ้าง จากพื้นที่ทางภาคเหนือ มาส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน จว.เชียงราย มุ่งหน้าไปยัง จว.แพร่ และใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 11 มุ่งหน้าจาก อ.เด่นชัย จว.แพร่ มุ่งหน้าไปยังภาคกลาง จนกระทั่ง วันที่ 10 มิถุนายน 2564 สามารถจับกุม ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ได้ที่บริเวณด่านตรวจพยุหะคีรี ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จว.นครสวรรค์ พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด จับกุมผู้ต้องหาที่ 3 ได้ที่ บริเวณโรงแรมมิรารีสอร์ท เลขที่ 173 ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง จว.พัทลุง และ สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ 4 ได้ที่บริเวณบนถนนเพชรเกษม ต.ท่ามิหรำ อ.เมืองพัทลุง จว.พัทลุง จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ตามกฎหมายเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคล ในเครือข่ายและยึดทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป

คดีที่ 3

เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 08.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส.บช.ปส.ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ผู้ต้องหา 3 คน

ผู้ต้องหา

1. นายศุภโชค สุขสุด อายุ 35 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 55 ม.1 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จว. พิษณุโลก

2. นายวิชัย อินทรีย์วงศ์ อายุ 40 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 86 ม. 1 ต.สระพังลาน อ.อู่ทอง จว. สุพรรณบุรี                             

3. นายประมวล ขันแก้ว. อายุ 36 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 115 ม.1 ต.บัววัฒนา อ.หนองไผ่ จว.เพชรบูรณ์

พร้อมของกลาง จำนวน 4 รายการ

1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวนประมาณ 4,000,000 เม็ด

2. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน  ยี่ห้อ ISUZU จำนวน 1 คัน

​3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA จำนวน 1 คัน

4. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ MG จำนวน 1 คัน

5. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda จำนวน 1 คัน

6. ทองคำแท่ง น้ำหนักประมาณ 5 บาท

7. ทองรูปพรรณ น้ำหนักประมาณ 3 บาท

8. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต” 

สถานที่เกิดเหตุ บริเวณภายในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ หสน.ธวัชบริการแพร่ เลขที่ 188 หมู่ 4 ต. ทุ่งโฮ้ง อ.เมือง จว.แพร่ ต่อเนื่อง บริเวณภายในลานจอดรถตลาดไท ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี

สถานที่เกิดเหตุและจับกุม 

​สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า นายศุภโชค สุขสุด ซึ่งมีประวัติเกี่ยวกับ ยาเสพติดให้โทษ ร่วมกับ นายวิชัย อินทรีย์วงศ์ ทั้งสองมีพฤติการณ์ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ และจะนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่ทางกลางและปริมณฑล ตามสั่งการของผู้ว่าจ้าง โดยใช้เส้นทาง จว.เชียงราย - พะเยา – ลำปาง - แพร่ - อุตรดิตถ์ - พิษณุโลก - พิจิตร - นครสวรรค์ จนกระทั่งวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลา 08.30 น.สามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 และ 2 ได้ที่บริเวณ บริเวณภายในปั๊มน้ำมันเอสโซ่ หสน.ธวัชบริการแพร่ เลขที่ 188 ม. 4 ต.ทุ่งโฮ้ง อ.เมือง จว.แพร่ พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 4,000,000 เม็ด และจับผู้ต้องหาที่ 3 ได้ที่บริเวณภายในลานจอดรถตลาดไท ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จว.ปทุมธานี จึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ตามกฎหมายเพื่อขยายผลออกหมายจับบุคคล ในเครือข่ายและยึดทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป

ตำรวจ PCT โชว์ผลงานจับกุม 4 คดีสำคัญในรอบ 2 เดือน

วันนี้ (15 มิ.ย.64) เวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ. PCT, พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ฯ , พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8, พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. แถลงผลการปฏิบัติของศูนย์ PCT ในรอบเดือน พ.ค.- มิ.ย.64 พร้อมเรียกประชุมตำรวจ PCT ทั่วประเทศ กำชับแนวทางการปฏิบัติ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีนโยบายให้ตำรวจทุกหน่วยเร่งปราบปรามการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะการทายผลฟุตบอลยูโร (Euro 2021)​ ซึ่งในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ศูนย์ PCT มีผลการจับกุมคดีสำคัญทั้งสิ้น 17 คดี ผู้ต้องหา 46 คน  ผู้เสียหาย 2,000 คน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท เช่น จับกุมเครือข่ายพนันออนไลน์ทายผลฟุตบอลยูโร Betclic89 บางเขน, เครือข่าย UFA168SURE นนทบุรี, เครือข่าย Superslot ขอนแก่น, เครือข่าย imi9bet.com นครศรีธรรมราช, เครือข่าย ALLSLOT777.com สมุทรปราการ, เครือข่าย PGSLOT889.com บางยี่ขัน และ ล่าสุด "สำนักใบ้หวยแม่น้ำหนึ่ง" ซึ่งเป็นการแนะนำให้เล่นหวยผ่านเว็บพนันออนไลน์ เงินหมุนเวียนในบัญชีรวมหลายพันล้านบาท

สำหรับในวันนี้เป็นการแถลงผลการจับกุมคดีสำคัญที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก 4 คดี คือ

>> คดีแรก จับกุมผู้ต้องหา Romance Scam และเงินดำ

เมื่อวันที่ 7 พ.ค.64 ชุดสอบสวนเฉพาะทาง PCT ได้ร่วมกับ สน.ปทุมวัน และตรวจคนเข้าเมือง จับกุมตัวผู้ต้องหา 2 ราย คือ Miss NATALYA TERESA SILVA (ลูกสาว) สัญชาติอเมริกัน และ นางโรชินีเปรม เดียลดาส (มารดา) สัญชาติไทย ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหาย เป็นเงินกว่า 16 ล้านบาท

ก่อนหน้าผู้เสียหายได้รู้จักกับ นายจิมมี่ จาง (Jimmi Zhang)​ ทาง Facebook ซึ่งใช้ชื่อว่า "MD Wasin"  และได้มีการสนทนากันมาเป็นระยะโดยอ้างว่า เป็นวิศวกรอยู่กลางทะเล ประเทศอิตาลี ระยะหลังเริ่มอ้างว่าอุปกรณ์ทำงานเสีย ต้องสั่งซื้อ แต่กลับไปถอนเงินบนฝั่งไม่ได้ จึงขอให้ผู้เสียหายโอนเข้าบัญชี หลังจากนั้นก็อ้างว่าตนป่วย และต้องใช้เงินวิ่งเต้นเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อโอนเงินคืนให้ ซึ่งผู้เสียหายก็หลงเชื่อ และให้ยืมเงินเรื่อยมา รวม 55 ครั้ง เป็นเงิน 14.5 ล้านบาท โดยอ้างว่าจะคืนเป็นเงิน 4 ล้านดอลล่าห์ คิดเป็นมูลค่า 21 ล้านบาท

ต่อมากลุ่มผู้ต้องหาวางแผนอ้างเป็นบริษัทพัสดุ ติดต่อให้ผู้เสียหายมารับกระเป๋าที่ส่งมาจากดูไบ แต่ต้องนำเงินมาชำระ 1,500,000 บาท โดยนัดรับส่งกันที่จามจุรีสแควร์ ชั้น 24 จนผู้เสียหายหลงเชื่อ นำเงินมาแลกกับกระเป๋า ทราบภายหลังว่าเป็นเงินปลอม จึงได้มาแจ้งความต่อศูนย์ PCT ทำการสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้ พร้อมเงินของกลาง 1,500,000 บาท คืนให้กับผู้เสียหาย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือจะได้ติดตามมาดำเนินคดีต่อไป

 >> คดีที่ 2 จับกุมผู้ต้องหาแชร์ออนไลน์ “บ้านปีใหม่”

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2564 จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ได้แก่ น.ส.กชมน (สงวนนามสกุล)และนาย วศิน (สงวนนามสกุล) ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 1589/39 หมู่บ้าน เดอะ มิราเคิล พลัส โครงการ 3 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

 ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน, ผู้นั้นจ่ายหรือ โฆษณา ประกาศ แพร่ข่าว หรือตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้กู้ยืมเงิน ในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ย สูงสุด ที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่าย” นําส่ง กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

พฤติการณ์ในคดี เมื่อประมาณต้นปี 2563 เป็นต้นมา กลุ่มผู้ต้องหาได้มีการโพสต์ข้อความ โฆษณาทางแอพพลิเคชเทนเฟชบุ๊ค ชักชวน ให้ประชาชนทั่วไป ร่วมเล่นแชร์ และออมเงินการันตี ผลตอบแทนสูง ตามรูปแบบและระยะเวลาที่ผู้ต้องหากําหนด เมื่อมีผู้สนใจผู้ต้องหาจะให้เข้าร่วมเล่นแชร์ ผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์กลุ่ม ชื่อ "แชร์บ้านปีใหม่" จากนั้นผู้ต้องหาจะชักชวนให้ลงทุนออมเงินระยะ สั้นต่อ มีการสร้างความน่าเชื่อถือโดยการประกาศในกลุ่มไลน์ว่า ส่งยอดไว ฟรีดูแล ไม่ต้องรอเก็บยอด ครบ มีแจกมีแถมเงินทอง ท้าวมีธุรกิจมั่นคงมีเงินเย็นสํารองไม่มีท้าวหักรับกันตาย ซึ่งจะมีนายวศินฯ สามี ของ น.ส.กชมนฯ เป็นผู้ดูแลกลุ่มไลน์ดังกล่าว เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจะให้โอนเงินไปที่บัญชีของผู้ต้องหา ทั้ง 2 ราย

รูปแบบของการลงทุนเป็นการออมระยะสั้น ราย 30 วัน ราย 20 วัน หรือตามที่ท้าวกําหนด รับ ผลตอบแทนร้อยละ 20 ต่อรอบ โดยกําหนด 1 วงให้ผู้เล่นจะลงทุนกี่มือก็ได้ ซึ่งในช่วงแรกได้รับ ผลตอบแทนจริง ต่อมาภายหลังผู้ต้องหาอ้างว่าบ้านแชร์ล้ม เมื่อผู้เสียหายทวงถามเงินคืนก็ถูกบ่ายเบี่ยง จึงทําให้มีผู้เสียหายมากกว่า 200 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท

>> คดีที่ 3  จับกุมผู้ต้องหา แอบอ้างใช้รูปดาราไปสร้างโปรไฟล์ในทวิตเตอร์ เพื่อการค้าประเวณี

เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 64 จับกุม นายศรีสวัสดิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา ที่บ้านพัก chill pool villa ต.หมูสี อ.ปากช่อง จว.นครราชสีมา ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “เป็นธุระจัดหาล่อไป หรือชักพาไป ซึ่งบุคคลใดให้เพื่อบุคคล นั้น กระทําการด้วยวิธีใด ค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม ,โฆษณาชักชวน หรือแนะนําด้วย เอกสาร สิ่งพิมพ์ หรือกระทําให้แพร่หลายไปยังสาธารณะที่เห็นได้ว่าเป็นการเรียกร้องหรือการติดต่อ เพื่อการค้าประเวณีของตนเองหรือผู้อื่น ,เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น” นําส่งสน.ลาดพร้าว และแจ้ง ข้อกล่าวหา “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา”

พฤติการณ์ในคดี ผู้ต้องหานํารูปในอินสตราแกรมของ น.ส.เพียววรินทร์ กอศิริวลานนท์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง ชื่อบัญชี purewr.g มา ใช้เป็นรูปโปรไฟล์ในทวิสเตอร์ชื่อบัญชี “นางฟ้า SL” เพื่อชักจูงลูกค้า ในการค้าประเวณี จากนั้นใช้ แอปพลิเคชั่นไลน์ชื่อ “น้องไอติม” ติดต่อลูกค้า แจ้งราคา และนัดหมายสถานที่ แล้วแจ้งผู้ค้าประเวณีให้ ทราบ โดยการค้าประเวณีครั้งละ 1,500 บาท ผู้ต้องหาได้ส่วนแบ่งจากการค้าประเวณีเป็นจํานวนเงินครั้ง ละ 500 บาท

>> คดีที่ 4 จับกุมพนันออนไลน์ ฟุตบอลยูโร 4 จุด

จุดที่ 1 บ้านเลขที่ 50/42 หมู่บ้านไลฟ์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 65 บางเขน จับกุมนายธนวิชญ์ (สงวนนามสกุล) เครือข่ายเว็บไซต์ https://mbc.sunmcsports.com/ และไลน์กอด Berclic89

จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 99/185 ซ.บงกช 42 หมู่บ้านเดอะนอร์ธเทิร์นโนวายาซิมลียา ถ.เลียบคลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จับกุม นายสุทธิศักดิ์ หรือ ต้อม (สงวนนามสกุล) และ นายพงศวัชร หรือ พัด (สงวนนามสกุล) เครือข่ายเว็บไซต์ SBOUFABET

จุดที่ 3 บ้านไม่มีเลขที่ บึงหนองโครต ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น จับกุม นายอิทธิพล และ น.ส.พรพรรณ (สงวนนามสกุล ) เครือข่าย Superslot

จุดที่ 4 บ้านไม่มีเลขที่ หมู่บ้าน the flex ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น จับกุม นายธนวิชญ์ (สงวนนามสกุล) ในข้อหา "ประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์" ยึดของกลาง รถยนต์ ยี่ห้อ BMW รุ่น 430i coupe m sport สีขาว 1 คัน และ รถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด 1 คัน คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่ม ซิมการ์ด 194 ชิ้น บัตร ATM 14 ใบ ยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีประมาณ 50 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนทรัพย์สินที่ตรวจพบทั้งหมดจะทำรายงาน ปปง. มีคำสั่งยึดและอายัดตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป

ก่อนหน้าสืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้ทำการเปิดเว็บไซต์ https://mbc.sunmcsports.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์พนันออนไลน์ฟุตบอลยูโร, หวย และการพนันประเภทอื่น ๆ โดยใช้บ้านเลขที่ 50/ 42 หมู่บ้านไลฟ์บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา 65 เขตบางบอน กรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งเซิฟเวอร์

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ ย้ำว่า ช่วงนี้มีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (EURO 2020) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยและกำชับมิให้มีการเล่นการพนัน โดยเฉพาะการทายผลการแข่งขันฟุตบอล รวมถึงการทายผลทางออนไลน์ด้วย ซึ่งถือเป็นความผิดตามกฎหมาย โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับให้กวดขันจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ ศูนย์ PCT ได้พยายามสร้างภูมิกันให้กับประชาชนโดยการผลิตคลิป เตือนภัยในรูปแบบต่าง ๆ ของอาชญากรรมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เช่น คลิป "รู้ทัน แชร์ลูกโซ่", "รู้ลึก พนันออนไลน์ ภัยใกล้ตัว กับติ๊ก บิ๊กบราเธอร์", "ลงทุนแค่ 100 ได้เงินเป็น 1,000,000" , "3 กระบวนยุทธ์ สกัดหยุด การโจรกรรมข้อมูลออนไลน์", "ภัยใกล้ตัว ระวัง เงินหายหมดบัญชี" และล่าสุดคลิป "รักแท้ ใครว่าแพ้ระยะทาง" ซึ่งเป็นคลิปเตือนภัยเรื่อง Romance Scam โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่ Facebook Page และ Youtube @PCTPOLICE  และจะมีการผลิตคลิปเตือนภัยทุกเดือน  เพื่อให้ทันต่อรูปแบบของอาชญากรรมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หากพบพฤติการณ์ดังกล่าวสามารถโทรแจ้งเบาะแสมาที่สายด่วน ตร. 1599 ตลอด 24 ชม. หรือสายตรง ศูนย์ PCT 081-8663000 เฉพาะเวลาราชการ

สืบสวน ภ.จว.นครพนม ไล่ล่าขบวนการ ค้ากัญชาข้ามชาติ

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2564 เวลาประมาณ 03.00 - 09.00 น. กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ตำรวจน้ำนครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันขยายผลการจับกุม ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดประเภท 5 กัญชาแห้งอัดแท่ง ซึ่งลักลอบขนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ข้ามแม่น้ำโขงขึ้นฝั่งในพื้นที่ จ.นครพนม  โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ผู้ต้องหา 2 คน ที่บริเวณสามแยกไฟแดงหน้าโลตัสสาขาธาตุพนม จากการตรวจสอบภายในรถยนต์ พบหีบห่อถุงพลาสติกสีดำ ภายในบรรจุกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 13 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 520 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์กระบะโตโยต้า คันหมายเลขทะเบียน บต 4339 มุกดาหาร เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เวลาต่อมาในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดเดิมได้สอบสวนขยายผลจากคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน โดยได้ติดตามจับกุม ขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติกลุ่มเดียวกัน ได้ในขณะจอดพักที่บริเวณรีสอร์ท คุณเพียร รีสอร์ท ต.คำอาฮวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร พิกัด 48Q VD 691256 ได้ผู้ต้องหา 3 ราย 1.นายสุวัชชัย แจ้งแสง อายุ 36 ปี 187 หมู่ 19 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง  จ.นครราชสีมา 2.นายสมชาติ แสงสว่าง อายุ 36 ปี ที่อยู่ 628 ซ.บางบอน 3 ข.บางบอน เขตบางขุนเทียน กทม. และ 3.นายสุพัฒน์ โพธิ์ร่มขิง อายุ 32 ปี ที่อยู่ เลขที่ 4 ซอยบางกระดี่ 1 แยก 14 ข.แสมดำ ข.บางขุนเทียน กทม. พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 5 กัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 25 กระสอบ คาดว่าน้ำหนักประมาณ 1,150 กก. บรรทุกในกระบะหลังคาทึบของรถยนต์เชฟโรเล็ต โคโรลาโด สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 ฒน 4730 กทม. และรถร่วมขบวนการอีก 2 คัน เป็นรถตู้ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน นข 8712 ภูเก็ต และรถยนต์กระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ สีบรอนด์เทา ติดสัญญาณไซเรน หมายเลขทะเบียน ถข 7545 กทม. พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถืออีก จำนวน 5 เครื่อง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางกลับไปสอบสวนขยายผล และแถลงข่าว จากนั้นจะนำส่งเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  เดวิท โชคชัย จ.มุกดาหาร

อช.แก่งกระจาน เปิดแผน “ปักษาแหวกรัง เต่าดำมุดบาดาล” ป้องปรามผู้บุกรุกป่าและล่าสัตว์

วันที่ 11 มิ.ย. นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่าทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้เปิดแผนปฏิบัติการ “ปักษาแหวกรัง เต่าดำมุดบาดาล” ระหว่างวันที่ 7-10 มิถุนายน 64 โดยสนธิกำลังร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจฯพญาเสือ กองร้อย ตชด.ที่ 144 ศพฐ.7 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สภ.แก่งกระจาน กองการบิน สป.ทส. สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ออกปฏิบัติการเพื่อพิสูจน์ทราบพื้นที่เป้าหมายในเขตอุทยาน ตามนโยบายของ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทส. และ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการดูแลรักษาป่าและป้องกันกระทำความผิดเกี่ยวป่าไม้ มี นายอิทธิพล ไทยกมล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

จัดตั้งกองบัญชาการเหตุการณ์ ณ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยส่งกำลังพลทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์รวม 15 นายลงสนาม ฮ.ชั่วคราว เพื่อเดินเท้าเข้าพื้นที่เป้าหมายระยะทางเดินเท้า 7 กม.ใช้เวลาเดินประมาณ 3 วัน 2 คืน ขณะที่ น.ส.เนตรนภา งามเนตร ผช.หน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นำกำลังพลเดินลาดตระเวนตามพื้นที่เป้าหมายในห้วงเวลาดังกล่าว

ผลการปฏิบัติสามารถยึดเพิงพักรวม 3 หลัง หลังแรกพบเครื่องอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค เครื่องกระสุนปืนไทยประดิษฐ์ ดินปืนจำนวนมาก ปลอกกระสุนปืนลูกซอง ซากสัตว์ป่าไม่สามารถระบุชนิดได้ซุกซ่อนอยู่ หลังที่ 2 และ 3 อยู่ห่างจากเพิงพักแรกที่ตรวจพบประมาณ 4 กม. ไม่พบบุคคลใดในเพิงพัก พบปลอกกระสุนปืนลูกซอง ผ้าห่ม เสื้อผ้าที่มีสภาพใหม่ ขวานที่ใช้สำหรับตัดไม้ ขวดน้ำ สลิงที่ใช้สำหรับทำแร้วดักสัตว์ จึงทำบันทึกตรวจยึดก่อนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ฐานความผิดตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และ พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ผู้ว่าฯนราธิวาส สั่งการให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายติดตามจับคุมยาเสพติด หลังสายข่าวแจ้งมียาเสพติดจำนวนมากอยู่ในพื้นที่ชายแดน เตรียมส่งประเทศเพื่อนบ้าน

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2564 เวลา 10.30 น.ภายใต้อำนวยการของ นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้สั่งการนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก และนายอนิรุทธ บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงปาดี ดำเนินการบูรณาการ กำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร เข้าตรวจยึดยาเสพติด สืบเนื่องจากชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครองอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

นำโดยนายพิมล จงรักษ์ ปลัดอำเภอ ได้จับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จึงขยายผลไปอำเภอสุไหงปาดี โดยสามารถตรวจยึดยาเสพติดยาบ้าได้จำนวน 102,800 เม็ด ณ หลังบ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 5 บ้านบือเจาะบือซา ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี  จังหวัดนราธิวาส 


ภาพ/ข่าว  แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส

ตำรวจเพชรฯ จับแก๊งขนบุหรี่เถื่อนมูลค่า 6 ล้านบาท ปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้จดทะเบียน มาจำหน่ายให้ตามสถานบันเทิง

วันที่ 11 มิ.ย. ที่หน้าทำการ ภ.จ.เพชรบุรี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี พร้อมด้วย นายกฤติเดช จิตรโอฬาร ฝ่ายบริหารการจัดเก็บภาษี สรรพสามิตพื้นที่เพชรบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวการจับกุมขบวนการลักลอบขนบุหรี่ผิดกฎหมาย พร้อมของกลางบุหรี่ปลอมยี่ห้อ SMS จำนวน 25,619 ซอง และบุหรี่เถื่อนยี่ห้อ Mond/John จำนวน 20,000 ซอง รวม 45, 619 ซอง คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ชะอำได้รับแจ้งเหตุรถกระบะชนเสาไฟฟ้าบริเวณบ้านสระ ซอย 3 ริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ อ.ชะอำ จึงรุดไปตรวจสอบพบรถกระบะมิตซูบิชิ ไททัน สีขาว ป้ายทะเบียน ยข 8030 ชลบุรี ชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางก่อนเสียหลักแฉลบพุ่งชนกำแพงร้านอาหารเจ้กุ้งพ่นไฟได้รับความเสียหายด้วย ในที่เกิดเหตุพบบุหรี่เถื่อนบรรจุใส่ลังกระดาษจำนวนมากตกอยู่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนในรถหนีไปได้

พล.ต.ต.อุทัย กล่าวว่าภายหลังเกิดเหตุได้สืบหาตัวคนร้ายจนทราบชื่อว่า นายนฤพงศ์ ชุ่มสวัสดิ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 810/5 ถ.เพชรเกษม(บ่อแขม) อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี จึงนำหมายศาล จ.เพชรบุรี ที่ 154/2564 ลงวันที่ 1 มิ.ย.64 เข้าจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในหมู่บ้านบางควาย-บางไทรย้อย อ.ชะอำ นำมาดำเนินคดีในความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่าย จำหน่ายและเสนอจำหน่ายยาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต ตรา SMS ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย พร้อมกันนี้ได้ให้ชุดสืบสวนสืบหาตัวผู้ร่วมขบวนการเนื่องจากสืบทราบว่าเป็นแก๊งรายใหญ่ที่นำบุหรี่ผิดกฎหมายมาจำหน่ายให้ตามสถานบันเทิงต่าง ๆ ในเขต อ.ชะอำ และ อ.หัวหิน ซึ่งจะได้ดำเนินการจับกุมต่อไป


ภาพ/ข่าว  นายนิพล ทองเก่า ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวสยามโฟกัสไทม์ / 4เหล่าทัพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

กก.สส.บก.ตม.4 ตรวจเข้มต่างด้าวในพื้นที่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 พบ Overstay หลายราย รวมกันกว่า 10 ราย

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.พิษณุ สิทธิฑูรย์ ผกก.สส.บก.ตม.4 ร่วมแถลงข่าวจับกุม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ตามนโยบายของ ผบก.ตม.4 ให้ตรวจสอบบุคคลต่างด้าวที่อยู่และเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาติสิ้นสุดในพื้นที่ อีกทั้งเน้นย้ำป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 บก.ตม.4 โดยกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตรวจคนเข้าเมือง 4 จึงนำรถยนต์ตรวจการอัจฉริยะ(BMW) ออกตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อพบบุคคลต่างด้าวต้องสงสัย และเดินทางมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรง จึงได้เชิญตัวมาตรวจสอบด้วยระบบสารสนเทศสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(Biometrics) ซึ่งสามารถตรวจพบและจับกุมผู้กระทำความผิดได้ทั้งสิ้น จำนวน 14 ราย ได้แก่

 1. Mr.Njibili สัญชาติ แคมเมอรูน overstay จำนวน 2,779 วัน จับกุมได้ที่จังหวัดขอนแก่น

 2. Mr.Atemapac สัญชาติ แคมเมอรูน overstay จำนวน 1931 วัน จับกุมได้ที่จังหวัดขอนแก่น

 3. MR.SEN อายุ 25 ปี สัญชาติ กัมพูชา overstay จำนวน 1,436 วัน จับกุมได้ที่จังหวัดชัยภูมิ

 4. MR.MOHAMED อายุ 69 ปี สัญชาติ เมียนมา overstay จำนวน 1,350 วัน จับกุมได้ที่จังหวัดอุดรธานี

 5. MR.YOGESH อายุ 29 ปี สัญชาติ อินเดีย overstay จำนวน 1,267 วัน จับกุมได้ที่จังหวัดสุรินทร์

 6. MR.ANAND อายุ 19 ปี สัญชาติ อินเดีย overstay จำนวน 996 วัน จับกุมได้ที่จังหวัดร้อยเอ็ด

 7. MR.SHRAVAN อายุ 29 ปี สัญชาติ อินเดีย overstay จำนวน 979 วัน จับกุมได้ที่จังหวัดนครราชสีมา

 8. MR.BHOLA อายุ 31 ปี สัญชาติ อินเดีย overstay จำนวน 764 วัน จับกุมได้ที่จังหวัดยโสธร

 9. MR.SHAILENDRA อายุ 32 ปี สัญชาติ overstay จำนวน 742 วัน จับกุมได้ที่จังหวัดสุรินทร์

 10. MR.VALENDAR อายุ 31 ปี สัญชาติ อินเดีย overstay จำนวน 715 วัน จับกุมได้ที่จังหวัดยโสธร

 11. MR.RAJESH อายุ 32 ปี สัญชาติ overstay จำนวน 672 วัน จับกุมได้ที่จังหวัดนครราชสีมา

 12. MR.SANTOSH อายุ 41 ปี สัญชาติ อินเดีย overstay จำนวน 664 วัน จับกุมได้ที่จังหวัดมหาสารคาม

 13. Mr.Nwofor สัญชาติ แคมเมอรูน overstay จำนวน 495 วัน จับกุมได้ที่จังหวัดขอนแก่น

 14. MR.DINH อายุ 31 ปี สัญชาติ เวียดนาม overstay จำนวน 213 วัน จับกุมได้ที่จังหวัดหนองคาย

 จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนในพื้นที่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆรวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตราย ต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178  หรือที่ www.immigration.go.th

ทหารผาเมือง สกัดชาวเมียนมา นำ 3 คนไทย ลอบข้ามแดนเพื่อกลับภูมิลำเนา สารภาพได้ค่าจ้าง 2,000 บาท ด้านทหารเร่งตรวจเชิงรุกตามแหล่งพักของชาวต่างด้าวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

คืนวันที่ 10 มิ.ย.64 ที่ผ่านมา กำลังททหาร กองร้อยสกัดกั้นที่ 1 บก.ควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ภายใต้การอำนวยการของ พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 2 กองกำลังผาเมือง นำโดย  ร.ท.ธีรพล  ธิเสนา ผู้บังคับกองร้อยควบคุมที่ 2 ได้จัดกำลังทำการลาดตระเวณ ช่องทางข้ามพรมแดนทางธรรมชาติบริเวณ บ้านสันทรายใหม่  ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามพรมแดนโดยผิดกฎหมาย  ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 รวมไปถึงสิ่งผิดกฎหมาย

โดยได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 4 คน กำลังเดินข้ามลำน้ำสาสยมาจากประเทศเมียนมา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนขอทำการตรวจค้น ทราบชื่อภายหลังคือ 1.นาย ZAW NAING TUM สัญชาติ เมียนมาร์ อายุ 28 ปี เป็นผู้นำพา  2.ด.ญ. เอ (นามสมมุติ) สัญชาติ ไทย อายุ 14 ปี ชาว ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย 3.น.ส.ปราโมทย์ สงวนนามสกุล สัญชาติ ไทย อายุ 28 ปี ชาว ต.เคร็ง อ.ชะลวด จ.นครศรีธรรมราช 4.นายบี (นามสมมุติ)สัญชาติ ไทย อายุ 16 ปี  ชาว ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย จากการตรวจค้น ไม่พบสิ่งผิดกฏหมาย 

จากการสอบถามผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าลักลอบข้ามพรมแดนมาจาก จ.ท่าขี้เหล็กประเทศเมียนมา เพื่อจะเดินทางกลับยังภูมิลำเนา โดยมีนาย ZAW NAING TUM มารับที่ฝั่งไทย โดยได้ค่าจ้าง 2,000 บาท เพื่อนำพาทั้ง 3 คนข้ามพรมแดนมายังประเทศไทย  หลังจากสอบปากคำเบื้องต้นแล้วทางเจาหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สำหรับสถานการณ์การลักลอบข้ามพรมแดน ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการลาดตระเวณ ตามแนวชายแดนรวมไปถึงนำสิ่งกีดขวางเพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาในประเทศ รวมไปถึงสิ่งผิดกฏหมาย โดยทางหน่วยเฉพากิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ได้มีการตรวจเชิงรุกตามแหล่งพักของแรงงานต่างด้าวเพื่อตรวจสอบว่ามีผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองมาพักอยู่ในพื้นที่หรือไม่ นอกจากนี้ยังได้มีการตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัส โควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อด้วย


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัตร ลาพิงค์

ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกาญจนบุรี “ทลายแก๊งลักลอบส่งออกรถจักรยานยนต์” ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว “จับกุมแก๊งคนจีนลักลอบเข้าเมืองพร้อมขบวนการ”

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม.ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน หรือเป็นลักษณะการกระทำผิดเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3, และ ว่าที่ พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงข่าวจับกุม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1). ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกาญจนบุรี “ทลายแก๊งลักลอบส่งออกรถจักรยานยนต์” ในห้วงที่ผ่านมา ตม.จว.กาญจนบุรี เข้มงวดกวดขันกับขบวนการลักลอบเข้า-ออกตามแนวชายแดนธรรมชาติอยู่เสมอมา โดยยกตัวอย่างในกรณีนี้ กลุ่มผู้ต้องหามีความพยายามนำรถจักรยานยนต์ออกจากประเทศไทยโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากรที่ถูกต้อง ทั้งยังให้การช่วยเหลือช่อนเร้น นำพา บุคคลต่างด้าวซึ่งหลบหนีเข้าเมืองโดยการขนย้ายฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯอีกด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้

ก่อนเกิดเหตุชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนทราบว่า จะมีกลุ่มบุคคลลักลอบขนย้ายรถจักรยานยนต์โดยใช้เส้นทางออกจากประเทศไทยไปยังประเทศเมียนมาร์ ผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณชายป่าห้วยวายอ ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี จึงได้วางแผนทำการจับกุมโดยได้บูรณาการกำลังกับหลายหน่วยงานราชการในพื้นที่ไปดักซุ่มอยู่บริเวณดังกล่าว ขณะซุ่มดูอยู่จนถึงเวลาประมาณ 00.30 น. ได้พบเห็นรถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน บรรทุกรถจักรยานยนต์ด้านหลังกระบะทั้ง 2 คัน ขับเข้ามาในที่เกิดเหตุลักษณะต้องสงสัยตามข้อมูลทางการสืบสวน ระยะเวลาต่อมาไม่นานขณะที่ซุ่มสังเกตอยู่พบว่ามีกลุ่มบุคคลลักษณะคล้ายคนเมียนมาเดินมาขึ้นรถ 2 คันดังกล่าว จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่ารถกระบะคันแรก เป็นรถยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีน้ำตาล บรรทุกรถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน เป็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาว มีนายโลโซ อายุ 43 ปี  ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ขับและมีนายชยากร อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาที่ 3 เป็นผู้นั่งโดยสารมาด้วยในรถ รถกระบะคันที่สอง เป็นรถยี่ห้อเชฟโรเล็ต สีขาว บรรทุกรถจักรยานยนต์ 2 คัน เป็นรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ125ไอ สีเทาดำ และรถยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟไอ สีดำ มีนายเชนโกอู อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้ขับรถ มีนายนิชาออง อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาที่ 4 นายอองเมียวทู อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาที่ 5 และนายโซ้ง อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาที่ 6 เป็นผู้นั่งโดยสารมาด้วยในรถ ในส่วนกลุ่มคนต่างด้าวชาวเมียนมาอีก 19 คนนั้น ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นคนหลบหนีเข้าเมือง ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นติดตัวมาอย่างใด

การแจ้งข้อกล่าวหา : ผู้ต้องหาที่ 1-6 “ร่วมกันพยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังไม่ผ่านพิธีการศุลกากร”

ผู้ต้องหาที่ 1-2 “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ ให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม”

ผู้ต้องหาที่ 7-25 (คนต่างด้าว 19 คน) “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ว่าราชการ ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความแห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548”

 การตรวจยึดของกลาง :

1. รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีน้ำตาล ทะเบียน กาญจนบุรี

2. รถยนต์กระบะ ยี่ห้อเชฟโรเล็ต สีขาว ทะเบียน กรุงเทพฯ

3. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ๑๒๕ไอ สีขาว ไม่ติดป้ายทะเบียน

4. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ๑๒๕ไอ สีเทา-ดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน

5. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟไอ สีดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน

6. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง

สอบถามผู้ต้องหาที่ 1-6 ให้การรับสารภาพสอดคล้องกันว่า รับการว่างจ้างจากนายหน้าฝั่งประเทศเมียนมาโดยการติดต่อผ่านโทรศัพท์มือถือ ให้บรรทุกรถจักรยานยนต์จากประเทศไทยไปส่งที่เมียนมาโดยในระหว่างทางให้แวะรับผู้ต้องหาที่ 7-25 ไปด้วยและรับค่าจ้างเที่ยวละ 3,000 – 5,000 บาท จากการสืบสวนมีข้อมูลเป็นไปได้ว่ากลุ่มขบวนการนี้อาจลักลอบกระทำผิดในลักษณะเดียวกันอยู่หลายครั้ง

โดยในส่วนรถยนต์กระบะของกลางตรวจสอบประวัติย้อนหลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวพันกับการกระทำผิดข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ(เดินทางข้ามพื้นที่ควบคุมโรค) มาแล้วถึง 2 ครั้ง จึงจับกุมตัวพร้อมของกลางนำส่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

2). ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว “จับกุมแก๊งคนจีนลักลอบเข้าเมืองพร้อมขบวนการ”

ในห้วงนี้ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วมีการเข้มงวดตรวจสอบตรึงแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยมีการกวดขันจับกุมบุคคล ที่ลักลอบเข้า–ออกไม่ผ่านช่องทางที่ได้รับอนุญาตถูกต้อง ตลอดจนขบวนการที่คอยช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้อยู่ ในครั้งนี้ได้ทำการจับกุม กลุ่มคนจีนซึ่งใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านลักลอบเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติโดยต้องการจะลักลอบเดินทางออกไปประเทศกัมพูชา โดยสามารถจับได้พร้อมขบวนการช่วยเหลือซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

ก่อนเกิดเหตุ ชุดสืบสวนตม.จว.สระแก้ว ได้ร่วมทำการสืบสวนทราบว่าจะมีการลักลอบเดินทางเข้าหลบหนีเข้าเมืองผ่านพื้นที่บ้านโคคลาน ม.1 ต.โคคลาน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว โดยใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว จึงได้บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกันในพื้นที่วางแผนจับกุม  โดยทำการไปดักซุ่มบริเวณที่เกิดเหตุ เมื่อถึงเวลาประมาณ 10.00 น. ได้พบรถยนต์ลักษณะตรงตามข้อมูลที่สืบสวนมาจึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถคันดังกล่าว พบว่าเป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว สระแก้ว มีนายศักดิ์ชายผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าว ตรวจพบคนต่างด้าวเชื้อชาติจีนอีกจำนวน 6 คน ผู้ต้องหาที่ 2-7 นั่งอัดกันโดยสารมากับรถตรวจสอบแล้วไม่มีเอกสารหลักฐานหนังสือเดินทางอย่างใด

การแจ้งข้อกล่าวหา : ผู้ต้องหาที่ 1 “นำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำการด้วยประการใด ๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย”

ผู้ต้องหาที่ 2-7 (คนต่างด้าวชาวจีน) “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

การตรวจยึดของกลาง : รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ทะเบียน สระแก้ว

จากการซักถามผู้ต้องหาที่ 1 ให้การยอมรับสารภาพว่าได้รับการจ้างวานให้รับคนจีนไปส่งยังบริเวณใกล้พรมแดนธรรมชาติ บ้านกุดเตย ม.5 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว โดยจะมีคนมารับอีกทอดรับค่าจ้างจำนวน หัวละ 800 บาท โดยรับว่าทำเป็นลักษณะเช่นนี้เป็นประจำหลายครั้ง

ซักถามผู้ต้องหาที่ 2-7 ให้การรับสารภาพว่า เดินทางมาจากเมืองยูนนาน ประเทศจีน เดินทางผ่านประเทศเมียนมา จำนวน 3 วัน ลักลอบเข้ามาประเทศไทยพักที่กรุงเทพฯ 2 วัน และเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ต้องการข้ามไปทำงานที่คาสิโนในประเทศกัมพูชา ทางชุดจับกุมจะได้สืบสวนขยายผลติดตามขบวนการซึ่งให้ความช่วยเหลือทั้งหมดที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป

สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆรวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตราย ต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178  หรือที่ www.immigration.go.th

 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top