Wednesday, 2 July 2025
POLITICS

โฆษกปชป.”เดือด รวบ 4 กรม ก.เกษตรฯ เพื่อปชช.หรือเพื่อใคร ย้อน พปชร. หาก​“จุรินทร์”ขอดูกรมของกระทรวงที่พลังประชารัฐคุมบ้างจะว่าอย่างไร ชี้หากทำแบบนี้ ไม่ราบรื่นแน่

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พลังประชารัฐ ออกมากล่าวถึง กรณีครม.มอบให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีคุม 4 กรมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า พรรคประชาธิปัตย์มีหลักการทำงานคือคิดถึงเรื่องประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก การดูแลงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เขลาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคฯ ทำหน้าที่ควบคุมดูแลในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามหลักบริหารราชการแผ่นดินชัดเจนตามสายงาน ดังนั้นการที่ครม.มอบให้ พล.อ.ประวิตร เข้ามาดู 4 กรมคือพัฒนาที่ดิน , กรมฝนหลวงและการบินเกษตร , สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร ที่เดิม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมช.เกษตรฯ เป็นผู้ดูแลอยู่ ก็มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ คำสั่งรวบงานดังกล่าว ส.ส.พลังประชารัฐยังออกมาพูดจาในลักษณะที่บิดเบี้ยวไปจากข้อเท็จจริงอีก ที่บอกว่าต้องคำนึงถึงสภาพความเป็นจริงและความต้องการของประชาชนร่วมกันด้วย ถือเป็นการพูดที่ไม่สมเหตุสมผล 

ศรีสุวรรณ จี้ สปน. เร่งสอบคุณสมบัติองค์กรผู้บริโภคทิพย์

ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ทำเนียบรัฐบาล นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องถึงปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะนายทะเบียนกลาง ตาม พรบ.การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค 2562 หลังจากที่สมาคมฯได้เคยยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ 16 องค์กรด้านผู้บริโภคเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ซึ่งสมาคมได้สุ่มตรวจพบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า มีหลายองค์กรองค์กรผู้บริโภคที่รวมตัวกันดำเนินการเพื่อจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภคในหลายจังหวัด หรือที่เข้าเป็นสมาชิกของสภาองค์กรของผู้บริโภคที่ผ่านมาอาจมีลักษณะเป็นองค์กรผู้บริโภคที่จัดตั้งขึ้น อาจมีลักษณะไม่เป็นไปตามมาตรา 5(1) และ(2) แห่งพรบ.การจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ.2562 กล่าวคือ องค์กรที่จัดตั้งไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม อาจถูกครอบงำ โดยผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นนิติบุคคล กรรมการหรือผู้มีอำนาจบริหารของผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือ โดยหน่วยงานของรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือพรรคการเมือง ซึ่งเป็นข้อห้ามตามกฎหมาย

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า องค์กรผู้บริโภคที่จดแจ้งกับทางนายทะเบียนกลางนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยรู้จักหรือได้ยินชื่อเลย และเมื่อตรวจสอบเชิงลึกโดยการพูดคุยกับผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือชาวบ้าน ก็พบว่า มีบางองค์กรมีที่ตั้งแบบลอย ๆ ไม่มีการทำกิจกรรมตามที่จดแจ้ง ชาวบ้านในพื้นที่ไม่รู้จักเลย บางองค์กรคนที่อุปโลกน์ว่าเป็นประธานกลุ่มแต่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ กลับไปอยู่กับครอบครัวในจังหวัดอื่น บางองค์กรประธาน รองประธาน หรือกรรมการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ อาจถือได้ว่ามีคุณลักษณะไม่เป็นไปตาม ม.5(1)(2) ประกอบ ม.6 ของกฎหมายข้างต้น 

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สมาคมทราบมาว่านายทะเบียนของแต่ละจังหวัดได้เริ่มทำหนังสือแจ้งมายังนายทะเบียนกลาง หลังจากที่ สปน.แจ้งให้ตรวจสอบ 16 องค์กรที่สมาคมฯได้ยื่นให้ตรวจสอบก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งมีข้อมูลเล็ดลอดออกมาว่า ผลการตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ ทุกองค์กรมีการดำเนินกิจกรรมตามที่จดแจ้งไว้ โดยมีการสั่งให้ทำป้ายไวนิลชื่อองค์กรไปแขวนติดตั้งไว้ ณ สถานที่ตั้งองค์กรที่จดแจ้งไว้ แล้วถ่ายรูปส่งมารายงาน เป็นต้น ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจขัดแย้งจากข้อเท็จจริงและหลักฐานที่สมาคมฯได้เก็บรวบรวมไว้ ซึ่งผู้ที่รายงานข้อมูลอันเป็นเท็จอาจมีความผิดตามกฎหมายได้            

รศ.ดร.อักษรศรี ชี้ จีนยุคนี้ไม่ชอบความฉาบฉวย - เศรษฐกิจแนวตีโป่ง - ความฟุ้งเฟ้อของเศรษฐกิจทุนนิยม

รศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน แห่ง วช. ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า...

อ่านเกมสีจิ้นผิง โดยดร.อักษรศรี พานิชสาส์น

จีนยุคนี้ ไม่ชอบความฉาบฉวยค่ะ จีนจึงหันมาเน้น high standard manufacturing sector และเน้นคิดค้น next generation technology 

จีนไม่ชอบเศรษฐกิจแนวตีโป่ง ????ความฟุ้งเฟ้อของเศรษฐกิจทุนนิยม

https://www.facebook.com/1037140385/posts/10224008973345626/?d=n

นอกจากนี้​ ล่าสุด #จีนคุมเข้มโลกออนไลน์ เตรียมเข้มงวดการบริหารจัดการอัลกอริทึมที่เกี่ยวข้องกับโลกออนไลน์มากขึ้น

สถานีวิทยุและโทรทัศน์กลางแห่งชาติจีน เผยว่า จีนจะเข้มงวดในการสร้างและบริหารจัดการอัลกอริทึมวิธีที่เกี่ยวข้องกับการจัดการบริการข้อมูลบนโลกออนไลน์ให้มีระเบียบและแข็งแกร่งมากขึ้น โดยเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญจัดการโลกออนไลน์ ระยะ 3 ปี แคมเปญที่มีจุดประสงค์ในการวางกลไกการจัดการและระบบการกำกับดูแลสิ่งที่เกี่ยวข้องบนอินเทอร์เน็ตโลกออนไลน์จีน 

ราชกิจจานุเบกษา ประกาศแล้วขึ้นภาษีบุหรี่ 1 ต.ค.นี้ 

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกฎกระทรวงการคลังกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ฉบับที่ 17 พ.ศ. 2564 โดยมีสาระสำคัญให้มีการปรับขึ้นภาษีบุหรี่ให้มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.2564 เป็นต้นไป โดยการดำเนินการครั้งนี้ กระทรวงการคลังให้เหตุผลว่า ถือเป็นการสมควรแก้ไขอัตราภาษีสรรสามิตสำหรับสินค้ายาสูบ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เพาะปลูกยาสูบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 และการจำกัดปริมาณการบริโภคสินค้ายาสูบ ประเภทซิกาแรต จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

ทั้งนี้ตามโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ กำหนดดังนี้ ให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้าชำระภาษีทั้งมูลค่าและปริมาณ สำหรับบุหรี่ราคาซองละไม่เกิน 72 บาท จะเสียภาษีในอัตรา 25% และปริมาณ 1.25 บาทต่อมวน ส่วนบุหรี่ราคาซองละเกินกว่า 72 บาทขึ้นไป โดยมูลค่าจะเสียภาษีในอัตรา 42% และปริมาณ 1.25 บาทต่อมวน 

‘พงศ์พรหม ยามะรัต’ ท้านักการเมือง-ศิลปินช่างแซะ ดีเบทแก้ปัญหาน้ำท่วม ลั่นอย่าเก่งแต่ในโลกโซเชียล ทำสังคมไทยเป็นแค่สังคมนักแซะ นัก PR แต่โง่

30 ก.ย.64 - นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า

ฝากนักการเมืองทั้งฝั่งรัฐบาล และฝ่ายค้าน
พรรคการเมืองต่างๆ หรือแม้แต่ “นักคิด” 
ที่แห่กันไปลงพื้นที่ ไม่ก็นั่งแซะกันอยู่บนโซเชียลมีเดีย

ช่วยตอบประชาชนด้วยนะครับว่าจะลดปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืนยังไง

รวมถึงอดีตอธิการบดีธรรมศาสตร์ ยันหัวหงอกหลายๆ คนนั่น
ที่แก่เฒ่าเพราะอยู่นาน

ศบศ.ไฟเขียวช่วยจ่ายนายจ้างค่าจ้างแรงงาน 3,000 บาท นาน 3 เดือน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบหลักการโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจเอสเอ็มอี เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มธุรกิจ โดย สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้สรุปรายละเอียดว่า

โครงการนี้รัฐจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อส่งเสริมและรักษาการจ้างงานผ่านนายจ้างเพื่อรักษาการจ้างงานในอัตรา 3,000 บาทต่อลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนนามมาตรา 33 สัญชาติไทยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 200 คน เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยเงินอุดหนุนจะคำนวณตามยอดการจ้างงานจริงของทุกเดือน พิจารณาจากจำนวณลูกจ้างที่นำส่งเงินสมทบประกันสังคมจากระบบประกันสังคม โดยจะจ่ายเงินอุดหนุนทุก วันทำการสุดท้ายของเดือน 

"อรรถวิชช์" เช็คต้นขั้ว "เขื่อนเจ้าพระยา" ปราการด่านหน้าก่อนเข้ากรุงเทพฯ หารือ SWOC12 ระดับยังไม่วิกฤต จะเอาอยู่หรือไม่ อยู่ที่บริหารจัดการ เชื่อรับมือได้ก่อนน้ำทะเลหนุนสูง - พายุเข้าซ้ำ ขอ กทม. เตรียมความพร้อมช่วยผันน้ำ 

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า นำทีมกล้าอาสาเก็บข้อมูลจากสำนักชลประทานที่ 12 (SWOC12) เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท โดยกล่าวว่า วันนี้ถือว่ามาเช็คต้นขั้วให้เห็นกับตา เพราะเขื่อนเจ้าพระยาเป็นเขื่อนชะลอรับน้ำเหนือด่านสุดท้าย ก่อนปล่อยลงสู่ภาคกลางตอนล่างและกรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจัยหลักที่น้ำจะท่วมภาคกลางตอนล่างและกรุงเทพมหานครคือ 1.) ปริมาณน้ำฝน มีการคาดการณ์ว่าพายุดีเปรสชั่น จะเริ่มก่อตัวที่ประเทศฟิลิปปินส์วันที่ 3 ตุลาคมนี้ และยังคาดไม่ได้แน่ชัดว่าจะขึ้นมาที่ไทยช่วงวันที่ 6-7 ตุลาคมนี้หรือไม่ 2.) ปัจจัยน้ำทะเลหนุน ซึ่งจะเริ่มหนุนสูงตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม จนถึงเดือนพฤศจิกายนช่วงเทศกาลลอยกระทง ดังนั้นสถานการณ์ตอนนี้จึงขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ 3.) คือการบริการจัดการน้ำเหนือในช่วง 7 - 10 วันต่อจากนี้ 

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า การระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาวันนี้อยู่ที่ 2,775 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยังอยู่ในระดับธงเหลือง ยังไม่เข้าขั้นวิกฤตระดับธงแดง ซึ่งต้องอยู่ที่ 2,840 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับนายเนรมิต เทพนอก รองผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 12 (SWOC12) ก็ย้ำกับพรรคกล้าผ่านไปถึงประชาชนว่า จะเร่งผันน้ำให้ประชาชนเดือดร้อนให้น้อยที่สุดและเร็วที่สุด ให้ทันก่อนที่พายุจะเข้าหรือน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งปริมาณน้ำฝนขณะนี้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ มั่นใจว่าสถานการณ์น่าจะเอาอยู่ 

เลขาธิการ พรรคกล้า กล่าวว่า สรุปว่าต้นขั้วบริหารได้ แต่ยังมีปัญหาการแจ้งเตือนภัยกับประชาชนที่อยู่ใกล้แม่น้ำ เพราะจากที่ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน จ.นครสวรรค์และ จ.ชัยนาท พบว่าทางมหาดไทยยังล่าช้าอยู่ ซึ่งกรมชลประทานมีข้อมูลการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ว่าจำนวนกี่ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทำพื้นที่ใดเสี่ยงที่จะน้ำท่วมบ้าง หากมีการบูรณาการร่วมกันน่าจะทำให้การเตือนภัยมีประสิทธิภาพมากขึ้น

‘สิระ’ หยัน ‘พ.อ.สุชาติ’ ลงนายก อบจ.ยังสอบตก ยันไม่มี ส.ส.ใต้ถึง 13 คนลาออกจากพรรค เชื่อ แค่หวังปล่อยข่าวสร้างราคาให้ตัวเอง แนะ ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ก่อนถูกถอนหงอก

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ออกมาประกาศว่า จะพาสมาชิกพรรคซึ่งส่วนใหญ่ที่อยู่สายใต้จำนวน 13 คน ลาออกจากพรรคว่า ตนได้มีการพูดคุยกับ ส.ส.ภาคใต้ทั้ง 13 คน ซึ่งทุกคนปฏิเสธการกล่าวอ้างของ พ.อ.สุชาติ ยังไม่มีใครตัดสินใจลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ นี่คือขบวนการปล่อยข่าวว่ามี ส.ส.อยู่ในมือถึง 13 คน เพื่อหวังสร้างราคา และเครดิตให้กับตัวเอง และท้ายที่สุดจะหวังตำแหน่งอะไรด้วยหรือไม่

“ราเมศ”เผยขณะนี้ปชป.ยังไม่มีมติส่งใครลงสมัครส.ส. ยันพรรคมีขั้นตอนส่งผู้สมัครชัดเจน

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าพรรคมีมติที่จะส่งหรือไม่ส่งใครลงสมัคร ส.ส. ของพรรคไปแล้ว ว่า ขณะนี้ทุกเขตเลือกตั้ง พรรคยังไม่ได้มีมติใดๆทั้งสิ้น โดยหลักการคัดเลือกตัวผู้สมัครของพรรคเป็นไปตามข้อบังคับ เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งก็จะมีกระบวนการในการรับสมัคร และนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ที่มีนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เป็นประธาน หลังจากตรวจสอบคุณสมบัติก็จะส่งรายชื่อผู้สมัครไปสอบถามความเห็นในพื้นที่ ซึ่งก็คือตัวแทนพรรคหรือสาขาพรรคแล้วแต่กรณี จากนั้นเมื่อในพื้นที่ได้ส่งความเห็นกลับมายังคณะกรรมการสรรหาแล้ว คณะกรรมการสรรหาจะส่งต่อให้คณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)พิจารณาต่อไปตามขั้นตอน ซึ่งพรรคในฐานะสถาบันทางการเมืองมีขั้นตอนที่กำหนดเคร่งครัด

“ขณะนี้หลายเขตในทางยุทธศาสตร์ การประกาศตัวผู้สมัครก็เพื่อให้ทราบว่าใครทำงานในพื้นที่ในนามพรรคและอาสามาทำงานโดยมีเป้าหมายเพื่อลง สมัคร ส.ส. ในเขตเลือกตั้งนั้นๆ แต่ท้ายที่สุดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการในการคัดเลือกตัวผู้สมัครตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดต่อไป”นายราเมศ กล่าว
 

 “บิ๊กตู่”ห่วงประชาชน ถูกหลอกลวงจาก  SMS ไลน์ เฟซบุ๊ก แอปเงินกู้ โทรศัพท์ “แนะ”ตรวจสอบให้ดีก่อน กำชับ สตช.ดีอีฯ  ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ดำเนินการตามกฎหมายสูงสุด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นห่วงประชาชนตกเป็นเหยื่อ SMS ไลน์ เฟสบุ๊ก แอปเงินกู้ และโทรศัพท์ หลอกลวง ปัจจุบันมิจฉาชีพใช้เทคนิคการชวนเชื่อผ่าน ข้อความ “ได้รับเงินฟรี หรือ กู้ง่าย”  แอบแฝงหลอกลวง หลอกดูดเงิน-ข้อมูล ประชาชน โดยอ้างเป็นผู้ให้บริการแหล่งเงินกู้ของรัฐ และแอบแฝงตัวมากับการจ่ายเงินเงินเยียวยาประกันสังคมให้กับผู้ประกันตน เพื่อหลอกรับเงินเยียวยา ม.33 ทำให้ประชาชนที่ไม่ทันตรวจสอบข้อเท็จจริงหลงเชื่อ ทำให้สูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก

ซึ่งลักษณะกลโกงที่มิจฉาชีพใช้มีหลากหลายรูปแบบ อาทิ กลโกลทางโทรศัพท์ กลโกงบัตรต่างๆ เช่น ATM บัตรเครดิต กลโกงธนาคารออนไลน์ กลโกงออนไลน์ ซึ่งปัจจุบัน สามารถทำได้อย่างง่ายขึ้นเนื่องจากเทคโนโลยีการสื่อสารที่เปลี่ยนไป ฝากประชาชนขอให้ตรวจสอบที่มาของ SMS/APP/Web ผู้ให้บริการเหล่านั้นต้องได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย โดยตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์หน่วยงาน กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น หรือ โทร สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทร. 1213  และหากพบเบาะแสการกระทำความผิด ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร สถาบันทางการเงิน หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

“สงคราม”ชี้ “บิ๊กตู่”ก่อหนี้แบบนี้ไม่พ้นกู้ไอเอ็มเอฟมาล้างหนี้ อัดรัฐดันกฎหมายขายชาติเปิดทางต่างชาติสร้างเขตอิทธิพลบนแผ่นดินไทย 

นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเปิดโอกาสให้ ชาวต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยได้อย่างอิสระ  เป็นจุดเริ่มต้นหายนะประเทศไทย หากกฏหมายนี้ผ่านประเทศไทยจะกลายเป็นเมืองขึ้นของต่างชาติในที่สุด 

ทั้งนี้การที่ภาครัฐปล่อยให้คนต่างชาติ ซื้อบ้าน ซื้อคอนโดได้อย่างอิสระ สุดท้ายไทยจะโดนทุนต่างชาติฮุบ  แล้วคนไทยจากที่เคยเป็นเจ้าของประเทศเป็นผู้เช่า แทน ถ้ากฎหมายนี้ลุล่วงได้สำเร็จ คือการขายชาติให้นักลงทุนชาวต่างชาติรายใหญ่ มาซื้อหมู่บ้านเปิดใหม่แห่งหนึ่งไว้ทั้งหมดทุกหลัง จากนั้นก็ขายต่อบ้านแต่ละหลังให้คนชาติตัวเอง ก็อาจส่งผลให้หมู่บ้านนั้นใช้ภาษาอื่น มีวัฒนธรรมอื่น ทั้งๆที่อยู่บนแผ่นดินไทย 

นางสงคราม กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  บริหารประเทศด้วยการก่อหนี้มหาศาล จนถึงวันนี้พลเอกประยุทธ์สร้างหนี้ให้กับประเทศไทยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 12 ล้านล้าน เป็นหนี้สูงสุดตั้งแต่มีประเทศไทย นอกจากนี้รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการให้เศรษฐกิจเดินหน้า อ้างกลัวโควิด แต่ไม่กลัวประเทศเป็นหนี้ ล่าสุด รัฐบาล มีแผนการก่อหนี้ใหม่ วงเงิน 1.2 ล้านล้านบาท สะท้อนว่าพลเอกประยุทธ์ไร้วิสัยทัศน์อย่างแท้จริง

'นายกตู่' โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม พร้อมแนะนำ 4 แอปพลิเคชัน สำหรับการติดตามสถานการณ์ ให้คำแนะนำ และแจ้งเหตุ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha หลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม ว่า 

เมื่อผมได้รับรายงานว่า จังหวัดชัยภูมิ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ผมจึงไม่รอช้าที่จะเดินทางลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) เพื่อให้กำลังใจพี่น้องประชาชนชาวชัยภูมิ รวมถึงมอบนโยบายให้ทางจังหวัดเร่งรัดแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่ แม้ว่าผมจะใช้เวลาไม่นานนัก แต่ส่วนตัวก็มีความรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้กลับมาที่ชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณแม่ของผม ผมจึงเดินทางมาด้วยความห่วงใย และได้มาเห็นปัญหาที่ยังมีอีกมากที่ต้องจะต้องเร่งแก้ไขให้สำเร็จ ทั้งเรื่องปัญหาน้ำท่วม รวมไปถึงการพัฒนาจังหวัดหลังจากน้ำท่วมคลี่คลายลงแล้วด้วย

สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้จากทุกๆ ครั้งที่ลงพื้นที่ นั่นคือการได้เห็นพี่น้องคนไทยจำนวนมากที่ประสบภัย แต่สามารถปรับตัวตามสถานการณ์ได้ ทุกคนยังมีรอยยิ้ม ซึ่งเป็นรอยยิ้มของนักสู้ ที่สร้างกำลังใจให้แก่กัน ทั้งๆ ที่เจตนาแรกเริ่มของผมคือการเดินทางไปปลอบขวัญผู้ประสบภัยถึงพื้นที่ แต่ผมเองกลับได้รับกำลังใจกลับคืนมาทุกครั้ง ผมจึงขอส่งต่อกำลังใจและสิ่งดีๆ เหล่านั้น ไปสู่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และอาสาสมัครทุกคนในพื้นที่ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ที่ถือว่าต้องแบกรับภาระเพิ่มเป็นสองเท่า ทั้งโควิด ทั้งน้ำท่วม

ใจจริงแล้ว ผมอยากจะลงพื้นที่ไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด เพราะผมทราบดีว่าทุกวินาทีคือความทุกข์ยากของพี่น้องร่วมชาติ แม้ว่าในบางพื้นที่ผมอาจจะยังไม่ได้ลงไป แต่ก็มีความห่วงใยอยู่เสมอ และได้ติดตามวิกฤตน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ผมได้สั่งการให้รายงานสถานการณ์มายังผมอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะได้สั่งการผ่านกลไกในระดับรัฐบาล ลงไปยังระดับท้องถิ่น สนับสนุนการแก้ปัญหาของแต่ละพื้นที่ ให้ดูแลพี่น้องผู้ประสบภัยอย่างทั่วถึง จนกว่าน้ำจะลด แล้วเข้าสู่การเยียวยา และฟื้นฟูต่อไป

สำนักนายกฯ ทุ่ม 2 ล้าน จ้างที่ปรึกษาฯ ทำโพล ‘คนไทยรับรู้-เชื่อมั่น’ ต่อผลงาน/นโยบายรัฐบาล ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’? กำหนดระยะเวลา 3 เดือน ต.ค.- ธ.ค. 2564 

มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เผยแพร่ประกาศโครงการว่าจ้างที่ปรึกษาสำรวจการรับรู้ของประชาชนที่มีต่อนโยบายและผลงานรัฐบาลและความเชื่อมั่นที่มีต่อการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี

โครงการนี้ ดำเนินการโดย ‘สำนักโฆษก’ ตามวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรและตามราคากลาง สำหรับว่าจ้างที่ปรึกษา วงเงิน 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคามาตรฐานตามที่สำนักงบประมาณ หรือหน่วยงานกลางจากสถาบันการศึกษาอื่นกำหนด

โครงการดังกล่าว กำหนดวงเงินเพื่อเป็น ‘ค่าตอบแทนบุคลากร’ จำนวน 1,203,880 บาท

‘ไพศาล’ เตือนรัฐบาลอย่าเก่งแต่กู้เงินมาแจก หวั่นซ้ำรอยปี 2474 ต้องตัดเงินข้าราชการ พยุงเศรษฐกิจ

29 ก.ย.2564 - นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า เมื่อรายได้แผ่นดินไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทุกส่วนราชการก็ต้องถูกตัดวงเงินค่าใช้จ่ายลง ทุกส่วนคงทราบกันแล้วใช่ไหมว่าเหลือเงินใช้ได้กี่เปอร์เซ็นต์ 

รองนายกฯ บุก ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ ติดตามสถานการณ์น้ำ ผลจากพายุ"เตี้ยนหมู่" สั่ง เร่งระบายน้ำ ลดกระทบ ปชช.โดยเร็ว-ให้เตรียมแผนเผชิญเหตุ รับพายุ ระลอกใหม่ 

ที่กรมชลประทาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) ไปยัง"ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ" กรมชลประทาน(สามเสน) เพื่อตรวจ ติดตาม สถานการณ์น้ำ และประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั่วทุกภาค ผ่านระบบ vdo conference ในการแก้ปัญหาน้ำ อันเนื่องมาจาก อิทธิพล พายุดีเปรสชั่น "เตี้ยนหมู่" ทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง ในหลายพื้นที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในพื้นที่หลายจังหวัด

โดยพล.อ.ประวิตร ได้รับฟังการบรรยายสรุปภาพรวม จากหน่วยงานที่รับผิดชอบ เกี่ยวกับ สถานการณ์ด้านอุตุนิยมวิทยา และติดตามพายุ "เตี้ยนหมู่" ที่มีผลกระทบในปัจจุบัน และแนวโน้มที่อาจเกิดพายุระลอกใหม่ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า และรับทราบสถานการณ์น้ำและแผนการบริหารจัดการน้ำในสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แบบเวลาจริง (Real Time) ในพื้นที่ จ.สุโขทัย และ จ.นครราชสีมา รวมถึงมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้มีความห่วงใยต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งได้กำชับ กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งระบายน้ำ เพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนโดยเร็ว นอกจากนั้น กรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ ยังได้รายงานสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงในแม่น้ำเจ้าพระยา และอาจเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ รวมทั้งได้รับทราบการเตรียมความพร้อมของ กทม.ในการรับมือ และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่กทม. และปริมณฑล กรณี มีน้ำทะเลหนุนสูงด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top