Friday, 10 May 2024
POLITICS

ทอ. แจ้ง ทหารเกณฑ์ติดโควิด 290 นาย หลังออกปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือ ปชช. ยันทุกคนไม่แสดงอาการ  พร้อมรับการดูแลอย่างดี เข้ารับการรักษาตามขั้นตอนทางสธ. อย่างเคร่งครัด

พล.อ.ท.ฐานัตถ์ จันทร์อำไพ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะโฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 กองทัพอากาศได้รับมอบหมายภารกิจในการสนับสนุนรัฐบาล และ ศบค.ในหลายมิติ ซึ่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงมีความห่วงใยในความปลอดภัยของกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงและด่านหน้า โดยเฉพาะน้อง ๆ ทหารกองประจำการ ณ ที่ตั้งดอนเมือง ซึ่งออกปฏิบัติหน้าที่ช่วงสถานการณ์ COVID-19 เพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว รวมทั้งเมื่อเสร็จจากการปฏิบัติภารกิจน้อง ๆ ทหารกองประจำการเหล่านี้ต้องกลับมาพักอาศัยและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มก้อน 

ดังนั้นเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับกำลังพล ผู้บัญชาการทหารอากาศจึงสั่งการให้หน่วยเกี่ยวข้องดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุกให้กับทหารกองประจำการ ระหว่างวันที่ 9 - 11 ก.ค.64 เพี่อสร้างความปลอดภัย  ผลการตรวจคัดกรองของทหารกองประจำการ จำนวน 718 คน พบว่า มีทหารกองประจำการติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 290 คน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง (กลุ่มอาการสีเขียว) โดยทั้งหมดได้รับการดูแลอย่างดีและรับการรักษาตามขั้นตอนที่ทางสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด มีรายละเอียดการปฏิบัติที่สำคัญ ดังนี้

 1. กองทัพอากาศ จัดเตรียมอาคาร สถานที่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก โดยใช้อาคารกองพันของหน่วย เพื่อจัดเป็น Community Isolation หรือ สถานที่แยกตัวชุมชนของหน่วย ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งประกอบด้วย 2 อาคาร ได้แก่ อาคารสำหรับผู้มีความเสี่ยงสูง และ อาคารสำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ (ผู้ป่วยไม่มีอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง) โดยอาคารทั้ง 2 แห่ง แยกจากกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

 2. ทหารกองประจำการที่ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด แยกเข้ารับการรักษาภายใต้การกำกับดูแลของบุคลากรทางการแพทย์ กรมแพทย์ทหารอากาศ ดังนี้
      2.1 Community Isolation (สถานที่แยกตัวชุมชนของหน่วย) หรือ อาคารกองพันของหน่วย 
จำนวน 199 คน
      2.2 โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (ดอนเมือง) จำนวน 52 คน
      2.3 โรงพยาบาลสนามกองทัพอากาศ (โรงเรียนการบิน) จำนวน 39 คน

 3. สำหรับการดูแลผู้มีความเสี่ยงสูงและผู้ป่วยติดเชื้อ ได้ดำเนินการตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ของกองทัพอากาศดูแลอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อจะได้รับการตรวจวัดอุณหภูมิและวัดปริมาณออกซิเจน พร้อมลงบันทึกข้อมูลและแจ้งอาการป่วยกับเจ้าหน้าที่ทุกวัน รวมทั้งได้รับการบริการอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัย นอกจากนี้ยังได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จำเป็นเพื่อรองรับการดูแลรักษาอย่างเพียงพอ

4. กรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการรุนแรง จะนำส่งเข้ารักษาต่อยังโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ

 5. สำหรับรายละเอียด Time Line ที่ผ่านมาของผู้ป่วยติดเชื้อนั้น น้อง ๆ ทหารกองประจำการ ไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยกลับบ้านและพักอาศัยอยู่ที่หน่วยตลอดเวลา 

สำหรับการติดเชื้อในหน่วยทหารของกองทัพอากาศ ถือเป็นสถานการณ์โรคระบาดที่มีความสำคัญ และกองทัพอากาศติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เมื่อมีการติดเชื้อก็จะเข้าสู่กระบวนการป้องกันและรักษาตามมาตรฐานสาธารณสุข โดยใช้ศักยภาพของโรงพยาบาลในสังกัดกองทัพอากาศในการรักษาพยาบาลกำลังพล และควบคุมไม่ให้กระจายไปสู่ภายนอก ซึ่งกำลังพลกองทัพอากาศมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้เช่นเดียวกับประชาชนโดยทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารอากาศมีความห่วงใย และได้กำชับให้กำลังพลเพิ่มความระมัดระวังอย่างสูงสุด เนื่องจากที่ตั้งบางหน่วยเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งยังคงมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค กองทัพอากาศขอยืนยันว่าเราจะดูแลน้อง ๆ ทหารกองประจำการ ซึ่งเป็นบุตรหลานของท่านอย่างดีที่สุดภายใต้มาตรฐานการรักษาพยาบาลและขีดความสามารถของหน่วยงานทางการแพทย์ของกองทัพอากาศที่มีอยู่อย่างเต็มกำลังความสามารถ

รมว.เฮ้ง นำทีมเช็คความพร้อมสนามไทย - ญี่ปุ่น ดินแดงตรวจโควิดเชิงรุกผู้ประกันตนและประชาชนทั่วไป เริ่ม 12 ก.ค.64

ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย - ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของสถานที่เพื่อสำหรับเปิดบริการตรวจโควิด-19 เชิงรุก ตามโครงการแรงงาน...เราสู้ด้วยกัน สำหรับผู้ประกันตนและประชาชนทั่วไป ในวันจันทร์ที่ 12 ก.ค.64 โดยมี นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย 

นายสุชาติ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ครั้งนี้ ซึ่งมีผู้สัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยงจำเป็นจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้ขณะนี้หลายโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนเกิดความแออัด ต้องรอคิวนาน และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตนและประชาชนทั่วไป
ให้ได้รับการตรวจอย่างรวดเร็ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลโดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้กระทรวงแรงงาน โดย สปส. บูรณาการร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย (มท.) โดยกรุงเทพมหานคร (กทม.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดำเนินการตรวจโควิด-19 เชิงรุก ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 , 39 และมาตรา 40  และประชาชนทั่วไป ภายใต้ โครงการ“แรงงาน…เราสู้ด้วยกัน” ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 

สำหรับขั้นตอนการลงทะเบียนออนไลน์เพื่อจองคิวตรวจของผู้ประกันตนและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเว็บไซต์กูเกิ้ล แล้วพิมพ์คำว่า “แรงงานเราสู้ด้วยกัน” หรือคลิกที่ลิงค์นี้  https://sso.icntracking.com/icntracking/self_register.php กรอกเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือเลขพาสปอร์ต กรอกข้อมูลประเมินความเสี่ยงตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งเป็นบุคคลที่มีกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการป่วย ผู้ประกันตนจะต้องพกบัตรประชาชน พร้อมสำเนา 1 ชุด เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการตรวจ หากรายใดลงทะเบียนแล้วไม่มาตรวจตามนัดจะต้องลงทะเบียนใหม่ เมื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด -19 เรียบร้อยแล้วสามารถกลับบ้านได้ทันที ทางโรงพยาบาลจะแจ้งผลการตรวจคัดกรองโควิด 19 ผ่าน 3 ช่องทาง คือ QR Code ทาง SMS และทางโทรศัพท์ แต่ในกรณีที่ผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้รับผลการตรวจคัดกรอง อาจเนื่องจากกรอกหมายเลขโทรศัพท์ไม่ถูกต้อง สามารถโทรสอบถาม 1506 กด 6 การลงทะเบียนออนไลน์เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เมื่อวานนี้ (10 ก.ค.64) เป็นต้นไป โดยแต่ละวันสามารถตรวจได้วันละ 2,000 คน แบ่งเป็นช่วงเช้า 1,000 คน ช่วงบ่าย 1,000 คน ซึ่งหากตรวจแล้วพบเชื้อแต่ไม่มีอาการจะถูกส่งเข้ารักษาตัวใน Hospitel ส่วนผู้ที่มีอาการจะถูกส่งไปรักษายังโรงพยาบาลในเครือประกันสังคม ซึ่งจะมีทีมแพทย์และพยาบาลดูแล ส่วนค่ารักษาพยาบาลผู้ประกันตนจะเบิกกับสำนักงานประกันสังคม และประชาชนทั่วไปจะเบิกกับ สปสช. ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนให้คำปรึกษาผู้ประกันตนและประชาชนทั่วไปตรวจโควิด-19 เชิงรุก โทร.1506 กด 6

“ชัยวุฒิ” เผย ตรวจโควิด-19 ซ้ำ ผลเป็นลบ เชื่อใส่แมสก์-ฉีดวัคซีนช่วยป้องโควิดได้

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า เมื่อได้รับแจ้งว่าเป็น
กลุ่มเสี่ยง เนื่องจากนั่งใกล้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 บนเที่ยวบินที่เดินทางไป จ.ภูเก็ต เมื่อ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อผลออกมาเป็นลบ และเมื่อครบกำหนดกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการ ได้ตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้ง ผลปรากฎว่าเป็นลบ ไม่ติดเชื้อ แสดงให้เห็นว่าการป้องกันตามมาตรการสาธารณสุข ทั้งสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ มีความจำเป็นและสำคัญต่อการป้องกันติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะเวลานี้มีมาตรการเข้มข้นในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อจำกัดการระบาด และให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติในเร็ววัน 

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในด้านเศรษฐกิจควบคู่มาตรการด้านสุขภาพ โดยโครงการภูเก็ตแซนบ็อก มีมาตรการดูแล เฝ้าระวังที่มีประสิทธิภาพ หากพบมีนักท่องเที่ยวติดเชื้อ หน่วยงานสาธารณสุข จะมีระบบดูแลติดตามที่สามารถจำกัดวงการแพร่ระบาดได้ ขณะที่ทางดีอีเอส มีระบบติดตามตัวนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายัง จ.ภูเก็ต ซึ่งตนเชื่อมั่นโครงการดังกล่าวจะสำเร็จ โดยดูจากยอดการจ้องที่พักและมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น และหากโมเดลนี้เป็นไปตามเป้าหมาย จะขยายการรับนักท่องเที่ยวตามในพื้นที่อื่นต่อไป

“อิสระ” จี้ “ตรีนุช” ไขก๊อก รมว.ศึกษาฯ ถ้ายังอมพะนำ ไม่ใช้อำนาจสั่งลด-คืนค่าเทอม ช่วยผู้ปกครองช่วงโควิด

นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ออกมาแถลงให้โรงเรียนปรับแผนการสอน ลดการบ้าน ลดภาระนักเรียน ว่า เรื่องแบบนี้ไม่ต้องให้คนระดับรัฐมนตรีมาสั่งการ ครูเเทบทั้งประเทศเขาก็คิดเป็น จัดลำดับความสำคัญได้ ไม่มีใครอยากสร้างความเครียดให้เด็กเกินจำเป็น แต่ปัญหาวันนี้ที่ต้องแก้ไข คือ ผู้ปกครองเรียกร้องการสั่งลดหย่อนค่าเทอมในยุคโควิด-19 อย่างเป็นรูปธรรม แต่ถามว่ารมว.ศึกษาธิการ อยู่ที่ไหน จะทำหูทวนลมก้มหน้าก้มตาขอความร่วมมือโรงเรียนเอกชน โดยไม่ยอมสั่งชัดๆให้คืน หรือลดค่าเทอม ตามมาตรา 33 และมาตรา 34 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรงเรียนเอกชน ตามอำนาจที่มี ท่านอมพะนำอะไรอยู่ถึงไม่สั่ง จะรอให้เด็กถูกเตะออกจากโรงเรียนเพราะค้างค่าเทอม ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอมอีกเท่าไหร่ บางโรงเรียนกดดันผู้ปกครองไม่ออกผลการเรียนให้ แถมขู่ว่าถ้าไม่จ่ายค่าเทอมก็ไม่ออกเกรดให้ นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง ไม่ใช่โลกคู่ขนานที่ท่านอยู่ ไม่เอาอีกเเล้วสำหรับการมาชี้เเจงสภาฯแล้วตอบเเบบขอไปที ถึงเวลาจัดลำดับความสำคัญให้ถูกได้เเล้ว 
      
"เหมือนท่านยังดื้อดึง เห็นวันก่อนให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ พิธีกรถามท่านถึง 3 ครั้งว่า ท่านไม่มีอำนาจหรือที่จะสั่ง ท่านอ้ำอึ้งบอกแต่ว่าทำได้แค่ขอความร่วมมือ สุดท้ายก็ตอบว่าไม่มีอำนาจ ถ้ามีอำนาจแล้วไม่อยากใช้ก็ลาออกเลย  ผู้ปกครองเขาไม่ได้อยากได้เงินเดือน 3 เดือนของรัฐมนตรี ที่จะสละในช่วงโควิด เขาอยากให้ใช้อำนาจที่มี สั่งคืนหรือลดค่าเทอมให้ชัดเจนโดยด่วน" นายอิสระ กล่าว 

“จุรินทร์” ย้ำ สั่งการพาณิชย์ดูแลประชาชนช่วงล็อกดาวน์ ควบคุมราคาสินค้าไม่ให้ขาดตลาด แจ้งสายด่วน 1569 ไม่เว้นวันหยุดราชการ ลั่นฝ่าฝืนเอาผิด โทษสูงสุดคุก 7 ปี พร้อมประสาน จัดเครื่องมือแพทย์ให้ รพ.สนามอุบลราชธานี 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ย้ำถึงมาตรการของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงล็อกดาวน์ 14 วันว่า ได้ประสานงานกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน ทั้งในส่วนของห้างสรรพสินค้า จุดกระจายสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เกต ให้เก็บสินค้า เพื่อพร้อมเข้าไปเติมเต็มในชั้นวาง โดยเฉพาะซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ หรือจุดที่ประชาชนสามารถเดินทางมาซื้อสินค้าได้สะดวก นอกจากรถโมบายพาณิชย์ ที่จะตระเวนไปขายสินค้าในชุมชน โดยล่าสุด ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้รายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบปัญหาสินค้าหมดจากชั้นวาง แต่มีบางจุด ในระยะเวลาสั้นๆ ที่ขาดการเติมสินค้า ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้ ได้สั่งการแล้วว่า หากประชาชนพบจุดใด ที่ขาดแคลนสินค้า อุปโภคบริโภคที่ ศบค. อนุญาตให้จำหน่ายได้ สามารถร้องเรียนได้ที่สาย 1569 โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการถึงเวลา 22:00 น. ถ้าหลังจาก 22:00 น. ไปแล้ว จะเป็นระบบบันทึกเสียง หรือแจ้งได้ที่พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ที่ตัดเจ้าหน้าที่ รับเรื่องร้องเรียนโดยไม่มีวันหยุดราชการเช่นกัน 

ทั้งนี้ หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ติดป้ายแสดงราคาจะมีโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีที่มีการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร กักตุนสินค้าหรือปฏิเสธการจำหน่าย ต้องโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ ที่มีความต้องการมากในขณะนี้ ยืนยันว่ายังไม่พบปัญหาและมีสินค้าเพียงพอต่อความต้องการ โดยประชาชนมีทางเลือกมากขึ้นกว่าช่วงที่มีการระบาดโควิดละรอกแรกที่มีปัญหาเรื่องการผลิตหน้ากากอนามัย แต่ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทำให้มีหน้ากากอนามัยเพียงพอ

ขณะเดียวกัน นายจรินทร์ กล่าวถึงการตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามจังหวัดอุบลราชธานี ว่าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถรับ ผู้ป่วยได้ตลอดเวลา โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะเป็นผู้ป่วยที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลสนามแล้ว 129 ราย และสามารถรองรับได้ถึง 1200 เตียง โดยยังสามารถรับผู้ป่วยได้อีกจำนวนมาก แต่ยังมีปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งตนเองได้รับเรื่องจะไปประสานกับกระทรวงสาธารณสุข ตามที่โรงพยาบาลสนามร้องขอมา

“นายกฯ”จ่อถกคณะทำงาน 12 ก.ค.นี้ เยียวยาปชช-ผู้ประกอบการ หลังศบค.เคอร์ฟิว-ล็อกดาวน์กิจกรรม กิจการเสี่ยง 10 จว.

รายงานข่าวจากทำเนียบฯแจ้งว่า สืบเนื่องจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) หรือศบค. ออกคำสั่ง ที่9/2564 ประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง และออกข้อกำหนด ฉบับที่27 ห้ามประชาชนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ออกนอกเคหะสถาน ในเวลา 21.00 -04.00 น. พร้อมกำหนดการปิด-เปิดกิจการ กิจกรรมต่างๆอย่างน้อย 14 วัน ให้มีผลบังคับใช้วันที่ 12 ก.ค.นี้ 

รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค.เตรียมเรียกประชุมร่วมกับทีมเศรษฐกิจ วันที่12 ก.ค.เวลา 15.30 น.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนท์ มีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรมว.พลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกศบศ.เป็นต้น เพื่อหารือถึงแนวทางการเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งดังกล่าว และจะพิจารณารูปแบบของการช่วยเหลือจะออกมาในลักษณะใด

โฆษกพท. ซัดผู้นำประเทศทำเด็กไทยติดกับดักทางการศึกษา หวั่นนักเรียน.ม.ปลาย 84% หลุดระบบการศึกษา หลังขาดอุปกรณ์เรียนออนไลน์

ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณด้านการศึกษา ในคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 65 กล่าวถึงมาตรการป้องกันโควิด – 19 ส่งผลกระทบต่อโรงเรียนหลายแห่ง ที่ต้องจัดการเรียน การสอนออนไลน์ 100% ตอกย้ำความเดือดร้อนของผู้ปกครองที่บางคนตกงาน ไม่มีรายได้ กระทบกับบุตรหลานที่เป็นนักเรียนไม่มีอุปกรณ์ใช้เรียนออนไลน์

จากการสำรวจพบว่าอาจทำให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 84% มีโอกาสหลุดจากระบบการศึกษาเนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์ ถือเป็นความผิดพลาดของการบริหารที่ล้มเหลว จึงอยากให้กระทรวงศึกษาธิการ และรัฐบาลนำเงินจากพ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ในส่วนที่ใช้ในการฟื้นฟูการลงทุนมาสนับสนุนให้การเรียนออนไลน์เกิดขึ้นได้จริง โดยให้บริษัทเอกชนวางเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง จัดซื้อหรือเช่าคอมพิวเตอร์ให้เด็กยากจนที่สนใจเข้าร่วม โดยรัฐอาจเพิ่มเงินลงทุนให้เอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ขณะที่กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)  ต้องขยายเวลาปลอดดอกเบี้ยอีกเป็น 4 ปี และตั้งกองทุนฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือนักเรียนและผู้ปกครอง เพราะเด็กไทยวันนี้กำลังติดกับดักของผู้นำที่ฉุดรั้งความเจริญของประเทศ 

ศบค.มท. สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ถือปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ และคำสั่งฯ ฉบับล่าสุดโดยเคร่งครัด พร้อมสร้างการรับรู้หน่วยงานทุกภาคส่วนและประชาชนในพื้นที่ ร่วมมือ ร่วมใจกันปฏิบัติตามมาตรการฯ เพื่อฝ่าวิกฤติโควิด-19 นี้ให้ผ่านพ้นไปด้วยกัน

ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เปิดเผยว่า ด้วยนายกรัฐมนตรีได้ลงนามในข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27) ลงวันที่ 10 ก.ค. 64 และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 9/2564 ลงวันที่ 10 ก.ค. 64 กำหนดเขตพื้นที่สถานการณ์เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด 24 จังหวัด พื้นที่ควบคุม 25 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวังสูง 18 จังหวัด โดยมีผลตั้งวันพรุ่งนี้ (12 ก.ค.64) เป็นต้นไป

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และกรุงเทพมานคร รับทราบและถือปฏิบัติตามข้อกำหนดฯ และคำสั่งฯ ดังกล่าว โดยเคร่งครัด พร้อมสร้างการรับรู้แก่ผู้ประกอบการ พนักงาน ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องทุกระดับ ให้รับทราบถึงเจตนารมณ์ของมาตรการตามข้อกำหนดดังกล่าวในการมุ่งจำกัดการเคลื่อนย้าย ลดการรวมกลุ่มของบุคคล และเร่งรัดมาตรการด้านการป้องกันและการควบคุมโรค การรักษาพยาบาล และการฉีดวัคซีนเพื่อลดความรุนแรงของโรค และในขณะเดียวกันก็ยังคงมาตรการเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจพื้นฐานยังคงดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งมาตรการเหล่านี้ “จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน” เพื่อให้ฝ่าวิกฤตินี้ให้ผ่านพ้นไปด้วยกัน

นอกจากนี้ ให้นำมาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ข้อห้าม และข้อปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 24) ลงวันที่ 19 มิ.ย.64 และข้อกำหนด (ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 26 มิ.ย. 64 ใช้บังคับกับพื้นที่สถานการณ์เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อกำหนดฯ ฉบับล่าสุด และได้เน้นย้ำให้กรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดปริมณฑล (นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร) หารือกับคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร/คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ประสานการปฏิบัติกับฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางระบบและกำกับติดตามให้เป็นไปตามมาตรการตามข้อกำหนดฯ ได้แก่ 1) ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 21.00 - 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน นับแต่วันที่ข้อกำหนดฉบับนี้ใช้บังคับ กรณีบุคคลที่ได้รับการยกเว้นฯ ให้แสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรแสดงตนอย่างอื่น และเอกสารรับรองความจำเป็น เอกสารเกี่ยวกับสินค้า บริการการเดินทาง หรือหลักฐานอื่น ๆ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยกรณีบุคคลที่ได้รับการยกเว้นฯ ได้แก่ การสาธารณสุข การขนส่งสินค้าเพื่อประโยชน์ของประชาชน การขนส่งหรือขนย้ายประชาชน การให้บริการหรืออำนวยประโยชน์หรือความสะดวกแก่ประชาชน และการประกอบอาชีพที่จำเป็น ให้หน่วยงาน หรือบริษัท หรือสถานประกอบการต้นสังกัด แล้วแต่กรณี เป็นผู้ออกเอกสารรับรองความจำเป็นฯ สำหรับกรณีอื่น ๆ นอกเหนือจากบุคคลที่ได้รับการยกเว้น ให้ขอเอกสารรับรองความจำเป็นฯ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ เช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ ผู้อำนวยการเขต หัวหน้าสถานีตำรวจ หรือผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ และในกรณีที่สมควรเพิ่มเติมข้อยกเว้นการห้ามออกนอกเคหสถานเป็นการทั่วไปเพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอผ่านศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด - 19 (ศปก.ศบค.) เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาอนุญาต 2) ให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐดำเนินมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งให้เต็มความสามารถที่จะทำได้

ส่วนการปฏิบัติงานที่ต้องให้บริการประชาชนโดยตรง สาธารณูปโภค การรักษาความปลอดภัย การรักษาความสงบเรียบร้อย หรืองานที่มีกำหนดเวลาปฏิบัติชัดเจนและได้นัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้วและสามารถจัดมาตรการป้องกันโรคได้ ให้พิจารณาดำเนินการตามความจำเป็นและเหมาะสม สำหรับการปฏิบัติงานของภาคเอกชน ให้เจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการ หรือผู้รับผิดชอบในสถานประกอบการพิจารณาสนับสนุนปรับรูปแบบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่และบุคลากรในสังกัดให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาด 3) มาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วนสำหรับสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรม  ให้เปิดดำเนินการได้ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบ ระเบียบ และมาตรการป้องกันโรคที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ตามข้อกำหนดฯ (ฉบับที่ 27) ลงวันที่ 10 ก.ค. 64 โดยกรณีกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่พนักงานเจ้าหน้าที่ให้จัดกิจกรรมได้ หากประสงค์จะจัดกิจกรรมในช่วงระยะเวลานี้ ให้ผู้รับผิดชอบการจัดกิจกรรมดังกล่าวดำเนินการขออนุญาตต่อคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร/คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี เพื่อตรวจสอบและทบทวนมาตรการป้องกันโรคในการจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับห้วงเวลาและสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และให้พนักงานเจ้าหน้าที่กวดขันการมั่วสุมประชุมกันเพื่อเล่นการพนัน ดื่มสุรา เสพยาเสพติด หรือการกระทำผิดกฎหมายอื่นใดอย่างเคร่งครัดและให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่

4) ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด ในเส้นทางคมนาคมเข้า-ออกกรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล เพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงาน และคัดกรองการเดินทางของประชาชนทั่วไป 5) มาตรการป้องกันและรองรับผู้ติดเชื้อ ให้ประสานการดำเนินการร่วมกันระหว่างภาคประชาสังคม ภาคประชาชน ท้องถิ่น และชุมชนในพื้นที่ สนับสนุนให้มีการใช้สมุนไพรหรือการแพทย์แผนไทยในการบำบัดหรือรักษา เพิ่มโอกาสการเข้าถึงระบบการตรวจหาเชื้อ เร่งรัดจัดตั้งสถานพยาบาลชั่วคราว โรงพยาบาลสนาม การวางระบบหรือจัดหาสถานที่เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์พักคอยรอการส่งตัว หรือระบบแยกกักเพื่อรองรับการให้ความช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ เพิ่มจำนวนจุดบริการตรวจคัดกรองและเร่งรัดการให้บริการตรวจคัดกรองและการฉีดวัคซีนป้องกันโรคในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งการฉีดวัคซีนป้องกันโรคในพื้นที่การแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน 

 และในส่วนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหารือกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ประสานการปฏิบัติกับฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางระบบและกำกับติดตามให้เป็นไปตามมาตรการ 1) ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานในระหว่างเวลา 21.00 - 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ต่อเนื่องเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน นับแต่วันที่ข้อกำหนดฉบับนี้ใช้บังคับ การปฏิบัติกรณีบุคคลที่ได้รับการยกเว้นการห้ามออกนอกเคหสถาน ดำเนินการตามแนวทางเดียวกันกับกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัดในเส้นทางคมนาคมเข้าออกจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงาน และคัดกรองการเดินทางของประชาชนทั่วไป

สำหรับในการเดินทางข้ามจังหวัดของประชาชนในพื้นที่อื่น ๆ ให้ทุกจังหวัดประสานการปฏิบัติกับฝ่ายทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างการรับรู้ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงหรือชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัดในช่วงระยะเวลานี้โดยไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อประโยชน์ส่วนรวม กรณีที่จำเป็นต้องเดินทางข้ามเขตพื้นที่ อาจไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางและอาจต้องใช้ระยะเวลามากกว่าปกติ พร้อมเฝ้าระวัง คัดกรอง ผู้เดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด กรณีที่พบผู้เดินทางมาจากจังหวัดที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรค โดยการคุมไว้สังเกต แยกกัก หรือกักกันในพื้นที่ที่พำนักหรือสถานที่ที่ทางราชการกำหนด หรือตามหลักเกณฑ์หรือแนวปฏิบัติด้านสาธารณสุขที่กำหนด โดยต้องไม่กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือการดำเนินงานเพื่อประโยชน์สาธารณะของเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง และในด้านการจัดกิจกรรมรวมกลุ่ม ให้ทุกจังหวัด (ยกเว้นกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล) ถือปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 24) ลงวันที่ 19 มิ.ย. 64 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่จัดกิจกรรมและสถานการณ์ในพื้นที่รับผิดชอบ และกรณีคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีมติให้ออกประกาศหรือคำสั่ง ให้ส่งประกาศหรือคำสั่งให้ ศบค.มท. ทราบโดยเร็ว เพื่อรายงานสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป รวมทั้งให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบประกาศหรือคำสั่งโดยทั่วกัน

“จุรินทร์” ปล่อยคาราวานรถ “โมบายพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ศรีสะเกษ" ช่วยลดค่าครองชีพ พร้อมเตรียมปล่อย 300 คันใน 10 จังหวัดล็อกดาวน์

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นางวรรณภรณ์ เกตุทัต ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ นางสุมิตรา อติทรัพย์  ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 14 นายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.จังหวัดอุบลราชธานี นายสำรวย เกษกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายวิชัย ตั้งธรรมเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และ นางฐิตารีย์ ไตรสรณปัญญา กับคณะ มาเปิดและปล่อยขบวนรถโมบายพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน  จังหวัดศรีสะเกษ ณ บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ โดยรองนายกรัฐมนตรีจุรินทร์ เป็นประธาน 

นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้เป็นโครงการเปิดตัวโมบายพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน เป็นโครงการที่จัดสินค้าราคาถูกใส่รถโมบายออกไปจำหน่ายในพื้นที่ทั่วทั้งจังหวัดศรีสะเกษ ในอำเภอชุมชนเป็นเวลา 30 วัน โดยมีรถโมบายที่จังหวัดศรีสะเกษ 15 คัน สินค้าทั้งหมด 73 รายการ ลดราคาสูงสุด 60% สินค้าบริโภคและอุปโภคที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน เช่น 1.ข้าวหอมมะลิถุงละ 5 กิโลกรัม 135 บาท กิโลกรัมละ 27 บาท 2.น้ำมันพืชขวดละ 1 ลิตร 42 บาท 3.ไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ 30 ฟองราคา 90 บาท 4.ปลากระป๋อง กระป๋องละ 10 บาท และ5.น้ำตาลทรายกิโลกรัมละ 20 บาทและ6.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองละ 5 บาท นอกจากนี้ยังมีน้ำยาล้างจานจากถุงละ 20 บาทเหลือ 8 บาทเป็นต้น และมีสินค้า GI หรือพืชเกษตรที่จดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่มีชื่อของจังหวัดศรีสะเกษ เช่น หอม กระเทียมศรีสะเกษสำหรับหอม GI ปกติขายกิโลกรัมละ 60 บาท เหลือกิโลกรัมละ 30 บาท กระเทียมเหลือกิโลกรัมละ 40 บาท

โดยจะตระเวนขายสินค้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปประมาณ 30 วัน คาดว่าจะลดค่าของชีพในช่วงประสบภัยโควิดให้ชาวศรีสะเกษได้ส่วนหนึ่ง และกระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการโครงการโมบายพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ทุกจังหวัดในแบบเดียวกันนี้ โดยเฉพาะ 10 จังหวัดล็อกดาวน์นั้นจะมีผลในวันพรุ่งนี้เลย ทันทีที่ทราบมติ ศบค.ทางเรามีโครงการกรณีพิเศษที่จะเพิ่มจำนวนรถใน 10 จังหวัดล็อกดาวน์ คือ 6 จังหวัดในกรุงเทพและปริมณฑล 4 จังหวัดภายแดนชายแดนใต้ รวมทั้งหมด 300 คัน และทันทีที่ทราบว่าจะมีมติ ศบค. ตนได้สั่งการตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมารวมทั้งในการประสานงานและประชุมร่วมกันกับกลุ่มผู้ผลิตสินค้าที่จำเป็นต่อการบริโภคอุปโภคและชีวิตประจำวันรวมทั้งห้างสรรพสินค้ากับจุดกระจายสินค้าซุปเปอร์มาร์เก็ต และท่านปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้รายงานว่ายังไม่มีปัญหาที่สินค้าหมดจากชั้นวาง 

"และได้สั่งการหากพี่น้องพบการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ให้ร้องเรียนมาที่สายด่วน 1569 จะมีเจ้าหน้าที่ประจำการทุกวัน ไม่มีวันหยุด ยกเว้นในช่วงเวลากลางคืนจะบันทึกไว้ และพาณิชย์จังหวัดจะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ด้วย ช่วยดูแลราคาสินค้าไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน หากพบหลักฐานว่าร้านค้าใดจำหน่ายสินค้าราคาแพงเกินสมควร ก็จะดำเนินคดีตามมาตรา 29 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย มีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท " นายจุรินทร์ กล่าว 

กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า โมบายพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชนจะมีหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ติดรถจำหน่ายไปด้วย สามารถติดตามรถโมบาย ได้จาก QR Code และที่ LINE@ mobilepanich รวมถึงเว็บไซต์ https://โมบายพาณิชย์.com/ และรถจะกระจายตัวและไปจอดให้ตามที่ชุมชนเน้นให้ทั่วถึงประชาชน

"ณัฐชา" เปิดไทม์ไลน์ย้อนหลัง 7 วัน หลังตรวจ Rapid Test ผลเป็นบวก ระบุ ได้ผลตรวจทางการ จะยืนยันอีกครั้ง

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า วันนี้ตนได้รับการยืนยันผลการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้น จึงขอเปิดเผยไทม์ไลน์เวลาและสถานที่ในรอบ 7 วันที่ผ่านมา เพื่อเป็นประโยชน์ในการสืบค้นและคัดกรองกลุ่มเสี่ยง และต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งสำหรับบุคคลต่างๆ ที่ตนพบเจอหรือทำงานด้วยในระหว่างนี้ ซึ่งจำเป็นต้องเฝ้าระวังอาการ ต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน และต้องเข้ารับการตรวจเชื้อเช่นเดียวกัน โดยตนทราบดีว่าในเวลานี้กระบวนการและขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายเลย ตนจึงต้องขออภัยไปยังทุกๆ คนอีกครั้ง

นายณัฐชา ระบุต่อว่า ดังที่ทราบกันดีว่าในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พวกเราได้รับการฉีดวัคซีนครบทั้ง 2 เข็มแล้ว ตนได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค และทราบดีเช่นกันว่าแม้จะได้รับวัคซีนครบแล้วก็ยังสามารถติดเชื้อได้ โดยเฉพาะวัคซีนซิโนแวคที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อต่ำ แต่สามารถลดอาการรุนแรงเมื่อติดเชื้อและป้องกันการเสียชีวิตได้ ดังนั้น การปฏิบัติหน้าที่ของตนในฐานะผู้แทนราษฎรทั้งในสภาและนอกสภา เช่น การลงไปรับฟังปัญหาต่างๆ รวมถึงการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจากปัญหาการระบาดของโควิด-19ในพื้นที่ ทั้งการตรวจเชิงรุก การช่วยเรื่องข้าวปลาอาหารสำหรับผู้ที่เดือดร้อนและผู้ที่กักตัว ตนจึงพยายามปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าการรักษาระยะห่างและการสวมใส่หน้ากากป้องกันตลอด อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลและข่าวสารหลายชิ้นพบว่าแม้ฉีดวัคซีนและป้องกันดีแล้ว แต่ก็ไม่สามารถป้องกันการติดได้จริงๆ เช่น กรณีของแพทย์ที่ประเทศอินโดนีเซียซึ่งพบการติดเชื้อจำนวนมาก รวมถึงมีการเสียชีวิตในอัตราที่สูง กรณีการติดเชื้อของแพทย์จำนวนหนึ่งในโรงพยาบาล จ.เชียงราย รวมถึงการติดเชื้อยกโรงพักของตำรวจ สน.พระราชวัง ผมจึงพยายามหมั่นตรวจเช็กการติดเชื้อด้วยตัวเองเป็นระยะ เพื่อให้สามารถคัดกรองตัวเองได้เร็วที่สุดและเพื่อลดภาระของสาธารณสุขให้มากที่สุด

นายณัฐชา ระบุต่อว่า ที่ผ่านมาตนจึงจัดหาชุดทดสอบแบบรวดเร็ว หรือ Rapid Test เพื่อตรวจ Antigen โดยเสมอ จนกระทั่งเมื่อวานนี้มีสัญญาณว่าอาจจะมีการติดเชื้อ ตนจึงเริ่มกระบวนการกักตัวเองทันที และเตรียมขอเข้ารับการตรวจเพื่อยืนยันการติดเชื้ออย่างเป็นทางการ ในระหว่างนี้พบว่าเริ่มมีอาการไข้และเจ็บคอ จึงลองทดสอบด้วย Rapid Test อีกรอบ ผลออกมามีแนวโน้มว่าติดเชื้อเช่นเดิม และส่วนตัวเกรงว่าจะไม่ทันต่อสถานการณ์ จึงขอประกาศอย่างไม่เป็นทางการว่าตนติดเชื้อโควิด-19 โดยระหว่างนี้ก็เข้ารับการตรวจเชื้อแบบ RT-PCR เพื่อยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง คาดว่าผลจะออกดึกๆ คืนนี้ หากมีผลเป็นอื่นจะรีบแจ้ง อย่างไรก็ตาม อาการของตนยังอยู่ในระดับไม่รุนแรงและส่วนตัวมีความพร้อมในการทำ Home Isolation หรือแยกกักตัวที่บ้านได้ โดยจะมีการติดตามอาการจากหน่วยงานสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด รวมถึงเรื่องสภาพความเป็นอยู่ เช่น อาหาร เครื่องใช้ต่างๆ ที่ทางพรรคก้าวไกลจะเป็นผู้ช่วยเหลือตระเตรียมเพื่อให้การกักตัวเพื่อรักษาตัวเองในครั้งนี้สามารถทำได้โดยลุล่วง และเป็นภาระระบบสาธารณสุขน้อยที่สุด เพราะในขณะนี้มีผู้ที่มีอาการรุนแรงจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีในโรงพยาบาล และความต้องการเตียงยังมีอัตราที่สูงมาก เป็นสถานการณ์ที่หนักอย่างยิ่ง ตนเชื่อว่าหากสามารถพัฒนาแนวทางคัดกรองการติดเชื้อให้ทำได้เร็วด้วยการปูพรมตรวจด้วย Rapid Test ให้สามารถตรวจสม่ำเสมอ เพื่อทำ Home Isolation หรือแยกผู้ป่วยออกจากผู้ไม่ติดเชื้อได้เร็วและเป็นระบบ ตนเชื่อว่าสถานการณ์ด้านสาธารณสุขจะคลี่คลายลงไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน

"สุดท้ายนี้ ผมขอฝากกำลังใจไปยังทุกท่าน ผมทราบดีว่าขณะนี้ทุกคนกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายและสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างยิ่ง ผมและพรรคก้าวไกลจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์นี้ให้กลับมาสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด ไม่ว่าสถานการณ์ด้านสาธารณสุข สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจปากท้อง และสถานการณ์ด้านสังคมในเวลานี้ ตัวผมเองจะรีบรักษาให้หายและกลับมาปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนราษฎรของประเทศนี้ให้เร็วที่สุด อย่าเพิ่งหมดหวัง เรายังมีวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าเดิมรออยู่" นายณัฐชา ระบุ

“อันวาร์”ลาออกตำแหน่งรองเลขาฯปชป. หวังให้พรรคเร่งจัดประชุมใหญ่-เลือกตั้งรองหัวหน้าฯคุมภาคใต้ ชี้ความนิยมพรรคยังตกต่ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่า  นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทำหนังสือถึงหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา แจ้งการขอลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค เพื่อให้พรรคเร่งจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พร้อมกับจัดการเลือกตั้งตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคฯดูแลภาคใต้ที่ยังว่างอยู่  อย่างไรก็ตาม ในหนังสือแจ้งการขอลาออกของนายอันวาร์ มีสาระสำคัญที่เน้นย้ำถึงกระแสความนิยมของพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังตกต่ำ แต่การที่คณะผู้บริหารไม่รับฟังเสียงเรียกร้องของนายอันวาร์  รวมถึงกรณีที่พรรคฯ ยังไม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ซึ่งขณะนี้มีภาพลบจากปัญหาวิกฤติ“โควิด-19” 

“บิ๊กตู่” สั่งระดมช่วยคุมราคาสินค้าช่วงล็อกดาวน์-เร่งแก้เรื่องร้องเรียน 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ เข้มงวดในการตรวจสอบเรื่องราคาทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภคในท้องตลาดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เป็นธรรม โดยเฉพาะในส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ป้องกันโรคแก่ประชาชน อย่างหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ เจลล้างมือ ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา ซึ่งจะกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยและค่าครองชีพของประชาชนในช่วงนี้ได้

ทั้งนี้ รัฐบาลยังขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ไม่ขึ้นราคาสินค้าในช่วงนี้ เพื่อช่วยกันบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายประชาชน หากพบมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างไม่เหมาะสม จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ให้มีการตรวจสอบด้วย หากพบเรื่องราวร้องทุกข์ของผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อน จากการขึ้นราคาสินค้าไม่เป็นธรรม ขอให้เร่งตรวจสอบและช่วยบรรเทาความเดือดร้อนโดยด่วน 

ในส่วนของการสต๊อกสินค้านั้น กระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียมพร้อมรองรับการยกระดับมาตรการควบคุมโรคไว้แล้ว โดยได้มีการประสานกับห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการรายย่อย เตรียมพร้อมสินค้า โดยเฉพาะด้านอาหาร รองรับความต้องการของประชาชน โดยมั่นใจว่าเพียงพอต่อความต้องการ จึงแนะนำให้ประชาชนเลือกซื้อสินค้าในปริมาณที่พอดี ไม่จำเป็นต้องกักตุนสินค้าไว้จำนวนมาก เพราะสินค้าทั้งด้านอุปโภคและบริโภคมีเพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน

ขณะที่ ด้านพลังงาน รัฐบาลมีความพร้อมบรรเทาภาระประชาชนด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน(กกพ.) มีมติให้ตรึงค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) รอบเดือน ก.ค. – ธ.ค.2564 ให้เรียกเก็บที่ -15.32 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้ายังคงจ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดิมในอัตรา 3.61 บาทต่อหน่วย ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2564 นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ยังได้ขยายเวลาคงราคา LPG ออกไปอีก 3 เดือน  1 ก.ค. – 30 ก.ย.2564 โดยถัง 15 กิโลกรัม อยู่ที่ 318 บาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย

“เสกสกล” รับ คนแห่ต่อคิวตรวจโคิวิด-19 แน่น ยัน รัฐ เร่งเปิดจุดตรวจเชื้อ วอน ปชช.เชื่อ “บิ๊กตู่”พาพ้นวิกฤต

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ปรากฎภาพประชาชนต่อแถว รอการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ว่า ยอมรับว่าประชาชนอาจไม่ได้รับความสะดวกสบาย โดยศบค.ยืนยันที่จะเร่งเปิดจุดตรวจหาเชื้อให้มากขึ้น นอกจากนั้นกระทรวงสาธารณสุข มีมติให้กำหนดแนวทางการใช้วิธีตรวจหาแอนติเจนโดยใช้ ชุดตรวจโควิด Rapid Antigen Test โดยสถานพยาบาลของรัฐและเอกชนที่ผ่านการรับรองทางห้องปฏิบัติการเครือข่ายตรวจ SARS-CoV-2 จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อแก้ปัญหาประชาชน เข้าไม่ถึงบริการตรวจโควิดเพราะต้องรอคิวจำนวนมาก 

นอกจากนั้นยังเพิ่มความสามารถรักษาพยาบาล โดยจัดตั้ง รพ.สนาม ไอซียูสนาม แยกกักในชุมชน แยกกักที่บ้าน ปรับแผนการกระจายวัคซีน เร่งฉีดผู้สูงวัยที่อายุมากกว่า 60 ปี กลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ให้ได้ 1 ล้านโดส ภายใน 2 สัปดาห์ และจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ฉีดเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และเร่งจัดหาวัคซีนที่ประชาชนต้องการมาฉีดให้ประชาชน

“ยืนยันว่านายกฯจะทำทุกอย่างเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น ทั้งดูแลด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ เยียวยา และบริหารจัดการวัคซีนให้ประชาชนทุกคน ขอให้ประชาชน เข้าใจว่านายกฯทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างสุดความสามารถ และนายกฯ ขอความร่วมมือประชาชนทุกคนรักษาตนเองให้ปลอดภัย อย่าเชื่อ
เฟกนิวส์ ข่าวบิดเบือน ข่าวปลอม หรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ที่เล่นการเมือง จ้องโจมตีทำลายความเชื่อถือของรัฐบาลเพื่อหวังผลทางการเมือง เพื่อก้าวข้ามวิกฤตไปด้วยกัน

เกษตรทันสมัย!! ดัน​ 77​ จังหวัดไทย​ พึ่งตนได้อย่างยั่งยืน | Contributor EP.19

อนาคตของภาคการเกษตรไทย 77 จังหวัดไทย ต้องพึ่งตัวเองได้อย่างยั่งยืน

เปลี่ยนภาพเก่า ชาวนาคลุกฝุ่น ชาวไร่คลุกดิน สู่สังคมการเกษตรไทยโฉมใหม่ หลังจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งดำเนินยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเกษตรทันสมัยภายใต้ ‘5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย’ ได้ขับเคลื่อน AIC (Agritech and Innovation Center) หรือ ศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรม ในระยะเวลาเพียง 1 ปี ก็เห็นผล

- ช่วยยกระดับวงการเกษตรไทย ผ่านการบูรณาการทุกภาคส่วน
- ร่วมหัว จมความคิด พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่แตะต้องได้
- ถ่ายทอดเป็นองค์ความรู้ ไปสู่เกษตรกรตัวจริง
- ใช้งานได้ง่าย ราคาถูก เพิ่มผลผลิต และปรับปรุงคุณภาพสินค้าเกษตรไทยได้ทุกมิติ ทั้งผลิตผล และสินค้าแปรรูป

กลไกใดที่ทำให้วงการเกษตรเริ่มขยับไปในทิศทางที่น่าจะใช้คำว่า ‘ถูกต้อง’ ได้

กระทรวงเกษตรฯ เสกคาถาใด ถึงเริ่มเปลี่ยนทิศเกษตรดั้งเดิม มาสู่เกษตรยุคใหม่ 

ร่วมถอดรหัส เบื้องหลังเกษตรทันสมัย ภายใต้ ‘5 ยุทธศาสตร์เฉลิมชัย’

77 จังหวัดไทย ต้องพึ่งตัวเองได้อย่างยั่งยืน จาก คุณอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ 

.


 


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ไทยไม่ทน​ -​ ตู่ต้องทน

...วันนี้ที่ 8 กรกฎาคม 2564

...ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ให้นับโทษนายจตุพร พรหมพันธุ์ จำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ. 4176/2552

...ศาลลงโทษจำคุก 12 เดือนต่อจากโทษคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ. 4907/2555

...ทั้งสองคดี​ มี​ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นโจทก์ ฟ้อง​ นายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นจำเลย ในข้อหาหมิ่นประมาท

...ศาลอาญาได้ออกหมายขังจำคุกคดีถึงที่สุด โดยที่ก่อนหน้านี้นายจตุพร ถูกจำคุกในคดีนี้มาแล้ว 14 วัน จึงต้องนำมาหักจากโทษจำคุก 12 เดือน จึงเหลือที่นายจตุพรต้องถูกจำคุกอีก 11 เดือน 16 วัน

...เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้นำตัวนายจตุพรไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป

...หมายเหตุ : คดีสองคดีนี้โจทก์ให้นับโทษจำเลยต่อจากอีกคดีหนึ่ง เพราะถ้าไม่นับโทษต่อกันจำเลยจะได้ประโยชน์มาก

...ยกตัวอย่าง คดีแรกศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปี เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 ซึ่งจะครบ 1 ปี ในวันที่ 31 ธันวาคม 2561

...คดีที่สองศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 1 ปี เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2561 ซึ่งครบ 1 ปีในวันที่ 31 มีนาคม 2562

...ถ้าไม่นับโทษคดีที่สองต่อจากคดีแรก เมื่อถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 จำเลยก็ถูกจำคุกครบ 1 ปี

...ส่วนคดีที่สองเมื่อถึงวันที่ 31 มีนาคม 2562 ก็ถูกจำคุกครบ 1 ปีเช่นเดียวกัน รวมแล้วจำเลยถูกจำคุกเพียง 1 ปี 3 เดือน เพราะตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 จำเลยถูกจำคุกซ้อนกันสองคดี

...แต่ถ้านับโทษคดีที่สองต่อจากคดีแรก โทษในคดีที่สองเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 หลังจากครบการจำคุกในคดีแรกคือวันที่ 31 ธันวคม 2561 คดีที่สองครบ 1 ปีในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 คือจำเลยถูกจำคุกรวม 2 ปี ตามคำพิพากษาทั้งสองคดี

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=3850661081726756&id=100003487051857


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top