Monday, 7 July 2025
POLITICS

“ดอน” ระบุ ไทยเตรียมปรับท่าทีปมขัดแย้ง "รัสเซีย-ยูเครน" แย้ม มีช่องทางเสริมการเจรจาให้สถานการณ์ดีขึ้น ชี้ มีคนหวังประโยชน์จากความยืดเยื้อ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ว่า โดยหลักแล้วเราต้องดูสถานการณ์ที่เป็นจริง ขณะนี้ประเทศไทยอาจจะต้องปรับท่าทีนิดนึง เพราะเรารับรู้อยู่แล้วว่ามีการประณามเยอะอยู่แล้ว แต่เราต้องหาจุดที่ช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ต้องมาช่วยกันดูว่าจะทำอย่างไรให้สถานการณ์คลี่คลายได้ อย่านั่งประณามอย่างเดียว 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับท่าทีของไทย จะทำให้เป็นรูปธรรมได้อย่างไร นายดอน กล่าวว่า เป็นไปได้ ต้องหาทางให้เกิดขึ้น เพื่อไปเสริมการเจรจา เรามีช่องทางที่จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

เมื่อถามถึงกรณีประธานาธิบดียูเครนสมัครเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) นายดอน กล่าวว่า ตามหลักของการเจรจาเป็นการทำให้ท่าทีเข้มขึ้น แข็งขึ้น ไม่ใช่เจรจาแล้วจะอยู่ในท่าทีเดิมๆ แต่การเสริมท่าทีนั้นจะทำให้การคุยกันยากขึ้นไปได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น จะต้องชวนกันมาเอาจริงเอาจังที่จะหาทางออก มากกว่าการแสดงความแกร่ง

เมื่อถามย้ำว่า ยูเครนมีจุดยืนชัดเจนที่จะเข้าร่วมอียูใช่หรือไม่ นายดอน กล่าวว่า ไม่เชิง เราต้องคิดว่ามีปัจจัยต่างๆ อีกเยอะ อาจจะไม่ได้แค่คิดเรื่องการเป็นสมาชิกอียูเท่านั้น แต่อาจจะมาจากที่อื่นก็ได้เพื่อให้เกิดการยืดเยื้อ คนที่ต้องการให้เกิดความยืดเยื้อมีอยู่เยอะ 

ต่อข้อถามว่าคนที่ต้องการให้เกิดความยืดเยื้อต้องการอะไร นายดอน กล่าวว่า ให้ช่วยคิดกันเองว่าชีวิตจริงเป็นอย่างไร คนที่ต้องการให้ยืดเยื้อก็ได้ประโยชน์จากหลายๆ อย่าง 

เมื่อถามย้ำว่า ต้องกดดันคนที่ต้องการให้ยืดเยื้อหรือไม่ นายดอน กล่าวว่า มันมีคนที่ได้ประโยชน์ แต่คนเสียผลประโยชน์คือคนทั้งโลก เราจึงต้องหาวิธีการที่จะช่วยกัน ให้การหารือเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ต้องไม่มานั่งด่ากัน ไทยโชคดีอย่างหนึ่งที่เป็นเพื่อนและสามารถคุยกับคนทั้งโลก แต่ว่าคุยแล้วมีน้ำหนักแค่ไหนนั้นอีกเรื่องหนึ่ง เราสามารถพูดได้กับทั้งอียู สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย 

'บิ๊กป้อม' ยืนยัน 'ธรรมนัส' ยังหนุน 'บิ๊กตู่'

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ฉบับที่...)พศ.... รัฐสภา ที่ได้เลือกนายสาธิต ปิตุเตชะ  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานกรรมาธิการ ชุดดังกล่าว ว่า เป็นเรื่องของสภา ซึ่งเขาอยากได้รัฐมนตรี เป็นประธาน ไม่ใช่การผิดพลาดเรื่องเสียงแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ระบุเสียงที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มี 260 เสียง ที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นั้น ไม่ได้รวมเสียงของพรรคเศรษฐกิจไทย พล.อ.ประวิตร ยังไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าวแต่ย้อนถามว่า ตอนที่นายอนุทินพูด เขารวมพรรคเศรษฐกิจไทยด้วยหรือไม่ 

เมื่อถามว่า การที่ ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขายังสนับสนุนเหมือนเดิม แต่ว่าที่สื่อไปถาม นายอนุทินนั้นรวม 260 เสียงของเศรษฐกิจไทยด้วยหรือไม่

เมื่อถามย้ำว่า หากถึงเวลาต้องโหวต คิดว่าพรรคเศรษฐกิจไทยยังสนับหนุนพล.อ.ประยุทธ์ ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังสนับสนุน เมื่อถามว่าแสดงว่าให้เป็นอิสระใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใช่  

‘ธีรรัตน์’ อัดรัฐ!! ‘ทำติดโควิดจากเบาเป็นหนัก’ เหตุรัฐบริหารจัดการล้มเหลวซ้ำซาก

ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศยังน่าเป็นห่วง โดยจากการลงพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 ทุกระดับสี ยังประสบปัญหาในการเข้าสู่ระบบการรักษาหลังรู้ว่าติดเชื้อจำนวนมาก 

การติดต่อหมายเลข 1330 ที่ผู้ป่วยไม่ได้รับการติดต่อกลับอย่างทันท่วงที ประชาชนไม่รับทราบถึงวิธีการดูแลตัวเองในเบื้องต้นและไม่ได้รับยาสามัญ ทำให้อาการติดเชื้อจากเบากลายเป็นหนัก ส่งผลต่อจำนวนเตียงในระบบโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน ที่ต้องกลับเข้าสู่สภาพที่เรียกว่า ‘คัดเคส’ 

ผู้ที่สามารถเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลได้จะต้องมีประกันชีวิตที่ทำไว้กับบริษัทเอกชนเท่านั้น แต่หากจะต้องกักตัวใน Hospitel จะต้องจ่ายมัดจำก่อนเข้าพักถึง 80,000 หมื่นบาท เพื่อกันไว้สำหรับการใช้บริการ เพราะภาคเอกชนไม่วางใจรัฐบาลโดย สปสช. อาจจะไม่มีเงินจ่ายให้กับเอกชนแล้ว

สถานการณ์ผู้ป่วยโควิดไม่สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐที่เป็นไปแบบ ‘ต่างคนต่างทำ’ มีระบบการ ‘จับคู่’ ที่หน่วยงานภาครัฐ จัดให้ประชาชนในพื้นที่หนึ่ง สามารถเข้ารับการรักษาในคลินิกชุมชนแห่งนั้น แต่ไม่มีระบบการส่งตัวไปยังโรงพยาบาล โดยทั้งหมดไม่ได้มีการประสานกับโรงพยาบาล ทำให้เกิดความสับสนทั้งในส่วนของประชาชนและผู้ปฏิบัติทั้งโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน จนในท้ายที่สุดผู้ป่วยไม่มีสถานที่เข้าพักรักษาตัวจำนวนมาก 

คณะรัฐมนตรี หารือ สถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ขณะที่สภาพัฒน์รายงานสถานการณ์เศษฐกิจไทย และแนวโน้มเศรษฐกิจปีนี้ พร้อมรายงานสถานการณ์เตียง - ยา หลังยอดติดเชื้อโควิดพุ่ง

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีแบบเต็มคณะ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมจะมีการหารือสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน หลังนายกรัฐมนตรีเรียกประชุมรองนายกรัฐมนตรีฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวานนี้ เพื่อรับมือผลกระทบหากเกิดการ sanction ด้านการค้าระหว่างประเทศ ต้นทุนสินค้า พลังงาน

นอกจากนี้คาดการณ์ว่าจะมีการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งพบการติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น รวมไปถึงมีการรายงานสถานการณ์เตียง ยาฟาวิพิราเวียร์ หลังจากที่ชมรมแพทย์ชนบท ออกมาระบุว่า ยาฟาวิพิราเวียร์นั้นขาดแคลน

โดยก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำคณะเข้าพบ เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการส่งเสริมการจ้างงานคนพิการเชิงสังคม ปี 2565

ขณะที่วาระที่น่าสนใจในวันนี้ กระทรวงคมนาคม เสนอร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง เพื่วางมาตรฐานกลาง ในการกำกับดูแลความปลอดภัยและความมั่นคงของการขนส่งทางราง การกำหนดบทลงโทษ การยกระดับความปลอดภัยในการเดินทางและการขนส่งทางรางให้มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั้งรถไฟระหว่างเมือง และ รถไฟฟ้า เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนสูงสุด รวมไปถึงอาจมีการรายงานความคืบหน้าการพิจารณาต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ด้านสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เสนอรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ทั้งปี 2564 และแนวโน้มปี 2565 / กระทรวงมหาดไทย เสนอร่างกฎกระทรวง ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พุทธศักราช 2474

“ประยุทธ์ ”ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ  กษัตริย์ซาอุดีอาระเบียพระราชทานอัลกุรอานให้ชาวไทย  เชื่อมั่นจะกระชับมิติทางสังคมระหว่างกัน และเป็นโอกาสเผยแพร่สังคมพหุวัฒนธรรมของไทย ขณะที้เที่ยวบินปฐมฤกษ์ซาอุดีอาระเบีย-ไทยคึกคัก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดี และแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะชีช อัลชะอูด แห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ในโอกาสที่ทรงพระราชทานอัลกุรอานจำนวน 50,060 เล่มแก่ชาวไทยมุสลิม โดยอัลกุรอานที่ทรงพระราชทานให้จะมีขนาดต่างๆ และแปลเป็นภาษาต่าง ๆ

โดยได้มีพิธีส่งมอบไปแล้วเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ที่กรุงเทพฯ โดยมีรองหัวหน้าคณะผู้แทนของราชอาณาจักร ณ สถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงเทพฯ ผู้แทนจากกระทรวงกิจการศาสนาอิสลามแห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ตัวแทนจากภาคส่วนการเมืองและอิสลาม นักวิชาการและผู้สนับสนุนจากจังหวัดต่างๆ ของไทยเข้าร่วมพิธีด้วย

กระทรวงกิจการศาสนาอิสลามแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นตัวแทนของสำนักพิมพ์อัลกุรอาน คิง ฟาฮัด (King Fahd Complex for the Printing of the Holy Qur’an) จะจัดส่งสำเนาอัลกุรอานให้กับชาวมุสลิมทั่วโลก อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ในการส่งมอบของขวัญก่อนเดือนรอมฎอนจะมาถึง
การส่งมอบดังกล่าว ถือเป็นการต่อยอดจากที่ซาอุดีอาระเบียเคยส่งมายังประเทศไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเป็นโอกาสสำคัญในการสานต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี

ทั้งนี้ อัลกุรอานได้ถูกแปลไปในกว่า 76 ภาษา และทางสำนักพิมพ์ ฯ ได้เพิ่มอัตราการผลิตขึ้นมากกว่า 100% คือ จาก 7 ล้านเล่มต่อปี เป็น 20 ล้านเล่มต่อปี โดยมีคุณภาพผลงานในระดับสูง โดยจนถึงสิ้นปี 2564 มีการผลิตแล้วมากกว่า 345 ล้านเล่ม และมากกว่า 320 ล้านเล่มในจำนวนนี้ ถูกแจกจ่ายเป็นของขวัญไปสู่ชาวมุสลิมทั่วโลก

นายธนกร กล่าวว่า การส่งมอบดังกล่าวสะท้อนถึงการส่งเสริมความร่วมมือและสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย ที่มีปฏิสัมพันธ์ถึงมิติด้านสังคม รวมถึงบทบาทของไทยที่ได้รับการยอมรับในชุมชนมุสลิมระหว่างประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีนโยบายในการส่งเสริม และสนับสนุนสังคมพหุวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติ เสรีภาพและปรองดอง

'ราเมศ' เผย 'จุรินทร์-เฉลิมชัย-เดชอิชม์' ห่วงใย ปชช ลุยช่วย 'น้ำท่วมภาคใต้' เต็มสูบ

นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในหลายพื้นที่ภาคใต้ว่า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยและติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ เช่น จังหวัดพัทลุง ตรัง สตูล สงขลา นครศรีธรรมราช นราธิวาส ยะลา ปัตตานี อย่างใกล้ชิด

ในช่วงที่ผ่านมาได้สั่งการให้ตัวแทนพรรค สาขา รวมถึง ส.ส. และอดีต ส.ส. รวมถึงอดีตผู้สมัคร ส.ส. และทุกภาคส่วนของพรรค เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน การให้ความช่วยเหลือกรณีเร่งด่วนและได้มีในส่วนรัฐมนตรีของพรรค ได้เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ รวมถึงการสำรวจความเสียหายเพื่อช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้หน่วยงาน ตรวจดูอย่างเข้มงวดไม่ให้สินค้าที่ใช้ในการอุปโภคบริโภคขาดและเข้มงวดไม่มีมีกรณีซ้ำเติมประชาชนด้วยการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า

'โบว์ ณัฏฐา' แสดงมุมมองต่อกรณี นักแสดงสาว 'แตงโมนิดา' จมน้ำเสียชีวิต พร้อมเตือนสติสื่อ อย่า 'โยนขยะเข้าสู่สังคม' แล้วหวังให้ชาวบ้านใช้วิจารณญาณ

จากกรณี ‘แตงโม นิดา’ หรือ ‘ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์’ อายุ 38 ปี ดารานักแสดงสาวชื่อดังที่พลัดตกแม่น้ำเจ้าพระยาจมหายไป ขณะล่องเรือสปีดโบ๊ตไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนชาย-หญิง รวม 6 คน กว่า 38 ชั่วโมง จนกระทั่งพบร่างของนักแสดงสาวลอยขึ้นมาใกล้กับโป๊ะเรือในจุดที่จมหายไป ซึ่งกรณีนี้ก็ได้กลายเป็นที่พูดถึงกันในวงกว้าง และในเกือบทุกแวดวง ซึ่งรวมไปถึงวงการกฎหมายนั้น

ทางด้าน ‘คุณโบว์ - ณัฏฐา มหัทธนา’ ได้ให้ความเห็นในมุมมองที่น่าสนใจ ผ่านรายการ MEET THE STATES TIMES เดอะ ดีเบต โดยยกกรณีของดาราสาวมาเป็นบทเรียนว่า...

“โบว์ ได้มีโอกาสฟังข่าววิทยุ โดยได้มีสื่อไปสัมภาษณ์ทนายความท่านหนึ่ง ซึ่งบางทีรายการข่าวชอบโทรสัมภาษณ์ทนายเวลาที่มีเคสอะไรขึ้นมา เหมือนเป็นแหล่งอ้างอิง แล้วก็จะใช้ทนายซ้ำๆ อยู่ไม่กี่คน 

“แต่ประเด็น คือ การตอบคำถามของทนายบางครั้งจะเกินเลยไป จนเป็นการสร้างจำเลยสังคมขึ้นมา ซึ่งโบว์บอกเลยในฐานะที่พอรู้กฎหมายบ้าง ถ้าคุณไปถามทนาย 10 คน บางทีก็ตอบไม่เหมือนกันหรอก อีกทั้งความรู้ก็ไม่เท่ากัน อคติต่อแต่ละเรื่องไม่เหมือนกัน แล้วก็ความเชี่ยวชาญต่างกัน”

“ดังนั้นเรื่องนี้ที่ยกขึ้นมาพูดในวันนี้ เพราะอยากจะแนะนำสื่อตรงๆ ว่า ไม่ควรไปยึดทนายคนใดคนหนึ่งมาเป็นสรณะ แล้วชี้นำสังคมผ่านการสัมภาษณ์แบบนี้ โดยที่เขาไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวกับคดี เพราะเขาอาจจะมโนไป พูดกันเป็นละคร วางเป็นพลอตเรื่องเองกันหมด มันแย่มาก กลายเป็นว่าไม่ใช้ปัญญา ไม่ได้ตั้งอยู่บนความรู้อะไร แต่อยากจะสร้างความบันเทิงจากสิ่งนี้”

“ถ้าคุณอยากสัมภาษณ์ทนายหรือนักกฎหมายที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีจริงๆ ควรมีมากกว่าหนึ่งคน ต้องมี Second Opinion แล้วให้สังคมใช้วิจารณญาณ”

ทั้งนี้ คุณโบว์ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการผลิตบัณฑิตในสาขานิติศาสตร์อีกด้วยว่า “สิ่งหนึ่งที่เห็นว่าอาจจะหายไปในการสอนนิติศาสตร์ในบางสถาบันในปัจจุบัน คือ วิชา ‘นิติปรัชญา’ พอไม่ได้เรียนลึกซึ้ง ถึงระดับปรัชญาของกฎหมาย มันก็จะมีการตีความอะไรทื่อๆ ไปตามตัวอักษร และท้ายที่สุดแล้วจะไม่นำไปสู่ความยุติธรรม” 

“บิ๊กป้อม” ดัน “ไพบูลย์” ชิง ปธ.กมธ.กมลูก 2 ฉบับ มั่นใจ ทำหน้าที่ได้ดี พร้อม เตรียมลง 3 จชต. 2 มี.ค.นี้ ติดตามสถานการณ์ 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ. ... และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ควรจะมาจากฝ่ายใด ว่า "ฝ่ายรัฐบาล" 

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคพปชร. จะส่งใครชิงตำแหน่งประธานกมธ.หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พรรคพปชร.จะส่งนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร. เมื่อถามว่า คิดว่านายไพบูลย์ จะมาสามารถทำหน้าที่ได้ดีหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะทำหน้าที่ได้ดี 

เมื่อถามฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยที่จะให้นายไพบูลย์นั่งเป็นกรรมาธิการชุดนี้ พล.อ.ประวิตรปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว

“โฆษกรัฐบาล” ย้ำ 1มี.ค.ลงทะเบียน TEST AND GO - แจก ATK ให้ปชช.กลุ่มเสี่ยงฟรี ผ่านหน่วยบริการกว่า 2,000 แห่ง ยัน เดินทางเศรษฐกิจคู่กับป้องกันระบาด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใน 1 มี.ค.นี้ รัฐบาลเดินหน้านโยบายมาตรการควบคุมด้านสาธารณสุข ควบคู่ไปกับการเปิดลงทะเบียนตามหลักเกณฑ์การเดินทางเข้าประเทศไทย ในรูปแบบ TEST AND GO โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเร่งกระจายชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ผ่าน โครงการกระจายอุปกรณ์ตรวจด้วยตนเอง เพื่อคัดกรองการติดเชื้อ COVID-19 ซึ่งเป็นการขยายบริการให้ครอบคลุมการเข้าถึงสิทธิสร้างเสริมสุขภาพและระบบสาธารณสุข อย่างต่อเนื่อง 

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับคนไทยทุกสิทธิ ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จะกระจายผ่านหน่วยบริการในระบบสปสช.กว่า 2,000 แห่ง รวมทั้งร้านยาที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 1,500 ร้านทั่วประเทศ โดยวิธีการรับบริการ ผ่านสมาร์ทโฟน เข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง,กระเป๋าสุขภาพ เลือก “ฟรี ชุดตรวจโควิด” โดยทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อน หากมีความเสี่ยง ระบบจะให้ค้นหาหน่วยบริการใกล้ฉันและโทรติดต่อสอบถาม จากนั้นให้ไปรับพร้อมมือถือที่มีแอปเป๋าตัง เพื่อใช้สแกน QR Code แอปถุงเงินของหน่วยบริการ ได้รับชุดตรวจ 2 ชุด นำกลับมาตรวจและบันทึกผลผ่านแอปเป๋าตัง กระเป๋าสุขภาพ สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง สามารถดาวน์โหลดและลงทะเบียนได้ที่ https://krungthai.com/link/paotang-ktbwallet 

กรณีไม่มีสมาร์ตโฟน ให้โทร 1330 หรือผ่านเว็บไซต์ สปสช.เพื่อตรวจสอบข้อมูลหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ
และเดินทางไปที่หน่วยบริการ พร้อมบัตรประชาชน สูติบัตร เพื่อให้ ตัวแทนหน่วยบริการ ทำประเมินความเสี่ยง หากมีความเสี่ยง จะได้รับชุดตรวจ 2 ชุด และนำกลับมาตรวจ และแจ้งผลให้ตัวแทนหน่วยบริการบันทึกผลตรวจให้ โดยตัวแทนหน่วยบริการสแกนคิวอาร์โคด แอปฯถุงเงิน ของหน่วยตนเองเพื่อบันทึกการแจกโดยแจกได้ 100คนต่อวัน และหลังจากได้รับแจกแล้ว อีก 10 วัน สามารถมาขอรับชุดตรวจได้เพิ่ม ทั้งนี้ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิกchttps://tp.consular.go.th/ เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso

นายธนกร กล่าวว่า ส่วนขั้นตอนหลักเกณฑ์การเดินทางเข้าประเทศไทยในรูปแบบ TEST AND GO ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้ง วันที่ 1 มี.ค.นี้ ให้ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass ที่ https://tp.consular.go.th/ โดยจะใช้เวลาในการพิจารณา 3- 7วัน

พิษโอมิครอนฉุดเศรษฐกิจเดือน ม.ค. ชะลอตัว

น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจและการเงิน เดือนม.ค. 2565 ว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคม มีการชะลอตัวลงบ้าง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับลดลง จากการระงับการลงทะเบียนเข้าประเทศผ่านระบบ Test & Go ในช่วงวันที่ 21 ธ.ค.2564 - 31 ม.ค. 2565 หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน 

ส่วนการบริโภคและลงทุนของภาคเอกชนปรับลดลง จากความกังวลต่อการระบาดของโอมิครอน โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน ที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วปรับลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนในเกือบทุกหมวด โดยเป็นผลจากสถานการณ์การระบาดในประเทศที่กลับมารุนแรงขึ้น และการเพิ่มความเข้มงวดของมาตรการควบคุมการระบาด ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมและความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลงบ้าง 

“บิ๊กตู่” Conference เปิดโครงการบ้านเคหะสุขเกษม สมุทรปราการ “เปรย”ใครจะอยู่ ใครจะ้ป็น ขอร่วมมือทำทุกอย่างจะสำเร็จ “ย้ำ”เจอปัญหาทุกวันแต่ยิ้มสู้ แม้หงุดหงิดบ้างแต่ไม่เคยทิ้งประเทศ

ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบนโยบายด้านการอยู่อาศัยและการดูแลผู้สูงอายุของรัฐบาล (ผ่านระบบ Video Conference) ไปยังโครงการบ้านเคหะสุขเกษม ถนนเทพารักษ์ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โอยกล่าวตอนหนึ่ง ว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งและเป็นสิ่งที่นายกฯคาดหวังและรอคอยมาโดยตลอดในหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ที่ได้มอบหมายเป็นนโยบายลงไป ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง

สำหรับนโยบายของรัฐบาลในด้านที่อยู่อาศัยและการดูแลผู้สูงอายุซึ่งทุกคนคงทราบว่ารัฐบาลมีความห่วงใยและใส่ใจในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในทุกมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาประเทศไปสู่ความมั่นคงระยะยาว เราต้องสร้างความเสมอภาคเท่าเทียมกันภายในสังคม สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจ ตลอดจนการสร้างความมั่นคงในเรื่องของที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน โดยรัฐบาลมีเป้าหมายให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยภายทั่วกันในปี 2579 ซึ่งต้องเป็นโครงการระยะยาวที่มีความต่อเนื่อง ที่ผ่านมารัฐบาลร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะประชาชนกลุ่มที่มีรายได้น้อย เปราะบาง กลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อให้มีโอกาสอย่างเท่าเทียมในการเป็นเจ้าของที่พักและที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมมาแล้วในหลายโครงการ และขยายไปสู่เป้าหมายอื่นๆโดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ข้าราชการเกษียณ พนักงานบริษัท และประชาชนทั่วไปที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีหรือ 60 ปีขึ้นไป ให้ได้มีโอกาสความเท่าเทียมถึงสวัสดิการของรัฐ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หวังอย่างยิ่งว่านโยบายแบบนี้ที่ได้กำหนดลงไป รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่มุ่งมั่น ขอให้ทุกคนร่วมมือกันให้เกิดการสืบสานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีความสุขตามพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีเพียงพอ มีรายได้ที่เหมาะสม และการดำเนินการดังกล่าวนี้เพื่อประชาชนทั้งสิ้น ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เราต้องดำเนินการด้วยความสุจริต โปร่งใส มีประสิทธิภาพ ผลประโยชน์ต้องเป็นของประชาชนโดยรวม โดยทั่วกันอย่างเป็นธรรม หากไม่ร่วมมือกันมันมาไม่ถึงวันนี้อยู่แล้ว “หวังอย่างยิ่งว่าเราจะได้ร่วมมือกันต่อไปในอนาคต ไม่ว่าใครจะเป็น ใครจะอยู่ ใครจะอะไรก็ตาม หวังว่านโยบายนี้จะสืบสานต่อไปเรื่อยๆ แล้ววันหนึ่งจะสำเร็จทุกอย่าง ไม่มีอะไรไม่สำเร็จหากเราร่วมมือกัน”นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หวังว่าทุกคนจะดีใจไปกับตนที่เห็นผลงานเป็นรูปธรรม การที่ประชาชนมีปัญหาในวันนี้ เราจะแก้ไขปัญหาความยากจนที่มีอยู่หลายอย่างด้วยกัน อันแรกคือจนเพราะรายได้ไม่เพียงพอ เพราะหนี้สินต่างๆ อันที่สองจนเพราะที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสม คุณภาพชีวิตไม่ดี และเรื่องของจนความรู้ต้องมีการให้ความรู้ใหม่ๆใส่ลงไป อีกสิ่งคือเรื่องการศึกษาและการเข้าถึงบริการภาครัฐ 

“อนุทิน” ไม่ประมาท สั่ง สธ.จับตาสถานการณ์เวชภันฑ์ใกล้ชิด หลังเกิดสถานการณ์ในยูเครน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลออกมาให้ข้อมูลเรื่องการขาดแคลนยาฟาวิพิราเวียร์ ว่า ท่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ได้แถลงว่าเรามียาเพียงพอ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ ทั้งนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ รวมถึงยาชนิดอื่น เราสามารถผลิตเองได้ ขณะเดียวกัน ได้มีการนำเข้ามาเพิ่ม ล่าสุด เอาเข้ามาเสริมอีก 2 ตัว คือ โมลนูพิราเวียร์ และแพ็กโลวิกซ์ นอกจากนั้น ยังสามารถผลิตฟ้าทะลายโจรได้ 

ขอให้มั่นใจข้อมูลจากทางทีมแพทย์ เพราะปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้างาน ขอย้ำว่า ท่านปลัด ดูแลรับผิดชอบเรื่องโรงพยาบาล ดูแลเรื่องการจัดซื้อจัดหาเวชภัณฑ์ เพื่อมารักษาผู้ป่วย ที่สำคัญ ท่านเป็นประธานคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ท่านรายงานว่ายามีเพียงพอ ไม่เชื่อหมอ แล้วจะเชื่อใคร แน่นอนว่าทุกคนมีสิทธิ์แสดงความเห็น แต่คนทำงานก็มีสิทธิ์ที่จะชี้แจง

"นายกฯ"ยัน “เวชภัณท์-เตียง-ยารักษาโควิด” เพียงพอ ย้ำ หลักเกณฑ์เดินทางรูปแบบ TEST AND GO ใหม่  เริ่ม 1 มี.ค.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ยืนยันรัฐบาลบริหารจัดการยา เวชภัณฑ์ ที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเพียงพอ โดยกำชับไปยังองค์การเภสัชกรรม ได้มีการบริหารจัดการสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 โดยสำรองไว้จำนวน 24 ล้านเม็ด และผลิตเพิ่ม จำนวน 60 ล้านเม็ด รวมการสำรองทั้งสิ้น 84 ล้านเม็ด 

สำหรับกทม.มีรายงานว่ามีเตียงว่างสำหรับรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในที่พักคอยชุมชน   กว่า 1,300 เตียง และยังเตรียมเปิดเพิ่มอีก 9 แห่ง จำนวน 1,000 เตียง ยืนยันเตียงในกทม. ยังมีว่างพอรองรับผู้ติดเชื้อ ทั้งนี้ นายกฯห่วงใยกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้มีความเสี่ยงสูงจึงฝากเตือนไปยังครอบครัวที่มีสมาชิกที่จัดอยู่ในกลุ่มของผู้มีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อโควิด – 19  ให้เพิ่มความระมัดระวังสูงสุด จัดสรรพื้นที่ภายในบ้านเพื่อลดการติดเชื้อในครอบครัวด้วย 

นายธนกร กล่าวว่า นายกฯย้ำหลักเกณฑ์การเดินทางเข้าประเทศไทยในรูปแบบ TEST AND GO ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 มี.ค.โดยมีขั้นตอนการลงทะเบียน ดังนี้1.ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass ที่ https://tp.consular.go.th/ โดยจะใช้เวลาในการพิจารณา 3- 7วัน 2. ตรวจหาเชื้อแบบ RT - PCR ผลตรวจภายใน 72 ชม.ก่อนเดินทาง3. เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ผ่านจุดตรวจ และเดินทางไปยังโรงแรมด้วยพาหนะโรงแรมในรูปแบบ sealed route 4. ตรวจหาเชื้อแบบ RT - PCR ในวันแรกและรอผลตรวจที่โรงแรม และ 5. ตรวจ ATK self - test ด้วยตัวเองในวันที่ 5 - 6 และรายงานผลตรวจผ่านช่องทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ทั้งนี้ ย้ำผู้เดินทางต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และได้รับอย่างน้อย 14 วัน ก่อนเดินทาง 

"โฆษกรัฐบาล" เผย ยอดค่าใช้จ่าย จากโครงการลดค่าครองชีพของรัฐ “พุ่งแล้วกว่า 4.8 หมื่นล้านบาท"  เตือนผู้มีสิทธิคนละครึ่งเดิม รีบใช้จ่ายก่อนเวลา 22.59 น.  ภายใน 28 ก.พ. 65 เพื่อไม่ให้ถูกตัดสิทธิ ขณะที่ "คนละครึ่ง เฟส 4" สามารถใช้จ่ายได้ถึง 30 เม.ย. นี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายในการขับเคลื่อนทุกกลไกเพื่อช่วยเหลือประชาชนในยุคที่ต้องเผชิญกับผลกระทบของสถานการณ์โควิด -19 โดยรัฐบาลได้มีมาตรการลดภาระค่าครองชีพของรัฐเพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่ายประจำวันของประชาชน เป็นการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งความคืบหน้ายอดค่าใช้จ่ายในรอบปีใหม่นี้ 2565 ประกอบด้วยโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ที่รัฐบาลเพิ่มวงเงินสนับสนุนในการช่วยลดภาระการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันของประชาชน กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ

ล่าสุด ข้อมูล ณ วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้ใช้สิทธิ สะสมรวม  40.12 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสม รวม 47,708.21 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 25.91 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 44,872.9 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 22,781.2 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 22,091.7 ล้านบาท 2) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 13.06 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 2,606.01 ล้านบาท  และ 3) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 มีผู้ใช้สิทธิสะสม 1.15 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 229.30 ล้านบาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการเปิดลงทะเบียน คนละครึ่งเฟส 4 รอบนี้ ประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก กดลงทะเบียนอย่างรวดเร็วทำให้เต็มสิทธิ 29 ล้านสิทธิเพียงไม่มีวันที่เปิดให้ลงทะเบียนได้ โดยประชาชนสามารถใช้จ่ายได้จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนกลุ่มเดิมฯ (คนละครึ่งเฟส 3) รีบสแกน “เป๋าตัง” และใช้จ่ายภายในวันนี้ (28 ก.พ. 65) เวลา 22.59 น. หากพ้นกำหนดดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ ซึ่งขณะนี้มีประชาชนกลุ่มเดิมฯ ที่ยังไม่ได้เริ่มใช้สิทธิประมาณ 2.9 ล้านราย

โฆษกรัฐฯ สวน "หญิงหน่อย" อย่าปิดหูปิดตา แนะเปิดใจรับฟังข้อมูลรัฐบาลบ้าง” ชี้”วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนกระทบไทยวงจำกัดรัฐบาลเตรียมพร้อมรับมือทุกด้าน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย จี้รัฐบาลดูแลเศรษฐกิจไทยไม่ให้วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนซ้ำเติม ว่า คุณหญิงสุดารัตน์ควรเปิดใจรับฟังบ้างว่าที่ผ่านมารัฐบาลสื่อสารอะไรกับประชาชน ซึ่งทำมาตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทั้งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะรัฐบาลทุกรัฐบาลทั่วโลกต้องให้ความสำคัญและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เว้นเสียแต่ว่าคุณหญิงสุดารัตน์ไม่มีความจริงใจ ปิดหูปิดตา ไม่รับฟัง หวังแต่จะสร้างกระแสและคะแนนนิยมเท่านั้น

นายธนกร กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในวงจำกัด อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่ประมาทเตรียมมาตรการรองรับทุกมิติ โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ธปท. ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พูดคุยหารือและรายงานข้อมูลกันอยู่ตลอดเวลา เพื่อกำหนดแนวทางรับมือผลกระทบจากวิกฤตที่เกิดขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นราคาพลังงาน ราคาสินค้าและค่าครองชีพ เงินเฟ้อ การส่งออก หรือตลาดการเงิน โดยเฉพาะราคาน้ำมันและก๊าซที่จะดูแลไม่ให้สูงเกินไป อยู่ในระดับที่เอื้อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวและแข่งขันกับชาติอื่นได้ด้วย

ส่วนด้านการค้าหากมีการคว่ำบาตรกันระหว่างคู่ขัดแย้งเรากำลังจับตาดูอยู่ ทั้งหมดนี้เราเน้นไปที่เรื่องเศรษฐกิจปากท้องและหากวิกฤตไม่ยืดเยื้อซึ่งมีแนวโน้มเป็นไปได้ รัฐบาลประเมินว่า GDP ของไทยปีนี้จะขยายตัว 3-4% ผ่านกิจกรรมสำคัญ เช่น เร่งผลักดัน EEC, ส่งเสริมสินทรัพย์ดิจิทัล, ส่งเสริม SMEs สตาร์ทอัพผ่านเวนเจอร์แคปปิตอล, พัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ฯลฯ จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าวิตกกังวลและเชื่อมั่นในการดำเนินงานของรัฐบาล


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top