Monday, 7 July 2025
POLITICS

“นิพนธ์” ยัน “สาธิต” นั่งปธ.กมธ. แก้กฎหมายลูก ไม่ทำมีปัญหา กับพปชร. เชื่อ ทำงานรับฟังเสียงข้างมาก ด้าน "มท.3”เผย ชงครม.เชื่อ หย่อนบัตร ผู้ว่าฯกทม.ตามไทม์ไลน์ ปัด วิจารณ์ พปชร.ยังอุบชื่อผู้สมัคร

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิพนธ์  บุญญามณี รมช.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ....   และ พรรคการเมือง (ฉบับที่...) พ.ศ. …ว่า จะมีผลต่อการพิจารณากฎหมายอย่างไร ว่า คิดว่าคงไม่มีอะไร เพราะในกมธ.จะต้องรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่าย มีอะไรต้องพูดกัน โดยต้องอาศัยการรับฟังเสียงส่วนมาก

ผู้สื่อข่าวถามถึงสังเกตว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการชิงไหวชิงพริบ กับพรรคพลังประชารัฐ นายนิพนธ์ กล่าวว่า คิดว่าไม่มีอะไรแบบนั้น อยู่ที่ความพร้อมกมธ.มากกว่า 

เมื่อถามว่าแนวทางแก้กฎหมายลูก2ฉบับ จะเป็นไปในทิศทางที่ดีหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามมติกมธ.ที่ต้องรับฟังความเห็นทุกฝ่าย ก่อนจะออกเป็นมติอย่างใดอย่างหนึ่ง 

"นายกฯ" ขอเร่งสร้างการรับรู้ “เจอ แจก จบ” เป็นมาตรการเสริม เน้นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว เตือนผู้ป่วย HI ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด  ขณะที่ สธ. พร้อมประเมินการดำเนินการให้สอดคล้องกับบริบทของผู้ป่วยและระดับการระบาด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับให้เร่งสร้างการรับรู้ การรักษาผู้ป่วยโควิด-19  “เจอ-แจก-จบ” แบบ OPD case เป็นมาตรการเสริมเพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาพยาบาล ควบคู่กับระบบ HI/CI เป็นทางเลือกสำหรับผู้ติดเชื้อที่สบายดี ไม่มีอาการ ไม่มีภาวะเสี่ยง และสมัครใจรักษาที่บ้าน

โดยนายกรัฐมนตรียังย้ำว่า ผู้ป่วยต้องปฏิบัติตนตามมาตรการและคำแนะนำของแพทย์ระหว่างการรักษาตนเองที่บ้านอย่างเคร่งครัดด้วย ทั้งนี้ สธ. ได้ติดตามระบบการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบผู้ป่วยนอก หรือ “เจอ แจก จบ” ซึ่งเริ่มดำเนินการวันแรกวานนี้ (1 มี.ค. 65) ยังไม่พบปัญหา โดยผู้ที่มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 สามารถตรวจ ATK ด้วยตนเองที่บ้าน หรือเดินทางมาตรวจที่คลินิกโรคทางเดินหายใจ (ARI Clinic) ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง หากพบผลเป็นบวก แพทย์จะพิจารณาความเสี่ยงและโรคประจำตัว หากไม่มีความเสี่ยงจะให้การรักษาแบบผู้ป่วยนอกและกลับไปแยกกักตัวที่บ้าน ซึ่งเป็นไปตามความสมัครใจ

โดยผู้ป่วยติดเชื้อจะได้รับยาตามระดับอาการ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มยาตามอาการ เช่น ลดไข้ แก้ไอ เจ็บคอ ขับเสมหะ เป็นต้น ยาฟ้าทะลายโจร และยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ และจะมีการติดตามอาการหลังครบ 48 ชั่วโมง ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการประเมินการดำเนินการ เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของผู้ป่วยและระดับการระบาด

“บิ๊กตู่” ห่วง คนไทยในยูเครน ย้ำ กต.-หน่วยงานเกี่ยวข้อง ส่งกลับคนไทย ให้ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน จากสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน ด้วยความเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของชาวไทยในยูเครน พร้อมขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือผู้ที่ยังติดค้างอยู่ในยูเครน โดยให้กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือคนไทยด้วยความรอบคอบ และเร่งดำเนินการส่งชาวไทยที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศ ให้กลับถึงไทยโดยสวัสดิภาพ

นายธนกร กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงความคืบหน้าแผนการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์  โดยเมื่อวันที่28 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ช่วยเหลือคนไทย ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครนอีก 43 คน อพยพออกจากยูเครน เข้าประเทศโปแลนด์และกำลังเดินทางกลับประเทศไทย ทั้งนี้ซึ่งสามารถอพยพคนไทย ออกนอกยูเครน จำนวน 142 คน

“นายกฯ” กำชับ หน่วยงานเกี่ยวข้อง เตรียมรับสอบ GAT-PAT-วิชาสามัญระบบทีแคส สั่งดูแลแพร่ระบาด ย้ำ นักเรียนต้องไม่เสียโอกาสการศึกษา

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.เอกประยุทธ์  จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม  กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 
บูรณาการทำงาน เตรียมพร้อมมาตรการรองรับการสอบความถนัดทั่วไป( GAT) และความถนัดทางวิชาการ (PAT)และสอบวิชาสามัญด้วยระบบทีแคส โดยเน้นดูแลความปลอดภัยพร้อมให้คำแนะนำด้านสาธารณสุข ขั้นสูงสุด เพื่อให้นักเรียนไม่ขาดกระบวนการเรียนรู้และเสียโอกาสด้านการศึกษา  

นายธนกร กล่าวว่า นายกฯรับทราบข้อกังวลกรณีนักเรียน นักศึกษา ที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 อาจหมดสิทธิสอบ เพื่อนำคะแนนไปใช้ในการเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2565 จึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือกำหนดแนวทางอำนวยความสะดวกให้นักเรียนที่ติดโควิด ที่มีอาการเล็กน้อย หรือไม่มีอาการและอยู่ระหว่างรักษา รวมถึงกลุ่มเสี่ยงสูง ให้ได้เข้าสอบ ตามมาตรการ ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)กำหนด 

ครม. เห็นชอบ ร่าง MOU ขยายความร่วมมือด้านไฟฟ้า ไทย-สปป.ลาว หวัง พัฒนาพลังงานสะอาดในภูมิภาค

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจความร่วมมือในการพัฒนาไฟฟ้าในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างไทย และ สปป. ลาว โดยให้ความสำคัญกับการซื้อขายพลังงานสะอาดในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 

รวมถึงเป็นการเสริมสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขอบเขตความร่วมมือในครั้งนี้ มุ่งขยายความร่วมมือด้านพลังงานไฟฟ้า โดยเพิ่มปริมาณกำลังการผลิตขึ้นอีก 1,500 เมกะวัตต์ จากปริมาณกำลังผลิตเดิม 9,000 เมกะวัตต์ รวมปริมาณกำลังผลิตเป็น 10,500 เมกะวัตต์ เพื่อขายพลังงานไฟฟ้าให้กับไทย โดยมีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นผู้รับผิดชอบการซื้อขายไฟฟ้า 

สำหรับขอบเขตความร่วมมือในด้านอื่นๆ อาทิ 1.การจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาร่วมกันในรายละเอียดเชิงเทคนิค 2.พัฒนาไฟฟ้าจากแหล่งเชื้อเพลิงความร้อน พัฒนาระบบโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าและระบบขายปลีกไฟฟ้า ใน สปป.ลาว 3.จัดสรรทรัพยากรน้ำ รวมถึงความร่วมมืออื่นๆในการลดการปล่อยคาร์บอน  4.พิจารณาการก่อสร้างระบบสายส่งไฟฟ้าข้ามพรมแดนของแต่ละประเทศ รวมถึงเชื่อมโยงกับระบบสายส่งเดิมกับประเทศที่สาม 

ครม. เห็นชอบ ปรับค่ารักษาโควิด-19 ให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบัน เผย ไม่กระทบคุณภาพการรักษาทุกระดับอาการ

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ที่ทำเนียบรัฐบาล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบปรับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (ฉบับที่ 8) โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ เพื่อให้ค่าใช้จ่ายรักษาโรคโควิด-19 สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากราคาอุปกรณ์และเวชภัณฑ์บางรายการมีราคาที่ถูกลง

ทั้งนี้ การปรับอัตราค่าใช้จ่ายจะไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและคุณภาพในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทุกกลุ่มระดับอาการทั้งสีเขียว สีเหลือง และสีแดง ตัวอย่างการปรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขมีดังนี้ 1.ปรับปรุงหลักเกณฑ์โดยให้สถานพยาบาลได้รับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามระดับกลุ่มอาการของผู้ป่วย นับแต่รับหรือส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอื่นตามบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายหลักเกณฑ์ฯฉบับนี้ และกำหนดให้ผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยที่ปฏิเสธไม่ขอให้ส่งต่อ หรือกรณีผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วย ประสงค์จะไปรับการรักษาที่สถานพยาบาลอื่น ผู้ป่วยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเอง 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า 2.การตรวจคัดกรองด้วยวิธี RT-PCR แบ่งเป็น 1.กรณี 2 ยีนส์ (เหมาจ่าย) ปรับลดเหลือ 900 บาท จากเดิม 1,300 บาท 2.กรณี 3 ยีนส์ (เหมาจ่าย) ปรับลดเหลือ 1,100 บาท จากเดิม 1,500 บาท 3.การตรวจคัดกรองด้วย ATK แบ่งเป็น 1.วิธี Chromatographic immunoassay จ่ายตามจริงไม่เกิน 250 บาทต่อครั้ง (จากเดิม 300บาทต่อครั้ง) 2.วิธี FIA จ่ายตามจริงไม่เกิน 350 บาทต่อครั้ง (จากเดิม 400บาทต่อครั้ง)

“ครม.“ รับทราบการเพิ่มทุน บมจ.ราช กรุ๊ป ในเครือ กฟผ. รองรับขยายการลงทุนไฟฟ้าในอนาคต

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบการเพิ่มทุนบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จำนวนไม่เกิน 25,000 ล้านบาท และให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพิ่มทุนในบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตามสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 45 จำนวนไม่เกิน 11,250 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ เพื่อให้บริษัทสามารถปรับโครงสร้างเงินลงทุน เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน และรองรับการขยายการลงทุนในอนาคต ซึ่งบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทในเครือของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจในลักษณะการถือหุ้นในบริษัทอื่นเพื่อลงทุนในบริษัทย่อย การร่วมค้า และเงินลงทุนอื่นๆ ที่ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง โดย กฟผ.มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ร้อยละ 45 

'บิ๊กตู่' บอกครม. ไทยต้อง ละเอียดรอบคอบและเป็นกลาง ต่อปม'รัสเซีย-ยูเครน'  'บิ๊กป้อม' ถกนอกรอบ คาใจ เหตุ' ไพบูลย์' หลุด ประธานกมธ.

เมื่อวันที่ 1 มี.ค. รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ใช้เวลาหารือถึงเรื่องความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน นานที่สุดโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าขณะนี้มีความกดดันจะให้ไทยเข้าข้างสหภาพยุโรป(อียู) แต่หากจะทำอะไรเราต้องคิดถึงประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซีย ที่มีมาอย่างยาวนานด้วย โดยประเทศในอียูไม่รู้รายละเอียดความสัมพันธ์ที่เรามี  เราจึงต้องคิดอย่างละเอียดและรอบคอบ ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและรมว.การต่างประเทศ ระบุว่า อียู รุกไทยอย่างมาก ว่าให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งมีรัฐมนตรีหลายคนแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว ซึ่งทำให้ นายกฯ กล่าวสรุปว่า “เราต้องสุขุมและรอบคอบในการตัดสินใจ” และภาพรวมในการหารือ คือต้องการให้ไทยวางตัวเป็นกลาง และเร่งนำคนไทยในพื้นที่ดังกล่าวกลับมาโดยเร็ว 

นอกจากนี้ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังหารือถึงการฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างของไทย-ซาอุดิอารเบีย ที่จะทำให้มีพัฒนาการด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน ทั้งเรื่องการส่งออก การท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้ซาอุฯต้องการซื้อไข่ไก่จากประเทศไทยเป็นจำนวนมาก นายกฯจึงมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รีบตรวจสอบตัวเลขไข่ไก่ของประเทศไทยว่าขณะนี้มีปริมาณเท่าไหร่ บริโภคในประเทศเท่าไหร่ ส่งออกเท่าไหร่ และให้ดูด้วยว่าไทยจะสามารถเพิ่มผลผลิตเพื่อขายให้ซาอุฯได้หรือไม่ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ก็ได้กล่าวขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เปิดทางด้านการค้าขาย ทำให้ความสัมพันธ์พัฒนาเป็นรูปธรรมมากขึ้น

รายงานแจ้งว่า หลังการประชุมครม. เสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้หารือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลวงเล็กในห้องรับรอง หรือห้องสีเหลือง โดยมีรัฐมนตรีเข้าร่วมประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาตร์พรรคชาติไทยพัฒนา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะรักษาการเลขาธิการพรรค พลังประชารัฐ และ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม โดยใช้เวลาหารือกันนานประมาณ 15 นาที

ครม. ไฟเขียว มหาดไทย ตั้ง 'ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม' รองปลัดฯ นั่งโฆษก มหาดไทย พร้อมรองโฆษก อีก 3 คน 'ไตรภพ-ทรงกลด-บรรจบ'

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้ง นายวิวัฒน์ เขาสกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านยุทธศาสาตร์ภาษีสรรพสามิต (นักวิชาการสรรพสามิตทรงคุณวุฒิ) กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป 

ครม.มีมติรับทราบการแต่งตั้งโฆษกกระทรวง รองโฆษกกระทรวง และผู้ช่วยโฆษกกระทรวงมหาดไทย เพื่อปฎิบัติหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของทางราชการ ตามที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อปฎิบัติหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของทางราชการ ตามที่กระทรวงมหาดไทย ดังนี้ นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งโฆษกกระทรวงมหาดไทย นายไตรภพ  วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ให้ดำรงตำแหน่งรองโฆษกกระทรวงมหาดไทย นายทรงกลด สว่างวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยราชการสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายบรรจบ จันทรัตน์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยโฆษกกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป 

'นายกฯ' กำชับทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาหนี้สิน สั่ง!รายงานความคืบหน้าทุกไตรมาส ทั้งเตรียมพร้อมประชุมกมธ.เจซี-รับชายแดนทางบกรับนักท่องเที่ยวมาเลย์

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯแจ้งให้ครม.รับทราบการจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นหนึ่งในนโนบายหลักของรัฐบาลที่ให้ปี 65 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน โดยครอบคลุม 8 ด้าน เช่น การแก้ปัญหาหนี้ กยศ. การเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์ หนี้ข้าราชการ หนี้บัตรเครดิต และการปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมให้สอดคล้องกับภาวะหนี้ในปัจจุบัน 

โดยนายกฯได้ย้ำว่าการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ต้องให้หน่วยงานร่วมกันหลายหน่วย โดยศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข กรมคุมครองสิทธิและเสรีภาพ กลต. ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกรมบังคับคดี กรมควบคุมสิทธิและเสรีภาพ กยศ. ธนาคารออมสิน ฯลฯ ได้ติดตามความคืบหน้า และเร่งการดำเนินงานอย่างเป็นระบบเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมชัดเจน ซึ่งนายกฯกำชับให้รายงานความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนทุกไตรมาสเพื่อให้สอดคล้องกับปัญหาความยากจน 

ครม. เห็นชอบร่างข้อตกลง 'แรงงานไทย-ซาอุดีฯ' 2ฉบับ ต่อยอดความสัมพันธ์-ขยายตลาดแรงงานไทยในตะวันออกกลาง

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ครม.เห็นชอบ ร่างข้อตกลงด้านแรงงาน ระหว่างกระทรวงแรงงาน กับกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งซาอุดีอาระเบีย จำนวน 2  ฉบับ ได้แก่ ร่างข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงาน และร่างข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงานทำงานบ้าน โดยร่างข้อตกลงแรงงานทั้ง  2 ฉบับ  มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อสร้างความมั่นใจในการจัดหาแรงงานไทย ไปทำงานในซาอุฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีจริยธรรม และมีประสิทธิภาพ คุ้มครองสิทธิของนายจ้างและลูกจ้าง

โดยทั้งสองฝ่าย จะร่วมมือกันดำเนินการนำไปสู่ระบบที่เป็นที่ยอมรับ ทั้งการจัดหาแรงงาน การจัดส่งแรงงานไปทำงาน และการส่งแรงงานกลับประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดหาแรงงาน เป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีจริยธรรม ซึ่งแรงงานและนายจ้างจะมีสิทธิรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ และสามารถดำเนินมาตรการทางกฎหมายกับสำนักงานจัดหางาน บริษัทจัดหางาน หรือตัวแทนจัดหางาน ในกรณีละเมิดกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อกำหนดที่ใช้บังคับ
ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งซาอุดีอาระเบีย จะมีหน้าที่รับผิดชอบในการระบุคุณสมบัติและประเภทของงานที่เสนอ ให้มีการจัดหาแรงงาน รวมทั้งค่าจ้าง ผลประโยชน์ และเงื่อนไขอื่นที่เกี่ยวข้อง และสร้างความมั่นใจว่าสวัสดิการและสิทธิของแรงงานไทย ที่ได้รับการว่าจ้างทำงานในซาอุฯได้รับการคุ้มครอง

 นายธนกร กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน จะสร้างความมั่นใจว่าแรงงานที่จัดหา ตรงตามเงื่อนไขทางด้านสุขภาพ และปราศจากโรคติดต่อ เป็นผู้ไม่มีประวัติเสื่อมเสีย และผ่านการฝึกอบรมทักษะที่เหมาะสม  รวมทั้งจะและดำเนินการที่จำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่แรงงานในการเดินทาง ไปยังซาอุดีอาระเบียและการจัดส่งแรงงานกลับคืนสู่ไทย รวมทั้งสนับสนุนให้แรงงานปฏิบัติตามกฎหมาย ศีลธรรม คุณธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะทบทวน ประเมินผล และติดตามการดำเนินการตามข้อตกลงนี้เป็นระยะด้วย ทั้งนี้ร่างข้อตกลง ฯ นี้ มีผลบังคับใช้ เมื่อมีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร มีระยะเวลา 5 ปี และจะต่ออายุได้อีก 5ปี โดยอัตโนมัติ เว้นแต่ภาคีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแสดงเจตจำนงระงับหรือสิ้นสุดข้อตกลง

ครม. ปลื้มอาคารแสดงไทย งาน World Expo 2020 Dubai ได้รับความนิยมในลําดับที่ 1 ในโซน Mobility  ช่วง 3 เดือนแรก (ต.ค.-ธ.ค. 64 ) มีผู้เข้าชมแล้ว 713,945 คน  

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.รับทราบความก้าวหน้าโครงการอาคารแสดงประเทศไทย งาน World Expo 2020 Dubai  รอบช่วง 3 เดือนแรก คือเดือนต.ค.-ธ.ค. 64)มีผู้เข้าชมแล้วทั้งสิ้น 713,945 คน  ได้รับความนิยมจากผู้เข้าชมในลําดับที่ 1 ในโซน Mobility และเป็นลำดับที่ 4 จากอาคารจัดแสดง ระดับประเทศทั้งหมดโดยรองจากซาอุดิอาระเบีย ปากีสถาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และไทย 

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสนใจจากสื่อไทยและต่างประเทศ คือ เนื้อหา และรูปแบบการนําเสนอ เช่น ศิลปวัฒนธรรมไทย พระอัจฉริยภาพ ของสถาบันพระมหากษัตริย์ ความนิยมของร้านอาหารไทย โดยเฉพาะจากชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และชาวต่างชาติ และการแสดงประจําวันบริเวณเวทีหน้าอาคารแสดงฯ เช่น การแสดงชุด Thai Fighting Spirit โดยมีกิจกรรมที่สําคัญ  ได้แก่ การจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น การแสดงมวยไทยประยุกต์ ร่วมกับเกมและแอนิเมชัน การแสดงสี่ภาคผสมจังหวะดนตรีที่ทันสมัย และการแสดงโขน  การจัดกิจกรรมตามเทศกาลต่างๆเช่น เทศกาลอาหารไทยและสุขภาพ เทศกาลลอยกระทง และงานวันชาติไทย   การจัดกิจกรรมเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เช่น กิจกรรม เฉลิมฉลองครบรอบ 45  ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทย-สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังได้รับรองบุคคลสําคัญระดับราชวงศ์ ระดับรัฐบาล และองค์การ ระหว่างประเทศ อาทิ   Prince Sora Bint Saud Al-Saud ซาอุดิอาระเบีย  รัฐมนตรีแห่งรัฐว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับแผนงานกิจกรรมในช่วง 3 เดือนหลัง คือ เดือน ม.ค.-มี.ค. 65 จะเน้นการจัดกิจกรรมเพื่อแสดงศักยภาพด้านต่าง ๆ ของไทย เช่น เทศกาลดิจิทัลและนวัตกรรม เช่น นําเสนอโครงการเน็ตประชารัฐ สินค้าและบริการของดิจิทัลสตาร์ทอัพไทย และนวัตกรรมสินค้าฮาลาล เทศกาลพลังงานและสิ่งแวดล้อม เช่น นําเสนอนวัตกรรมด้านพลังงาน แห่งอนาคต สัปดาห์เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยและผลิตภัณฑ์ของไทย เช่น มวยไทย นวดไทย และอาหารไทย และเทศกาลแห่งความสุข โดยนําเสนอผลิตภัณฑ์การเกษตรตามฤดูกาล 

ครม.ไฟเขียว 2,000 ล้านบาท ให้กองทุนฟื้นฟูฯ สางหนี้เกษตรกร  3,425 ราย พร้อมเทงบกว่า 1,411 ล้านบาท ยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ดันภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ครม.อนุมัติงบกลาง 2,000 ล้านบาท รายการเงินสำรองจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เพื่อดำเนินการเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารสำนักงานฯ ไตรมาสที่ 3-4 งบบุคลากร งบดำเนินงาน วงเงิน 230.38 ล้านบาท และใช้ในการแก้ไขปัญหาหนี้เกษตรกร กลุ่มเป้าหมาย 3,425 ราย วงเงิน 1,500 ล้านบาท รวมถึงฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร 42,034 ราย 776 องค์กร วงเงิน 267.62 ล้านบาท 

นายธนกร กล่าวว่า ในระยะเวลา 3 ปี ผ่านมา ตั้งแต่ปี  2563-2565  กองทุนฯ ไม่ได้รับจัดสรรงบฯ จึงทำให้ในปี 65 นี้  กองทุนฯ มีงบฯ ไม่เพียงพอในการดำเนินการ จึงจำเป็นต้องขอรับสนับสนุน งบกลางฯ กรอบวงเงิน 2,000 ล้านบาท สำหรับดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร ตามนโยบายและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีต่อไป 

นอกจากนี้นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.หลักการจัดสรรงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จ.ภูเก็ต สู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก โดยใช้ที่ดินราชพัสดุ เนื้อที่ 141 ไร่ 2 งาน 64 ตารางวา ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี ตั้งแต่ปี 66- 69 วงเงินลงทุน 1,411.70 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างความพร้อมระบบโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี วิทยาการทางการแพทย์ ระบบบริการทางการแพทย์รองรับการจัดบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขระดับนานาชาติ ที่ทันสมัย พัฒนาเมืองภูเก็ตให้เป็นศูนย์กลางการบริการทางการแพทย์ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวนานาชาติ  โดยมีโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ

นายธนกร กล่าวว่า สาระสำคัญของโครงการฯ มีจัดสร้างศูนย์บริการทางการแพทย์ครบวงจร ประกอบด้วย ศูนย์บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขระดับนานาชาติครบวงจร 2.ศูนย์อภิบาลสุขภาพผู้สูงอายุนานาชาติ 3.ศูนย์ใจรักษ์ หรือศูนย์การดูแลแบบประคับประคองในระยะสุดท้ายของชีวิต   4.ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูครบวงจร

“บิ๊กตู่” พร้อมพูดคุยกับทุกคน หลังถูก ”ยิ่งลักษณ์”ถาม โฆษกรัฐฯชดข้ามรุ่น ฝากให้คิด คนมีคดีติดตัวทุกคนควรกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตัวเองหรือไม่ เผยสถานการณ์วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน นายกฯ ติดตามใกล้ชิด กำชับหน่วยงานเกี่ยวข้องเตรียมแผนรองรับ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยินดีจะคุยกับตนเองหรือไม่ถ้าเจอว่า ยืนยันว่าพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียินดีและพร้อมที่จะพูดคุยกับทุกคน ทุกฝ่ายอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา เพราะทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ แต่ฝากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์คิดด้วยว่า ผู้ที่มีคดีติดตัวทุกคนควรจะกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตัวเองหรือไม่ หากยังคิดว่าประเทศไทยคือบ้านเกิดเมืองนอน ทางที่ดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ควรกล้าที่จะกลับมารับผิดชอบความผิดที่ตัวเองทำไว้กับประเทศเสียก่อน แล้วค่อยมาท้าทายคนอื่นว่ากล้าหรือไม่จะดีกว่า เพราะคนที่เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ควรจะพูดในสิ่งที่แม้แต่ตัวเองก็ยังทำไม่ได้

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญต่อหลักกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เพราะเป็นหลักประกันของการสร้างความเป็นธรรมของสังคมที่เท่าเทียม  โดยรัฐบาลได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ยึดหลักการทำหน้าที่อย่างโปร่งใส เป็นธรรม ตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และต้องตอบคำถามสังคมได้ ส่วนกรณีที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยดาหน้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเรื่องการรับมือกับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนนั้น คงเป็นความตั้งใจที่อยากจะดิสเครดิตรัฐบาล โดยใช้ประเด็นภายนอกมาเชื่อมโยงกับเรื่องภายใน

“บิ๊กตู่” เล็งหามาตรการแก้ราคาเบนซิน “วอน” เห็นใจรัฐยาลแก้ทุกปัญหา ย้อนพูดแต่หลักการใครก็พูดได้ ติงสื่อฯอย่าเสนอข่าวย้อนแย้ง ยัน! พร้อมแก้ไขปัญหาน้ำท่วม พื้นที่ภาคใต้ ขอ ปชช. ร้องผ่านช่องทางของรัฐ

ที่ทำเนียบรัฐบาล  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการดูแลราคาน้ำมันเบนซินไม่ให้ขยับสูงขึ้น ว่า ได้มีการหารือและตนได้สั่งการไปแล้ว โดยวันนี้ก็ต้องดูด้วย ที่ผ่านมาพยายามเสนอให้รัฐบาลลดโน่นลดนี่ ลดภาษีสรรพสามิต แต่พอมาวันนี้ก็บอกว่าถ้าไม่มีสรรพสามิตแล้วรัฐบาลจะทำอย่างไร ตนก็ทำมาตลอด ลดนี่ลดนั่นก่อน ถ้ารายได้เสียก็ต้องยอมมาเสียตรงนี้ สิ่งสำคัญคือวันหน้า แล้วทุกคนบอกว่าเสียไปแล้วจะทำอย่างไร ก็ลดไปแล้วเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนไม่ใช่หรือ วันนี้กำลังให้ทบทวนดูแลในภาคของเบนซินจะทำอย่างไร อาจจะเป็นกลุ่มเป็นอาชีพอะไรต่างๆได้หรือไม่ ถ้าไปกันทั้งหมดมันก็พัง รัฐบาลไม่มีเงินจะไปอุดหนุนอะไรได้ทั้งหมดอยู่แล้ว เห็นใจกันบ้าง อย่าย้อนแย้งกันนักเลยการเสนอข่าว วันนี้ขอมาอย่างนี้ แล้วที่ทำไปแล้วกลับมาเล่นรัฐบาลตรงนี้อีก เพื่ออะไร ได้ประโยชน์อะไรไม่เห็นได้อะไรเลย 

เมื่อถามถึงการจัดเก็บภาษีซึ่งมีหลายประเภท ทั้งภาษีโฆษณา ภาษีท้องที่ จะมีการพิจารณาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เขาพิจารณาหมดแล้ว คณะทำงานฝ่ายกฎหมายมีอยู่ อะไรทำได้เขาก็ทำ เรารู้รายละเอียดบ้างหรือไม่ใครเขาทำอะไรกันบ้าง หากจะพูดเฉพาะหลักการมันได้หมด ใครจะพูดอะไรก็พูดได้ ถ้ามันทำได้เขาก็ทำได้หมด รัฐบาลมาแก้ปัญหาไม่ใช่หรือ อุปสรรคอะไรต่างๆเยอะแยะไปหมด มันต้องแก้ปัญหาไปให้ได้ มันไม่มีประเทศไหนไม่มีปัญหา ก็มีปัญหาทุกประเทศ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top