Monday, 7 July 2025
POLITICS

'รองโฆษกรัฐบาล' เผย ส่งออกขนมไทย ไปจีน-ญี่ปุน พุ่ง

รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายใต้การขับเคลื่อนนโยบายการตลาดนำการผลิตของรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการ ให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(DITP)ศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของผู้บริโภคกลุ่มต่างๆในประเทศที่เป็นตลาดส่งออก เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนการผลิตและส่งออกให้กับผู้ประกอบการของไทย ซึ่งกลุ่มสินค้าขนม เป็นหนึ่งในสินค้าหมวดอาหารที่มีโอกาสเติบโตอย่างมากในหลายประเทศ โดยเฉพาะในจีน และญี่ปุ่น กอปรกับภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ที่คนหาสิ่งเพลิดเพลินทำในบ้านแทนการออกไปใช้เวลาในที่สาธารณะ ถือเป็นปัจจัยเสริมการส่งออกในภาพรวมอีกด้วย

น.ส.รัชดา กล่าวว่า การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทย ผลิตสินค้าให้ตรงกับพฤติกรรมการบริโภค โดยให้ผู้ซื้อเป็นตัวตั้ง และที่ผ่านมาตัวเลขการส่งออกสินค้าอาหารที่โตขึ้นอย่างมาก สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ข้อมูลที่น่าสนใจจากการศึกษา อาทิ กลุ่มนักศึกษาจีน กลุ่มเพศหญิงจะนิยม ขนมแป้งเส้นรสเผ็ด ขนมหรืออาหารกระป๋อง และคุกกี้หรือเค้ก กลุ่มเพศชายจะนิยมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถั่ว และผลไม้อบแห้ง เครื่องดื่ม กลุ่มนักศึกษาที่เกิดหลังปี 2000 ไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงหรือชายนิยมดื่มน้ำผลไม้และชานม 

Chelsea จะไปต่ออย่างไร? เมื่ออังกฤษแบน Roman Abramovichถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม...เป็นอย่างน้อย | NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช EP.44

✨ Chelsea จะไปต่ออย่างไร? เมื่ออังกฤษแบน Roman Abramovich ถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม...เป็นอย่างน้อย
✨ SONY ระงับกิจการในรัสเซีย ทั้ง PlayStation, Games และ Anime เพื่อประท้วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน
✨ คนอเมริกันโวย!! ราคาน้ำมันพุ่ง 2 เท่า!! หลังรัฐบาลสั่งห้ามนำเข้าพลังงานรัสเซีย ขณะที่ด้านยุโรปไม่พร้อมทำตาม เพราะอาจพังไปด้วย
✨ ไหนว่าคริปโตแทรกแซงไม่ได้? เมื่อ ‘US - EU’ ตัดรัสเซียจาก ‘IMF-World Bank’ พร้อมบีบให้ไม่สามารถใช้สกุลเงินคริปโตซะแล้ว!!
✨ พาณิชย์สหรัฐฯ ขู่!! บริษัทจีนที่ส่งออกสินค้าไปรัสเซีย จะถูกคว่ำบาตรจากรัฐบาลสหรัฐฯ แน่ๆ

NEWS GEN TIMES ชวนคิด กับ กิตติธัช

โดย อ.ต้อม - กิตติธัช ชัยประสิทธิ์ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

.

.

เปิดตัว ‘อุ๊งอิ๊ง’ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินหน้าลุยสร้างบ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ศูนย์ประชุมมณฑาทิพย์ จ.อุดรธานี มีการจัดกิจกรรมเปิดตัว “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” โดยมีแกนนำพรรค อาทิ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) และรองหัวหน้าพรรคพท. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคพท. นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคพท. นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพท. นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานโซน 2 กทม. พรรคพท. น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคพท. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคพท. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ร่วมกิจกรรม ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีส.ส.ของพรรคพท. สมาชิกพรรค และประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 1500 คนด้วย

นายสุทิน กล่าวว่า ครอบครัวแรกของตนคือไทยรักไทย (ทรท.) ที่มาพร้อมความหวังของพี่น้องประชาชนขณะนั้น ครอบครัวเราเกิดขึ้นครั้งแรกภายใต้การนำของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ชาวบ้านอยู่ดีกินดี ลืมตาอ้าปาก และได้เรียนรู้ประชาธิปไตยกินได้ ในวันนั้นเรามีเงินคงคลังเยอะมาก ในขณะที่ประเทศไทยกำลังแข็งแรงเกิดกระบวนการที่จะถอดปลั๊กประเทศด้วยความอิจฉา พรรคการเมืองบางพรรคเริ่มมองไม่เห็นหนทางที่จะกลับมา ในวันที่ 30 พฤษภาคม 50 มีคำสั่งศาลยุบพรรคทรท. แต่พี่น้องเราวันนั้นก็ยังไม่ตาย เราร่วมกันสร้างบ้านหลังใหม่ที่แข็งแรงกว่าเดิมชื่อ พลังประชาชน (พปช.)

จากนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ชาวทรท.ได้ตัดสินใจสร้างบ้านหลังใหม่อีกครั้งภายใต้ชื่อ พปช. เรารวบรวมสมาชิกที่แตกกระเสนซ่านเซ็นกลับบ้านอีกครั้ง และทำงานภายใต้ดีเอ็นเอเดิมของ ทรท. เราชนะการเลือกตั้ง ขณะที่เราเข้ามาบริหารประเทศเราเจอวิกฤตโลกหลายอย่าง ทั้งวิกฤตค่าเงินแพงวิกฤติพลังงาน น้ำมันแพงสูงถึง 140 เหรียญสหรัฐต่อบางเรล เราเร่งแก้ปัญหาด้วยการเราลดค่าแก๊ส ค่าน้ำ ค่าไฟ และรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี แต่สุดท้ายผู้นำของเราคือ นายสมัคร สุนทรเวช ถูกศาลตัดสินให้พ้นจากตำแหน่ง ขณะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หัวหน้าพรรคพท.คนใหม่ก็เข้าทำเนียบไม่ได้ เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ปิดล้อมทำเนียบ จนต่อมาถูกพรรคพปช.ถูกยุบ ทำให้สมาชิกแตกกระเซ็นอีกครั้งไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ แต่เราเลือกที่จะตั้งพรรคอีกครั้งชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) โดยในขณะนั้นมีพี่น้องคนเสื้อแดงออกมาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างท่วมท้น

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวว่า พรรคพท.ชนะการเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม 54 ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เราได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล จากที่ประชาชนสิ้นหวังประชาชนเหมือนได้รับแสงสว่าง และชีวิตดำเนินต่อไปได้อย่างมีความหวัง เรามีนโนบายค่าแรงขั้นต้ำ กองทุนหมู่บ้าน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี การบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ นโยบายจำนำข้าว นโยบายพักชำระหนี้เกษตรกร ฯลฯ ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทย เราตั้งแต่ทรท. พปช. มาพท. เราเป็นบ้านหลังใหญ่ที่อยู่เคียงข้างประชาชน แม้จะมีความพยายามจากกลุ่มคนที่จะลำบากบ้านของเรา มีโจรขึ้นบ้านเพื่อขโมยสมาชิกในบ้านของเรา แต่เรายังจะจับมือกันแน่นเพื่อฝ่าฟันไปด้วยกัน ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ที่ประเทศไทยต้องสูญเสียโอกาส ที่เผด็จการที่ช่วงชิงความหวัง และความฝันของพวกเรา พท.จะจดจำความรู้สึกนี้ของประชาชนเอาไว้ และเราจะกลับมาสานต่อนโยบายที่ค้างกันเอาไว้ให้สำเร็จ เราจะคืนความหวัง และคืนชีวิตใหม่ให้กับประชาชนอีกครั้ง ให้สมกับความเชื่อมั่นที่มีมาให้กันโดยตลอด 23 ปีอย่างแน่นอน

'เฉลิมชัย' มั่นใจประชาธิปัตย์ได้ส.ส.เพิ่ม ย้ำปชป.ยุคนี้เปิดกว้างไม่ใจแคบให้โอกาสทุกคนที่มีอุดมการณ์ร่วมกัน

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในการสัมมนา ส.ส. กรรมการบริหารพรรค และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จัดขึ้น ณ โรงแรมแคนทารีฮิลล์ จังหวัดเชียงใหม่ว่า 

การสัมมนาครั้งนี้เป็นเหมือนธรรมเนียมปฏิบัติที่พรรคจัดสัมมนาสัญจรในต่างจังหวัดช่วงปิดสมัยประชุม เพื่อให้ ส.ส. กรรมการบริหารพรรค และรัฐมนตรีได้มีโอกาสพูดคุยกัน  ซึ่งการจัดสัมมนาแต่ละครั้งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ภายในพรรคที่ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่เราจะได้มีช่วงเวลาหลังจากได้ทำงานแล้วมาพูดคุย ให้ข้อเสนอแนะเพื่อให้พรรคเดินไปข้างหน้า 

ซึ่งจากจำนวน ส.ส. 51 คนที่เรามี แม้จะไม่มาก แต่พลังที่จะมีมากหรือน้อยไม่ได้อยู่ที่จำนวน แต่อยู่ที่การกระทำของเราทั้งหมด เราจะทำให้มีพลังก็ได้ จะทำให้เบาอ่อนแรงเลยก็ได้ ตนจึงเรียกร้องทุกคนว่าเราคือครอบครัวเดียวกัน ขอให้ทุกคนมาช่วยกันสร้างพรรค มาช่วยกันพาประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้า 

“วันนี้ถึงเราจะมี ส.ส.ไม่มาก เราต้องช่วยกัน สิ่งที่จะทำให้ประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้า สิ่งที่จะทำให้ประชาธิปัตย์กลับคืนมาอีกครั้ง นั่นคือเราต้องเพิ่มจำนวน ส.ส.ให้ได้ สร้างความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนให้ได้ และมีนโยบายที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งทั้งนโยบาย ชื่อเสียงพรรค อุดมการณ์พรรค ต้องตรงกับคนที่ใช่ด้วย ถึงจะนำไปสู่ชัยชนะได้” นายเฉลิมชัยกล่าว 

พร้อมกับได้ให้คำมั่นกับ ส.ส. ประชาธิปัตย์ว่า ตนจะไม่มีวันปล่อยท่านสอบตกเด็ดขาด และมาช่วยกันสร้าง ส.ส. เพิ่ม เพราะตนเชื่อว่าเราจะกลับมาได้ จะกลับมาได้ด้วยพลัง และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรค รวมทั้งการทุ่มเทการทำงาน การเสียสละ 

“ผมพูดวันนี้คือสิ่งที่ผมพยายามปฏิบัติ ผมรู้ว่าทุกคนเหนื่อยในสภาวะอย่างนี้ ก็ได้พยายามให้กำลังใจ พยายามพูดคุย แม้จะทำได้ไม่ครบ 100% อาจจะทำได้ไม่ถูกใจ 100% แต่กรรมการบริหารพรรคชุดนี้ขึ้นมาเมื่อมีการเลือกตั้งเสร็จ และต้องรับผิดชอบพรรคที่จะพาไปสู่การเลือกตั้งในครั้งหน้า ผิดพลาดหรือสำเร็จไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดชอบ และคงไม่มีมนุษย์คนไหนที่อยากจะล้มเหลว ผมก็เช่นเดียวกัน เรามีพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันทางการเมือง เรามีผู้ใหญ่ที่ให้คำแนะนำ ให้คำปรึกษา เรามีสมาชิก มี ส.ส. ที่มีคุณภาพ นี่คือต้นทุนการเมืองที่ดีที่สุด แต่อยู่ที่ว่าเราจะใช้สิ่งที่เรามีให้เกิดประโยชน์ เกิดประสิทธิภาพและเดินไปสู่เป้าหมายได้อย่างไรเท่านั้น” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กล่าว 

พร้อมกับเพิ่มเติมว่า แม้ปัจจัยการเมืองปัจจุบันเปลี่ยนไปหลายอย่าง เราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับการเมือง แต่ต้องไม่ทิ้งอุดมการณ์และหลักการของพรรค ถ้าเราทิ้งหลักการและอุดมการณ์ของพรรค ก็หมดสิ้นความเป็นประชาธิปัตย์ แต่ถ้า 2 อย่างนี้ยังไม่พอ ก็ต้องหาสิ่งที่มาเสริมเพื่อให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้ ตามสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต

“ผมขอให้กำลังใจ ส.ส. และผู้สมัครทุกท่าน ยังไม่มีการเลือกตั้ง อย่าไปกลัว มี 1 สมอง 2 มือ 2 ขา เหมือนกัน อย่าไปกลัว ถ้ากลัวตั้งแต่ยังไม่ทันเลือก กลัวตั้งแต่ยังไม่เข้าสู่สงครามไม่มีวันเจอคำว่าชนะหรอก ผมมั่นใจว่าท่านหัวหน้า ท่านกรรมการบริหารพรรค ท่านประธานที่ปรึกษา พร้อมที่จะยืนเคียงข้างกับพวกเราทุกคน และ ณ วันนี้ ผมก็มั่นใจว่าประชาธิปัตย์ต้องได้ ส.ส. มากกว่าเดิม 100% ไม่ใช่แค่ขอรักษา ส.ส. เท่าที่มีอยู่ ผมยืนยันด้วยเกียรติ ด้วยศักดิ์ศรี และพร้อมจะรับผิดชอบกับผลที่เกิดขึ้นของประชาธิปัตย์ทั้งหมด” 

‘วิโรจน์’ เชื่อแนวทาง ‘ก้าวไกล’ โดนใจคนกรุง ชูแนวคิด 'เมืองที่คนเท่ากัน' พร้อมเปิด 12 นโยบายหลัก 27 มีนาคมนี้

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล ร่วมเวทีเสวนาวิชาการ BKK move forward ณ ลานปรีดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 65 โดยวิโรจน์ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายในงานถึงความพร้อมในการลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. และการเปิดตัวนโยบายเพื่อสร้าง "เมืองที่คนเท่ากัน" ในวันที่ 27 มีนาคมที่จะถึงนี้ วิโรจน์ตอบผู้สื่อข่าวภายในงานและย้ำถึงความมั่นใจในศึกเลือกตั้งครั้งนี้

ระหว่างการสัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงความมั่นใจภายหลังคะแนนนิยมจากผลโพลเพิ่มขึ้นในรอบเดือนที่ผ่านมา วิโรจน์ ได้ให้ความเห็นว่า ความนิยมของตนที่เพิ่มขึ้น สะท้อนความต้องการของคนกรุงเทพที่สอดคล้องกับแนวทางการทำงานของพรรคก้าวไกล วิโรจน์ยังย้ำว่า การเลือกตั้งในครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ตนเพียงคนเดียว แต่ยังมีทีมที่พร้อมซัพพอร์ตอยู่เบื้องหลังอย่างพรรคก้าวไกล พร้อมชูจุดเด่น "สามประสาน" ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากพรรคก้าวไกลเป็นพรรคฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียวที่ได้ส่งว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พร้อมทั้งผู้สมัครส.ก. ครบทีม และมีส.ส. เขต ทำงานในพื้นที่กรุงเทพ ซึ่งจะช่วยให้คนกทม. สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เพราะจะมีการทำงานอย่างอย่างไร้รอยต่อ สอดประสานราบรื่นในแง่ของงบประมาณ นโยบาย และความรวดเร็ว

“ยุทธพงศ์” แฉ 3ป. - 1 ช. คาดฮั้วประมูลโครงการท่อส่งน้ำฯ ในอีอีซี ให้บริษัทวงษ์สยามฯ แทนบริษัท East Water ยักษ์ใหญ่เรื่องท่อส่งน้ำฯ พร้อมจ่อ ยื่นญัตติซักฟอก 23 พ.ค.นี้ ย้ำ! ต้องทำทันทีกัน “บิ๊กตู่” ยุบสภาหนี พร้อมถามหายาฟาวิพิราเวียร์ หลังชาวบ้านติดโควิดได

ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่าการประมูลระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกของกรมธนารักษ์ ซึ่งเป็นท่อส่งน้ำในพื้นที่อีอีซี ที่มีอยู่ 3 เส้นหลักคือเส้นที่ 1 โครงการท่อส่งน้ำดอกกราย - มาบตาพุด - สัตหีบ ที่กรมธนารักษ์ได้จ้าง บริษัท East Water บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ มาจัดทำบริการโดยสัญญาจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.2566 เส้นที่ 2 คือโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล - หนองค้อ และเส้นที่ 3 โครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ - แหลมฉบัง (ระยะที่สอง) ซึ่งทั้งหมดนี้มีความไม่โปร่งใสในการประมูลโครงการ

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า โดยบริษัทที่ชนะประมูลในครั้งนี้ คือ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ซึ่งเสนอส่วนแบ่งให้กับรัฐเป็นค่าแรกเข้าเพื่อทำสัญญา (ชำระปีแรก) 1,450 ล้านบาท และส่วนแบ่งรายได้รายปี 21,335 ล้านบาท รวมทั้งหมด 25,693 ล้านบาท ส่วนบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท East Water เสนอค่าแรกเข้าเพื่อทำสัญญา (ชำระปีแรก) 1,550 ล้านบาท และส่วนแบ่งรายได้รายปี 19,755 ล้านบาท รวมทั้งหมด 24,213 ล้านบาท หมายความว่าบริษัท วงษ์สยาม เสนอให้มากกว่า 1,480 ล้านบาท ความน่าเชื่อถือของบริษัท East Water ซึ่งเป็นบริษัทกึ่งของรัฐบาล เพราะการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ถือหุ้นอยู่ 40% และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยถือหุ้นอยู่ 5% รวม 2 หน่วยงานถือหุ้นกว่าประมาณ 46% เพราะหากถือเกิน 50% จะเรียกว่ารัฐวิสาหกิจ ซึ่งอาคารที่ทำการก็ใหญ่โต ส่วนบริษัท วงษ์สยาม อยู่ใน ซ.พหลโยธิน 8 อาคารเล็กๆ แต่ว่าประมูลชนะบริษัท East Water 

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับ 3 ป. คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานอีอีซี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะกำกับแล กปภ. และ 1 ช. คือนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค พลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการที่ราชพัสดุ ซึ่งไม่ได้เป็นโดยตำแหน่ง เพราะคนที่เป็นจริงๆ คือนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ซึ่งทั้งหมดมีความเกี่ยวโยงกัน 

นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า หากบริษัท East Water ไม่ได้ชนะประมูลก็จะเจ๊ง และต้องปิดบริษัท ซึ่งหลังแพ้ประมูลราคาหุ้นตกจาก 8.05 บาท เหลือ 7.40 บาท โดยเมื่อวันที่ 14 มี.ค.2565 นายสันติ ประธานกรรมการที่ราชพัสดุให้บริษัทวงษ์สยามชนะประมูลด้วยมติ 6:3 โดยรายชื่อ 6 คนประกอบด้วย 1.นายสันติ 2.นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ 3.ตัวแทนปลัดกระทรวงการคลัง 4.ตัวแทนปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 5.ตัวแทนปลัดกระทรวงกลาโหม และ 6.ตัวแทนปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนรายชื่อ 3 คนที่ค้าน ประกอบด้วย 1.ปลัดกระทรวงมหาดไทย 2.อธิบดีกรมโยธา และ3.อธิบดีกรมที่ดิน ส่วนอีก 3 คนที่เหลือ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ลาเพื่อหนีการประชุม หมายความว่ามติไม่ได้เป็นเอกฉันท์ และมีปัญหา 

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ดังนั้นในวันพุธ ที่ 23 มี.ค.นี้ ตนจะยื่นเรื่องร้องเรียนต่อนายอาคม ถึงความไม่โปร่งใสของการประมูลโครงการท่อส่งน้ำฯ ที่เปลี่ยนมาให้บริษัท วงษ์สยาม ชนะประมูลแทน เพราะมีการเปลี่ยนทีโออาร์ ทำให้รัฐเสียประโยชน์ คือไปเอาคำว่าบริษัทจะต้องไม่เคยเป็นผู้ทิ้งงานของหน่วยงานของรัฐออก ทุนจดทะเบียนบริษัทจาก 600 ล้านบาท เหลือ 300 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนคุณสมบัติสำคัญคือจากเดิมกำหนดไว้ว่าผู้ยื่นข้อเสนอต้องเป็นนิติบุคคลที่มีอาชีพและประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจ และบริหารจัดการท่อส่งน้ำ 

โดยเอาคำว่าท่อส่งน้ำออกไป ทั้งที่เป็นสาระสำคัญ อีกทั้งบริษัท วงษ์สยาม ไม่เคยบริหารจัดการท่อส่งน้ำเลย ตรงข้ามกับ บริษัท East Water ที่มีประสบการณ์บริหารท่อส่งน้ำกว่า 30 ปี รายได้ปีละ 5 พันล้านบาท รวม 30 ปีรายได้ 1.5 แสนล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ บริษัทวงษ์สยาม ได้ยื่นประมูลโครงการโรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์กับการประปานครหลวง มูลค่า 6.4 พันล้านบาท แต่ไม่ผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติ แต่กลับมาชนะประมูลโครงการท่อส่งน้ำฯ ที่มีบริษัท East Water เป็นคู่แข่ง จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัย โดยหากมีความผิด นายอาคมต้องรับผิดชอบที่มอบหมายให้นายสันติดูแลเรื่องนี้

'กรณ์' ลงภูเก็ต ควงผู้สมัครทำงานต่อเนื่อง ย้ำยุทธศาสตร์ภูเก็ตจัดการตนเอง ชี้เป็นทางรอดด้านเศรษฐกิจและโอกาสทำกิน ยุคหลังโควิด

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยนายเทมส์ ไกรทัศน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดภูเก็ต ได้เข้าร่วมงาน กับสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดอันดามัน เรื่องการใช้ Digital Hub พัฒนาการท่องเที่ยว จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ โดยย้ำถึง นโยบายสำคัญต่อภูเก็ตว่า พรรคกล้ามีความชัดเจนมาแต่แรกว่าสิ่งที่เราจะทำให้ภูเก็ต คือเรื่องของการสร้างโอกาสการทำมาหากิน เศรษฐกิจปากท้อง เป็นหลัก ที่ผ่านมาเราต้องยอมรับว่านโยบาย “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ที่ผ่านมา ถือเป็นนวัตกรรมทางนโยบายซึ่งเป็นตัวยืนยันว่าภูเก็ต มีโอกาส ศักยภาพ และความต้องการที่แตกต่างกว่าหลาย ๆ จังหวัด ซึ่งควรต้องกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในยุคหลังโควิด 

นายกรณ์ กล่าวว่า การเปิดโอกาสให้ภูเก็ตบริหารตัวเองได้ ก็จะสามารถกำหนดนโยบายได้อย่างแม่นยำ ทันต่อสถานการณ์และทันต่อความต้องการ คนภูเก็ตต้องได้บริหารงบประมาณของตนเอง ภาษีที่เก็บได้ต้องเข้าจังหวัดมากขึ้น สามารถกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายที่เป็นอนาคตที่เหมาะสมของตัวเองได้ และควรได้เลือกผู้ว่าฯ เลือกผู้บริหารเมืองได้เอง รวมถึงการปฏิรูประบบราชการล้าหลังด้วยเทคโนโลยีสามารถทำทุกอย่างได้บนมือถือจะสามารถลดขั้นตอนและเวลาในการติดต่อราชการที่ล่าช้า  ขณะเดียวกันภูเก็ตยังควรบริหารงานตำรวจเอง เวลาเกิดเหตุกับนักท่องเที่ยว สามารถจัดการกันได้ในพื้นที่ ไม่ต้องขึ้นกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคกล้า ยังมองถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังเกิดสงคราม ยูเครน รัสเซีย โดยมองว่า หลายอย่างจะเปลี่ยนไป ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความเป็นมิตรประเทศ ประเทศคู่ค้ากัน ผลของค่าของชีพ ซึ่งเราได้รับผลกระทบแล้วจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อราคาสินค้าหลายชนิด และมันจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกมากมาย สะท้อนถึงความสำคัญของความยืดหยุ่นที่ต้องมี ในการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมกับตัวเรา และนี่คืออีกสาเหตุที่ต้องให้ภูเก็ตมีการบริหารที่มีความยืดหยุ่นได้ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที และเมื่อเปลี่ยนแปลงไปแล้ว โอกาสที่จะทำให้ ประเทศไทย และภูเก็ต

'บิ๊กตู่' ย้ำ ให้รีบฉีดวัคซีน 'ลดป่วย ลดตาย' ขอให้ กลไก อสม. กระตุ้น พร้อม รองรับสงกรานต์

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในไทยแม้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องแต่ยังน้อยกว่าหลายประเทศในอาเซียนและของโลก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เสนอแนะให้ อสม. เป็นกลไกสำคัญในระดับพื้นที่เชิญชวนบุคคลใกล้ชิด คนในชุมชน รวมทั้งกลุ่ม 608 คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัว  และหญิงตั้งครรภ์ เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้มากกว่าร้อยละ 70 เพื่อลดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตหากติดเชื้อ รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่รองรับเทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทยที่กำลังจะมาถึง

นายธนกร กล่าวว่า ศบค. ย้ำมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ โดยเฉพาะการเตรียมตัวก่อนร่วมงานว่าประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา เข้าร่วมงานสงกรานต์ และกลุ่ม 608 ต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด มีการประเมินความเสี่ยงของตนเอง ขอให้หลีกเลี่ยงการเข้าร่วมงาน หรือให้พิจารณาตรวจ ATK ก่อนเดินทาง หรือก่อนร่วมงานภายใน 72 ชั่วโมง ขณะเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ ต้องเข้มงวดการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ และงดรับประทานอาหาร 

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับผู้จัดงาน และกิจการกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานสงกรานต์ให้ลงทะเบียนบนระบบ TSC2+ และประเมินตนเองตามประเภทมาตรการ COVID Free Setting ได้แก่ การจัดกิจกรรมพิเศษ (แสดงคอนเสิร์ต แสดงดนตรี งานอีเวนต์ งานเทศกาล มหกรรม) การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มในชุมชน ศาสนสถาน ร้านอาหาร ขนส่งมวลชนสาธารณะ ซึ่งการขออนุญาตจัดงานให้เป็นไปตามเขตพื้นที่สถานการณ์ หรือตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร กำหนด ระหว่างช่วงงานสงกรานต์ กรณีพื้นที่จัดงานสงกรานต์ที่มีการจัดเตรียมสถานที่และควบคุมกำกับนั้น อนุญาตให้เล่นน้ำ และจัดกิจกรรมตามประเพณี เช่น รดน้ำดำหัว สรงน้ำพระ การแสดงทางวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ขบวนแห่ การแสดงดนตรีพื้นบ้าน โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting และมีการกำกับอย่างเคร่งครัด  ห้ามประแป้ง ปาร์ตี้โฟม จำหน่ายและบริโภคแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงาน  พื้นที่สาธารณะไม่มีการควบคุม เช่น ท้องถนน ห้ามเล่นน้ำ ประแป้ง และปาร์ตี้โฟม 

ส่วนมาตรการหลังกลับจากสงกรานต์ว่า ให้สังเกตอาการตนเอง 7 วัน  หากพบว่ามีอาการสงสัยติดเชื้อให้ทำการตรวจ ATK และขอให้หลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนจำนวนมากโดยไม่จำเป็นพิจารณามาตรการ WFH ให้เป็นไปตามความเหมาะสม

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีห่วงใยในกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 608 และกลุ่มเด็ก (5 - 11 ปี) ที่พบว่ามีการเข้ารับการฉีดวัคซีนเข้มกระตุ้นน้อยอยู่ จึงขอความร่วมมือผู้ที่ยังไม่เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นรีบเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นโดยเร็วด้วย เพราะจะ “ลดป่วย ลดตายได้ ต้องมารับวัคซีน” พร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนร่วมกันเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจ และการปฏิบัติตัวที่เหมาะสม ถูกต้องให้กับประชาชนเพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัย (Living with COVID-19) 

'รัฐบาล' เดินหน้า สื่อสารเชิงรุก-สร้างสรรค์ เป็นกลไก สู่การพัฒนาสร้างสันติสุขพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนกลไกการบริหารการสื่อสารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (อกส.จชต.) เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมสันติสุขและความมั่นคงในพื้นที่ รัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่าการสร้างความเข้าใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความหวัง และสันติสุขจะเกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน จะต้องมาจากการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เป็นความจริง ทันต่อเวลา ตรงกับความสนใจของประชาชน และสื่อสารสองทาง 

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ที่ประชุมร่วมกันวางแผน และวิเคราะห์การทำแผนการสื่อสารแบบครบวงจร เพื่อยกระดับการประชาสัมพันธ์ เน้นการมีส่วนร่วมของเยาวชนและกลุ่มสตรีให้มากยิ่งขึ้น สร้างความเชื่อมั่น ความเข้าใจ ของประชาชนทั้งใน นอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และองค์กรต่างประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์ การดำเนินโครงการพัฒนา และชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน โดยกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะหน่วยงานหลักที่ดูแลด้านการสื่อสาร จะมุ่งเน้นการทำความเข้าใจและการชี้แจงด้วยความชัดเจน รวดเร็ว ผลิตสาระและเผยแพร่ผ่านช่องทางที่ให้ตรงกับกลุ่มเป้า 

'นายกฯ' ให้ ก.ท่องเที่ยว ดูแลความปลอดภัย-ช่วยเหลือ นทท.รัสเซียและยูเครนในไทยอย่างใกล้ชิด สุดความสามารถ

เมื่อวันที่ 19 มี.ค.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวรัสเซียและยูเครนในประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองประเทศอย่างใกล้ชิด ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประเมินว่ามีนักท่องเที่ยวที่ตกค้างในไทยประมาณ 8,000 คน เป็นชาวรัสเซียประมาณ 7,000 คน และยูเครนประมาณ 1,000 คน โดยส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดภูเก็ตและสุราษฎร์ธานี โดยได้ให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ อาทิ จัดหาระบบชำระเงินทางเลือกอื่นรองรับ จัดหาที่พักระหว่างนักท่องเที่ยวหาเที่ยวบินกลับประเทศ และจัดหาล่ามประจำโทรศัพท์สายด่วน 

นายธนกร กล่าวว่า การขอความช่วยเหลือส่วนมากเป็นการขอขยายเวลาพำนักในประเทศ ซึ่งทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ประสานความร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยอย่างใกล้ชิด สำหรับการให้ความช่วยเหลือกรณีเที่ยวบินถูกยกเลิก นักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนไปใช้สายการบินประเทศที่สาม อาทิ สายการบิน Qatar Airways และ Turkish Airlines ในการเดินทางได้ นอกจากนี้ หากจำเป็น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังพร้อมสนับสนุนการจัดหาที่พัก อาหาร และความช่วยเหลืออื่น ๆ ให้แก่นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียและยูเครน

นายธนกร กล่าวว่า สำหรับผลกระทบเรื่องการชำระเงิน กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวที่ประสบปัญหาทราบว่าสามารถโอนเงินผ่านเครือข่ายอื่นนอกจาก Swift ได้ เช่น TransferWise, Western Union และ MoneyGram เป็นต้น ซึ่งมีการให้บริการผ่านทั้งธนาคารพาณิชย์ (ไทยพาณิชย์ กสิกรไทย และออมสิน) และช่องทางที่ไม่ใช่ธนาคาร (สวัสดีช้อป เซ็นทรัล และไปรษณีย์ไทย) 

นายธนกร กล่าวว่า หน่วยงานของไทยได้ประสานผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ 1) ธนาคารพาณิชย์ โดยขอให้ช่วยดูแลนักท่องเที่ยวที่เข้ามาติดต่อ 2) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยขอให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลไปยังเครือข่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยว 3) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ตและสมาคมโรงแรมภาคใต้ เพื่อให้คำแนะนำนักท่องเที่ยวโดยตรง

“เทพไท” เชื่อ กมธ.ผ่านฉลุยให้เปิดคาสิโน เตือน ระวังขั้นทำประชามติ ไม่มั่นใจเสียงส่วนใหญ่เอาด้วยหรือไม่ 

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้ และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย การแพร่ระบาดของตู้เกมพนันไฟฟ้า และการพนันออนไลน์ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง การพิจารณาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร ว่าได้เชิญ นายณัฐกร วิทิตานนท์ นักวิจัยศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน และอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มานำเสนอข้อมูลต่อ กมธ.ฯ

โดยมีข้อสรุปและข้อสังเกต ถึงสภาพปัญหาการจัดตั้งสถานบันเทิงแบบครบวงจร ใน 3 ประเด็น คือ 1.ข้อเท็จจริงปรากฏว่าในอาเซี่ยนมีคาสิโน จำนวนที่เยอะมาก รวมแล้วเกือบ 400 แห่ง ตั้งอยู่ใน8ประเทศ มีแค่3ประเทศเท่านั้น ที่ไม่มีคาสิโน คือ บรูไน อินโดนีเซีย และไทย จุดร่วมที่มีเหมือนกัน หนีไม่พ้นต้องการดูดเงินชาวต่างชาติ เสียยิ่งกว่าการป้องกันเงินไหลออกนอกประเทศ  มีเพียง 2 ประเทศเท่านั้น ที่ยอมให้คนสัญชาติตัวเอง เข้าเล่นได้โดยปราศจากเงื่อนไขควบคุม ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ติมอร์เลสเต

2.แนวโน้มที่เห็นชัดเจน คือ จำนวนคาสิโน ทั้ง 7 ประเทศในอาเซี่ยน ที่ยอมรับให้คาสิโนถูกกฎหมายลดลง ทั้งจากมาตรการทางกฎหมายที่ต้องการจัดระเบียบธุรกิจพวกนี้ เช่น เมียนมา นโยบายจำกัดจำนวนโดยรัฐ ซึ่งมีอยู่แล้ว เช่น สิงคโปร์ รวมถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจ จากสถานการณ์โควิดโดยเฉพาะกัมพูชา

และ3.ต้นแบบการสร้างแหล่งบันเทิงครบวงจร ที่มีคาสิโนเป็นจุดขาย เพื่อดึงดูดนักพนันต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน อาจไม่ใช่สูตรสำเร็จในการแสวงหารายได้เข้าประเทศง่ายๆอีกแล้ว เนื่องด้วยปัจจัยจากจีน ประกอบกับในภูมิภาคมีภาวะการณ์แข่งขันกันเองของธุรกิจกลุ่มน้ีสูง

โฆษกรัฐบาลเผย 'นายกฯ' พอใจมาตรการจัดเก็บภาษี e – Service จากแพลตฟอร์มต่างชาติ 5 เดือน สร้างรายได้เข้าประเทศ  กว่า 3,000 ล้านบาท คาดทั้งปีอาจสูงถึง 8,000-10,000 ล้านบาท  ขณะที่ยอดใช้จ่ายมาตรการของรัฐพุ่งกว่า 6.1 หมื่นล้านบาทแล้ว 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจนโยบายการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการบริการอิเล็กทรอนิกส์จากแพลตฟอร์มผู้ให้บริการต่างประเทศ (VAT for Electronic Service : VES) เช่น บริการโฆษณาออนไลน์  บริการขายสินค้าออนไลน์ บริการสมาชิก เพลง หนัง เกม บริการแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลาง บริการแพลตฟอร์มจองที่พัก ตั๋วเดินทาง เป็นต้น ที่ให้บริการกับผู้ใช้บริการในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา

โดยกรมสรรพสามิต เผยว่าปัจจุบันมีแพลตฟอร์มผู้ให้บริการต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มรวม 127 ราย และมียอดมูลค่าบริการอิเล็กทรอนิกส์รวม 44,569.83 ล้านบาท   คิดเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บสะสม 5 เดือน (เดือนภาษีกันยายน 2564 – เดือนภาษีมกราคม 2565) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,120.03 ล้านบาทแล้ว ทั้งนี้คาดว่าภายใน 1 ปี จะสามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้จากแพลตฟอร์มผู้ให้บริการต่างประเทศประมาณ 8,000 – 10,000 ล้านบาท สูงกว่าที่เคยมีการคาดการณ์ไว้เดิมว่าจะจัดเก็บได้ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยต่อว่า ขณะที่ความคืบหน้า มาตรการลดภาระค่าครองชีพของรัฐของปี 2565 จำนวน 3 โครงการ ที่เปิดให้ใช้จ่ายไปเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 65 ประกอบด้วย โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 ที่รัฐบาลเพิ่มวงเงินสนับสนุนในการช่วยลดภาระการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันของประชาชน กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ โดยความคืบหน้าล่าสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 17  มีนาคม 2565) มีผู้ใช้สิทธิทุกโครงการรวม 40.85 ล้านราย และมียอดใช้จ่ายรวมทั้งหมด 61,284.74 ล้านบาท แบ่งเป็น 1)

บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม!! 'เพื่อไทย' โหมแคมเปญกิจกรรมใหญ่ พร้อมใจเปลี่ยนภาพโปรไฟล์ พรึ่บ

18 มี.ค. 65 นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยที่กำลังจะจัดขึ้น ณ ศูนย์ประชุมและจัดแสดงสินค้านานาชาติ มณฑาทิพย์ ฮอลล์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ในวันที่ 20 มี.ค.นี้ว่า ขณะนี้กรรมการบริหาร แกนนำพรรคสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และว่าที่ผู้สมัครส.ก.ของพรรค รวมทั้งแฟนคลับพรรค พร้อมใจกันเปลี่ยนกรอบรูปโปรไฟล์งานครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม’ ในโซเชียลมีเดียกันอย่างคึกคัก

นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม เพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความอบอุ่นใกล้ชิดและผูกพัน ผ่านกระบวนการทำงานเชิงพื้นที่ของ ส.ส. และสมาชิกพรรค ที่ลงมือแก้ไขปัญหา นำเสนอแนวคิดและนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ผ่านร้อน ผ่านหนาว ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอดระยะเวลา 23 ปี นับตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย เสมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน

'ณัฐชา’ จ่อเชิญ ผบช.น แจงข้อเท็จจริงกรณีออกหมายจับ ‘โรม’ ชี้!! มีพฤติกรรมทำลายกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง

18 มี.ค. 65​ ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.เขต 25 บางขุนเทียน พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กรณีที่ รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถูกออกหมายจับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลบางขุนนนท์ ในข้อหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกจากสภา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการใช้มูลนิธิป่ารอยต่อเพื่อเป็นศูนย์กลางเครือข่ายอำนาจเพื่อต่อรองผลประโยชน์ต่าง ทั้งต่อมายังพบว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายตั๋วช้างและการค้ามนุษย์โรฮิงญา 

ทั้งนี้ ณัฐชา กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า กระบวนการยุติธรรมกำลังถูกทำลายโดยสิ้นเชิง เพียงเพื่อสนองความต้องการของผู้มีอำนาจบางคน ทำให้กระบวนการทางยุติธรรมทั้งระบบรวมถึงผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายถูกมองอย่างหมดศรัทธาในสายตาพี่น้องประชาชน ไม่เหลือความน่าเชื่อถือหรือเชื่อว่าสามารถเป็นที่พึ่งให้ประชาชนได้อย่างที่สิ้นเชิง 

พาณิชย์เกาะติดราคาสินค้ากันฉวยขึ้นช่วงสงกรานต์

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะติดตามและตรวจสอบราคาสินค้าทั้งตลาดสดและห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงก่อนเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยสั่งการให้พาณิชย์จังหวัดลงพื้นที่ตรวจตลาดทุกระดับในทุกจังหวัด และรายงานตนทุกวัน โดยเฉพาะในราคาสินค้าแต่ละหมวดแต่ละรายการ

สำหรับสินค้าหมวดสำคัญ 18 หมวด ถือเป็นสินค้าสำคัญต่อการครองชีพของประชาชน ดังนั้น จึงให้นโยบายติดตามทุกวัน ซึ่งราคายังไม่มีการปรับขึ้น โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เข้าใจว่าจะปรับขึ้นราคา ขณะนี้ยังไม่มีการขึ้นราคายังขาย

ทั้งนี้ ต้องยอมว่ารับขณะนี้ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้นไปบ้าง แต่ราคาสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ เช่น หมูเนื้อแดง ก็ไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นไปมาก ตอนนี้หมูเนื้อแดง ราคาเฉลี่ย 150 บาท/กก. ทั่วประเทศ ถือว่าอยู่ในราคาที่กำกับ ขณะที่ขายในห้างอยู่ทีกิโลกรัมละ 135 บาท 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top