Tuesday, 1 July 2025
NEWS

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดโครงการสัมมนาผู้นำหน่วยระดับผู้บัญชาการและผู้บังคับการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดสัมมนาผู้นำหน่วยระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และ ผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อมอบนโยบายและทิศทางการปฏิบัติงาน ให้นำไปพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพของหน่วยงาน ระหว่างวันที่ 25-27 ต.ค. 64

พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนาผู้นำหน่วยระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ถ. วิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ในโอกาสเดียวกันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้เกียรติในการบรรยายพิเศษแก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้นำหน่วยที่เข้าร่วมการสัมมนา ในหัวข้อ “ทิศทางตำรวจยุคใหม่” อีกด้วย

โครงการฯ ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้นำหน่วยได้รับทราบถึงนโยบายและทิศทางการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกทั้งเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้นำหน่วยได้รายงานปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ ที่เกิดขึ้นโดยตรงต่อผู้บังคับบัญชาระดับ ตร. ทราบ เพื่อจะได้นำข้อมูลไปแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาองค์กร ให้เกิดผลสัมฤทธิ์สู่ระดับมาตรฐานสากล โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลข่าวสาร อยู่ตลอดเวลา

สำหรับหัวข้อการบรรยายพิเศษในการสัมมนาครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ ในการเป็นผู้บรรยายพิเศษหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้

วันที่ 25 ต.ค. 64 มีการบรรยาย
- หัวข้อ “อาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และการบริหารงานจราจร” บรรยายพิเศษโดย พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท. ปรีชา เจริญสหายานนท์
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
- หัวข้อ “การบริหารงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน/ การป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง” บรรยายพิเศษโดย พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะวิทยากร
- หัวข้อ “การป้องกันปราปรามหนี้นอกระบบ” บรรยายพิเศษโดย พล.ต.อ. วิระชัย  ทรงเมตตา 
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะวิทยากร
 

ปิดฉากค่ำคืนแห่งความฝัน ที่สวนนงนุชพัทยา แอน-แอนชิลี สก๊อต เคมมิส คว้ามงกุฎเกียรติยศพร้อมตำแหน่ง Miss Universe Thailand 2021

ที่ศูนย์ประชุม NICE ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาตินงนุชพัทยา จ.ชลบุรี ได้มีการจัดการประกวดรอบตัดสิน Miss Universe Thailand 2021 โดยมีบรรดาแฟนคลับและกองเชียร์ของผู้เข้าประกวดเข้าร่วมกิจกรรมการประกวด MUT 2021 ในปีนี้กันอย่างคึกคัก

จากสาวงามผู้ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 30 คน ในรอบ Preliminary คัดเหลือ 15 สาวงาม 15 คนสุดท้าย ร่วมประชันความงาม ในรอบชุดว่ายน้ำ ก่อนคณะกรรมการประกาศผลผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้าย ในชุดราตรี จากนั้นคัดเลือก 5 คนสุดท้าย เข้าสู่รอบตอบคำถาม ตำแหน่งและรอง Miss Universe Thailand 2021

ผลปรากฏว่า ผู้คว้าตำแหน่ง Miss Universe Thailand 2021 ได้แก่ MUT 27 แอนชิลี สก๊อต เคมมิส (แอน) รับรางวัลสายสะพาย มงกุฎเพชรเกียรติยศ เงินสด 1 ล้านบาท รถยนต์ คอนโดมิเนียม และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าประกวด Miss Universe 2021 ที่เมืองเอลลาธ ประเทศอิสราเอล ในปลายปีนี้
 

แฟนบอล ‘แมนฯ ยู’ กลับก่อนเกมจบครึ่งชั่วโมง หลังโดน ‘หงส์แดง’ บุกมาสอนบอล ยิง 5 เม็ด

ควันหลงเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดแดงเดือด ที่ทีม ‘ปีศาจแดง’ แมนฯ ยูไนเต็ด โดน ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล บุกมาสอนบอลถึงถิ่น พ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 0-5 เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา 

เมื่อเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 65 ขณะที่ ‘ปีศาจแดง’ มีสกอร์ตามหลังคู่แข่ง 0-5 มีการจับภาพไปที่ด้านนอกของสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด พบว่ามีแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ทยอยเดินทางกลับบ้านก่อนกำหนด ทั้งๆ ที่ยังเหลือเวลการแข่งขันอีกเกือบ 30 นาที 

‘ลิซ่า’ คอนเฟิร์มมาเคาท์ดาวน์ภูเก็ต ขึ้นเวทีสะพานสารสิน คู่ ‘แอนเดรีย โบเซลลี’

รมว.ท่องเที่ยว เผย ‘ลิซ่า แบล็กพิงค์’ คอนเฟิร์มมาเคาท์ดาวน์ภูเก็ต พร้อมเซ็นสัญญาทางการสัปดาห์หน้า เตรียมขึ้นโชว์เวทีสะพานสารสินคู่ ‘แอนเดรีย โบเซลลี’ นักร้องโอเปร่าชื่อก้องโลก โดยค่าตัว 2 ศิลปินรวมกันกว่า 100 ล้านบาท

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงความคืบหน้างานเคาท์ดาวน์ภูเก็ตว่า ทาง ‘ลิซ่า แบล็กพิงก์’ หรือ ‘ลลิษา มโนบาล’ ศิลปินสาวชาวไทยชื่อดังระดับโลก แห่งค่าย YG Entertainment ‘ยืนยัน’ ว่าจะมาร่วมงานเคาท์ดาวน์ 2022 ที่ จ.ภูเก็ต โดยสัปดาห์หน้าจะมีการเซ็นสัญญาร่วมงานอย่างเป็นทางการ

รมว.ท่องเที่ยว ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับความคืบหน้าของเรื่องดังกล่าว เบื้องต้นทางเอเจนซีฝั่งไทยที่ทำหน้าที่ประสานดึงตัวลิซ่า แบล็กพิงค์ ได้คอนเฟิร์มว่าศิลปินสาวจะสามารถเดินทางมาร่วมงานเคาท์ดาวน์ได้ อย่างไรก็ตามยังต้องรอการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า ถึงจะยืนยันได้อย่างแน่นอนว่าลิซ่า แบล็กพิงค์ สามารถเดินทางมาร่วมงานเคาท์ดาวน์ 2020 ที่ภูเก็ตได้

“บิ๊กตู่” พร้อมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และ 39 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และ 39 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบการประชุมทางไกล ระหว่างวันที่ 26 – 28 ตุลาคม 2564 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และ 39 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นบทสรุปของการดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนของบรูไนดารุสซาลาม ภายใต้แนวคิดหลัก “เราห่วงใย เราเตรียมพร้อม เรารุ่งเรือง” (We care, We prepare, We prosper) ซึ่งถือว่าเป็นปีที่มีความท้าทายในทุกมิติทั้งจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ และสถานการณ์ในภูมิภาค โดยเฉพาะสถานการณ์ในเมียนมา 

ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนฯ จะทรงเป็นองค์ประธานการประชุมสุดยอดทั้งหมด โดยมีผู้นำ หรือผู้แทนของประเทศสมาชิกอาเซียน เลขาธิการอาเซียน ตลอดจนผู้นำของคู่เจรจาเข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จีน สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย อินเดีย รัสเซีย และนิวซีแลนด์ นอกจากนี้ ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกและองค์การการค้าโลกได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 16 ในช่วงเริ่มต้นการประชุมเพื่อบรรยายสรุปเกี่ยวกับการบรรเทาผลกระทบของโควิด-19 และการสร้างเสริมความร่วมมือเพื่อรับมือกับภาวะวิกฤตในอนาคต

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมการประชุมในกรอบอาเซียนทั้งหมดจำนวน 12 การประชุม ตามเวลาประเทศไทย โดยวันอังคารที่ 26 ตุลาคม เวลา 08.00 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 เวลา 10.00 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 39 เวลา 12.30 น.การประชุมสุดยอดอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 22 เวลา 14.00 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ 24 เวลา 20.00 น.   การประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ครั้งที่ 9 สำหรับวันพุธที่ 27 ตุลาคม เวลา 09.30 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 24 เวลา 11.30 น. การประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย ครั้งที่ 1 เวลา 14.00 น.การประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 24 เวลา 18.00 น. การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ครั้งที่ 16 ส่วนในวันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม เวลา 10.15 น.  การประชุมระดับผู้นำแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจ สามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ครั้งที่ 13 เวลา 12.30 น.  การประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ครั้งที่ 18 เวลา 14.00 น.การประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซีย ครั้งที่ 4 เวลา 15.30 น. พิธีปิดและส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียน    

ถอดรหัส ‘เกาหลีใต้’ ‘อุตสาหกรรมบันเทิง’ สร้างชาติ ทะยานสู่ระดับโลก | Knowledge Times EP.30

????Knowlegde Times BizView
????ถอดรหัส ‘เกาหลีใต้’ ‘อุตสาหกรรมบันเทิง’ สร้างชาติ ทะยานสู่ระดับโลก

ซีรีส์ ดนตรี ภาพยนตร์ เชื่อว่าในยุคนี้ต้องเคยได้สัมผัสกับความบันเทิงที่ส่งตรงมาจากแดนกิมจิ หรือประเทศเกาหลีใต้กันบ้าง ประเทศที่เคยขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศล้าหลังแห่งเอเชีย แต่ในวันนี้กลับพลิกโฉมหน้าและพุ่งทะยานสู่สุดยอดอุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลก....เขาทำได้อย่างไร?

เมื่อย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ 1950-1970 อุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีนั้นถือว่าเจริญรุ่งเรืองไม่น้อยกระทั่งการเผด็จอำนาจของปักจุงฮี ที่ทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงเสื่อมลงจากการถูกเซนเซอร์และโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งทำให้ตกต่ำอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปี 1988 จนกระทั่งปักจุงฮีเสื่อมอำนาจลง 

อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีก็ยังถูกครอบงำด้วยกลุ่มธุรกิจแชโบลมาจนถึงวิกฤตต้มยำกุ้ง ที่ทำให้บริษัทใหญ่ในเกาหลีประสบภาวะเสียหายอย่างรุนแรง กลุ่มทุนแชโบลจึงถอยออกจากการครอบงำวงการภาพยนตร์ 

นอกจากนี้วิกฤตต้มยำกุ้ง หรือที่คนเกาหลีรู้จักกันในชื่อวิกฤต IMF ก็สร้างความเสียหายไปถึงกลุ่มอุตสาหกรรมหนักของเกาหลีใต้ ที่ในขณะนั้นเปรียบเสมือนภาคอุตสาหกรรมที่เป็นเสาหลักของประเทศ จนต้องชะงักลง

ดังนั้นรัฐบาลเกาหลีใต้ จึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของภาคธุรกิจอื่น ๆ นั่นก็คือการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ และอุตสาหกรรมบันเทิง

โดยในปี 1998 รัฐบาลได้ตั้งกฎหมายส่งเสริมอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรม ทำให้เกิดองค์การมหาชน และศูนย์วิจัยทางวัฒนธรรม ที่มีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมแขนงต่าง ๆ ทั้งดนตรี ละคร และภาพยนตร์ เพื่อผลักดันสิ่งที่จับต้องไม่ได้ให้กลายเป็นสินค้า และสามารถส่งออกเพื่อมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

‘การวางแผนดี มีชัยไปกว่าครึ่ง’ คือกลยุทธ์สำคัญที่ใช้ดันอุตสาหกรรมบันเทิงจนสำเร็จ เพราะ ทุกอย่างได้ผ่านการวางแผนเป็นอย่างดี ทั้งผลงาน กลุ่มลูกค้าและเนื้อหา เพื่อสร้างอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้ให้แข็งแรง

โดยการพัฒนาอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้มีจุดเด่นอยู่ 4 ประการหลัก ๆ ประกอบไปด้วย...

ประการที่ 1 ภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมบันเทิง

โดยรัฐบาลเกาหลีใต้ ได้ตั้งเป้าหมายส่งเสริมทางวัฒนธรรมอย่างจริงจัง ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นไป โดยมี Korea Creative Content Agency ทำหน้าที่วางแผนนโยบายอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรม ทั้งดนตรี ละคร และภาพยนตร์ โดยมีการดำเนินไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เริ่มจาก

1.) สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อเอื้อให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมและเป็นธรรม   
ด้วยการออกกฎหมายปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ลงดาบผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ การออกกฎหมายสนับสนุนภาพยนตร์ในประเทศ โดยกำหนดจำนวนวันฉายภาพยนตร์เกาหลีในโรงภาพยนตร์ รวมถึงจัดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน เพื่อให้เป็นแหล่งพบปะ และแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์จากทั่วโลก ทำให้เทศกาลภาพยนตร์ที่ปูซานกลายเป็นเทศกาลภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย

2.) จัดตั้งกองทุนด้านวัฒนธรรม Korea Venture Investment Corporation ในปี 2005 เพื่อระดมเงินทุนช่วยเหลือบริษัทเอกชนสร้างสรรค์ผลงานบันเทิงต่าง ๆ โดยรัฐบาลลงทุนในสัดส่วน 20% ส่วนอีก 80% เป็นค่ายเพลง และบริษัทเอกชนต่าง ๆ

3.) สนับสนุนกลุ่มนายทุนผู้ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจของเกาหลีใต้ ก่อตั้งบริษัทที่เน้นด้านธุรกิจบันเทิง โดยบริษัทที่โดดเด่นก็คือ CJ Group ซึ่งได้ก่อตั้งบริษัทในเครือ CJ ENM ในปี 1995 ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นผู้ผลิตสื่อรายใหญ่ของเกาหลีใต้ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของช่องเคเบิลทีวีที่โด่งดัง ได้แก่ Mnet /tvN /OCN 

4.) สร้างบุคลากรที่มีความสามารถ โดยรัฐบาลได้จัดทำโครงการ Broadcast Video Promotion Plan เพื่อสนับสนุนให้มีการเปิดหลักสูตรการสอนนักแสดงและบุคลากรในวงการบันเทิงในรั้วมหาวิทยาลัย และจัดตั้งโรงเรียนสอนการแสดง ที่ร่วมกับค่ายเพลง-บริษัทด้านบันเทิงต่าง ๆ เพื่อปั้น ‘ไอดอล’ ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แม้ว่าจะมีกลุ่มคนไม่เห็นด้วยเพราะสัญญาที่ยาวนานและการฝึกซ้อมอย่างหนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้สร้างความพร้อมให้กับเหล่าไอดอลได้อย่างมาก

ประการที่ 2 สร้างตัวตนให้โดดเด่น ด้วยภาพลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร

เมื่อคนและเงินทุนพร้อม ประการต่อมา คือการสร้างภาพลักษณ์ ให้มีความโดดเด่น และน่าดึงดูดใจ อย่างเช่น วงการ K-pop จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเพลง มิวสิกวิดีโอให้มีฉากโดดเด่น เน้นขายคุณภาพการเต้น และท่าเต้นที่พร้อมเพรียง รวมไปถึงการวางแผนการสร้างศิลปิน ที่จะถูกวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างละเอียด ตั้งแต่จำนวนสมาชิก ภาพลักษณ์  สไตล์เพลง กลุ่มตลาด รวมถึงการบริหารจัดการภาพลักษณ์ไม่ให้มีเรื่องอื้อฉาว 

ในขณะที่วงการซีรีส์ ที่กลายเป็นเครื่องมือหนึ่งในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสังคมเกาหลี เช่น การวางบทตัวละครเพศชาย ให้อบอุ่น อ่อนโยน เพื่อปลูกฝังและลดพฤติกรรม ‘ชายเป็นใหญ่’ ในสังคมเกาหลี รวมไปถึงสอดแทรกประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเข้าไปในซีรีส์และภาพยนตร์หลายเรื่อง 

ประการที่ 3 การวางแผนการตลาดในระดับโลก

การที่เกาหลีใต้ต้องการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลก สิ่งแรกที่ต้องทำคือการตีตลาดโลกให้ได้ ซึ่งได้มีการตั้ง ‘ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี’ ไว้ทั่วทุกมุมโลก ที่ปัจจุบันมีกว่า 33 ประเทศ ใน 6 ทวีป เพื่อใช้ในการเผยแพร่วัฒนธรรม รวมถึงการจัดงานต่าง ๆ เพื่อโปรโมตสื่อเกาหลี

นอกจากนั้นการที่จะซื้อใจคนได้ทั่วโลกต้องเข้าใจตลาดของชาตินั้น ๆ เสียก่อน จะเห็นได้ว่า K-pop บางวงจึงมีการเพิ่มสมาชิกที่เป็นชาวต่างชาติเข้าไป อย่างเช่น วง BLACKPINK ที่มีสมาชิกชาวไทย อย่างสาวลิซ่า ที่โด่งดังและสร้างฐานแฟนคลับทั้งเมืองไทยและชาติอาเซียน 

นอกจากนี้ฝั่งซีรีส์เอง ก็มีการพากย์เสียงภาษาต่าง ๆ ก่อนนำไปเผยแพร่ในต่างประเทศ และหลีกเลี่ยงการออกอากาศในประเทศที่มีธรรมเนียมปฏิบัติทางเพศที่เข้มงวด

ประการที่ 4 การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับอุตสาหกรรมบันเทิง

แน่นอนว่าการมุ่งสร้างแต่คอนเทนต์บันเทิงยังไม่ใช่คำตอบทั้งหมด เพราะแต่แรกเริ่ม รัฐบาลเกาหลีใต้มีความมุ่งหวังที่จะพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ และอุตสาหกรรมบันเทิงควบคู่กัน ดังนั้น สถาบันวิจัยด้านอิเล็กทรอนิกส์และสื่อสารทางไกล, ETRI จึงเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาเทคโนโลยีในการประกอบความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็น การใช้สเปเชียลเอฟเฟกต์ โฮโลแกรมประกอบการแสดงบนเวทีคอนเสิร์ต หรือการออกแบบมิวสิกวิดีโอให้มีความสวยงามล้ำสมัย หรือในวงการภาพยนตร์ ละคร ก็มีการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกมาสร้างสรรค์ฉากที่สวยงามและล้ำสมัย

ในด้านภาคเอกชนเองก็มีบทบาทไม่แพ้กันโดย บริษัท CJ Group ก็เป็นผู้พัฒนา 4DX System ที่กลายเป็นจุดกำเนิดโรงภาพยนตร์ 4 มิติแห่งแรกของโลก ในปี 2009 ที่ทำให้ผู้ชมสัมผัสความเสมือนจริงไปอีกขั้น ด้วยกลิ่นและการสั่นสะเทือน

นอกจากนี้รัฐบาลเกาหลีใต้ยังมีการใช้กลยุทธ์ Creative Economy ที่เพิ่มมูลค่าสินค้าหรือพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรที่มากขึ้น หากแต่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ สติปัญญา ในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งได้เข้ามามีบทบาทในกลุ่ม อุตสาหกรรมแฟชั่น การออกแบบ สื่อ ภาพยนตร์ โทรทัศน์ เพลง และงานศิลป์ในแขนงต่าง ๆ

เรียกได้ว่าการข้ามผ่านจุดตกต่ำสู่การกลับมาผงาดอีกครั้งของเกาหลีใต้ แบบไม่ง้ออุตสาหกรรมแบบเดิม แต่หันไปจับอุตสาหกรรมใหม่ที่ผ่านการวางแผนอย่างดีและเป็นขั้นเป็นตอน 

ทำให้การดันอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้ประสบความสำเร็จและไปไกลถึงระดับโลก ทั้งยังกลายเป็นหนึ่งประเทศที่น่าจับตามองในการใช้ Soft Power มาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและยังแตกแขนงไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ผ่านการวางยุทธศาสตร์ที่เฉียบคมของเกาหลีใต้ ที่หลายชาติยากจะเลียนแบบ

รัฐบาลหาทางดัน “ผำ” หรือ “Green Caviar” ไทยเป็นสุดยอดอาหารโลก

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้การกําหนดพื้นที่และสินค้าเป้าหมายเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่ม สินค้า ได้แก่ 1. สินค้าเป้าหมายภายใต้แผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด 2. สินค้าที่ได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) 3. สินค้าเกษตรอินทรีย์ เครื่องดื่มสุขภาพ 4. ผลิตภัณฑ์อาหารจากเทคโนโลยีชีวภาพ อาหารใหม่ 5. อาหารและวัตถุดิบเพื่อผลิตอาหารคุณภาพสูง และธุรกิจเกี่ยวเนื่องเพื่อสนับสนุนนวัตกรรมอาหาร เช่นบรรจุภัณฑ์อาหาร และเทคโนโลยีดิจิทัล และที่สำคัญ และ 6. สินค้าอาหารแห่งอนาคต เช่น อาหารสุขภาพและอาหารฟังก์ชัน 

ทั้งนี้ จะนำร่องด้วย “ผำ” หรือ ”ไข่ผำน้ำ” (Wolffia) ซึ่งเป็นพืชวัฒนธรรมและอาหารพื้นเมืองของไทย มีมากในภาคเหนือและภาคอีสาน ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นสุดยอดซูเปอร์ฟู้ดของโลก เพราะมีโภชนาการครบถ้วนสูงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ ไฟเบอร์ โปรตีน ประกอบกับเป็นพืชน้ำทรงกลมขนาดจิ๋วจึงได้ฉายาว่า “Green Caviar”

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้ขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ที่ตั้งเป้าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตอาหารท็อปเทนของโลกควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวบนฐานเกษตร 4.0 เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างยั่งยืน  โดยล่าสุดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เห็นชอบกำหนด ”โครงการ 1 กลุ่มจังหวัด 1 นิคมอุตสาหกรรม” 

“ประวิตร” สั่ง ทุกหน่วย จับตาพายุ “หมาเหล่า” และน้ำทะเลหนุน หวั่นกระทบแม่นำ้สายหลัก สั่ง สทนช.ปรับการระบายน้ำช่วย 15 จว.อุทกภัย

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นาบกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ 15 จว.ที่ยังประสบปัญหาอุทกภัย และกังวลพายุลูก ใหม่ซ้ำเติม ขณะที่ฝนยังมากต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือ อีสาน ภาคกลาง ภาคตะวัน ออกและภาคใต้ และน้ำทะเลหนุนสูง ระหว่าง 23-27 ต.ค.

โดยพล.อ.ประวิตร ได้กำชับ สทนช.ติดตามพยากรณ์สภาพอากาศและพายุ “หมาเหล่า”โดยให้ประเมินสถานการณ์น้ำเข้าเขื่อน และพิจารณาปรับการระบาย น้ำลงแม่น้ำสายหลัก ไม่ให้น้ำล้นตลิ่งกระทบพื้นที่โดยรอบ สำหรับการบริหารจัดการ อุทกภัยลุ่มน้ำท่าจีน ขอให้ประสานกรมชลประทาน ใช้ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำ เจ้าพระยาช่วยลดปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน โดยให้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำใน แม่น้ำท่าจีนตามจุดต่างๆ เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วขึ้น เพื่อลดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ จว.สุพรรณบุรีและนครปฐม

ทั้งนี้ภาพรวม การช่วยเหลือน้ำท่วมของ กระทรวงกลาโหม โดยทุกเหล่าทัพปัจจุบัน ยังคง สนับสนุนส่วนราชการต่างๆและทำงานร่วมกับจิตอาสา ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องมา โดยยังคงหมุนเวียนกำลังทหารกว่า 15,000 นาย รวมทั้งเครื่องมือช่างและยานพาหนะกว่า 900 คัน กระจายลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือเร่งด่วน ทั้งการอพยพประชาชน ผู้ป่วย ผู้สูงอายุและเด็ก การขนย้ายสัตว์เลี้ยงจำนวนมากออกจากพื้นที่น้ำท่วมเข้าพื้นที่ปลอดภัย  และได้เร่งติดตั้งสะพานทางทหารและซ่อมแซมสะพานในเส้นทางที่ถูกตัดขาดกว่า 10 แห่งในพื้นที่ จว.พะเยา เพชรบูรณ์และ นครราชสีมา  ร่วมไปกับการจัดยานพาหนะอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนให้สามารถสัญจรได้ปกติ

“โฆษกรัฐบาล” แจง แบงค์ชาติจับมือสมาคมธนาคาร หามาตรการเข้มป้องสวมรอยธุรกรรมการเงิน หลัง “นายก”สั่ง ดูแลปชช.จากการตัดเงินบัตรเครดิต-เดบิต ผิดปกติ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับทราบรายงานความคืบหน้ากรณีมิจฉาชีพสวมรอยทำธุรกรรมการเงิน โดยตัดเงินผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตธนาคาร จำนวน 10,700 ใบ มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 130 ล้านบาท  โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการยกระดับป้องกันการทำธุรกรรมการเงิน ผ่านช่องทางระบบออนไลน์และบัตรเครคิต รวมทั้งขอให้สถาบันการเงินช่วยดูแลประชาชนที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งธนาคารรายงานว่า ได้คืนเงินให้ลูกค้าบัตรเดบิตที่ได้รับความเสียหายครบทุกรายแล้ว ส่วนบัตรเครดิตได้เร่งตรวจสอบและยกเลิกรายการ โดยจะดำเนินการตามขั้นตอนโดยเร็วที่สุดต่อไปด้วย

นายธนกร กล่าวว่า ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประสานกับสมาคมธนาคารไทย ยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนแล้ว ได้แก่ 1.ตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติ ให้ครอบคลุมธุรกรรมที่มีจำนวนเงินต่ำและที่มีความถี่สูง 2. ติดตามเฝ้าระวังรายการธุรกรรมจากต่างประเทศเป็นพิเศษ 3.แจ้งเตือนลูกค้าในการทำธุรกรรมทุกรายการตั้งแต่รายการแรก และ4. ประชาสัมพันธ์วิธีการป้องกันความเสี่ยง เช่น การปรับวงเงินในบัตรให้เหมาะสมกับการใช้จ่าย หลีกเลี่ยงการผูกบัตรกับเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มที่ไม่น่าไว้ใจ 

นายธนกร กล่าวว่า นอกจากนี้  ธปท. และสมาคมธนาคารไทย จะผลักดันให้ผู้ให้บริการบัตรกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในการบังคับใช้การยืนยันตัวตนก่อนทำรายการชำระเงินกับบัตรเดบิตสำหรับทุกร้านค้าออนไลน์ โดยเฉพาะร้านค้าในต่างประเทศ เช่น การใช้เลข OTP ยืนยันตัวตนก่อนร้านค้าทำการตัดบัญชี รวมทั้งนำเทคโนโลยีมาใช้ป้องกันและตรวจจับภัยคุกคามทางการเงินในรูปแบบใหม่ ทั้งนี้นายกฯ เตือนประชาชน ถึงภัยออนไลน์โดยเฉพาะภัยจากธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบใหม่ เนื่องจาก ปัจจุบันระบบการเงินของไทยมีการก้าวหน้ามาก

“โฆษกรัฐบาล” ชวน “โชเฟอร์แท็กซี่-วินจยย.” อายุเกิน65 ปี ในพื้นที่ 29 จ. ลงทะเบียนจองคิวรับเงินเยียวยาในระบบ ผ่าน “แอพฯDLT Smart Queue -เว็บไซต์ https:// gecc.dlt.go.th” ลดแออัด ก่อนยืนยันตัวตนที่ขนส่ง 25 พ.ย.นี้

นายธนกรนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33, 39 และมาตรา 40 ที่ขับรถอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด โดย ผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ใน 13 จังหวัด จะได้รับเงินช่วยเหลือ 10,000 บาทต่อคน ส่วน 16 จังหวัด จะได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาทต่อคน ว่า

ขณะนี้กรมการขนส่งทางบกเปิดให้ผู้ขับรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ที่เข้าเงื่อนไข มีรายชื่อในฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก แบ่งเป็นผู้ขับรถยนต์รับจ้าง(แท็กซี่)ประมาณ12,000 คน และผู้ขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ (วินมอเตอร์ไซค์) ประมาณ 3,000 คน สามารถลงทะเบียนจองคิวรับบริการตั้งแต่วันที่18 ต.ค.-วันที่ 5 พ.ย.นี้ ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเว็บไซต์ https://gecc.dlt.go.th มีผู้จองคิวผ่านระบบแล้วประมาณ 7,000 คน ถือเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกและลดความแออัดตามมาตรการด้านสาธารณสุข ก่อนจะเปิดให้เดินทางมาลงทะเบียนด้วยตัวเอง เพื่อยืนยันตัวตนและตรวจสอบเอกสารในวันที่  25 ต.ค. นี้

นายธนกร กล่าวว่า หลังจากจองสิทธิ์ในระบบแล้ว ผู้ขับรถแท็กซี่และวินมอเตอร์ไซค์ต้องเดินทางมาลงทะเบียนด้วยตนเองเป็นการยืนยันศักยภาพในการขับรถสาธารณะ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ ระหว่างวันที่ 25 ต.ค – 5 พ.ย.นี้ ที่อาคาร 6 ชั้น 7 กรมการขนส่งทางบก กลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-4 และกลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ โดยเตรียมเอกสาร ได้แก่ ใบคำขอเพื่อรับสิทธิช่วยเหลือ ที่จุดลงทะเบียน ,บัตรประจำตัวประชาชน ,ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ,บัตรประจำตัวผู้ขับรถสาธารณะ กรณีรถเช่า ต้องมีข้อมูลทะเบียนรถที่เช่าขับและผู้ให้เช่ารถได้ โดยกรมการขนส่งทางบกจะทำการตรวจสอบข้อมูลจากผู้ให้เช่าก่อนรับสิทธิ รถที่ใช้ประกอบอาชีพต้องชำระภาษีครบถ้วน 

สำหรับการจ่ายเงินช่วยเหลือจะจ่ายผ่านบัญชีพร้อมเพย์ เฉพาะการผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน แบ่งเป็น 2 รอบ ได้แก่ รอบที่ 1 ระหว่างวันที่ 8-12 พ.ย.2564 สำหรับรถจักรยานยนต์สาธารณะและรถแท็กซี่ส่วนบุคคล และรอบที่ 2 ระหว่างวันที่ 22-26 พ.ย. 2564 สำหรับรถแท็กซี่ที่เช่าขับ 

เปิดตำนานเสด็จเตี่ย!! มหาเวทย์แห่งสยาม ศิษย์เอกหลวงปู่ศุข | MEET THE STATES TIMES EP.32

???? เปิดตำนานเสด็จเตี่ย!! มหาเวทย์แห่งสยาม ศิษย์เอกหลวงปู่ศุข
???? ค้นต้นแบบ!! “กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” ลูกศิษย์คนสำคัญ “หลวงปู่ศุข” 

???? ในรายการ MEET THE STATES TIMES ข่าวคุยเพลิน

???? ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

จากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สู่สมุยพลัสโมเดล เสียงผู้ประกอบการที่รอแสงสาดส่อง | MEET THE STATES TIMES EP.31

???? “จากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สู่สมุยพลัสโมเดล เสียงผู้ประกอบการที่รอแสงสาดส่อง”​​​ ​​​!!
???? คุยกับผู้ประกอบการตัวจริง!! ‘คุณอภิเดช คำแก้ว’ นายสนามมวยเพชรบัญชา!!

ในรายการ MEET THE STATES TIMES

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES

"นายกชาย" พร้อม “คณะกรรมาธิการการปกครองสภาผู้แทน” ลงพื้นที่เกาะสี่ เกาะห้า จังหวัดพัทลุง ตรวจสอบการขโมยรังนก และทำลายพันธุ์นกอีแอ่น

นายไพจิต ศรีวรขาน ประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง ได้มอบหมายคณะกรรมาธิการและคณะทำงาน ลงพื้นที่เกาะสี่ เกาะห้า หมูที่ 3 ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ตรวจสอบกรณีมีการขโมยรังนกและทำลายพันธุ์นกอีแอ่นในพื้นที่จังหวัดพัทลุง 

นำโดย ส.ส.สุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ รองประธานคณะกรรมาธิการ , ส.ส.อารี  ไกรนรา รองประธานคณะกรรมาธิการ,ส.ส.เดชอิศม์ ขาวทอง รองประธานคณะกรรมาธิการ , ส.ส.กวินนาถ ตาคีย์ กรรมาธิการ และคณะทำงาน ส.ส.สุรินทร์ปาลาเร่ ,ส.ส.นริศ ขำนุรักษ์, ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

 

'ทรัมป์' ปั้น 'Truth Social'​ โซเชียลมีเดียของตัวเอง หลังโดนปิดกั้นหนัก เอาใจเหล่าสาวกเดนตาย

หลังจากที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องเสียบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัว ที่มียอดผู้ติดตามสูงถึง 88.7 ล้านคน และยังถูกปิดกั้นการเข้าถึงช่องทางโซเชียลมีเดียอื่นๆ ทั้ง Facebook รวมถึง YouTube ที่เคยใช้ ซึ่งล้วนมียอดผู้ติดตามมหาศาล อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ การบุกรุกอาคาร 'เดอะ แคปปิตอล'​ ของกลุ่มผู้สนับสนุน ที่ต้องการขัดขวางกระบวนการรับรองคะแนนเลือกตั้งเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2021 ที่เชื่อว่าเกิดจากข้อความปลุกระดมในโซเชียลมีเดียของทรัมป์

ทั้งนี้​ การปิดกั้นช่องทางสื่อสารทางโซเชียล มีผลกับอดีตประธานาธิบดี ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักสร้างกระแสคนดังที่สุดแห่งยุคอย่างมาก เพราะทรัมป์ชื่นชอบ การสื่อสารผ่านทางทวิตเตอร์มาก ที่มักจะโพสต์ข้อความถึงกลุ่มฐานเสียงทุกวันอย่างสม่ำเสมอ 

อย่างไรก็ตาม​ เมื่อปิดกั้นกันนัก ท่านเสี่ยทรัมป์ก็เลยควักกระเป๋า เปิดช่องโซเชียลมีเดียเป็นของตัวเองซะเลย โดยใช้ชื่อว่า Truth Social ที่เตรียมจะเปิดตัวในขั้นทดสอบและรับสมาชิกในเดือนพฤศจิกายนปีนี้

ปมเดือด!! “รัสเซีย” ต้นตอ…วิกฤตพลังงานยุโรปขาดแคลน!! | Knowledge Times EP.29

???? รอบรู้แบบรู้ลึก ในรายการ ‘KnowledgeTimes’ | EP.29
???? ปมเดือด!! “รัสเซีย” ต้นตอ…วิกฤตพลังงานยุโรปขาดแคลน!!

สำนักข่าว Bloomberg รายงานราคาพลังงานที่ปรับตัวพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ส่งออกน้ำมันกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักลงทุนทั่วโลกในเวลานี้ โดยเฉพาะรัสเซีย 

ซึ่งมีรายงานว่า ค่าเงินรูเบิล แข็งค่ามากกว่าค่าเงินของประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงทิศทางการลงทุนอย่างกะทันหันของนักลงทุนในกลุ่มตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ องค์กรพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ได้ออกมาเรียกร้องให้รัสเซียส่งออกก๊าซธรรมชาติมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนก๊าซธรรมชาติ และพลังงานที่แพร่ระบาดไปทั่วทั้งยุโรป โดยกล่าวอ้างว่า “รัสเซียเป็นต้นตอความขาดแคลนพลังงานในครั้งนี้ และจงใจระงับการจัดส่งก๊าซให้ยุโรป จนทำให้ราคาก๊าซเพิ่มสูงขึ้น”

ในขณะที่ยุโรป กำลังเผชิญวิกฤติราคาพลังงาน โดยราคาก๊าซเพิ่มสูงขึ้นถึง 250% นับตั้งแต่เดือนมกราคม โดยสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ตั้งแต่การขาดพลังงานหมุนเวียน ไปจนถึงปริมาณก๊าซธรรมชาติในสต๊อกที่ลดต่ำลงหลังผ่านหน้าหนาวเมื่อปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น ความต้องการพลังงานในหลายประเทศก็กำลังเพิ่มขึ้น เพราะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากโควิด-19

นักวิเคราะห์บางคนสงสัยว่า นี่คืออาวุธทางการเมืองที่รัสเซียกำลังใช้วิกฤติพลังงานที่เกิดขึ้น…เพื่อเป็นตัวเร่งและกดดันให้ยุโรปอนุมัติโครงการ “นอร์ด สตรีม 2” (Nord Stream 2) หรือไม่ ซึ่งโครงการดังกล่าว จะเพิ่มขีดความสามารถการส่งออกก๊าซธรรมชาติของรัสเซียสู่เยอรมนีมากกว่าเดิมเป็นสองเท่า และเป็นเส้นทางสำคัญในการส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรปผ่านทะเลบอลติก

ในขณะที่ยุโรปยังไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ และฝ่ายคัดค้านเชื่อว่าโครงการนี้จะทำให้ยุโรปต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียมากขึ้น ในขณะที่ฝ่ายสนับสนุนบอกว่า เรื่องนี้จะทำให้ยุโรปซื้อก๊าซได้ในราคาที่ถูกลง

ซึ่งล่าสุด “ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน” ผู้นำฝ่ายรัสเซีย ได้เข้าร่วมประชุมเรื่องพลังงานในกรุงมอสโกเมื่อวันพุธที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยปูตินออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า รัสเซียกำลังใช้พลังงานเป็นอาวุธทางการเมืองซึ่งเป็นเรื่องไร้สาระ และพร้อมให้ความช่วยเหลือผ่อนคลายวิกฤตพลังงานในยุโรป 

พร้อมกล่าวด้วยว่า “เราไม่ได้ใช้อาวุธใด ๆ เลย แม้กระทั่งในช่วงที่ยากลำบากที่สุดในยุคสงครามเย็น รัสเซียก็ยังคงปฏิบัติตามข้อผูกพันตามสัญญาและจัดหาก๊าซให้กับยุโรปอยู่เป็นประจำ และไม่มีข้อสนับสนุนใด ๆ ที่จะกล่าวหาว่ารัสเซียใช้พลังงานเป็นอาวุธ เพราะในทางตรงกันข้าม รัสเซียนั้นขยายการจัดส่งพลังงานไปยังยุโรปต่างหาก และขอให้ยุโรปหยุดโยนความผิดให้คนอื่น อันเนื่องมาจากปัญหาวิกฤตพลังงานในภูมิภาคเอง”

พร้อมทั้งได้ตำหนิวิกฤตพลังงานในยุโรปขณะนี้ด้วยว่า หลังจากฤดูหนาวรุนแรงที่ผ่านมา ยุโรปไม่ได้สูบก๊าซในปริมาณที่เพียงพอเพื่อไปเก็บสำรองไว้ในโรงเก็บ ซึ่งถือว่าสำคัญมากและเป็นกลไกระยะยาว เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดพลังงาน

และปูตินย้ำอีกว่า บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ แกซพรอม (Gazprom) ของรัสเซีย ได้จัดส่งก๊าซไปยังยุโรปในระดับที่สูงที่สุดภายใต้ข้อตกลงในปัจจุบัน และพร้อมที่จะจัดส่งเพิ่มให้อีกหากได้รับการร้องขอ โดยรัสเซียจะเพิ่มให้มากเท่าที่หุ้นส่วนร้องขอ ไม่มีการปฏิเสธใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งในปีนี้ รัสเซียได้จัดส่งเพิ่มเติมไปแล้วถึง 15%

ด้านโฆษกทำเนียบเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ ระบุว่า รัสเซียได้จัดส่งก๊าซให้ยุโรป ในปริมาณที่มากที่สุดตามสัญญาแล้ว และย้ำว่า รัสเซียพร้อมที่จะเพิ่มปริมาณการส่งก๊าซผ่านยูเครน หากยุโรปจะเพิ่มงบประมาณการจัดซื้อ

ทั้งนี้ รัสเซีย ถือเป็นผู้ผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และจัดส่งให้กับยุโรปมากกว่า 40% จากการนำเข้าพลังงานทั้งหมดของยุโรป ด้วยเหตุนี้ รัสเซียจึงนับเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกพลังงานที่สำคัญที่สุดของโลก และมีบทบาทที่จะสร้างความแข็งแกร่งและอ่อนแอให้กับแต่ละภูมิภาคได้

นอกจากนี้ รัสเซียยังใช้แหล่งทรัพยากรเหล่านี้ เป็นตัวหนุนรายได้หลักของรัฐบาล ซึ่งตอนนี้โลกกำลังเริ่มจะเปลี่ยนแปลงจากการใช้พลังงานฟอสซิล ไปเป็นพลังงานสะอาดแทน และนั่นหมายความว่า อาจมีความต้องการที่ลดน้อยลงในอนาคตก็เป็นได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top