Friday, 4 July 2025
NEWS

ผู้ว่าฯ สมุทรปราการแถลงข่าวความคืบน้าเหตุเพลิงไหม้บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด

นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย พล.ต.ต. ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พล.ต. เพชรพนม โพธิ์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการกองทัพไทยส่วนหน้า และนายปภินวิช ละอองแก้ว หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมแถลงข่าว

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการแถลงว่า ทุกหน่วยงานเข้าควบคุมสถานการณ์ โดยระดมสรรพกำลังและอุปกรณ์เข้าระงับเหตุได้แก่ รถดับเพลิง เฮลิคอปเตอร์ ฯลฯ เนื่องจากโรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก มีสารอันตราย ประกอบด้วย สารสไตรีนโมโนเมอร์ ประมาณ 1,600 ตัน เป็นสารระเหย หากหายใจเข้าไปจะมีอาการระคายจมูกและคอ ปวดศีรษะ มึนงง ถ้าได้รับสารปริมาณสูงอาจชักและเสียชีวิตได้ สารเพนเทน ประมาณ 60 - 70 ตัน เป็นของเหลวไวไฟสูง อาจทำให้ง่วงซึม หรือมึนงง ขณะนี้ยังมีการลุกไหม้อยู่ต่อเนื่อง ขณะนี้ใช้ยานยนต์ดับเพลิงควบคุมระยะไกล (LUF60) และโฟมผสมน้ำเข้าระงับเหตุการณ์ดังกล่าว

ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต

มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (นายกรสิทธิ์ ลาวพันธ์ อายุ 18 ปี อาสาสมัครฯ หน่วยสมเด็จเจ้าพระยา) และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 33 ราย

การช่วยเหลือประชาชน จัดตั้งศูนย์อพยพ จำนวน 8 จุด ดังนี้
จุดที่ 1 องค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่ (อาคารหลังเก่า) มีผู้อพยพ จำนวน 160 คน
จุดที่ 2 วัดบางพลีใหญ่กลาง มีผู้อพยพ จำนวน 250 คน
จุดที่ 3 โรงเรียนบางกระบือ มีผู้อพยพจำนวน 122 คน
จุดที่ 4 โรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ มีผู้อพยพจำนวน 345 คน
จุดที่ 5 ศาลพ่อหลวง มีผู้อพยพจำนวน 35 คน
จุดที่ 6 วัดบางโฉลงใน มีผู้อพยพจำนวน 140 คน
จุดที่ 7 วันบางโฉลงนอก มีผู้อพยพจำนวน 340 คน
จุดที่ 8 วัดบางพลีใหญ่ใน มีผู้อพยพจำนวน 500 คน
รวมผู้อพยพ จำนวน 1,892 คน

เรื่องที่พัก อาหาร
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร สถานที่พัก
- การช่วยเหลือแรงงานต่างด้าว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ดูแลด้านอาหาร ที่พัก ในเบื้องต้น
- การแยกผู้ป่วยโควิด
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ควบคุมประชาชนเข้าศูนย์อพยพ โดยมีการ
คัดกรองโควิด - 19

การติดตามสถานการณ์ สอบถามข้อมูล สามารถติดตามญาติ ได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่

นายกฯ โทรฯ กำชับ ผวจ. สมุทปราการระงับเหตุบึ้ม รง.สารเคมี ช่วยประชาชนเต็มที่ สั่ง ระดม ทุกหน่วยช่วยเร่งด่วน

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์การระเบิดภายในโรงงานของ บริษัท หมิงตี้ เคมิคอล จำกัด ในซอยกิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่ยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการปฎิบัติงานบรรเทาภัยของหน่วยงานต่าง ๆ ในการระงับเหตุอย่างต่อเนื่อง ทั้งการป้องกันการะเบิดซ้ำ การดับไฟ การสะกัดควัน การจัดหาสารเคมีและโฟมดับไฟ เนื่องจากเพลิงที่ลุกไหม้ในที่เกิดเหตุ มีต้นทางเป็นถังบรรจุสารเคมีซึ่งสารดังกล่าวไม่สามารถดับได้ด้วยน้ำ จึงมีความจำเป็นต้องใช้โฟมในการดับไฟ 

นายกรัฐมนตรีได้โทรศัพท์สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ประสานนำเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และรถฉีดโฟมขนาดใหญ่ ให้ความช่วยเหลือการดับเพลิงแล้ว รวมทั้งได้สั่งให้ทุกหน่วยงานทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชนช่วยเหลือจัดหาโฟมและสารเคมีดับไฟเพิ่มเติมด้วย รวมถึงการขอทีมที่เชี่ยวชาญการจัดการสารเคมีเข้าร่วมสนับสนุนการระงับเหตุ ซึ่งได้นำเครื่องมือ เช่น Fire Robots และ Gas Detectors ไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมจัดส่งกำลังพลจากทุกเหล่าทัพ รวมถึงยานพาหนะ รถดับเพลิง โฟมและสารเคมี ชุดเผชิญเหตุสารเคมี อากาศยานไร้คนขับ รวมทั้งรถพยาบาล พร้อมเจ้าหน้าที่แพทย์สนามและทหารสารวัตร เข้าพื้นที่เสริมการทำงานของจังหวัดสมุทรปราการด้วยแล้ว รวมทั้งสั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยบรรเทาฝุ่นควันจากเหตุดังกล่าวด้วยแล้ว โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีการติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง หากเข้าเงื่อนไขการทำฝน จะวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือทันที

“นายกรัฐมนตรีเสียใจกับการสูญเสียเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เสียชีวิตจากการระงับเหตุในครั้งนี้ ขอให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ พร้อมกับให้ภาครัฐจัดการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนจากทุกหน่วยงานที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ทั้งการระงับเหตุและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถ และ ย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องที่พักและอาหารในจุดอพยพต่าง ๆ รวมทั้งเร่งสำรวจและหาสาเหตุเพลิงไหม้ให้ชัดเจนเมื่อสถานการณ์สงบลงเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป และการเตรียมการต่างๆเพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้โดยเร็ว” นายอนุชา กล่าว

มติป.ป.ช. ตั้ง 9 กรรมการ เป็นองค์คณะไต่สวน คดี 'บอส อยู่วิทยา' สอบผู้ถูกกล่าวหา 15 คน ทั้ง บิ๊กตร.-อัยการ-พงส.

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกป.ป.ช. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบกรณีอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมาได้พิจารณาคดีดังกล่าว โดยเมื่อพิจารณาข้อมูลแล้วเห็นว่าข้อมูลเบื้องต้นนั้นมีมูลที่จะสั่งไต่สวนได้ จึงได้มีมติให้กรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน เป็นองค์คณะไต่สวนผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดจำนวน 15 ราย

ประกอบด้วย พนักงานสอบสวน ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งที่เกษียณไปแล้วและที่ยังรับราชการอยู่ พนักงานอัยการ รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ตามกรอบ พ.ร.บ.ป.ป.ช. ในมาตรา 48 ระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะต้องไต่สวนให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี และขยายเวลาได้ 1 ปี ซึ่งตามขั้นตอนหลังจากตั้งองค์คณะไต่สวนแล้ว องค์คณะไต่สวนจะเริ่มดำเนินการไต่สวน หากมีมูลเพียงพอจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา เพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหามีโอกาสชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา จากนั้นองค์ไต่สวนจะสรุปสำนวนเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ให้พิจารณาชี้มูลความผิดต่อไป โดยขณะนี้ยังเป็นเพียงการตั้งองค์คณะไต่สวน อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้กำชับให้เร่งรัดการดำเนินการภายใต้กรอบเวลาที่กำหนด ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลาที่รวดเร็วกว่ากำหนดก็เป็นได้ เนื่องจากเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ จึงให้ความสำคัญ จึงให้กรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน มาเป็นองค์คณะไต่สวนด้วยตัวเอง

 

ปปง. ขู่จับเซียนพนันบอลยูโรเจอโทษหนักคุก 10 ปีปรับ 2 แสน

พลตำรวจตรี ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รักษาราชการแทนเลขาธิการ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปปง.ตร.) บังคับใช้กฎหมายในการป้องกันปราบปราม การพนันออนไลน์ โดยเฉพาะในขณะนี้ที่พบว่ามีประชาชนอาจตกเป็นเหยื่อจำนวนมากในช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการกับผู้กระทำความผิดอย่างเข้มข้นโดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้แล้วกว่า 100 ราย และได้ส่งเรื่องมาให้สำนักงาน ปปง. สืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ทั้งหมด

ทั้งนี้สำนักงาน ปปง. ได้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรม และคณะกรรมการธุรกรรมมีให้สำนักงาน ปปง. ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้กระทำความผิดซึ่งมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนัน เฉพาะความผิดเกี่ยวกับการเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยมีวงเงินในการกระทำความผิดรวมกันมีมูลค่าตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป หรือเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (9) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 บางส่วนแล้ว และอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิดและผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์อีกหลายราย 

ดังนั้น สำนักงาน ปปง. จึงขอเตือนประชาชน ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันออนไลน์โดยเด็ดขาด เพราะนอกจากจะต้องถูกดำเนินคดีอาญาแล้ว อาจะต้องถูกยึดอายัดทรัพย์สินอย่างจริงจัง โดยความผิดฐานฟอกเงินนั้น มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับ ตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรมและตัดเส้นทางการเงินของผู้กระทำความผิด สำนักงาน ปปง. จะเน้นการสืบสวนขยายผลเพื่อยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีดังกล่าว รวมทั้งคดีอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง ให้เกิดความเข้มข้นและเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผลในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนต่อไป 

‘นายกฯ’ กักตัว 14 วัน ตามมาตรการด้านสาธารณสุข หลังประธานสภาหอการค้าสุรินทร์ ติดโควิด-19 โฆษกฯ ย้ำ นายกฯ สวอปแล้วผลเป็นลบ ยังคงทำงานปกติในพื้นที่ตนเอง

วันที่ 5 ก.ค. 64 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีความกังวลและห่วงใย กรณีที่เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2564 นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปจังหวัดภูเก็ต เพื่อเปิด Phuket Sandbox และสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ แต่ภายหลังทราบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย

"นายกรัฐมนตรีจึงจะใช้เวลาช่วงนี้ ปฏิบัติหน้าที่ ด้วยการติดตามและการบริหารราชการภายในพื้นที่ของตนเอง เพื่อคลายความวิตกกังวลของภาคส่วนและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ยังคงปฏิบัติภารกิจตามปกติ และติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งไม่มีผลตรวจที่เป็นบวก และที่ผ่านมาก็มีการตรวจโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง และยังคงตรวจเป็นระยะ ๆ ต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า ประเทศยังเดินไปข้างหน้า และสถานการณ์โควิด-19 ยังต้องดูแล และแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด” นายอนุชา กล่าว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังฝากถึงประชาชน ขอความร่วมมือทุกคนให้ช่วยกันป้องกันโรคโควิด-19 ปฏิบัติตนตามมาตรการสาธารณสุข D-M-H-T-T อย่างเคร่งครัด ถึงแม้ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วก็ตาม ด้วยการหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่ม ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หมั่นล้างมือ ตรวจวัดอุณหภูมิ และสแกนแอปพลิเคชั่นตามที่พื้นที่กำหนด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายวีรศักดิ์ พิษณุวงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่าติดเชื้อโควิด-19 หลังกลับจากร่วมงานภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งในงานดังกล่าวมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว. กลาโหม รวมถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม รวมถึงข้าราชการผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเปิดงาน ทั้งนี้ได้มีภาพนายวีรศักดิ์ ได้เซลฟี่กับนายกฯ ด้วยนั้น ทำให้วันนี้นายกฯ ต้องทำการ swab เพื่อตรวจหาเชื่อ พร้อมกับต้องกักตัว 14 วันตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินทางออกจากทำเนียบฯ ไปตั้งแต่เวลา 12.10 น. หลังจาก swab ทั้งนี้ มีรายงานว่าในการประชุมครม. วันพรุ่งนี้ นายกฯ จะประชุมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอร์เร้นซ์กับครม. ที่จะอยู่แต่ละกระทรวงของตัวเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ ในวันนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล ยังพบแม่บ้านของธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาลติดเชื้อโควิดอีก 1 คน โดยทางธนาคารกรุงไทย ซึ่งมีสาขาอยู่ในทำเนียบรัฐบาลได้ประกาศปิดทำการ 2 วัน เพื่อทำความสะอาด จากนั้นจะมีการนำเจ้าหน้าที่จากส่วนอื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าหน้าที่ชุดเดิมที่จะต้องกักตัว 14 วัน


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

3 คำพยากรณ์ กับ 4 ขุนพลประจัญบาน ในศึกฟุตบอลยูโร 2020

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

โอมมะลึ้กกึ้กกึ๋ย เพี้ยง!! ผ่านมาถึงรอบรองชนะเลิศกันแล้ว สำหรับศึกฟุตบอลยูโร 2020 ขณะนี้ได้ 4 ขุนพลประจัญบานเตรียมลงฟาดฟันกันเพื่อหาคู่ชิงชนะเลิศ คู่แรก อิตาลี vs สเปน และคู่สอง อังกฤษ-เดนมาร์ก 

THE STATES TIMES ขอทำตัวเป็นพ่อหมอพยากรณ์ ทำนายผลที่น่าจะเป็นของทั้งสองคู่ ก่อนอื่น ขออนุญาตตะโกนเรียกใช้งานลูกน้องแป๊บ ‘คริสเตียโน่ ส่งลูกแก้วทำนายชะตา มาให้ข้าที!!’

ทำนายครั้งที่ 1 : มีต่อเวลาแน่นอน โดยเฉพาะคู่ระหว่างอิตาลีกับสเปน เพราะทั้งสองทีมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อเวลา 120 นาทีด้วยกันทั้งคู่ อิตาลีผ่านประสบการณ์มาแล้วตอนเจอออสเตรีย ส่วนสเปนเจอมาทั้งโครเอเชีย และสวิตเซอร์แลนด์ เรียกว่าเตะกันจนขาลาก แถมนี่ยังเป็นรอบรองฯ ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งสองทีมน่าจะ ‘ซื้อเกมรัดกุม’ จนทำให้ยืดเยื้อต้องต่อเวลาชัวร์!

ทำนายครั้งที่ 2 : อังกฤษจะทำประตูด้วย ‘ลูกโหม่ง’ อย่างแน่นอน รู้อะไรไหม ถึงตอนนี้ทีมอังกฤษทำประตูด้วยลูกโหม่งไปแล้ว 5 ลูก เป็นศีรษะของราฮีม สเตอร์ลิ่ง 1 แฮร์รี่ แม็คไควร์ 1 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 1 และแฮร์รี่ เคน 2 สาเหตุที่มีโอกาสทำประตูด้วยลูกโหม่งได้บ่อย ๆ เนื่องจากนักเตะด้านกราบสองข้างของอังกฤษ อาทิ ลุค ชอว์, คีแรน ทริปเปียร์ หรือแม้แต่ เมสัน เมาท์ และแจ็ค กรีลิช ฟอร์มกำลังร้อนแรงสุด ๆ เรียกว่าเปิดบอลเป็นเข้าหัว จึงเป็นที่มาของการทำนายว่า อังกฤษได้ประตูด้วยลูกโหม่งชัวร์!

ทำนายครั้งที่ 3 : ส่วนทีมที่จะได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ลูกแก้วทำนายว่า เป็นสองทีมที่มีสถิติลงเล่นแล้วมีผลชนะมากที่สุดนับตั้งแต่รอบแรกเป็นต้นมา นั่นคือ อิตาลี (ชนะ 5 นัดรวด) และอังกฤษ (ชนะ 4 เสมอ 1) ฟันธง!!


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

นายกฯ สั่งด่วน เร่ง ควบคุมสถานการณ์ระเบิดโรงงานเม็ดพลาสติก-พร้อมช่วยเหลือประชาชน-สตช.ตั้งศูนย์อพยพ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการด่วนให้เจ้าหน้าที่เร่งควบคุมสถานการณ์และสืบหาสาเหตุการระเบิดที่โรงงานหมิงตี้ เคมิคอล ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก ซอยกิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 03.10 ของคืนวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา

นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีขอให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง หลังรับทราบรายงานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 1 รายเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่นเร่งเข้าช่วยเหลืออพยพประชาชนและผู้ได้รับความเสียหาย

นายอนุชา กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดตั้งศูนย์อพยพ รองรับประชาชน ณ โรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ องค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่ และ วัดสลุด อ.บางพลีใหญ่ โดยขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่รัศมีโดยรอบไม่เกิน 5 กิโลเมตรเร่งอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน หากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต้องการขอความช่วยเหลือ หรือสอบถามข้อมูล สามารถโทรมายังสายด่วน 191 และ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกำชับให้เจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่นเร่งเข้าดูแลประชาชนที่ศูนย์อพยพเพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นด้วย

ทบ. ยันสนับสนุนทุกภาคส่วนคลี่คลายโควิด พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบหน่วยทหาร ที่ถูกกล่าวถึงไม่ให้ความร่วมมือ

ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีที่ นายแพทย์ นิธิพัฒน์ เจียรกุล โรงพยาบาลศิริราช ได้โพสต์ถึงการสนับสนุนจากจัดตั้งโรงพยาบาลสนามดูแลผู้ป่วยโควิดว่า มีบางพื้นที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยทหาร ทั้ง ๆ ที่นโยบายของกองทัพบกพร้อมสนับสนุน

รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบก ได้รับทราบข้อห่วงใยและความกังวลใจของนายแพทย์ นิธิพัฒน์ แล้วได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยทันที พร้อมกับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องประสานสอบถามข้อมูลไปยัง นายแพทย์ นิธิพัฒน์ โดยตรงแล้ว ในขั้นต้นทราบว่าเป็นหน่วยทหารในพื้นที่ จ.สระบุรี คือศูนย์การทหารม้า   ทั้งนี้ กองทัพบกได้การตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับหน่วยดังกล่าว ถึงข้อจำกัดหรือเหตุผลความจำเป็นที่ ไม่สามารถให้การสนับสนุนพื้นที่ตามการร้องขอได้  เพราะการปฎิบัติดังกล่าวไม่เป็นไปตามนโยบายของกองทัพบก ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมในการสนับสนุนทุกภาคส่วนอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์โควิด ทั้งการทุ่มเททรัพยากรที่มี และศักยภาพของ บุคคลากรสายแพทย์ 
      
อีกทั้ง นโยบายของกองทัพบก ไม่ประสงค์ที่จะให้เกิดข้อติดขัดใด ๆ ในการสนับสนุนหน่วยงานอื่น เพราะสถานการณ์โควิดในขณะนี้ ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันด้วยความทุ่มเท เสียสละ เพื่อระงับการแพร่ระบาดและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ในปัจจุบันกองทัพบกได้จัดตั้ง โรงพยาบาลสนาม สนับสนุนการดูแลผู้ป่วยโควิดของรัฐบาล 14 แห่ง และ โรงพยาบาลสนามของกองทัพบกอีก 37 โรงพยาบาล สามารถรองรับผู้ติดเชื้อได้ 6,108 เตียง

อย่างไรก็ตาม กองทัพบก ขอเป็นกำลังใจให้กับบุคคลากรทางการแพทย์ทุกส่วนที่กำลังร่วมกันดูแลประเทศชาติและประชาชนในวิกฤตโควิดครั้งนี้

รู้ 5 ข้อ พอแล้ว สร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19

ศ.ดร. ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แนะประชาชน สร้างความเข้าใจ และป้องกันตัวเองจากโควิด-19 ดังนี้

1.) ระบาดรอบนี้ ‘ติดง่าย ไม่มีอาการ’ ทำให้หลายคนเป็นพาหะโดยไม่รู้ตัว แพร่เชื้อไกลขึ้น

2.) ไม่ต้องสนใจมากว่า ‘สายพันธุ์ไหน’ เป็นเรื่องที่หมอเขาเฝ้าระวังให้อยู่แล้ว

3.) วัคซีน ‘ไม่ได้ป้องกัน’ แต่ช่วยลดความรุนแรง

4.) ต่อให้ติดเชื้อ ถ้าแข็งแรง ร่างกายจะรักษา ‘ได้เอง’

5.) ต้อง ‘ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง อย่าเดินทางบ่อย หมั่นล้างมือ’ เพราะคนที่ติดส่วนใหญ่ ไม่มีใครคิดว่าตัวเองจะติด


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'สุริยะ' ลงพื้นที่ไฟไหม้โรงงาน บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สั่ง กรอ.เฝ้าระวังเข้ม พร้อมกำกับดูแลหาแนวทางป้องกันในโรงงานทั่วประเทศ ด้าน กรอ.ได้ส่งรถเคลื่อนที่เร็ว และรถตรวจสภาพอากาศเข้าพื้นที่เกิดเหตุแล้ว!

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยถึงกรณีไฟไหม้โรงงานบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผลิตโฟม และเม็ดพลาสติก ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการไฟไหม้ ว่าได้รับรายงานตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (5 ก.ค.) และได้สั่งการให้นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ให้เจ้าหน้าที่กรมโรงงานฯ ลงพื้นที่ด่วน เพื่อไปติดตามสถานการณ์โรงงานไฟไหม้ใกล้ชิด

ซึ่งทาง กรอ.ได้ร่วมประชุมกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และหน่วยงานในพื้นที่เพื่อเร่งหาสาเหตุและแนวทางอพยพช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เป็นการเร่งด่วน โดยเบื้องต้นได้ส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วของ กรอ. เข้าไปในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา พร้อมกับส่งรถตรวจสภาพอากาศเข้าไปในพื้นที่แล้ว โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการหาสาเหตุ และให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

สำหรับมาตรการเร่งด่วนในขณะนี้การดำเนินการแก้ไขปัญหาสภาพอากาศ ที่ กรอ. กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยรอบ พร้อมตรวจวัดคุณภาพอากาศและปริมาณสารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตราย

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา) ได้แสดงความเป็นห่วงอย่างมาก โดยได้สั่งการตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุให้ผมลงพื้นที่ตรวจสอบว่าโรงงานประเภทดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าทั่วประเทศมีโรงงานประกอบกิจการผลิตเม็ดโฟม ESP (Expandable Polystyrene) จำนวน 2 แห่ง คือ ที่จังหวัดสมุทรปราการ และโรงงานไออาร์พีซี ที่จังหวัดระยอง ซึ่งโรงงานแห่งนี้ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2532 และได้ตั้งก่อนที่จะมีชุมชนเข้าไปตั้งในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งการจะตั้งโรงงานประเภทนี้จะมีการทำ EIA และ EHIA อยู่แล้ว

"อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้เชี่ยวชาญพิเศษ จากกรมบรรเทาสาธารณภัย รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากกองวัตถุอันตรายและความปลอดภัย จาก กรอ. ลงไปอยู่ในพื้นที่ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าแล้ว ส่วนความช่วยเหลือเบื้องต้น ได้มีการตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มูลนิธิร่วมกตัญญูในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการในเบื้องต้นแล้ว” นายสุริยะ กล่าว

ด้านนายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในเบื้องต้น กรอ.ได้เคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยให้ห่างจากพื้นที่ที่สามารถติดไฟได้ พร้อมกับล้างสารเคมีที่เหลือด้วยน้ำปริมาณมาก ๆ ซึ่งสารสไตรีนโมโนเมอร์ (Styrene Monomer) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นผลิตโฟม ก็มีคุณสมบัติติดไฟได้ง่าย ส่วนสารพอลิสไตรีนนั้น เมื่อถูกความร้อนสูง จะให้สาร 2 ชนิดคือ สไตรีน (Styrene) และเบนซีน (Benzene) โดยเบนซีนเป็นสารพิษอันตราย มีความเป็นพิษสูงและเป็นสารก่อมะเร็ง โดยอาการของผู้ที่ได้รับเบนซีนเมื่อหายใจเข้าไปในระดับสูงและเป็นเวลานาน คือในระยะแรก ๆ จะเกิดอาการซึม วิงเวียน คลื่นไส้ หมดสติ ใจสั่น เมื่อสูดดมเป็นเวลานานจะทำให้เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือด (Leukemia) ได้

สำหรับเหตุไฟไหม้ โรงงาน หมิงตี้ เคมีคอล ซอยกิ่งแก้ว 21 ล่าสุดยังไม่สามารถคุมเพลิงได้ และคาดว่ามูลค่าสินทรัพย์ในกองเพลิงเกือบ 700 ล้านบาท มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บนับสิบราย แรงระเบิดทำให้บ้านเรือนเสียหายเป็นวงกว้าง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้สั่งเร่งอพยพ รัศมี 5 กิโลเมตร เนื่องจากมีสารเคมี กว่า 10 ชนิด เพราะยังคุมเพลิงไม่ได้ เจ้าหน้าที่ถอนกำลังหวั่นระเบิดซ้ำ


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ส่องโปรไฟล์ 4 ยอดโค้ช นำทีมผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ยูโร 2020

เข้าถึงช่วงโค้งสุดท้าย ศึกฟุตบอลยูโร 2020 กันแล้ว ล่าสุดได้ 4 ทีมสุดท้าย ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะเตะกันในค่ำคืนวันอังคารที่ 6 ก.ค. เวลาตีสอง และคืนวันพุธที่ 7 ก.ค. เวลาตีสองเช่นเดียวกัน

ถึงตรงนี้ ต้องบอกว่า ทั้งอิตาลี, สเปน, อังกฤษ และเดนมาร์ก ถือเป็นสุดยอดทีมที่บุกป่าฝ่าดงแข้งกันมาได้ถึงรอบนี้ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับบรรดาโค้ชของทีม ไม่ว่าจะเป็น โรแบร์โต้ มันชินี่ โค้ชอิตาลี, หลุยส์ เอ็นรีเก้ โค้ชสเปน, แกเร็ธ เซาธ์เกต โค้ชอังกฤษ และคาสเปอร์ ฮูลมันด์ โค้ชเดนมาร์ก ที่ทำงานหนักจนพาทีมผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ได้

แต่จากนี้ จะเป็นโค้ชคนไหน ที่จะพาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศ และคว้าแชมป์ไปครอง เราลองไปดูโปรไฟล์พวกเขาซะหน่อยดีกว่า

ในบรรดาโค้ชทั้ง 4 คน แกเร็ธ เซาธ์เกต ถือเป็นโค้ชที่คุมทีมนานที่สุด ตั้งแต่ปี 2016 นับเป็นจำนวน 59 นัด ส่วนหลุยส์ เอ็นรีเก้ และคาสเปอร์ ฮูลมันด์ คุมทีมเป็นจำนวนเท่ากันที่ 18 นัด โดยเป็นฮูลมันด์ที่ทำผลงานได้ดีกว่า พาทีมเก็บชัยชนะไปถึง 12 นัด ส่วนเอ็นรีเก้พาทีมชนะ 8 นัด

แต่ถ้าคิดตามค่าเฉลี่ยจำนวนการคุมทีมกับการคว้าชัยชนะที่สูงที่สุด ต้องยกให้โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่คุมทีมไป 37 นัด สามารถเก็บชัยชนะไปได้ถึง 28 นัด ที่สำคัญ ยังพาทีมอิตาลีกระหน่ำประตูไปได้ถึง 90 ประตู เสียประตูเพียงแค่ 16 ประตูเท่านั้น

ยังมีสถิติที่น่าสนใจอีกอย่างคือ โค้ชทั้ง 4 คนนี้ ยังไม่เคยคว้าแชมป์ใหญ่ในรายการระดับเมเจอร์ด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ยังเป็นผู้เล่นก็ดี หรือในตอนที่หันมาเอาดีเป็นโค้ช ดังนั้น แชมป์ยูโรครั้งนี้ จะมีโค้ชที่คว้าแชมป์ใหญ่เป็นครั้งแรกในชีวิต น่าสนใจมาก ๆ ว่า เขาคนนั้นจะเป็นใคร

ถึงตรงนี้ ไม่ว่าใครจะเป็นทีมเต็ง ขอให้ลืมไปได้เลย เพราะรับประกันว่า ทุกทีมใส่กันเต็มแน่นอน ผลงานในสนามเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า พวกเขาสมควรจะเป็นแชมป์ยูโรหรือไม่ อีกไม่นานได้รู้กัน!


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ด่วน! สั่งถอนกำลังจนท.ดับเพลิงออกจาก ‘โรงงานย่านกิ่งแก้ว’ หลังเพลิงโหมใกล้ถังน้ำมันแล้ว

สืบเนื่องจากกรณี วันนี้ 5 ก.ค. 64 ได้เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตโฟม และเม็ดพลาสติก ภายในซอยกิ่งแก้ว 21 ถนนกิ่งแก้ว ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยระหว่างเพลิงไหม้มีเสียงระเบิดดังขึ้น เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.30 น. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ทั้งนี้ช่วงเวลา 12.45 น. มีรายงานว่า มีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ #โรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ ถอนกำลังออกเวลานี้ เนื่องจากไฟกำลังเข้าใกล้ถังน้ำมันแล้ว 

 

ที่มา : https://www.naewna.com/local/585199


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

เลขาธิการแพทยสภา ชี้ สงครามนี้ เราจะสูญเสีย บุคลากรการแพทย์ อีกไม่ได้แล้ว หนุนให้วัคซีนไฟเซอร์ เข็ม 3 เผย หลายโรงพยาบาล วิกฤตจนต้องปิดหน่วยบริการ ด้านชาวโซเชียลออกโรงหนุน

พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Ittaporn Kanacharoen ระบุว่า ขอสนับสนุนให้วัคซีนเข็ม 3 กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า

ตามที่มีการประชุมเรื่องการพิจารณาให้วัคซีนไฟเซอร์ ที่จะได้รับ 1.5 ล้านโดส ในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนี้ ในกลุ่มบุคคลใดบ้าง #โดยมีผู้เสนอให้บุคลากรทางการแพทย์ด้านหน้า ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มไปแล้วควรได้รับเพิ่ม ในการประชุมคณะกรรมการด้านวิชาการวัคซีน กรมควบคุมโรค ที่ผ่านมานั้น

ด้วยบุคลากรทางการแพทย์ ในด่านหน้าเสมือนเป็นทหารอาสาสู้ศึก Covid-19 ที่ต้องเสียสละตนเอง โดยมีโอกาสได้รับเชื้อจากผู้ป่วยตลอดเวลา ย่อมถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่สุด กว่ากลุ่มใด ๆ

ในการออกรบจำเป็นต้องได้รับ "เกราะป้องกันที่ดีที่สุด" เพื่อให้เขาสามารถ "อยู่รอด" ปฏิบัติงานคุ้มครองผู้ป่วยได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่เชื้อระบาดอย่างรุนแรงวิกฤต จนจำนวนบุคลากร ไม่เพียงพอ อยู่แล้ว

การติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ คนหนึ่งไม่เพียงทำให้เขาหยุดงาน แต่กลายเป็นภาระของผู้ร่วมงานที่ต้องปฏิบัติงานแทน ขึ้นเวรแทน ทำงานมากขึ้น

ในขณะที่หลายแห่งเพิ่มเตียงในตึกคนไข้ เพิ่มหน้าที่ไปดูแลโรงพยาบาลสนาม และเพิ่มไปออกหน่วยฉีดวัคซีน ตามที่ทุกท่านทราบดี ซึ่งทุกคนต่างเหน็ดเหนื่อยเต็มกำลังและล้ามากแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ในหลายโรงพยาบาล วิกฤตจนต้องปิดหน่วยบริการ ปิด opd ปิดตึกผู้ป่วย ปิดห้องผ่าตัด ปิดห้องฉุกเฉิน กระทบต่อผู้ป่วยโดยตรง ทั้งที่ป่วยเป็น covid และไม่ใช่ covid ไม่สามารถเข้ารักษาพยาบาลได้ ส่วนหนึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างน่าเสียดาย

ในสภาวะปัจจุบันที่ผู้ป่วยจำนวนมากยังรอการรักษาพยาบาล รอเตียงที่บ้าน จนภาครัฐต้องขยายโรงพยาบาลสนาม และเตียงใน รพ.เพิ่มเติม ไม่หยุดหย่อน ซึ่งต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์เพิ่มขึ้นทั้งสิ้น

ในสงครามครั้งนี้ เราจะสูญเสียบุคลากรทางการแพทย์อีกไม่ได้แล้ว ขอให้ผู้เกี่ยวข้องโปรดพิจารณาเพิ่มเกราะอย่างดี ให้กับนักรบเสื้อขาว โดยสนับสนุนให้จัดวัคซีนไฟเซอร์ ตามที่ประชุมส่วนหนึ่งให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เพื่อให้เขาไปดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ด้วยครับ โปรดอย่าค้านเลยครับ

และขอเพิ่มวัคซีนคุณภาพสูง ที่จะปกป้องพวกเขาทุกคน จากเชื้อที่กลายพันธุ์ ที่จะระบาดในระยะต่อไป โดยเฉพาะกลุ่ม mRNA ให้กับบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มเติมอย่างด่วนด้วยครับ

เพราะบุคลากรทุกคนคือกำลังสำคัญในการ ต่อสู้กับ Covid-19 ครั้งนี้ หากไม่มีกำลังพวกเขา ชีวิตของประชาชนจะเข้าสู่ความเสี่ยงอันตรายอย่างหนัก ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตจากสงครามโควิด ที่มีการสูญเสียชีวิตทุกวัน

ขณะเดียวกัน ในโลกโซเซียล มีการรณรงค์แฮชแท็ก #ฉีดPfizerให้บุคลากรการแพทย์ ตั้งแต่เมื่อค่ำคืนของวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งตอนเช้า แท็กนี้ก็ยังคงติดอยู่ในเทรนด์ทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดก็ต้องการให้รัฐช่วยดูแลบุคลากรที่ทำงานหนักในด่านหน้า รวมถึงมีการให้มีการนำเข้าวัคซีนด่วน


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ผู้ว่าสมุทรสาครเดือด! ขู่พิจารณาปิดรพ.เอกชน หลังทิ้งตัว ไม่ตรวจโควิดอ้างเตียงเต็ม พร้อมโยนให้รพ.สมุทรสาคร รับแห่งเดียว

5 ก.ค. 64 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าสมุทรสาคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หากยังทิ้งตัวต่อไป หากรพ.เอกชนยังยืนยันไม่รับตรวจ อ้างว่าเตียงเต็ม ผมคงต้องเสนอกรรมการระดับจังหวัด พิจารณา ปิด ต่อไป

ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ แม่เอ๋ นักทรัพยากรบุคคล โรงพยาบาลสมุทรสาคร ที่โพสต์ข้อความว่าสภาวะที่เอกชนทิ้งตัว รพ.อื่น ๆ ทิ้งตัว คนไข้ไปตรวจตามสิทธิ์ที่ตัวเองมีไม่ได้

คืออะไรที่ รพ.สมุทรสาคร ต้องมารับอะไรแบบนี้ ด้านหน้า ARI ยาวเหยียด ด้านหลังต้นโพธิ์ก็เพียบ เราต้องรับชะตากรรมที่รพ.อื่น ๆ ไม่รับคนไข้ตามสิทธิ์ตัวเองแบบนั้นหรา แต่เวลาคุณเลือกประกันสังคมคุณเลือกเอกชน คุณบอกเราบริการไม่ดี

คนที่มีความอยากตรวจ เสี่ยงปลาย ๆ หรือไม่มีอาการ คนที่ว่าคนในหมู่บ้านเป็น ถ้าทำได้สังเกตอาการไว้ อย่าเอาตัวเองไปแกล้งว่าเสี่ยงเลยคะ เพราะไม่รับรองว่าการไปยืนใกล้ ๆ กับคนที่เขาเสี่ยงจริง ๆ หรือคนมีอาการ มันไม่มีอะไรจะการันตีว่าคุณจะปลอดภัย

...แต่สงสัยทำไมหรา เตียงหายาก เตียงเต็ม รพ.อื่น ๆ เลยไม่รับตรวจ #นี่คือเหตุผลที่ใครหลายคนบอก แต่เราเป็น รพ.รัฐ และเป็นรพ.ศูนย์ที่อยู่ใจกลาง ติดเขตทุกที่ กทม. นครปฐม แม่กลอง ทำให้ต้องรับมือกันสารพัด ซึ่งไม่มีข้ออ้างว่าเราจะไม่รับคุณ ให้กลับไปตามสิทธิ์ ก็มีข้อร้องเรียน ข้อสงสัย คำจิก คำด่า ที่ไม่รู้ว่าใครจะมาเข้าใจเรา พี่ ๆ หรือเด็ก ๆ ที่ทำหน้าที่ต้องนี้ทุกคนคงเหนื่อยคงล้าเกินจะเยียวยาทั้งกายใจ ใครจะสงสารพวกเค้ามั้ง

เรารับภาระ ทั้ง รพ.สนาม ทั้งจุดตรวจคัดกรอง ทั้งจุดวัคซีน มีตรงไหนที่ไม่เสี่ยงบ้าง ตอนนี้คนไม่พอแต่ละจุด ต้องขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่สายสนับสนุนแบ็คออฟฟิศมาช่วยหนุนหลัง

#เมื่อไหร่มันจะจบ #อยากสื่อให้ผู้รับบริการเข้าใจ #ใจเย็นๆ #ใจเขาใจเรา #โควิดมันร้าย

#ขออนุญาตินำภาพจากเพื่อนๆในเฟสมาประกอบนะคะ cr. รูปภาพ

 

 

ที่มา : https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=3063593460630875&id=2321609178162644

https://www.facebook.com/photo?fbid=10219613485877031&set=pcb.10219613478596849

https://www.thaipost.net/main/detail/108629


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

จังหวัดแม่ฮ่องสอน จ่อเดินหน้าเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่กรีนซีซันนี้ หลังปลอดโควิด-19 ในพื้นที่มานานกว่า 45 วัน วางแผนดันเส้นทางเที่ยวเชื่อมโยงทั้งโซนเหนือถึงโซนใต้ ชูแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ขณะที่ชาวบ้านรุมค้านกระหึ่มโซเชียลฯ

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ร่วมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยว หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และททท.สำนักงานแม่ฮ่องสอน ออกสำรวจความเป็นไปได้และความพร้อมเพื่อจะเปิดการท่องเที่ยวของแม่ฮ่องสอนอีกครั้ง หลังจากปลอดจากโควิด-19 มาแล้วเกินกว่า 45 วัน

เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็นรายได้หลักที่สำคัญของจังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาหลายระลอก

มุ่งเน้นการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงต่อเนื่องทั้ง 7 อำเภอ เริ่มตั้งแต่ช่วงหน้าฝน ที่จะชูการท่องเที่ยวในเทศกาล Green Season ให้สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอนประสานความร่วมมือไปยังพื้นที่ทั้งโซนเหนือที่อำเภอปายและโซนใต้ที่อำเภอแม่สะเรียง ให้เตรียมความพร้อมทั้งด้านที่พักและแหล่งท่องเที่ยวให้พร้อมรับกับการท่องเที่ยว

โดยเฉพาะการเปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่น่าสนใจนอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดีอยู่แล้ว รวมถึงการท่องเที่ยวและการค้าชายแดนที่บ้านแม่สามแลบ อำเภอสบเมย ที่เกิดเหตุความไม่สงบก่อนหน้านี้ และมีผู้คนรู้จักกันมากขึ้น ซึ่งในขณะนี้สถานการณ์กลับมาอยู่ในความสงบ ที่ตั้งของหมู่บ้านก็สวยงาม ทัศนียภาพริมแม่น้ำสาละวินจะเป็นจุดขายที่สำคัญที่หลายคนอยากเดินทางไปเที่ยวชม

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายต้องมีแผนในการเปิดการท่องเที่ยวอย่างรัดกุมที่สุด ออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 สอดคล้องกับข้อกำหนดและคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่ออกประกาศตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฉบับที่ 25 ซึ่งได้พิจารณาในทุกมิติอย่างรอบคอบและมีความพร้อมในทุก ๆ ส่วน รวมถึงได้รับความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ทำให้จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปลอดจากการพบผู้ติดเชื้อมาเป็นระยะเวลา 45 วัน

“เชื่อมั่นว่าแม่ฮ่องสอนจะสามารถเปิดเมืองเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะหลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนหรือกรีนซีซั่น ภายใต้เงื่อนไขหลักคือการปฏิบัติตามมาตรการของจังหวัด”

และเพื่อเป็นการคัดกรอง-สกัดโรคระบาด ก็จะจัดตั้ง 4 จุดคัดกรองนักท่องเที่ยว และพี่น้องประชาชนต่างถิ่นก่อนเข้าพื้นที่ ประกอบไปด้วย จุดตรวจด่านแม่ปิง อำเภอปาย จุดตรวจด่านแม่อูคอ อำเภอขุนยวม จุดตรวจหน้าถ้ำ อำเภอแม่สะเรียง และจุดตรวจแม่สวด อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่ง 4 จุดนี้จะเป็นด่านแรกที่เจ้าหน้าที่คัดกรองผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยให้ลงทะเบียนข้อมูลการเดินทางรวมถึงการสแกน QR Code สวัสดีแม่ฮ่องสอน

ส่วนกรณีผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัดนั้น ให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขของจังหวัดแม่ฮ่องสอนยังไม่ถึงขั้นต้องมีมาตรการกักตัว 14 วัน ให้สังเกตอาการในที่พักของตนเองตามจำนวนวันที่อยู่ในจังหวัด โดยทุกภาคส่วนทุกฝ่ายจะร่วมกัน ในการติดตามเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ หากการปฏิบัติถูกต้องตามมาตรการ และมีศักยภาพจะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนชาวแม่ฮ่องสอน นักท่องเที่ยวจะส่งผลให้กำกับควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้

อย่างไรก็ตาม หลังมีกระแสข่าวแม่ฮ่องสอนเตรียมเปิดการท่องเที่ยวแพร่สะพัดออกไป ก็มีการแสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดียกันอย่างกว้างขวาง ส่วนมากยังไม่เห็นด้วยที่จะเปิดการท่องเที่ยวและให้ผู้คนเดินทางมาจากจังหวัดต่าง ๆ เข้ามาในพื้นที่ในขณะนี้ เพราะยังไม่มั่นใจกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้จะปลอดจากผู้ป่วยมาหลายวันแล้วก็ตาม ต่างให้ความเห็นตรงกันว่าเป็นเพราะความโชคดีของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่มีพื้นที่อยู่ห่างไกล ไม่เป็นเส้นทางผ่านเข้าออกของผู้คนมากนัก จึงอยากให้จังหวัดพิจารณาถึงผลกระทบให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจ

 

 

ที่มา : https://mgronline.com/local/detail/9640000064923


โปรเด็ด! ถึง 15 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top