Tuesday, 1 July 2025
NEWS FEED

"นุช-นนท์" เจ้าของร้านทุเรียน "ตลาดสี่มุมเมือง" ใจบุญ มอบข้าว 150 กล่อง ให้ "รพ.สนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรเพื่อคนพิการ"

วันที่ 16 กรกฎาคม 2564 น.ส.ชาลินี ลอยนุ้ย เจ้าของร้านทุเรียน "นุช-นนท์" ตลาดสี่มุมเมือง ประสานงานสะพานบุญ นายชีวานนท์ พรรัตน์ธนิกกุล นายกสมาคมสหพันธ์แรงงานคนพิการไทย และตำแหน่งคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการด้านแรงงาน พร้อมด้วย "นายโกสินธ์ จินาอ่อน" บรรณาธิการหนังสือพิมพ์สยามโฟกัสไทม์  ให้นำข้าวจำนวน 150 กล่อง เพื่อนำไปมอบให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนรวมถึงคนพิการ ครอบครัวคนพิการที่ได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรเพื่อคนพิการ ตั้งอยู่ภายในรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(ศูนย์รังสิต) เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน รวมถึงผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อไวรัสโควิช- 19 ได้รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพและร่างกาย เป็นการตอบแทนน้ำใจและความเสียสละแรงกาย แรงใจ เวลาอันมีค่ามาดูแลรักษาพี่น้องประชาชนคนไทย คนพิการ คนยากไร้และคนด้อยโอกาส ให้รอดปลอดภัยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปด้วยกัน

ในการนี้ผู้แทนจาก "กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ" เป็นผู้รับมอบ ข้าวกล่องจำนวนดังกล่าว และขอขอบคุณในน้ำใจไมตรีจิตที่ดีที่มอบให้เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ พร้อมทั้งจะปฏิบัติหน้าที่รับใช้พี่น้องประชาชนคนไทยอย่างเต็มกำลังให้สุดความสามารถ

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2564  ที่ผ่านมา น.ส.ชาลินี ลอยนุ้ย เจ้าของร้านทุเรียน นุช-นนท์ ตลาดสี่มุมเมือง ได้มอบข้าวกล่องจำนวน 500 กล่องให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองลาดสวาย เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าอาหารให้กับประชาชนได้บ้างซึ่งตนไม่ทำก็รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือประชาชนคนไทยด้วยกัน

'THG' ยืนยันซื้อวัคซีนจริง หมอบุญลั่น กลต.สั่งไม่ให้พูดเรื่องดีลไฟเซอร์

ความคืบหน้ากรณี นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ออกมาเคลื่อนไหวอ้างถึงการเปิดเจรจาซื้อขายวัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 20 ล้านโดสของเครือโรงพยาบาลธนบุรี โดยล่าสุดระบุถึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบร่างสัญญาที่ทางอเมริกาส่งมาให้มากกว่า 40 หน้า และคาดว่าจะมีการลงนามภายในวันนี้ ซึ่งล็อตแรกจะสั่งซื้อก่อน 5 ล้านโดส แต่ปรากฏว่าทางไฟเซอร์กลับยืนยันกับรอยเตอร์ว่ายังไม่มีการเจรจาใด ๆ เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้หุ้นในเครือดังกล่าวพุ่งขึ้น

ล่าสุดวันนี้ (16 ก.ค. 64) บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ทำหนังสือชี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง ชี้แจงการนำเข้าวัคซีนเทคโนโลยี mRNA ว่า ตามที่นักลงทุนจำนวนมากได้ให้ความสำคัญกับข่าวการเจรจานำเข้าวัคซีนโควิด-19 เทคโนโลยี mRNA ของ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ 'THG' โดยมีข่าวที่อาจก่อให้เกิดความสับสนเนื่องจากมีการสอบถามไป ยังบริษัทผู้ผลิตวัดชีนนั้น

ทั้งนี้ THG ได้มีการตกลงซื้อวัคซีนจริง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการคำเนินการด้านเอกสารกับตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ ในส่วนของระยะเวลาหากมีชัดเจนแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งเนื่องจากยังต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

THG มุ่งหวังให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตินี้ไป โดยเร็วที่สุด โดย THG ได้ทุ่มเทกับการป้องกันและรักษาชีวิตของประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ

ขณะเดียวกันมีข่าวว่า นพ.บุญ ได้ออกมาระบุว่า ตนไม่สามารถตอบอะไรได้ เพราะว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ได้สั่งห้ามไม่ให้พูดอะไร เพราะว่าจะส่อไปในทางปั่นหุ้น ซึ่งความคืบหน้าต่าง ๆ ขอให้สอบถามกับทีมทนายตัวแทนในการเจรจา


ที่มา : https://www.naewna.com/business/588061


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อบจ.ฉะเชิงเทรา โชว์ความพร้อมของ ‘โรงพยาบาลสนามใต้ร่มพระบารมี จังหวัดฉะเชิงเทรา’ รองรับผู้ป่วยโควิด 1,200 เตียง หวังปกป้องชาวแปดริ้วจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ลดการติดเชื้อในครอบครัว และลดการแพร่ระบาดต่อในชุมชน

วันที่ 16 ก.ค. นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ. ฉะเชิงเทรา พร้อมทีมผู้บริหาร และนายธรรมชาติ พรมพิทักษ์ ประธานสภาฯ ลงพื้นที่ พร้อมกับสื่อมวลชน โชว์ความพร้อมของการปรับปรุงสถานที่ท่าเทียบเรืออำเภอบ้านโพธิ์ เป็นโรงพยาบาลสนามใต้ร่มพระบารมีจังหวัดฉะเชิงเทราดำเนินการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อรอการส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารักษาในโรงพยาบาล หรือ Community Isolation ใหญ่ที่สุดของ จ.ฉะเชิงเทรา

มีพื้นที่ขนาด 12,000 ตรม. มีความสะดวกในการเดินทางเข้า-ออก โดยปรับปรุงสถานที่ให้มีองค์ประกอบครบถ้วน มีการแบ่งพื้นที่ เป็นห้องสำหรับทีมแพทย์พยาบาล แบบมาตรฐานอย่างพร้อมสมบูรณ์ทุกด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสุขอนามัย จุดคัดกรองผู้ป่วย จุดบริการอาหารและน้ำดื่ม ติดตั้งเตียงจัดวางที่นอนแยกโซนชาย-หญิง ติดตั้งระบบไฟฟ้า  ระบบรักษาความปลอดภัย CCTV ระบบอินเทอร์เน็ต มีระบบการระบายอากาศขนาดใหญ่ 12 ตัว พัดลมไอน้ำขนาดใหญ่ 3 ตัว พร้อมตู้คอนเทนเนอร์สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 8 ตู้ ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบกำจัดขยะทั่วไปและขยะติดเชื้อ ณ อาคารโกดังสินค้า ของบริษัท บีอาร์บีพี โลจิสติกส์ จำกัด หมู่ 6 ต.สนามจันทร์ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา

นายกิตติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละวัน ทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รอเตียงในโรงพยาบาทำให้มีผู้ป่วยตกค้างอยู่บางส่วน เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดในครอบครัว และในชุมชนเพิ่มมากขึ้น ทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา จึงได้จัดสรรงบประมาณ 12 ล้านบาท ดำเนินการ รพ.สนาม  เพื่อส่งต่อ หรือ Community Isolation เพื่อรองรับผู้ป่วย ที่มีผลตรวจรับรองว่าติดเชื้อโควิด-19 โดยแยกผู้ป่วยออกมาจากบ้าน นำมา คัดกรองอาการและดูแลในเบื้องต้น เพื่อรอการส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาล

นายกิตติ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญในช่วงสถานการณ์วิกฤติโควิดเช่นนี้ ตนต้องดูแลพี่น้องชาวแปดริ้ว ในการป้องกันควบคุม ระงับโรคติดต่อโควิด-19 และดูแลสุขภาพของทุกคนให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการจัดหา จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ เจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย แจกจ่ายผ่านไปทางสาธารณสุขจังหวัด เทศบาล อบต. และ อสม. การจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์ม 100,000 โดส ที่คาดว่าจะได้รับการส่งมอบในเร็ววันนี้ รวมถึง ปรับปรุงสถานที่ท่าเทียบเรืออำเภอบ้านโพธิ์เป็นโรงพยาบาลสนามใต้ร่มพระบารมีจังหวัดฉะเชิงเทราดำเนินการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่มีมาตรฐานแห่งนี้ ซึ่งตนจะทำทุกวิถีทาง ตามกฎระเบียบที่สามารถทำได้ แม้จะทุ่มเทงบประมาณจนหมดหน้าตักตนก็ยอม เพื่อให้พี่น้องชาวแปดริ้วรอดจากโควิด-19 ขอให้มั่นใจและขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างเต็มกำลังทุกท่าน

รมว.คมนาคม เผย ล่าสุดได้พัฒนาระบบ M-Flow บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 เพื่อแก้ปัญหารถติดหน้าด่าน และเปิดให้ผู้ใช้บริการลงทะเบียนกลางเดือนสิงหาคมนี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้ประชุมติดตามและเร่งรัดการพัฒนาและการเปิดให้บริการ ระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ของกรมทางหลวง และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ล่าสุดได้พัฒนาระบบ M-Flow บนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 เพื่อแก้ไขปัญหารถติดหน้าด่าน โดยผู้ใช้รถยนต์สามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านฯ ที่จะติดตั้งโครงเสาแขวนสูงเหนือศีรษะ พร้อมอุปกรณ์ระบบตรวจจับยานพาหนะอัตโนมัติ ระบบอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ โดยไม่ต้องหยุด หรือชะลอรถ

ทั้งนี้ได้เริ่มการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้ว 4 ด่าน คือ ด่านทับช้าง 1, 2และด่านธัญบุรี 1, 2 พร้อมกับเชื่อมต่อข้อมูลกับทะเบียนรถยนต์ของกรมการขนส่งทางบก (และทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครองเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างปรับปรุงกายภาพบริเวณช่องทาง และการเชื่อมต่อระบบเข้ากับสำนักงาน

นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังจะประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับระบบ M-Flow โดยจะทดสอบระบบลงทะเบียนการใช้บริการระบบ M-Flow ระหว่างวันที่ 24-30 ก.ค. 64 จากนั้นจะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้บริการลงทะเบียนในช่วงกลางเดือนส.ค. 64 ก่อนดำเนินการทดสอบเสมือนจริงในเดือนก.ย. 64 คาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือนต.ค. 64

สำหรับแผนการพัฒนาระบบ M-Flow ของ กทพ. ประกอบด้วย ระยะที่ 1 บริเวณทางพิเศษฉลองรัช 3 ด่าน (จตุโชติ, สุขาภิบาล 5-1 และสุขาภิบาล 5-2) นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการคัดเลือกผู้รับจ้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในต้นปี 65 ส่วนระยะที่ 2 บริเวณทางพิเศษฉลองรัช บูรพาวิถี และกาญจนาภิเษก 60 ด่าน อยู่ระหว่างการจัดทำทีโออาร์ คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในต้นปี 66


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

รวมเหล่าคนดัง ติดโควิด-19 แล้วกลายเป็นประเด็นดราม่า

เมื่อวาน ดาราสาว แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ เพิ่งประกาศในอินสตราแกรมส่วนตัวว่า ติดโควิด-19 งานนี้กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึง เพราะเจ้าตัว ‘แคล้วคลาด’ การติดโควิด-19 มาหลายครั้งหลายครา โดยเฉพาะหนล่าสุด ที่มีประเด็นดราม่า ชาวเน็ตจับผิดหาว่าเธอ #กักตัวทิพย์

ถึงตอนนี้ มีเหล่าดาราคนดัง ที่ต้องโชคร้ายติดโควิด-19 กันไปแล้วหลายราย แถมบางรายยังมีประเด็นดราม่าให้ต้องเคลียร์กันเสียอีก THE STATES TIMES ไปรวบรวมกรณีคนดังติดโควิด-19 แล้วต้องรบรากับคดีดราม่า ไล่เรียงกันมาตั้งแต่ต้นปี มีใครกันบ้าง ลองไปดูกัน!


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

'ผศ.ดร.วรัชญ์' เผยมีแค่ 5 หน่วยงานเท่านั้นที่สั่งซื้อวัคซีนได้ ถาม ใครเบอร์ใหญ่กว่าหน่วยงานรัฐ

ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนาคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) NIDA โพสต์เฟซบุ๊ก 'Warat Karuchit' ว่า...

หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจสั่งซื้อวัคซีนได้มี 5 แห่ง คือ

1.) กรมควบคุมโรค

2.) สถาบันวัคซีนแห่งชาติ

3.) องค์การเภสัชกรรม

4.) ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์

5.) สภากาชาดไทย

ถามว่าที่ไหน ผมก็ตอบได้เลยว่า...ไม่ทราบ ???? (เพราะเช็กกันมาสองสามวันแล้วยังไม่มีใครรู้เรื่องเลย 555)

แต่ 1-2 นั้น เป็นหน่วยงานหลักที่ดีลไฟเซอร์ของรัฐอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะได้ดีลอื่นที่เร็วกว่า

3 หมอบุญเองก็โจมตีเช้าเย็นว่าล่าช้า

ส่วน 4 หมอบุญออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่เพราะมีงานเยอะ จึงต้องไปหาหน่วยงานรัฐที่ "ใหญ่กว่า"

จึงเหลือ 5 ซึ่งหมอบุญเองก็บอกว่าไม่ใช่ เคยไปติดต่อแล้ว แต่บอกว่าเป็น non-profit

ก็เลยงงๆ ครับว่า เบอร์ไหนจะเปิดตัวออกมาเป็นหน่วยงานปริศนา

ตกลงจากวันที่ 16 ก.ค. 64 เซ็นสัญญา เปลี่ยนไปเป็น "ภายใน 2 วัน" แล้วนะครับ ("ถ้าทุกอย่างลงตัว" ด้วยนะครับ ถ้ายังไม่ลงตัวก็...รอจนกว่าจะลงตัว?)

แล้วจากที่บอกว่า "มาแน่เดือนนี้" เป็น "อย่างเร็วปลายเดือนนี้"...แล้วอย่างช้าละครับ?

#ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย

ขอบคุณโพสต์ของคุณเอกรัฐด้วยนะครับ

https://www.facebook.com/EakaratTkn/posts/3994353167357219


ที่มา: https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=4773642245984710&id=100000169455098


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

มิสเตอร์ผ้าไหม-โคราช โต้กลับกรณี ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ อ้าง ‘กรมหม่อนไหม’ มีงบประมาณ 560 ล้าน และตั้งคำถามทำไมต้องให้งบประมาณมากขนาดนี้ ลั่นหม่อนไหม คือ โอกาสของประเทศ ไม่ใช่ภาระของชาติ

จากกรณี ดราม่าวงการผ้าไหมไฟลุก หลังนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อ้าง ‘กรมหม่อนไหม’ มีงบประมาณ 560 ล้าน และตั้งคำถามทำไมต้องให้งบประมาณมากขนาดนี้ พร้อมระบุว่า ‘คนทำงานตัวจริงโต้กลับ งบถูกตัดทุกปี คนทำงานกัดฟันดูแลเกษตรกร’ ชี้ อาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ไม่ใช่ได้แค่ผ้าไหม แต่ยังมีทั้งอาหาร ยารักษาโรค เครื่องสำอาง แถมช่วยชีวิตคนในห้องผ่าตัดยื้อจากความตาย ตามที่เคยนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

วันนี้ (15 ก.ค.) เพจ ‘ศักดา แสงกันหา มิสเตอร์ผ้าไหม-โคราช’ หรือนายศักดา แสงกันหา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มะลิกู๊ด จำกัด ทายาทวัย 30 ปี ของ ‘วันเพ็ญ แสงกันหา’ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่บ้านเกษตรกรคึมมะอุ-สวนหม่อน จ.นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ตอบโต้ถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุข้อความว่า ‘กรมหม่อนไหม คือ ‘โอกาส’ มิใช่ภาระของชาติ อย่างที่เขาถากถาง จากกรณีมีคนตั้งถามทำร้ายหัวใจพวกเราชาวอีสาน ชาวเหนือผู้ปลูกหม่อน เลี้ยงไหม และได้รับโอกาสในการทำงานร่วมกับ ‘กรมหม่อนไหม’ มายาวนานนับชั่วคน กับคำถามที่ว่าทำไมต้องมีกรมหม่อนไหม ไปส่งเสริมปศุสัตว์ประมง ดีกว่ามั้ย คำถามคำนี้ใจร้ายมาก เปี่ยมไปด้วยอคติ ความตื้นเขินทางความคิด และขาดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อ วิถีชีวิตของคนไทยโดยเฉพาะพี่น้องของผมที่ภาคอีสาน และภาคเหนือ ผม ‘ศักดา แสงกันหา’ ผมโตมากับต้นหม่อนและตัวไหม ผมกับแม่ เราเป็นเกษตรกร เราปลูกหม่อน เลี้ยงตัวไหม ทอผ้าขาย นี่คือชีวิตของเรา นี่คือวิถีชีวิตของครอบครัวอีกหลายครอบครัว และนี่คือคำดูถูกที่พวกเรา รับไม่ได้!

ผ้าไหมกับวิถีชาวบ้าน ผมเกิดและเติบโตมาในภาคอีสาน ตั้งแต่เล็กจนโตเห็นการใช้ผ้าไหมในวิถีชีวิตต่าง ๆ โดยในสมัยก่อนผ้าไหมไม่ได้เป็นสินค้าในการจำหน่ายซะทีเดียว แต่การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมจะเป็นอาชีพเสริมที่ผู้หญิง จะต้องทำผ้าไหม หรือผ้าฝ้าย เพื่อใช้ในพิธีการต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน ใช้เป็นเครื่องไหว้ต้อนรับผู้ใหญ่ของอีกฝ่าย และตัดชุดซึ่งคิดว่าเป็นชุดที่สวยที่สุดในวันสำคัญของชีวิต ต่อมาหากมีลูกเป็นผู้ชาย ก็จะนำผ้าไหม ให้ลูกใช้ใส่เป็นนาคก่อนบวช หรือ นำไปตัดเป็นผ้าไตรให้ลูกสำหรับใช้บวช นอกจากสองพิธีที่กล่าวมาข้างต้น ในงานมงคลต่าง ๆ ทางศาสนา ก็จะมีผ้าไหมเป็นองค์ประกอบอยู่เสมอ ๆ เพื่อสื่อว่า ‘ผ้าไหมคือผ้าที่ดีที่สุด มงคลที่สุด’ และเมื่อถึงวาระสุดท้าย คุณค่าอันสูงสุดของวิถีชีวิตของพวกเรา ผ้าไหมใช้ห่ออัฐิของบิดามารดาเพื่อเก็บไว้ประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ผ้าไหมกับการสร้างรายได้และอาชีพ การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในปัจจุบัน ในหมู่บ้านของผมนั้น ผ้าไหมแทบจะกลายเป็นรายได้หลักในยามที่มีวิกฤต โรคระบาดเช่นนี้ การปลูกหม่อนเลี้ยงไหมสามารถสร้างรายได้ได้ตั้งแต่ ใบหม่อน ราคารับซื้อในปัจจุบันตอนนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 10-30 บาท โดย 1 ไร่สามารถผลิตใบหม่อนได้เกือบ 5,000 กิโลกรัมในตลอดทั้งปี ต่อมาคือการเลี้ยงไหม

ชาวบ้านเริ่มด้วยการ ซื้อไข่ไหมราคาเป็นธรรมจากกรมหม่อนไหมมาในราคา 15-20 บาท หรือบางครั้งมีการแจกให้ฟรี ไข่ไหมหนึ่งแผ่น (ขนาดเท่ากระดาษเอสี่) สามารถเลี้ยงและสาวเป็นเส้นไหมได้ 4-6 กิโลกรัม เส้นไหมราคาปัจจุบันอยู่ที่ กิโลกรัมละ 1,400-1,600 บาท นอกจากเส้นไหมที่ขายได้แล้วดักแด้ ซึ่งเป็นของเสียจากกระบวนการผลิตเส้นไหมยังสามารถนำมาประกอบเป็นอาหารได้ สามารถขายได้ในราคากิโลกรัมละ 80-120 บาท ไข่ไหม 1 แผ่น จะสามารถได้ดักแด้ประมาณ 10-20 กิโลกรัม หลังจากเราได้เส้นไหมมาแล้วเราจะนำเส้นไหมไปผ่านกระบวนการต่าง ๆ เช่น การฟอกกาวไหม ย้อมไหม มัดหมี่ และสุดท้ายทอออกมาเป็นผ้าไหม ซึ่งสามารถขายได้ ตั้งแต่ราคาเมตรละ 400 บาทจนถึงราคาเมตรละหลายหมื่นบาทไปจนถึงเมตรละเป็นแสนก็มี

ภูมิปัญหาท้องถิ่น คือโอกาสที่ต้องส่งเสริม เทคนิคที่พูดถึงนั้น ก็หมายถึงภูมิปัญญาของชาวบ้านที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ที่เป็นสิ่งล้ำค่า สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมทอผ้า แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากขาดพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของพระราชินีในรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ท่านได้นำภูมิปัญญาการทอผ้าไหมของไทยไปตัดเป็นชุดฉลองพระองค์และเผยแพร่ให้กับคนทั่วโลกได้รับรู้ถึงความงามของผ้าไหมไทยและภูมิปัญญาในการทอผ้าของไทย การทำงานร่วมกับ กรมหม่อนไหม ‘กรมหม่อนไหม’ ได้มีส่วนสำคัญในการเข้ามาพัฒนาสายพันธุ์ของไหมไทย เพื่อให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงไหมให้ได้ผลผลิตที่มากขึ้น และยังสนับสนุนส่งเสริมด้านต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้มีคุณภาพและมาตฐานให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมไปถึงการประสานงานช่วยหาตลาดร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ อีกด้วย

หม่อนไหม คือ โอกาสของประเทศผมเคยอ่านเจอวิสัยทัศน์หนึ่งของผู้บริหารประเทศเมื่อ 10 ปีก่อน ที่พูดถึง ‘เศรษฐกิจสร้างสรรค์’ ผมอยากจะบอกว่า นี่คือโอกาสของประเทศ ไหมไทย คือโอกาสของเกษตร ของคนไทย เราสร้างมูลค่าเพิ่มมากมายได้จากอุตสาหกรรมสิ่งทอ และโดยเฉพาะจากผ้าไหม

เทียบงบประมาณปีล่าสุด กรมหม่อนไหม ได้รับงบ 560 ล้านบาท เพื่อดูแลเรื่องนี้ทั้งระบบ แต่รายได้ของการขายผ้าไหม และผลิตภัณฑ์ต่างไหมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ยา หรือเครื่องนุ่งห่ม เราสร้างรายได้รวมเข้าประเทศได้หลักหมื่นล้าน ใครที่จะมาเป็นนักการเมือง หรือเป็นผู้บริหารประเทศไทยต่อไป ยิ่งต้องมองเป็น ‘โอกาส’ หาใช่การผลักไสวิถีชีวิตของพวกเราไปเป็นเรื่องตลก หรือมองเป็น ‘ภาระ’ และท่านจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากเสียงของพวกเราอีกเลย


ที่มา : https://mgronline.com/onlinesection/detail/9640000069183

https://www.facebook.com/112126377810669/posts/112220214467952/?d=n


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

พล.อ.ประวิตร  ประธานมอบหนังสืออนุญาต ใช้ที่ราชพัสดุ เพื่อประโยชน์ด้านสาธารณสุข-การศึกษา-สิ่งแวดล้อม-การท่องเที่ยว  มุ่งพัฒนาท้องถิ่น  ยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.  ลดผลกระทบจากโควิด-19 

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา10.00น.  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.ได้เป็นประธานในพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ราชพัสดุ เพื่อสนับสนุนภารกิจของส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมี นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.กค. และ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.กค. เข้าร่วมในพิธี  ณ  ห้องประชุมวายุภักษ์ 4  กระทรวงการคลัง

พล.อ.ประวิตร ได้เป็นประธาน และทำพิธีมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ราชพัสดุ แก่หัวหน้าหน่วยงาน ภายใต้มาตรการ ป้องกันโควิด-19  เพื่อสนับสนุนภารกิจของส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 71 รายการ รวมเนื้อที่ 561 ไร่เศษ โดยเป็นการสนับสนุนที่ดินให้กับหน่วยงานภาครัฐ ที่มีภารกิจ ด้านสาธารณสุข การศึกษา และการพัฒนาพื้นที่เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการท่องเที่ยวในระดับท้องถิ่น ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคม รวมถึงที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ โควิด-19 ด้วย

พล.อ.ประวิตร  ยังได้กล่าวขอบคุณ กระทรวงการคลัง และกรมธนารักษ์ ที่ได้ดำเนินการ ส่งเสริมสนับสนุนภารกิจของหน่วยงาน ผู้ขอใช้ที่ราชพัสดุ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ของ พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 ในการใช้ที่ราชพัสดุ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด พร้อมกำชับ ส่วนราชการและองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งขับเคลื่อนภารกิจให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว และบรรลุวัตถุประสงค์ ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ของพี่น้องประชาชน ต่อไป

“นิพนธ์” ร่วม “มหาดไทยปันสุข ส่งต่อความห่วงใย สู้ภัยโควิด-19” เติมของอุปโภค-บริโภคใส่ “ตู้ปันสุข” หน้ากระทรวง มท. ช่วยเหลือประชาชน พร้อมเชิญชวนผู้มีจิตกุศลร่วมบริจาคสิ่งของช่วยเพื่อนร่วมชาติยามวิกฤติ

ที่บริเวณหน้ากระทรวงมหาดไทย  นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย พร้อมข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ อส.ร่วมกิจกรรม “มหาดไทยปันสุข ส่งต่อความห่วงใย สู้ภัยโควิด-19”  เพื่อนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันมาเติมเต็มที่ตู้ปันสุข เป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้แก่ประชาชนโดยรอบกระทรวงมหาดไทยที่ได้รับผลกระทบเป็นการคลายความทุกข์ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน และประชาชนที่เดือดร้อน เชิญเข้ามาหยิบสิ่งของนำไปใช้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนกันได้ทุกวัน และสำหรับผู้มีจิตกุศลและต้องการแบ่งปันสามารถนำสิ่งของไปเติมได้ในตู้ปันสุขทุกแห่ง เพื่อเป็นการแบ่งปันและพร้อมที่จะก้าวผ่านช่วงระยะเวลายากลำบากไปด้วยกัน 

สำหรับกิจกรรม "มหาดไทยปันสุข ส่งต่อความห่วงใย สู้ภัยโควิด 19" กรมการปกครอง โดยกระทรวงมหาดไทย จัดขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมตามปรัชญากระทรวงมหาดไทยที่ว่า "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข"ให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบในสถานการณ์โควิด-19  โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ซึ่งมีประชาชน ผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะอย่างแท็กซี่  และวินมอเตอร์ไซค์ มารอรับสิ่งของอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ได้ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)ให้เป็นไปตามแนวทางมาตรการป้องกันโรค และปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A โดยเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด

จีนแผ่นดินใหญ่ เผยฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วมากกว่า 1.4 พันล้านโดส

Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก ระบุว่า วันที่ 13 กรกฎาคม จีนแผ่นดินใหญ่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้วทั้งหมด 1,402,019,000 โดส ซึ่งครอบคลุมครึ่งหนึ่งของประชากรในประเทศ โดยมีวัคซีนซิโนแวคและซิโนฟาร์มเป็นวัคซีนหลักในการฉีดให้แก่ประชาชนชาวจีน

ประสบการณ์ในการต่อสู้กับโควิด-19 ของจีนแสดงให้เห็นว่า วัคซีนจีนรวมถึงซิโนแวคมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่เมืองกว่างโจวและพื้นที่อื่น ๆ

จากผลการวิจัยสถานการณ์โควิด-19 ในเมืองกว่างโจวของนาย จงหนานซาน ผู้เชี่ยวชาญจีน แสดงให้เห็นว่า สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดที่ได้รับวัคซีนครบสองเข็มแล้ว วัคซีนมีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการเจ็บป่วย 60% มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคปอดอักเสบ 80% และไม่มีผู้ป่วยรายใดที่มีอาการรุนแรงหรือป่วยหนัก


ที่มา : https://www.facebook.com/846555798724560/posts/4202923013087805/


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top