ป.ป.ส. จับมือขนส่ง และหน่วยงานภาคีเปิดปฏิบัติการรณรงค์ลดการใช้ยาเสพติดในผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะในช่วงเทศกาลสงกรานต์กลับบ้านปลอดภัย ไร้ยาเสพติดและแอลกอฮอล์
วันที่ 8 เมษายน 2564 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบยาเสพติด มอบหมายให้ นายสุนทร ชื่นศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ปปส.กทม. เปิดปฏิบัติการป้องกันการใช้ยาเสพติดในผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ ประจำปี 2564 ภายใต้คำขวัญ "สงกรานต์กลับบ้านปลอดภัย ไร้ยาเสพติดและแอลกอฮอล์" โดยมีหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กองบัญชาการตำรวจนครบาล กรมการขนส่งทางบก บริษัทขนส่งจำกัด จำนวนกว่า 80 คน ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต) ทั้งนี้การดำเนินกิจกรรมอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-2019) ซึ่งเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุข
มติ ครม. เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 กำหนดให้มีวันหยุดยาวสงกรานต์ ประจำปี 2564 ระหว่างวันที่ 10 - 15 เมษายน 2564 รัฐบาล โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สนับสนุนให้ประชาชนท่องเที่ยวตามแบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) พร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับภูมิลำเนาให้ประชาชน และให้ความสำคัญเรื่องการลดความต้องการใช้ยาเสพติดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปตามนโยบาย สำนักงาน ป.ป.ส. กระทรวงยุติธรรม จึงได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายลดความต้องการใช้ยาเสพติดในกลุ่มผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ และประชาชนผู้ใช้บริการ
โดยรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ และความเข้าใจในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในการป้องกันตนเอง ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ายาเสพติด และไม่รับฝากของจากคนแปลกหน้า เพราะจะกลายเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัว พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-2019) และเป็นไปตามหลักสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
โดยรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ และความเข้าใจในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนในการป้องกันตนเอง ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ายาเสพติด และไม่รับฝากของจากคนแปลกหน้า เพราะจะกลายเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัว พร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันปฏิบัติตามมาตรการของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-2019) และเป็นไปตามหลักสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
