Sunday, 6 July 2025
NEWS FEED

‘พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์’ นายกสมาคมไทย - จีน เปิดที่ทำการสมาคมไทย – จีนแห่งใหม่!!

ที่ทำการสมาคมไทย-จีน แห่งใหม่ ณ โรงแรมแกรนด์ ไซน่า เลขที่ 215 ถนนเยาวราช สัมพันธวงศ์กรุงเทพมหานคร โดยมี หม่อมราชวงศ์จิราคม กิติยากร, นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ, พลเอก จำลอง บุญกระพือ, พลเอก สมศักดิ์ แสงจันทร์เลิศ, พลเอก สุรฤทธิ์ จันทราทิพย์, พลเอก สุรินทร์ พิกุลทอง, พลเอก กะสิณ ทองโกมล, พลตำรวจโท มงคล กมลบุตร, นายบูรภณ กลีบบัว, นายเดชาวุฒิ บุญสนอง, นายณพวุฒิ จุลไสย กรรมการผู้จัดการ Global pact logistics, นายยรรยง ปฐมศักดิ์ เจ้าของโรงแรม แกรนด์ ไชน่า, นายสมพจน์ ปิยะอุย, นายคฑาภณ สนธิจิตร นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชน (ประเทศไทย) ประธานเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตประพฤติมิชอบแห่งชาติ

นายธวัชชัย กิตติรัตนวิวัฒน์ นายกสมาคมสื่อมวลชนเพื่อสังคม ได้นำกระเช้าดอกไม้ พร้อมด้วยกระเช้าของขวัญ และวัตถุมงคลได้เข้าแสดงความยินดีกับพลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์  นายกสมาคมไทย-จีน เนื่องในโอกาสเปิดที่ทำการสมาคมไทย-จีน แห่งใหม่ ส่วนภายในงานสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนีหรือเจ้าพระคุณสมเด็จธงชัย (ธงชัย ธมมธโช) ได้มาทำพิธีสงฆ์ พร้อมทั้งเจิมป้ายสมาคมและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้กับผู้มาร่วมงาน เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ผู้เข้าร่วมงาน

 

‘ลุงตู่’ ห่วงใย! ส่ง ‘รมว.เฮ้ง’ ลงพื้นที่ปากช่อง นครราชสีมา ติดตามคุณภาพชีวิตผู้ประกันตนทุพพลภาพ

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ตรวจเยี่ยมติดตามคุณภาพชีวิตพร้อมให้กำลังใจผู้ประกันตนผู้ทุพพลภาพ จำนวน 2 ราย ในโครงการ สปส. “มอบสุข” โดยมี นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นางวันทนา ณัฐพูลวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม นางศิริหทัย แท่นแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์สารนิเทศ พร้อมด้วยนางนพรัตน์ จันธนะสมบัติ ประกันสังคมจังหวัดนครราชสีมา นางสาวปราณี อินทอง หัวหน้าสาขาปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา นางวาสนา รัตนเวชสิทธิ หัวหน้าสาขาโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา นางอาภรณ์ แว่วสอน ผู้อำนวยการศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 4 จังหวัดขอนแก่น ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมด้วย พร้อมนักกายภาพบำบัดจากศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาค 4 จังหวัดขอนแก่น ร่วมคณะลงพื้นที่แนะนำกายภาพบำบัด และการช่วยเหลือตนเองเบื้องต้นให้กับผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพ จำนวน 2 ราย ในครั้งนี้ด้วย   

    

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ ท่านพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของท่าน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยลูกจ้าง ผู้ประกันตนที่ประสบอันตรายหรือมีความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้น จนเป็นเหตุให้เป็นผู้ทุพพลภาพ รวมถึงให้ความสำคัญในการดูแลผู้ประกันตนอย่างใกล้ชิดในทุก ๆ ด้าน กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม พร้อมเข้าดูแลผู้ทุพพลภาพให้ได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วนถูกต้อง เข้าถึงความเดือดร้อน อย่างรวดเร็ว ทันท่วงที เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้มีความรู้สึกอบอุ่น มีความรู้สึกที่ดีต่อระบบประกันสังคม

อีกทั้งรับทราบปัญหาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามกฎหมายของผู้ทุพพลภาพ รวมทั้งติดตามอาการเจ็บป่วย เพื่อนำสู่การรักษา ฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ หลักประกันความมั่นคงในการดำรงชีวิต และคุณภาพชีวิตให้กับผู้ประกันตนที่ดีที่สุดในโอกาสนี้ ตนและคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ได้มีโอกาสลงพื้นที่ในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา พร้อมนำสิ่งของเครื่องอุปโภคและบริโภค ตลอดจนเครื่องใช้ต่าง ๆ มามอบให้กับผู้ประกันตนที่ทุพพลภาพ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ประกันตนซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดนครราชสีมา ในการนี้ ตนได้กำชับให้สำนักงานประกันสังคม ดำเนินการตามนโยบาย ที่พร้อมเข้าดูแล สิทธิประโยชน์ลูกจ้าง ผู้ประกันตน อย่างใกล้ชิด

ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการตามนโยบายของ นายสุชาติ ชมกลิ่ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้เดินทางไปยังบ้านพักของผู้ประกันตน จำนวน 2 ราย รายแรก นายพรเทพ รักคง อายุ 48 ปี เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 บ้านพักอยู่ในตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เช่นกัน เป็นผู้ทุพพลภาพจากหลอดเลือดสมองแตก เป็นเหตุให้แขนขาข้างขวาอ่อนแรง เดินต้องใช้ไม้เท้าพยุง ได้รับสิทธิเป็นผู้ทุพพลภาพ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2561 ปัจจุบันได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เดือนละ 2,400 บาทตลอดชีวิต ได้รับค่าพาหนะ รายเดือน 500 บาท และรับเงินบำเหน็จชราภาพพร้อมดอกผลไปแล้วเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2562 จำนวนเงิน 86,480 บาท

 

‘รมว.พิพัฒน์’ เปิด THAI FIGHT การแข่งขันชกมวยไทยโลก!! ณ เขาอ้อ พัทลุง

ที่สนามลานวัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประธานเปิดการแข่งขันชกมวยไทยโลก “THAI FIGHT” เขาอ้อ เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ THAI FIGHT ในปี 2020  ชิงถ้วยพระราชทานใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 3 ถ้วยพระราชทาน และถ้วยพระราชทานใน สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี จำนวน 1 ถ้วยพระราชทาน ให้แก่นักมวยผู้ชนะเลิศการแข่งขัน ถือเป็นสิริมงคลสูงยิ่ง

รมว.พิพัฒน์  กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขันในครั้งนี้เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดี และเทิดพระเกียรติในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ ถึงมาตรการความพร้อมรวมถึงระบบการดูแล และอำนวยความสะดวกต่อผู้ที่จะเข้ามาเยือนประเทศไทย เพื่อเป็นประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยว ซึ่งการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว และการกีฬาเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่ทางรัฐบาล  พลเอก  ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญยิ่ง

ดังนั้นการที่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้ามาร่วมให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันชกมวยไทยโลก “THAI FIGHT เขาอ้อ” ณ.จังหวัดพัทลุง เพื่อเป็นการส่งเสริม และร่วมพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬาอย่างสร้างสรรค์ รวมถึงผลักดันนวัตกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาสู่ความเป็นเลิศ 

การท่องเที่ยวเชิงกีฬา สามารถช่วยสร้างแรงกระตุ้นให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นรวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนได้เป็นอย่างดี ตามมาตรการการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 อย่างเคร่งครัด”

 

‘เลขาธิการ ศอ.บต.’ เป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี สร้างถนนทางขึ้นเจดีย์ และบูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถ ณ วัดเวฬุวัน (บ้านป่าไผ่) อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส

ที่ วัดเวฬุวัน (บ้านป่าไผ่) ตําบลกาหลง อําเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนในการสร้างถนนทางขึ้นเจดีย์และบูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถพร้อมทั้งทาสีอุโบสถที่ทรุดโทรมให้อยู่ในสภาพเดิม โดยมี  ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต.  หัวหน้าส่วนราชการ บุคลากร ศอ.บต. เจ้าหน้าที่ ทหาร ตำรวจ ตลอดจนมีพุทธศาสนิกชน ในพื้นที่ร่วมทำบุญอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 อย่างเคร่งครัด

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่หนึ่ง ของจังหวัดนราธิวาส เป็นชุมชนเล็กๆ แต่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพุทธศาสนาที่จะต้องจรรโลงอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง วันนี้เป็นวันดี  เป็นวันพระ เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนมาร่วมกันทำบุญ ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมสนับสนุนอย่างสุดความสามารถในการส่งเสริมพุทธศาสนาในพื้นที่ รวมทั้งทำนุบำรุงศาสนสถาน ตลอดจนดูแลพระภิกษุสงฆ์ ขอเป็นกำลังใจแก่พี่น้องชาวพุทธ ทุกคน ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงทุกหน่วยที่ได้ช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชนเสมอมา

‘แม่ทัพภาคที่ 4’ เป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี วัดนาทวี จังหวัดสงขลา เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรม - ส่งเสริมความรักความสามัคคีในพื้นที่

ที่ วัดนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนบูรณะซ่อมแซมถาวรวัตถุภายในวัด ที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ตลอดจนอนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ส่งเสริมความรักความสามัคคีของประชาชนในพื้นที่ โดยมีพลเอก มณี จันทร์ทิพย์ ที่ปรึกษา  ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 /ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ภาครัฐ เอกชน ตลอดจนพุทธศาสนิกชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธี ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 อย่างเคร่งครัด การทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ มียอดเงินจากผู้มีจิตศรัทธารวมทำบุญทั้งสิ้น จำนวน 770,000 บาท

พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า " สำหรับการทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ดี ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมา อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้ากองการดูแลพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเป็นพุทธ หรือมุสลิม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบทบาทหน้าที่อยู่แล้ว สำหรับกิจกรรมการทอดผ้าป่าสามัคคี ณ วัดนาทวี วันนี้ ก็จะได้นำยอดเงินจากผู้มีจิตศรัทธารวมทำบุญ ไปมอบให้กับวัดที่ไม่มีโอกาสได้ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า นำไปซ่อมแซม บูรณะ ถาวรวัตถุภายในวัด ซึ่งมีสภาพชำรุดทรุดโทรม ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้กิจกรรมดี ๆ แบบนี้เกิดขึ้นในพื้นที่"

 

อย. อนุมัติวัคซีนไฟเซอร์ ในกลุ่มเด็ก 5 - 11 ปี ปรับลดขนาดเหลือ 1 ใน 3 ของเด็ก 12 ปีขึ้นไป

20 ธ.ค. 64 นายแพทย์ไพศาล ลั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า วันนี้ (20 ธันวาคม 2564) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้อนุมัติการขยายขอบเขตข้อบ่งใช้ของวัคซีนโคเมอร์เนตี (COMIRNATY VACCINE) ของบริษัท ไฟเซอร์ จำกัด สำหรับกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย 

“บลูเทคซิตี้” ร่วมกับ “มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์” มอบชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kit (ATK) ให้สาธารณสุขอำเภอบางปะกง เพื่อใช้ในภารกิจโควิด-19 ในพื้นที่

วันนี้ (20 ธ.ค.64) ณ ที่สาธารณสุขอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยทีมงานฝ่ายความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) โครงการนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ในฐานะตัวแทนมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kit หรือ ATK จำนวน 3,000 ชุด ให้สาธารณสุขอำเภอบางปะกง เพื่อใช้ในภารกิจโควิด-19 ในพื้นที่

โดยมีนางสาวบุษกร รำไพยะกุล นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ รักษาราชการแทนสาธารณสุขอำเภอบางปะกง เป็นผู้รับมอบ

ทั้งนี้ บลูเทคซิตี้ และมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม และสนับสนุนภารกิจโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยสนับสนุนชุดตรวจโควิด-19 หรือ Antigen Test Kit หรือ ATK จำนวน 3,000 ชุด ให้บุคลากรทางการแพทย์  ซึ่งเป็นชุดตรวจที่สามารถทราบผลภายใน 10 นาที และได้รับอนุญาตจาก อย.แล้ว

 

“รางวัลผู้ปิดทองหลังพระ ประจำปี 2564” ผบ.ตร. ขอมอบให้ตำรวจทั่วประเทศ ที่ทำงาน “ปิดทองหลังพระ” เพื่อพี่น้องประชาชน

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.64 สมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ได้มอบรางวัลปิดทองหลังพระ ให้กับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายตำรวจที่โปร่งใส ซื่อสัตย์และเป็นที่พึ่งของตำรวจอย่างแท้จริง ที่อาคารพุทธวิชชาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร โดยดำเนินการคัดเลือกบุคคลทุกวิชาชีพ ที่ทำคุณงามความดีให้กับสังคม

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขอมอบรางวัลนี้ให้ตำรวจทั่วประเทศ ที่ทำงานปิดทองหลังพระ ผมมารับรางวัลในฐานะตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ข้าราชการตำรวจ ทำงานโดยไม่ได้หวังรางวัลอะไรเลย เพียงทำหน้าที่ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เพื่อพี่น้องประชาชน จึงอยากเป็นกำลังใจให้ตำรวจที่ยังทำความดีอยู่ตลอดเวลา

Omicron ถล่มสหรัฐฯ ยอดติดพุ่งแสนต่อวัน ด้าน Pfizer ฟัน!! เชื้อระบาดยาวยันปี 2024

กลับมายืนที่เดิมอีกครั้งในวิกฤติ Covid-19 ของสหรัฐอเมริกา หลังจากที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ Omicron ในประเทศได้ไม่กี่สัปดาห์ การระบาดก็เริ่มพุ่งสูงขึ้นจนฉุดไม่อยู่ ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อรายวันเฉลี่ยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็กลับยืนหลักแสน ที่ตัวเลข 123,000 รายต่อวัน มากขึ้นถึง 40% จากตัวเลขเมื่อต้นเดือนธันวาคมปีนี้ 

สื่อในสหรัฐฯ หลายสำนักเห็นตรงกันว่า นี่คือคลื่นการระบาดระลอกใหม่อีกครั้ง ที่มาปิดท้ายปลายปี 2021 ซึ่งจะครบ 2 ปีที่สหรัฐอเมริกาต้องผจญกับคลื่นการระบาดของเชื้อ Covid-19 มาแล้วหลายระลอก 

แม้สหรัฐฯ จะเป็นประเทศที่สามารถพัฒนาวัคซีนอยู่ในระดับแถวหน้าของโลก แต่วงจรซ้ำแล้วซ้ำเล่า และวนกลับมายืนในจุดวิกฤติเดิมซ้ำซากนี้ กำลังจะทำลายระบบสาธารณสุขให้กลับมาเลวร้ายอีกครั้ง โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่กลับมาสูงขึ้น ส่งผลให้โรงพยาบาลในสหรัฐฯ มีคนไข้ที่ต้องเข้ารับการรักษาจากโรค Covid-19 เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 45% จากเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งนับว่าน่าเป็นห่วงมาก หากตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มหลักแสนเช่นนี้ทุกวัน

สำหรับการแพร่ระบาดของ Covid19 ในระลอกใหม่ โดยสายพันธุ์ Omicronนั้น ทำให้ทาง Pfizer บริษัทผู้พัฒนาวัคซีน Covid-19 ชื่อดัง คาดการณ์ว่า Covid-19 อาจอยู่กับชาวโลกไปอีกนานจนถึงปี 2024 และยังบอกข่าวร้ายอีกว่า การทดสอบใช้วัคซีน Pfizer ในกลุ่มเด็กเล็กอายุ 2-4 ปี ด้วยปริมาณที่น้อยกว่าโดสปกติ ได้ผลลัพธ์ยังไม่น่าพอใจเท่าที่ควร และอาจส่งผลถึงการพิจารณาให้ใช้วัคซีนในกลุ่มเด็กเล็กของภาครัฐได้

และยังมีแนวโน้มว่า เชื้อ Omicron มีโอกาสเป็นสายพันธุ์หลักแทน Delta ในไม่ช้า เนื่องจาก Omicron สามารถติดต่อได้ง่าย และเร็วกว่าสายพันธุ์อื่นๆ โดยยกตัวอย่างเคสที่เกิดขึ้นในแอฟริกาใต้ และอังกฤษ ที่ก็เจอปัญหาการระบาดหนักของสายพันธุ์ Omicron

“เฉลิมชัย” โชว์ผลงานนโยบายสมุนไพร! ปั้นเกษตรกร 3 แสนราย ดันแปลงใหญ่ชู!! “สมุนไพรอินทรีย์” ลุยตลาด 50,000ล้าน

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าววันนี้ว่า ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน กำหนดนโยบายส่งเสริมสมุนไพรเป็นพืชเศรษฐกิจแห่งอนาคต(Future Food Future Crop) เพื่อให้เกษตรกรมีอาชีพทางเลือกและมีรายได้เพิ่มขึ้นรวมทั้งสนับสนุนการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มโดยร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและทุกภาคีภาคส่วนถือเป็นหนึ่งในเกษตรมูลค่าสูงโดยส่งเสริมสนับสนุนตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา(R&D)ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำการตลาด

จากมาตรการการส่งเสริมการปลูกพืชสมุนไพร ทำให้มีความคืบหน้าอย่างมากโดยในปัจจุบันมีเกษตรกร 369,353 รายขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ด้านพืชสมุนไพร เครื่องเทศ พืชสมุนไพรที่เป็นพืชอาหาร (รวม 82 ชนิด) ดำเนินการปลูกพืชสมุนไพรบนพื้นที่รวมประมาณ 1.15 ล้านไร่  แบ่งออกเป็น การปลูกพืชสมุนไพรให้ได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้า GAP และมาตรฐานพืชสมุนไพรอื่น ๆ กว่า 6.4 หมื่นไร่ และมีกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่พืชสมุนไพร ตั้งแต่ปี 2559 – 2564 จำนวนทั้งสิ้น 37 แปลง จำนวนเกษตรกร 1,565 ราย พื้นที่ 7,913 ไร่ ใน 22 จังหวัด และในปี 2565 ได้มีกลุ่มเกษตรกรขอเข้าร่วมโครงการอีกจำนวน 15 กลุ่ม กำลังอยู่ในขั้นตอนขอรับรองแปลง และกระทรวงฯ มีโครงการส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสมุนไพรปี 2565 มีเป้าหมายเกษตรกร จำนวน 1,110 ราย ในพื้นที่ 37 จังหวัด และจัดทำแปลงขยายและรวบรวมพันธุ์สมุนไพรในศูนย์ปฏิบัติการ จำนวน 16 ศูนย์ เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานวัตถุดิบ ส่งเสริมการผลิตสมุนไพร เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรตามแนวเกษตรปลอดภัย สร้างรายได้แก่เกษตรกรและเพิ่มมูลค่าการส่งออกอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ทั้งนี้ตลาดผลิตภัณฑ์สมุนไพรซึ่งกลับมาขยายตัวอีกครั้งตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไปด้วยอัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 4% ใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิด Covid-19 ที่มูลค่าตลาดประมาณ 54,500 ล้านบาท

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้ร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการยกร่างแผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566 – 2570 เพื่อร่วมกันพัฒนาสมุนไพรให้สอดคล้องกับระบบสุขภาพและระบบเศรษฐกิจตลอดห่วงโซ่อุปทาน

โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาสมุนไพรให้ไปสู่การใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริงในทุกมิติ โดยใช้ตลาดเป็นตัวนาการผลิต เพื่อกระตุ้นให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดาเนินการวิจัยตั้งแต่การกำหนดโจทย์วิจัยที่ตรงตามความต้องการของตลาดอย่างแท้จริง ตาม 10 ภารกิจหลักในการพัฒนาตามแผนด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพรแห่งชาติ พ.ศ. 2563 –2565 ประกอบด้วย

1. การปลูกสมุนไพรที่ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งดำเนินการได้ 64,225 ไร่ จาก 82 ชนิดพืช

2. กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน ได้รับการส่งเสริมการแปรรูปหลังการเก็บเกี่ยว ณ สถานที่ปลูกและการผลิตผลิตภัณฑ์ และสารสกัดอย่างง่ายในระดับชุมชน จำนวน 92 แห่ง

3. กำหนดมาตรฐาน GAP หรือมาตรฐานพืชสมุนไพรตามกลุ่มที่ใช้ของพืช จำนวน 5 ฉบับ

4. จัดทำแผนที่ความเหมาะสมของที่ดินสำหรับปลูกพืชสมุนไพร (Land Suitability) 24 ชนิด

5. พัฒนาฐานข้อมูลพื้นที่ปลูกพืชสมุนไพร (Land Use) 1 ฐานข้อมูล

6. ห้องปฏิบัติการที่ได้รับรองมาตรฐาน ISO 17025 ให้บริการตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบ จำนวน 8 แห่ง

7. พัฒนาระบบตลาดกลาง 1 แห่ง และตลาดอิเล็กทรอนิกส์ 1แห่ง (E-Market)

8. กำหนดมาตรฐานสมุนไพรในตำรามาตรฐานสมุนไพรไทย (Thai Herbal Pharmacopoeia, THP) จำนวน 109 รายการ

9. พัฒนาฐานข้อมูลพืชสมุนไพรและภูมิปัญญาการใช้ประโยชน์ของประเทศไทย (National Database of Thai Plants and Traditional Knowledge) 1 ฐานข้อมูล

10. สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชสมุนไพรและเทคโนโลยีเพื่อผลิตวัตถุดิบ 57 เรื่อง

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top