Friday, 23 May 2025
NEWS FEED

สุดล้ำ!! พัฒนาระบบดิจิทัลให้บริการปชช. การันตีด้วย 'รางวัลต้นแบบท้องถิ่นดิจิทัล'

ต้องยอมรับว่าในประเทศไทย ยังใช้ประโยชน์จากยุคดิจิทัลได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ทั้ง ๆ ที่กระแสโลกมีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลกันอย่างเต็มตัวแล้ว โดยเฉพาะหน่วยราชการไทย เรียกได้ว่า ยังช้ากว่าการวิ่งของกระแสดิจิทัลโลกอยู่หลายก้าว 

แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ เทศบาลเมืองแม่เหียะ จ.เชียงใหม่ ได้แสดงให้เห็นว่าถ้าเราสามารถใช้ประโยชน์จากดิจิทัลได้ จะเกิดประโยชน์และประสิทธิภาพอย่างมหาศาล สามารถลบภาพระบบราชการแบบเก่า ๆ ได้อย่างสิ้นเชิง  โดยเฉพาะในภาคการบริการประชาชน ที่เป็นภารกิจหลักของรัฐ  

เทศบาลเมืองแม่เหียะ ได้พัฒนาแพลตฟอร์มระบบข้อมูลเมือง (City Data platform Dashboard) ขึ้น และสามารถเก็บข้อมูลที่สามารถซอยย่อยได้มากถึง 84 หมวดหมู่ ครอบคลุมแทบทุกด้านของการบริหารจัดการเมือง ที่สำคัญคือ สามารถสร้างระบบบริการออนไลน์ ที่เรียกว่า e-service ขึ้นมาให้บริการประชาชน ที่สามารถใช้งานได้ผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือได้ทุกระบบ การบริการหลัก ๆ มีด้วยกัน 3 ด้าน คือ  

1.) ระบบ One Stop Service ประชาชนสามารถขอรับบริการสาธารณะและแจ้งร้องทุกข์ร้องเรียน สามารถติดตามสถานะการดำเนินการได้ด้วยตนเอง 

2.) ฐานข้อมูลตำบลออนไลน์บริการข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ของเทศบาลเมืองแม่เหียะ 

3.) ระบบชำระค่าจัดเก็บขยะออนไลน์ ประชาชนสามารถชำระค่าจัดเก็บขยะผ่านระบบออนไลน์  

นอกจากนี้ ก็มีงานด้านโครงสร้างพื้นฐานสาธารณูปโภค งานด้านการจราจร และความปลอดภัย คุณภาพชีวิต งานด้านสาธารณสุข การท่องเที่ยว งานบริการด้านภาษี การยื่นคำร้องต่าง ๆ เช่น การขอปลูกบ้าน เป็นต้น

ข้อมูลของเมืองที่แสดงเป็น Dashboard ของเทศบาลแม่เหียะ ที่มีนายศิรวรรธน์ บงสีดา นายช่างโยธา ชำนาญงาน ขององค์กร เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลัก บุกเบิกการเก็บข้อมูลของเมือง โดยใช้ประโยชน์จากโดรนในการสำรวจ ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าการอ้างอิงจาก Google Map กล่าวได้ว่า การพัฒนา ระบบข้อมูลของเมืองของเทศบาลเมืองแม่เหียะนำไปสู่ศูนย์บริการเป็นเลิศของ (Excellent Service) ทำให้ล่าสุด เทศบาลเมืองแม่เหียะ ได้รับรางวัลต้นแบบท้องถิ่นดิจิทัล จากสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งความสำเร็จนี้ เกิดขึ้นได้เป็นผลการวิจัย ที่เป็นความร่วมมือระหว่างเทศบาลเมืองแม่เหียะ กับหน่วยบริหารจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ซึ่ง บพท. ได้เลือกแม่เหียะเป็นพื้นที่ศึกษา (Research Area) ในการพัฒนายกระดับท้องถิ่น

ธนวัฒน์ ยอดใจ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแม่เหียะ เล่าถึงที่มาการเป็น Smart City ของแม่เหียะว่า แม่เหียะ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ มีแหล่งท่องเที่ยวสถานที่สำคัญ ทั้งดอยคำ พืชสวนโลก ไนต์ซาฟารี ที่ตั้ง 6 คณะของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อุทยานวิทยาศาสตร์ และวัดโด่งดังที่สุด วัดพระธาตุดอยคำ 

เมื่อเมืองมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงมาต่อเนื่อง จากเมืองเกษตรกรรม กลายมาเป็นเมืองเศรษฐกิจและท่องเที่ยว ทำให้เห็นปัญหาการบริการ ส่วนตัวเห็นมิติต่างๆ การพัฒนาให้เป็นเมืองคุณภาพ ซึ่งการจะทำให้เกิดกระบวนการเปลี่ยนเมืองได้ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทำให้เป็นที่มาของการเก็บข้อมูลเมือง แม้ที่ผ่านมาแต่ละหน่วยงานจะมีการสำรวจเก็บข้อมูล แต่มันสะเปะสะปะแยกกันทำ สำรวจเสร็จแล้วก็ทิ้งข้อมูลไป ซึ่งตนต้องการข้อมูลพวกนี้มาใช้ประโยชน์ นำมาวางแผนในการพัฒนาแม่เหียะ ไม่ว่าแผน 3 ปี หรือ 5 ปี เพราะไม่ว่าการทำถนน หรือให้นักธุรกิจมาลงทุน จำเป็นต้องมีข้อมูล ซึ่งขณะนี้เป็นการดำเนินตามแผนปี 2566-2570  โดยมีฐานข้อมูล 94 ชั้นที่จะนำมาใช้ประโยชน์

“ถ้าคุณมีที่ดินในแม่เหียะ ไม่ต้องบอกว่าทำอะไรกับที่ดินอยู่ เพราะเราสำรวจมาแล้วโดยใช้โดรนว่ามีการใช้ประโยชน์อะไรบ้างในที่ดินตรงนั้น ซึ่งตรงนี้ จะช่วยเรื่องเก็บภาษีท้องถิ่นได้มาก ปี 63 ภาษีเราหายไปกว่า 30 ล้าน เพราะโควิดทำให้เศรษฐกิจไม่ดี รัฐบาลจึงมีนโยบายเก็บภาษีท้องถิ่นแค่ 10% ปี 64 แจ้งมาอีกเก็บภาษีเหลือ 10% เราก็หายไปอีก 15 ล้าน หนักใจมาก ปีนี้ให้เก็บ 100% และเราเก็บได้เพิ่มขึ้นเพราะเรามีฐานข้อมูลที่ชัดเจนมาเป็นตัวช่วย”

นายกฯ แม่เหียะ ยังบอกอีกว่า ระบบให้บริการประชาชนแบบเก่าดั้งเดิมของท้องถิ่นต่าง ๆ คือ ถ้าใครอยากแจ้งเรื่องไฟดับเสาไฟฟ้าสักต้น หรือซ่อมท่อ ต้องเดินทางมาที่เทศบาล หรือการจ่ายค่าเก็บขยะรายเดือน ๆ ละ 40 บาท อาจต้องขับรถมา 4-5 กม. เพื่อมาจ่ายที่เทศบาล แต่ระบบใหม่ที่เป็นสมาร์ตซิตี้ ประชาชนไม่ต้องเดินทางมาเทศบาล สามารถแจ้งร้องทุกข์ หรือปัญหาได้ทางแพลตฟอร์ม ทางออนไลน์ ที่มีอยู่ 70 ภารกิจ ซึ่งทำผ่านโทรศัพท์มือถือ ข้อมูลจะวิ่งไปเข้าระบบหาผู้ปฎิบัติงานทันที หากมีการแก้ไขปัญหาล่าช้า เกิน 7 วันระบบก็จะฟ้องเองว่า ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข แตกต่างจากเมื่อก่อนที่ไม่รู้ว่าเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไขหรือยัง ส่วนการจ่ายค่าเก็บขยะก็จ่ายผ่านทางแอปพลิเคชันแพลตฟอร์มของเทศบาลได้เช่นกัน

การบริการทางออนไลน์ที่ถือว่าเป็นไฮไลต์สุดล้ำนั้น ธนวัฒน์บอกว่า คือ การขออนุญาตปลูกบ้านชั้นเดียวขนาดพื้นที่ใช้สอย 150 ตารางเมตร ซึ่งแต่ก่อนกว่าจะได้รับอนุญาต ประชาชนที่ขอต้องมาที่เทศบาลไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ถึงจะดำเนินการสร้างบ้านได้ ซึ่งตามกฎหมาย ระบุว่าการขอจะต้องใช้เวลาดำเนินการไม่น้อยกว่า  45 ว้น แต่เมื่อตนได้ดูกฎหมายเรื่องการอำนวยการความสะดวก ซึ่งในพ.ร.บ.ฉบับนี้ เขียนเปิดทางให้ใช้ลายเซ็นต์อิเล็กทรอนิกส์ได้มานานแล้ว แต่กลับไม่มีหน่วยงานไหนนำไปปฎิบัติ เพราะระบบราชการไทยแต่ก่อนต้องเป็นลายลักษณ์อักษร เช่น การประชุมออนไลน์ ผ่านระบบซูม ไม่มีผลทางกฎหมาย เบิกค่าใช้จ่ายไม่ได้  แต่เพิ่งอนุมัติเห็นชอบเมื่อไม่นานมานี้ เพราะสถานการณ์โควิด สำหรับการใช้ลายเซ็นต์ออนไลน์ ทางแม่เหียะได้ขอใช้เมื่อปี 2560 เขียนโปรแกรมขึ้นมา 1 โปรแกรม พร้อมกับใช้โดรนในการสำรวจ บ้านที่ขอก่อสร้าง

“การใช้ระบบออนไลน์ ทำให้ลดเวลาการขออนุญาตสร้างบ้านขนาด 150 ตารางเมตร จาก 45 วัน ลงเหลือ 7 วันในช่วงแรก ๆ และผมลดมาเหลือ 2 วัน และลดอีกเหลือ 24 ชั่วโมง และจนขณะนี้ผมให้ลดลงเหลือภายใน 2 ชั่วโมง ที่ทำได้ เพราะการเซ็นอนุมัติเราเซ็นผ่านออนไลน์ได้ ไม่ว่าผมหรือเจ้าหน้าที่จะไปอยู่ที่ไหนก็อนุมัติได้ ระบบมันจะมีการรีพอร์ตข้อมูล และระบบมีความปลอดภัย คนจะเข้าระบบจะต้องมีรหัส ตั้งแต่คนคีย์ระบบ นายช่าง นายตรวจ รองปลัด ปลัด และนายกฯ องค์กรท้องถิ่น แม้แต่กรุงเทพมหานคร ก็ยังไม่มีการทำกระบวนการนี้ แต่ที่เทศบาลแม่เหียะ เป็นเจ้าแรกของประเทศ" นายกฯ แม่เหียะบอกด้วยความภูมิใจ

แต่การอนุมัติคำขอสร้างบ้านในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ยังจำกัดอยู่ที่บ้านขนาดเล็ก 150 ตารางเมตร ซึ่งนายกเมืองแม่เหียะ บอกว่า มีแนวคิดพร้อมจะขยับการให้บริการ การขออนุมัติสร้างที่อยู่อาศัยลักษณะอื่น เช่น หอพักขนาดไม่เกิน 10-20 ห้อง ผ่านทางระบบออนไลน์ได้ โดยใช้ฐานข้อมูลที่ทางเทศบาลมีอยู่มาเป็นประโยชน์การพิจารณา แต่ทั้งนี้ต้องดูกฎหมายอื่นๆ ประกอบการก้าวเดินให้บริการด้วย

“ในการทำงาน เราพูดถึงไทยแลนด์ 4.00 มากี่สมัยมันบรรลุหรือยัง ในการใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มต่างๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง แม่เหียะเราเป็นต้นแบบการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยี ตอนนี้ สันนิบาตเทศบาลองค์กรปกครองท้องถิ่นเห็นเราแล้ว เอาด้วย นายกฯ เมืองแสนสุข ยะลา ก็สนใจจะทำ เราเป็นเจ้าแรกในประเทศเรื่องอนุมัติสร้างบ้านออนไลน์ และกิจการสาธารณสุข การขอเปิดกิจการร้านอาหาร แจ้งเรื่องมาทางออนไลน์ กิจการสุขภาพ พ.ร.บ.สาธารณสุข ทำร้านอาหาร ก็อยู่ในข่ายให้บริการที่สะดวกรวดเร็วขึ้น”

นายกฯ แม่เหียะ บอกอีกว่ายังใช้ข้อมูลที่เก็บมาใช้ประโยชน์ไม่เต็มสูบ อนาคตเขามีแนวความคิด ดึงฐานข้อมูลมาเป็นฐานเมือง ทำแอปพลิเคชัน ที่เรียกว่าเป็น 'ซูเปอร์แอป' ในชื่อว่า 'มีดีแม่เหียะ' โดยตนได้คุยกับบพท. แล้วในเรื่องนี้ สำหรับ แอพฯ 'มีดีแม่เหียะ' จะให้บริการข้อมูลทุกอย่างของเมือง กิน เที่ยว บริการ เศรษฐกิจลงทุน เช่น อยากรู้ว่าร้านกาแฟในแม่เหียะมีตรงไหน หรือร้านไหนมีโปรโมชั่น พอจิ้มไปข้อมูลก็จะขึ้นมา หรือดูเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดินก็จะดูได้ทันที ซึ่งข้อมูลพวกนี้ จะเป็นฐานในการตัดสินใจลงทุนของนักธุรกิจต่างๆ

“เราเป็นเมืองเล็กๆ ต้นแบบ อยากให้ท้องถิ่นกว่า 7,000 แห่งทำเหมือนเรา อนาคตแม่เหียะ ผมอยากเห็นว่าแม่เหียะ เป็นเมืองที่สมาร์ตยิ่งกว่าเดิม อัจฉริยะยิ่งกว่าเดิม เห็นการเปลี่ยนแปลงยิ่งกว่าเดิม “

เมื่อถามว่า กระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้เป็นจริงได้เกิดจากอะไร นายกฯ แม่เหียะ บอกว่า หัวใจหลักคือ เรื่องของคน ไม่ว่าคุณจะมีเทคโนโลยีแบบไหน จะมีราคาสูงๆ มากแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่สามารถเอาคนมาใช้ระบบได้ ก็คงไม่สำเร็จ ซึ่งนั่นคือคนในองค์กรต้องรวมกันเป็นหนึ่งก่อนแล้วเปิดวิสัยทัศน์นำ สู่กระบวนการเปลี่ยน ที่สำคัญทั้งผู้นำและประชาชนเอาด้วย
 

เพื่อไทยร่วมลงนามไว้อาลัยอดีตนายกฯ ชินโซ อาเบะ

พรรคเพื่อไทยนำโดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการ และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมเดินทางมาที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เพื่อลงนามไว้อาลัยนายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ถึงแก่อสัญกรรม โดยมีนายนาชิดะ คาซูยะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยให้การต้อนรับ

ทั้งนี้นายประเสริฐยังได้กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยรู้สึกสะเทือนใจและเสียใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้ทราบข่าวการสูญเสียของอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

'ผู้ช่วยฯ โจ๊ก' สั่งรวบพ่อค้าหัวหมอ ซื้อสลากดิจิทัล นำไปขายต่อเกินราคากำหนด

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 65 พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ตามที่มีนโยบายรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานร่วมกันบูรณาการในการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ ดำเนินการควบคุมและกำกับดูแลในการตรวจสอบผู้ที่มีพฤติการณ์ที่มีการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ซึ่งได้มีการดำเนินการกันมาอย่างต่อเนื่อง นั้น

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้มอบหมายผู้แทน เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ภ.จว.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีกับ ผู้ที่มีพฤติการณ์ในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา พฤติการณ์กล่าวคือ ผู้จำหน่ายสลากรายดังกล่าวได้มีการนำเอาภาพของสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีการจำหน่ายผ่านช่องทางสลากดิจิทัล นำมาเสนอขายผ่านทาง เฟซบุ๊ก ราคาฉบับละ 100 บาท หากถูกรางวัลจะนำสลากดังกล่าวไปขึ้นรางวัลให้ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการเสนอจำหน่ายสลากเกินราคา จึงได้แจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดดังกล่าว

จากการสืบสวนในกรณีดังกล่าวพบว่า ในหน้าเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นเพจส่วนตัวของ นายฐิติ นาคชัยวัฒนา อายุ 45 ปี ได้มีการนำเอาภาพของสลากกินแบ่งรัฐบาลในรูปแบบดิจิทัลมาเสนอจำหน่ายอยู่ จำนวน 3 หมายเลข รวมทั้งหมด 13 ฉบับ เสนอจำหน่ายฉบับละ 100 บาท โดยภาพสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าว ถูกซื้อโดยผู้ซื้อจำนวน 2 คน จากการตรวจสอบพบว่านายฐิติฯ ได้ร่วมกันซื้อกับแฟน 6 ฉบับ และฝากน้องสาวซื้อ 7 ฉบับ และนายฐิติฯ เป็นผู้นำมาเสนอขายในเพจเฟซบุ๊ก จึงสรุปได้ว่า บุคคลดังกล่าวได้ใช้ให้น้องสาวและแฟนของตนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านทางช่องทางสลากดิจิทัลในราคาฉบับละ 80 บาท เพื่อนำมาเสนอจำหน่ายต่อภายในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวของตนในราคาฉบับละ 100 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานและได้ออกหมายเรียกนายฐิติฯ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีในข้อหา เสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนด อัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ เปิดเผยอีกว่า การกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว เป็นการนำเอาภาพสลากกินแบ่งที่มีการซื้อขายผ่านช่องทางสลากดิจิทัลมาเสนอขายเกินราคาในเพจเฟซบุ๊กของตัวเอง ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีพฤติการณ์เสนอขายในลักษณะดังกล่าว เนื่องจากเป็นการจำหน่ายสลากเกินราคา และมีความเสี่ยงที่จะถูกผู้เสนอขายหลอกลวงได้ ซึ่งปัจจุบันสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาปกติสามารถหาซื้อได้ง่ายทั้งช่องทางออนไลน์และผู้ค้ารายย่อยทั่วไป ในส่วนของผู้ค้าที่มีพฤติการณ์จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาหรือมีการปิดบังมิให้ตรวจสอบได้ว่ามีสลากจริงหรือไม่ จะมีการตรวจสอบเพิ่มเติมและดำเนินคดีกับผู้ค้าที่มีพฤติการณ์ดังกล่าวให้หมดไป เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป

สวนนงนุชพัทยาจัดขบวนแห่เทียนพรรษานำ ช้างกว่า 20 เชือก ร่วมขบวนแห่ เพื่อสืบสานประเพณีไทย สุดยิ่งใหญ่อลังการ

สวนนงนุชพัทยา นำโดยนายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา กำหนดจัดงาน กิจรรมสืบสานประเพณีงานแห่เทียนพรรษา จัดขบวนแห่เทียนสุดยิ่งใหญ่อลังการ ชื่อขบวน 'พุทธะสยาม งามวิถี ประเพณีแห่เทียน' พร้อมกับ ขบวนน้องข้างกว่า 20 เชือก โดยจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 13-15 กรกฎาคม 2565

ซึ่งกิจกรรมงานเข้าพรรษาไทยจัดให้มี 'ประเพณีหล่อเทียนเข้าพรรษา' เริ่มจัดกิจกรรมหล่อเทียนพรรษามาแล้วตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม ที่บริเวณบุษบกพระ 9 วัด สวนลอยฟ้า และเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวแบบไทยเทียวเพื่อให้ลูกค้าที่มาเที่ยวได้มีโอกาสร่วมบุญในครั้งนี้ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญที่กระทำต่อกันมาเป็นประจำทุกปี 

'ท่านใหม่' ถามดัง 'สมยศ' จะลาออกเมื่อไหร่ หลังฟุตบอลไทยตกต่ำ แพ้กระทั่งทีมชาติลาว

(14 ก.ค. 65) ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ ท่านใหม่ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า เมื่อไหร่นายกสมาคมฟุตบอลไทย จะลาออกเสียที ฟุตบอลทีมชาติไทยตกต่ำมากที่มีนายก ชื่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแพ้กระทั่ง ทีมชาติลาว

"วอลเลย์บอลหญิงไทยให้ความสุขคนไทย ผู้นำฟุตบอลไทยให้ทุกข์วงการบอลไทย"
ม.จ. จุลเจิม ยุคล


ที่มา : https://www.thaipost.net/general-news/180611/

อิ่มบุญ!! 'ป๋าวัน' อดีต สท.บางเมือง เปิดบ้าน 'ฤกษ์เมือง' ทำบุญวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 79 ปี เผย ขอบริจาคทานช่วยเหลือคนจนเพื่อความเป็นสิริมงคล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ภายในบ้านฤกษ์เมือง ซอยอุดมเดช ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้จัดพิธีทำบุญวันคล้ายวันเกิด ครบรอบ 79 ปี นายวันชัย กฤษ์เมือง (ป๋าวัน) อดีตสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางเมือง โดยมี นางสนม ฤกษ์เมือง พร้อมด้วย นายวีระ ฤกษ์เมือง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางเมือง และครอบครัวฤกษ์เมืองตลอดจนสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางเมือง หน่วยงานราชการเดินทางมาร่วมอวยพรและร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก

โดย ในวันนี้ นายวันชัย ฤกษ์เมือง (ป๋าวัน) ได้เปิดบ้านฤกษ์เมือง จัดพิธีทำบุญวันคล้ายวันเกิด ครบรอบ 79 ปี โดยมีภรรยาและลูกๆ ตลอดจนครอบครัวฤกษ์เมือง และญาติคนสนิทร่วมในพิธี แบบ New normal  

ซึ่งพิธีในช่วงเช้าประกอบด้วย การทำบุญถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 9 รูป อาทิ พระครูพุทธิสารโสภิต ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเมือง วัดบางโปรง / เจ้าคณะตำบลบางหญ้าแพรก วัดท้องคุ้ง / เจ้าคณะตำบลบางปู วัดน้อยสุวรรณดาราม / วัดบางด้วนนอก / วัดบางนางเกรง / วัดบางด้วนใน / วัดศรีจันทร์ประดิษฐ์ / วัดพุทธภาวนา / และ วัดพระสมุทรเจดีย์ จากนั้น พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ร่วมประกอบพิธีชัยมงคลคาถา

หลังจากเสร็จพิธีสงฆ์ นายวันชัย ฤกษ์เมือง (ป๋าวัน) อดีตสมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางเมือง พร้อมด้วย นางสนม ฤกษ์เมือง นายวีระ ฤกษ์เมือง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางเมือง ร่วมบริจาคทานด้วยการแจกข้าวสาร 5 กก.จำนวน 500 ถุง พร้อมทั้ง ไข่ไก่ อีกจำนวน 500 ชุด อาหารปรุงสุก จำนวน 500 กล่อง เพื่อบริจาคช่วยเหลือประชาชนที่ยากจนและผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ ประกอบกับ ยังได้มอบเงินอีกจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยสนับสนุนอาหารกลางวันให้กับทางโรงเรียนในเขตพื้นที่ อีกด้วย

พม่า สั่งขับทูตอังกฤษออกนอกประเทศ หลังไม่ยอมยื่นสารตราตั้งตามรัฐบาลทหารขอ

รัฐบาลทหารพม่าสั่งขับทูตอังกฤษออกนอกประเทศ หลังปฏิเสธไม่ยื่นสารตราตั้ง และแสดงจุดยืนวิจารณ์ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง

นายพีท โววเลส (Pete Vowles) ผู้แทนทางการทูตระดับสูงของอังกฤษประจำเมียนมา ทวิตข้อความ ระบุว่า

“เวลาของผมในเมียนมาสิ้นสุดลงอย่างกะทันหันในวันนี้ เศร้าและเสียใจที่ถูกรัฐบาลทหารบังคับให้ออกจากประเทศ แต่ก็รู้สึกดีใจที่เราไม่ปิดปากเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐประหารที่โหดร้ายของพวกเขา”

อดีต จนท.ระดับสูงของสหรัฐฯ ยอมรับเอง!! เคยช่วยวางแผนรัฐประหารในประเทศอื่นๆ

อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เผยผ่านซีเอ็นเอ็น เคยช่วยวางแผนรัฐประหารในประเทศอื่น ๆ แต่ยืนยันไม่เกี่ยวเหตุเหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 

(12 ก.ค.65) จอห์น โบลตัน (John Bolton) อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ได้ให้สัมภาษณ์กับ เจค แทปเปอร์ (Jake Tapper) พิธีกรของซีเอ็นเอ็น ว่า เหตุโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อต้นปีก่อน เป็นผลจากแรงสนับสนุนของผู้คนที่นิยมใน โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

โดยความเห็นของ โบลตัน เกี่ยวกับเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคม 2021 มีขึ้นในขณะที่คณะกรรมาธิการรัฐสภาชุดหนึ่งกำลังหาข้อสรุปว่า ทรัมป์ และบรรดาคนใกล้ชิดของเขามีส่วนในการวางแผนปลุกปั่นการก่อขบถรุนแรง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 140 คน พร้อมๆ กับการหลุดคำพูดในการเป็นส่วนหนึ่งของเกมแทรกแซงรัฐประหารในประเทศอื่นออกมาด้วย

“ในฐานะคนคนหนึ่งที่เคยช่วยวางแผนก่อรัฐประหารมาแล้ว แต่ไม่ใช่กับเหตุการณ์นี้ หากแต่เป็นที่อื่น ๆ มันต้องทำงานหนักมาก” โบลตัน กล่าวและว่า “วันที่ 6 มกราคม ไม่ใช่การโจมตีประชาธิปไตยในสหรัฐฯ แต่เป็นการจู่โจมเพื่อโดนัลด์ ทรัมป์ และเขาปล่อยให้กลุ่มก่อการจลาจลที่อาคารรัฐสภาดำเนินการแบบไม่มีข้อสงสัย ซึ่งมันไม่ใช่การโค่นล้มรัฐธรรมนูญ แต่เป็นการซื้อเวลาเพิ่มให้แก่ทรัมป์ในช่วงเวลานั้น” 

แม้ โบลตัน ซึ่งทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทรัมป์ ระหว่างปี 2018 ถึง 2019 จะไม่ได้เจาะจงว่าเขาช่วยโค่นล้มรัฐบาลประเทศไหนบ้างนั้น แต่อย่างน้อยระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่ง เขาก็ได้สนับสนุนสหรัฐฯ ให้ใช้กำลังทหารแทรกแซงในเวเนซุเอลา

'อธิบดี ทช.' แจง!! ปลูกป่าชายเลน ไม่ใช่ต้นเหตุทำโลมาตาย ชี้!! เหตุเกยตื้น 'ไล่ล่าอาหาร-ซากถูกพัดไปหลังแนวไม้ไผ่'

นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้กล่าวชี้แจง กรณี ของคุณนารากร ติยายน ผู้ประกาศข่าว แสดงความกังวลผ่านทางสื่อโซเชียล Facebook ถึงผลเสียของการทำ CSR ปลูกป่าชายเลน ต้นเหตุทำโลมาตายที่บางขุนเทียน โดยระบุว่า การดำเนินการตามภารกิจของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช) มีภารกิจเกี่ยวกับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้ง ป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง เพื่อความมั่งคั่ง สมดุล และยั่งยืนของทะเลไทย และเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ พื้นที่ชายฝั่งของประเทศไทยความยาวกว่า 3,151.13 กิโลเมตร ยังคงประสบปัญหากัดเซาะชายฝั่งอีกกว่า 80 กิโลเมตร ใน 17 จังหวัด ทั้งรุนแรงและไม่รุนแรง

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง กรม ทช. เลือกใช้มาตรการสีเขียวคือการเพิ่มพื้นที่ป่า ที่รู้จักกันในนามมาตรการขาว-เขียว-เทา ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2561 ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งดำเนินการร่วมกับการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่น เพื่อรักษาเสถียรภาพของชายฝั่งและลดความรุนแรงของคลื่นที่เข้าปะทะชายฝั่ง โดยในปี พ.ศ.2563 ทช.ร่วมกับ GISTDA แปลภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูง พบว่า มีพื้นที่ป่าชายเลนคงสภาพ 1.737 ล้านไร่ มีผลการวิจัยศักยภาพในการกักเก็บคาร์บอน รวมเฉลี่ย 15.79 ตันคาร์บอน/ไร่

สำหรับการปักไม้ไผ่ชะลอความรุนแรงของคลื่นเพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่หาดโคลน เป็นวิธีที่กรมเลือกใช้เป็นหลัก โดยมีพื้นฐานแนวคิดมาจากภูมิปัญญาท้องถิ่นในการปักไม้ไผ่ทำโพงพางและทำคอกเลี้ยงหอยแมลงภู่ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้ร่วมพัฒนาแนวคิดดังกล่าวกับคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยนำมาประยุกต์ร่วมกับหลักวิชาการ และศึกษาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น และได้ถอดบทเรียนจากต่างชาติด้วย ซึ่งข้อดีของการใช้ไม้ไผ่ในการปักเพื่อชะลอความรุนแรงของคลื่นบริเวณหาดโคลน คือ เป็นวัสดุที่หาได้ง่ายในพื้นที่ กระบวนการไม่ยุ่งยาก การรื้อถอนสามารถทำได้ง่าย ประยุกต์รูปแบบให้เหมาะสมกับพื้นที่ได้ ไม่กระทบต่อการเดินเรือและการทำประมงของชุมชน เป็นต้น แต่ก็ต้องยอมรับถึงอายุการใช้งานของโครงสร้างไม้ไผ่ ซึ่งโครงสร้างจะอยู่ได้อย่างน้อยประมาณ 5 ปี โดยการเสื่อมสภาพมักจะเกิดจากคลื่นลมรุนแรง คุณภาพน้ำ การเกาะและกัดแทะของสัตว์ทะเล

การปักไม้ไผ่ชะลอความรุนแรงของคลื่น กรม ทช. ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบันมีการปักไม้ไผ่ไปได้ระยะแล้วกว่า 104 กิโลเมตร ใน 46 พื้นที่ 13 จังหวัด สามารถเพิ่มพื้นที่หาดโคลนหลังแนวไม้ไผ่และปลูกป่าชายเลนได้กว่า 320 ไร่ สำหรับการดำเนินการปักไม้ไผ่ชะลอความรุนแรงของคลื่น สิ่งสำคัญที่เราให้ความสำคัญและเป็นนโยบายหลักของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในพื้นที่

ผู้บริหารโครงการนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ เป็นประธานพิธีหล่อเทียนเข้าพรรษา เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา

วันนี้ (13 ก.ค. 65) คุณกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้บริหารโครงการนิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ เป็นประธานหล่อเทียน เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ณ ลานด้านหน้าวัดเขาดิน ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โดยมี ประชาชนชาวบ้านในพื้นที่ ต.เขาดิน และในพื้นที่ใกล้เคียง เข้าร่วมกิจกรรมหล่อเทียนพรรษากว่า 80 คน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top