Thursday, 28 March 2024
วิเคราะห์การเมือง

‘นิพนธ์’ สยบข่าวบีบ ‘ชัยชนะ’ ไม่ให้ลง ส.ส. เชื่อเจ้าตัวไม่มีเจตนาร้าย ปมปราศรัยด้อยค่า ม.ทักษิณ

'นิพนธ์' ปฏิเสธ ข่าวบิ๊ก ปชป. บีบ ส.ส.ชัยชนะ ไม่ให้ลงสมัคร ส.ส. เชื่อ!! เจ้าตัวไม่มีเจตนาร้าย ยัน!! เป็นกำลังสำคัญสู้ศึกเลือกตั้งที่นครศรีฯ 

วันนี้ (6 มี.ค. 66) นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาปฏิเสธข่าวลือ ที่มีการปล่อยข่าวว่ากรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจและมีการกดดัน ส.ส.ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช ว่าจะไม่ให้ลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้ง ว่าไม่เป็นความจริง 

จากกรณีปราศรัยที่ จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 4 ที่ผ่านมา ซึ่งมีความเข้าใจเจตนาที่คลาดเคลื่อนนั้น ต่อมา ส.ส.ชัยชนะ ก็ได้ออกมาขอโทษกรณีดังกล่าวแล้ว โดยส่วนตัวคิดว่า เจ้าตัวไม่ได้มีเจตนาที่จะด้อยค่าสถาบันการศึกษาในประเทศ เพียงแต่ยกตัวอย่างให้เห็นถึงความพร้อมของผู้สมัครที่ต้องการนำความรู้ต่างๆ มาพัฒนาบ้านเกิดให้เจริญรุ่งเรืองเท่านั้น

‘ประชาธิปัตย์’ พัทลุง ส่งเลือดใหม่สู้ศึกเลือกตั้ง มั่นใจกวาดเก้าอี้ ส.ส.ยกจังหวัด หลังเสียงตอบรับท่วมท้น

เวทีปราศรัยใหญ่ พร้อมเปิดตัว 3 ผู้สมัครคนรุ่นใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์พัทลุง ที่โรงเรียนพัทลุงคึกคักสุดเหวี่ยงกับรูปแบบการปราศรัยที่เปลี่ยนไปจากเดิม ที่เสริมเติมด้วยความสุขความสนุกผสมกับเนื้อหาเชิงนโยบายของพรรค

สนามกีฬาโรงเรียนพัทลุงเนืองแน่นไปด้วยแฟนคลับประชาธิปัตย์ร่วม 30,000 คน เก้าอี้ที่เตรียมไว้ 9,000 ตัวไม่พอนั่ง เสริมเข้ามาอีก 3,000 ตัวก็ยังเต็ม รอบๆสนามก็นั่งมีคนนั่งฟังก็เต็ม ถนนรอบโรงเรียนรถจอดยาวหลายกิโลเมตร ภาพที่ปรากฏสะท้อนถึงการกลับมาฟื้นคืนของประชาธิปัตย์ในสนามภาคใต้

พัทลุงถือเป็นอีกจังหวัดที่ประชาธิปัตย์ยึดครองมายาวนานแบบ ‘ยกจังหวัด’ เพิ่งจะเมื่อการเลือกตั้งปี 62 ที่เสียที่นั่งให้กับภูมิใจไทย 2 ที่นั่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว ‘นริศ ขำนุรักษ์’ ไว้รักษาหน้าประชาธิปัตย์ไว้ได้บ้าง

‘เรารู้แล้ว เราเข้าใจแล้ว การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เราเผลอไปหน่อย ก็ถูกเพื่อนโจมตี ก็เป็นบทเรียนที่เรารู้แล้ว เราเข้าใจแล้ว’นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยบนเวทีพัทลุง

การเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึงประชาธิปัตย์เฟ้นหาหน้าใหม่ - คนรุ่นใหม่เข้ามาเสริมทัพลงสู้ศึกเลือกตั้ง เขต 1 สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.ที่ครั้งที่แล้วพลาดไป คราวนี้เอาใหม่กับความขยันลงพื้นที่พร้อมกับการหอบหิ้วสายเลือด ‘ธรรมเพชร’ เต็มตัวลงสู้ศึก ที่พ่อ ‘สุพัฒน์ ธรรมเพชร’ ไม่น่าจะให้ลูกพลาดอีกแล้ว แม้บางคนบอกว่า ‘บ้านใหญ่ธรรมเพชร’ ไปอยู่รวมไทยสร้างชาติก็ตาม

“ธรรมเพชร ต้อง ‘เสถียร ธรรมเพชร’ พี่เถียรอยู่นี่ นั่งอยู่หลังเวทีเราเนี่ย พี่เถียรคือธรรมเพชรของแท้” นิพนธ์ กล่าวปราศรัยเพื่อยืนยันว่า ธรรมเพชรของจริงยังอยู่กับประชาธิปัตย์

ส่วนเขต 2 ก็เป็นสายเลือดนักการเมืองรุ่นเก๋า ‘ดร.เดย์-ปิยะกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี’ ลูกสาวของ ‘สานันท์ สุพรรณชนะบุรี’ อดีต ส.ส.คุณภาพสองสมัยของพัทลุง และอดีตนายก อบจ.พัทลุงสองสมัย ที่บอกกับตัวเองว่า “พอแล้ว” ในวัย 70 ปี พร้อมส่งไม้ต่อให้ ‘ดร.เดย์’ อาจารย์ มอ.ตรัง ผู้รับเลือดพ่อมาเต็มเปี่ยม

เขต 3 ก็เป็นคนรุ่นใหม่กิ๊ก ‘ร่มธรรม ขำนุรักษ์’ ลูกชายของ ‘นริศ ขำนุรักษ์’ ส.ส.5 สมัยของพัทลุง ที่สังกัดประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และยังนั่งเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยอีกด้วย ‘ร่มธรรม’ เป็นนักเรียนทุนไปศึกษาต่อที่ประเทศจีน จบแล้วไปเป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ในต่างประเทศหลายประเทศ เช่น รัสเซีย

ประชาธิปัตย์เห็นแววมาตั้งแต่เด็ก เมื่อถึงเวลาก็ดันพ่อขึ้นบัญชีรายชื่อแล้วส่งลูกลงสมัครรับเลือกตั้งแทน

นี่คือสามผู้สมัครคุณภาพของประชาธิปัตย์พัทลุงที่ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นรุ่นทายาทที่ได้สายเลือดนักการเมืองมาเต็มๆที่ได้เวลาลงสู่สนามด้วยตัวเองกับประสบการณ์ที่เดิมตามหลังพ่อหาเสียงมายาวนาน

แม้บนเวทีปราศรัย ‘แทน-ชัยชนะ เดชเดโช’ ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการประชาธิปัตย์จะพลั้งเผลอไปบ้าง ไปกล่าวพลาดพิงถึง ม.ทักษิณ แต่ทันทีเจ้าตัวก็ออกมายอมรับผิด และขอโทษ ก็ถือว่าเป็นลูกผู้ชายพอ “ผิดแล้วยอมรับผิด”

“ผมกราบขอโทษคณะอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน มหาลัยทักษิณ ทุกคนด้วยครับ

หักหน้า 'กกต.' เมื่อ 8 จังหวัดต้องแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ หลังบทสรุป 'ราษฎรไทย' ไม่ได้หมายรวมถึงคนต่างด้าว

พลันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่า การกำหนดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 86 (1) ซึ่งกำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร์ที่ประกาศในปีสุดท้าย ก่อนปีที่มีการเลือกตั้งนั้น คำว่า ‘ราษฎร’ ไม่หมายรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย

เป็นคำวินิจฉัยที่ตรงใจประชาชน และหักหน้าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ใส่ต่างด้าวเข้ามาเป็นฐานคำนวณในการแบ่งเขตเลือกตั้งด้วย 

โดยให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลตั้งแต่วันนี้ (3 มี.ค.66) เป็นต้นไปตามพ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 76 วรรคหนึ่งและวรรคสาม และไม่มีผลย้อนหลังไปถึงการเลือกตั้งส.ส.ที่ผ่านมา

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของ กกต. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง(2) ว่า การคิดคำนวณจำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดจะพึงมี โดยนำจำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรตามที่สำนักทะเบียนกลางประกาศ ณ วันที่ 31 ธ.ค. ของปีที่ล่วงมามาใช้ในการคิดคำนวณจำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด ถูกต้องหรือไม่ เป็นการยื่นคำร้องหลังจากมีเสียงค้านอื้ออึงในการนำต่างด้านเข้ามาร่วมคำนวณการแบ่งเขตเลือกตั้งด้วย ทำนองว่า ต่างด้าวเกี่ยวอะไรกับการเมืองบ้านเรา และมีการร้องไปยัง กกต.บ้าง ร้องไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินบ้าง เพื่อให้ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และ กกต.ก็สุดจะทนแรงเสียดทาน หรือกลัวคุกก็ไม่ทราบได้ ตัดสินใจส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

ลูบคมนายหัวตรัง รทสช. ฉก 'หลีกภัย' ชน ปชป. จับตา 'โกหน่อ' ช่วยใคร?

พลันที่นายหัวชวน 'ชวน หลีกภัย' ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแฉว่า มีมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่วิ่งหาคนนามสกุล 'หลีกภัย' มาลงแข่งที่ตรัง ด้วยความอยากช่วยนายกฯ จึงต้องสืบค้นว่า นายตำรวจใหญ่คือใคร ไปทาบทามใคร

สนามการเมืองจังหวัดตรัง ถือเป็นเมืองหลวงของประชาธิปัตย์ ถิ่นกำเนิดของ 'ชวน หลีกภัย' ที่ทุกคนยอมรับในความซื่อสัตย์สุจริต เป็นนักการเมืองมือสะอาดคนหนึ่งของประเทศไทย ที่อยู่ยงคงกระพันบนเวทีการเมืองมาตั้งแต่ปี 2512 จนถึงปัจจุบัน และในการเลือกตั้งสมัยหน้ายังจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ หนุนหลัง 'จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์' หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แบบเต็มกำลัง

'ประชาธิปัตย์' ยึดครองสนามตรัง 3-4 ที่นั่งมายาวนาน เพราะชื่อชั้นของ 'นายหัวชวน' เป็นเครื่องหมายการค้า ที่ประชาชนยอมรับ ดังนั้น ไม่ว่าประชาธิปัตย์จะส่งใครลงสนามตรัง ประชาชนชาวตรังก็ยินดีที่จะเลือกให้เป็นผู้แทนโดยไม่มีข้อกังขา แต่ในการเลือกตั้งปี 2562 ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งของ 'นายหัวชวน' ถูกนักเลงดีจากพรรคพลังประชารัฐ 'นิพันธ์ ศิริธร' อดีตรองผู้ว่าฯ ตรัง มาแย่ง 'หมอสุกิจ' นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ส.ส.หลายสมัยจากประชาธิปัตย์ ปาดหน้าเข้าวินเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี ทำให้ประชาธิปัตย์ได้แค่ 2 ที่นั่งในจังหวัดตรัง จาก 3 ที่นั่ง

กล่าวสำหรับการเลือกตั้งในปี 2566 จ.ตรัง ได้ ส.ส.เพิ่มจาก 3 เขตเป็น 4 เขต โดยเขต 1 'นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์' ปฏิเสธลงสมัคร จึงไปคว้า 'นพ.ตุลกานต์ มักคุ้น' คนใกล้ชิดคนในครอบครัว 'หลีกภัย' ลงแทน ซึ่งในเขตนี้ 'พลังประชารัฐ' อาจจะส่ง 'กิตติพงษ์ ผลประยูร' อดีตที่ดินจังหวัดตรังลงแทน 'นิพันธ์ ศิริธร' ที่ทำท่าว่าจะไม่ไปต่อในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ในการเปิดตัวผู้สมัครของพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ยังปรากฏชื่อนิพันธ์ ศิริธร อยู่

ส่วนรวมไทยสร้างชาติ ฮึดสู้ในสนาม 'หลีกภัย' #นายหัวไทร ทราบว่า มีการส่งนายตำรวจใหญ่ชื่อเสียงโด่งดัง ไปทาบทาม 'ถนอมพงษ์ หลีกภัย' รองนายกเทศมนตรีนครตรัง' ให้มาลงสมัครรับเลือกตั้ง ผ่านกำนันคนดังเจ้าของบ้านทรงไทย นี่แหละคือประเด็นที่นายหัวชวน กล่าวถึง

เขต 2 ประชาธิปัตย์ยังคงส่ง 'เสี่ยตาล' สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.หลายสมัย อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงรักษาแชมป์ มี 'ทวี สุรบาล' เจ้าเก่าในนามพลังประชารัฐลงท้าชิง

เขต 3 ประชาธิปัตย์ส่ง 'สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ' ทายาทของ 'โกหน่อ' สมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต ส.ส.ตรังหลายสมัยลงรักษาแชมป์ โดยมี 'พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ เรืองนัฐพงษ์' ลงชิง และมี 'อำนวย นวลทอง' เพื่อนซี้โกหน่อ ลงประชันด้วยในนามรวมไทยสร้างชาติ

เขต 4 ประชาธิปัตย์ โดย 'โกหน่อ-สมชาย โล่สถาพรพิพิธ' หักด่านคนในตระกูล 'หลีกภัย' ผ่านผลโพลล์ไม่ส่ง 'สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล' เลขานุการประธานสภาฯ 'ชวน หลีกภัย' ซึ่งเคยเป็น ส.ส.เขตนี้ ส่ง 'สท.กานต์ ตั้งปอง' ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่น สายเลือดใหม่ลงในเขตนี้แทน เป็นเหตุให้ 'สมบูรณ์' ลาออกจาก 'ประชาธิปัตย์' และลงสมัครรับเลือกตั้งในนามรวมไทยสร้างชาติ 'พลังประชารัฐ' ส่ง 'พล.ต.ต.บรรลือ ชูเวทย์' อดีตผู้การจังหวัดตรัง ลงแข่ง

มันหยด!! อาญาสิทธิ์ (พปชร.) VS สิทธิรักษ์ (รทสช.) ชิงซีนวิสัยทัศน์ ในจังหวะ ‘บิ๊กตู่’ เยือนเมืองคอน

แม้ว่าเมื่อวานนี้ ‘นายหัวสิทธิ์’ หรือ ‘สิทธิรัก ทิพย์อักษร’ ใส่เสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้สวมเสื้อให้ด้วยตัวเองไปเรียบร้อยแล้วนั้น ก็ไม่ได้ทำให้ชายร่างเล็กผู้น่าจดจำอย่าง ‘อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ’ ส.ส.เจ้าของพื้นที่ตกอกตกใจสักเท่าไหร่ เพราะก็ได้เปิดตัวประกาศกร้าวขอรักษาแชมป์ ส.ส. จ.นครศรีธรรมราช เขต 3 ในนามพรรคพลังประชารัฐเหมือนเดิม 

อาญาสิทธิ์ ระบุว่า “เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ผมปฏิญาณตน ทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ตามที่พี่น้องได้เลือกให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่างลง เมื่อ 7 มีนาคม 2564”

นอกจากนั้นแล้ว นายอาญาสิทธิ์ ก็ยังเห็นว่านโยบายพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้นำมาเป็นนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันบริหารประเทศ ใช้แก้ไขปัญหาประชาชนได้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน จับต้องได้ เช่น ด้านสวัสดิการประชารัฐ โดยออกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รัฐบาลที่จัดตั้งโดยพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำได้บริหารประเทศด้วยนโยบายที่ทำได้จริง ถึงตัวตนประชาชนเป็นรูปธรรมชัดเจน ไม่รั่วไหล ประชาชนพึงพอใจ และพรรคพลังประชารัฐพร้อมเดินหน้าทำต่อไป ในส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ก็จะพัฒนาเพิ่มเติมและแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น

อาญาสิทธิ์ กล่าวอีกว่า “ผมมั่นใจในนโยบายแนวทางของพรรคพลังประชารัฐ ทั้งอุดมการณ์ นโยบายพรรค และคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งนำโดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ซึ่งท่านประกาศชัดเจนว่าจะนำนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ไปบริหารประเทศต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยพลังของประชาชนขับเคลื่อนสร้างพรรคพลังประชารัฐในระบอบประชาธิไตย ให้เป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง มีบุคคลกรการเมืองที่มีคุณภาพ สร้างเสริมการเมืองที่มีคุณธรรม ฟังความเห็นทุกฝ่าย รู้รักสามัคคี ให้อภัย นำประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยคำนึงถึงการกินดี อยู่ดี มีความสงบสุขของประชาชนและความมั่นคงของประเทศเป็นหลัก โดยการจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยของประชาชนชาวไทย ในระบอบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข”

“ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในระบบเขตเลือกตั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช ผมเชื่อว่าประชาชนชาวไทยยังต้องการนักการเมืองที่มีคุณธรรม คนนครศรีธรรมราช เป็นคนจริง รักใครรักจริง ชาวนครเป็นคนจริงใจ รักใครรักจริงไม่ทิ้งไม่ขว้าง “รักจังฮู้” ดังคำกล่าวที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวไว้ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช” อาญาสิทธิ์ กล่าว

อาญาสิทธิ์ ระบุเพิ่มอีกว่า ผมเป็นชาวตำบลสามตำบล อำเภอจุฬาภรณ์ นครศรีธรรมราช หมู่บ้านตำบลเล็ก ๆ ในชนบทซึ่งเป็นแหล่งก่อกำเนิดนักการเมือง นักสู้ทางความคิดที่มีชื่อลือเลื่องมายาวนาน เป็นสถานที่มีการต่อสู้ทางความคิดและอาวุธ ด้วยเหตุผลด้านการเมืองการปกครองที่สำคัญ และความโดดเด่นของเมืองใต้ คนที่กำเนิดในพื้นเพนี้ ภูมิใจในมาตุภูมิ หรือคำสมัยใหม่อาจเรียกว่า สิ่งบ่งชี้ทางภูมิประวัติศาสตร์การเมืองการปกครอง เรียกว่า ‘คนสามตำบล’ เป็นคนจริง และมีคุณธรรมประจำใจ มีน้ำใจต่อผู้อื่น มีความยุติธรรมประจำใจเป็นที่ตั้ง ไม่ข่มเหงรังแกผู้ที่อ่อนแอ พร้อมรับมือกับผู้ข่มเหงรังแกที่แข็งแกร่ง เสียชีพอย่าเสียความสัตย์ เป็นเรื่องปฏิบัติจริงของ ‘คนสามตำบล’ มีคำจารึกบนศิลาจารึก หุบเขาช่องคอยเตือนสติ ว่าถ้าคนดีมีอยู่ในหมู่บ้านของชนเหล่าใด ความสุขและผลก็จักมีขึ้นแก่ชนเหล่านั้น”

“ด้วยคุณธรรมของชาวนครฯ ร่วมด้วยคุณลักษณะของคนสามตำบล” ที่ผมยึดถือเหมือนคาถาที่คนโบราณ ยึดถือสัจจะหลักธรรมประจำตัว สิ่งที่ผมไม่กระทำต่อหน้าโดยตรง หรือด้วยเล่ห์ เพทุบาย ในอันที่จะ คิดคดทรยศประชาชน ทรยศต่อพรรคการเมืองที่สังกัด ทรยศต่ออุดมการณ์ นโยบายพรรคที่ได้ให้โอกาสมีบทบาททางการเมือง ทรยศผู้ร่วมอุดมการณ์ในพื้นที่เลือกตั้ง” อาญาสิทธิ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายอาญาสิทธิ์ยังกล่าวต่ออีกว่า “ผมจึงไม่หนีจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ตีจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ท่านผู้มีความตั้งใจทำความดีเพื่อชาติและประชาชนด้วยความเสียสละ รวมทั้งเพื่อนสมาชิกพรรคที่รักทุกคนและท่านที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นกรรมการบริหารพรรค ในท่ามกลางกระแสความนิยม ชื่นชมความดี นักการเมือง และพรรคการเมืองอื่น มากมายหลายพรรค” อาญาสิทธิ์ กล่าว

“เมื่อหมดวาระตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันนี้แล้ว ผมยังตั้งใจที่จะเป็นกำลังของพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบเขต ในจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมเป็นแขน-ขา อวัยวะส่วน เล็กๆ ของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะหยิบยื่นนำเสนอถึงอุดมการณ์ นโยบายพรรคพลังประชารัฐให้รับรู้ถึงหูของประชาชนด้วยความนอบน้อม จริงใจ”

“ผมยืนหยัดจะทำตามอุดมการณ์ ที่ผมเข้ามารับใช้ประชาชนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป ผมจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมเป็นกำลังกาย กำลังใจ กำลังขับเคลื่อนอุดมการณ์ และนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ร่วมกับผม ส.ส.นายอำเภออาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ต่อไป” อาญาสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย

ปชป. คว้า ‘ดร.ปิยกาญจน์’ ปักธงเมืองลุง เขต 2 มั่นใจ!! กระแสตอบรับดี - คนในพื้นที่ไว้วางใจ

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเปิดตัว 3 ผู้สมัครในจังหวัดพัทลุงในวันเสาร์ที่ 4 มีนาคม เวลา 15.00-20.00 น. ณ สนามกีฬาสิริวัณวลี อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุง 3 คน ประกอบด้วย เขต 1 คือ ‘สุพัชรี ธรรมเพชร’ อดีต ส.ส.จากตระกูลบ้านใหญ่ ที่ยังคงมั่นอยู่กับประชาธิปัตย์ 

เขต 2 คือ ‘ดร.ปิยกาญจน์ สุพรรณชนะบุรี’ หรือ ดร.เดย์ ลูกสาวของ สานันท์ สุพรรณบุรี อดีต ส.ส. 2 สมัย อดีตนายกฯ อบจ.พัทลุง 2 สมัย ได้วางมือทางการเมืองไปแล้ว 

ส่วนเขต 3 ก็เป็น ‘นริศ ขำนุรักษ์’ ส.ส. 5 สมัยของพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ปัจจุบันเป็นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย

ส่วนแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะมาร่วมเวทีเปิดตัวผู้สมัคร และปราศรัย เบื้องต้นประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค, นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ผอ.เตรียมการเลือกตั้ง, นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รองหัวหน้าพรรคภาคใต้, ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ และนายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรค

เขตเลือกตั้งโซน 'ชะอวด-จุฬาภรณ์' นครศรีฯ ในจังหวะที่ กกต. อาจต้องแบ่งเขตใหม่หมด

กล่าวถึงเขตเลือกตั้งโซน 'ชะอวด-จุฬาภรณ์' ซึ่งอาจจะหมายรวมถึง หัวไทร, เชียรใหญ่, เฉลิมพระเกียรติ, พระพรหม และร่อนพิบูลย์ด้วย ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะแบ่งเขตออกมาอย่างไร?

ยิ่งถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินชี้ขาดว่าให้ตัดต่างด้าวออกไปจากระบบคำนวณแบ่งเขต กกต.ก็ต้องไปแบ่งเขตใหม่หมด เพราะ ส.ส.นครศรีธรรมราชจะเพิ่มขึ้นเป็น 10 คนโดยบัดดล จากปัจจุบันที่มีอยู่ 8 คน และจะเพิ่มเป็น 9 คน ตามฐานจำนวนประชากร

กล่าวสำหรับเขตเลือกตั้งโซนชะอวด, จุฬาภรณ์, พระพรหม และเฉลิมพระเกียรติ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 เทพไท เสนพงศ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ คว้าชัยเดินเข้าสภา แต่เมื่อเทพไทถูกศาลตัดสินจำคุก และตัดสิทธิ์ทางการเมือง ครั้นเมื่อมีการเลือกตั้งซ่อม 'อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ' จากพรรคพลังประชารัฐ กลับมาเป็นฝ่ายชนะจากที่เคยแพ้ให้เทพไท

กล่าวสำหรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในปี 2566 นี้ เราเอาสมมุติฐานว่า เขตเลือกตั้งไม่เปลี่ยนแปลงมากนักแน่นอนว่า 'อาญาสิทธิ์' ยังอยู่พรรคเดิมพลังประชารัฐ โดยมีคู่แข่งที่ปรากฏตัวชัดแล้ว เช่น ณัฐกิตติ์ หนูรอด จากพรรคภูมิใจไทย คนถิ่นฐานควนเคร็ง อดีตปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง ที่ตัดสินใจลาออกจากราชการก่อนเกษียณเพื่อลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. อีกคนที่เผยโฉมตามมาคือ 'สิทธิรัก ทิพย์อักษร' แห่งชมรมสำนึกรักบ้านเกิด ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่พงศ์สิน เสนพงศ์ น้องชายของเทพไทหลีกทางให้ 'นายหัวสิทธิ์' ก็ไม่ธรรมดา มีเครือข่ายมาก ทำงานช่วยเหลือสังคมมาไม่น้อย

‘พปชร.’ เมืองคอนส่อวุ่น ปมแย่งพื้นที่เลือกตั้ง ‘ข่มเหง-ไล่เจ้าที่เดิม’ จากเขต 1 ให้ไปลงเขต 2

มีรายงานว่า ร.ศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.เขต 1 นครศรีธรรมราช ยืนยันกับทางพรรคพลังประชารัฐไปแล้วว่า ยังประสงค์จะลงเขต 1 เหมือนเดิม แต่มีนางสุภาพ ขุนศรี ที่สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐอีกคนประสงค์จะลงเขต 1 เช่นกัน เนื่องจากทำพื้นที่เขต 1 มาตลอด และในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นางสุภาพลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทย แข่งกับ รศ.ดร.รงค์มาแล้ว และแพ้ให้กับ รศ.ดร.รงค์

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เดินทางไปทำกิจกรรมทางการเมืองในจังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ไม่ได้เชิญ ไม่ได้แจ้ง รศ.ดร.รงค์ ในฐานะ ส.ส.ในพื้นที่ให้เข้าร่วมด้วย แต่ที่น่าสนใจบนเวทีมีการกล่าวพาดพิงและวิจารณ์ รศ.ดร.รงค์อย่างรุนแรงต่อหน้า ดร.นฤมลที่นั่งอยู่ในฐานะประธานและยังมีการพูดทำนองว่า รศ.ดร.รงค์ควรจะไปลงเขต 2 เพราะบ้านอยู่ในพื้นที่เขต 2

ช่วงเช้าของวันนี้ (วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ) มีรายงานข่าวว่า นางสุภาพ ขุนศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 2 นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยสุนทร รักษ์รงค์ ว่าที่ผู้สมัครอีกคนของพรรคพลังประชารัฐในจังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางไปยื่นรายชื่อสนับสนุนให้ใช้รูปแบบที่ 3 ในการแบ่งเขตเลือกตั้ง

ความทราบถึงนักข่าวแล้วว่า รศ.ดร.รงค์ มีปัญหาพื้นที่เลือกตั้งทับซ้อนกับนางสุภาพ ขุนศรี เมื่อสุภาพเจอกับนักข่าวคำถามเรื่องความขัดแย้งพื้นที่เลือกตั้ง จึงถูกยิงเข้าใส่สุภาพทันที

ชัดเจนครับ สุภาพยืนยันว่า ตนไม่ขอลงเขต 2 เนื่องจากไม่เคยเดินมาก่อน และเขตที่ตนเดินและคุ้นชินคือ พื้นที่ เขต 1 ที่เป็นของ รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ซึ่งเป็นคู่แข่งของตนสมัยที่แล้ว

ตนตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิก พปชร. และ ประสงค์ลงสมัคร สส.ในนาม พปชร.แต่ยังไม่ชัดเจนในเขตเลือกตั้ง ถ้าจะให้ดี ควรให้ รศ.ดร.รงค์ ไปลงเขตอื่นแทน เพื่อที่ตนจะลงเขต 1 แต่หาก รศ.ดร.รงค์ ยังลงเขตเดิมตนก็จะไม่ลงสมัคร ส.ส.อย่างแน่นอน

วัดพลังสองพรรคใหญ่ 'ประชาธิปัตย์-ภูมิใจไทย' ต่างคนต่างมั่นใจ ในศึกชิงเก้าอี้ ส.ส.เมืองคอน

ช่วงวันที่ 11-12 ก.พ.66 ที่ผ่านมา สองพรรคการเมือง อย่าง ประชาธิปัตย์ และ ภูมิใจไทย ได้จัดกิจกรรมทางการเมืองพร้อมกัน และเป้าหมายเดียวกัน คือ ส่งขุนพลลุยเมืองคอน เป้าหมายยึดฐานเมืองคอนให้ได้ ดังนี้...

- ประชาธิปัตย์ขนขุนพลไปเปิดสัมมนาผู้สมัครจากภาคใต้ทั้งหมด 58 เขตเลือกตั้ง 'จุรินทร์' ลั่นหวังกวาดยกจังหวัด 9 ที่นั่ง 

- ภูมิใจไทย จัดกิจกรรมอบรมว่าที่ผู้สมัคร โฆษกบนเวทีเกี่ยวกับทักษะการพูดในที่ชุมชน การเตรียมตัวปราศรัย สองวันเต็มอิ่มกับวิทยากรจากรายการสภาโจ๊ก ด้าน 'อารี ไกรนรา' ลั่น!! มั่นใจ-พร้อม 100% เตรียมเปิดตัวผู้สมัคร และเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ 26 กุมภาพันธ์นี้ เชื่อปักธงภูมิใจไทยในเมืองคอนได้แน่นอน

- นิด้าโพลสำรวจคนคอน ยังเลือกลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 ตามด้วยอุ๊งอิ๊ง ส่วนพรรคการเมือง ยังเป็นประชาธิปัตย์มาอันดับ 1 แต่น่าแปลกใจ เลือกเพื่อไทยมาอันดับ 2

>> ปรากฏการณ์แรก
'จุรินทร์' เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ 58 เขตครบ มั่นใจกวาดเรียบ

เมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 11 ก.พ.2566 ที่โรงแรมทวินโลตัส อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้สพรรค ปชป.ได้เดินทางมาเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ของภาคใต้ 14 จังหวัดภาคใต้ ครบทั้ง 58 เขต 58 คน โดยมีแกนนำพรรคปชป.ประกอบด้วยนายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน, นายนิพนธ์ บุญญามณี, นายเดชอิศน์ ขาวทอง มาร่วมเปิดตัวในครั้งนี้ด้วย

นายจุรินทร์ ได้แถลงว่าพรรคประชาธิปัตย์ถือว่าเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่อยู่คู่กับประเทศชาติมายาวนานมีขึ้นมีลงบ้างเป็นธรรมดาของพรรคการเมืองทุกยุคทุกสมัย วันนี้พรรคประชาธิปัตย์พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนของภาคใต้ทั้ง 58 เขต วันนี้พรรคประชาธิปัตย์พร้อมแล้วในการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคใต้ทั้ง 58 เขตเลือกตั้งและมั่นใจจะสามารถกวาดคว้าชัยชนะหมดทั้ง 58 เขต

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีการเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครในพื้นที่ภาคใต้ ครบทั้ง 58 เขตเลือกตั้ง ถือเป็นพรรคแรกของประเทศ ที่แสดงความพร้อมของกับการเสนอตัวรับใช้ประชาชนในภาคใต้ จากเดิมเมื่อปี 2548 ทางพรรคฯ ส่งผู้สมัครไปแค่ 53 เขต ได้รับการเลือกตั้งมากถึง 51 เขต ในสมัยนายบรรทัดฐาน นั่งดำรงตำแหน่ง หน.พรรคฯ การเลือกตั้งสมัยหน้า ขอประกาศว่า พรรค ปชป.พร้อมสู้ทุกเขต พร้อมคัมแบ็คทั้ง 58 เขตเลือกตั้ง และในวันนี้ทางพรรคฯ ได้เสนอทางเลือกที่ดีที่สุดกับคนภาคใต้ ยืนยันได้จากจำนวน ส.ส.จำนวน 18 คน ที่ยังคงเป็นตัวแทนชาวบ้านอยู่ในตอนนี้ และรวมไปถึงบุคคลที่เป็นรัฐมนตรี และ อดีตรัฐมนตรี ทั้ง 4 คน ไม่ว่าจะเป็น นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ, นายสาธิต วงค์หนองเตย, นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพานิชย์ 

ทางพรรคฯ ไม่มีความหวั่นไหว และมั่นใจว่ายังครองใจคนภาคใต้ได้อยู่ ขอให้คนภาคใต้ช่วยกันสนับสนุน ลงคะแนนเลือก พรรคที่เคียงข้างประชาชน มาตลอดเวลา 76 ปี และในฐานะ ที่ตนเองก็เป็นคนภาคใต้ มีจิตวิญญาณคนใต้ ที่จะนำ พรรค ปชป.กลับคืนสู่ประชาชนต่อไป

>> ปรากฏการณ์ที่ 2
'อารี ไกรนรา' จัดอบรมทักษะการพูด-การปราศรัยให้กับว่าที่ผู้สมัคร-โฆษกบนเวที เตรียมเปิดต้ว 9 ผู้สมัครภูมิใจไทยเมืองคอน และปราศรัยใหญ่ เป็น 26 กุมภาพันธ์ เจอกันที่ทุ่งท่าลาด

สงคราม 'ข่าวลือ' ว่อน!! ใต้ลมการเมืองเปลี่ยน เกมป่วนประสาทคู่แข่ง ที่ไร้ความสร้างสรรค์

ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดข่าวลือมากมาย ข่าวจริงก็เยอะ แต่ก็ยากที่จะกลั่นกรอง ซึ่งข่าวลือที่เกิดขึ้นอาจจะมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน บางคนต้องการสะท้อนมุมมองทางสังคมในเวลานี้ว่าเป็นอย่างไร บางคนต้องการโยนประเด็นเพื่อหาคำตอบ แต่มีบางคนปล่อยข่าวหวังผลทางการเมือง บิดเบือน ทำลาย

ช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีการปล่อยข่าวออกมาว่า ‘แทน-ชัยชนะ เดชเดโช’ ส.ส.นครศรีธรรมราช รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ได้ลงสมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์แล้ว เนื่องจาก ‘จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์’ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่พอใจ ส.ส.แทนในบางเรื่องบางประเด็น

นายหัวไทร ก็ยกหูหาเจ้าตัวโดยตรง แทนบอกว่า มันเป็นไปไม่ได้ ไม่เป็นความจริง จะเป็นไปได้ไง ผมเป็นแกนนำประชาธิปัตย์ในนครศรีธรรมราช และเป็นกรรมการบริหารพรรค

ไม่ใช่แค่นั้น เพียงสองอาทิตย์คล้อยหลังก็มีการปล่อยข่าวออกมาอีกว่า แกนนำคนสำคัญสองคนของพรรคประชาธิปัตย์ในจังหวัดนครศรีธรรมราช จะไปลงสมัครในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ

“เป็นการปล่อยข่าว บิดเบือน จ้องทำลายของพรรคการเมืองบางพรรค ที่เขาเองยังไม่ลงตัว ผมอยากเรียกร้องให้ยุติการปล่อยข่าวทำลาย บิดเบือน มาทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์กันดีกว่า” แทน กล่าว

หลังจากนั้น ส.ส.แทนก็ออกแถลงการณ์ย้ำจุดยืนเดินในการเดินหน้าไปสู่สนามเลือกตั้ง พร้อมว่าที่ผู้สมัครอีก 8 คน และแถลงข่าวย้ำอีกครั้งที่รัฐสภา

นายหัวไทร ยกหูไปหา ‘นิพนธ์ บุญญามณี’ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็กล่าวยืนยันเช่นกันว่า เป็นไปไม่ได้ที่แทนจะไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ และในพรรคก็ไม่มีการหารือกันถึงเรื่องนี้

ข่าวลือยังมีการปล่อยกันถึงขั้นว่า ‘ชำนิ ศักดิเศรษฐ์’ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ และมีฐานะเป็นน้าของ ส.ส.แทน ได้นำ ส.ส.แทน ไปจับเข่าคุยกับจุรินทร์แล้ว คุยกันรู้เรื่องแล้ว

ทั้งหมดนี้เป็นข่าวลือเกี่ยวกับ ส.ส.แทนกับพรรคประชาธิปัตย์ในนครศรีธรรมราช วงน้ำชา-กาแฟ ถกกันแต่เรื่องนี้เป็นด้านหลัก แม้แทนจะรับบทเป็นเจ้าภาพใหญ่ในการจัดประชุมว่าที่ผู้สมัครในภาคใต้ทั้งหมดระหว่าง 11-12 กุมภาพันธ์นี้ที่ รร.ทวิลโลตัส จ.นครศรีธรรมราช ข่าวลือเหล่านี้ก็ยังไม่จางหายไปเสียทีเดียว


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top