Friday, 4 July 2025
ECONBIZ NEWS

“โฆษกรัฐบาล” ฟุ้ง เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยแข็งแกร่ง เผย ทุนสำรองระหว่างประเทศ ถึงเดือนม.ค.กว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯยัน มีเงินคงคลังพอใช้จ่าย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจ ว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจ ชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทย มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งด้านฐานะการคลังและฐานะการเงิน โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะ สิ้นเดือนธ.ค. 2564 อยู่ที่ร้อยละ 59.88 ต่อจีดีพี โดยอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง  ทุนสำรองระหว่างประเทศถึงสิ้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 242,772.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  และมีสัดส่วนทุนสำรองระหว่างประเทศ ต่อหนี้ต่างประเทศระยะสั้น สูงถึง 3 เท่า ดุลบัญชีเดินสะพัดปี 2565 คาดว่าจะกลับมาเกินดุลได้เล็กน้อยตามการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ดังนั้นรัฐบาลยังมีเงินคงคลังเพียงพอต่อการใช้จ่ายที่จำเป็น และความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลยังอยู่ในเกณฑ์ดี 

นายธนกร กล่าวว่า วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อตลาดหลักทรัพย์ไทย ในช่วงที่ผ่านมายังค่อนข้างน้อยและเป็นไประยะสั้น โดยปกติตลาดหลักทรัพย์จะมีความผันผวนตามสถานการณ์ ทั้งในเชิงบวกและเชิงลบเกิดขึ้นเป็นระยะ นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา สถานะเงินทุนสุทธิของนักลงทุนต่างชาติไหลเข้าในตลาดหลักทรัพย์ที่ 81,356.8 ล้านบาท สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทยังคงมีความแข็งแกร่ง เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาทิศทางค่าเงินบาทโดยรวมยังปรับตัวแข็งค่าขึ้นที่ร้อยละ 2.10 จากต้นปี 2565 จากแผนการเปิดประเทศและตามสถานะเงินลงทุนสุทธิของนักลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้าในตลาดหลักทรัพย์และตลาดพันธบัตรไทย ด้านการส่งออก ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา พบว่าการส่งออกในเดือนนี้ขยายตัว 8 เปอร์เซ็นต์ หรือมีมูลค่า 21,258.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  ส่วนมูลค่านำเข้าขยายตัว 20.5 เปอร์เซ็นต์ หรือมีมูลค่า 23,785 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

นายธนกร กล่าวว่า การส่งออกของไทย ขยายตัวเป็นบวกในเดือนแรก มาจากความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในรูปแบบ กรอ.พาณิชย์  รวมถึงการฟื้นความสัมพันธ์การค้าระหว่างซาอุดีอาระเบีย และประเมินว่า ปัญหาสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนจะยังไม่กระทบกับการส่งออกไทยในช่วงเดือนก.พ.เนื่องจาก รัสเซียและยูเครน ไม่ใช่ประเทศคู่ค้าหลักของไทย โดยปี 2564 ไทยได้ส่งออกสินค้าไปรัสเซีย และยูเครน มูลค่า 32,507.68 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.38 ของมูลค่าการส่งออกรวม และ 4,228.78 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.05 ของมูลค่าการส่งออกรวม หรือเป็นประเทศคู่ค้าลำดับที่ 36 และ 74 ของไทย ตามลำดับ ด้านการนำเข้าสินค้า จากรัสเซียและยูเครน มีมูลค่า 55,659.65 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 0.65 ของมูลค่านำเข้ารวม และ 8,199.64 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.09 ของมูลค่าการนำเข้ารวม ตามลำดับ หรือคิดเป็นประเทศคู่ค้าด้านการนำเข้าลำดับที่ 26 และ 57 ของไทย 

 

กนอ. เผย ญี่ปุ่น ไม่ทิ้งฐานการผลิตในไทย!! พร้อมทุ่มลงทุนอีอีซีต่อเนื่อง มุ่งอุตฯ ยานยนต์ไฟฟ้า

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้ร่วมประชุมกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) ซึ่งมีการนำผลการสำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยของหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพ (JCCB) มาหารือ พบว่า อุตสาหกรรมที่บริษัทญี่ปุ่นสนใจลงทุนในพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มากที่สุดถึง 49% คือ ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์สมัยใหม่ 

นอกจากนี้ 37% ยังระบุด้วยว่า สนใจที่จะลงทุนต่อไป แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่มีอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ค่าดัชนีแนวโน้มเศรษฐกิจ (Diffusion Index) ของ JCCB ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ที่ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 41 จากเดิมช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ที่อยู่ที่ 14 โดยขึ้นสูงสุดในรอบ 9 ปี ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (Minister of Economy, Trade and Industry) หรือ เมติ ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อหารือถึงแนวทางการลงทุนใหม่ๆ โดยญี่ปุ่นมีแผนการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศส่งเสริมการใช้และผลิตรถยนต์อีวี ปักหมุดการเป็นตลาดระดับโลก รวมถึงเป็นฐานการลงทุนขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ที่ทันสมัย

ส่งออกม.ค.บอก 8% จับตาสงครามยูเครน-รัสเซีย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกเดือนม.ค.65 มีมูลค่า 21,258.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 8% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 708,312 ล้านบาท ซึ่งถือว่ายังขยายตัวได้ดี เมื่อเทียบกับม.ค.2564 ที่ขยายตัวแค่ 0.1% โดยมีปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนให้การส่งออกเดือนม.ค.2565 เป็นบวกถึง 8% เพราะมีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชน ที่เดินหน้าต่อไปอย่างเข้มข้น ภาคการผลิตทั่วโลกยังขยายตัว และปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์เริ่มดีขึ้น 

สำหรับตลาดที่ขยายตัวสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.อินเดีย เพิ่ม 31.9% 2.รัสเซีย เพิ่ม 31.9% 3.สหราชอาณาจักร เพิ่ม 29.7% 4.เกาหลีใต้ เพิ่ม 26.8% 5.สหรัฐฯ เพิ่ม 24.1% 6.แคนาดา เพิ่ม 13.6% 7.อาเซียน 5 ประเทศ เพิ่ม 13.2% 8.จีน เพิ่ม 6.8% 9.ลาตินอเมริกา เพิ่ม 5.0% 10.สหภาพยุโรป เพิ่ม 1.4% ขณที่ยอดการนำเข้ามีมูลค่า 23,785 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.5% ซึ่งเป็นผลมาจากการนำเข้าวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิต และการนำเข้าน้ำมันที่ราคาสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยขาดดุลการค้าในเดือนม.ค.65 คิดเป็นมูลค่า 2,526.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กกร.ปรับจีดีพีไทยใหม่ปีนี้โตแค่ 2.5-4.5%

นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ส่งผลให้กิจกรรมเศรษฐกิจช่วงต้นปีชะลอตัวเล็กน้อย แต่ผลกระทบโดยรวมคาดว่าไม่รุนแรง ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังสามารถดำเนินต่อไปได้ตามปกติ โดยกกร. ได้ปรับกรอบประมาณการเศรษฐกิจปี 2565 ใหม่ เป็น 2.5-4.5% จากเดิม 3.0-4.5% และคงการส่งออกโต 3-5% และปรับอัตราเงินเฟ้อจาก 1.5-2.5% เป็น 2-3%

ส่วนความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน รุนแรงและยืดเยื้อกว่าที่คาด และมีแนวโน้มเผชิญหน้ากันมากขึ้น ซึ่งทำให้ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้นมาก โดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นสูงสู่ระดับ 100 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น และกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในภาพรวม

อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งในหลายด้าน ทั้งเงินเฟ้อ การส่งออก รวมถึงการท่องเที่ยว โดยเงินเฟ้อมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นมากตามทิศทางราคาพลังงาน โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอาจสูงกว่าระดับ 3% ซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์และกำลังซื้อในประเทศ ขณะที่การส่งออกได้รับผลกระทบทางตรงจากตลาดรัสเซียและยูเครนไม่มาก เนื่องจากไม่ใช่คู่ค้าหลัก แต่อาจจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจคู่ค้าอื่นที่ชะลอลง โดยเฉพาะสหภาพยุโรป

‘ออริจิ้น’ เปิดแผนธุรกิจ 3 ปี ปั้นบริษัทลูก ดันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ สร้างอาณาจักรแสนล้าน

‘ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้’ เปิดแผนธุรกิจ 3 ปี โตแบบพหุจักรวาล ‘Origin Multiverse’ ชู 3 ขั้นตอน Expanding-Growing-Connecting ปั้นธุรกิจโลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ประกันภัย พลังงาน การเงิน ร้านอาหาร กัญชง ดันบริษัทลูกเข้าจดทะเบียน ตลท. สร้าง Market Cap แสนล้านในปี 68 

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า ในปี 65 นี้ บริษัทเตรียมสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยแผนการดำเนินงานภายใต้แนวคิด ‘ORIGIN MULTIVERSE’ หรือแผนการเติบโตแบบพหุจักรวาล ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การขยายธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นการต่อยอดการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ไปสู่ธุรกิจใหม่ 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย กลุ่มธุรกิจสร้างรายได้ประจำ กลุ่มธุรกิจบริการ และกลุ่มเมกะเทรนด์ระยะยาว โดยทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจนี้ ประกอบด้วย ธุรกิจย่อยที่ทยอยเปิดตัวตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เช่น โลจิสติกส์ เฮลท์แคร์ ประกันภัย พลังงาน การเงิน ร้านอาหาร กัญชง และยังอาจมีจักรวาลย่อยๆ และจะทยอยเพิ่มขึ้นในอนาคต

ขั้นตอนที่ 2 คือแยกกันเติบโตแบบคู่ขนาน เพื่อให้ทุกบริษัทย่อยมีเส้นทางการเติบโตแบบคู่ขนานในธุรกิจของตัวเอง ผ่านการจัดทัพผู้บริหารมืออาชีพในธุรกิจนั้นๆ และยังมีแผนจะผลักดันให้บริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยในปีนี้จะนำร่องเข้าจดทะเบียนด้วย บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด และบริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด บริษัทร่วมทุนกับบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้นำบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) เข้า IPO ไปแล้วในช่วงปลายปี 64 คาดว่าภายในปี 68 ออริจิ้นและทุกบริษัทที่เข้าจดทะเบียนจะกลายเป็นอาณาจักรที่มีมูลค่าตลาดรวมกันมากกว่า 1 แสนล้านบาท

ครม. เคาะ MOU แรงงานไทย-ซาอุฯ คาด 7 มี.ค.นี้ ทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมลงนาม

ครม. เห็นชอบร่างข้อตกลงแรงงานไทย-ซาอุดีอาระเบีย ต่อยอดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย-ซาอุฯ พร้อมขยายตลาดแรงงานไทยในตะวันออกกลาง

1 มีนาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม. เห็นชอบร่างข้อตกลงด้านแรงงานระหว่างกระทรวงแรงงานกับกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งซาอุดีอาระเบีย จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงาน และร่างข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงานทำงานบ้าน โดยอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามข้อตกลงในนามของฝ่ายไทย ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบีย หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย

ทั้งนี้ ร่างข้อตกลงแรงงานทั้ง 2 ฉบับ มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อสร้างความมั่นใจในการจัดหาแรงงานไทย (แรงงานทั่วไป/แรงงานที่ทำงานบ้าน) ไปทำงานในซาอุดีอาระเบียอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีจริยธรรม และมีประสิทธิภาพ คุ้มครองสิทธิของนายจ้างและลูกจ้าง โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันดำเนินการนำไปสู่ระบบที่เป็นที่ยอมรับ ทั้งการจัดหาแรงงาน การจัดส่งแรงงานไปทำงาน และการส่งแรงงานกลับประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดหาแรงงานเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและมีจริยธรรม ซึ่งแรงงานและนายจ้างจะมีสิทธิรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ และสามารถดำเนินมาตรการทางกฎหมายกับสำนักงานจัดหางาน บริษัทจัดหางาน หรือตัวแทนจัดหางาน ในกรณีละเมิดกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อกำหนดที่ใช้บังคับ

รัสเซียขึ้นดอกเบี้ยรวดเดียว 9.5% เป็น 20% จี้ พาณิชย์เตรียมรับมือของแพงระลอกใหม่

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีธนาคารกลางรัสเซียเพิ่มอัตราดอกเบี้ยกว่าเท่าตัวว่า เมื่อวานธนาคารกลางรัสเซียได้ประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายกว่าเท่าตัว จาก 9.5% เป็น 20% โดยส่วนตัวไม่เคยเห็นประเทศระดับนี้ทำเช่นนี้มาก่อน สะท้อนถึงระดับวิกฤตในสถานะการเงินของรัสเซีย ก่อนหน้านี้ค่าเงินรูเบิลได้ปรับลดลงไปถึง 30% ในวันเดียว และมีชาวรัสเซียแห่ถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารตลอดทั้งวัน ซึ่งนอกจากการที่หลายธนาคารของรัสเซียถูกถอนออกจากระบบโอนเงิน SWIFT แล้ว ที่เจ็บไม่แพ้กันคือการระงับการเข้าถึงเงินสำรองระหว่างประเทศ (ในส่วนที่อยู่ต่างประเทศ) ที่รัสเซียอุตส่าห์สะสมไว้กว่า USD 600,000 ล้าน เป็นสาเหตุที่รัฐบาลรัสเซียมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการแปลงเงินดอลลาร์ในมือเป็นเงินรูเบิล สะท้อนถึงการขาดแคลนเงินดอลลาร์อย่างชัดเจน!

เที่ยวบินฟื้นสัมพันธ์!! ต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากซาอุฯ ฟื้นความสัมพันธ์หลังหยุดบินมาไทย 32 ปี

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์สายการบิน Saudi Arabian Airlines ฟื้นความสัมพันธ์ “ไทย - ซาอุดีอาระเบีย” หลังจากไม่ได้ทำการบินมายังประเทศไทยเป็นเวลา 32 ปี 

28 ก.พ. 65 นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 18.05 น. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ให้การต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เส้นทาง กรุงริยาด - ทสภ. โดยสายการบิน Saudi Arabian Airlines เที่ยวบิน SV846 ซึ่งถือเป็นเที่ยวบินประวัติศาสตร์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียมีเส้นทางการบินมายังประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากไม่ได้ทำการบินมายังประเทศไทยเป็นเวลา 32 ปี 

อย่างไรก็ตามโดยในส่วนของ ทสภ. ได้จัดให้มีอุโมงค์น้ำ (Water Salute) ต้อนรับในช่วงที่เครื่องบินกำลังเคลื่อนตัวเข้าหลุมจอด G5 พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ร่วมต้อนรับกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รวมทั้งจัดของที่ระลึกพิเศษมอบให้แก่ผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบินดังกล่าว

นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า สำหรับการอำนวยความสะดวกต้อนรับผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวในวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดย ทสภ. ได้มีการประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (COVID-19) ทสภ., ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ, กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2, สำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, เจ้าหน้าที่โรงแรม และสายการบิน Saudi Arabian Airlines ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ เพื่อร่วมอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่เดินทางมากับเที่ยวบินจำนวน 56 คน 

รัฐบาลสั่งหาทางแก้ปัญหาราคาไข่ปรับเพิ่ม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเชิญสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ หารืออีกครั้งเพื่อหาทางออกร่วมกันถึงกรณีที่ราคาไข่สูงขึ้นให้เกิดผลดีที่สุดทั้งเกษตรกรและฟาร์ม ผู้รวบรวมไข่ รวมทั้งผู้บริโภคว่าทำอย่างไรให้สมดุลที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตามในตอนนี้ถือว่าราคาไม่ได้สูงเกินสมควรเพราะราคากำกับที่ 3.50 บาท/ฟอง แต่ราคาเฉลี่ยปัจจุบันยังอยู่ที่ 3.29 บาท/ฟอง

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ขอนำเสนอมาตรการเพื่อที่จะให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจในภาวะที่ค่าครองชีพสูงและเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ดังนี้ มาตรการในส่วนของสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และซัพพลายเออร์ในภาคีเครือข่าย โดยขอให้ตรึงราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น ซึ่งสมาคมฯ และซัพพลายเออร์ในภาคีเครือข่ายยืนยันที่จะตรึงราคาสินค้าฯ จนถึงจบไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 ทั้งนี้ นโยบายการตรึงราคาจะมีการประเมินเป็นรายไตรมาส

ก.ท่องเที่ยวฯตั้งเป้ารับนักท่องเที่ยวซาอุปีนี้ 2 แสน  

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากซาอุดิอารเบีย รอบแรกวันที่ 28 ก.พ. ที่ยอดน้อยกว่าที่วางเป้าไว้ว่า เป็นเพราะนักท่องเที่ยวยื่นเอกสารไม่ผ่านและที่จริงแล้วตามกำหนดการเที่ยวบินแรกเขาควรมาในเดือน พ.ค. แต่จากกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมได้เชื่อมสัมพันธุ์ไมตรีหลังเว้นว่างมากว่า 32 ปี เราได้รับการตอบรับจากรัฐบาลซาอุดิอาระเบียเขาจึงส่งนักท่องเที่ยวเที่ยวประฐมฤกษ์มาเร็วกว่าที่คิดไว้

เราก็ขอขอบคุณรัฐบาลของทางซาอุ เมื่อวันที่ 28 ก.พ. มาได้เพียง 71 คนซึ่งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เราก็ต้อนรับอย่างสมเกียรติสมฐานะ เที่ยวบินที่เข้มมามีการยิงม่านน้ำ ตนและปลัดกระทรวงฯได้ให้การต้อนรับ หวังว่าจากนี้จะมีเที่ยวบินจากซาอุดิอารเบียสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จากการหารือและพูดคุยนักท่องเที่ยวชาวซาอุต้องการมาเที่ยวที่ไทยจำนวนมาก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top