Thursday, 27 March 2025
ECONBIZ NEWS

'หุ้นเจียไต๋' พุ่ง 200% สูงสุดในรอบ 7 ปี หลัง 'เจ้าสัวธนินท์' พบ 'แจ็ค หม่า' ที่ฮ่องกง

เมื่อวานนี้ (1 ก.พ. 66) ราคาหุ้นของบริษัท เจียไต๋ เอ็นเทอร์ไพรส์ อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทในเครือของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ซึ่งเป็นอภิมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของไทย และเป็นประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ พุ่งขึ้นกว่า 200% หลังมีข่าวว่า 'เจ้าสัวธนินท์' พบ 'แจ็ค หม่า' ที่ฮ่องกง

ทั้งนี้ ราคาหุ้นเจียไต๋ทะยานขึ้น 251.88% ทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี หลังฮ่องกง อิโคโนมิก ไทม์ส รายงานว่า นายธนินท์ พร้อมกับบุตรชายทั้งสามได้พบกับ นายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งบริษัทอาลีบาบา ที่ฮ่องกงในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยคาดว่าทั้งสองฝ่ายมีการหารือเกี่ยวกับการลงทุนทางธุรกิจร่วมกัน

'บิ๊กตู่' หนุนความร่วมมือ 'ไทย-ญี่ปุ่น' ต่อยอดการค้า การลงทุน 'ระดับท้องถิ่น-นิคมฯ'

(1 ก.พ. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ภายหลังกระทรวงอุตสาหกรรมลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่น โดยเน้นย้ำให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนบูรณาการการทำงานร่วมกัน ผลักดันความร่วมมือด้วยการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจทั้งในระดับท้องถิ่นไปจนถึงนิคมอุตสาหกรรมเพื่อต่อยอดการค้าการลงทุนให้ไทยเป็นฐานการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในอนาคต

นายอนุชา กล่าวว่า การลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่น จังหวัดอิชิกาวะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล อุตสาหกรรมเส้นใยและสิ่งทอ อุตสาหกรรมการผลิตอาหาร และอุตสาหกรรมเกษตร และถือเป็นรัฐบาลท้องถิ่นแห่งที่ 23 ที่ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม จะเป็นตัวแทนหลักในการประสานความร่วมมือในลักษณะพื้นที่ต่อพื้นที่เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของคู่ค้า

สรุปสถานการณ์ตลาดน้ำมันสัปดาห์ที่ 23 - 27 ม.ค. 66 จับตาปัจจัย ‘บวก-ลบ’ พร้อมแนวโน้ม 30 ม.ค - 3 ก.พ.66

ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกฟื้นตัว จากจีน อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ นำเข้าน้ำมันดิบในเดือน พ.ย.65 รวมเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า อยู่ที่ 21.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยเฉพาะจีนหลังผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 และเปิดประเทศ โดยองค์การสหประชาชาติ (United Nations: UN) คาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของจีนในปี 66 จะขยายตัวอยู่ที่ +4.8% จากปีก่อนหน้า

สัปดาห์นี้คาดว่าราคา ICE Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 85 - 90 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ด้านปัจจัยเคลื่อนย้ายเงินทุนคาดว่าจะมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้นหลังการประชุมนโยบายการเงิน Federal Open Market Committee (FOMC) ของสหรัฐฯ วันที่ 31 ม.ค. - 1 ก.พ. 66 โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งละ 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.0% ในการประชุมวันที่ 31 ม.ค. - 1 ก.พ. 66 และวันที่ 15 - 16 มี.ค. 66 และจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวจนถึงปลายปี 66

จับตามาตรการกำหนดเพดานราคา (Price Cap) น้ำมันสำเร็จรูปรัสเซียซึ่งขนส่งทางทะเล วันที่ 5 ก.พ. 66 โดยกลุ่มชาติมหาอำนาจ G7 (แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ) และสหภาพยุโรป (EU) เห็นพ้องกำหนดเพดานราคา Diesel ที่ 100-110 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (ปัจจุบันราคา Diesel รัสเซียอยู่ที่ 115-120 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ต่ำกว่าราคาตลาดยุโรปซึ่งอยู่ที่ประมาณ 125 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) ซึ่งมาตรการดังกล่าวอาจส่งผลต่ออุปสงค์น้ำมันดิบ

‘เสี่ยเฮ้ง’ เผย ครม.เคาะค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ หนุนแรงงานรับค่าจ้างเหมาะสม - เป็นธรรม

(31 ม.ค. 66) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (31 มกราคม 2566) เห็นชอบประกาศอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ สำหรับแรงงาน 3 กลุ่มอาชีพ 17 สาขา เพื่อส่งเสริมให้แรงงานที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ในแต่ละสาขาอาชีพและแต่ละระดับได้รับค่าจ้างที่เหมาะสม เป็นธรรม สอดคล้องกับทักษะฝีมือ ความรู้ ความสามารถ และการจ้างงานในตลาดแรงงาน

นายสุชาติ ชมกลิ่น กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับแรงงาน 3 กลุ่มอาชีพ 17 สาขา ได้แก่ 

>>กลุ่มช่างอุตสาหการ ประกอบด้วย 
-ช่างระบบส่งถ่ายกำลัง ระดับ 1 อัตราค่าจ้างวันละไม่ต่ำกว่า 495 บาท 
-ช่างระบบปั๊มและวาล์ว ระดับ 1 อัตราค่าจ้างวันละไม่ต่ำกว่า 515 
-ช่างประกอบโครงสร้างเหล็ก ระดับ 1 อัตราค่าจ้างวันละไม่ต่ำกว่า 500 
-ช่างปรับ ระดับ 1 อัตราค่าจ้างวันละไม่ต่ำกว่า 500 บาท 
-ผู้ควบคุมระบบงานเชื่อมมิก - แม็ก ด้วยหุ่นยนต์ ระดับ 1 อัตราค่าจ้างวันละไม่ต่ำกว่า 520 บาท 
-ช่างเมคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ระดับ 1 อัตราค่าจ้างวันละไม่ต่ำกว่า 545 บาท ระดับ 2 ไม่ต่ำกว่าวันละ 635 บาท และระดับ 3 ไม่ต่ำกว่าวันละ 715 บาท

'แกร็บ' ชี้ไทยติดท็อป 3 ประเทศยอดนิยมในภูมิภาค เผยผู้ใช้บริการต่างชาติเรียกรถพุ่ง 45%

แกร็บ ประเทศไทย ชี้ตลาดท่องเที่ยวในประเทศไทยฟื้นตัวต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 ดันยอดใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตขึ้น 45% พร้อมเผยอินไซต์นักท่องเที่ยวจากผลสำรวจของผู้ใช้บริการจาก 6 ประเทศในภูมิภาค โหวตไทยติด 1 ใน 3 ประเทศที่อยากไปมากที่สุด

(31 ม.ค. 66) นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า การท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมหลักที่มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยภายหลังจากการประกาศผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 และมีการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเต็มรูปแบบ เราเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกของตลาดท่องเที่ยวผ่านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทยอยเดินทางเข้าประเทศเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา ทำให้ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวรวมตลอดทั้งปีที่ผ่านมาสูงกว่าเป้าหมายที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ตั้งไว้ ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้บริการเรียกรถของแกร็บในกลุ่มชาวต่างชาติที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 45% (เปรียบเทียบจำนวนผู้ใช้บริการในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 กับไตรมาสก่อนหน้า) โดย 5 อันดับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันของแกร็บมากที่สุดในปีที่ผ่านมา คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม

“ในฐานะแพลตฟอร์มผู้ให้บริการเรียกรถสาธารณะผ่านแอปพลิเคชันที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก แกร็บมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทย ด้วยการนำเสนอบริการการเดินทางที่สะดวก ปลอดภัยและมีมาตรฐานเพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งนี้ 3 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันของแกร็บ คือ 1) ตอบโจทย์ด้านความสะดวกสบาย โดยนักท่องเที่ยวสามารถเรียกใช้บริการได้ง่ายและสะดวกผ่านสมาร์ทโฟน เพียงเลือกจุดหมายปลายทางที่ต้องการก็มีพาร์ทเนอร์คนขับมาให้บริการถึงที่ ทั้งยังมีฟีเจอร์แชตและแปลภาษาที่ช่วยในการสื่อสารกับพาร์ทเนอร์คนขับ 2) อุ่นใจในมาตรฐานด้านความปลอดภัย ทั้งเทคโนโลยีและมาตรฐานด้านความปลอดภัยต่าง ๆ ที่มาพร้อมระบบคัดกรองพาร์ทเนอร์คนขับที่เข้มข้น อาทิ การยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้าก่อนให้บริการทุกครั้ง หรือการตรวจประวัติอาชญากรรมย้อนหลังอย่างน้อย 7 ปี และ 3) มั่นใจในราคาที่โปร่งใส ด้วยระบบแสดงค่าโดยสารล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนเรียกรถ ซึ่งช่วยประกอบการตัดสินใจและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องการพกพาเงินสด ด้วยช่องทางการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่หลากหลาย” นายวรฉัตร กล่าวเสริม

นอกจากนี้ แกร็บ ยังได้เผยเทรนด์ด้านการท่องเที่ยวที่น่าสนใจจากผลการสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใช้บริการแกร็บจำนวน 10,046 รายจาก 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย รวมถึงไทย ดังนี้

'โซนี่’ ย้ายสายการผลิตกล้องถ่ายรูปจากจีนมาไทย สำหรับขายในตลาด ‘สหรัฐฯ-ยุโรป-ญี่ปุ่น’

(29 ม.ค.66) เว็บไซต์ นสพ. Nikkei Asian Review ของญี่ปุ่น เสนอข่าว Sony separates production of cameras for China and non-China markets ระบุว่า โซนี่ บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ตัดสินใจแยกสายการผลิตกล้องถ่ายรูปสำหรับจำหน่ายในตลาดสหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรป และประเทศญี่ปุ่น ย้ายออกจากจีนมายังประเทศไทย เพื่อปกป้องระบบห่วงโซ่อุปทานโดยการลดการพึ่งพาจีน โดยโรงงานโซนี่ที่ประเทศจีนจะผลิตกล้องสำหรับจำหน่ายในตลาดจีน

ในปัจจุบัน กล้องของโซนี่ถูกส่งออกจากโรงงานในจีนและไทย ไซต์ดังกล่าวจะคงไว้ซึ่งโรงงานผลิตบางส่วนเพื่อนำกลับมาออนไลน์ในกรณีฉุกเฉิน ทั้งนี้ นับตั้งแต่เริ่มเกิดสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯ โซนี่ได้ย้ายสายการผลิตกล้องถ่ายรูปสำหรับตลาดสหรัฐฯ เป็นแห่งแรก ต่อมาจึงเป็นการย้ายสายการผลิตสำหรับตลาดญี่ปุ่นและยุโรปในช่วงปลายปี 2565

รายงานของยูโรมอนิเตอร์ (Euromonitor) บริษัทวิจัยตลาดข้ามชาติซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ พบว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา กล้องถ่ายรูปแบบมิเรอร์เลสของโซนี่ ซีรีส์อัลฟา ขายไปได้ถึง 2.11 ล้านตัว แต่ในจำนวนนี้มาจากตลาดจีนเพียง 1.5 แสนตัว ส่วนที่เหลืออีกราวร้อยละ 90 เป็นตลาดอื่น ๆ นั่นหมายความว่าสายการผลิตกล้องของโซนี่ส่วนใหญ่ย้ายจากจีนไปไทยแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางโซนี่ได้ชี้แจงว่า ยังให้ความสำคัญกับตลาดจีนและยังไม่มีแนวคิดเรื่องการออกจากตลาดดังกล่าว นอกจากนั้น โรงงานของโซนี่ในจีน จะยังคงผลิตสินค้าอื่น ๆ เช่น โทรทัศน์ เครื่องเล่นวีดีโอเกม และเลนส์กล้องถ่ายรูป สำหรับส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม คนว่างงานลดลง 9.5 หมื่นราย สะท้อน!! ศก.กำลังฟื้น ส่งผลการจ้างงานเพิ่มขึ้น 

(29 ม.ค.66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญกับการติดตามการมีงานทำของประชาชน เพื่อให้มั่นใจว่าสถานการณ์ได้กลับเข้าใกล้ภาวะปกติหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยข้อมูลล่าสุด ณ เดือน พ.ย. 65 สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ได้รายงานให้เห็นภาวะมีงานทำและการว่างที่ดีขึ้นต่อเนื่องต่อเนื่อง

“นายกรัฐมนตรีพอใจกับสถานการณ์การมีงานทำของประชาชนในภาพรวม ที่ข้อมูลล่าสุด ณ เดือนพ.ย. 65 พบว่าประชาชนมีงานทำ 39.82 ล้านคน การว่างงานที่ร้อยละ 1.2 ถือว่าใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19 ในปี 2562 ที่ร้อยละ 0.9 และมั่นใจว่าเศรษฐกิจที่กำลังดีขึ้นโดยเฉพาะจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจะส่งผลบวกต่อการมีงานทำของไทยมากขึ้นอีก โดยนายกรัฐมนตรีขอให้หน่วยงานเกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการผลักดันการยกระดับขีดความสามารถของคนไทยเพื่อนำไปสู่การได้ค่าจ้างและรายได้ที่สูงขึ้นตามความสามารถ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

นักลงทุนต่างชาติพร้อมย้ายฐานกลับมาลงทุนไทย หลังปัจจัยบวกเอื้อสูง แซงหน้าประเทศเพื่อนบ้าน

นายเอียน แพสโค ประธานกรรมการบริหาร แกรนท์ ธอนตัน ประเทศไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงธุรกิจในฐานะบริษัทที่ปรึกษาและให้บริการอย่างมืออาชีพระดับแนวหน้าของประเทศไทย ได้เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในประเทศไทยครึ่งหลังปี 2565 โดยเป็นการสำรวจธุรกิจขนาดกลางทั่วโลก พบว่า...

ธุรกิจไทยเป็นผู้นำของโลกด้านสถานภาพทางธุรกิจ และเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ที่สภาพธุรกิจของประเทศไทย มีปัจจัยบวกแซงหน้าประเทศเพื่อนบ้าน ที่เป็นคู่แข่งในกลุ่มที่เป็นฐานการลงทุน เช่น เวียดนาม, สิงคโปร์ ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจที่เคยไปลงทุนในประเทศเหล่านั้น ย้ายกลับเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

‘นักท่องเที่ยวจีน’ หวนเยือน ‘ไทย’ จุดประกายความหวังท่องเที่ยวคึกคัก

กรุงเทพฯ, 26 ม.ค. (ซินหัว) — หลังจากเผชิญภาวะหยุดชะงักนาน 3 ปี ไทยพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนกลับสู่หาดทรายสีทอง วัดวาอารามงามงด และศูนย์การค้าสุดหรูอีกครั้ง โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนที่หลั่งไหลเข้าประเทศจะช่วยฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

หลิวหลิงหลิง นักท่องเที่ยวจากนครอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยทางตอนกลางของจีน ซึ่งวางแผนใช้เวลาช่วงวันหยุดตรุษจีนในไทย กล่าวว่าการเดินทางครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของครอบครัวตั้งแต่มีการระบาดใหญ่ โดยทุกคนตื่นเต้นและมีความสุขมาก รวมทั้งรู้สึกได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในไทยด้วย

หลิวมีแผนเดินทางไปภาคใต้ของไทยพร้อมกับครอบครัวเพื่อพักที่รีสอร์ตริมทะเล หลังจากใช้เวลาในกรุงเทพฯ 2-3 วัน โดยเธอเป็นหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่ยุทธศาสตร์การรับมือโรคโควิด-19 ฉบับปรับปรุงของจีนมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 ม.ค.

เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ซึ่งเป็นวันที่สองหลังจากการปรับยุทธศาสตร์ของจีน อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของไทย พร้อมเจ้าหน้าที่อาวุโสคนอื่น ๆ ร่วมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มแรกที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วยดอกไม้และของขวัญ

บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่าการจัดงานระดับสูงนี้สะท้อนความสำคัญที่ไทยมีต่อการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนกลับสู่ประเทศ เพื่อช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน บรรยากาศช่วงเทศกาลตรุษจีนแผ่อบอวลทั่วย่านใจกลางกรุงเทพฯ โดยห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ พร้อมใจประดับประดาสิ่งตกแต่งกลิ่นอายเทศกาลตรุษจีน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนที่หลั่งไหลเข้าไทยในช่วงวันหยุด 'สัปดาห์ทอง' (Golden Week) ครั้งแรก หลังจากจีนปรับมาตรการรับมือโรคโควิด-19

ถนนเยาวราชความยาว 200 เมตร ถูกประดับประดาด้วยแสงสีและโคมไฟหลายรูปแบบ เพื่อเฉลิมฉลองวันตรุษจีนซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 22 ม.ค. และเป็นวันแรกของปีเถาะหรือปีกระต่าย ซึ่งณัฐพร เชฟร้านอาหารบนถนนเยาวราช เชื่อว่าจะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความคึกคักและเจริญรุ่งเรือง

ณัฐพรบอกเล่าว่าทางร้านกักตุนวัตถุดิบอาหารสำหรับช่วงเทศกาลตรุษจีนแล้ว ซึ่งมักเป็นเวลาที่ดึงดูดลูกค้าต่างชาติจำนวนมาก พร้อมเสริมว่านักท่องเที่ยวจีนถือเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักของไทย พวกเขากลับมาแล้วในปีนี้ และผมคิดว่าธุรกิจของเราจะกลับมาดีเหมือนช่วงก่อนการระบาดใหญ่

ด้านกลุ่มสายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร และผู้ประกอบการการท่องเที่ยวอื่น ๆ ต่างเฝ้ารอต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นในปีนี้เช่นกัน

วิชัย (Wichai Kinchong Choi) รองประธานอาวุโสของธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่าการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนได้เพิ่มความหวังต่อการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในไทยและนานาประเทศทั่วโลก

ปิติ ดิษยทัต เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่าภาคการท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวรวดเร็วขึ้นเพราะการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ขณะเศรษฐกิจไทยจะได้รับแรงสนับสนุนจากการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเยือนประเทศระหว่าง 7-10 ล้านคนในปี 2023 โดยแบ่งเป็น 300,000 คนในช่วงไตรมาสแรก

‘บิ๊กตู่’ ปลื้ม!! ปี 65 ยอดจดทะเบียนธุรกิจพุ่ง 7.6 แสนราย สะท้อนนักลงทุนเชื่อมั่น - เกิดการจ้างงานในระยะยาว

(27 ม.ค. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้รับทราบข้อมูลด้านการลงทุนที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยยอดธุรกิจตั้งใหม่ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุน การออกบัตรส่งเสริมที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ออกให้แก่นักลงทุนไทยและต่างชาติตลอดปี 2565 ที่เพิ่มขึ้นมากเป็นสัญญาณชี้การลงทุนใหม่ในระยะต่อไป ที่จะนำไปสู่การจ้างงานและการมีงานทำของประชาชนในระยะยาว

“นายกรัฐมนตรีพอใจกับยอดธุรกิจตั้งใหม่และการขอรับส่งเสริมการลงทุนที่เพิ่มขึ้น สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งการลงทุนใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะนำไปสู่การจ้างงาน การมีรายได้และกำลังการใช้จ่ายของประชาชนในระยะยาว ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้ความสำคัญ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top