Thursday, 26 June 2025
TheStatesTimes

‘ทหารพราน’ จากยะลา มาเป็นอาสาล้างบ้านที่ ‘แม่สาย’ เผย!! ทำด้วยความภูมิใจ ไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทน

(2 พ.ย. 67) มูลนิธิกระจกเงา ได้โพสต์เรื่องราวดีๆ ของทหารพรานจากยะลา ซึ่งเป็นจิตอาสา ขึ้นเหนือ ไปทำกิจกรรม ‘ล้างบ้าน’ ที่แม่สาย โดยมีใจความว่า ...

วันที่ผมตัดสินใจ นั่งรถไฟชั้น 3 จากยะลาเข้ากรุงเทพ เพื่อไปกิจกรรมล้างบ้านที่แม่สาย คนรอบตัวถามผมว่า ‘ไปแล้วจะได้อะไร เป็นอาสาแล้วได้เงินหรือเปล่า’ ผมแค่รู้สึกว่าผมภูมิใจที่ตัวเองสามารถทำหน้าที่นี้ได้ ไม่ต้องการอะไรตอบแทน

ปกติผมเป็นทหารพรานอยู่จังหวัดยะลา บ้านเกิดอยู่นราธิวาส ปลายปีก่อนนราธิวาสก็น้ำท่วมหนัก ตอนนั้นผมไปเป็นอาสาช่วยชาวบ้าน ได้ทำงานร่วมกับคนต่างถิ่นเยอะมาก หลายคนเดินทางมาไกล เพื่อช่วยคนในพื้นที่สามจังหวัด พอเห็นข่าวน้ำท่วมแม่สายรอบนี้ ผมเข้าใจดี ว่าน้ำท่วมมันไม่ได้พังแค่บ้าน เศรษฐกิจอะไรก็พังหมด มันสาหัสขนาดผ่านมาเดือนกว่าแล้ว ในพื้นที่เหมือนโดนสงคราม ยังเป็นโคลนเป็นฝุ่นอยู่ ผมเลยตั้งใจไว้ว่ายังไงก็ต้องเอาแรงไปช่วยตรงนั้นให้ได้

แต่จากยะลาไปแม่สาย มันก็ลำบากเรื่องการเดินทาง สนามบินอยู่ไกล ไม่มีรถไฟต่อตรง ต้องนั่งหลายต่อ ส่วนตัวผมเองไม่ได้มีทุนมาก มีแค่แรงที่ช่วยได้ พอเห็นมูลนิธิกระจกเงาประกาศรับสมัครอาสาบินฟรี ผมก็สมัครเลยแบบไม่ลังเล

ถึงแม่สายวันแรก ผมได้ไปขุดโคลนแถวเกาะทรายซอย 8 ทั้งหน้าบ้าน ในบ้านเป็นโคลนหมดเลย ผมตะลึงนะ แบบ โห้! โคลนในบ้านสูง 60 เซน มองไม่ออกเลยว่าตรงไหนเป็นพื้นที่ต่ำหรือสูง ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับบ้านผม ผมคงพูดไม่ออก แล้วยิ่งบ้านนี้เป็นคนแก่อยู่คนเดียว ถ้าต้องจัดการโคลนคนเดียวหมดนี้ เขาคงทำไม่ไหว

ขุดโคลนบ้านหลังแรกเสร็จ ผมเหนื่อยมาก แต่ก็ภูมิใจมากนะ ตลอดเวลาที่เข้าไปช่วย เห็นเจ้าของบ้านพยายามซัพพอร์ต ขาดเหลืออุปกรณ์อะไรเขาก็ไปหามาให้ ได้อยู่จนถึงวันที่ส่งมอบบ้านให้เขา เขาไม่ต้องมาขอบคุณผมก็ได้ แค่บ้านสะอาด เจ้าของบ้านดีใจที่ได้กลับเข้าบ้าน แค่นี้ผมก็รู้สึกมีคุณค่ากับตัวเองแล้ว

มาอาสารอบนี้ ผมสนุกกับชีวิตตัวเองมาก ได้เจอคน เจอพื้นที่ใหม่ ได้ทำงานร่วมกับคนที่ไม่ได้รู้จักกัน ไม่ได้นัดกัน อยู่ดีๆ กลายมาเป็นทีมเดียวกัน เพื่อนอาสาบางคนรับราชการ เป็นเจ้าของบริษัท เป็นผู้พันทหารอากาศ แต่เขาก็ยังหาเวลามาทำอาสาสมัคร นี่คือเปิดโลก เปิดประสบการณ์ให้ผมเลย

อยากบอกทุกคนว่า หากคุณคิดอยากช่วยก็มาเถอะ ไม่มีทรัพย์สินเงินทอง ก็เอากำลังมาช่วยได้ ตอนทำอาจจะเหนื่อย แต่เหนื่อยแค่แปปเดียว นอนพักเดี๋ยวก็หายแล้ว

อัฟฟาน วาแม (ปัง) อายุ 32 ปี 
อาสาล้างบ้าน รุ่นบินลัดฟ้า
เดินทางจากใต้สุดเมืองยะลา 
มาช่วยชาวบ้านที่แม่สาย เหนือสุดแดนสยาม

ขอขอบคุณ Fly AirAsia
สนับสนุนเที่ยวบินเพื่อภารกิจอาสาล้างบ้าน
ตั้งแต่ 15 - 31 ตุลาคม 2567

วันนี้เป็นวันสุดท้าย 
ที่อาสาจากกิจกรรมบินลัดฟ้าปฏิบัติภารกิจ
ขอขอบคุณอาสาล้างบ้านทุกคน
จากทั่วประเทศ ทุกวิธีการเดินทาง
ที่สละทั้งร่างกายและเวลา
มาช่วยชาวบ้านผู้ประสบภัยอุทกภัย

ศูนย์อาสาล้างบ้านกระจกเงา อ.แม่สาย จ.เชียงราย 
ล้างบ้านไปทั้งหมด 230 หลังคาเรือน
และหลังจากนี้ เราจะเข้าสู่หน้างานซ่อมสร้างบ้าน เพื่อซ่อมแซมชาวบ้านที่พังเสียหายจากน้ำท่วม ให้พร้อมเข้าอยู่

สนับสนุนงานภัยพิบัติของมูลนิธิกระจกเงา
ได้ที่ กองทุนภัยพิบัติ (Special Force) 
โดยมูลนิธิกระจกเงา
เลขที่บัญชี 202-258298-3 ธ.ไทยพาณิชย์

หรือ สนับสนุนเข้ากองทุนมูลนิธิกระจกเงา
ได้ที่ เทใจดอทคอม
https://taejai.com/th/project/mirror_fund_ot
(สามารถลดหย่อนภาษีได้)

‘ผอ.สวนสัตว์เขาเขียว’ มาล้างบ่อให้ ‘หมูเด้ง’ แทนพี่เลี้ยง เพื่อให้ ‘พี่เบนซ์’ ได้ไปร่วมงานรับรางวัล TikTok Awards

(2 พ.ย. 67) ได้ข้อสรุปแล้ว หลังจากที่ คุณเบนซ์ อรรถพล พี่เลี้ยง หมูเด้ง ฮิปโปแคระสุดฮอต ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี เคยโพสต์ผ่านเพจ ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง ว่า ทางทีมงาน TiktokawardsTH เชิญไปร่วมงานชิงรางวัล Tiktok ดีเด่น ในหมวด Video of the year

แต่ติดปัญหาไม่สามารถไปร่วมงานได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า ต้องล้างบ่อฮิปโป ล่าสุดเขาส่งหนังสือให้ ผอ.ละ ครั้งนั้นเมื่อโพสต์แล้ว มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเพื่อช่วยหาทางออก กันจำนวนมาก

ล่าสุดมติเอกฉันท์แล้ว ทางเพจ ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง โพสต์แจ้งสามารถไปร่วมงาน TiktokawardsTH ได้แล้ว พร้อมระบุข้อความว่า ที่ประชุมลงมติให้ท่าน ผอ. มาล้างบ่อแทน แล้วให้ผมไปงานประกาศรางวัลครับ

ซึ่งทางเพจได้โพสต์ภาพ นายณรงวิทย์ ชดช้อย ผอ.สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ถือสายยางฉีดน้ำล้างตัวให้เจ้าหมูเด้ง พร้อมกับให้อาหารฮิปโปตัวอื่น ๆ นอกจากนี้ยังทำความสะอาดบริเวณต่างๆ อีกด้วย ต่อมาทางเพจโพสต์ภาพหมูเด้งในคอมเมนต์ ระบุว่า 

“ตัวยาวเลยวันนี้ ยืดตัวโชว์ ผอ.”

ทั้งนี้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชม ผอ.สวนสัตว์เปิดเขาเขียว เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งคอมเมนต์แซว อาทิ

ผอ. ท่านน่ารักนะคะ แบบอย่างของผู้นำที่ดี

ลูกพระยานาหมื่น ต้องระดับ ผอ.อาบน้ำให้

เด้งอย่าสวบขา ท่าน ผอ. นะคะ

ไม่ต้องถึงที่ประชุมหรอกครับ ที่คอมเมนต์ก็เอกฉันท์

บุญพาวาสนาส่งเนอะ ระดับ ผอ. มาล้างบ่อให้

ผอ. น่ารักจัง เป็นหัวหน้าตัวอย่าง เป็นทุกอย่างให้คุณแล้ว

ฮิปโปนอนกิน!! เฝ้าทรัพย์ เด่นเรื่องงาน ค้าขายดี เมตตามหานิยม ใครเห็นก็หลงรัก หัวปักหัวปำ

(2 พ.ย. 67) นาทีนี้อะไรก็ฉุดไม่อยู่ กับความโด่งดังของ ‘หมูเด้ง’ ที่รันไปทุกวงการ 

ล่าสุดกระแสฟีเวอร์ ลามไปถึงวงการสายมู ส่งให้เพจ ‘อีซ้อขยี้ข่าว’ ได้ออกมาแฉ รูปยันต์หมูเด้ง รุ่นฮิปโปนอนกิน พร้อมกับมีตัวอักษรรอบ ๆ รูปของหมูเด้ง ที่กำลังนอนยิ้มอย่างมีความสุขบนถุงเงิน

โดยระบุข้อความว่า ‘ผุดอีก ยันต์หมูเด้งเฝ้าทรัพย์ รุ่นฮิปโปนอนกิน เด่นเรื่องค้าขายรุ่งเรือง ช่วยด้านเมตตามหานิยม ใครเห็นหลงรักหัวปักหัวปำ…’

งานนี้หลังจากที่โพสต์ดังกล่าว ได้แชร์ออกไปนั้น ก็ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นหลากหลายมุมมอง

‘ยันต์ พันธ์ผสม คือ กัมพูชา+แอฟริกันตะวันตก+ไทย’

‘สงสารน้อนนน’

‘สงสัยต้องไปหาสักยันต์หมูเด้งไล่สวบบ้างซะแล้ว’

‘บูชาแล้วจะหิวแต่ขาหมู’

‘สังคมอยู่ยากขึ้นทุกวัน’

นักวิชาการเศรษฐศาสตร์ ผวา!! หายนะประเทศไทย ห่วงใยบ้านเมือง แห่ลงชื่อ!! ต้านฝ่ายการเมือง หวั่น ‘กิตติรัตน์’ เข้ายึดแบงก์ชาติ

(2 พ.ย. 67) จากกรณีที่ในวันจันทร์ที่ 4 พ.ย. นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือประธานบอร์ดธปท. และได้มีการเคลื่อนไหวของ227 นักวิชาการ และกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ที่ออกแถลงการณ์ เรื่อง ห่วงใยธนาคารแห่งประเทศไทย ถูกแทรกแซงจากกลุ่มการเมือง เพื่อผลประโยชน์ระยะสั้น ทําลายเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของประเทศในระยะยาว ที่แสดงความเป็นห่วงหากการเมืองเข้าครอบงำธปท.ผ่านบอร์ดธปท. หลังมีกระแสข่าวว่า คณะกรรมการสรรหาฯ อาจเลือกนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯและอดีตรมว.คลัง ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและอดีตประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี(เศรษฐา ทวีสิน) เป็นประธานบอร์ดธปท.คนใหม่

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ชิดตะวัน ชนะกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงชื่อดังกล่าวด้วยกับกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม กล่าวว่า เหตุที่ร่วมลงชื่อ เพราะทราบดีว่า หากธนาคารกลาง ซึ่งเป็นองค์กรที่ต้องเป็นอิสระ ถูกฝ่ายการเมืองกินรวบจะเป็นหายนะของประเทศ และในฐานะที่เป็นอาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และเป็นคนไทยคนหนึ่งที่รู้ผิดรู้ถูก

หากนิ่งเฉย ไม่ทำอะไร จะรู้สึกเสียใจ เมื่อประเทศต้องเข้าสู่จุดนั้น แต่ถ้าวันนี้ได้ทำเต็มที่ ก็จะไม่มีอะไรค้างคาใจเพราะได้ทำในสิ่งที่ควรจะทำ ได้ตอบแทนคุณแผ่นดินแล้ว

ดร.ชิดตะวัน จากกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำงานของธปท.แม้อาจจะมีจุดบกพร่องบ้าง เช่น การอธิบายสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจอาจจะน้อยหรือยากเกินไปแต่ธนาคารแห่งประเทศไทยก็ไม่เคยทำให้ประเทศชาติได้รับความเสียหาย ไม่สมควรให้คนของรัฐบาลเข้ามาดูแลหรือนั่งในบอร์ดแบงค์ชาติ เนื่องจากหลักการสำคัญของ central bankคือต้องไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของฝ่ายการเมือง เพราะรัฐบาลโดยทั่วไปจะบริหารประเทศโดยคำนึงถึงกลุ่มทุนที่ให้การสนับสนุน และความนิยมของประชาชน ซึ่งเป็นผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทำให้มักออกนโยบายสายตาสั้น (myopic policy) เช่น นโยบายประชานิยม นโยบายเอื้อประโยชน์นายทุนซึ่งเป็นผลเสียต่อประเทศชาติและประชาชนในระยะยาว นอกจากนี้เมื่อพิจารณาการจัดอันดับโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ปัจจุบันประเทศไทยมีการคอร์รัปชันที่รุนแรงมากในขณะที่ประเทศเดนมาร์กและภูฐานมีการคอร์รัปชันต่ำที่สุดในโลก อันดับ 1 และ 26 ตามลำดับประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 108 จากจำนวน 177 ประเทศ

การให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปนั่งเป็นบอร์ดของธนาคารแห่งประเทศไทย จึงสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดหายนะต่อประเทศจากการที่นักการเมืองแสวงหาประโยชน์ ดังที่เคยเกิดขึ้นแล้วในปี 2540ซึ่งทำให้ชาติบ้านเมืองได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง

“การที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยมีความเป็นอิสระ ไม่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของฝ่ายการเมืองก่อให้เกิดผลดีต่อประเทศโดยรวม เช่น กรณีท่านเศรษฐพุฒิ ผู้ว่าฯธปท.ได้แสดงจุดยืนคัดค้านนโยบายรัฐบาลที่จะแจกเงินประชาชนที่มีอายุ 16 ปี ขึ้นไป ทุกคนซึ่งต้องใช้งบประมาณแผ่นดินเกือบ 6 แสนล้านบาท ก่อให้เกิดภาระทางการคลังที่คนไทยทั้งประเทศต้องรับผิดชอบในระยะยาวจนในที่สุดรัฐบาลปรับเปลี่ยนนโยบายเป็นแจกเงินเฉพาะกลุ่มเปราะบางทำให้ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติน้อยลง เป็นต้น” ดร.ชิดตะวันกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากกลุ่มนักวิชาการ กว่า 200 ราย และกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ออกแถลงการณ์ห่วงใยธนาคารแห่งประเทศไทย ถูกแทรกแซงจากกลุ่มการเมือง เพื่อผลประโยชน์ระยะสั้น ทำลายเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของประเทศในระยะยาว และกลุ่มอดีตพนักงานธปท.ที่ร่วมกันลงชื่อเคลื่อนไหว ไม่ให้การเมืองเข้าครอบงำธปท.แล้ว
.
ในส่วนของภาคประชาสังคมพบว่า ในเพจของ ‘กองทัพธรรม’ ก็ได้มีการรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนร่วมลงชื่อผ่านกองทัพธรรม และเครือข่าย ในหัวข้อ ‘กองทัพธรรม ขอเชิญพี่น้องประชาชนร่วมลงนามสนับสนุน นักวิชาการและกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ออกแถลงการณ์คัดค้าน รัฐบาลครอบงำแบงก์ชาติ’

โดยล่าสุดจนถึงเวลา 12.00 น. พบว่ามีประชาชนจำนวน 3,740 คน ได้ร่วมลงชื่อผ่านทางกองทัพธรรม สนับสนุน นักวิชาการ และกลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ออกแถลงการณ์ห่วงใยธนาคารแห่งประเทศไทย ถูกแทรกแซงจากกลุ่มการเมือง เพื่อผลประโยชน์ระยะสั้น ทำลายเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือของประเทศในระยะยาว

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สนับสนุนค่าพาหนะ และเครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ผู้รับขาเทียม ช่างและอาสาสมัคร ในโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 171 จังหวัดพิษณุโลก

เมื่อวานนี้ (1 พ.ย. 67) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นำทีมแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ลงพื้นที่ มอบค่าพาหนะ พร้อมด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย ชุดยังชีพ เส้นหมี่ขาว น้ำปลาขวดใหญ่ ขนม ทิชชูเปียก ร่มเล็กกันแดด บรรจุถุงผ้าดิบ ให้แก่ผู้รับขาเทียม ช่างและอาสาสมัคร ที่เข้าร่วมโครงการออกหน่วยทำขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ ครั้งที่ 171 รวมจำนวน 180 คน รวมงบประมาณทั้งสิ้น 140,805 บาท (หนึ่งแสนสี่หมื่นแปดร้อยห้าบาทถ้วน) โดยมี นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต เลขาธิการมูลนิธิขาเทียม ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กรรมการมูลนิธิขาเทียมฯ และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ร่วมในพิธี ณ ลานโดมอเนกประสงค์ วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก

ตลอดระยะเวลากว่า 114 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ  ศาสนา  เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”

ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้ที่ เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง www.facebook.com/pohtecktungofficial

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน

“ร้านอาหารครัวดอกไม้ขาว เข้าร่วมงานเปิดตัวยิ่งใหญ่! “MONOPOLY : Bangkok Edition” บอร์ดเกมระดับโลก”

(2 พ.ย. 67) ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 5 Craftstudio จัดงานเปิดตัวของ  MONOPOLY : Bangkok Edition” บอร์ดเกมระดับโลก” โดยงานนี้เป็นความร่วมมือ ผนึกกำลัง ททท. และพันธมิตร สร้าง Global Awareness เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก โดย มีนายธีระศิลป์ เทเพนทร์ รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานในพิธี  ร่วมด้วยบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัล วิลเลจ บริษัท Winning Move ผู้ผลิตเกม MONOPOLY ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Hasbro บริษัทผู้ผลิตเกมและของเล่นชั้นนำระดับโลก และพันธมิตรที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญในเกมส์

​นายธีระศิลป์ เทเพนทร์ รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่ง
ประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้น ไม่เพียงสำหรับแฟน ๆ ของเกมกระดาน MONOPOLY เท่านั้น แต่ยังสำหรับทุกคนที่รักประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุงเทพมหานคร “การร่วมมือครั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้นำความคลาสสิกของ MONOPOLY มาผสมผสานกับเสน่ห์อันเปี่ยมด้วยสีสันของกรุงเทพมหานครฯ สำหรับ MONOPOLY: Bangkok Edition มีจุดเด่นอยู่ที่การนำเสนอแลนด์มาร์คทางศิลปะและวัฒนธรรม ถนนในเมืองหลวงที่ครึกครื้น โรงแรมหรูที่สามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ระบบขนส่ง และอาหารการกิน ที่สะท้อนถึงความเป็นกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง MONOPOLY: Bangkok Edition ยังสามารถเป็นของสะสมและของที่ระลึกที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวทุกท่าได้ย้อนรำลึกถึงการเดินทางมายังประเทศไทย พร้อมกับเพื่อนและครอบครัว” และขอขอบคุณพันธมิตรที่เข้าร่วมในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรม หรือร้านอาหาร ซึ่งได้มีร้านอาหารครัวดอกไม้ขาวที่ได้มีการคัดเลือกมาอย่างดี

​ทั้งนี้ ร้านอาหารครัวดอกไม้ขาว โดย นางสาวพิมตา วิริยะโรจน์ หรือคุณพิม เจ้าของร้านฯ ได้กล่าวถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่า มีความยินดีและปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก  ถือว่าเป็นร้านที่มีสไตล์อาหารแบบไทยดั้งเดิม และสูตรที่พัฒนามากว่า 20 ปี มีลูกค้าให้การยอมรับมาช้านาน ซึ่งการเข้าร่วมเป็นแลนด์มาร์คแห่งหนึ่งในบอร์ดเกมระดับโลกครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง และขอเดินหน้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยเพื่อดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เข้ามาเที่ยวชมประเทศไทย ทั้งนี้สามารถดูข้อมูลกิจกรรมและข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับร้านดอกไม้ขาวได้ที่ https://whiteflowerbkk.net/en

‘Anish Sarkar’ ผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ปัจจุบัน ฝึกซ้อมอยู่ที่ Academy มีอยู่ 1,555 คะแนน

(3 พ.ย. 67) เจ้าหนู Anish Sarkar นับเป็นผู้เล่นที่ได้รับการจัดอันดับที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยวัย 3 ปี 8 เดือน

Anish เกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2021 และทำคะแนนได้ 5.5/8 ในการแข่งขัน West Bengal State Under-9 Open ในเดือนตุลาคม โดยจบการแข่งขันในอันดับที่ 24 ทำคะแนนได้ 2/3 ในการแข่งขันกับผู้เล่นที่ได้รับการจัดอันดับในงานนี้ ซึ่งถือเป็นการแข่งขันระดับคลาสสิกครั้งแรกของเจ้าหนู

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา เจ้าหนูได้แข่งขัน West Bengal State Under-13 Open ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ยากมากสำหรับเจ้าหนู ที่ต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นที่ได้รับการจัดอันดับสองคนแต่ไม่ได้คะแนนเลย อย่างไรก็ตาม การแข่งขันก็เป็นไปตามเกณฑ์ เนื่องจากเจ้าหนูต้องเผชิญหน้ากับผู้เล่นที่ได้รับการจัดอันดับทั้งหมดห้าคน

ในรายชื่อการจัดอันดับของ #สหพันธ์หมากรุกสากล #ฟีเด (International Chess Federation หรือ #FIDE) เดือนพฤศจิกายน 2024 เจ้าหนูได้รับการจัดอันดับ 1,555 คะแนน ปัจจุบันกำลังฝึกซ้อมอยู่ที่ Dhanuka Dhunseri Dibyendu Barua Chess Academy

เราขออวยพรให้เด็กน้อยคนนี้ประสบความสำเร็จในอนาคต และเราจะคอยติดตามความคืบหน้าของเขาอย่างใกล้ชิดต่อไป

LINE ประกาศ!! เวอร์ชั่นมือถือรุ่นต่ำกว่าที่กำหนด จะใช้งานไม่ได้ หากไม่อัปเดต!! เป็นเวลานาน อาจไม่สามารถเรียกคืนข้อมูล

(3 พ.ย. 67) ไลน์ (LINE) ประเทศไทย ประกาศแจ้งเตือน ผู้ใช้งานมือถือระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชัน 13.7.0 และ Android เวอร์ชัน 6.0.1 หรือ เวอร์ชันก่อนหน้า จะไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน LINE ได้ ตั้งแต่เดือนพ.ย.2567 เป็นต้นไป

LINE ระบุว่า การรองรับแอปพลิเคชันดังกล่าว บนสมาร์ทโฟนเวอร์ชั่นก่อนหน้า 12.18.0 จะสิ้นสุดลง ในช่วงเดือนพ.ย.2567 ซึ่งหมายความว่า หากผู้ใช้ยังคงใช้ LINE เวอร์ชันเก่าอยู่ จะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ต้องการใช้งาน LINE ต่อไป จำเป็นต้องอัปเดตระบบปฏิบัติการมือถือ เป็น iOS เวอร์ชัน 14.0 และ Android เวอร์ชัน 7.0.0 ขึ้นไป จึงจะสามารถอัปเดตแอปพลิเคชัน LINE เป็นเวอร์ชัน 12.18.0 หรือสูงกว่าได้

นอกจากนี้ หากไม่อัปเดตแอปพลิเคชัน LINE เป็นเวลานาน อาจเป็นสาเหตุให้ไม่สามารถเรียกคืนข้อมูลต่าง ๆ เช่น ประวัติการแชทได้

‘อาร์เนอ’ เปิดใจหลัง ‘ลิเวอร์พูล’ แซงชนะ ‘ไบรตัน’ อวย!! ลูกทีมเต็มที่ ครึ่งแรก-ครึ่งหลัง ‘หนังคนละม้วน’

(3 พ.ย. 67) ‘ลิเวอร์พูล’ โกงความตายอีกแล้ว พลิกสถานการณ์จากที่ตามหลัง ไบรตัน ไปก่อน 0-1 จากประตูของ แฟร์ดี คาดิโอกลู ในนาที 14 กลับมายิงสองลูกรวดช่วงครึ่งหลังจาก โคดี กักโป นาที 69 และโมฮาเหม็ด ซาลลาห์ นาที 72 แซงชนะ 2-1 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2024-25 เมื่อวันที่ 2 พ.ย.

จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ ‘หงส์แดง’ เก็บเพิ่มเป็น 25 คะแนนจาก 10 นัดแซง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูงอีกครั้งหลังมีแต้มมากว่า ‘เรือใบสีฟ้า’ 2 คะแนนในจำนวนนัดเท่ากัน ส่วน ไบรตัน หยุดอยู่ที่ 16 คะแนนจาก 10 นัดอยู่อันดับ 7 ตาราง

หลังเกม อาร์เนอ ซึ่งทำสถิติเป็นเฮดโค้ชของ ลิเวอร์พูล คนแรกที่พาทีมชนะในลีก 8 จาก 10 นัดแรก กล่าวถึงผลงานของทีม รวมถึงการขึ้นไปครองจ่าฝูงว่า 

“เราต้องการฟอร์มการเล่นในครึ่งหลังอีกครั้ง เพราะเราเล่นได้แย่ในครึ่งแรก พวกเขาเล่นได้ดีขึ้นเมื่อครองบอล เล่นเกมรุกได้ดีขึ้นเมื่อไม่มีบอล จากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปในครึ่งหลังเพราะมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง”

“กองหน้าของเรายิงประตูได้ แต่ความแตกต่างหลักคือเราอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า และได้บอลมากขึ้น เมื่อไม่มีบอล พวกเขาสร้างปัญหาให้เรา แต่ในครึ่งหลังเรายังคงวิ่งต่อไป”

“(เกี่ยวกับตำแหน่งจ่าฝูง) มันสำคัญกว่าหากคุณเล่นกับ อาร์เซนอล ในสนามของพวกเขา และคุณสามารถเสมอได้นอกบ้าน ไบรตัน ก็เป็นทีมที่แข็งแกร่งมากเช่นกัน พวกเขาแสดงให้เห็นในฤดูกาลนี้ หากคุณเผชิญหน้ากับทีมแบบนี้ และตามหลังอยู่ 1-0 และสามารถกลับมาชนะ 2-1 ซึ่งในความคิดของผม มันสมควรแล้ว มันทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น และมากกว่าตำแหน่งที่เราอยู่ตอนนี้”

นอกจากนั้นเฮดโค้ชวัย 46 ปียังอัพเดตอาการบาดเจ็บของ อิบราฮิมา โคนาเต กองหลังคนสำคัญซึ่งมีอาการเจ็บที่แขน และค้องถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่งแรกว่า 

“เขาเจ็บมากในช่วงพักครึ่ง ดังนั้นคุณต้องเปลี่ยนตัว สิ่งดีคือเรามีตัวสำรองสองคนซึ่งดีมากคือ โจ โกเมซ และจาเรลล์ ควานซาห์ ผมเลือก โจ ในวันนี้เพราะ จาเรลล์ เหนื่อยมาก และเขาพิสูจน์ให้เห็นว่า ผมคิดถูก เพราะเขาเล่นได้โดดเด่นในครึ่งหลัง”

‘นิด้าโพล’ เผย!! ปชช. ยังเชื่อมั่นใน ‘ทนายความจิตอาสา’ ชี้!! ยังมีอยู่จริงแท้ แค่ไม่มากเท่าไร ยังคงไว้ใจได้อยู่

(3 พ.ย. 67) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “ทนายความจิตอาสาจริง ๆ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 28-30 ตุลาคม 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อทนายความ การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ ‘นิด้าโพล’ สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0

จากการสำรวจเมื่อถามถึงการมีอยู่จริงของทนายความจิตอาสาที่ช่วยเหลือประชาชนด้วยใจ ไม่สนใจผลประโยชน์หรือการสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 52.44 ระบุว่า มีจริง แต่ไม่มากเท่าไร รองลงมา ร้อยละ 26.56 ระบุว่า ไม่มั่นใจว่ามีจริง ร้อยละ 16.88 ระบุว่า ไม่มีจริง และร้อยละ 4.12 ระบุว่า มีจริง จำนวนมาก

ด้านบุคคลหรือหน่วยงานที่ประชาชนไว้ใจในการขอความช่วยเหลือหากไม่มั่นใจในความยุติธรรมจากคดีความที่ฟ้องร้องผู้อื่นหรือถูกผู้อื่นฟ้องร้อง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 42.06 ระบุว่า ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย รองลงมา ร้อยละ 21.83 ระบุว่า ชมรม สมาคม มูลนิธิ องค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ที่เกี่ยวข้อง ร้อยละ 19.16 ระบุว่า สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด ร้อยละ 13.44 ระบุว่า ไม่ไว้ใจใครเลย ร้อยละ 11.68 ระบุว่า ทนายอาสาจากสภาทนายความ ร้อยละ 11.37 ระบุว่า ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ร้อยละ 9.01 ระบุว่า ทนายทั่วไป ร้อยละ 8.17 ระบุว่า ทนายอาสาจากเนติบัณฑิตยสภา ร้อยละ 6.87 ระบุว่า ทนายที่มีชื่อเสียง ร้อยละ 1.60 ระบุว่า นักการเมือง และร้อยละ 4.96 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ สื่อโทรทัศน์ สื่อสังคมออนไลน์

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความไว้วางใจของประชาชนต่อความช่วยเหลือที่จะได้รับจากการใช้บริการหรือขอคำปรึกษาจากทนายความ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 42.06 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ รองลงมา ร้อยละ 36.11 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 12.52 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย ร้อยละ 8.78 ระบุว่า ไว้วางใจมาก และร้อยละ 0.53 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.55 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.63 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 17.86 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.35 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.82 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.79 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก ตัวอย่าง ร้อยละ 48.09 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.91 เป็นเพศหญิง

ตัวอย่าง ร้อยละ 12.37 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.94 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 18.24 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.64 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 24.81 อายุ 60 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 96.64 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 2.90 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.46 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ

ตัวอย่าง ร้อยละ 33.44 สถานภาพโสด ร้อยละ 63.89 สมรส และร้อยละ 2.67 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ ตัวอย่าง ร้อยละ 0.53 ไม่ได้รับการศึกษา ร้อยละ 18.02 จบการศึกษาประถมศึกษา ร้อยละ 36.18 จบการศึกษามัธยมศึกษา หรือเทียบเท่า ร้อยละ 9.47 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 30.99 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 4.81 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี

ตัวอย่าง ร้อยละ 10.92 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 16.56 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 20.46 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 12.21 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 15.34 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 19.85 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 4.66 เป็นนักเรียน/นักศึกษา

ตัวอย่าง ร้อยละ 20.00 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 4.96 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 13.66 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 5,001-10,000 บาท ร้อยละ 30.53 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 12.06 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 4.66 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 2.90 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001-50,000 บาท ร้อยละ 1.99 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 50,001-60,000 บาท ร้อยละ 0.38 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 60,001-70,000 บาท ร้อยละ 0.08 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 70,001-80,000 บาท ร้อยละ 0.69 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 80,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 8.09 ไม่ระบุรายได้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top