Thursday, 26 June 2025
TheStatesTimes

กองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการ นำกำลังพลร่วมบริจาคโลหิต ในกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบ 71 ปี

น.อ.หญิง นงลักษณ์ สิงหโกวินท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการสุขภาพ รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ให้การต้อนรับ พล.ร.ต.อารยะ สิงหเสมานนท์ ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการ พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา และกำลังพลในสังกัด จัดกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนา กองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ ครบรอบ 71 ปี 6 พฤศจิกายน 2567

โดยร่วมกันบริจาคโลหิตให้กับ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ณ โรงพยาบาล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

นิราช ทิพย์ศรี รายงาน 0909535645

เชียงใหม่-ททท. ผนึกกำลังพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ประกาศศักยภาพความพร้อมภาคเหนือจัดงาน "เหนือพร้อม...เที่ยว" 

ททท. ผนึกกำลังพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ประกาศศักยภาพความพร้อมภาคเหนือ จัดงาน “เหนือพร้อม...เที่ยว” Kick off แคมเปญ “แอ่วเหนือ...คนละครึ่ง” ดีเดย์ 1 พ.ย. นี้

(3 พ.ย. 67) เวลา 18.00 น. ศูนย์วัฒนธรรม โอลด์เชียงใหม่  อำเภอเมืองเชียงใหม่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงาน “เหนือพร้อม...เที่ยว” ประกาศศักยภาพความพร้อม เร่งสร้างความเชื่อมั่น ฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “แอ่วเหนือ...คนละครึ่ง” รับนักท่องเที่ยวช่วง High Season หวังกระตุ้นรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567 โดยมีนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมพิธีเปิดงานและกล่าวแสดงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยว พร้อมด้วย นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. และคณะผู้ประกอบการจาก 5 ภูมิภาค เข้าร่วมงาน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่ ได้พบปะแลกเปลี่ยนเจรจาธุรกิจ กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากทั้ง 5 ภูมิภาค 

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่  ทั้งในแง่ของการคมนาคมเดินทางเข้าสู่พื้นที่และความเสียหายต่อแหล่งท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานการณ์ในจังหวัดภาคเหนือได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว และตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป แหล่งท่องเที่ยวและสถานประกอบการต่าง ๆ ในภาคเหนือพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้กลับมาเดินทางชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมที่งดงามและทรงคุณค่าของทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือในช่วงฤดูหนาวซึ่งเป็นช่วงฤดูแห่งการท่องเที่ยวภาคเหนือ ดังนั้นเพื่อสร้างกระแสให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว ฟื้นฟูความเชื่อมั่นในการเดินทาง ตลอดจนแสดงถึงความพร้อมและศักยภาพของภาคเหนือ ททท. ได้จัดงาน “เหนือพร้อม...เที่ยว” ส่งเสริมให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่น ๆ สู่ภาคเหนือ 17 จังหวัด 

โดยในวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2567 ททท. ได้นำผู้ประกอบการและสื่อมวลชนจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศกว่า 200 คน ร่วมอัปเดทสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว และเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัด ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ พร้อมร่วมพิธีสืบชะตาหลวงล้านนาเพื่อความเป็นสิริมงคล ตลอดจนกิจกรรม CSR พร้อมกันนี้ถือเป็นการคิกออฟเปิดตัวแคมเปญ “แอ่วเหนือ...คนละครึ่ง” ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เพื่อเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวภาคเหนืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อสิ้นสุดปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ภูมิภาคภาคเหนือกว่า 22.13 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวกว่า 164,106 ล้านบาท

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายได้ผนึกความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวในพื้นที่และช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างเต็มกำลัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2567 โดยได้เตรียมเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยหลากหลายกิจกรรม เทศกาล งานประเพณีที่มีการผสมผสานทั้งกิจกรรมท่องเที่ยว กีฬา ผลิตภัณฑ์ชุมชน วิถีวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น งานประเพณีลอยกระทงยี่เป็งนครเชียงราย กิจกรรม Mae Salong Trail งานมหกรรมดอกไม้อาเซียน งานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม งานเคาท์ดาวน์เชียงราย 2025 ฯลฯ ซึ่งจะช่วยสร้างสีสันรับฤดูท่องเที่ยวของภาคเหนือ และสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทาง และการกระจายรายได้หมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจภายในจังหวัดได้เป็นอย่างดี
 
นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุดในรอบ 50 ปี ของจังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่นับว่าเป็นรายได้หลักของจังหวัด ภายหลังจากเหตุการณ์คลี่คลายลง จังหวัดเชียงใหม่ได้ระดมกำลังทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ประชาชน และจิตอาสา เร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และในวันนี้จังหวัดเชียงใหม่พร้อมแล้วที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วง High Season ที่กำลังจะมาถึง

 โดยในช่วงปลายปี จังหวัดเชียงใหม่จะมีการจัดกิจกรรม เทศกาล งานประเพณี ที่น่าสนใจ เช่น งานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ มหกรรมดนตรีเชียงใหญ่เฟส เทศกาลงานออกแบบ Chiang Mai Design Week งานวิ่งเมืองไทยเชียงใหม่มาราธอน และงาน Amazing Chiang Mai Countdown 2025 และอีกมากมาย ซึ่งคาดว่าจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ กระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ให้ฟื้นตัวและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแคมเปญ “แอ่วเหนือ...คนละครึ่ง” เริ่มต้นวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ททท. ได้ร่วมกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ อาทิ โรงแรม/ที่พัก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร กิจกรรม DIY แหล่งท่องเที่ยว ร้านของที่ระลึก มอบส่วนลด 50% ของการใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ รวมมูลค่าไม่เกิน 400 บาท จำนวน 10,000 สิทธิ์ (1 คน/1 สิทธิ์) ให้แก่นักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวสามารถสแกน QR code เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์ ณ โรงแรมที่เข้าพักที่ร่วมโครงการในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด 

โดยเมื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์แล้ว จะได้รับ SMS ยืนยันการเข้าร่วมแคมเปญ ซึ่งจะมีระยะเวลาการใช้งานสิทธิ์ที่ได้รับภายใน 3 วัน (72 ชั่วโมง) นับจากเวลาที่ได้รับ SMS ยืนยัน ทั้งนี้สำหรับการใช้สิทธิ์ส่วนลด นักท่องเที่ยวสามารถใช้สิทธิ์โดยสแกน QR code ณ สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการโดยสังเกตป้ายที่มีโลโก้แอ่วเหนือคนละครึ่ง ทั้งนี้สิทธิ์ในการใช้ส่วนลดมีจำนวนจำกัด ททท. ขอสงวนสิทธิ์ให้กับผู้ที่ลงทะเบียนก่อนจะได้รับสิทธิ์ก่อน (First Come First Served) โดยสามารถเริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 หรือเมื่อครบจำนวนการใช้สิทธิ์

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดการสมัครเข้าร่วมแคมเปญ “แอ่วเหนือ...คนละครึ่ง” และตรวจสอบรายชื่อสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ได้ที่เว็บไซต์ www.แอ่วเหนือคนละครึ่ง.com หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center โทร. 1672

นภาพร/เชียงใหม่

ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ให้การรับรอง ผู้บัญชาการทหารเรือ ในโอกาส ตรวจเยี่ยมหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด

(2 พ.ย. 67) พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือและคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด  (นปก.) อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อบำรุงขวัญ และตรวจการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลกองทัพเรือ ให้มีความพร้อมอยู่เสมอ โดยมี พลเรือตรี เอตม์ ยุวนางกูร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และนาวาโท รัฐวิชญ์ โชติสุริยกาญจน์ ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด พร้อมด้วยกำลังพลหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด ร่วมให้การรับรอง ผู้บัญชาการทหารเรือ เน้นย้ำว่า ให้กำลังพลทุกนายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยทหารเรือได้ดูแลอธิปไตยของชาติทางทะเล ด้านตะวันออก โดยเฉพาะพื้นที่เกาะกูด มาตั้งแต่อดีต และเมื่อไทยประกาศไหล่ไหล่ทวีป เมื่อปี พ.ศ. 2516 กองทัพเรือ ก็ได้ดูแลมาอย่างต่อเนื่อง ยังไม่ปรากฎปัญหาในพื่นที่ ส่งผลให้ประชาชน ดำรงชีวิตและประกอบอาชีพได้อย่างปกติสุข

สำหรับหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด (นปก.) เป็นหน่วยเฉพาะกิจของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ที่ขึ้นการควบคุมทางยุทธการกับกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด มีที่ตั้งหน่วยบนเกาะกูด อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด โดยกองทัพเรือจัดตั้งหน่วยตรวจการณ์พิเศษที่ 1 บนเกาะกูด เมื่อปีพุทธศักราช 2521 ต่อมาเมื่อปีพุทธศักราช 2529 กองทัพเรือ ได้อนุมัติเปลี่ยนชื่อจากหน่วยตรวจการณ์พิเศษที่ 1 เป็นหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด จนถึงปัจจุบัน และในปีพุทธศักราช 2534 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อนุมัติให้ กรมรักษาฝั่งที่ 1 เป็นหน่วยรับผิดชอบในการจัดกำลัง

ภารกิจ หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด ได้แก่ การป้องกันการคุกคามทางทะเล และทางอากาศ คุ้มครองเรือประมงไทย สนับสนุนการปฏิบัติการของเรือและกำลังทางบก ปฏิบัติการจิตวิทยา และประชาสัมพันธ์กับส่วนราชการ และราษฎรในพื้นที่เพื่อความสัมพันธ์อันดีและง่ายในการประสานการปฏิบัติงานร่วมกัน

นิราช นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

ผบ.ทร. ตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ กำลังพลหน่วยบรรเทาสาธารณภัยของ กองทัพเรือ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย

(1 พ.ย. 67) พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ตรวจเยี่ยมกำลังพลหน่วยบรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย โดยมี พลเรือตรี เอตม์ ยุวนางกูร ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา ให้การรับรอง ณ บริเวณหน้ากองบัญชาการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 

จากเหตุการณ์เกิดพายุดีเปรสชัน “ยางิ” ทำให้ภาคเหนือมีฝนตกหนัก และทำให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 จังหวัดเชียงราย ได้ประกาศให้พื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย การนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้สั่งการให้หน่วยต่างๆ จัดกำลังพล และยุทโธปกรณ์ เข้าให้ความช่วยเหลือ ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2567 เป็นต้นมา จนเสร็จสิ้นภารกิจ และส่งมอบพื้นที่ให้กับประชาชน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2567 รวมเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 48 วัน โดยจัดกำลังพล จำนวนทั้งสิ้น 356 นาย ประกอบด้วย หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ จำนวน 88 นาย หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน จำนวน 44 นาย และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จำนวน 224 นาย 

โดยเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชน ออกจากพื้นที่ประสบอุทกภัย เข้าฟื้นฟู ทำความสะอาด และซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับประชาชนในพื้นที่ ชุมชนปิยะพร ชุมชนเหมืองแดงใต้ ชุมชนบ้านหัวฝาย และชุมชนสายลมจอย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จำนวน 162 หลัง 

ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากประชาชนชาวแม่สายเป็นอย่างมาก ทำให้กองทัพเรือมีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645  

ร้อยเอ็ด…นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ตรวจติดตาม “ร้อยเอ็ดโมเดล” ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นท

( 1 พ.ย. 67 ) 11.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม , นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม  ตรวจติดตาม “ร้อยเอ็ดโมเดล” ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ณ วัดเขวาทุ่ง อ.ธวัชบุรี  จ.ร้อยเอ็ด  รับโดยฟังการบรรยายสรุป “ร้อยเอ็ดโมเดล” และ นายกฯกล่าวว่า ขอให้เรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องของทุกคนที่ช่วยกันอย่างจริงจัง และการบำบัดรักษา ขอให้ทุกหน่วยทำงานอย่างบูรณาการ และเพิ่มการรักษาพยาบาล เน้นย้ำตัดวงจรยาเสพติด เน้นมาตรการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมบำบัดรักษาได้รับการบำบัดรักษาอย่างจริงจริงและแผนขอรัฐบาลพร้อมที่ฝึกอาชีพให้ผู้เข้ารับการบำบัดรักษาให้สามารถออกไปประกอบอาชีพตนเองได้ รัฐบาลขอเริ่มที่จังหวัดนำร่องนี้ก่อน และรัฐบาลเน้นย้ำ ขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดสิ้นไป     

จากนั้นเวลา 12.45 น. ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมกระบวนการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด โครงการมินิธัญญารักษ์ ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช อ.ศรีสมเด็จ  จ.ร้อยเอ็ด เยี่ยมชมโครงการมินิธัญญารักษ์ และให้กำลังใจผู้เข้ารับการบำบัด 

และเวลา 14.45 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  พร้อมคณะ เดินทางไปที่ อบต.น้ำใส อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด เพื่อติดตามการฝึกอาชีพของผู้ที่ผ่านการบำบัดแล้ว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้พวกเขากลับคืนสู่สังคมได้อย่างมั่นคง ซึ่งรัฐบาลมุ่งหวังให้ร้อยเอ็ดโมเดลเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ และเชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ประเทศไทยจะสามารถแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างยั่งยืน

โกสิทธิ์/ร้อยเอ็ด(ห)
081-377-2689

หากประธานกรรมการ หรือกรรมการแบงก์ชาติ ใช้อำนาจที่มีตอบสนองผลประโยชน์ของฝ่ายการเมือง จะส่งผลเสียต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และอาจเกิดความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไข หรือย้อนกลับได้

(4 พ.ย. 67) ดร.วิรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการแต่งตั้ง “ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ” ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ ว่า

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของแบงก์ชาติ แต่เป็นเรื่องอนาคตของชาติ

รัฐบาลจะอยู่ได้นานแค่ไหน ไม่มีใครทราบ แต่ถ้าคนการเมืองได้รับเลือกเป็นประธานกรรมการ หรือกรรมการแบงก์ชาติแล้วจะอยู่ได้ครบเทอม

หากประธานกรรมการ หรือกรรมการแบงก์ชาติ ใช้อำนาจที่มีตอบสนองผลประโยชน์ของฝ่ายการเมือง จะส่งผลเสียต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และอาจเกิดความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไข หรือย้อนกลับได้

สะพัด!! จนท.กะเหรี่ยง เมายิงกันเองบาดเจ็บดอดรักษาในไทย พบใช้ช่องทางธรรมชาติ แต่ทางฝั่งไทยยังไม่เข้าคุมตัวฐานข้ามแดนผิด กม.

(4 พ.ย. 67) มีรายงานเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เวลา 20.30 น. ว่าเจ้าหน้าที่เก็บภาษีใน อ.กอกาเร็ก จ.ดูปลายา สังกัดกลุ่ม KNU เกิดการทะเลาะวิวาทยิงกับ กำลังพลของกองพลน้อยที่ 3 กองกำลังโกลทูบอ สังกัด DKBA ในบริเวณพื้นที่ ด่านตรวจร่วมท่าทราย-บ้านวาเล่ย์ใหม่ หมู่บ้านวาเล่ย์ใหม่ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ บ้านวาเล่ย์เหนือ หมู่ 3 ตำบลวาเล่ย์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ในเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย คือ นายน่อวา เจ้าหน้าที่เก็บภาษีประจำ อำเภอกอกาเร็ก จังหวัดดูปลายา ได้รับบาดเจ็บถูกยิงบริเวณลำตัว 1 นัด และ แขน 1 นัด และร้อยโท เลโท ผู้บังคับหมวดกองพลน้อยที่ 3 สังกัดกองกำลังโกลทูบอของ DKBA ได้รับบาดเจ็บถูกยิงบริเวณศีรษะ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ต่อมาเวลา 21.00 น. นายน่อวา ได้ถูกส่งตัวผ่านช่องทางธรรมชาติท่าทราย มารักษาพยาบาลที่ โรงพยาบาลพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก จนพ้นขีดอันตราย

ขณะนี้ ยังไม่มีรายงานการถูกควบคุมตัวจากทางการไทยในการข้ามแดนผิดกฎหมายแต่อย่างใด

ย้อนมอง GDP สหรัฐฯ ภายใต้ 10 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ใกล้ถึงกำหนดวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เข้าไปทุกขณะ ซึ่งในครั้งนี้เป็นการแข่งกันระหว่าง ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ จากรีพับลิกัน และ ‘กมลา แฮร์ริส’ จากเดโมแครต ใครจะเป็นฝ่ายได้ชัยชนะอีกไม่กี่วันคงได้รู้กัน แต่วันนี้ลองไปย้อนดูผลงานของอดีตผู้นำสหรัฐฯ 10 คน ก่อนหน้านี้ ว่าเศรษฐกิจแต่ช่วงของสหรัฐฯ นั้นเติบโตหรือถดถอยอย่างไรบ้าง

‘ซับเวย์’ แจงร้านมีปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพ ‘ไม่ใช่แฟรนไชส์’ ชี้!! ร้านลิขสิทธิ์ของจริงมีแค่ 51 สาขา แต่ร้านละเมิดทะลุหลักร้อย

(4 พ.ย.67) ร้านซับเวย์ประกาศ ถ้าลูกค้าจะอุดหนุนร้านซับเวย์ของแท้ให้สังเกตหน้าร้านมีเลขที่ร้านและเครื่องหมายสัญลักษณ์ Authorized Franchise หลังลูกค้าเจอเรื่องคุณภาพอาหาร วัตถุดิบขาด กระดาษห่อไม่มีพิมพ์ลาย ขนมปังไม่ใช่ของร้าน ซึ่งเป็นร้านที่ยกเลิกสิทธิ์แฟรนไชส์ไปกว่า 3 เดือนแล้ว ด้านลูกค้าถามใช่หน้าที่หรือ ควรเป็นหน้าที่ของบริษัทแม่ต้องปิดร้านเหล่านี้

จากกรณีที่ผู้ใช้งาน X (ทวิตเตอร์) ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์การกินแซนด์วิชและสลัดบาร์จากร้านแฟรนไชส์ชื่อดังอย่าง Subway (ซับเวย์) ที่คุณภาพไม่เหมือนเดิม โดยพบว่า แซนด์วิชไม่ได้มาตรฐาน ,วัตถุดิบขาด ,กระดาษไม่มีลายซับเวย์ ,สีของบรรจุภัณฑ์เลอะติดขนมปัง ,คุณภาพอาหารด้อยลงอย่างมาก 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก Subway Thailand ของร้านซับเวย์ (Subway) ร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ประเภทแซนด์วิชและสลัด โพสต์ข้อความระบุว่า "เนื่องจากตอนนี้เราได้รับข้อร้องเรียนเรื่องคุณภาพอาหาร วัตถุดิบขาด กระดาษห่อไม่มีพิมพ์ลาย Subway กระดาษห่อลาย Subway สีเลอะติดอาหาร ขนมปังไม่ใช่ของ Subway และอื่นๆ เข้ามาเป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่าลูกค้าไปใช้บริการจากร้านซับเวย์ที่ถูกยกเลิกสิทธิแฟรนไชส์ไปตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. 2567 ไปแล้ว

ดังนั้น หากลูกค้าประสงค์ที่จะสั่งหรือซื้อซับเวย์ สามารถสังเกตหน้าร้านจะต้องมีเลขที่ร้านและเครื่องหมายสัญลักษณ์ Authorized Franchise จะเป็นแฟรนไชส์ที่ได้รับสิทธิโดยถูกต้องพร้อมบริการตามปกติ มีอาหาร และวัตถุดิบครบทุกเมนู รวมทั้งอะโวคาโด มะกอก และอื่นๆ ถูกต้องตามมาตรฐานของซับเวย์ พร้อมกันนี้ บริษัทได้แนบรายชื่อสาขาที่เป็นร้านแฟรนไชส์ที่ได้รับสิทธิโดยถูกต้อง และร้านที่ถูกยกเลิกสิทธิแฟรนไชส์มาพร้อมกันนี้"

สำหรับร้านซับเวย์ที่ได้รับสิทธิโดยถูกต้อง ประกอบด้วย 1. พัทยากลาง (ใกล้หาด) 2. สนามบินภูเก็ต - ห้องรับรองผู้โดยสารระหว่างประเทศ 3. สุขุมวิท 23 4. เอาต์เลตมอลล์ พัทยา 5. สยาม พารากอน 6. สนามบินภูเก็ต - ห้องรับรองผู้โดยสารภายในประเทศ (1) 7. สนามบินภูเก็ต - ห้องรับรองผู้โดยสารภายในประเทศ (2) 8. สนามบินดอนเมือง ระหว่างประเทศ 9. ฟอร์จูนทาวน์ 10. บางจากสุขุมวิท 62 11. โรงเรียนนานาชาติ บางกอกพัฒนา 12. เซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต 13. โรงพยาบาลเวชธานี 14. อมาติโอ ชิล ปาร์ค 15. ปั๊ม ปตท. เดอะ ดีล แจ้งวัฒนะ 16. หาดจอมเทียน 17. โรงพยาบาล เมคปาร์ค

18. มอเตอร์เวย์ (ขาเข้า) 19. สนามบินดอนเมือง อาคารเทอร์มินัล 2 ชั้น 1 20. เอ็มควอเทียร์ 21. สนามบินดอนเมือง ผู้โดยสารภายในประเทศ 22. ฮาบิโตะ 23. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 3 แอร์ไซด์ 24. สนามบินเชียงใหม่-ชาร์เตอร์ 25. สนามบินภูเก็ต-บริเวณเช็กอิน 26. มอเตอร์เวย์ (ขาออก) 27. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 28. ไมค์ ช้อปปิ้งมอลล์ 29. ชาลีเพลส (ซอยบัวขาว) 30. คาลเท็กซ์ บางใหญ่ 31. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 1 อาคารผู้โดยสารขาเข้า 32. สนามบินสุวรรณภูมิ ภายในประเทศ 33. อาคารซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์ 34. ตลาดรวมทรัพย์ 35. เทอร์มินอล 21 (อโศก) 36. ไทม์สแควร์

37. พีที รัชดาภิเษก 38. สนามบินดอนเมือง อาคารเทอร์มินัล 2 ชั้น 4 39. สนามบินสุวรรณภูมิ ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 40. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 3 41. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 42. ปั๊มบางจาก เกษตรนวมินทร์ 43. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 (Concourse E) 44. ถนนเลียบหาดป่าตอง 45. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 3 อาคารใหม่ 1 46. เซ็นทรัล ฟลอเรสต้า 47. อ่าวนาง 48. นิมมานเหมินท์ ซอย 10 49. เมกา บางนา 50. ฮักมอลล์ ขอนแก่น และ 51. สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 (Concourse C)

ด้านชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นว่า สาขาที่ถูกยกเลิกไปแล้วทำไมใช้ชื่อร้านซับเวย์ได้ต่อครับ ทำไมไม่ยกเลิกทั้งหมดไปเลย บ้างก็เห็นว่าเจ้าของลิขสิทธิ์ควรดำเนินการกับร้านที่ถูกยกเลิกลิขสิทธิ์ ไม่ใช่ให้ลูกค้าได้รับสินค้าและการบริการที่ไม่ได้ตามมาตรฐาน ทำให้เกิดความสับสนแบบนี้ อีกทั้งลูกค้าแยกแยะไม่ไหวว่าสาขาไหนยังถือลิขสิทธิ์สาขาไหนยกเลิกแล้ว เพราะยังมีฟูดดีลิเวอรีที่แยกแยะไม่ได้ด้วย ควรจะเป็นหน้าที่ของบริษัทแม่ต้องปิดร้านเหล่านี้ และฟ้องในเรื่องสิทธิการใช้แฟรนไชส์

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา บริษัท โกลัค จำกัด ประกาศว่า บริษัทฯ เป็นผู้ได้รับสิทธิในการให้และเปิดแฟรนไชส์ร้านอาหารซับเวย์แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย (Master Franchisee) ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2567 เป็นต้นไป และบริษัท ฟู้ด เจนเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งเคยเป็นผู้รับแฟรนไชส์และดำเนินกิจการร้านซับเวย์นั้นได้สิ้นสุดการเป็นผู้รับแฟรนไชส์ร้านอาหารซับเวย์โดยสิ้นเชิงแล้ว ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. 2567 เป็นต้นไป โดยปัจจุบันมีสาขาที่เป็นผู้รับแฟรนไชส์และอยู่ภายใต้การดูแลในปัจจุบัน 51 สาขา และสาขาที่สิ้นสุดการเป็นผู้รับแฟรนไชส์ 105 สาขา

อนึ่ง ซับเวย์ได้ทำสัญญามาสเตอร์ แฟรนไชส์ ฉบับใหม่กับบริษัท โกลัค จำกัด ซึ่งมี บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เป็นผู้ถือหุ้นข้างมากในระดับผู้ถือหุ้นแท้จริง (Ultimate Shareholder) เพื่อขยายธุรกิจแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดย PTG ลงทุนผ่านบริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด (GFA) ที่เป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นผ่านทางบริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด 70% ส่วน น.ส.เพชรัตน์ อุทัยสาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อะเบาท์ แพสชั่น กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์เดิมถือหุ้น 5% และ บริษัท ไลฟ์สไตล์ ฟู้ด จำกัด ที่ น.ส.เพชรัตน์เป็นกรรมการบริษัท ถือหุ้น 25%

ปักหมุดเปิดตัวหนังสือ ‘๒๔๗๕ รุ่งอรุณแห่งการปฏิวัติ’ 8 พ.ย. 67 น้อมรำลึกวันพระราชสมภพ ในหลวง ร.7

(4 พ.ย. 67) เพจเฟซบุ๊ก ‘2475 Dawn of Revolution’ เปิดเผยว่า ได้เคาะวันเวลาและสถานที่จัดงานเปิดตัวหนังสือเรียบร้อยแล้ว โดยจะจัด ในวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567 ที่ KliqueX Samyan คลิคเอ็กซ์ สามย่าน ศูนย์การค้า I'm Park จุฬา ตั้งแต่เวลา 14:00-18:00 น. 

โดยในวันที่ 8 พฤศจิกายน นี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์คือ เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของพวกทีมงานในการเริ่มต้นทำแอนิเมชันและหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้

ทั้งนี้ ภายในจะมีหนังสือและของที่ระลึกไปจำหน่าย พร้อมกับผู้เขียนจะไปเช็นหนังสือให้ด้วย 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top