ไขข้อปฏิบัติ!! กรณีถูกเรียกเป็น ‘พยาน’ คดีอาญา
(26 ส.ค. 67) ไขข้อปฏิบัติ!! กรณีถูกเรียกเป็น ‘พยาน’ คดีอาญา

(26 ส.ค. 67) ไขข้อปฏิบัติ!! กรณีถูกเรียกเป็น ‘พยาน’ คดีอาญา
(26 ก.ย. 67) 'พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร' ได้ออกมาเล่าถึงการทำงานพิธีกรและเผยจุดพีก ผ่าน Thairath Talk ระบุว่า...ทำงานแค่ 1 ชม.ครึ่ง ได้ค่าตัว 1 แสนบาท แต่ก่อนที่จะมีชื่อเสียงจากการเป็นดีเจ ก็เริ่มมีเงินจากงานอีเวนต์ โดยงานพิธีกรแรกคือเปิดตัวเหล้า ไม่มีค่าตัว ได้ค่าตัวเป็นเหล้า 1 ขวด มิกเซอร์ 2 ขวด
จากนั้นลูกค้าก็พูดกันปากต่อปาก จนค่าตัวเพิ่มจาก 5 พัน เป็น 1 แสนบาท โดยได้เงินเท่าไหร่ ก็เอาไปใช้จ่ายหมด ทั้งบ้าน รถ คอนโด จนถึงตอนนี้ที่ตนอายุ 50 ปี ที่ควรจะเป็นจุดสูงสุดในชีวิต กลับต้องมานั่งนับ 1 ใหม่ แต่โชคดีที่บ้าน รถ คอนโด ผ่อนหมดแล้ว และไม่ต้องห่วงเรื่องหนี้สิน เพราะหากวันนี้ไม่ทำงานก็อยู่ได้ แต่ชีวิตตนชอบทำงานที่สุด
ปี 2024 เป็นปีที่โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่สำคัญ อัตราการเติบโตของ GDP ในบางประเทศสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการเก็บรวบรวมข้อมูลของ IMF ได้ทำการจัดอันดับประเทศที่ GDP โตมากที่สุด โดยทั้ง 10 ประเทศนี้เป็นประเทศเกิดใหม่หรือ Emerging Market โดยทั้ง 10 ประเทศนี้ประกอบไปด้วย
1. อินเดีย
อินเดียเติบโตการขยายตัวของภาคบริการและเทคโนโลยี รวมถึงการลงทุนภายในประเทศที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 6.8%-7%
2. เวียดนาม
เวียดนามการเติบโตด้วยการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมการผลิตและการส่งออก โดยเฉพาะในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และสิ่งทอ โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 6.2%-6.5%
3. บังกลาเทศ
บังกลาเทศยังคงเติบโตในภาคการผลิตเสื้อผ้าและสิ่งทอ และการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 6.3%
4. ฟิลิปปินส์
เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์เติบโตอย่างรวดเร็วจากการบริโภคภายในประเทศและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ภาคบริการที่ขยายตัว โดยเฉพาะการให้บริการด้านกระบวนการทางธุรกิจ (BPO) และการท่องเที่ยว โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 6.1%
5. เคนยา
เคนยาเป็นหนึ่งในประเทศในแอฟริกาที่มีการเติบโตด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนในภาคเทคโนโลยี โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 5.8%
6. กานา Ghana
เศรษฐกิจกานามีการเติบโตอย่างรวดเร็วจากการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการพัฒนาภาคการเงินและบริการ โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 5.7%
7. อินโดนีเซีย
อินโดนีเซียยังคงเติบโตจากการบริโภคภายในประเทศที่แข็งแกร่งและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 5.3%-5.5%
8. จีน
จีนยังคงมีการเติบโตโดยได้รับแรงสนับสนุนจากการบริโภคภายในประเทศและนวัตกรรมในภาคเทคโนโลยี โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 5.0%-5.5%
9. ไนจีเรีย
ปีนี้ไนจีเรียก็ยังคงมีการเติบโตในภาคพลังงานและการเกษตรอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ GDP โตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 5.2%
10. ซาอุดีอาระเบีย
ซาอุดีอาระเบียมีการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจผ่านแผนวิสัยทัศน์ 2030 มุ่งเน้นการลดการพึ่งพาน้ำมันและการพัฒนาภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ โดยคาดการณ์ว่า GDP จะโตได้ถึง 4.5%-5%
และถึงแม้ว่าประเทศไทยจะไม่อยู่ในกลุ่ม 10 ประเทศที่มีการเติบโตของ GDP สูงสุด แต่ประเทศไทยยังคงมีอัตราการเติบโตที่คาดการณ์ในระดับที่น่าพอใจ โดยในปี 2024 คาดว่า GDP ของประเทศไทยจะเติบโตประมาณ 2.3% ถึง 2.6% โดยถ้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตไม่สำเร็จก็อาจจะทำให้ GDP มาอยู่ที่ระดับกรอบล่างที่ 2.2% การเติบโต GDP นี้ได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการขยายตัวของภาคการส่งออก แม้จะเผชิญกับความท้าทาย เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมืองและการแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้านในการดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
(26 ส.ค. 67) นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มีความห่วงใยกับพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยภาคเหนือ โดยได้ส่งมอบถุงยังชีพไปในพื้นที่ประสบภัยตั้งแต่วันแรก และมอบหมายให้นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งศูนย์ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนตั้งแต่วันแรก โดยได้จัดพื้นที่จอดรถ จัดตั้งโรงครัวแจกจ่ายอาหาร และน้ำดื่ม แก่ผู้ประสบภัย พร้อมจัดส่งถุงยังชีพไปยังชุมชนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
นายอัครเดช กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดในวันนี้ ทางพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้มอบหมายให้นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จ.แพร่ อย่างใกล้ชิด
ด้าน นายเอกนัฏ เปิดเผยว่า วันนี้ลงพื้นที่เข้าไปในชุมชนต่าง ๆ ได้พบเห็น บ้านเรือนอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้านขาดที่พักพิง ผู้ป่วยที่ติดเตียง ผู้สูงอายุที่ไม่ยอมออกจากบ้าน ซึ่งน่าเป็นห่วงในเรื่อง ความปลอดภัย ความสะอาด สุขอนามัย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ต้องการการดูแล อยากวอนขอให้ทุกภาคส่วน ได้มาร่วมมือกันบรรเทาความทุกข์ของพี่น้องประชาชนที่ประสบเหตุน้ำท่วม
"ทางพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหัวหน้าพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค มีความเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมตั้งแต่วันแรก กำชับให้ช่วยกันดูแลพี่น้องประชาชน ในวันนี้ได้ส่งให้ผมลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เมื่อได้เห็นถึงความเดือดร้อนของชาวบ้าน และเห็นการร่วมแรงร่วมใจของทีมงาน และอาสาสมัครทุกท่าน ขอให้เป็นกำลังใจให้กับทุกท่านที่ประสบภัยในครั้งนี้ ขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาดูแลและติดตามอย่างใกล้ชิด และเมื่อสู่ภาวะปกติน้ำลดลงแล้ว ยังมีเรื่องความเสียหายของบ้านเรือน ชีวิต ทรัพย์สิน ที่จะต้องช่วยกันดูแลและเยียวยาให้พี่น้องประชาชนกันต่อไป" นายเอกนัฏ กล่าว
(26 ส.ค. 67) ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยของกองทัพเรือในพื้นที่ต่าง ๆ ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อรับทราบถึงสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ พร้อมทั้งตรวจสอบความพร้อมของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ เพื่อเตรียมแผนในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ ซึ่งจากอุทกภัยขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลให้มีกระแสน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรจนมีผู้ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก
ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของหน่วยกองทัพเรือในทุกพื้นที่ ดำเนินการสำรวจความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชน พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำ ในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือ รวมถึงเพื่อแจ้งเตือนประชาชน ตลอดจน จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเตรียมบรรจุกระสอบทราย การจัดถุงยังชีพ การจัดโรงครัวพระราชทาน และครัวสนามเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนกับประชาชน ที่ได้รับผลกระทบ
นอกจากนั้น ชุดเฉพาะกิจผลักดันน้ำ ได้มีการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำ ในการระบายน้ำในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ โดยปัจจุบันได้มีการติดตั้งที่จังหวัดนครนายกและเตรียมพร้อมให้การสนับสนุนจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ โดยพร้อมให้การสนับสนุนในทันทีที่ได้รับการร้องขอ ทั้งนี้ เรือผลักดันน้ำ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อการระบายน้ำเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการระบายน้ำออกสู่ทะเลได้ครั้งละปริมาณมาก อีกทั้งยังสามารถชะล้างไล่ดินเลนที่ตกตะกอนอยู่ก้นแอ่งให้หมดไป ทำให้น้ำไหลได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่เป็นแอ่ง เป็นบึง และเป็นคอขวด ซึ่งเป็นที่ลุ่มระบายน้ำออกได้ลำบาก และไหลออกได้ช้า
สำหรับในห้วงวันที่ 24 - 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา ในส่วนของหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง เขตหนองคาย ได้จัดกำลังพลให้การสนับสนุน เทศบาลเมืองหนองคาย ในการบรรจุถุงทรายเพื่อจัดทำแนวป้องกันน้ำจากแม่น้ำโขงที่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำโขง ในพื้นที่บริเวณ ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย
ในขณะที่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ได้จัดกำลังพล ร่วมกับชาวจันทบุรี ในการบรรจุถุงยังชีพ เพื่อส่งมอบแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือทิศรับความเดือดร้อนจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น และในช่วงบ่ายวันนี้ ฐานทัพเรือกรุงเทพได้จัดให้มีการบรรจุกระสอบทราย เพื่อเตรียมความพร้อมสนับสนุนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
ทั้งนี้กองทัพเรือ ยังคงเตรียมความพร้อม ทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ที่จะให้การสนับสนุนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ 1696 ตลอด 24 ชั่วโมง
(26 ส.ค. 67) พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มอบหมายให้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และพลตำรวจโทปิยะ ต๊ะวิชัย ทีมโฆษกพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ วัดปากจอก ต.ทุ่งแล้ง อ.ลอง จ.แพร่ เป็นตัวแทนมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยในเขต พื้นที่อำเภอลอง จังหวัดแพร่ จำนวน 400 ชุด พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพจำนวน 600 ชุด ให้กับตัวแทนนายอำเภอเด่นชัย และตัวแทนนายอำเภอวังชิ้น รับมอบถุงยังชีพ
โดย นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พลเอกประวิตร เข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่บางครัวเรือนยังไม่สามารถกลับเข้าบ้านเรือนได้ เนื่องจากบ้านถูกน้ำท่วมและประชาชนหลายคนยังขาดแคลนเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก พลเอกประวิตร จึงห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย โดยขอให้กำลังให้ทุกคนให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งพรรคพลังประชารัฐหวังว่ามอบถุงยังชีพที่เรานำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นได้
“พรรคพลังประชารัฐ นำโดยท่านหัวหน้ามีความเป็นห่วงใยความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ที่กำลังได้รับกับความเดือดร้อน และยากลำบากในครั้งนี้ และขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวแพร่ทุกท่าน ผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปโดยเร็ว” นายชัยวุฒิกล่าว
(26 ส.ค. 67) นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของโครงการ ‘10 คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข’ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ว่า หลังจากที่รัฐบาลได้ดำเนินการติดตามสำรวจคลองรอบกรุง ครอบคลุมคลองโอ่งอ่าง คลองบางลำพู ตลอดจนบริเวณสวนสาธารณะป้อมมหากาฬ พร้อมกับตรวจเยี่ยมพื้นที่สะพานหันและพบปะกับประชาชนผู้ประกอบอาชีพค้าขาย ณ ริมคลองโอ่งอ่าง พบว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์ริมคลองให้สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี และส่งผลต่อการดึงดูดนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น
นางสาวจิราพร กล่าวว่า รัฐบาลจะเดินหน้าโครงการ ‘10 คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข’ อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วน เพื่อสนองพระบรมราโชบายในการพัฒนาและฟื้นฟูแม่น้ำลำคลองที่เสื่อมโทรมตามกาลเวลา และขยายผลสู่การพัฒนาแหล่งน้ำต่าง ๆ ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ผลจากการพัฒนาโครงการฯ ส่งผลให้ 10 คูคลองในหลายจังหวัดพื้นที่นำร่อง อาทิ ลำน้ำแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ และคลองรอบกรุง ตั้งแต่คลองโอ่งอ่างถึงคลองบางลำพู กรุงเทพฯ ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นต่อเนื่อง ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมอย่างเครื่องบีบอัดตะกอนเลนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการปรับคุณภาพน้ำให้ใสสะอาด
นอกจากการปรับภูมิทัศน์แล้ว รัฐบาลยังมีกลไกการกำจัดขยะ การจัดระเบียบที่อยู่อาศัยใหม่ การบริหารระบบระบายน้ำ การพัฒนาสาธารณูปโภค การปรับปรุงทางเดินเท้า และการเพิ่มไฟส่องสว่างที่ทำควบคู่ไปทั้งระบบ เพื่อยกระดับทัศนียภาพให้แต่ละพื้นที่มีศักยภาพเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดี สร้างรายได้สู่ชุมชน ทำให้คุณภาพชีวิตประชาชนสองฝั่งคลองดีขึ้นตามลำดับ
“ส่วนหนึ่งของคลองรอบกรุง ที่ขุดขึ้นเมื่อปี 2326 ในสมัยรัชกาลที่ 1 เป็นย่านการค้าชุมชนมาตั้งแต่โบราณ โดยในปัจจุบันมีปัญหาจากขยะมูลฝอย การระบายน้ำ และถ่ายเทน้ำ ปัญหาน้ำท่วม น้ำเน่าเสีย จึงกำหนดเป้าหมายพัฒนาเป็นเมืองเดินได้ เมืองเดินดี โดยดึงอัตลักษณ์และฟื้นฟูวิถีคลอง ผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ” นางสาวจิราพรกล่าว
นางสาวจิราพร กล่าวว่า นอกจากการปรับปรุงทางเดินริมคลองและภูมิทัศน์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังมีโครงการห้ามจับสัตว์น้ำ โดยร่วมมือกับกรมประมงในการเก็บตัวอย่างน้ำ ตรวจคุณภาพน้ำเพื่อเตรียมประกาศเป็นพื้นที่อนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำอีกด้วย
(26 ส.ค. 67) ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ประธานกรรมการบริหาร Futuretales LAB, MQDC ผู้เชี่ยวชาญ IPCC โพสตฺเฟซบุ๊กเรื่อง ‘60วันอันตราย การจัดการภาวะวิกฤติและสื่อสารความเสี่ยงควรทำอย่างไร?’ ระบุว่า…
ความเสียหาย ความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สินจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่สำหรับประเทศไทยในอดีตมีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 10,000-1,000,000 ล้านบาท (น้ำท่วมใหญ่ 2554) โดยเฉพาะการเสียชีวิตของประชาชนซึ่งประเมินมูลค่าไม่ได้ การบริหารวิกฤติจึงมีความสำคัญสูงสุด ประกอบกับการสื่อสารความเสี่ยงในภาวะวิกฤติต้องมีความเข้าใจ และสามารถถ่ายทอดให้ประชาชนที่กำลังวิตก กังวล และห่วงใยต่อสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น และจะเกิดขึ้น หลายหน่วยงานที่ออกมาให้ข้อมูลต้องชัดเจน ไม่ยืดเยื้อ ไม่เทคนิคมาก ทำให้เข้าใจยากจนขาดความน่าสนใจ ดังนั้น 60 วันจากนี้ต่อไป จึงเป็นสถานการณ์สุ่มเสี่ยงที่ไม่เพียงการบอกความจริงกับประชาชน แต่ต้องไม่ใช่เพียงคำว่า “เอาอยู่” หรือไม่ท่วมเหมือนปี 2554
สถานการณ์น้ำที่กำลังท่วมพื้นที่ภาคเหนือ และที่อื่น ๆ เริ่มสับสน วุ่นวาย เช่น กรณีคันกั้นน้ำแตกหลายจุด มีผู้เสียชีวิต น้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ คล้าย ๆ กับเหตุการณ์ที่ยังจำติดตาน้ำท่วมใหญ่ 2554 ประชาชนจึงต้องขนขวาย แสวงหาความจริงในโลก Social ซึ่งมีความสุ่มเสี่ยง ความโกลาหล ความตระหนก ข้อมูลปราศจากข้อเท็จจริง รัฐบาลจึงต้องบริหารวิกฤตินี้ให้ได้ และที่สำคัญต้องเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมา
ทีมผู้เชี่ยวชาญน้ำจากหลายองค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชนจึงได้รวมตัวกันเพื่อกอบกู้วิกฤต และจะพยายามให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ดังรูปที่แนบมาเป็นการประเมินเบื้องต้นสถานการณ์ที่เป็นไปได้สำหรับภาคกลาง และสถานการณ์เลวร้ายที่สุดจากพายุจร ประชาชนที่อยู่ในเขตสีส้มให้ติดตามข้อมูลด้วยนะครับใน 60 วันอันตรายนี้
รัฐบาลอังกฤษเปิดแคมเปญสำหรับผู้สูบบุหรี่ในเมืองบาธและซัมเมอร์เซตทางตะวันออกเฉียงเหนือให้นำบุหรี่มาแลกกับบุหรี่ไฟฟ้าชุดตั้งต้น เพื่อช่วยในการเลิกบุหรี่
ภายหลังองค์กรรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ (Action on Smoking and Health หรือ ASH) ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จนั้น คือคนที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อช่วยในการเลิกบุหรี่
นางเบกกี้ เรย์โนลด์ ผู้อำนวยการฝ่ายสาธารณสุขสภาเมืองบาธและซัมเมอร์เซตทางตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า “มีหลักฐานที่สำคัญที่ชี้ว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าช่วยให้คนเลิกสูบบุหรี่ได้ และบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าเมื่อเทียบกับควันบุหรี่”
พร้อมเสริมว่า “เราดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการระดับประเทศ “Swap to Stop” เพราะทำให้ผู้สูบบุหรี่ในเมืองของเรามีโอกาสได้ลองใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย”
“เราทราบดีว่าการเลิกบุหรี่เป็นเรื่องที่ยาก และมีผู้สูบบุหรี่หลายคนที่พยายามเลิกบุหรี่หลายต่อหลายครั้ง ขณะนี้บุหรี่ไฟฟ้ากำลังเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมและมีผลสำเร็จสูงสุดในการช่วยเลิกบุหรี่ สภาฯ จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อเชิญชวนและกระตุ้นให้ผู้สูบบุหรี่ในเมืองของเราเข้าร่วมแคมเปญนี้”
โครงการ Swap to Stop ประเมินว่าจะมีส่วนช่วยให้รัฐบาลอังกฤษบรรลุเป้าหมายในการเป็นประเทศปลอดบุหรี่ภายในปี 2030
ผู้สูบบุหรี่ที่สนใจเข้าร่วมแคมเปญต้องมีอายุ 18 ขึ้นไปและต้องให้ความยินยอมปิดเผยข้อมูลติดต่อเพื่อให้โครงการฯ สามารถติดตามและประเมินผลได้
(ข่าวแปลจาก BBC Free vape scheme to encourage Somerset adults to stop smoking (bbc.com)
(26 ส.ค. 67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดในทางภาคเหนือตอนบนหลายพื้นที่ จังหวัดเชียงราย, จังหวัดพะเยา, จังหวัดน่าน และ จังหวัดแพร่ จากที่ฝนตกต่อเนื่องหลายวัน ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2567 จนถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2567 เนื่องมาจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านทางตอนบนของภาคเหนือที่มีกำลังค่อนข้างรุนแรง ส่งผลให้ประชาชนในหลายพื้นที่ภาคเหนือ ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
ขณะนี้แม้ว่าปริมาณฝนจะเริ่มซาลงแล้ว แต่ยังต้องระวังมวลน้ำที่ยังไหลในลุ่มน้ำต่างๆ ซึ่งกระทรวงพลังงานได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเข้าช่วยบรรเทาผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยได้อย่างทันท่วงที
สำหรับการบริหารจัดการด้านพลังงานในพื้นที่ประสบอุทกภัย ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนหากได้รับผลกระทบ อาทิ การขนส่งน้ำมันหากเส้นทางได้รับผลกระทบ ทางบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และกรมธุรกิจพลังงาน ได้เตรียมการสำหรับแนวทางฟื้นฟูสถานีบริการน้ำมันที่ได้รับผลกระทบและจะมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันหลังจากน้ำลด
ในด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเบื้องต้น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เตรียมถุงยังชีพไว้ จำนวน 15,000 ถุง และผ้าห่มกันหนาวอีก 15,000 ผืน ส่วนบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ส่งถุงยังชีพไปแล้วกว่า 10,000 ถุง และน้ำดื่ม 10,000 ขวด รวมทั้งได้จัดส่งหน่วยปฏิบัติการ PTT Group SEALs ซึ่งรวมพนักงานจิตอาสา กลุ่ม ปตท. ที่มีทักษะพิเศษในการกู้ชีพและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุกบริษัทในกลุ่ม ปตท. เร่งนำอุปกรณ์ ได้แก่ โดรน เรืออะลูมิเนียมท้องแบน เรืออะลูมิเนียมท้องวี รถตรวจการณ์ รถสิบล้อ และอุปกรณ์การช่วยเหลือต่างๆ ร่วมปฏิบัติการมอบถุงยังชีพให้ประชาชน โดยเฉพาะบุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษอย่างคนชราและเด็กๆ ในพื้นที่ที่ยากแก่การเข้าถึง
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2567 มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำอยู่ที่ 6,674 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 70% ของความจุเขื่อน น้ำใช้งานได้รวมทั้งสิ้น 3,824 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 57% ของความจุเขื่อน ทั้งนี้ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 2,836 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 30% เทียบกับความจุเขื่อน นอกจากนี้ได้ลดการระบายน้ำในเขื่อนฯ ลงเหลือวันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อลดผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มน้ำตอนล่าง
“ขณะนี้กระทรวงพลังงาน ได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำมัน ไฟฟ้า เพื่อเข้าช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยได้อย่างทันท่วงที ซึ่งก็ได้วางแนวทางในการช่วยเหลือทั้งในสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งหลังน้ำลด เพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดกับประชาชน” นายพีระพันธุ์ กล่าว