Friday, 13 June 2025
TheStatesTimes

ปัจจุบันพิสูจน์แล้ว แก๊งผู้ก่อการ 2475 ใครร่ำรวย ใครลำบาก ใครสำนึกผิด

มายาธิปไตย 2475 #เทสที่สร้าง #ร่างที่เป็น

2475: การเปลี่ยนแปลง การเรียนรู้ และการให้อภัย

“ปัจจุบันนี้เป็นข้อพิสูจน์กันได้แล้ว ผู้ก่อการ 24 มิ.ย. 2475 คนใดบ้าง ร่ำรวยมหาศาล และมีใครบ้างที่ยากจนข้นแค้น ครอบครัวเดือดร้อนในการครองชีพ และใครบ้างที่สำนึกผิดในบาปบุญคุณโทษ หันไปพึ่งพระธรรม แสวงรสดื่มด่ำในสัจธรรม ขององค์พระบรมศาสดา”

ร.อ.สำรวจ กาญจนสิทธิ์ นายทหารคนสนิทคนสุดท้ายของ พระยาทรงสุรเดช (เทพ พันธุมเสน) กล่าวเมื่อปี พ.ศ. 2523

เรียบเรียงโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เพิ่มศักดิ์ จะเรียมพันธ์ กลุ่มวิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

‘ลัทธิฉ้อราษฎร์บังหลวง’ ลุกลาม ไม่มีใครสนใจจะปราบ มีแต่จะยึดเป็นเยี่ยงอย่าง

มายาธิปไตย 2475 #เทสที่สร้าง #ร่างที่เป็น

2475: การเปลี่ยนแปลง การเรียนรู้ และการให้อภัย

“ลัทธิฉ้อราษฎร์บังหลวงแพร่ขยายลุกลามใหญ่โต เพราะกินโกงแล้วก็รวยไป ครอบครัวสนุกสุขสำราญ ส่งลูกหลานไปเรียนเมืองนอกเป็นทิวแถว มีคฤหาสน์ใหญ่โตยิ่งกว่าวัง ไม่เห็นมีใครสนใจจะปราบ เพราะปราบไม่ลง กำลังเอาเยี่ยงอย่างกันต่อ ๆ มา…

“การฉ้อราษฎร์บังหลวงแพร่ขยายเต็มที่ ถึงบุคคล ข้าราชการตัวน้อย ๆ บางคนก็เริ่มรู้จักวิธีหาเงินเข้ากระเป๋าตนเอง โดยไม่ละอายใจที่เป็นไปได้ ในทางเลวร้ายถึงเพียงนี้  ก็เพราะมิได้สำนึกถึงคติพจน์ 'จงทำงาน เพื่อตอบแทนบุญคุณชาติ'”

ร.อ.สำรวจ กาญจนสิทธิ์ นายทหารคนสนิทคนสุดท้ายของ พระยาทรงสุรเดช (เทพ พันธุมเสน) กล่าวเมื่อปี พ.ศ. 2523

เรียบเรียงโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เพิ่มศักดิ์ จะเรียมพันธ์ กลุ่มวิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

‘จอมพล ป.’ เคยกล่าวไว้ ลูกหลานยังต้องสู้และแย่งชิงในระบอบเก่ากับระบอบใหม่

มายาธิปไตย 2475 #เทสที่สร้าง #ร่างที่เป็น

2475: การเปลี่ยนแปลง การเรียนรู้ และการให้อภัย

“ผมขอยืนยันว่า ในช่วงชีวิตเรา บางทีลูกเราด้วย จะต้องรบกันไปอีก และแย่งกันในระบอบเก่ากับระบอบใหม่นี้”

จอมพล แปลก พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีไทย กล่าวอภิปรายต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมบทเฉพาะกาล พ.ศ. 2483

เรียบเรียงโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เพิ่มศักดิ์ จะเรียมพันธ์ กลุ่มวิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

เหยื่อเหล้าปลอมตายเพิ่มอีก 1 วิกฤติน่าห่วงอีก 1 ตายสะสม 4 ราย ด้านกรมการแพทย์ ย้ำ!! ผู้ที่ดื่มอย่ากลัว รีบมาโรงพยาบาลทันที

(27 ส.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข การเฝ้าระวังผลกระทบจากสุราปลอม ที่มีการลักลอบผสมสารเมทานอล ซึ่งเป็นสารที่ห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร เนื่องจาก เป็นสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตสีทินเนอร์ห้ามรับประทานโดยเด็ดขาด ว่า ได้รับรายงานจาก ศูนย์ปฏิบัติการที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สรุปข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (27 ส.ค.) มีผู้ป่วยสะสม จำนวน 33 ราย ซึ่งพบจากการสืบค้นในกลุ่มที่ร่วมวงดื่มยาดองที่ผสมสารเมทานอล บางคน เพิ่งจะดื่มหลังจากที่ซื้อยาดองดังกล่าวกลับบ้านไปแล้ว ในจำนวนนี้เสียชีวิต เพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 4 ราย 

สำหรับผู้ป่วยที่ยังอยู่ระหว่างการรักษา ต้องใส่ท่อช่วยหายใจจำนวน 15 ราย ต้องฟอกไต 22 ราย ส่วนผู้ที่มีอาการตาพร่ามัว อยู่ที่ 21 ราย ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้ตาบอดถาวรเพิ่มเติมจากที่เคยรายงานไปแล้ว แต่มีอาการหนักที่น่าเป็นห่วงหรืออีก 1 ราย ทั้งนี้มีผู้ที่รักษาหายกลับบ้านได้แล้วจำนวน 8 ราย

ทั้งนี้ กรมการแพทย์ แจ้งย้ำเตือน ผู้ที่ดื่มยาดองที่มีความเสี่ยงผสมเมทานอลหรือซื้อมาจากร้านบริเวณที่เกิดปัญหา ขอให้รีบมาโรงพยาบาลเนื่องจากเช้าวันนี้มีผู้ป่วยมาตรวจคัดกรองที่ รพ.นพรัตนฯ 2 ราย ด้วยอาการหอบเหนื่อย ซักประวัติได้ว่าดื่มมา 3 วัน เริ่มมีอาการ 6 โมงเช้า แต่ก่อนหน้านี้กังวล ไม่กล้ามา รพ.กลัวตำรวจจับ เพราะเข้าใจว่าซื้อสุราเถื่อนดื่ม จนช่วงบ่าย หายใจหอบเหนื่อยมากทนไม่ไหว ลูกชายพามา รพ. ดังนั้น ขอให้อย่ากลัวรีบมาทันที

'ลุงชวน' ยัน!! ไม่เห็นด้วยผู้บริหารพรรคเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อไทย ไม่หวั่น!! แม้จะเหลือเพียงคนเดียวในพรรคฯ ก็จะอยู่ประชาธิปัตย์

เมื่อวานนี้ (26 ส.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง นายชวน หลีกภัย สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย เดินทางเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตตรัง พร้อมเยี่ยมชมห้องประชุมมหาวิทยาลัยฯ และมีการประชุมหารือเตรียมเปิดโรงเรียนนานาชาติ ที่ จ.ตรัง โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 4 ชั่วโมง

หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม นายชวน หลีกภัย ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ถึงกรณีนายชวน ไม่เห็นด้วยกับการที่พรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย และนายชวน อาจจะถูกขับออกจากพรรคประชาธิปัตย์ได้นั้น

นายชวน กล่าวว่า ตนต้องขอขอบพระคุณพี่น้องชาวตรัง ผมเกิดมาจากพี่น้อง ผมได้เป็นผู้แทนราษฎรมาจากระบบไม่ซื้อเสียงไม่โกงเลือกตั้ง เหมือนนักการเมืองบางกลุ่ม มาด้วยความบริสุทธิ์ตลอดมา และพี่น้องเมตตาผมมาตลอด 50 กว่าปี  เป็น สส.คนเดียวที่อยู่มานานที่สุด 17 สมัย ไม่เคยแพ้ ไม่เคยตก ไม่เคยหยุด และผมก็ยังมั่นคงในขณะที่พรรคฯ จะรุ่งเรือง จะตกต่ำ ผมไม่เคยทิ้ง เหมือนบ้านเก่าที่เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา ตนเองไม่ไป แต่ก็มีคนในพรรคฯ บางกลุ่มเขาอยากไปร่วม

ขอเรียนพี่น้องว่าคนที่อยากเป็นรัฐบาลไม่ได้ผิดอะไรหรอก แต่ผมเป็นคนรณรงค์กับพี่น้องเองว่า พี่น้องปักษ์ใต้อย่าเลือกพรรคไทยรักไทย อย่าเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะเขามีนโยบายเลือกปฏิบัติแกล้งพวกเรา เขาบอกว่าจะพัฒนาเฉพาะจังหวัดที่เลือกเขา จังหวัดอื่นไว้ที่หลัง ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหน ไม่ว่ามาจากชุดยึดอำนาจ หรือชุดประชาธิปไตย ที่ใช้นโยบายแกล้งประชาชน เพราะไม่เลือกแล้วไม่พัฒนา แต่คุณทักษิณ เจ้าของพรรคเขาใช้มาตรการอันนี้ผมบอกว่าอย่าเลือก ปรากฏว่าเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ปักษ์ใต้เขาไม่ได้เลยแม้แต่คนเดียว ขณะที่ภาคอื่น ๆ เขาได้มาท่วมท้น แต่ภาคใต้ไม่ได้คนของพรรคเพื่อไทยเลย

ผมเป็นหนี้บุญคุณมากที่พี่น้องกรุณา เชื่อผมส่วนหนึ่งแล้วไม่เลือกพรรคฯ นี้ ดังนั้น เมื่อมีคนอยากจะไปร่วมรัฐบาลผมบอกว่าการไปร่วมก็ปกติ แต่ผมเคยประกาศไม่ให้เลือก บัดนี้ผมจะมาร่วมรัฐบาลที่ผมบอกว่าไม่ให้เลือก เท่ากับตนเองทรยศต่อประชาชน ผมขออนุญาตที่จะไม่เห็นในการไปร่วม เพราะฉะนั้นพี่น้องอย่างห่วง ผมเป็นเด็กบ้านนอก ผมเป็นคนต่างจังหวัด ที่พูดคำไหนคำนั้น แล้วก็เป็นคนรุ่นเก่า ยึดมั่นความกตัญญูรู้คุณต่อบ้านเมือง ต่อพรรคการเมือง ต่อผู้มีพระคุณ ผมรู้สึกบุญคุณที่พี่น้องทุกท่าน ท่านสนับสนุนมาโดยตลอด 

ในชีวิตการเมืองตั้ง 50 กว่าปี ซึ่งในประเทศไทยถือว่าผมเป็นผู้ที่อยู่นานที่สุดแล้ว ไม่เคยแพ้ ไม่เคยหยุด เพราะฉะนั้นผมก็ยังมั่นคงอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคฯ จะรุ่งเรืองหรือตกต่ำ แต่การที่คนส่วนหนึ่ง กรรมการชุดปัจจุบันนี้ เขามีความคิดแตกต่างกันไป ก็เป็นเรื่องของคนเหล่านั้น ถ้ายกมือผมก็คงแพ้ แต่ว่าผมก็บอกให้เขารู้ว่าตนเองไม่เห็นด้วย

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า กลัวว่าท่านชวนจะถูกขับออกจากพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายชวนยืนยันว่า ผมไม่ไป มีคนอื่นออกไปจากพรรคฯ หลายคน เสียดาย แม้กระทั่งคุณอภิสิทธิ์ฯ ซึ่งท่านเองก็ยังมีความผูกพันอยู่ ยังพบกันอยู่ประจำ ที่ท่านตัดสินใจลาออก เพราะว่าไม่สามารถที่จะเจรจาตกลงกันได้ แต่ผมอยู่ แม้เหลือผมคนเดียวผมก็จะอยู่ ไม่มีปัญหา

ทั้งนี้นายชวนฯ ได้พนมมือไหว้ขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนด้วยความเคารพ ยืนยันว่ายังทำงานอยู่เหมือนเดิม ยังดูแลปัญหาพี่น้องอยู่ตลอดเวลาไม่ได้หยุด ในสภาฯ ก็ยังอภิปรายในเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้อง ห่วงเรื่องราคายางจะตกก็พูดแทนพี่น้องชาวตรังและภาคใต้

‘มท.1’ สั่งฟัน!! ปลัดอำเภอกร่าง 'พกปืน-ทำร้ายเด็กเสิร์ฟ' ลั่น!! 'คนมหาดไทย' ต้องดูแล ไม่ใช่รังแกประชาชน

เมื่อวานนี้ (26 ส.ค. 67) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์ กรณีปลัดอำเภอพกปืน ล็อกคอและทำร้ายร่างกายพนักงานร้านอาหาร จนได้รับบาดเจ็บในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ทางกระทรวงมหาดไทยไม่นิ่งนอนใจต่อกรณีที่เกิดขึ้น โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เร่งสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบเป็นการกระทำผิดให้ลงโทษให้ถึงที่สุด ทั้งโทษทางวินัยและเร่งติดตามคดีทางอาญาให้แก่ผู้ที่ได้รับความเสียหาย

"เนื่องจากในเรื่องนี้ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายอนุทิน จึงให้ทางท่านผู้ว่าฯ สระแก้วเร่งดำเนินการสอบสวนและนำข้อเท็จมาเปิดเผยต่อสังคม ให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ได้รับความเสียหาย หากพบว่าทำผิดก็ให้ลงโทษทั้งทางวินัยและให้ดำเนินคดีอาญาโดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งนายอนุทินได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยมาโดยตลอดว่า คนมหาดไทยมีหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ดูแลพี่น้องประชาชน ไม่ใช่รังแกประชาชน หากมีการใช้อำนาจหน้าที่ของตนเองไปรังแกประชาชนก็ต้องถูกลงโทษให้ถึงที่สุด" น.ส.ไตรศุลี กล่าว

เลขานุการ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ล่าสุด จังหวัดสระแก้วได้รายงานในเบื้องต้นมายังกรมการปกครอง ว่า บุคคลผู้ก่อเหตุมีตำแหน่งปลัดอำเภอวัฒนานคร ช่วยราชการที่ทำการปกครองจังหวัดสระแก้ว เหตุเกิด โดยได้ก่อเหตุเมื่อเวลา 23.00 น. ของวันศุกร์ที่ 23 ส.ค.67 ที่ผ่านมา ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว 

สำหรับการดำเนินการ จังหวัดสระแก้วได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการทางวินัยกับผู้ก่อเหตุ และระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงนายเชาวเนตร ยิ้มประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้มีคำสั่งจังหวัดสระแก้ว ที่ 2388/2567 ย้ายผู้ก่อเหตุออกนอกพื้นที่ไปปฏิบัติราชการ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.67 เป็นต้นไป ในส่วนของการดำเนินคดีอาญา ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.เมืองสระแก้ว ทางจังหวัดจะเร่งติดตามผลคดีต่อไป

‘สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี’ ทรงเล่า ‘จอมพล ป.’ อยากล้างบาปและได้ก่อสร้าง ‘โรงพยาบาลพระปกเกล้า’

มายาธิปไตย 2475 #เทสที่สร้าง #ร่างที่เป็น

2475: การเปลี่ยนแปลง การเรียนรู้ และการให้อภัย

“จอมพล ป. เคยมาเฝ้า เขาพูดว่า อยากจะล้างบาป เพราะทำกับท่านไว้มากเหลือเกิน จากนั้นแล้วก็เลยไปสร้างโรงพยาบาลพระปกเกล้า ไว้ให้ที่จันทบุรี ดูเหมือนจะสร้างไปทั้งหมด 5 ล้านบาท…

“หลวงประดิษฐ์มนูธรรม และพระยามานวราชเสวี เคยไปขอเข้าเฝ้าบอกว่า ข้าพระพุทธเจ้าตอนนั้นยังเด็ก  คิดอะไรหัวมันรุนแรงเกินไป ไม่นึกว่าจะลำบากยากเย็นเป็นเพียงนี้ ถ้ารู้อย่างนี้ก็ไม่ทำ…

“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา เรื่องมันแล้วไปแล้ว ไม่เคยเก็บเอามาคิด”

สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระราชบันทึกทรงเล่า ต่อข้อทูลถามถึงความคิดที่จะต่อต้านกับคณะปฏิวัติ

เรียบเรียงโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เพิ่มศักดิ์ จะเรียมพันธ์ กลุ่มวิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

เบื้องหลังอุดมการณ์ 'บางพรรค' ที่ยังแน่วแน่-ยืนหนึ่งเรื่องแก้ 112 เพราะผลประโยชน์ในฐานะ 'เด็กเช็ดรองเท้าตะวันตก' มันหอมหวน

สำหรับพรรค 'ส้มสามกีบ' เราคงต้องยอมรับกันตามตรงว่า อุดมการณ์ที่ตั้งมั่นในเรื่องการแก้ 112 ให้โทษอ่อนลง หรือการเดินหน้าล้มล้างการปกครองนั้น ต้องยกนิ้วให้ว่าแน่วแน่ มั่นคงมาก ๆ หาได้ยากยิ่งที่จะมีพรรคการเมืองใดในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข กล้าหาญที่จะยืนหนึ่งในเรื่องการกัดเซาะสถาบันเบื้องสูงอย่างแข็งขันเช่นนี้

ขนาดถูก 'ยุบพรรคเดิม' ด้วยข้อหา 'ล้มล้างการปกครอง' ก็ยังประกาศชัดว่าจะนำแนวคิดอันเป็นอุดมการณ์เดิมมาใช้เป็นอาวุธหนัก หวังทะลุทะลวงทิ่มแทงสิ่งที่ตนเองฝังใจเกลียดชังให้มลายหายสูญไปให้ได้ในการ 'ตั้งพรรคใหม่'

อุดมการณ์แรงกล้าขนาดที่ว่า ปากท้องประชาชนไว้ทีหลัง นโยบายหลัก รอง หรือต่อจากนั้น หายใจเข้าออกก็จะมีแต่ทำยังไงก็ได้ที่ประเทศนี้ต้องไม่มีสถาบัน เพราะคือ 'งานหลัก' ที่ถ้าทำสำเร็จ โอกาสหลาย ๆ อย่างในการแอบเป็น 'เด็กเช็ดรองเท้าตะวันตก' ด้วยความซื่อสัตย์ ก็จะเข้ามาหา ทำให้มีอำนาจในการต่อรอง งานนี้เดิมพันจึงสูงลิบ และมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับไปรักประเทศตัวเองเฉกเช่นคนส่วนใหญ่ของแผ่นดิน 

คนเราถ้าลองเดินหลงผิดไปแล้ว แต่ยังพอจะมี 'คนข้าง ๆ' ที่เฝ้ามองด้วยความปรารถนาดี และจริงใจ คอยบอก คอยห้าม คอยทักท้วงให้หยุดพฤติกรรมเลว ๆ ก็ยังถือว่า 'มีบุญมากกว่าบาป' แต่หากไร้คนคอยชี้แนะ ใครห้ามก็ไม่ฟัง ถือดีแบบโง่ ๆ ตะบี้ตะบันจะล้มล้างสิ่งที่คนมากกว่า 14 ล้านเสียงไม่เล่นด้วย อนาคตก็คงจะจบไม่ต่างจากที่เคย

การเป็นนักการเมืองที่มีจุดยืน มีอุดมการณ์ ไม่ว่อกแว่กเอนไหวไปตามกระแสนอกหลักการของตัวเองนั้นดี ควรค่าแก่การยกย่อง สรรเสริญ แต่ควรยึดถือในด้านที่ส่งเสริมให้คนไทยรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รักแผ่นดินของตนเอง มิใช่คอยหลอกเด็ก หรือต้มผู้ใหญ่ปัญญาเบาให้ไป 'ชูสามนิ้ว' กัดเซาะ ดูหมิ่น ล้มล้างสถาบันเบื้องสูง จนหลายคนต้องไปหมดอนาคตในคุก 

ตราบที่มีอุดมการณ์ชัดเจนในทางชั่ว ๆ แบบนี้ จบแล้วฟื้นมาตั้งพรรคใหม่อีกกี่ครั้ง เป้าที่หวังก็ยากจะสำเร็จ ด้วยที่นี่คือประเทศไทย ไม่เหมือนประเทศใดในโลก มิเช่นนั้นสถาบันเบื้องสูงจะไม่ยืนยาวถึงวันนี้

'ผลโพลฯ' ชี้!! กลุ่มผู้ถูกสำรวจ 'เห็นด้วย' แนวทางฟื้นฟูศก.ของ 'ทักษิณ' พบ!! 'ดิจิทัลวอลเล็ต-รถไฟฟ้า 20 บาท' น่าสนใจเป็นอันดับต้นๆ

(27 ส.ค. 67) ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นอร์ทกรุงเทพโพล’ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ระหว่างวันที่ 24 - 25 สิงหาคม 2567 มีผู้สำรวจ 1,320 ราย จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยสอบถามเรื่อง ข้อเสนอในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พบว่า คนไทยเห็นด้วยกับแผนและแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จำนวน 66.5% และ ไม่เห็นด้วย 19.4% ขณะที่ไม่แสดงความคิดเห็นมี 14.1% 

ทั้งนี้แนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ของนายทักษิณ ที่ได้แสดงวิสัยทัศน์ Vision for Thailand 2024 ประกอบไปด้วย 14 ประเด็นที่เป็นข้อเสนอแนะ โดยหากเรียงตามความชื่นชอบและให้ความสนใจมากสุด ของประชาชนชาวไทยที่ได้ทำการสำรวจทั้งหมดพบว่า 

1. นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 15.3% 
2. จัดระเบียบโครงสร้างภาษี 11% 
3. ปราบยาเสพติดผ่านการลดจำนวนผู้เสพ 10.2%  
4. รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย 8.7%  

5. ผลักดันแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น 8.1%  
6. ยกเศรษฐกิจนอกระบบขึ้นมาบนดิน 7.6% 
7. การแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน 6.9% 
8. ขยาย ‘กองทุนวายุภักษ์’ 6.1%  

9. แก้ปมเขตทับซ้อน 5.4% 
10. สร้างศูนย์กลางผลิตรถไฟฟ้า 5.4% 
11. ถมทะเลบางขุนเทียน สร้างแผ่นดินใหม่ 4.8% 
12. ผลักดันไทยเป็นหลุมหลบภัยนักลงทุน 4.5%  

13. ทำลีก ‘มวยไทย’ ดันซอฟต์พาวเวอร์จริงจัง 3.7%
14. ปลดล็อกต่างชาติซื้อที่ดิน 2.3%

ลูกสาวเหยื่อยาดอง โพสต์เศร้าไม่มีเงินทำศพพ่อ เจอค่ารักษากว่าแสนบาท ลั่น!! พ่อต้องไม่ตายฟรี

จากกรณี เหยื่อยาดองมรณะเสียชีวิตเพิ่มเป็น 4 ศพ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสายตาพร่ามัวที่ยังไม่รู้ว่าจะกลับมามองเห็นได้เหมือนเดิมหรือไม่?

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียก ‘เจ๊ปู’ ผู้รับเมทิลแอลกอฮอล์มาผสมผลิตยาดองขายให้ร้าน 18 แห่ง ร่ำไห้ขอโทษสังคมไม่รู้ว่าเป็นสารพิษ ถูกแจ้งดำเนินคดี 2 ข้อหา รวมทั้ง ข้อหาฉกรรจ์กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายด้วย

อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (26 ส.ค. 67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นลูกสาวของหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากยาดองมรณะ ได้ออกมาโพสต์ภาพพ่อของตนเองขณะนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยพร้อมระบุข้อความว่า…

“#ผู้เสียชีวิตจากยาดองมรณะ ใครพอจะมีช่องทางการติดต่อนักข่าว แนะนำหนูมาได้นะคะ หนูยินดีไปทุกสำนัก หนูจะไม่ให้พ่อหนูตายฟรี📌
#ทักเข้ามาได้เลยนะคะ หรือโทร 0634893821
#ฝากแชร์ด้วยค่ะ“

นอกจากนี้ ยังได้โพสต์ใบเสร็จการชำระเงินค่ารักษา โดยระบุข้อความว่า “ที่หนูออกมาโพสต์ทุก ๆ อย่างเพราะหนูอยากจะเห็นว่าจะมีใครรับผิดชอบการเสียชีวิตของพ่อหนูบ้าง ตั้งแต่พ่อหนูอยู่ที่โรงพยาบาลไม่มีใครออกมารับผิดชอบทางพ่อหนูเป็นการส่วนตัวหรือเข้ามาคุยหรือขอโทษ

ซึ่งที่ผ่านมาพวกหนูต้องเดินเรื่องเองมาตลอด และมีเพื่อน ๆ ของพ่อที่คอยช่วยเหลือพวกหนูอยู่ ดูจากใบเสร็จของการชำระเงินเอานะคะ ถ้าสมมุติว่าพ่อหนูไม่มีเงินจากประกันสังคม พวกหนูไปหาเงินมาจากไหน เพราะทางพวกหนูแทบไม่มีญาติผู้ใหญ่จากไหนเลย

แล้วเดินเรื่องกันเองทั้งหมด พวกหนูเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะไม่กี่ปี ครั้งแรกในชีวิตที่มาทำอะไรแบบนี้ หนูดิ้นกันสุดทาง หนูอยากให้พ่อหนูได้รับความยุติธรรม และตอนนี้หนูสามคนพี่น้องต้องไปหายืมคนอื่นเพื่อมาจัดงานศพ”

ล่าสุด ทางผู้โพสต์ได้อัปเดตว่าทาง ‘กัน จอมพลัง’ ได้ติดต่อให้ความช่วยเหลือเข้ามาแล้ว


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top