Friday, 13 June 2025
TheStatesTimes

สมุทรปราการ-โรงพยาบาลเปาโล เดินหน้าเปิดตัว “คลินิกเวชกรรมเปาโล” 3 สาขา พร้อมรองรับการให้บริการประชาชน

เมื่อวานนี้ (26 ส.ค. 67) โรงพยาบาลเปาโล ประกาศเปิดตัว “คลินิกเวชกรรมเปาโล” 3 สาขาใหม่ ได้แก่ สาขาซอยมังกร, สาขาตลาดทิพย์นิมิตร และสาขาประชาอุทิศ เพื่อขยายการเข้าถึงบริการทางการแพทย์คุณภาพแก่ประชาชนในพื้นที่ชานเมืองสมุทรปราการและบริเวณใกล้เคียง โดยเน้นความสะดวก รวดเร็ว และมาตรฐานการรักษาภายใต้คุณภาพของโรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ และโรงพยาบาลเปาโล พระประแดง

คลินิกเวชกรรมเปาโลทั้งสามแห่งตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกต่อการเดินทาง พร้อมให้บริการทางการแพทย์ที่หลากหลาย อาทิ การตรวจรักษาโรคทั่วไป, การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ, การฉีดวัคซีน, และการออกใบรับรองแพทย์ต่าง ๆ เช่น ใบรับรองแพทย์สำหรับการทำงาน (Work Permit) หรือการขับขี่ นอกจากนี้ยังมีบริการดูแลรักษาผู้ป่วยเบื้องต้นจากอุบัติเหตุในชีวิตประจำวัน โดยมีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการและพยาบาลวิชาชีพที่พร้อมให้บริการด้วยใจและความใส่ใจต่อสุขภาพของผู้รับบริการทุกคน ภายใต้สโลแกนที่ว่า “ใกล้บ้าน ใกล้คุณ” เพื่อให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน รวมถึงชาวมุสลิมในพื้นที่พระประแดง ที่ต้องการการดูแลทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้จากโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำ

การเปิดคลินิกเวชกรรมเปาโลทั้งสามสาขานี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเปาโล ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพได้สะดวกยิ่งขึ้น สร้างความอุ่นใจที่มีแพทย์ผู้ชำนาญการและพยาบาลวิชาชีพประจำการ ณ คลินิกเวชกรรมเปาโล โดยคลินิกเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 20.00 น.

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

ผบ.ตร. ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เน้นย้ำนโยบายรัฐบาล กำชับดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว

เมื่อวานนี้ (26 ส.ค. 67) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ได้เดินทางไปที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว

จากนั้น ผบ.ตร. และคณะ ได้ประชุมร่วมกับ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับมาตรการในการดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ตามมาตรการ ภูเก็ตโมเดล (PHUKET MODEL) ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

1. การจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวใน 3 ด้าน - ได้แก่ ความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวก, การปราบปรามชาวต่างชาติที่ทำผิดกฎหมาย และการควบคุมกิจกรรมเสี่ยงของนักท่องเที่ยว เพื่อใช้ในการป้องกันและบริหารจัดการเหตุการณ์ในพื้นที่

2. การแก้ไขปัญหาจราจร - ออกข้อบังคับห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่ (3 เพลาขึ้นไป) วิ่งในช่วงเวลาห้าม (เช้าและบ่าย) เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร ซึ่งได้รับการชื่นชมจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก

3. การบังคับใช้กฎหมาย - ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ โดยมีการจับกุมคดีอาญามากกว่า 2,800 คดี และคดีจราจรกว่า 15,000 คดี พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติปฏิบัติตามกฎหมาย

ผบ.ตร. ได้ชมเชยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.ภูเก็ต ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี และเน้นย้ำให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป เนื่องจากเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้เข้าประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล

นอกจากนี้ ผบ.ตร. ยังได้สั่งการให้ ผบช.ภ.8 จัดหาเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของด่านตรวจท่าฉัตรไชย ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของ จ.ภูเก็ต ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และได้มอบเงินบำรุงขวัญให้ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย เพื่อใช้ในการดูแลสวัสดิการของข้าราชการตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป

สนง.เลขาธิการวุฒิสภา จัดสัมมนา เรื่อง “การให้ความรู้และคำแนะนำในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกวุฒิสภา” เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและสนับสนุนข้อมูลสำคัญแก่สมาชิกวุฒิสภา

เมื่อวันที่ (26 ส.ค. 67) เวลา 09.15 นาฬิกา ณ ห้องประชุม หมายเลข 402 - 403 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จัดสัมมนา เรื่อง “การให้ความรู้และคำแนะนำในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกวุฒิสภา” โดยมี นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง สมาชิกวุฒิสภา นางสาวนภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา ผู้บริหารและข้าราชการสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เข้าร่วมรับฟัง

สำหรับการสัมมนา “การให้ความรู้และคำแนะนำในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกวุฒิสภา” ในครั้งนี้ มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกวุฒิสภา โดย นางศิรินุช ศิริสธนพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบตรวจสอบทรัพย์สินและคณะวิทยากรจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และมีการเปิดเวทีอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกวุฒิสภาอีกด้วย

กองทัพเรือ โดย ศบภ.ทรภ.1 พร้อมช่วยเหลือ ปชช. ประสบอุทกภัย

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 (ศบภ.ทรภ.1) ตรวจความพร้อมด้านการบรรเทาสาธารณภัย ของหน่วยบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบของ ศบภ.ทรภ.1 ให้พร้อมสำหรับการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที

วันที่ (26 ส.ค.67) เวลา 16.00 น. ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 โดย พลเรือโท สุระศักดิ์ สิงขรวัฒน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 (ศบภ.ทรภ.1) ตรวจความพร้อมของกำลังพล อุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ ด้านการบรรเทาสาธารณภัย ของหน่วยบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ ในพื้นที่รับผิดชอบของ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 1 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือ ที่สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่ต่างๆ ของกองทัพเรือ มีความพร้อมสำหรับการช่วยเหลือประชาชน ได้อย่างทันท่วงที
โดยมี หน่วยบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ ในพื้นที่ รับผิดชอบของ ศบภ.ทรภ.1 เข้าร่วมตรวจสอบความพร้อม 6 หน่วย ประกอบด้วย

- ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1
- กองเรือยุทธการ
- หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
- ฐานทัพเรือสัตหีบ
- หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง
- กองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 1

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645

#ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่1
#FitForTheFuture
#เทิดทูนสถาบันยึดมั่นระเบียบวินัยประชาชนภูมิใจทะเลไทยมั่นคง 

GAC Aion Hyper เปลี่ยนชื่อเป็น HYPTEC โชว์หรูด้วยประตูปีกนก จัดเต็มทุกเทคโนโลยี

‘HYPER’ แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่เป็น HYPTEC และไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนชื่อแบรนด์เท่านั้น แต่เป็นการปรับปรุงภาพลักษณ์และกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ครอบคลุมมากขึ้น สะท้อนถึงการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่มุ่งเน้นเทคโนโลยีล้ำสมัยและการขยายตัวในตลาดโลกอย่างมีนัยสำคัญ

>>ความหมายและแรงบันดาลใจของ HYPTEC

การเปลี่ยนชื่อแบรนด์จาก HYPER เป็น HYPTEC เกิดจากการศึกษาวิจัยตลาดและความต้องการของลูกค้าทั่วโลกอย่างละเอียดลึกซึ้ง ชื่อ ‘HYPTEC’ ถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการในยุคดิจิทัลอย่างเต็มที่ โดยชื่อแบรนด์มีที่มาจาก ‘Hyper’ สื่อถึงความสุดยอดและความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และ ‘Technology’ สื่อถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่หรูหรา แต่ยังล้ำหน้าด้วยคุณสมบัติทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่โดดเด่น

HYPTEC ตั้งเป้าที่จะเป็นสัญลักษณ์ของ ‘Hyper Technology Life’ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่และเทคโนโลยีที่เหนือระดับให้กับผู้บริโภคทั่วโลก โดยมุ่งมั่นในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความสะดวกสบาย ทั้งในแง่ของการใช้งานและความรู้สึกที่ได้รับจากการขับขี่

>>‘สีส้ม HYPTEC’ สัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่

เพื่อเป็นการสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ HYPTEC ยังได้เปิดตัวสีแบรนด์ใหม่คือ ‘สีส้ม HYPTEC’ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพลังงานและความสดใส สีนี้ถูกเลือกมาเพื่อสะท้อนถึงการเริ่มต้นใหม่และการมองไปข้างหน้า นอกจากนี้ สีส้ม HYPTEC ยังหมายถึง ‘สิ่งดี ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น’ ซึ่งเป็นการสื่อถึงพลังบวกและความมั่นคงในอนาคต

สีส้ม HYPTEC ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สามารถสร้างผลกระทบในเชิงบวกต่อผู้บริโภคและตลาดโดยรวม โดยสีดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำในระดับสากล และเป็นสัญลักษณ์ของการเดินหน้าสู่ความสำเร็จในอนาคต
ขับเคลื่อนด้วยการวิจัยและพัฒนา

หนึ่งในจุดแข็งของ HYPTEC คือความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ซึ่งไม่เพียงแต่จะตอบโจทย์ความต้องการในปัจจุบัน แต่ยังเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต ในระยะเวลาเพียงสองปี HYPTEC ได้ก้าวข้ามข้อจำกัดและความท้าทายหลายประการในวงการยานยนต์ไฟฟ้า โดย HYPTEC ได้คิดค้น วิจัย และพัฒนา มอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยี ‘นาโนคริสตัล-อโมฟอร์ม’ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่มระยะทางการเดินทางได้ถึง 100 กิโลเมตรต่อการชาร์จ รวมถึงเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Magazine Battery 2.0 ที่มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล HYPTEC OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการขับขี่ในทุกสถานการณ์ 

HYPTEC ยังมีการปรับปรุงในด้านการสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่หรูหราและทันสมัย รถยนต์ไฟฟ้าของ HYPTEC ไม่เพียงแค่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ในตลาด แต่ยังถูกออกแบบให้มีความหรูหราสูงสุด ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการของผู้บริโภคที่ไม่เพียงต้องการรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังต้องการรถยนต์ที่สามารถสะท้อนถึงสถานะและรสนิยมของตนเอง

การพัฒนานวัตกรรมเหล่านี้ทำให้ HYPTEC สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอระยะทางการขับขี่ที่ยาวนาน การชาร์จที่รวดเร็ว หรือการสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ล้ำสมัย HYPTEC ได้รับการยอมรับในฐานะแบรนด์ที่สามารถสร้างความประทับใจและความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้บริโภค

>>เปิดตัวสู่ตลาดโลก

HYPTEC ไม่ได้มองเพียงแค่การสร้างชื่อเสียงในตลาดภายในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นที่จะขยายไปยังตลาดโลกอย่างจริงจังและยั่งยืน บริษัทได้วางแผนในการเข้าสู่ตลาดใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการเปิดตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ประเทศไทย และ อินโดนีเซีย) และจะขยายตลาดไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ และยุโรป โดยมุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล โดยในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ HYPTEC จะเข้าร่วมงาน Paris Motor Show ถือเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญที่ HYPTEC จะได้นำเสนอแบรนด์สู่ตลาดภูมิภาคยุโรป เพื่อแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรม และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นอกจากนี้ยังเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ HYPTEC ในการสร้างชื่อเสียงและขยายตลาดในระดับโลกอย่างมีนัยสำคัญ

>>จาก HYPER สู่ HYPTEC ก้าวสู่อนาคตแห่งเทคโนโลยี

การเปลี่ยนชื่อแบรนด์จาก HYPER เป็น HYPTEC ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเปลี่ยนชื่อเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ใหม่ที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการขยายตัวในตลาดโลก HYPTEC จะยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่เหนือระดับในทุก ๆ การขับขี่ ด้วยความตั้งใจที่จะนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีคุณภาพสูงสุดให้กับผู้บริโภคทั่วโลก ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าระดับโลก HYPTEC มุ่งหวังที่จะสร้างความประทับใจและความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้บริโภค และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล

สำหรับลูกค้าที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้า AION รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่มาพร้อมกับฟีเจอร์และเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก สามารถเข้าไปทดลองขับได้ที่ศูนย์บริการ AION ทั่วประเทศ และสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.aionauto.com/
Facebook : https://www.facebook.com/AIONthailand
Instagram : https://www.instagram.com/aion_thailand/
X (Twitter) : https://x.com/AION_TH
Tiktok : https://www.tiktok.com/@aion_thailand
เลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เลือกแพลตฟอร์ม EV AION

'อลงกรณ์' ชี้ข่าวขับ 'ชวน' ไม่จริง ยืนยัน 'ปชป.' ไม่มีวัฒนธรรมขับสมาชิกที่เห็นต่าง

ตามที่นายชวน หลีกภัยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีไม่เห็นด้วยที่พรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย และอาจจะถูกขับออกจากพรรคประชาธิปัตย์นั้น

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคประชาธิปัตย์กล่าววันนี้ว่า ข่าวพรรคประชาธิปัตย์จะขับนายชวน หลีกภัยเพราะไม่เห็นด้วยที่จะไปร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทยถือเป็นเฟคนิวส์ไม่มีมูลความจริง พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ไม่มีวัฒนธรรมขับสมาชิกที่เห็นต่าง 

ตนอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มากว่า30ปียังไม่เคยเห็นพรรคขับสมาชิกกรณีมีความคิดเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน

“ท่านชวนเป็นถึงอดีตหัวหน้าพรรคและเป็นสมาชิกอาวุโสคนหนึ่งของพรรคเช่นเดียวกับท่านบัญญัติ บรรทัดฐาน ท่านเอนก ทับสุวรรณ ท่านเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ท่านไพฑูรย์ แก้วทอง ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ฯลฯ.ทุกท่านยังทำงานให้พรรคและสมาชิกทุกคนให้ความความเคารพทุกท่านตลอดมา อาจมีความคิดต่างกันบ้างในบางเรื่องบางนโยบายรวมทั้งมติการร่วมรัฐบาลหรือไม่ร่วมก็เคยมีมาหลายครั้งถือเป็นเรื่องปกติภายในพรรคประชาธิปัตย์แต่เมื่อพรรคมีมติอย่างใดทุกคนก็เคารพและไม่เคยมีการลงโทษหรือขับไล่สมาชิกที่เห็นต่างจากพรรค“

เชียงใหม่-สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ จัด MU Month หนุนการท่องเที่ยวช่วงเดือนกันยายน

เมื่อวันที่ (26 ส.ค. 67) สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเขียงใหม่ จัดแถลงข่าวการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว MU Month เดือน สิงหาคม กันยายน 2567 โดยนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็น ประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยเอก สันติพงศ์ บุญยเลิศ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่  นางพัศลินทร์ เศวตรัตน์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โดยนายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุมศิริโพธิ์ โรงแรมศิริปันนา วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา เชียงใหม

นายศุภมิตร กิจจาพิพัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตลอดเดือนกันยายน 2567 นักท่องเที่ยวที่ตามรอยความปัง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 วัด จังหวัดเชียงใหม่ ตามเส้นทางอาจารย์คฑาพามู ถ่ายรูป เช็คอินและแท็คเพจของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ จะได้รับผ้ายันต์ผืนใหญ่ พระพุทธสิหิงค์ มิ่งเมือง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน เวลา 09.00 น. พิธีคเณศจตุรถี บ้านทิพย์มณี บ้านถวายสองฝั่งคลอง อำเภอหางดง วันเสาร์ที่ 7 กันยายน เวลา 07.00 น. ตักบาตรโชติกา ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร (รับไหมฉัพพรรณรังสี เมตตาโดยครูบากฤษดา)เวลา 16.00 น. พิธีเปิดงานคเณศจาตุรถี ณ ลานประตูท่าแพ เวลา 18.00 น. คเณจตุรถี พิธีสักการะพระพิฆเนศ ณ วัดป่าแดด (รับผ้ายันต์มหาโชคมีชัย เมตตาโดยพระอาจารย์พยุงศักดิ์ จำนวน 1,000 ผืน)

วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน เวลา 09.00 น. ครูบาอริยชาติเมตตารับผ้าป่าเพื่อสร้างวิหารวัดแสงแก้วโพธิญาณ ณ พุทธสถานเชียงใหม่(รับผ้ายันต์ซุปเปอร์โคตรรวย เมตตาโดยครูบาอริยชาติ จำนวน 1,000 ผืน) เวลา 19.00 น. คเณศจตุรถี ณ ศาลพระพิฆเนศอาเขตเชียงใหม่ วันจันทร์ที่ 9 กันยายน เวลา 09.09 น. พิธีสืบชะตาสะเดาห์นพเคราะห์ล้านนาโบราณ ได้รับเมตตาจากพระเถระวัดมงคล 9 วัดจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดทั้งพระเกจิอาจารย์ที่เมตตานั่งปรก  ณ วัดป่าดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม อธิฐานจิต ผ้ายันต์ซุปเปอร์โคตรรวย เมตตาโดยครูบาอริยชาติ, ผ้ายันต์มหาโชคมีชัย เมตตาโดยพระอาจารย์พยุงศักดิ์ วัดป่าแดด, ผ้ายันต์เปิดโชครับทรัพย์ เมตตาโดยพระอาจารย์พัน ม่อนกุเวร, ผ้ายันต์พระพุทธสิงห์ มิ่งเมือง ณ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เวลา 11.00 น. ถวายเพลพระเกจิอาจารย์ และพระสงฆ์ ณ วัดป่าดาราภิรมย์

วันเสาร์ที่ 14 กันยายน เวลา 07.00 น. ตักบาตรโชติกา วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร (รับไหมฉัพพรรณรังสี เมตตาโดยครูบากฤษดา) เวลา 09.00 น. มหกรรมการประกวดการอนุลักษณ์พระเครื่อง พระบูชา เหรียญพระคณาจารย์ เครื่องรางยอดนิยม ทั่วประเทศ ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงใหม่ แอร์พอร์ต วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน เวลา 09.00 น. พิธีเปิดงานมหกรรมการประกวดการอนุรักษ์พระเครื่องฯ ณ เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ้นทรัลพลาซ่าเชียงใหม่แอร์พอร์ต

วันเสาร์ที่ 21 กันยายน เวลา 07.00 น. ตักบาตรโชติกา ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร (รับไหมฉัพพรรณรังสี เมตตาโดยครูบากฤษดา) เวลา 17.00 น. บวงสรวงหนุนดวงมหาธาตุทั้ง 4 ขอพรท้าว เวศสุวรรณ เปิดโชครับทรัพย์ เสริมบารมี สักการะปู่ภุชงค์นาคราช ณ ม่อนกุเวร (รับผ้ายันต์เปิดโชครับทรัพย์) วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน ม่อนกุเวร นักท่องเที่ยวที่ไปสักการะ ลงทะเบียนที่จุดลงทะเบียน

รับผ้ายันต์เปิดโชครับทรัพย์ ครอบครัวละ 1 ผืน (มีจำนวนจำกัด) วันเสาร์ที่ 28 กันยายน เวลา 07.00 น. ตักบาตรโชติกา ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร (รับไหมฉัพพรรณรังสี เมตตาโดยครูบากฤษดา) เวลา 08.30 น. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 วัด ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยอาจารย์คฑา ชินบัญชร หมายเหตุ นอกจากนี้ยังมีพิธีวางศิลาฤกษ์พระแท่นวัชรอาสน์จำลอง วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง (รอกำหนดวัน)

ด้านนายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ตามแผนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว MU Month เดือนกันยายน 2567ของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวชาวไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนและมาเลเซีย ที่ชอบและศรัทธาสายมูให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่

โดยกิจกรรม MU Month เป็นการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเกี่ยวกับความเชื่อและศรัทธา มีกิจกรรมในทุกสัปดาห์ ตลอดเดือนกันยายน 2567 ในหลายกิจกรรม หรืองานพิธีที่จะเกิดขึ้น ได้รับเมตตาจากพระเกจิอาจารย์ในจังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, ลำพูน ที่เมตตาในพิธี และเมตตาเขียนผ้ายันต์มงคลต่างๆ จาก ครูบาอริยชาติ, พระอาจารย์พยุงศักดิ์ วัดป่าแดด, พระอาจารย์พัน ม่อนกุเวร และผ้ายันต์พุทธสิหิงค์มิ่งเมือง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

เชื่อมั่นว่าการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวสายมู ตลอดเดือนกันยายน หรือ MU Month นั้น จะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้นจำนวนหลายพันคน และขอให้โครงการการจัดกิจกรรมสาย MU ในเดือนกันยายน ของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง

นภาพร/เชียงใหม่

'สตม.' จับ 'หนุ่มแดนกิมจิ' รองหัวหน้าแก๊งยาเสพติด หลบหนีหมายจับจากเกาหลี มากบดานพัทยา OVER STAY เกือบปี

ตม.จว.ชลบุรี ได้รับการประสานข้อมูลจาก ป.ป.ส. ว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติเกาหลีใต้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าคนต่างด้าวดังกล่าวคือนายจิน (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ซึ่งการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรได้สิ้นสุดแล้ว (OVERSTAY) ต่อมาได้รับแจ้งจากสายลับว่านายจินจะเดินทางมายังร้านอาหารเกาหลีในพื้นที่ ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี จึงได้สะกดรอยติดตามจนนายจินปรากฏตัว จึงได้แสดงตัวจับกุมในข้อหา OVERSTAY จากการสอบถามนายจินเกี่ยวกับพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด นายจินให้การยอมรับว่าตนเป็นรองหัวหน้าแก๊งยาเสพติด ทำหน้าที่จัดหายาเสพติดในประเทศไทยเพื่อส่งไปยังประเทศเกาหลีใต้ โดยใช้วิธีการให้ผู้หญิงซุกซ่อนยาเสพติดไว้ตามร่างกาย ซึ่งทำมาแล้วประมาณ 4 ครั้ง ดังนี้ 

ครั้งที่ 1 วันที่ 31 พ.ค.67 ศุลกากรเกาหลีใต้จับผู้ต้องหา 1 คน พร้อมยาคีตามีน 500 กรัม ผู้ต้องหาให้การว่ารับ ยาเสพติดที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่พัทยา 
ครั้งที่ 2 วันที่ 10 มิ.ย.67 ศุลกากรเกาหลีใต้จับผู้ต้องหา 2 คน พร้อมยาคีตามีน 500 กรัม ผู้ต้องหาให้การว่ารับ ยาเสพติดที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่พัทยา
ครั้งที่ 3 วันที่ 17 ก.ค.67 ศุลกากรเกาหลีใต้จับผู้ต้องหา 1 คน พร้อมยาไอซ์ 1.1 กิโลกรัม ผู้ต้องหาให้การว่ารับ ยาเสพติดที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่พัทยา 
ครั้งที่ 4 วันที่ 19 ก.ค.67 ศุลกากรเกาหลีใต้จับผู้ต้องหา 1 คน พร้อมยาไอซ์ 1.25 กิโลกรัม โดย

ให้การว่ารับ ยาเสพติดที่พื้นที่พัทยา และสมุทรปราการ ซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ให้การซัดทอดว่านายจินเป็นผู้บงการในการลักลอบขนยาเสพติด ซึ่ง ตม.จว.ชลบุรี จะได้ร่วมกับ ป.ป.ส. ในการสืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป สำหรับมูลค่าของยาเสพติดหากนำเข้าไปจำหน่ายในประเทศเกาหลีใต้ได้จะมีมูลค่าสูงขึ้นมาก โดยยาไอซ์จะมีราคาจำหน่ายกิโลกรัมละประมาณ 13 ล้านบาท ส่วนคีตามีน กิโลกรัมละ 5,200,000 บาท

สตม. รวบแก๊งรัสเซีย นำเงินยูโรปลอมแลกตามบูธ ความเสียหายกว่าล้านบาท และ OVER STAY

(27 ส.ค. 67) ตม.จว.ชลบุรี จับกุมนาย A (นามสมมติ) อายุ 29 ปี สัญชาติรัสเซีย พร้อมเงินสกุลยูโรปลอม ฉบับ 500 ยูโร จำนวน 6 ฉบับ ฉบับละ 50 ยูโร จำนวน 80 ฉบับ โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด และทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตราไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกให้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นผู้นั้นกระทำผิดฐานปลอมเงินตรา ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 และ มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งเงินตราต่างประเทศสกุล (ยูโร) อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นเงินตราเป็นของปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 244 ประกอบกับกฎหมายอาญามาตรา 247 นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุมโรงแรมในย่านพระตำหนักซอย 6 หมู่ 12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี

ตม.จว.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากพนักงานตู้รับแลกเงินว่า มีคนนำธนบัตรยูโรปลอมฉบับละ 500 ยูโร จำนวน 1 ฉบับ มาแลกเปลี่ยนที่ร้านรับแลกเงินของตน จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าได้มีชายไทยนำเงินสกุลยูโร ฉบับละ 500 ยูโร จำนวน 1 ฉบับ มาทำการแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินบาท เมื่อพนักงานผู้รับแลกเงินได้ตรวจสอบธนบัตร โดยใช้ปากกาเคมีสำหรับตรวจสอบธนบัตร พบว่าเป็นธนบัตรสกุลยูโรปลอม ตม.จว.ชลบุรี จึงสืบสวนติดตามตัวจนพบชายไทยที่นำธนบัตรยูโรปลอมมาแลกจากการสอบถามได้ให้การว่าเป็นพนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่ง ได้มีนาย A (นามสมมุติ) สัญชาติรัสเซีย ซึ่งได้เข้าพักที่โรงแรมมาเป็นเวลาประมาณ 3 อาทิตย์โดยยังไม่ได้ชำระเงินค่าที่พัก ได้นำธนบัตรยูโรฉบับละ 500 ยูโรฉบับดังกล่าว มาจ่ายค่าที่พักตนจึงได้นำไปแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินบาทกับทางตู้แลกเงินดังกล่าว โดยไม่ทราบว่าเงินสกุลยูโรดังกล่าวเป็นธนบัตรปลอม พร้อมทั้งยังได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจสอบ ไปยังห้องพักที่นาย A พักอาศัยอยู่ที่ชั้นบนของโรงแรม จากการตรวจสอบหนังสือเดินทางนาย A ปรากฏว่าการอนุญาตสิ้นสุด (OVERSTAY) เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอตรวจสอบกระเป๋าสีดำที่อยู่ในห้องพักของนาย A พบว่ามีเงินสกุลยูโรฉบับละ 500 ยูโร 5 ฉบับ และธนบัตรฉบับละ 50 ยูโร จำนวน 80 ซึ่งนาย A ให้การยอมรับว่าเงินสกุลยูโรจำนวนดังกล่าวทั้งหมดเป็นของตนและเป็นธนบัตรยูโรปลอม โดยตนได้นำติดตัวมาจากเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยมีเพื่อนที่ตุรกีให้นำติดตัวมาใช้จ่ายที่ประเทศไทย และตนเองได้นำเงินสกุลดังกล่าวมาจ่ายชำระค่าที่พักกับทางโรงแรมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมตัวนาย A ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว

🔎เปิด 10 อันดับ ‘เมืองอัจฉริยะ’ ในเอเชีย 2024

‘เมืองอัจฉริยะ’ หมายถึง เมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยและชาญฉลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการและการบริหารจัดการเมือง ภายใต้แนวคิดการพัฒนา ‘เมืองน่าอยู่ เมืองทันสมัย’ ให้ประชาชนในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข อย่างยั่งยืน 

THE STATES TIMES ได้รวบรวม 10 เมืองอัจฉริยะ ในเอเชีย ประจำปี 2024 มาไว้ให้แล้ว จะมีเมืองไหนบ้าง ไปดูกัน!!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top