Thursday, 12 June 2025
TheStatesTimes

รมว.กต.ต้อนรับ กมธ.มั่นคงฯ ย้ำผลักดันความร่วมมือเพื่อนบ้าน-พหุภาคีแก้ปัญหายาเสพติด-หลอกลวงออนไลน์ - พร้อมเร่งใช้ระบบ ETA คัดกรอง-ติดตามต่างชาติเข้าไทย

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับนายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรและคณะ ซึ่งเดินทางมาเข้าพบหารือกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมอง และข้อคิดเห็นในการทำงานและร่วมงานกัน เพื่อปกป้องและส่งเสริมผลประโยชน์ของชาติในประเด็นความมั่นคงต่าง ๆ โดยเฉพาะแนวทางการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งกระทรวงฯ ได้ผลักดันความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการป้องกัน และปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด และการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศไทย และสร้างผลกระทบอย่างมากต่อประชาชนไทย ควบคู่กับการมีบทบาทแข็งขัน ในการผลักดันความร่วมมือพหุภาคีระหว่างประเทศ ทั้งในระดับอาเซียน และอนุภูมิภาค ซึ่งเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (Mekong-Lancang Cooperation: MLC) ครั้งที่ 9 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่ประชุมฯ ได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการเสริมสร้างความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน และในวันเดียวกัน ปลัดกระทรวงฯ ได้พบหารืออย่างไม่เป็นทางการ กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา จีน และ สปป.ลาว โดยที่ประชุมเห็นพ้อง ที่จะยกระดับความร่วมมือเรื่องความมั่นคงชายแดน และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด และการหลอกลวงออนไลน์

นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังเร่งผลักดันการใช้ระบบ Electronic Travel Authorization (ETA) ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการคัดกรอง และติดตามการเคลื่อนไหวของบุคคลชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย

ส่วนกรณีการเผยแพร่เอกสารการประชุมของผู้เสนอรายงานพิเศษฯ เรื่องสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเมียนมา กระทรวงฯ ได้ดำเนินการภายหลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ตอบกระทู้ถามของ สส.ฝ่ายค้านต่อสภาผู้แทนราษฎร และตามที่ได้รับคำแนะนำของคณะกรรมาธิการฯ โดยเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 นายไพศาล หรูพาณิชย์กิจ รองปลัดการกระทรวงฯ ได้เป็นประธานจัดการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เห็นพ้องร่วมกันเกี่ยวกับแนวทางการทำให้มั่นใจว่า ระบบสถาบันการเงินไทยมีกระบวนการดำเนินการตามกรอบกฎหมาย และสอดรับกับมาตรฐานสากล และยังได้ประสานงานกับผู้เสนอรายงานพิเศษฯ เพื่อขอหลักฐานที่ชัดเจนเพิ่มเติมอย่างใกล้ชิด รวมถึงติดตามข้อมูลจากการตั้งกระทู้ถามของ สส.ฝ่ายค้าน และการพิจารณาแนวทางการดำเนินการของประเทศอื่น อันสืบเนื่องจากการเผยแพร่เอกสารฯ ดังกล่าว เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปโดยคำนึงถึงการปกป้องผลประโยชน์ของไทยเป็นสำคัญ

สำหรับสถานการณ์ในเมียนมานั้น กระทรวงฯ ให้ความสำคัญกับการผลักดันให้เกิดสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาในเมียนมา โดยเฉพาะความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา โดยได้ดำเนินการ 3 ด้านพร้อมกัน ได้แก่ การดำเนินการทางการทูตเชิงรุกในทุกระดับ การสนับสนุนกระบวนการสันติภาพในเมียนมา และการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมา ซึ่งไทยได้มีบทบาทที่สร้างสรรค์โดยตลอด ทั้งผ่านช่องทางทวิภาคี และผ่านองค์การระหว่างประเทศ

“ตรีชฎา” เผย นายกฯ - รมว.สาธารณสุข เร่งระดมสรรพกำลังช่วยปชช.ไม่ทิ้งประชาชน เร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน สั่ง สสจ.ระดมทุกหน่วยงานให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในพื้นที่ ตั้งหน่วยแพทย์ สนับสนุนยาและเวชภัณฑ์

น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมืองเปิดเผยว่า จากวิกฤตการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่พร้อมกับสส.ในพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่จังหวัดน่าน แสดงความห่วงใยและพร้อมจะสั่งการให้ความช่วยเหลือจังหวัดต่างๆ จากข้อมูล ณ วันที่ 24 สิงหาคม มี 7 จังหวัดที่ประสบวิกฤตน้ำท่วม 21,971 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ โดยภาพรวมระดับน้ำค่อยๆลดลงแล้ว  ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สธ. นอกจากเป็นประธานจัดประชุมวีดิโอ คอลล์ทั่วประเทศร่วมกับผู้บริหาร สธ.และผู้เกี่ยวข้องและ ได้ลงพื้นจังหวัดสุโขทัยและจังหวัดใกล้เคียง ประชุมร่วมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัด ชลประทานจังหวัดสุโขทัย และผู้เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการการแก้ไขวิกฤตน้ำท่วม

น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า วิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ซึ่งเกิดจากฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก สร้างความเดือดร้อนและสูญเสียให้พี่น้องประชาชนอย่างมาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงสธ.และสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมหาทางแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเจ้าหน้าที่ทุกส่วน ทุกฝ่ายของ สธ.จะต้องร่วมมือกัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

โฆษก สธ.ฝ่ายการเมืองกล่าวต่อไปว่า บุคลากรของ สธ. ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติที่เปิดสาย หมายเลข 1669 เพื่อรับแจ้งปัญหาขอความช่วยเหลือจากประชาชน ในส่วนของสาธารณสุขจังหวัด, สาธารณสุขอำเภอ, โรงพยาบาลระดับอำเภอ, อสม. ในพื้นที่ การบริหารจัดการ การตั้งหน่วยแพทย์ การสนับสนุยยาและเวชภัณฑ์  อย่างไรก็ตาม หากมีสิ่งใดจะขอความช่วยเหลือก็ให้ติดต่อแจ้งเข้ามายังผู้บริหารที่ สธ. เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน “กลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้หรือแม้แต่ทุกครั้งที่ผ่านมา ถือเป็นเป้าหมายที่ สธ.จะต้องดูแลใจใส่เป็นพิเศษ ได้แก่ คนพิการ เด็ก สตรีตั้งครรภ์ ผู้ป่วยเรื้อรัง พร้อมกันนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องเตรียมการป้องกันโรค และดูแลอนามัยสิ่งแวดล้อม” น.ส.ตรีชฎากล่าว

“ภูมิธรรม”สั่งการด่วน ดูแลสินค้าที่จำเป็นในพื้นที่น้ำท่วม อย่าให้ประชาชนได้รับผลกระทบ พร้อมให้พาณิชย์จัดธงฟ้าราคาประหยัดประสานห้าง ลดราคาวัสดุก่อสร้าง สินค้าทำความสะอาด ดูแลค่าครองชีพหลังน้ำลด

เมื่อวานนี้ วันที่ 25 สิงหาคม 2567 ที่วัดอัมพวัน(ม่วงใต้) ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยว่า ได้สั่งการให้นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือเกษตรกร ประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ และให้เข้าไปดูแลในเรื่องราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ โดยสั่งการให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดและเกาะติด อย่าให้มีผลกระทบต่อประชาชน

โดยในด้านการดูแลสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ และสินค้าซ่อมแซมบ้าน ได้รับรายงานว่ากรมการค้าภายใน ได้ประชุมหารือกับห้างค้าส่ง-ค้าปลีก ห้างท้องถิ่น ร้านสะดวกซื้อ ห้างจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง อาทิ โฮมโปร ไทวัสดุ ดูโฮม โกลบอลเฮ้าส์ เมกาโฮม แม็คโคร บิ๊กซี โลตัส โกโฮลเซลล์ 7-Eleven ชมรมทายาทห้างค้าปลีก-ค้าส่งไทย บริษัท นิ่มซี่เส็ง จำกัด และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อป้อนสินค้าเข้าพื้นที่ ดูแลเรื่องการขนส่ง ซึ่งได้รับการยืนยันสินค้ามีเพียงพอ การขนส่งไม่มีปัญหา และพร้อมจัดโปรโมชันลดราคาสินค้าเพื่อช่วยเหลือประชาชนด้วย โดยเฉพาะของใช้จำเป็น รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมแซมและทำความสะอาด

ทั้งนี้ ยังได้กำชับให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด กำกับดูแลให้มีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้า และเข้มงวดไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า และหากพบการกระทำผิด ให้ดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และกรณีจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควรจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยประชาชน หากพบเห็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนได้ทางสายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569 ทางแอปพลิเคชันไลน์ @MR.DIT หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด

อย่างไรก็ตาม หลังน้ำลด กระทรวงพาณิชย์ จะเข้าไปดูแลและลดค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน ประสานร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด จัดสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด นำสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าทำความสะอาด สินค้าซ่อมแซมบ้าน ไปจัดจำหน่ายราคาพิเศษ  เพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยด่วนด้วย

ผบ.ตร.ห่วงใยประชาชน กำชับตำรวจภูเก็ต จัดกำลังตรวจตรา ดูแลความปลอดภัย และช่วยเหลือพี่น้องประชาชน กรณีภัยพิบัติดินโคลนถล่ม จ.ภูเก็ต

วันนี้ (25 สิงหาคม 2567) เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ รอง ผบช.ภ.8 และ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เข้าประชุมที่ศูนย์ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อรับทราบสถานการณ์ กรณีภัยพิบัติดินโคลนถล่ม จ.ภูเก็ต

ผบ.ตร. ได้มีข้อสั่งการ กำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีสถานการณ์ภัยพิบัติดินโคลนถล่ม ดังนี้

1. ให้จัดกำลังพนักงานสอบสวน พนักงานวิทยุ สายตรวจ และชุดเคลื่อนที่เร็ว ประจำที่ศูนย์ฟื้นฟูผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อให้การช่วยเหลือและรับแจ้งเหตุจากผู้ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

2. จัดกำลังออกลาดตระเวนตรวจตราบ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนที่ประสบภัย โดยจะต้องไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำเติมประชาชนขึ้นอย่างเด็ดขาด

3. จากการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ทราบล่วงหน้าว่าในช่วงนี้จะยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ดังนั้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียจากเหตุดังกล่าวซ้ำซ้อนอีก จึงให้ทุกหน่วยเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักและดินโคลนถล่มในพื้นที่ พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสียงภัยให้ทราบล่วงหน้า

จากนั้น พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ได้มอบสิ่งของตรวจเยี่ยมจำนวน 150 ชุด ให้กับประชาชนที่ประสบภัย และมอบเงินบำรุงขวัญให้กับ ผกก.สภ.กะรน โดย ผบ.ตร. ได้ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย และจิตอาสา ที่ได้ช่วยกันให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดสายด่วนให้ความช่วยเหลือประชาชน ทั้งหมายเลขสายด่วน 191 , 1599 , สายด่วนกองบังคับการตำรวจจราจร 1197 และสายด่วนตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชั่วโมง

สมุทรปราการ-ปลัดกระทรวงมหาดไทย ชื่นชม!! เทศบาลแพรกษา นำร่องเปิดศูนย์ OTOP ต้นแบบจังหวัดสมุทรปราการ

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดศูนย์จัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP แพรกษา พร้อมด้วย นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายเอกวิทย์ มีเพียร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และนายประทีป นทีทวีวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ กล่างรายงาน

โดยมี ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมัยที่ 25 และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา พร้อมด้วย นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ และประชาชนจำนวนมากร่วมในพิธีเปิดครั้งนี้ ณ อาคารสำนักงานเทศบาลตำบลแพรกษา อ.เมือง สมุทรปราการ

ด้าน ดร.ยงยุทธ สุวรรณบุตร ในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนผู้ผลิต ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น ให้ใช้ภูมิปัญญาและทรัพยากรในชุมชน ผลิตและพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและมีมาตรฐาน ทางเทศบาลตำบลแพรกษา โดย นางอรัญญา สุวรรณบุตร นายกเทศมนตรีตำบลแพรกษา ได้ให้การสนับสนุนการจำหน่ายสินค้าจึงได้ผลักดันศูนย์ OTOP แห่งนี้ เพื่อสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้แก่กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น
กรมการพัฒนาชุมชน ได้ขับเคลื่อนงานภายใต้วิสัยทัศน์ “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” การพัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างรายได้ โดยการน้อมนำแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต

และเพื่อสนองต่อนโยบายของรัฐบาลจึงได้อนุมัติให้จังหวัดสมุทรปราการดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์จัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP แพรกษา งบประมาณ 3,397,000 บาท เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์จากคนในชุมชนและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดสมุทรปราการให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น โดยศูนย์ OTOP แพรกษา จะเป็นศูนย์กลางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ทั้งในจังหวัดและนอกจังหวัด ทั้งในระบบ Offline และ Online ในอนาคต

คิว-ข่าวสมุทรปราการ รายงาน

'สุริยะ' แจงปมแนวคิด 'ซื้อคืนรถไฟฟ้า-ลุยจ้างเอกชนเดินรถ' หวังให้รัฐมีอิสระในการกำหนดนโยบาย โดยเฉพาะ 20 บาทตลอดสาย

(26 ส.ค. 67) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงแนวคิดการซื้อสัมปทานการบริหารโครงการรถไฟฟ้าจากภาคเอกชนคืนกลับมาเป็นของรัฐบาลว่า แนวคิดดังกล่าวกระทรวงคมนาคมได้ทำการศึกษาอยู่แล้ว โดยศึกษาจากต่างประเทศหลาย ๆ ประเทศ เพื่อให้รัฐบาลสามารถควบคุมอัตราค่าโดยสาร สอดคล้องนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายของรัฐบาลที่ต้องการลดค่าครองชีพด้านการเดินทางให้กับประชาชน

ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ยึดสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าโดยไม่คำนึงถึงสัญญาที่จัดทำไว้กับเอกชน ผู้ประกอบการแต่อย่างใด โดยจะยึดถือสัญญาที่ได้ทำไว้กับเอกชนเป็นหลัก แต่ยังเป็นเพียงแนวคิดที่รัฐบาลอาจจะพิจารณาถึงแนวทางความเป็นไปได้ในการซื้อ คืนระบบการเดินรถที่เอกชนได้ลงทุนไป รวมถึงสิทธิ์ในส่วนการให้บริการเดินรถตามสัญญาที่รัฐบาลได้ทำไว้กับเอกชนกลับคืนมา ซึ่งรัฐบาลจะยังคงจ้างเอกชนรายเดิมเป็นผู้เดินรถต่อไป อย่างไรก็ตาม จะทำให้รัฐบาลมีอิสระในการกำหนดนโยบายในเรื่องอัตราค่าโดยสาร และสามารถกำหนดอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายได้โดยไม่กระทบกับสัญญาสัมปทานเดิม

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมเตรียมหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาถึงแนวทางที่จะสามารถดำเนินการผ่านการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) โดยยึดภายใต้กรอบกฎหมายที่มีอยู่ พร้อมทั้งมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ไปดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์การจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion Charge) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินการดังกล่าว และนำรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด ส่งเข้ากองทุนฯ ที่จะจัดตั้งขึ้น เพื่อสนับสนุนในการรณรงค์ให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น รวมถึงยังเป็นการแก้ปัญหาจราจรจิดขัดอีกด้วย

สำหรับรูปแบบการซื้อสัมปทานการบริหารโครงการรถไฟฟ้านั้น จะเจรจาร่วมกับเอกชนเพื่อปรับสัญญาสัมปทานจากรูปแบบ PPP Net Cost หรือเอกชนได้รับสิทธิ์ในการลงทุน ระบบเดินรถ และให้บริการเดินรถ พร้อมทั้งเป็นผู้จัดเก็บรายได้ รวมถึงจัดสรรผลตอบแทนบางส่วนให้แก่ภาครัฐตามข้อตกลงในสัญญา โดยเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบ PPP Gross Cost ที่ภาครัฐเป็นผู้จัดเก็บรายได้เองทั้งหมด และรัฐชดเชยค่าใช้จ่ายลงทุนระบบเดินรถใน ส่วนที่เอกชนได้ลงทุนไปในระบบเดินรถคืนให้บริษัทเอกชนคู่สัญญาและรัฐจะจ้างเอกชนคู่สัญญารายเดิมเป็นผู้ให้บริการเดินรถจนกว่าสัญญาสัมปทานเดินจะสิ้นสุดลง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว จะไม่กระทบกับสัญญาของเอกชนอย่างแน่นอน

“ข้อเท็จจริงของแนวคิดเป็นเพียงต้องการจะสื่อให้เห็นว่า เป็นการทำเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน โดย ประชาชนจะได้รับบริการรถไฟฟ้าในราคาที่ถูกลง สอดคล้องกับนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายในทุกสีทุกเส้นทาง และเมื่อราคาค่าโดยสารถูกลง มั่นใจว่า จะมีผู้โดยสารมาใช้มากขึ้น ดังเช่น สายสีแดง และสายสีม่วงที่ได้มีการลดราคาไปแล้ว ซึ่งก็จะทำให้ส่งผลถึงสภาพการจราจรในถนนตามแนวเส้นทางนั้น ๆ ก็จะติดขัดน้อยลง โดยผมขอยืนยันอีกครั้งว่า ไม่ได้เป็นการยึดสัมปทานคืนจากเอกชนแต่อย่างใด แต่เป็นการซื้อคืนระบบเดินรถและสิทธิ์การเดินรถ แล้วจ้างเดินรถ โดยเปลี่ยนสัญญาจากรูปแบบ PPP Net Cross เป็น PPP Gross Cost ซึ่งประชาชนได้ประโยชน์ ผมอยากสร้างความเชื่อมั่นว่า เราไม่ได้ไปยึดสัมปทาน อาจจะมีการตีความผิด เพราะถ้าพูดแบบนั้น ต่อไปใครจะกล้าเข้ามาลงทุนกับรัฐอีกในอนาคต” นายสุริยะ กล่าว

'ทนายบอน' ชี้!! บุคคลที่ได้รับหมายเรียกในคดีอาญา มีหน้าที่ต้องไปให้การตามหมาย หากไม่ไปจะมีความผิด

(26 ส.ค. 67) นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ หรือ 'ทนายบอน' อดีตผู้สมัคร สส.กทม. พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า..

[บุคคลที่ได้รับหมายเรียกในคดีอาญามีหน้าที่ต้องไปให้การตามหมาย]

ช่วงนี้มีประเด็นเรื่อง [การเข้าไปเป็นพยานในคดีอาญา] เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน บุคคลจะเข้าไปเป็นพยานในคดีอาญาได้กรณีไหน ถ้าได้รับหมายเรียกแล้วต้องทำอย่างไร มีข้อกฎหมายที่สรุปได้ดังนี้ครับ

1. ในชั้นสอบสวนของตำรวจ พนักงานสอบสวน มีหน้าที่รวบรวมหลักฐานทุกชนิด เพื่อพิสูจน์ให้เห็นความผิดหรือความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา ดังนั้น การเรียกบุคคลเข้าเป็นพยาน จึงเกิดได้ทั้งจากพนักงานสอบสวนเห็นสมควรเรียก หรือผู้ต้องหาจะร้องขอให้พนักงานสอบสวนเรียกก็ได้

2. ในชั้นอัยการ เมื่อพนักงานสอบสวนส่งสำนวนไปยังอัยการแล้ว พนักงานอัยการมีอำนาจสั่งฟ้อง หรือสั่งไม่ฟ้อง หรือสั่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมหลักฐานใด หรือพยานปากใดก็ได้

3. ไม่ว่ากรณีที่ 1 หรือ 2 พนักงานสอบสวนจะออก [หมายเรียกพยาน] โดยในหมายเรียกพยาน จะไม่มีการแจ้งว่าพนักงานสอบสวนเห็นสมควรเรียกเอง, พนักงานอัยการสั่งสอบเพิ่มเติม หรือผู้ต้องหาอ้างเป็นพยาน มีระบุแค่ ให้ไปพบพนักงานสอบสวนด้วยเรื่องใด ในวันใด เท่านั้น

4. ในกรณีตามข้อ 3 ผู้รับหมายเรียกมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องไปพบพนักงานสอบสวนตามวันเวลาที่นัดหมาย ไม่ว่าหมายเรียกพยานนั้นจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตาม...ไม่ไปมีความผิดตามกฎหมาย

ได้รับหมายเรียกต้องไป...ให้การต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง...เรื่องมันมีแค่นั้นครับ

#ทนายบอน

ร่วมส่งกำลังใจถวายสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี ทรงรับเชิญเสด็จของทีมเรือใบวายุ ร่วมการแข่งขันเรือใบรายการใหญ่

(26 ส.ค. 67) เพจ 'ใต้ร่มฉัตร' ได้โพสต์ข้อความภายหลัง สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงรับเชิญเสด็จของทีมเรือใบวายุ ไปทรงร่วมการแข่งขันเรือใบรายการ Puerto Portals 52 Super Series Sailing Week ณ Puerto Portals TP 52 Super Series ราชอาณาจักรสเปน ระหว่างวันที่ 27 สิงหาคม - 1 กันยายน 2567 ในตำแหน่ง Strategist ของทีม 

TP 52 Super Series เป็นการแข่งขันระดับเอลิทของกีฬาเรือใบที่มีคนติดตามจํานวนมาก และรวมผู้แข่งขันที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ จากนักกีฬาเรือใบรายการอเมริกาส์คัพ นักกีฬาเรือใบที่รับเหรียญในระดับโอลิมปิก และนักเรือที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ ระดับโลกทั้งหมด โดยเรือทุกลํา ยกเว้นทีมวายุ จะประกอบด้วยลูกเรือที่เป็นนักกีฬาเรือใบมืออาชีพชั้นนําทั้งสิ้นนอกเหนือจาก เจ้าของเรือ หรือตัวแทนเจ้าของ ส่งผลให้การแข่งขันเป็นไปอย่างดุเดือดและเข้มข้น ตั้งแต่จุดสตาร์ท ถึงเส้นชัย 

โดยเรือแต่ละลํามีการผ่านแล่นผ่านกันในระยะที่น้อยกว่า 1 เมตร บนสนามแข่งจะมีทีมกรรมการจัดการแข่งขัน และทีมผู้ตัดสิน (Umpire) ตามดูการแข่งขันอย่างใกล้ชิด กํากับการแข่งขันให้เป็นไปตามกฎระเบียบ แต่ก็มีอุบัติเหตุชนกันเกิดขึ้นได้เสมอ อีกทั้งเรือ TP 52 ยังเป็นเรือแข่งระดับ Grand Prix ซึ่งทรงสมรรถนะและแล่นใบด้วยความเร็วสูง นักแข่งทุกคนจึงจําเป็นต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงเกี่ยวกับความปลอดภัยตลอดเวลา 

TP 52 Super Series 2024 จะมีการแข่งขันทั้งสิ้น 5 สนาม โดยสนาม ณ Puerto Portals ที่สมเด็จฯ จะทรงเข้าร่วม จะเป็นสนามที่ 4 ของรายการ โดยปัจจุบันทีมวายุมีคะแนนรวมอยู่ลำดับที่ 6 จาก 13 ทีม

#ขอถวายกำลังพระทัย

เจ้าหน้าที่รุดช่วย 'โกลเด้น' ตกฝายน้ำล้น ฮึด!! ลอยคอสู้กระแสน้ำเชี่ยวนานหลายชั่วโมง

(26 ส.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ช่วงนี้ฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายวัน ทำให้น้ำไหลทะลักออกจากหนองบึงนาคำ เขตเทศบาลตำบลบ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยนายสุรเชศฐ์ ภูมิศรีแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่ามีสุนัขตกน้ำบริเวณฝายน้ำล้นนานหลายชั่วโมง กำลังลอยคอพยายามตะเกียกตะกายหนีตาย ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว จึงพร้อมด้วยฝ่ายป้องกันฯ เทศบาลตำบลบ้านเชียง รุดเข้าตรวจสอบให้การช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน 

แม้การช่วยเหลือครั้งนี้จะเต็มไปด้วยความยากลำบาก เนื่องด้วยกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว แต่แล้วทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถช่วยเหลือสุนัขตัวดังกล่าวขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย พบเป็นสุนัขเพศผู้ สายพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ทราบชื่อ เจ้าผักหวาน ขณะนั้นอยู่ในสภาพอ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง เจ้าของจึงรีบนำส่งคลินิกรักษาสัตว์อบอุ่น ที่ อ.หนองหาน ทันที ล่าสุด ทราบว่าเจ้าผักหวานอาการปลอดภัยแล้ว 

‘ช่อง Cullen Hateberry’ แจ้งเลื่อนลงคลิปเที่ยว จ.น่าน พร้อมส่งความห่วงใย-กำลังใจให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

(26 ส.ค. 67) สถานการณ์น้ำท่วม จ.น่าน ที่ได้รับผลกระทบถึง 11 อำเภอ 65 ตำบล 435 หมู่บ้าน มีประชาชนเดือดร้อน 50,000 ครัวเรือน ซึ่งขณะนี้ในหลายพื้นที่น้ำได้ลดลงเริ่มเข้าสู่ภาวะเกือบปกติแล้ว แต่ยังมีบางส่วนในพื้นที่ อ.เมืองน่าน และ อ.เวียงสา ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำและเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำยังคงมีน้ำขังอยู่ โดยทุกภาคส่วนได้เร่งเข้าไปให้การช่วยเหลือคนในพื้นที่ หากไม่มีฝนตกซ้ำคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 วันนี้

ต่อมา ยูทูบเบอร์ชื่อดัง 'คัลแลน' จากช่อง '컬렌 Cullen HateBerry' ประกาศจากทีมงานเลื่อนการอัปโหลดวิดีโออีพีที่ถ่ายใน จ.น่าน ออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะดีขึ้น โดยระบุข้อความว่า.. 

"ทางทีมขอแจ้งการเปลี่ยนแปลงการอัปโหลด Ep.น่าน ที่มีกําหนดการอัปโหลดในวันนี้ โดยจะทำการอัปโหลดหลังจากสถานการณ์น้ำท่วมดีขึ้นครับ เนื่องจากตอนนี้หลาย ๆ พื้นที่ในหลายจังหวัดที่ประสบอุทกภัย กำลังเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือ ความรัก และความใส่ใจอย่างมากครับ ทางทีม Cullen Hateberry หวังว่าทุก ๆ คนจะปลอดภัย เราขอส่งความรักความห่วงใยพร้อมกับกําลังใจมาให้อีกครั้งนะครับ"

"ทีมช่องยูทูป Cullen Hateberry ขอส่งความห่วงใย และขอแสดงความเสียใจต่อผู้ที่ประสบและได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทั่วภูมิภาค ขอให้ทุก ๆ คนผ่านพ้นวิกฤตนี้โดยเร็วครับ"


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top