Saturday, 24 May 2025
TheStatesTimes

ประเด็นดรามา ‘ลูกค้า-เชฟ’ แจงเหตุผลคนละมุม ผ่านโลกออนไลน์ ร้านหรูย้ำ!! มีคนมาเสนอให้ ‘ดาว’ ด้วยราคาที่ถูกกว่าร้านอื่น

(22 ก.ค.67) การออกไปทานอาหารหรูนอกบ้าน กับครอบครัวอันเป็นที่รัก เพื่อฉลองวันเกิด หลายคนก็คงจะต้องการช่วงเวลาที่ประทับใจ การจ่ายเงินแพง เพื่อซื้อช่วงเวลาที่ดีที่สุด ถ้ากำลังเงินในกระเป๋าไม่มีปัญหา ก็ย่อมยินดีที่จะจ่ายในราคาที่สูง 

แต่เมื่อจ่ายสูง ด้วยราคาค่าคอร์ส ‘หลายพัน’ แต่กลับได้บริการที่ ‘ไม่น่าประทับใจ’ ประเด็นดรามาจึงได้เกิดขึ้น

เมื่อผู้ใช้บริการท่านหนึ่ง ได้จองร้านอาหารหรูสไตล์ ‘Spanish’ โดยได้ทักจองไปทั้งหมด 12 ที่ ด้วยความหวังที่จะได้บริการที่ดีจากทางร้าน แต่ทว่า ... 

มันไม่ได้ ‘สมราคา’ กับที่จ่ายไป 

จึงได้ออกมาโพสต์รีวิวร้านอาหารสุดหรูแห่งนั้น

ประการแรก เริ่มตั้งแต่ ‘การจองร้าน’ ทักไปจอง 12 ที่ แต่ทางร้านตอบกลับมาว่า ‘จองกี่ที่ครับ’

ประการที่สอง อาหารเค็มและช้า ‘เสิร์ฟอาหารก่อนช้อนส้อมนานมาก’ และเมื่อสอบถามถึงส่วนผสมของอาหารก็ตอบไม่ได้  ตอบได้แค่ ‘ผักตามฤดูกาล’

ประการต่อมา ‘ไม่มีแก้วไวน์ที่เหมาะสมสำหรับไวน์ดีๆ’ ทางลูกค้านำไวน์ไปเอง แต่ทางร้านเสิร์ฟไวน์เสร็จ ก็เก็บขวดไปเลย ไม่ตั้งไว้จนจบ หรือตั้งไว้ให้ลูกค้านำขวดกลับบ้าน

ซึ่งงานนี้ ‘เชฟ’ ไม่อยู่เฉย วางกระทะออกจากครัว แล้วพิมพ์โต้กลับลูกค้า ด้วยความ ‘ภาคภูมิใจ’

ประการแรก ร้านจะถามกลับอีกรอบทุกครั้งว่าท้ายสุดมีทั้งหมดกี่ที่

ประการที่ต่อมา ทางร้านเสิร์ฟอาหารก่อน เพื่อรอลูกค้าถ่ายรูป และช้อนส้อมจะตามมา

ประการที่สาม สามารถนำแก้วไวน์มาได้เองเลย ไม่มีค่าบริการเพิ่ม 

และลูกค้าสามารถแจ้งเรื่องตั้งขวดหรือนำขวดกลับบ้านได้ เหมือนที่แจ้งทางร้านบริการห่อกระดูกสเต๊กเนื้อกลับบ้าน

ลูกค้าที่มาใช้บริการ ไม่มีเหตุผลอะไรเลย ไร้สาระ และไม่มีวุฒิภาวะ พฤติกรรมน่ากลัว

ทางร้านรู้ตัวดีว่าทำอะไรอยู่ ไม่อาย รวมทั้งมีความภาคภูมิใจ

ร้านอาหารของเรา มีคนมาเสนอขายดาวให้ ตั้งแต่สี่เดือนแรกที่เปิดร้าน และค่าสัญญาถูกที่สุดกว่าทุกร้าน ปีที่แล้วและปีนี้ก็ได้เสนอแพ็กเกจซื้อรางวัล ‘THAILAND FAVOURITE RESTAURANT’ รวมถึงรางวัลอื่นๆ 

ยินดีต้อนรับลูกค้า ‘ท่านอื่น’ ส่วนบางคนถ้าไม่พร้อมรับบริการก็ ‘อย่ามา’

ลูกค้าควรเคารพ และมีมารยาทกับร้านที่จะไปใช้บริการด้วย

ไขความลับ 'ซินเจียงอุยกูร์' ใต้ผืนทะเลทราย-ภูเขาหิมะ-อากาศแปรปรวน' แต่กลับมี 'น้ำใช้-ไม่แล้ง-ไม่ท่วม' จนสร้างผลผลิตทางเกษตรได้ดีเกินคาด

เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.67) เพจ ‘ตี๋น้อย’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ ภูมิปัญญาการวางแผนระบบวิศวกรรมน้ำแบบครบวงจร ที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ประเทศจีน โดยได้ระบุว่า ...

ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ทางมหาวิทยาลัยสือเหอจื่อ เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ประเทศจีนได้พานักศึกษาต่างชาติรวมถึงตี๋น้อยมีโอกาสได้ไปเรียนรู้ระบบวิศวกรรมด้านน้ำมาครับ

อย่างที่ทุกคนรู้ครับว่า เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ประเทศจีนเป็นพื้นที่ทะเลทราย แต่ก็มีพื้นที่ที่เป็นภูเขาหิมะด้วย สภาพอากาศค่อนข้างแตกต่างกันมากๆ หนาวสุด -30 องศาเซลเซียส หิมะหนามาก ๆ ถนนเป็นน้ำแข็ง ร้อนสุดที่ 35-38 องศาเซลเซียส ซึ่งจะเห็นได้ว่า สภาพอากาศแตกต่างกันมาก ๆ

แล้วทีนี้ในสภาพอากาศที่สุดขั้วแบบนี้ทำไมที่นี่ซินเจียงถึงมีน้ำใช้ได้ตลอด ไม่ท่วม ไม่แล้ง แถมทำการเกษตรได้ดีด้วย

คำตอบอยู่ที่นี่ครับ ทุกอย่างอยู่ที่สมอง และการจัดการของมนุษย์ล้วน ๆ ที่นี่เองมีการวางแผนระบบวิศวกรรมน้ำแบบครบวงจรทั้งเมือง นำธรรมชาติและเทคโนโลยีวิศวกรรมมากประยุกต์ใช้ร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ที่นี่มีการวางผังระบบน้ำทั้งระบบของทั้งเมือง ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และ ปลายน้ำ โดยที่ต้นน้ำจะมีสถานีรับน้ำจากภูเขาหิมะ โดยที่น้ำจะเป็นหิมะละลายมาจากภูเขา และที่สถานีรับน้ำมีท่อรับน้ำเพื่อเก็บแทงค์น้ำใต้ดิน มีทั้งระบบน้ำล้น น้ำผุด นอกจากนี้ที่นี่ยังมีประตูระบายน้ำอัตโนมัติ รวมถึงการควบคุมการส่งน้ำผ่านแม่น้ำลำคลองที่มนุษย์สร้างด้วย ที่สำคัญคือ ทุกอย่างควบคุมผ่านเอไอทั้งหมดด้วย ทำให้ที่นี่เวลาหิมะละลาย น้ำไม่ท่วม หน้าแล้งก็มีน้ำใช้ตลอด ทุกอย่างเพียงพอสำหรับการเกษตร และการใช้น้ำในชีวิตประจำวัน ไม่มีแล้ง แถมมีผลไม้ให้กินตลอดด้วย

‘สส.เท่าพิภพ’ เสนอแก้กฎหมาย เพื่อปลดล็อก ‘หนังโป๊-เซ็กซ์ทอย’ ชี้!! นำมาทำ ‘ให้ถูกต้อง-ได้มาตรฐาน’ จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ

เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.67) นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กรุงเทพมหานคร เขต 22 พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก เสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.287 เพื่อปลดล็อกสื่อผู้ใหญ่ ของเล่นผู้ใหญ่ โดยระบุว่า ...

ปลดล็อกอุตสาหกรรมผู้ใหญ่ เปิดสภาถกเถียง ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.287 ปลดล็อกสื่อผู้ใหญ่ ของเล่นผู้ใหญ่ ยันมีการควบคุมอยู่ ย้ำไม่ได้เสรี 

‘ร่างดังกล่าวมีการแก้ไขเพียงมาตรา 287 มาตราเดียว’ ซึ่งปัจจุบันห้ามสื่อลามก และของเล่นผู้ใหญ่ แบบ Total Ban ซึ่งผมได้แก้ไขใหม่ดังนี้

1. สื่อชนิดต่าง ๆ ให้กระทำได้ แต่ห้ามให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี และต้องไม่มีเนื้อหารุนแรง เช่น ฉากข่มขืน ใช้กำลัง เป็นต้น

2. ปลดล็อกของเล่นผู้ใหญ่ เพื่อที่จะให้มาตรฐานทางอุตสาหกรรม (มอก.) และองค์การอาหารและยา (อย.) สามารถออกประกาศมาควบคุมมาตรฐานได้เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ และลักลอบ

ผมทราบดีคนส่วนใหญ่ในลานทัวร์ในคอมเมนต์หรือรีพลายคงไม่ได้อ่านมาถึงตรงนี้ แต่ถึงอย่างไรผมก็พร้อมน้อมรับ คำวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของเนื้อหาทางกฎหมาย และมุมมองอื่น ๆ

ส่วนตัวผมไม่ได้เป็นคนที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากสิ่งที่ผมจะปลดล็อก แต่ผมเองในฐานะผู้แทนราษฎรผู้มีหน้าที่ผลักเพดาน ความคิด และขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้า คิดว่าการนำเสนอประเด็นนี้เป็นการที่ทำให้สังคมไทยได้เรียนรู้ซึ่งกันแล้วกัน ร่วมกันหาทางออกประเทศด้วยการถกเถียงอย่างตรงไปตรงมา ไม่ดัดจริตผ่านกลไกประชาธิปไตย และกลไกสภา

เรื่องนี้ไม่ใช่เพราะอยากเห็นเหล่าเยาวชนเข้าถึงสื่อลามกง่ายขึ้น แต่อยากยกเรื่องนี้ขึ้นบนดิน เพื่อให้สิ่งนี้อยู่ในแสงสว่าง สามารถพูดถึงได้ วิพากษ์วิจารณ์ ตรวจสอบได้ตามครรลองเสียที เป็นทั้งประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจ ทั้งการบังคับใช้กฎหมายที่สามารถควบคุมเนื้อหาได้ ความปลอดภัยของประชาชน

อยากเชิญชวนให้ทุกคนติดตามการพิจารณากฎหมายนี้ที่จะเข้าสภาไม่เกินสัปดาห์ สองสัปดาห์นี้ ฝากแสดงความคิดเห็นถกเถียงกันได้เต็มที่ครับ

‘อนาคตไกล’ เดินหน้าช่วยเกษตรกร รับซื้อ ‘ปลาหมอคางดำ’ เพื่อนำไปกำจัด อัดใส่ ‘พิธา-ก้าวไกล’ ชี้!! มีตรรกะวิบัติ ที่คิดจะมีคนนำไปเพาะเลี้ยง

เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.67) ที่พรรคอนาคตไกล นายภวัต เชี่ยวชาญเรือ โฆษกพรรคอนาคตไกล กล่าวว่า ปัญหาการรุกรานของปลาหมอคางดำชื่อสามัญ Blackchin tilapia ชื่อวิทยาศาสตร์ Sarotherodon melanotheron Ruppell ปลาชนิดนี้สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย ทำให้เจริญเติบโตและแพร่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อระบบนิเวศ สร้างความเดือดร้อนเสียหายเป็นวงกว้างให้กับเกษตรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมง

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศเรื่องกำหนดชนิดสัตว์น้ำห้ามเพาะเลี้ยงในราชอาณาจักร พ.ศ. 2564 ห้ามเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำ หากผู้ใดฝ่าฝืนทำการเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำ มีความผิดตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ตามมาตรา 144 ระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และหากนำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำ ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ  

ล่าสุด นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมงออกประกาศกรมประมง เรื่อง ประชาสัมพันธ์ห้ามเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำ ลงวันที่ 19กรกฎาคม 2567 โดยกรมประมงอยู่ระหว่างดำเนินการ ควบคุมกำจัดไม่ให้ปลาชนิดนี้ แพร่ขยายและเป็นการลดผลกระทบต่อระบบนิเวศและลดความเดือดร้อนต่อเกษตรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมง จึงได้ประชาสัมพันธ์ต่อพี่น้องประชาชนห้ามทำการเพาะเลี้ยงและนำปลาหมอคางดำไปปล่อยในแหล่งน้ำอย่างเด็ดขาด

นายภวัต กล่าวต่อว่า พรรคอนาคตไกลพร้อมคณะทำงานได้เล็งเห็นความสำคัญและได้ติดตามปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ของประเทศ โดยให้ความสำคัญแก่พี่น้องเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและชาวประมงที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและเดือดร้อนเสียหายจากแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำที่เกิดจากแหล่งน้ำธรรมชาติโดยเร่งด่วน ได้เปิดศูนย์ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเปิดรับซื้อปลาหมอคางดำที่ตายแล้วที่จับได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยรับซื้อในกิโลกรัมละ 20 บาท จำนวน 20 ตัน เพื่อนำไปกำจัดทำลายหรือแปรรูปเป็นอาหารสัตว์หรือหมักทำลายปุ๋ยจุลินทรีย์ชีวภาพ โดยประสานที่ศูนย์ช่วยเหลือพรรคอนาคตไกล เบอร์โทรศัพท์ 081 226 5599

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกลและสส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลได้ให้สัมภาษณ์โดย ติงรัฐบาล คิดให้ดี แก้ปัญหาปลาหมอคางดำระบาดด้วยการรับซื้อ หวั่นคนเพาะเลี้ยงมากขึ้น นายภวัค โฆษกพรรคอนาคตไกล กล่าวว่า ปลาหมอคางดำ เป็นสัตว์น้ำที่เป็นอันตรายโดยสภาพต่อระบบนิเวศและสัตว์น้ำประเภทอื่นโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศเรื่องกำหนดชนิดสัตว์น้ำห้ามเพาะเลี้ยงในราชอาณาจักร พ.ศ.2564 เพราะเป็นสัตว์น้ำอันตรายที่ขึ้นทะเบียนควบคุม ห้ามนำเข้าและส่งออก รวมถึงห้ามเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำเพราะมีโทษจำคุกหรือปรับในอัตราสูง โดยอยู่ในการกำกับ ควบคุมโดยกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อพี่น้องประชาชนทราบถึงภัยของปลาหมอคางดำสายพันธ์ุเอเลี่ยนสปีชีส์หรือชนิดพันธ์ุต่างถิ่นที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา กินสัตว์น้ำชนิดอื่นในแหล่งน้ำธรรมชาติเดียวกัน ส่งผลให้ระบบนิเวศเสียหาย ประกอบกับ ปลาหมอคางดำไม่มีราคาซื้อขายในตลาดการแข่งขัน โอกาสการเพาะเลี้ยงเกิดขึ้นได้ยาก เพราะดุลยภาพการตลาดและราคาไม่เกิดขึ้น เพราะไม่มีตลาดรับซื้อ อุปสงค์ต่อความต้องการปลาหมอคางดำในตลาดของประชาชนไม่เกิดขึ้น อุปทานการผลิตย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยเพราะมีความเสี่ยงถูกดำเนินคดีอาญาสูง

ส่วนที่นายพิธา ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เคยเห็นประเทศไหนทำ คือ การรับซื้อ เพราะจะทำให้เกิด Cobra Effect ยิ่งเปิดรับซื้อ คนอาจใช้โอกาสนี้เพาะเลี้ยงมากขึ้น ตนเห็นว่าเป็นการคาดคะเนและตรรกะวิบัติ เพราะปัญหาการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว จะเห็นได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นหนองน้ำ ลำคลอง แม่น้ำหรือทะเล ปลาชนิดนี้ทนต่อความเค็มได้สูง สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมของประเทศ กินทั้งพืช สัตว์หรือซากของสิ่งมีชีวิต และสามารถย่อยอาหารได้ดี ทำให้มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นสภาพน้ำจืด น้ำกร่อย หรือน้ำเค็ม

วิธีการแก้ปัญหาโดยการสร้างแรงจูงใจให้แก่พี่น้องประชาชนในการจับสัตว์น้ำ เป็นปัญหาจำเป็นเร่งด่วน โดยวิธีการรับซื้อเพื่อกำจัดทำลาย เพราะโดยสภาพปลาประเภทนี้ถือว่าเป็นวัตถุต้องห้ามและผิดกฎหมาย หากใครครอบครองเพาะเลี้ยงย่อมเป็นความผิด หากปลาหมอคางดำตายแล้ว จะต้องนำไปกำจัดหรือแปรรูป แต่ไม่ใช่นำไปให้พี่น้องประชาชนรับประทาน แต่สามารถนำไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์หรือปุ๋ยได้ ตรงนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญโดยกรมประมง รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายแก้ปัญหาโดยเปิดรับซื้อปลาหมอคางดำเพื่อกำจัด ในราคากิโลกรัมละ 15 บาท แก้ปัญหามาถูกช่องทางแล้ว

“พรรคอนาคตไกลโดยท่านหัวหน้าพรรค ดร.อภิสัณห์ ศรวัชรณัฏฐ์ พร้อมคณะทำงาน จึงได้เปิดศูนย์ช่วยเหลือประชาชนโดยการรับซื้อปลาหมอคางดำเพื่อกำจัดทำลายอีกช่องทางหนึ่งเพื่อลดปัญหาการแพร่ระบาดและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน” โฆษกพรรคอนาคตไกล กล่าว

‘มาเลเซีย’ เริ่มใช้เส้นจราจรเรืองแสง เพิ่มความสว่าง คาด!! ช่วยลดอุบัติเหตุ ในเวลากลางคืนได้ดี

(22 ก.ค.67) เพจ ‘Motor Thailand’ ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับถนนในประเทศมาเลเซีย โดยได้ระบุว่า ...

มาเลเซียเริ่มใช้เส้นจราจรเรืองแสง เพื่อความปลอดภัยบนถนนแล้ว

โครงการก่อสร้างถนน Shining Line ที่บาตูปาฮัต รัฐยะโฮร์ ในมาเลเซีย ใช้การตีเส้นจราจรแบบเรืองแสง ยิ่งมืด เส้นจราจรจะยิ่งสว่างเพื่อความปลอดภัยบนถนน เส้นจราจรเรืองแสงจะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุได้ดีในเวลากลางคืน

การประยุกต์ใช้เครื่องหมายจราจรเรืองแสงในที่มืดนี้จะเน้นไปที่บริเวณที่ไม่มีสายไฟฟ้า หรือบริเวณที่ไม่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งเสาไฟฟ้า รวมไปถึงบริเวณที่มืด บริเวณทางโค้งอันตราย และบนถนนที่เชื่อมต่อเมืองต่าง ๆ

มาเลเซียจัดเป็นประเทศที่มีคุณภาพถนนดีที่สุดเป็น อันดับ 2 รองจากสิงคโปร์ที่ครองอันดับ 1 ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 4 จากการจัดอันดับของ World Global Economy

ข้อมูลเพิ่มเติม https://motor-th.com/?p=434

‘อดีตสว.วันชัย’ ฟันธงชะตา ‘ทักษิณ’ หลังเดือนเกิด จะมีแต่ความยิ่งใหญ่ ชี้!! นี่คือกำลังเสริม เติมให้รัฐบาล ‘เปรี้ยงปร้าง’ อะไรก็รั้งฉุดไม่อยู่

เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.67) นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ...

ดวงคุณทักษิณ ชินวัตร กับราชาโชค คุณทักษิณเกิดวันที่ 26 ก.ค. 2492 เวลาก่อนเที่ยงตรงกับวันอังคารปีฉลู มีทั้งจันทร์เด่นและจันทร์ดับ มีทั้งคนรักคนเกลียด ตรงกับราศีเมษมีดาวพฤหัสกุมเกตุเป็นราชาโชค...ยังมีอีกหลายดวงดาวที่เกี่ยวพันกับดวงชะตา หลังจากเดือนเกิดต่อแต่นี้จะมีแต่แข็งและแรงขึ้น ยิ่งอยู่ในฐานของราชาโชค มีแต่โชคที่ยิ่งใหญ่ เคยดับอับแสงจะกลับมาสว่างไสวเจิดจ้าเป็นโชคชะตาที่ยิ่งใหญ่ไปสุด ๆ จะได้รับการยกย่องตามหลักโหราว่าเป็นปทุมเกณฑ์ ชนิดที่คิดและก็คาดไม่ถึง

จะปล่อยให้คุณเศรษฐา ทวีสิน และพลพรรคเพื่อไทยขับเคลื่อนอยู่เช่นนี้ ยังไม่มีผลงานใดที่โดนใจประชาชน ได้แต่เต้นแร้งเต้นกาไปวัน ๆ ประชาชนก็เห็นแต่ท่าแต่ทางไปเท่านั้น ที่จะชื่นชมนิยมยกย่องยังไม่มีเลย ขืนปล่อยไปเช่นนี้ทั้งเพื่อไทยทั้งครอบครัวทั้งตัวคุณทักษิณ ก็จะถูกจันทร์ดับอับแสงไปด้วย จะอยู่ในที่มืดต่อไปคงไม่ได้ จันทร์ต้องออกมาส่องหล้าด้วยตัวของคุณทักษิณเอง 

สถานการณ์นี้คุณทักษิณต้องออกมาขับเคลื่อนให้เห็นเด่นชัดแบบตรงไปตรงมา เพราะดาวพฤหัสและราชาโชคเปิดโอกาสให้แล้ว ไม่ขยับตอนนี้แล้วจะไปขยับตอนไหน... ดูจากดวงดาวจึงต้องเป็นคุณทักษิณ ชินวัตร... ส่วนจะบริหารจัดการกับอำนาจอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่จะต้องตัดสินใจกันเองให้เกิดความพอดีพอเหมาะ ร่วมมือร่วมใจ รัฐบาลก็เดินไปได้ คุณทักษิณก็เป็นกำลังเสริมเติมให้เปรี้ยงปร้าง...ดาวพฤหัสและราชาโชค มาถูกที่ถูกเวลากับชะตาของเขา...อะไรก็รั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่

‘พล.ท.นันทเดช’ โพสต์เฟซเล่าเรื่อง ‘โดมชรา’ ที่น่าเคารพ เผย!! ปัจจุบันบทบาทของสถาบัน ‘พิทักษ์ธรรม’ ได้จางหายไป

เมื่อวานนี้ (21 ก.ค.67) พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ เพื่อทบทวนถึงบทบาทของธรรมศาสตร์ และ โดมชราในอดีต โดยมีเนื้อหาดังนี้ ...

อยากไป อยากไป จะไปเยี่ยมไข้โดมชรา  

วันนี้ ผมขอเล่าถึงเรื่องของ ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์สัก3ท่าน เพื่อทบทวนถึงบทบาทของธรรมศาสตร์ และโดมชราในอดีต ไว้กันลืมครับ 

คนแรก คือ 'กุหลาบ สายประดิษฐ์' หรือ ‘ศรีบูรพา’ ซึ่งเคยเขียนบทความทิ้งไว้ให้ ชาวธรรมศาสตร์ เมื่อปี 2496 เป็นเรื่องที่คนรุ่น Gen B อ่านแล้วลืมไม่ลง ชื่อว่า ‘มองนักศึกษา มธก. ผ่านแว่นขาว’ ซึ่งมีข้อความตอนหนึ่งระบุว่า 

นักศึกษาและบัณฑิตของ มธก. มีความรักในมหาวิทยาลัยของเขา มิใช่เพราะเหตุแต่เพียงว่าเขาได้เรียนในมหาวิทยาลัยนี้ เขาได้วิชาความรู้ไปจากมหาวิทยาลัยนี้ เขารักมหาวิทยาลัยนี้ เพราะมีธาตุบางอย่างของมหาวิทยาลัยนี้ที่สอนให้เขารู้จักรักคนอื่น ๆ รู้จักคิดถึงความทุกข์ยากของคนอื่น เพราะว่ามหาวิทยาลัยนี้ไม่กักกันเขาไว้ในอุปทาน และความคิดที่จะเอาแต่ตัวรอดเท่านั้น ชาว มธก. รักมหาวิทยาลัยของเขา เพราะว่ามหาวิทยาลัยของเขารู้จักรักคนอื่นด้วย  

เนื้อเรื่องดังกล่าวนี้ได้ถูกนำมาสนธิกรรมขึ้นมาใหม่ โดย กลุ่ม นศ.มธ ในกิจกรรมที่สืบทอดมาจากเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 เป็นข้อความว่า 

"ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน"

ข้อความตรงส่วนนี้ ‘ศรีบูรพา’ น่าจะหมายถึงประชาชนทุกภาคส่วน และต้องเป็นคนดีด้วย ไม่ใช่ประชาชนเฉพาะกลุ่ม ที่คนรุ่นใหม่กลุ่มหนึ่ง และนักการเมืองบางคนเคยนำไป แอบอ้างไว้

ชาวธรรมศาสตร์ธรรมดา คนที่ 2 ชื่อ 'เปลื้อง วรรณศรี' เป็นบุคคลที่ถูกกลืนหายไปในสายธารความคิดของ กลุ่มคนรุ่นใหม่หมดสิ้นแล้ว เปลื้อง เป็นคนสู้ชีวิต เป็นนักเขียน นักหนังสือพิมพ์ นักการเมือง และเป็นประชาชน ที่รักความยุติธรรมที่เด่นชัดคนหนึ่งของประเทศไทย เมื่อดูจาก กลอนที่เขียนให้ชาวธรรมศาสตร์บทนี้ 

“สิ่งเหล่านี้ ที่โดม โหมจิตข้า
ให้แกร่งกล้า เดือนปี ไม่มีหวั่น
ถ้าขาดโดม เจ้าพระยา ท่าพระจันทร์
ก็เหมือนขาด สัญลักษณ์ พิทักษ์ธรรม”

วันนี้ โดม เจ้าพระยา ท่าพระจันทร์ ก็ยังอยู่ครบ เพียงแต่ โดมกำลังซ่อมแซมอยู่เท่านั้น แต่คนรุ่นใหม่กลุ่มน้อย ๆ ที่พยายามอ้าง 

ธรรมศาสตร์ ไปเป็นฐานทางการเมืองอยู่ ในปัจจุบันนั้น กลับไม่มีบทบาทไป ‘พิทักษ์ธรรม’ เท่าที่ควร 

คนที่ 3 คือ 'อาจารย์ ป๋วย อึ้งภากรณ์' ซึ่งผม ขออนุญาตนำไปเล่าในตอนต่อไปครับ

ปัจจุบัน ธรรมศาสตร์ได้ อธิการบดีคนใหม่ แม้จะไม่เคยพบ แต่เท่าที่ทราบมา ท่านเป็นคนที่ ใช้ความหมายของ ‘ประชาชน ที่ธรรมศาสตร์รัก’ ว่า เป็น คนดี ไม่เลือกฝ่ายทางการเมือง ส่วนความหมายของคำว่า ‘พิทักษ์ธรรม’ นั้นน่าจะต้องเป็นคนที่ยอมรับในกฎหมายด้วย ก็หวังว่า ก้าวใหม่ของธรรมศาสตร์ จะกลับมาเป็นกลาง ไม่เอียงไปเอียงมาจน เกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองอีกต่อไป 

ในวันพุธที่ 24 ก.ค. 2567 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ทางธรรมศาสตร์จะจัดพิธีตักบาตรที่สนามฟุตบอล ท่าพระจันทร์ และ ฟังธรรม จาก พระอาจารย์อารยวังโส (ท่านเพิ่งเดินทางกลับมาจากการรับบริจาคที่ดิน 400 ไร่ เพื่อสร้างวัดไทยที่ประเทศอินเดีย) 

เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และทำพิธีถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ผมจึงขอเชิญชวนทั้ง ศิษย์ปัจจุบัน ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าวนี้ โดยพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 28 รูป จะเริ่มตั้งแต่เวลา 06.30 น.เป็นต้นไป 

เรื่องที่เป็นมงคลแบบนี้ เพิ่งจะมีขึ้นในธรรมศาสตร์ หลังจากห่างหายไปนานแล้ว ผมจึงอยากเชิญชวนพวกเราทั้งชาวธรรมศาสตร์ และประชาชนทุกท่าน ให้เข้าร่วมงานทำบุญตักบาตร ในโอกาสมหามงคล ถวายแด่องค์พระประมุขของพวกเรา กันให้มาก ๆ นะครับ 

พลโท นันทเดช / 20 ก.ค.67

ป้ายโฆษณาภาษาจีนขนาดใหญ่ ใจกลางถนนรัชดา ‘ขายพาสปอร์ตย้ายประเทศ’ ระบุหลายชาติ ‘อินโดนีเซีย-วานูอาตู-กัมพูชา-ตุรกี’ บิ๊กตำรวจชี้!! ทำได้ ไม่ผิด

(22 ก.ค.67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ที่ถูกติดตั้งอยู่ตรงสี่แยกห้วยขวาง ตรงข้ามกับเทวาลัยพระพิฆเนศห้วยขวาง ย่านที่คนจีนพลุกพล่าน ด้วยความสงสัยว่า เป็นโฆษณาอะไรจึงใช้แอปฯ ในการช่วยแปลจนพอสรุปได้ว่า นี่คือป้ายโฆษณาขายหนังสือเดินทางตรวจคนเข้าเมืองอย่างรวดเร็ว รวมถึงการแปลงสัญชาติ

พร้อมกันนั้นยังมีการระบุราคาพาสปอร์ตประเทศต่าง ๆ โดยที่ยังไม่ทราบหน่วย ดังเช่น อินโดนีเซีย ราคา 30,000 ,วานูอาตู ราคา 70,000 ,กัมพูชา ราคา 1 แสน และตุรกีราคา 1.5 แสน

ด้านชาวเน็ตได้แชร์โพสต์ดังกล่าวไปจำนวนมาก พร้อมตั้งคำถามว่า แบบนี้ก็ได้เหรอ ป้ายใหญ่มากใครอนุญาตให้ติดตั้ง พร้อมถามหาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาอธิบาย

ขณะที่ทางเพจเรื่องเล่าเช้านี้ ได้อัปเดตความคืบหน้ากรณีป้ายขนาดใหญ่เป็นภาษาจีน โฆษณาซื้อพาสปอร์ตย้ายประเทศ ติดตั้งย่านรัชดาภิเษก กทม. โดย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ยืนยันว่าสามารถทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย เพราะไม่ใช่การโฆษณาว่าจะเปลี่ยนเป็นสัญชาติไทยนั้น ล่าสุด ทีมข่าวช่อง 3 รายงานว่า มีคนงานขึ้นไปปลดป้ายดังกล่าวออกแล้ว หลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

‘ในหลวง’ พระราชทานพระยศทหาร โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เจ้าฟ้าหญิงสิริวัณณวรีฯ พระราชทานพระยศเป็น ‘พลโทหญิง’

(22 ก.ค.67) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศเรื่อง ให้นายทหารรับราชการและพระราชทานพระยศทหาร เมื่อ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง พลตรีหญิง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงดำรงตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก และพระราชทานพระยศเป็น พลโทหญิง

‘กรณ์’ ชี้ ‘ไบเดน’ ตัดสินใจถอนตัว พลิกเกม ดึงเงินบริจาค กลับมาเข้าพรรค มอง!! ‘กมลา แฮร์ริส’ เก่ง-ฉลาด สามารถแข่งกับ ‘ทรัมป์’ ได้แต่ยังเสียเปรียบ

(22 ก.ค.67) นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ไบเดนถอนตัว…แล้วไงต่อ? ระบุว่า ไบเดน เสนอรองประธานาธิบดี Kamala Harris เป็นผู้สมัคร แต่ยังสรุปไม่ได้ อาจจะต้องเปิดให้มีการแข่งขันในที่ประชุมพรรคที่เรียกว่า ‘Open Convention’ (หลายชั่วโมงที่ผ่านมา คลินตั้นสนับสนุน Harris แต่โอบาม่า โน้มเอียงไปทาง Open Convention) ตัวเต็งคือ Harris ส่วนตัวผมว่าเธอโอเค เก่ง ฉลาด แข่งกับ Trump ได้ แต่ในขณะนี้เสียเปรียบอยู่แน่นอน

ส่วนตัวผมไม่แปลกใจที่ไบเดนถอนตัว ก่อนหน้านี้ที่หลายคนลุ้นอยู่คือไบเดนจะแค่ถอนตัวจากการเป็นผู้สมัคร หรือจะถอยให้ Harris เป็นประธานาธิบดีด้วยเลย ผมคิดว่าแค่นี้ดีแล้ว ดีสำหรับไบเดน ดีสำหรับ Harris ดีสำหรับการเมืองอเมริกัน

ผมว่าการตัดสินใจครั้งนี้อยู่ในระดับเปลี่ยนเกมส์ได้เลย เงินบริจาคเข้าพรรคน่าจะกลับมา


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top