Saturday, 17 May 2025
TheStatesTimes

เชียงใหม่ - พิธีมอบหมวกและเข็ม คณะพยาบาลศาสตร์ มช.ประจำปีการศึกษา 2567

คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดพิธีมอบหมวกและเข็มชั้นปีแก่นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา 2567 จำนวน 194 คน แบ่งเป็น หลักสูตรปกติ 164 คน และหลักสูตรนานาชาติ จำนวน 30 คน โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ เป็นประธาน ภายในงานได้รับเกียรติจาก ผู้แทนหัวหน้าฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ผู้แทนสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคเหนือ ผู้แทนสมาคมศิษย์เก่าพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา และ ผู้ปกครองของนักศึกษา ร่วมแสดงความยินดีอย่างอบอุ่น ณ ห้องประชุมวิจิตร ศรีสุพรรณ อาคาร 2 เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2567

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธานี แก้วธรรมานุกูล คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า พิธีมอบหมวกและเข็มชั้นปีนับเป็นพิธีการที่สำคัญถือปฏิบัติก่อนการขึ้นฝึกปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วย เป็นการแสดงถึงเอกลักษณ์อันทรงเกียรติในวิชาชีพพยาบาล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของนักศึกษาเข้าสู่วิชาชีพการพยาบาลอย่างสมภาคภูมิ โดยนักศึกษาพยาบาลจะให้การปฏิบัติการพยาบาล รวมทั้งดูแลผู้ป่วยในสถานการณ์จริง ทั้งนี้นักศึกษาพยาบาลที่เข้ารับมอบหมวกและเข็มชั้นปีต้องศึกษาภาคทฤษฎีและสอบผ่านรายวิชาการพยาบาลพื้นฐานครบถ้วน จึงจะสามารถฝึกปฏิบัติการพยาบาลกับผู้รับบริการในสถานบริการสุขภาพได้ ในการฝึกปฏิบัติดังกล่าวนักศึกษาต้องแต่งกายด้วยเครื่องแบบสีขาวของนักศึกษาพยาบาล ตลอดจนสวมหมวกพยาบาล

หมวกพยาบาล เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความอ่อนน้อม ถ่อมตน มีความพร้อมที่จะดูแล ช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ทําให้ผู้สวมใส่ได้ตระหนักถึงบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ รวมทั้งประพฤติตนให้เหมาะสมตามจรรยาบรรณวิชาชีพทางการพยาบาล สำหรับนักศึกษาชายติดเป็นเข็มชั้นปี นอกจากนี้การมอบตะเกียงไนติงเกลเป็นสัญลักษณ์ของมิสฟลอเรนซ์ ไนติงเกล บูรพาจารย์ผู้ให้กําเนิดวิชาชีพการพยาบาลของโลก ตะเกียงไนติงเกลนั้นเป็นเครื่องหมายของดวงประทีปแห่งการพยาบาล ท่านได้อุทิศชีวิตเพื่อการพยาบาลช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม ทุกคืนท่านถือตะเกียงเดินเยี่ยมและดูแลทหารที่บาดเจ็บ ดวงตะเกียงจึงเป็นดั่งดวงประทีปที่ช่วยขับไล่ความมืดมนและความทุกข์ทรมานให้แก่ผู้เจ็บป่วยเป็นสิ่งช่วยเตือนใจนักศึกษาทุกคนให้เสียสละและตระหนักว่าตนเป็นทายาททางการพยาบาลที่สืบทอดเจตนารมณ์ในการดูแลผู้ป่วยต่อไป

นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ทุกคนที่ผ่านพิธีสำคัญในวันนี้แล้วนั้นพึงต้องใช้องค์ความรู้ อีกทั้งคุณธรรมเป็นหลักในการปฏิบัติงาน ขอให้นักศึกษาตั้งใจในการฝึกปฏิบัติ ให้บริการด้านสุขภาพแก่ผู้รับบริการอย่างเต็มกำลังสุดความสามารถ ด้วยจิตอันเป็นเมตตากรุณา เพื่อสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย) อันเป็นเกียรติประวัติต่อตนเอง ครอบครัว สถาบัน และวิชาชีพพยาบาล

ผู้ที่สมัครใจเลือกวิชาชีพพยาบาล เป็นผู้ที่สมควรได้รับการยกย่อง เพราะเป็นผู้ที่มิใช่เพียงแต่ประกอบอาชีพโดยใช้กำลังแรง และกำลังกายเท่านั้น แต่ต้องใช้กำลังใจอย่างแรงกล้า ในการปฏิบัติงานอีกด้วย ท่านควรสำนึกในหน้าที่ที่ท่านรับผิดชอบอยู่ตลอดเวลา และปฏิบัติงานด้วยความกล้าหาญอดทน พร้อมทั้งรักษาความซื่อสัตย์ และมีเมตตากรุณา คุณสมบัติต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับพยาบาล...พระราชดำรัสของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย)

‘สุริยะ’ เผย ‘โทลล์เวย์’ ยอมลดค่าผ่านทาง เร่ง!! ปรับเงื่อนไขสัญญา หาราคาที่เหมาะสม

(22 มิ.ย.67) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่บริษัททาง ยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการทางยกระดับอุตราภิมุข หรือทางด่วนโทลล์เวย์ประกาศเตรียมปรับค่าผ่านทางตามสัญญาสัมปทานในวันที่ 22 ธ.ค.67 ตนเล็งเห็นถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับค่าครองชีพของประชาชน จึงได้ให้กรมทางหลวง (ทล.) เจรจากับเอกชนคู่สัญญา อีกทั้งตนยังได้โทรศัพท์ไปยังนายสมบัติ พานิชชีวะ ประธานกรรมการบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) เพื่อเจรจาให้ชะลอการปรับขึ้นค่าผ่านทาง และได้ข้อสรุปเบื้องต้นของการเจรจาโดยทางเอกชนยินดีร่วมมือ แต่ขอให้รัฐชดเชยในลักษณะคล้ายกับการเจรจากับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด หรือบีอีเอ็ม ที่ขยายสัญญาสัมปทานแลกกับปรับโครงสร้างค่าผ่านทางลงเหลือ 50 บาทตลอดสาย

นอกจากนั้นตนยังได้มอบหมายให้ ทล.ศึกษารายละเอียดเปรียบเทียบกรณีปรับลดค่าผ่านทาง ต้องคงอัตราเท่าไหร่จึงจะเหมาะสมไม่เป็นภาระประชาชนมากเกินไป และหากลดค่าผ่านทางลง จะต้องขยายสัญญาสัมปทานเพิ่มอย่างไร อีกทั้งการดำเนินงานเหล่านี้จะจูงใจให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการทางด่วนโทลล์เวย์เพิ่มขึ้นอย่างไร โดยหากปรับเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากปัจจุบันปริมาณ 4-5 หมื่นคันต่อวัน เป็น 8 หมื่นคันต่อวัน ทางด่วนจะรองรับได้หรือไม่

แน่นอนว่าจะไม่ใช้วิธีชดเชยเงิน เพราะจะเป็นภาระงบประมาณ แต่ใช้วิธีเจรจากับเอกชนขยายสัญญาแลกเปลี่ยน แต่จะขยายนานแค่ไหน ทางหลวงจะศึกษา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการเจรจาขยายสัญญาสัมปทานครั้งนี้ ไม่ได้เอื้อเอกชน แต่เห็นแก่ประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เพราะหากไม่เจรจาและปล่อยให้สัมปทานหมด ประชาชนต้องแบกภาระค่าผ่านทางที่จะปรับขึ้นตามสัญญาสัมปทานอีก 2 ครั้ง ในเดือน ธ.ค.67 และ ธ.ค.72

‘เจี๊ยบ อมรัตน์’ ฟาด ‘สส.รักชนก’ แสดงภาษากาย ไม่เหมาะสม ชี้!! ขนาดรองประธานสภาฯ อดีตพรรคเดียวกัน ยังไม่ให้เกียรติ

(22 มิ.ย.67) สืบเนื่องจากการอภิปรายพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ช่วงที่น.ส.รักชนก ศรีนอก สส. กรุงเทพ พรรคก้าวไกล ได้นำภาพตัดต่อรูปภาพนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มาประกอบในการอภิปรายดังกล่าว โดยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่ 1 ได้ตักเตือน น.ส.รักชนก ว่า เป็นการเสียดสี และได้ชี้แจงประเด็นเรื่องการเปลี่ยนสไลด์ของผู้อภิปราย ว่าไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แต่เป็นกรรมการตรวจสไลด์ของรัฐสภา ทำให้น.ส.รักชนกแสดงออกด้วยท่าทีไม่พอใจ

ต่อมามีผู้นำคลิปช่วงดังกล่าวมาเผยแพร่ในแพลตฟอร์ม X โดย นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือเจี๊ยบ ที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้แชร์คลิปนี้พร้อมแสดงความคิดเห็นประกอบว่า 

"ดิฉันเห็นด้วยว่า move นี้ไม่ ok รวมถึงการใช้ภาษากายไม่สุภาพ"

‘นักกฎหมายอิสระ’ โต้ ‘เนติบริกร-กฤษฎีกา’ ตีความกฎหมายผิด ย้อนถาม!! ถ้ามี ตำรวจถูกจับกลางบ่อน ยังต้องรอการสอบสวนอีกไหม

เมื่อวานนี้ (21 มิ.ย.67) จากกรณี นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แถลงผลการสอบสวน ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณชนเกี่ยวกับความขัดแย้ง ในเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.

นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยได้ระบุว่า 

ผมเกรงว่า อ.วิษณุ และ คณะกรรมการกฤษฎีกา อาจตีความกฎหมายผิดพลาดนะครับ

ข้ออ้าง อ.วิษณุ เรื่อง มาตรา 120 วรรคท้าย เป็นเรื่องกรณีวินัยทั่วไป ที่อาจต้องรอการสอบสวนชัด ๆ เห็นได้จาก มาตรา 120 วรรคสามเอง ยังบอกว่าถ้าผิดชัดไม่ต้องรอการสอบสวนก็ได้ 

ส่วนกรณี บิ๊กโจ๊ก เป็นกรณี มาตรา 131 ใช้กับกรณีร้ายแรงยิ่งกว่าวินัยทั่วไปหรือความผิดอาญา กฎหมายให้อำนาจ นายกฯ หรือ ผบ.ตร. ดำเนินการสั่งให้ตำรวจออกจากราชการไว้ก่อนได้ ไม่ต้องรอการสอบสวน

ถ้านายตำรวจถูกจับกลางบ่อนพร้อมยาเสพติด อ้างว่าเดินหลงเข้าไปพอดี ยังต้องรอการสอบสวนไหมครับ ?

‘ตำรวจปอท.’ บุกรวบเจ้าของเพจดัง ‘Top Comment’ เหตุ!! รับจ้างโปรโมต ‘เว็บพนันฟุตบอลยูโร’

(22 มิ.ย.67) พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท.สั่งการ พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท. พ.ต.ท.ประทีป จันทร์เพชรบุรี, พ.ต.ท.หญิง สุธัญดา เอมเอก สว.กก.3 บก.ปอท.นำกำลังจับกุม นายชวัลวิทย์ฯ หรือเดียร์ อายุ 36 ปี พร้อมของกลางแท็บเล็ต IPAD Pro จำนวน 1 เครื่อง ,คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ 2 เครื่อง ,โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ IPHONE 1 เครื่องและสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำนวน 1 เล่ม ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ต.ตลาด อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ทั้งนี้สืบเนื่องช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ทาง บก.ปอท. ตรวจพบเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ Top Comment ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะมีผู้ติดตามกว่า 2 ล้านคน โพสต์รูปภาพเป็นคอมเมนต์ต่าง ๆ และติดป้ายโฆษณาของเว็บไซต์พนันฟุตบอล เพื่อชักชวนให้เล่นการพนัน จนทราบว่าเจ้าของเพจคือนายชวัลวิทย์ จึงเข้าทำการตรวจค้นและจับกุมดังกล่าว

สอบสวน นายชวัลวิทย์ รับสารภาพว่า เปิดเพจมาตั้งแต่ปี 57 เผยแพร่ภาพและข้อความที่เป็นกระแส จนมีผู้ติดตามมากกว่า 2 ล้านคน พร้อมรับลงโฆษณาต่าง ๆ โดยยอมรับว่าปัจจุบันกว่า 90% เป็นโฆษณาเว็บไซต์การพนันฟุตบอล มีรายได้เดือนละ 150,000 บาท จึงแจ้งข้อหา “ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันฯ” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท.ดำเนินคดีต่อไป

สาวโพสต์ข้อความ ขอให้ ‘พ่อค้าโรตี’ ล้างมือก่อนทำ เจอด่ากลับ ชาวเน็ตแนะ!! ให้ไปร้องเรียน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

(22 มิ.ย.67) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ข้อความแบ่งปันประสบการณ์เจอพ่อค้าขายโรตีที่นิสัยแย่แถมยังสกปรกอีก เหตุเกิดขึ้นบริเวณประตูท่าแพ จ.เชียงใหม่ โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความเล่าเหตุการณ์ที่เจอว่า

เมื่อถึงเชียงใหม่ก็ไม่ประทับใจเลย

อุ้มลูกเดินเล่นตรงประตูท่าแพ เจอร้านขายโรตีซึ่งเป็นอะไรที่ชอบมากๆเลยเดินเข้าไปแต่พ่อค้านอนเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงพื้นแถวนั้นพอเห็นเดินไปหน้าร้านก็รีบลุกขึ้น วางโทรศัพท์ลง แล้วเอามือปัด ๆ ที่ก้น ยืนเตรียมทำท่าจะทำโรตี เราเลยถามไปว่า

เรา: ก่อนทำจะล้างมือก่อนมั้ยคะ

พ่อค้า: (หัวเราะ) แต่บอกว่าไม่ล้าง เชิญป้ายหน้าเลย ไม่ขาย

เรา: โอเคค่ะ แค่ถามดูไม่ล้างก็ไม่ซื้อค่ะ (แล้วเราก็เดินออกไป) 

พอออกไปได้ 2-3 ก้าวพ่อค้าตะโกนเสียงดังว่าเรื่องมากก็ไม่ต้องแดก จะให้ล้างมือก็ไม่ต้องแดก

พอเราได้ยินก็เลยสวนไป นี่ก็ไม่แดกแล้วไง มันก็เสแสร้งกลับมาว่ากูพูดกับเมียกูมึงร้อนตัวทำไม แล้วก็ตะโกนด่าเราไม่หยุดบอกเลยว่ามารยาททรามมาก ร้านอยู่หน้าประตูท่าแพแทนที่จะเป็นหน้าตาให้เชียงใหม่แต่พูดกับนักท่องเที่ยวได้แย่มาก

คือถ้ายืนทำอยู่แล้ว แล้วเราไปต่อแถวซื้อจะไม่ว่าไม่ถามอะไรเลยแต่นี่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงพื้น ไม่อยากต่อความยาวเพราะอุ้มลูกอยู่พร้อมพี่เรณ่าสามีก็ไม่อยู่เพราะเดินไปเอาของไม่งั้นอาจจะเรื่องใหญ่กว่านี้ เลยเดินออกไม่อยากเสียสุขภาพจิต แต่บังเอิญว่าน้องสาวแท้ ๆ ที่ไปด้วยยืนอยู่ตรงนั้นได้ยินเสียงพ่อค้าตะโกนด่าแต่ไม่รู้ว่าด่าพี่สาวตัวเอง เพราะเดินคนละฝั่ง พอโทรคุยกันถึงรู้ เลยถ่ายรูปร้านมาให้เพื่อแจ้งให้ทราบว่าสถานที่ที่เป็นจุดเช็กอินของเชียงใหม่ไม่ควรมีคนพฤติกรรมแบบนี้ ขอให้ไม่ประทับใจเรื่องนี้เรื่องเดียวละกันนะทริปนี้

ทั้งนี้พบว่าเรื่องราวดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเชียงใหม่และชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก แนะนำให้ร้องเรียนไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้แจ้งตำรวจในพื้นที่ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่อนุญาตให้มีการขายของ นอกจากนี้ พบว่ามีชาวเชียงใหม่เข้ามาแสดงความคิดเห็นขอโทษผู้โพสต์รายนี้เป็นจำนวนมาก

'ก้าวไกล' ใกล้จอด!! 'เศรษฐา' น่ารอด สว.ใหม่ 'สีน้ำเงินปนแดง' ฟาก 'โจ๊ก' ยังยุ่ง

ผ่านสัปดาห์อันว้าวุ่น...ว่าด้วย 4 คดีดังจากศาลรัฐธรรมนูญฯ / ศาลอาญา และการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ 18 -21 มิ.ย. แถมด้วยเรื่องแทรกกรณีศึกบิ๊กสีกากี...วันนี้ 'เล็ก เลียบด่วน' ขอทำหน้าที่กรองข่าวเรื่องราวเบื้องต้น เพื่อสาธุชนจะได้ติดตามกันด้วยความระทึกต่อไป...ดังนี้...

1) กรณีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เดินหน้าต่อเพราะมติศาลรธน.วินิจฉัยว่า พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสว.2561 ไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 107  แนวโน้มผลการเลือกรอบประเทศ (รอบสุดท้าย) ชิง 200 ที่นั่ง จาก 20 อาชีพ ๆ ละ 10 คนในวันที่ 26 มิ.ย. ขอฟันธงว่า...ผู้สมัครที่เป็นเครือข่ายของพรรคใหญ่ บ้านใหญ่ กลุ่มทุน จะกวาดเรียบอย่างน้อย 80% หน้าตาของสว.ชุดใหม่จะเป็นสีน้ำเงินปนแดง...ส่วนสว.สีส้ม ต้องเสียใจด้วย...ไม่เข้าเป้า...

2) เดือน ก.ค.เป็นเดือนมงคล ยังจะไม่มีการตัดสินคดีใหญ่ทางการเมือง...โดยคดีถอดถอนนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน มีแนวโน้มที่จะตัดสินก่อนคดียุบพรรคก้าวไกล

คาดว่า คดีนายกฯ เดือนส.ค. ก็จะรู้หมู่หรือจ่า...50/50 แต่ถ้าไปบีบคอบรรดาเกจิอาจารย์ให้ทำนาย เสียงข้างมากจะออกมาว่า...น่าจะรอดได้ไปต่อ

ส่วนพรรคก้าวไกลนั้น น่าสังเกตว่า ศาลรธน. "มีคำสั่งให้นำพยานเอกสารในสำนวนการไต่สวนคดีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/2567 มารวมไว้ในสำนวนคดีนี้ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรธน." ซึ่งคดีที่ 3/2567 ก็คือคดีล้มล้างฯ ที่ศาลรธน.วินิจฉัยเมื่อ 31 ม.ค.2567 ว่าพรรคก้าวไกลผิดและให้ยุติการกระทำ นั่นเอง...

ดังนั้นก้าวไกลน่าจะใกล้ปิดฉาก แต่ต้องลากไปยาวกว่าคดีนายกฯ เพราะละเอียดอ่อน

3) พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 จำนวน 3.75 ล้านล้านบาท ผ่านสภาฯ วาระแรกไปเรียบร้อยด้วยคะแนน 311ต่อ173 งดออกเสียง 2 โชว์ความปึ๊กของ 314 เสียง 'รัฐบาลเพื่อไทย' ส่วนที่มีการปล่อยข่าวว่าจะดีดพรรคพปชร.ออกนั้น เป็นความพยายามเขี่ยข่าวของฝ่ายค้านบางพรรค...ซึ่งตอนนี้ยังไม่มี!!

เรื่องงบประมาณ พ.ศ.นี้ ค่อนข้างยุ่งเหยิง เพราะต้องจัดงบปี 2567 , 2568 ไปใช้ในนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต...งบฯ 68 ไม่ยุ่งมาก เพราะกำลังพิจารณา  แต่งบฯ 67 นั้นบังคับใช้ไปแล้ว ดังนั้นต้องไปแก้ไขเพิ่มเติมเป็นงบกลางปีขอกู้เงินเพิ่ม 1.22 แสนล้านบาท ซึ่งจะเข้าสภาประมาณ 17-18 ก.ค. ส่วนอนาคตของดิจิทัลวอลเล็ต จะเป็นจริงหรือจะเป็นเจ๊งอย่างที่ฝ่ายค้านกล่าวหา เดือน ต.ค.รู้กัน!!

4) กรณีศึกสีกากี...จบแต่ยังไม่จบ...ที่ชัดเจน ณ ชั้นนี้คือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล 'บิ๊กต่อ' ได้กลับไปปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ตร.เหมือนเดิม ส่วนพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล 'บิ๊กโจ๊ก' นั้น มีเพียงถ้อยแถลงของนายวิษณุ เครืองาม เท่านั้น ที่อ้างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนโดยมิชอบ เพราะกรรมการสอบวินัยยังไม่ได้สอบบิ๊กโจ๊กแม้แต่น้อยนิด...

งานนี้ 'เนติบริกร' ถูกย้อนศรจากนักวิชาการ อดีตตำรวจหลายคนว่าอ่านกฎหมายตำรวจไม่แตกฉาน...กรณีของบิ๊กโจ๊กจึงยังไม่เคลียร์คัท...เห็นทีจะต้องรอการพิจารณาของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) หรือถ้าจะวัดใจกันก็ต้องให้ 'บิ๊กต่อ' ยกเลิกคำสั่ง 'บิ๊กต่าย' พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ คนที่สั่งตั้งกรรมการสอบและให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการไว้ก่อน...

หักลบกลบหนี้ โอกาสที่ 'บิ๊กโจ๊ก' จะมาต่อคิวเป็นผบ.ตร.เบอร์หนึ่งยังไม่ง่าย ถึงแม้จะมี แต่โอกาสก็ใช่จะมาก ตราบที่บาดแผลคดีเทา ๆ ยังเต็มตัว!!

'โรงงานปิดตัว-คนตกงานเพิ่ม-ราคาอาหารพุ่ง' ต่างชาติกังวล แล้วคนไทยรู้สึกบ้างหรือยัง?

จากข่าว ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ศรีนครินทร์ ของกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล ซึ่งตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ ได้เตรียมปิดให้บริการถาวร โดยเปิดให้บริการวันสุดท้ายในวันที่ 20 ส.ค. 2567 หลังเปิดให้บริการพร้อมกับศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ มานานถึง 30 ปี ยักษ์ใหญ่ห้างสรรพสินค้า ปิดสาขา ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ บริหารต้นทุนดำเนินการ ในภาวะเศรษฐกิจซบเซา

แต่...ข่าวการปิดโรงงาน เดือนละ 113 โรงงาน ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ย่อมไม่ใช่การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์

ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 88.5 ปรับตัวลดลงจาก 90.3 ในเดือนเมษายน 2567 เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของดัชนีฯ พบว่า ปรับตัวลดลงทุกองค์ประกอบ ทั้งยอดขายโดยรวม ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ 

ทั้งนี้ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากกำลังซื้อในประเทศที่ยังเปราะบาง เนื่องจากเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนรวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงและสัดส่วนหนี้เสีย (NPLs) ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้การบริโภคสินค้าชะลอลง

ขณะที่ 5 เดือนแรกปีนี้ พบว่าปิดโรงงานไปแล้ว 561 โรงงาน หรือเฉลี่ย 113 โรงงานต่อเดือน แย่ลงกว่าปีที่ผ่านมา ตกงานแล้ว 15,342 คน

ซึ่งยอดคนตกงาน น่าจะเพิ่มขึ้นสูงมากกว่านี้ ข่าวจากย่านนิคมอุตสาหกรรม โรงงานที่ยังพอประคองตัวดำเนินธุรกิจได้ เริ่มทยอยปลดคนงาน เพื่อลดค่าใช้จ่าย หลายโรงงานแล้ว 

คนตกงาน ค่าครองชีพก็ยังสูง ร้านค้าเตรียมปรับขึ้นราคาอาหาร หลังราคาก๊าซหุงต้ม ขยับขึ้น 15-20 บาท ต่อถัง ทั้งที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ประกาศตรึงราคาก๊าซ สิ้นสุด มิถุนายน 2567 หรือ สิ้นเดือนนี้ ยังไม่สิ้นสุดมาตรการตรึงราคา ก็เริ่ม ‘เอาไม่อยู่’

ข่าวอภิปราย พรบ.งบประมาณ ปี 2568 ในสภา ยังไม่มีอะไรที่น่าสนใจมากนัก ยังไงงบประมาณปี 2568 ก็ต้องคลอด เพราะนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยังรออยู่ 

แต่ ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการแบงก์ชาติให้สัมภาษณ์สื่อนอก 'บลูมเบิร์ก เทเลวิชัน' (Bloomberg Television) ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของรัฐบาลที่จะให้ปรับกรอบเงินเฟ้อและลดดอกเบี้ย ชี้เป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เศรษฐกิจ รวมทั้ง ยังคงให้ข้อคิดเห็นท้วงติง เงินดิจิทัลวอลเล็ต ควรแจกเฉพาะกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

ปิดท้ายด้วยข่าวตลาดหุ้นไทย สัปดาห์นี้ ปรับตัวมาแตะที่ 1,306.41 จุด มูลค่าซื้อขาย 56,556.18 ล้านบาท เด้งขึ้นมา +8.12 หลังช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ต่ำกว่า 1,300 จุด ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นไทย ที่ต่ำสุดในรอบ 4 ปี 

หุ้นไทย 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา มาร์เก็ตแคปลด 4.5 ล้านล้านบาท ต่างชาติเทขาย 2.97 แสนล้านบาท ตลาดหุ้นไทยถูกต่างชาติขายต่อเนื่องเกือบ 3 แสนล้านบาท กดดัน MARKET CAP ตลาดหุ้นไทยลดลงจาก 20.57 ล้านล้านบาท เหลือ 16.06 ล้านล้านบาท ลดลงไปกว่า 4.5 ล้านล้านบาท ในช่วงเวลาสั้น ๆ และ SET INDEX ยังปรับตัวลดลงไปแล้วกว่า -22.1%

ต่างชาติกังวลกับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทย การเมืองในไทย แล้วประชาชนคนไทย เริ่มกังวลกันบ้าง หรือยัง...

‘เศรษฐา’ เตรียมผลักดัน ‘โรงไฟฟ้านิวเคลียร์’ เร่งเดินหน้า!! ทำความเข้าใจ กับประชาชน

(22 มิ.ย.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของนายกฯ ผ่านรายการ ‘คุยกับเศรษฐา’ เป็นเทปแรก ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) ดำเนินรายการโดยนายธีรัตถ์ รัตนเสวี  

ส่วนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ นายเศรษฐา กล่าวถึงการผลักดันโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ว่า การทำงานมีหลายเรื่องไม่ใช่ตัดสินใจคนเดียวได้ โดยมีทั้งพรรคร่วมรัฐบาล, ฝ่ายตรวจสอบ, รัฐสภา , ข้าราชการ และ NGO ใช้คำว่าหลาย ๆ การริเริ่มอาจมีคนแย้งบ้าง เราก็ต้องทำประชาพิจารณ์ เป็นอะไรที่คนมีข้อกังขาเช่นกัน 

นายกรัฐมนตรี ยกตัวอย่าง มีผู้บ่นเรื่องค่าไฟแพงในขณะที่ค่าไฟที่ถูกที่สุด คือ พลังงานนิวเคลียร์ โดยทุกคนอยากได้หมด แต่อย่ามาอยู่บ้านฉันนะ ไปอยู่บ้านคนอื่นแล้วกัน 

“ผมก็เริ่มค้นคว้าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่านี่คือเรื่องที่เราดูอยู่” นายเศรษฐา กล่าว

ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ยืนยันว่าประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องเตรียมแผนการศึกษาสำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยนายเศรษฐา ระบุบนเวที Thailand Energy Executive Forum จัดโดยสถาบันวิทยาการพลังงาน (วพน.) เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2567 ว่า แม้ตอนนี้ไทยจะไม่มีแผนการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่หลายประเทศได้มีเทคโนโลยีทั้งสหภาพยุโรป (EU) ฝรั่งเศส และจีน ซึ่งไทยสามารถเรียนรู้และเก็บข้อมูลเพื่อที่ในอนาคตหากต้องตัดสินใจจะตัดสินใจได้ถูกต้อง   

รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงานระบุว่า ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2567-2580 (PDP 2024) รักษาระดับราคาค่าไฟฟ้าไม่ให้เกิน 4 บาทต่อหน่วย จากแผนเดิม (PDP 2018) โดยค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.66 บาทต่อหน่วย

'พีระพันธุ์' ตัดริบบิ้น!! นิทรรศการ 'การศึกษาระดับอุดมศึกษาของประเทศจีน' เชื่อมโยงเด็กไทย เก็บเกี่ยวโอกาสใหม่ๆ จากรั้วอุดมศึกษาแดนมังกร

(22 มิ.ย.67) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการ การศึกษาระดับอุดมศึกษาของประเทศจีนประจำปี 2567 ณ BANGKOKTHONBURI HALL มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี โดยมีศาสตราจารย์ ดร.บังอร เบ็ญจาธิกุล อธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, รศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง พร้อมด้วยอาจารย์และนักศึกษา ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย เข้าร่วมในพิธีเปิดครั้งนี้ด้วย

สำหรับนิทรรศการ การศึกษาระดับอุดมศึกษาของประเทศจีนประจำปี 2567 จัดขึ้นเพื่อเป็นการเสริมสร้าง และยกระดับความสัมพันธ์ ในด้านการแลกเปลี่ยนและเป็นความร่วมมือ ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีน และราชอาณาจักรไทยในด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษา คณะกรรมการด้านการให้ทุนการศึกษาต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China Scholarship Counci -CSc) ร่วมกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2567

ทั้งนี้ ภายในงานนิทรรศการ มีผู้แทนจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 32 แห่ง เข้าร่วมในงานอย่างคับคั่ง เช่น Tsinghua University, China University of Political Science and Law, Beihang University, Harbin Institute of Technology และ Xiamen University เป็นต้น

การจัดงานนิทรรศการ การศึกษาระดับอุดมศึกษาของประเทศจีน ประจำปี 2567 ในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อเปิดโอกาส ให้มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้นำเสนอเกี่ยวกับการพัฒนาทางด้านการศึกษาในระดับนานาชาติ รวมถึงนโยบายเกี่ยวกับทุนการศึกษาต่างๆ ที่มีความหลากหลายสำหรับการศึกษาในสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านการสื่อสารในรูปแบบของการสื่อสารโดยตรง เพื่อเป็นการส่งเสริมการขับเคลื่อนของนักวิชาการ และนักศึกษา ตลอดจนความร่วมมือด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีน และราชอาณาจักรไทย บนพื้นฐานของการได้รับประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top