Friday, 16 May 2025
TheStatesTimes

'สุริฏฐ์ปรียา-นรบดินทร์' คว้าแชมป์กอล์ฟ Super 6 'ดิทโต้ คลาสสิค 2024'   ตีตั๋วสู่ 'Yonex Junior Golf Championship 2024' เดือนสิงหาคมนี้

'บริษัท เดอะ เจ็นซ์ จำกัด' ร่วมกับ 'บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)' เดินหน้าคัดเยาวชนลุยญี่ปุ่น ต่อในสนามที่ 5 กับรายการ 'ดิทโต้ คลาสสิค 2024' Super 6 Match Play หนึ่งในรายการที่เก็บสะสมคะแนนของ Junior Golf Scoreboard แข่งขันระหว่างวันที่ 15-16 มิถุนายน 2567 ที่สนามเทรชเชอร์ ฮิลล์ กอล์ฟ คลับ จ.ชลบุรี โดยในสนามนี้เป็นการแข่งขันแบบแมตช์เพลย์ รอบละ 6 หลุม (Super 6) เพื่อชิงตั๋วแข่งญี่ปุ่น 2 ใบสุดท้าย (ชาย 1-หญิง 1) ที่คว้าแชมป์ Super 6 Match Play ในสนามนี้ เพื่อเป็นตัวแทนไปแข่งขัน Yonex Junior Golf Championship 2024 เดือนสิงหาคม 2567

(17 มิ.ย.67) นายดาว์ปกรณ์ รัตนสุวรรณ (ที่ 4 จากขวา) ประธานจัดการแข่งขัน 'ช้าง-เจ็นซ์ กอล์ฟ ทัวร์' ให้เกียรติมอบรางวัลและร่วมแสดงความยินดีกับแชมป์กอล์ฟ Super 6 Match Play ในการแข่งขันรายการ 'ดิทโต้ คลาสสิค 2024' ที่เทรชเชอร์ ฮิลล์ กอล์ฟ คลับ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2567

สำหรับการเล่น Super 6 Match Play วันสุดท้าย เป็นแข่งรอบละ 6 หลุม จำนวน 3 รอบ รวม 18 หลุม เพื่อจัดอันดับผู้ชนะเลิศตั้งแต่ลำดับที่ 1 จนถึงลำดับที่ 8 

เริ่มจากรอบ 16 คนสุดท้าย ในประเภทชาย ปัญญาภัทร์ ขันติยู พบ ธรรมมาวุธ งามเหลา, นรบดินทร์ แสวงดี พบ ภูมิกิตติ์ พิชยเสาวภาคย์, ณภัทร ไชยพานิช พบ ณัฐวีณ์ ประทีปเสน และ อิทธิ์ชพัฒน์ บัณฑิตมหากุล พบ รัฐวิชญ์ รัฐชัยอนันต์ 

ส่วนประเภทหญิง เขมมินทรา งามเหลา พบ ณพจิรา ลือศรัทธา, วิชญาดา แรมเมือง พบ ภัสธนมนท์ สุทธิรักษ์พงศ์, สุริฏฐ์ปรียา พฤกษานุบาล พบ ศรัณรัตน์ เลิศกังวาลไกล และณัทชารีย์ คุณปสุต พบ สุธันยา โกมลเกษรักษ์   

ทั้งนี้ คู่ชิงชนะเลิศ ประเภทหญิง เป็น สุริฏฐ์ปรียา พฤกษานุบาล และ เขมมินทรา งามเหลา จบ 6 หลุมในรอบสุดท้าย ด้วยการเสมอกัน ต้องตัดสินด้วยการเพลย์ออฟ 1 หลุม หลังจบเพลย์ออฟยังคงเสมอกัน จึงต้องตัดสินหาผู้ชนะด้วยการ Shoot Out โดยใช้วิธีพัตต์ ปรากฏว่า สุริฏฐ์ปรียา พัตต์ลากยาวลงหลุมคว้าแชมป์ในประเภทหญิงไปครอง

ส่วน คู่ชิงชนะเลิศ ประเภทชาย เป็น นรบดินทร์ แสวงดี กับ  อิทธิ์ชพัฒน์ บัณฑิตมหากุล รอบ 6 หลุมสุดท้าย เป็น นรบดินทร์ อาศัยความนิ่งเบียดชนะไป 1 อัพ คว้าแชมป์ประเภทชาย     

นอกจากนี้ นักกอล์ฟที่คว้าตั๋วแข่งขันรายการ Yonex Junior Golf Championship 2024 อีก 2 ใบ ได้แก่ อิทธิ์ชพัฒน์ บัณฑิตมหากุล และ เขมมินทรา งามเหลา (เนื่องจากนรบดินทร์ แสวงดี และสุริฏฐ์ปรียา พฤกษานุบาล ได้สิทธิ์ไปในสนามก่อนหน้านี้แล้ว)

สำหรับรายการต่อไปจะเป็นการแข่งขันเก็บคะแนนสะสมรายการที่ 6 'บางจาก แชมเปี้ยนชิพ 2024' ซึ่งเป็นรายการที่มีการเก็บคะแนนสะสมของ World Amateur Ranking แข่งขันระหว่างวันที่ 12-14 กรกฎาคม 2567 ที่สนามกบินทร์บุรี สปอร์ต คลับ จ.ปราจีนบุรี 

ผู้ปกครองและนักกอล์ฟที่สนใจเข้าร่วมแข่งขันสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Official Line : @genzgolf หรือโทร. 065-696-2229
 

‘ผู้ว่าฯ ตราด’ ดัน ‘สุนัขพันธ์ุไทยหลังอาน’ สู่อัตลักษณ์ของจังหวัด พร้อมต่อยอดเอกลักษณ์แห่ง 'ความซื่อสัตย์' สร้างสรรค์ ศก.ชุมชน

(17 มิ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ พิพิธภัณฑสถานเมืองตราด ต.บางพระ อ.เมือง จ.ตราด นายณัฐพงษ์ สงวนจิตร ผู้ว่าราชการจ.ตราดเป็นประธานเปิดโครงการ ‘หลังอานหมาดี: อัตลักษณ์ตราด สู่ผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์’

โดยก่อนเปิดงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดได้ทำความรู้จักกับสุนัขทุกตัว ทั้งตัวใหญ่และลูก ซึ่งแต่ละตัวมีคนเลี้ยงที่มีชื่อเสียงและได้รับรางวัลของจังหวัดตราดมาร่วมแสดง และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุ้ม ท่ามกลางหัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชน องค์กรปกครองท้องถิ่น นักเรียน ร่วมงานกว่า 120 คน พร้อมทั้งยังมีซุ้มแสดงสินค้าสุนัขหลังอานทั้งเสื้อ กางเกง และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ของแต่ละหน่วยงาน

ด้านนางอิศรา อิงคเพียรกุล ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองตราด กล่าวว่า โครงการ ‘หลังอานหมาดี: อัตลักษณ์ตราด สู่ผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์’ เป็นโครงการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนส่งเสริมการดำเนินงานชุมชนและแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จากกรมส่งเสริมวัฒนธรรมกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งการดำเนินโครงการนี้ เกิดขึ้นจากการบูรณาการความร่วมมือระหว่างสภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองตราด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดตราด เทศบาลเมืองตราด และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตราด

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เรื่อง สุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน เนื่องในโอกาสที่จังหวัดตราด ได้ประกาศให้ ‘สุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน’ เป็นรายการเบื้องต้นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจังหวัดตราด ประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2567 และเพื่อเป็นการสร้างการตระหนักรู้ถึงคุณค่าของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมท้องถิ่น และการนำเสนอผลงานที่สร้างสรรค์ต่อยอดจากอัตลักษณ์ของ สุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน ช่วยส่งเสริมการสร้างรายได้จากมรดกภูมิปัญญาเป็นการขับเคลื่อนให้เกิด Soft Power ในอีกมิติหนึ่ง

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเองเป็นคนหนึ่งที่เลี้ยงสุนัข และเลี้ยงมานานหลายปีสมัยที่รับราชการในภาคอีสาน และเลี้ยงสุนัขพันธ์ร็อตไวเลอร์ ที่หลายคนมองว่าน่ากลัวและอันตราย แต่สุนัขทุกตัว ทุกพันธ์ุมีความรักเจ้าของ ซื่อสัตย์ จดจำเจ้าของได้แม่น แม้จะห่างหายไปนาน เพราะเขาจะจำกลิ่นได้แม่นยำ และสุนัขพันธุ์ไทยหลังอานสายพันธุ์ของจังหวัดตราด ก็มีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่น เป็นความภาคภูมิใจ จนถูกนำมาเสนอเป็นของเด่นของดีในคำขวัญของจังหวัดตราด และวันนี้ได้รับการประกาศให้เป็นรายการเบื้องต้นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจังหวัดตราด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ด้านความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล ด้วยต้องใช้เทคนิคเคล็ดลับการเลี้ยงดูที่ต้องสั่งสมประสบการณ์ มากด้วยภูมิปัญญาในการเพาะเลี้ยงให้ได้สุนัขพันธุ์ไทยหลังอานที่คงเอกลักษณ์ของสุนัขพันธุ์ไทยหลังอานของจังหวัดตราดไว้

สำหรับสุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจและสร้างคุณค่าทางสังคมให้กับจังหวัดตราด การส่งเสริมการเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน ‘อัตลักษณ์ตราด’ เพื่อการอนุรักษ์ และต่อยอดให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจของจังหวัดตราด นอกจากนี้ยังมีคุณค่าในฐานะมรดกทางวัฒนธรรม ที่สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยการใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้านการออกแบบมาพัฒนาเป็นสินค้า ที่สร้างสรรค์โดยคนตราดเอง เช่นเสื้อ กางเกง ผ้าทอ ผลิตภัณฑ์ที่ระลึก ซึ่งสร้างความประทับใจ และได้รับความนิยมจากคนตราด และนักท่องเที่ยว ช่วยส่งเสริมการสร้างรายได้สู่ชุมชนได้อีกรูปแบบหนึ่งตามแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์อีกด้วย

‘อนุทิน’ โต้ ‘พรรณิการ์’ ไม่พลิกขั้วการเมือง ย้ำ!! ‘รัฐบาล-พรรคร่วม’ ทุกฝ่ายสามัคคีกันดี

(17 มิ.ย.67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ได้ส่งข้อความทางแอปพลิเคชัน WhatsApp ไปหา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยขอให้หายป่วยเร็ว ๆ ซึ่งนายกฯ ตอบกลับมาว่า เจอกันวันพุธที่ 19 มิ.ย. 67 ตนก็คาดว่าคงเจอกันในสภาฯ ซึ่งมีการประชุมร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568

เมื่อถามว่ามองสถานการณ์การเมืองอย่างไร หลังน.ส.พรรณิการ์ วาณิช แกนนำคณะก้าวหน้า พูดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือหากมีเหตุเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมีความเป็นไปได้ในการจับมือกับพรรคภูมิใจไทย มากกว่าพรรคเพื่อไทยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า “มันไม่มีการเปลี่ยนขั้วหรอกครับ รัฐบาลชุดนี้ก็ยังมีความเข้มแข็ง มีเสียงสนับสนุน 300 กว่าเสียง การทำงานมีความสามัคคีกันดี สนับสนุนซึ่งกันและกันทุกฝ่าย”

ทั้งนี้ จะมีการวิเคราะห์อย่างไร เนื่องจากพรุ่งนี้มีการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ และอัยการสูงสุด จะมีผลต่อรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน  กล่าวว่า "รัฐบาลทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน บริหารประเทศ ส่วนเรื่องตัวบุคคล หรือสถาบันอื่น เราไปก้าวก่ายไม่ได้ ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดิน มันมี if และ then เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วแต่ รัฐบาลก็ต้องอยู่ได้อยู่ตลอด ไม่ให้มีการเกิดอุปสรรคใด ๆ ทำให้ประเทศอยู่ในความสงบ "

เมื่อถามย้ำ ได้มีการวิเคราะห์หรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเรื่องการเลือก สว. ขัดรัฐธรรมนูญ จะมีผลอย่างไรต่อการเมือง นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี เพราะเราไม่ใช่คนตัดสินเอง และเราต้องไม่ก้าวก่ายหน่วยงาน หรือสถาบันอื่น ๆ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำคือ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด รวมถึงแผนที่ตั้งใจให้มันเกิดประสบเป้าหมาย เกิดผลสำเร็จให้ได้ รัฐบาลก็ต้องทำเช่นนี้เหมือนกัน

นักเรียนสนใจเข้าเยี่ยมชม เรือพระราชพิธี เกือบ 400 คน ตามที่คณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี

กองทัพเรือ เชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมทั้งนักเรียน นักศึกษา ประชาชน เข้าเยี่ยมชมเรือพระราชพิธี โดยขอเชิญเข้าชมเรือพระราชพิธี ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี กรมศิลปากร (เรือพระที่นั่ง 4 ลำ และเรือรูปสัตว์ 4 ลำ)  และการฝึกฝีพาย ณ บ่อเรือแผนกเรือราชพิธี กองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ ซึ่งอยู่ใกล้กันนั้น      

ในวันนี้ 17 มิย.67 มีนักเรียน จากโรงเรียนสตรีวัดระฆัง จำนวน 80 คน โรงเรียนมัธยมวัดดุสิตาราม จำนวน 200 คน โรงเรียนวัดกัลยาณมิตร จำนวน 100 คน เข้าเยี่ยมชมเรือพระราชพิธีและการฝึกฝีพาย 

ทั้งนี้ นักเรียนให้ความสนใจและบันทึกภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างครึกครื้น

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0909535645

รอง ผบ.ทร. ตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้างานซ่อมบำรุง เพื่อดำรงความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพเรือ

รองผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้างานซ่อมบำรุงตามแผน เพื่อให้การดูแลยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ เป็นไปด้วยความเอาใจใส่ของกำลังพลทุกระดับ และดำรงความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจของกองทัพเรือ

วันที่ 17 มิ.ย.67 พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการซ่อมบำรุงและปรับปรุงยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ (ประธาน อซป.) พร้อมคณะเดินทางตรวจเยี่ยมและติดตามความก้าวหน้างานตามแผนซ่อมทำเรือ ในพื้นที่สัตหีบ ณ อู่ราชนาวีมหิดลอดุลยเดช กรมอู่ทหารเรือ  และการปฏิบัติในการซ่อมบำรุงตามแผน (PMS) ของ ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช , กองพันรักษาฝั่งที่ 12 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และกองพันรถสะเทินน้ำสะเทินบก กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ในการนี้ รองผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กล่าวกำชับต่อกำลังพลที่รับผิดชอบในการซ่อมบำรุงตามแผนว่า “การเดินทางมาตรวจเยี่ยมในวันนี้ เพื่อรับทราบปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้อง ที่แท้จริง ด้วยความใกล้ชิด เพื่อหาทางช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านั้นในระดับนโยบาย“ พร้อมกับเน้นย้ำกำลังพลประจำเรือว่า ”การดูแลเอาใจใส่ และความละเอียดรอบคอบในการซ่อมบำรุงให้เป็นไปตามแผน ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรือมีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจ " ทั้งนี้ หากมีอุปสรรค ข้อขัดข้องประการใด ฝ่ายต่างๆ ใน อซป. พร้อมให้ความช่วยเหลือและช่วยแก้ปัญหาอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ คณะกรรมการ อซป. มีหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย อำนวยการ กำกับดูแล ให้ข้อเสนอแนะ พิจารณาความสอดคล้องของโครงการ/แผนงาน การปรับปรุง และการใช้งานของยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ กำหนดแนวทางการซ่อมบำรุงแบบบูรณาการ มุ่งเน้นความสำเร็จในภาพรวม พัฒนาปรับปรุงการซ่อมบำรุงระดับหน่วยผู้ใช้ ให้เหมาะสมทันสมัย ใช้ระบบการส่งกำลังบำรุงรวม (ILS) ของเรือที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตลอดจนติดตามความก้าวหน้าและประเมินผล เพื่อให้ยุทโธปกรณ์พร้อมปฏิบัติตามภารกิจที่กองทัพเรือ ได้รับมอบหมาย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ชลบุรี 0[09535645

#เทิดทูนสถาบัน_ยึดมั่นระเบียบวินัย_ประชาชนภูมิใจ_ทะเลไทยมั่นคง 
#Fitforthefuture

กองทัพเรือ ร่วมลงนาม MOU การพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนสตรีวัดระฆัง

วันนี้ 17 มิ.ย.67 พลเรือโทณัฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ ในนามกองทัพเรือ ได้ลงนามความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาคุณภาพการศึกษา โรงเรียนสตรีวัดระฆัง ตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ระยะเวลา 5 ปี (ปีการศึกษา 2566-2570) โดยความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นการประสานความร่วมมือทางวิชาการด้านการแพทย์ ระหว่าง กรมแพทย์ทหารเรือ กับโรงเรียนสตรีวัดระฆัง ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนด้านสื่อการเรียนการสอน แหล่งเรียนรู้ เครื่องมือและอุปกรณ์ด้านการแพทย์ รวมไปถึงการสนับสนุนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญของกรมแพทย์ทหารเรือ มาให้ความรู้กับนักเรียน

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมนักเรียนสตรีวัดระฆัง รองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐานด้านอายุรศาสตร์การแพทย์ สามารถดูแลและอยู่ร่วมกับผู้สูงอายุได้อย่างมีความสุข อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและต่อยอดด้านอาชีพในอนาคต อีกด้วย การลงนามในครั้งนี้ มีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมการลงนาม ได้แก่ พลเรือตรีวสุธา ข่ายแก้ว ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ, ว่าที่นาวาเอกหญิง กนกนุช ขำภักตร์ รองผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ, พลเรือเอกเชษฐา ใจเปี่ยม ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โรงเรียนสตรีวัดระฆัง และ นายถนอม บุญโต รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 ร่วมลงนามในบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ด้วย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี 0909535645

🔎แนวคิดในการจัดตั้งและรูปแบบ SPR ของไทย โดย ‘พีระพันธุ์’ แบบไหน...คนไทยจะได้รับประโยชน์สูงสุด

หลังจาก ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เดินหน้ารื้อโครงสร้างพลังงานและสั่งให้มีการศึกษารูปแบบ ‘การสำรองน้ำมันและก๊าซเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserve: SPR) เช่น หากมีกรณีสงครามระหว่างอิสราเอล-อิหร่านเกิดขึ้นจะไม่มีผลกระทบกับคนไทยทั้งในด้านราคาและปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบนี้จะช่วยรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับที่รัฐบาลกำหนดได้เองโดยไม่กระทบจากราคาน้ำมันในตลาดโลก ทำให้ปัญหาการขึ้นลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกเป็นเรื่องระหว่างรัฐกับผู้ค้าน้ำมัน โดยประชาชนไม่เกี่ยวข้องด้วย เป็นการ ‘ปลด’ พันธนาการชีวิตของประชาชนจากความไม่เสถียรด้วยสภาวะขึ้นลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกอย่างสิ้นเชิง ทั้งเป็นการความมั่นคงและรักษาระดับราคาโครงสร้างราคาใหม่ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง’ ของประเทศไทย โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการร่วมกันใน 3 ด้านหลักได้แก่ 

1. ศึกษาการสำรองปิโตรเลียมเหลว (LPG) ของประเทศญี่ปุ่น 
2. ศึกษาการจัดซื้อจัดหา การกลั่น การส่งออก รวมไปถึงการใช้น้ำมันและก๊าซของประเทศสิงคโปร์
3. ศึกษาการกำหนดราคาขายน้ำมันส่งออกและที่จำหน่าย การผลิตไฟฟ้า การบริหารจัดการ และการกำหนดราคาค่าไฟฟ้าของประเทศสิงคโปร์กันอย่างละเอียด เพื่อนำมากำหนดเป็นแผนงานพัฒนาระบบการสำรองน้ำมันและก๊าซที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยให้มากที่สุด

การสำรองปิโตรเลียมเหลว (LPG) ของประเทศญี่ปุ่น ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่นำเข้า 80% ของปริมาณใช้งานด้วยญี่ปุ่นประสบภัยพิบัติบ่อยครั้งทั้งแผ่นดินไหวและพายุ จากข้อดี 3 หลักประการของ LPG คือ 

(1) เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะปล่อย CO2 น้อยกว่าน้ำมันเชื้อเพลิง และแทบไม่ปล่อยซัลเฟอร์ออกไซด์ (SOx) หรือไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ในระหว่างการเผาไหม้เลย ทั้งยังไม่มีเขม่าเกิดขึ้นจึงทำให้ก๊าซที่ปล่อยออกมาสะอาด 

(2) ขนส่งสะดวก สามารถจัดเก็บได้ตลอดเวลาและเก็บไว้ได้เป็นระยะเวลานาน แม้จะเป็นก๊าซที่ความดันและอุณหภูมิห้อง แต่ก็สามารถทำให้เป็นของเหลวได้ง่าย ทำให้เป็นแหล่งพลังงานที่เคลื่อนย้ายได้สะดวกมาก ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ทำให้สามารถจัดส่ง LPG ให้กับเกือบทุกพื้นที่ของญี่ปุ่น ตั้งแต่เขตเมืองไปจนถึงเกาะห่างไกลและบริเวณภูเขา นอกจากนี้ยังใช้ในไฟแช็ค ถังแก๊สแบบพกพา และกระป๋องสเปรย์อีกด้วย 

และ (3) ทนทานต่อภัยพิบัติ LPG เป็นแหล่งพลังที่สามารถกู้คืนได้รวดเร็วกว่าแหล่งพลังงานอื่น ๆ เพราะมีโรงงานบรรจุแยกย่อยมากมาย 

ในกรณีที่เกิดภัยพิบัติจึงไม่มีการหยุดชะงักในการจัดหาและขนส่ง ในพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงในการปรุงอาหารในกรณีฉุกเฉิน และเป็นแหล่งความร้อนให้กับที่อยู่อาศัยชั่วคราว ทำให้ประมาณครึ่งหนึ่งของครัวเรือนญี่ปุ่นทั้งหมดใช้ LPG โดยญี่ปุ่นได้จัดเก็บ LNG สำรองเป็น SPR 1.5 ล้านตัน (5 คลัง) และผู้ค้าเอกชนสำรองเชิงพาณิชย์อีก 1.5 ล้านตัน รวม 3 ล้านตัน เพียงพอต่อการใช้งาน 100 วัน

สิงคโปร์เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญที่สุดในเอเชีย และเป็นหนึ่งในสามศูนย์กลางการค้าและการกลั่นน้ำมันชั้นนำของโลก ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘ศูนย์กลางน้ำมันที่ปราศจากปัญหาของเอเชีย’ โดยที่แหล่งใหญ่ของตลาดซื้อ-ขายน้ำมันระหว่างประเทศมีเพียง 3 แห่ง คือ ตลาดนิวยอร์ก (NYMEX) ตลาดลอนดอน (IPE) และตลาดสิงคโปร์ (SIMEX) ทำให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปสิงคโปร์กลายเป็นราคาน้ำมันอ้างอิงของภูมิภาคเอเชีย สิงคโปร์มีกำลังการกลั่นน้ำมันดิบรวม 1.35 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยโรงกลั่นน้ำมันหลัก 3 แห่งของประเทศ ได้แก่ โรงกลั่น 605,000 บาร์เรล/วันของ ExxonMobil (Pulau Ayer Chawan), โรงกลั่น 500,000 บาร์เรล/วันของ Royal Dutch/Shell (Pulau Bukom) และโรงกลั่น 290,000 บาร์เรล/วันของ Singapore Rinning Company (Pulau Merlimau)

สิงคโปร์บริโภคน้ำมันปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องอื่น ๆ คิดเป็น 86% ของการใช้พลังงานหลักของประเทศสิงคโปร์ รองลงมาคือก๊าซธรรมชาติที่ 13% ถ่านหินและพลังงานหมุนเวียนรวมกันคิดเป็น 1% ของการใช้พลังงานหลัก สิงคโปร์มีปริมาณการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงใน SPR เป็นน้ำมันดิบประมาณ 32 ล้านบาร์เรล และน้ำมันสำเร็จรูปอีกราว 65 ล้านบาร์เรล ซึ่งจะทำให้สิงคโปร์มีเชื้อเพลิงสำรองเพียงพอต่อการใช้งานสำหรับชาวสิงคโปร์กว่า 5.5 ล้านคนนานถึง 451 วัน 

แม้สิงคโปร์จะเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปอันดับหนึ่งของ ASEAN แต่ราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปก็สูงเป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน โดยราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันเบนซิน98 ขึ้นไปอยู่ที่ลิตรละ 80.83 บาท (ภาษีลิตรละ 21.23 บาท หรือ 0.79SGD) และน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 73.43 บาท (ภาษีน้ำมันดีเซลและเบนซิน92&95 ลิตรละ 17.74 บาท หรือ 0.66SGD) โดยภาษีน้ำมันของสิงคโปร์เป็นภาษีคงที่คำนวณจากปริมาณที่ใช้ ในขณะที่ไทยมีภาษีน้ำมันต่าง ๆ 5 รายการถูกคิดเป็นร้อยละหรือ % ซึ่งคำนวณจากราคาน้ำมัน 

ดังนั้นเมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้น นอกจากที่ประชาชนคนไทยจะต้องจ่ายค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังต้องจ่ายภาษีน้ำมันเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ในการวางรูปแบบการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อความมั่นคง และรักษาเสถียรภาพทางด้านราคาของไทยนั้น คณะทำงานของรองฯ ‘พีระพันธุ์’ ได้พิจารณาโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เป็นหลัก อันถือเป็นหัวใจของการเปลี่ยนแปลงระบบการสำรองน้ำมันและก๊าซ นอกจากนี้แล้ว ยังได้มีการศึกษาการอุดหนุนราคาน้ำมันของประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ การสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อความมั่นคงทางการทหารและประชาชนของไทย ความจำเป็นในการปันส่วนน้ำมันในกรณีที่เกิดการขาดแคลน รวมทั้งแนวทางการบริหารจัดการน้ำมันดิบที่ผลิตในประเทศ เพื่อเปรียบเทียบและสรุปนำมาใช้ประโยชน์ในประเทศให้ได้มากที่สุด .

เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมัน แม้จะสามารถผลิตน้ำมันเองได้ แต่ก็เป็นส่วนน้อยมากไม่เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ จึงต้องมีการนำเข้าน้ำมันดิบเพื่อกลั่นให้เพียงพอต่อการบริโภคของคนไทย ดังนั้น การจัดตั้งระบบสำรองน้ำมันและก๊าซ (SPR) ที่จะเกิดขี้นในโอกาสนี้ ประชาชนชาวไทยจะสามารถมั่นใจได้เลยว่า จะทำให้ราคาของน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซเกิดความเป็นธรรมอย่างแน่นอน และเป็นผลดียิ่งในการบริหารจัดการด้านพลังงานของประเทศไทยอย่างยั่งยืนต่อไป

มาตรา 112 คนดีๆ ไม่สะท้าน มีแต่ 'ผีห่าซาตาน' ที่ต้องกลัว

หากจะพูดเป็นประสาชาวบ้านเปรียบเปรยให้เข้าใจง่าย ๆ กฎหมายมาตรา 112 ก็คือ 'ยันต์ปราบผี' ดี ๆ นี่เอง มีฤทธิ์ในทางปกป้องบ้านเรือน และผู้คนที่คิดดีต่อแผ่นดิน เพื่อให้ประเทศชาติดำรงอยู่อย่างมั่นคง 

ขึ้นชื่อว่าคนปกติธรรมดาที่คิดดี ทำดี ปฏิบัติในทางชอบธรรม ไม่คิดเบียดเบียนทำร้ายใคร จะไม่มีใครต้องเกรงกลัว หรือเกี่ยวข้องให้ชีวิตต้องพานพบกับความยากลำบากเลย 

ตายแล้วเกิดใหม่อีก 100 ชาติ ก็จะเป็นเหมือนเดิม!!

คงมีแต่พวกฝีเปรต ผีห่า ผีบาป ผีบ้า ผีสามนิ้ว ผีกลัวติดคุก ผีลืมชาติกำเนิด ผีเนรคุณแผ่นดิน ผีสาดสีธงชาติ ผีขีดเขียนกำแพงวัดพระแก้ว ผีล้มสถาบัน ผีหมิ่นเบื้องสูง ผีขี้ข้าตะวันตก ผีหนีการเกณฑ์ทหาร ผีลิงหลอกเจ้า ผีเบาปัญญา ผีกลิ้งกลอก ผีปั่นหัวเด็ก ผีหลอกใช้พวกอยากมีตัวตน ผีพูดอย่างทำอีกอย่าง ผีไม่กล้ายอมรับความจริง ผีโกหกไปเรื่อย ๆ และผีปากกล้าแต่ขาสั่นเท่านั้นที่ต้องหนาวสะท้าน สั่นไหว เพราะกลัว 'ยันต์ปราบผี' มาสะกด ไม่ให้ต้องผุดต้องเกิดอยู่ใน 'คุกตะรางขังผี' แบบยาว ๆ 

สุจริตชน คนบริสุทธิ์ใจ ถ้าไม่ทำตัวเป็นผีชั่ว ก็ไม่ต้องกลัวอำนาจของ 'ยันต์ปราบผี' นี้เลย กลับจะต้องช่วยกันปกป้อง รักษา ดูแลไม่ให้ 'ยันต์ศักดิ์สิทธิ์' ถูกพวกผีร้ายมาฉีกทำลายให้สูญสิ้นไป 

เป็นเรื่องง่าย ๆ เข้าใจง่าย ๆ ว่าทำไมขึ้นชื่อว่าคนถึงอยากให้มี 'ยันต์ปราบผี' ติดข้างฝาไว้ในทุกบ้าน เพราะบ้านไหนมียันต์ บ้านนั้นก็ไม่ใช่ผีดังที่กล่าวมา

แต่บางคน บางบ้าน ก็ชอบและแอบเชียร์ผี ขณะเดียวกันก็แขวน 'ยันต์ปราบผี' ไว้ในบ้านให้ผู้คนที่พบเห็นเกิดคำถามขึ้นในใจเล่น ๆ แท้จริงคือชอบตีสองหน้า หวังเข้าได้กับทุกฝ่าย หาก 'สังคมคน' พบเห็นก็จะได้ต้อนรับเพราะคิดว่าเป็น 'พวกเดียวกัน' แต่ลับหลังก็แอบสนับสนุนเหล่าผี ๆ ให้กระทำย่ำยี 'ยันต์ปราบผี' ให้สิ้นซาก

ผี...ที่ว่าน่าถอยออกห่างแล้ว คนที่แอบสนับสนุนผี แต่ไม่กล้าเปิดเผยตัวตน ย่อมสกปรกกว่าเป็นร้อยเท่า และไม่น่าคบค้าสมาคมให้เสียเวลา

‘สมศักดิ์’ ย้ำ!! ครอบครอง ‘ยาบ้า 1 เม็ด’ ก็จับ แต่มีสิทธิ์ขอบำบัดได้ หากพิสูจน์ว่าเป็นผู้ติดยาจริง

(18 มิ.ย. 67) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการประกาศกฎกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการครอบครองยาบ้า 1 เม็ด ว่า เมื่อวานนี้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว หากมียาบ้าในครอบครอง 1 เม็ดก็จับ แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะขอบำบัดได้ โดยต้องพิสูจน์ว่าตนเองเป็นผู้ติดยา ซึ่งการพิสูจน์เป็นหน้าที่ของตำรวจ โดยมติคณะรัฐมนตรีได้ขอให้ใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ครอบคลุมในประเด็นที่ว่าถ้ามีผู้เสพต้องรู้ว่าเอายาบ้ามาจากไหน 1 ผู้เสพต้องมี 1 ผู้ขาย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้ครบวงจร ตนเชื่อว่ายาบ้าจะลดน้อยลงทันที ถ้าไม่มีผู้ขาย ผู้เสพก็ลดลง ซึ่งปัจจุบันผู้เสพที่เข้าบำบัดในโรงพยาบาล สีเหลืองสีแดง ประมาณ 110,000 คน ก็จะลดลงทันที แต่ขอให้มีกระบวนการยึดทรัพย์ ถ้าไม่มีก็แก้ไม่หาย หากเราแก้แต่ปลายน้ำ ก็ขอให้ต้นน้ำช่วยกันด้วย แม้จะจับรายใหญ่ที่อยู่ต่างประเทศไม่ได้ ก็ขอให้จับผู้เสพและผู้ขาย 

ส่วนการยึดทรัพย์คนที่ชี้เบาะแสก็จะมีส่วนแบ่ง 5% ขณะที่คนที่ทำคดีตั้งแต่ต้นจนถึงชั้นอัยการที่ส่งฟ้อง จะได้ส่วนแบ่ง 25% ซึ่งกฎหมายฉบับใหม่จะดำเนินคดีได้เร็วขึ้น โดยใช้เวลาประมาณ 2 ปี ก็น่าจะยึดทรัพย์ได้ทั้งหมด

ส่วนการเปิดรับฟังความคิดเห็นกรณีการนำกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด มีประชาชนเห็นด้วยมากน้อยแค่ไหนนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงแรกคนไม่เห็นด้วยกับตนที่จะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดจำนวนมาก แต่ตอนนี้ความเห็นเริ่มใกล้เคียงกันแล้ว ซึ่งจะครบกำหนดการรับฟังในวันที่ 25 มิถุนายนนี้

เมื่อถามว่าจะนำผลรับฟังความคิดเห็นนี้มาตัดสินเลย หรือ จะต้องฟังผลทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมอีกหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทางคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด จะมีการประชุมกันอีกครั้ง นำข้อมูลมาคุยกันให้ตกผลึก ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็ยังสามารถปรับปรุงได้ ถ้าหากมีคำแนะนำจากประชาชนในลักษณะของการทำประชาพิจารณ์

‘หนุ่มสาว 500 ชีวิต’ ต่อคิวสมัครงาน ‘บ.ดัง’ ย่านชลบุรี 'หวังได้งานทำ-สวัสดิการที่ดี' ในยุคงานหายาก

(18 มิ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก เพจ ‘ที่นี่อมตะนครชลบุรี’ แชร์ภาพ หนุ่มสาวมายืนรอต่อคิว เพื่อสมัครงานหน้าบริษัท ที่ตั้งอยู่เลขที่ 700/350 หมู่ 6 ตำบลหมู่ 6 ตำบลหนองไม้แดง อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวตรวจสอบที่บริเวณหน้าบริษัทดังกล่าว พบว่ามีหนุ่มสาวทั้งที่ตกงานและต้องการหางานใหม่ ได้มาต่อคิวนั่งเรียงกันบริเวณหน้าบริษัท ประมาณ 500 คน เพราะหวังว่าจะได้งานทำ อาจจะได้งานทำที่มีสวัสดิการดี ๆ

ทั้งนี้เพจดังกล่าว ได้มีการแชร์โพสต์ของสมนึก เอี่ยมสอาด ,นพ ของอร่อยชลบุรี และ มี๊ แอม ขณะที่กำลังแจกเครื่องดื่มและของกินเล่นให้กับกลุ่มหนุ่มสาวที่มารอคิวสมัครงาน พร้อมข้อความว่า ‘เป็นกำลังใจให้คนสู้งานและหางานคับ บางคนมารอตั้งแต่3ทุ่ม ช่วยได้เท่าที่ช่วย ขอให้ได้งานทุกคนคับ ขอบคุณเพจ ที่นี่อมตะนครชลบุรี ที่โอนสมทบมาซื้อ นม-ขนม (เคยเป็นผู้รับ เลยมาเป็นผู้ให้บ้าง) #ท้ายแพนด้า #ของอร่อยชลบุรี’

ด้านนายวิชิต อายุ 26 ปี หนุ่มที่มารอต่อคิวสมัครงาน โดยได้คิวที่ 300 ได้เล่าว่า ตนทราบข่าวจากในเพจของเราโรงงานจึงตั้งใจจะมาสมัคร โดยทีแรกตั้งใจว่าจะมาช่วงเวลาตี 5 แต่เห็นจากในเพจของที่นี่อมตะนครจึงรอช้าไม่ไหว ได้เดินทางมาถึงช่วงเวลาตี 1 ได้คิวที่ 300 โดยทราบว่าบริษัทแห่งนี้มีสวัสดิการดีและรับคิวแค่ 79 คิว แต่ไม่รู้ว่ารับสมัครงานกี่อัตรา ตนก็หวังว่า อาจได้เป็นพนักงานบริษัทแห่งนี้ แต่พอมาถึงพบว่าคนมารอสมัครเยอะจริง ๆ ขอฝากกำลังใจให้กับผู้ที่มาสมัครงานว่า “สู้สู้ ใช้ชีวิตให้สุดครับ”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top