Monday, 5 May 2025
TheStatesTimes

'หมออั้ม' เผย!! ควรกวาดล้าง 'กลุ่มตลาดฯ' พฤติกรรมปลุกปั่นชัด ชี้!! ไม่ใช่กลุ่มเห็นต่าง แค่ผู้เกลียดชังที่ชอบนั่งเทียน ให้ร้ายผู้อื่น

ไม่นานมานี้ 'หมออั้ม' อิราวัต อารีกิจ อดีตนักร้องชื่อดังและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ออกมาวิจารณ์ 'กลุ่มตลาดฯ' ที่คาดว่าน่าจะหมายถึง 'รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส' ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักมีการแชร์และเผยแพร่ข้อความหมิ่นสถาบันฯ โดยมีนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นแอดมิน ไว้ว่า...

"กลุ่มตลาดฯ อะไรเนี่ย ควรกวาดล้างเอาผิดนะครับ เพราะมันไม่ใช่แค่การเห็นต่าง หรือวิจารณ์ด้วยความชอบ แต่มันเป็นการนั่งเทียน ปลุกปั่นให้ร้ายผู้อื่น ด้วยความเกลียดชัง"

อีกทั้งยังเขียนข้อความระบุว่า "คิดเอาเองละกัน แอดมินมันยังเอาตัวไม่รอด"

ขณะที่ คุณโบว์ ณัฏฐา มหัทธนา ผู้ดำเนินรายการ Ringside การเมือง ก็ได้เข้ามาร่วมความคิดเห็นด้วยว่า "ควรถูกปิดนานแล้ว เปิดไว้ล่อแมลงเม่า พอมีคดีก็ปั่นต่อวนไป เลวจริง"

'เพจคนไทยในซิดนีย์' เทียบราคาไข่ไก่ 'ไทย' VS 'ออสเตรเลีย' ลั่น!! ราคาพอกัน แต่ค่าแรงขั้นต่ำที่ออสฯ 550 บาทต่อชั่วโมง

ไม่นานมานี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Travelroute in Sydney' คนไทยในออสเตรเลีย ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพราคาไข่ไก่ไทยเทียบกับไข่ออสเตรเลีย ระบุว่า...

"ไข่ไก่ราคาแทบจะพอกันแล้ว !! แต่ที่นึงค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาท อีกที่นึงค่าแรงขั้นต่ำชั่วโมงละ 550 บาท"

หลังจากโพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ ก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่อยากให้เปรียบเทียบกับค่าครองชีพด้านอื่นๆ ด้วย เช่น ค่าเช่าบ้าน ซึ่งบางคนจ่ายค่าเช่าบ้านที่นั่นรายสัปดาห์ ก็ 2 หมื่นกว่าบาทแล้ว เดือนๆ หนึ่ง ก็แตะแสนบาท

นอกจากนี้ เวลาที่คิดจะเปรียบเทียบราคาของ ควรนำเอา Brand Name มาเทียบ อย่าเอา House Brand มาเทียบ แล้วจะเห็นว่าราคาแท้จริงที่ต่างกันลิบลับ

ขณะเดียวกัน ก็มีผู้เข้ามาให้มุมมองว่า ไข่ออสตามในรูปคือ เกรดต่ำสุด ส่วนไข่ตามในรูปของ CP คือกินดิบได้ คนเอาไปทำไข่ดองซีอิ๊วกัน มันเลยมีราคาที่สูง เป็นต้น

'บอร์ด กทท.' จี้งานก่อสร้างและพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 พร้อมเร่งปรับยุทธศาสตร์และ Master ของการท่าเรือ/ท่าเรือแหลมฉบังใหม่ ให้เป็นไปตามเป้าสอดรับนโยบายของรัฐบาล มุ่งให้ไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาค (Logistic Hub) โดยเร็ว

นายชยธรรม์ พรหมศร ประธานกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้นำคณะกรรมการและที่ปรึกษาบอร์ด พร้อมด้วยนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการและผู้บริหาร กทท. ร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) และลงพื้นที่ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อรับทราบปัญหาและติดตามความคืบหน้า โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ส่วนที่ 1 งานก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐาน ส่วนการถมทะเล เพื่อเร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหาในการดำเนินงาน ให้ โครงการสามารถแล้วเสร็จตรงเวลา เป็นไปตามกรอบระยะเวลาของสัญญาที่ได้ทำไว้ พร้อมทั้งได้เดินทางไปตรวจการดำเนินงาน รับทราบปัญหาเพื่อแก้ไขให้เกิดการเพิ่มประสิทธิภาพ ในการให้บริการขนส่งตู้สินค้าเชื่อมต่อทางเรือเข้ากับทางรถไฟของ Single Rail Transfer Operator : SRTO ซึ่งหากการดำเนินการมีประสิทธิภาพ ในการให้บริการจะช่วยให้การขนส่งสินค้าผ่านช่องทางนี้มากขึ้น เป็นการลด ปริมาณการขนส่งทางถนนลง ซึ่งจะเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการ บรรลุวัตถุประสงค์ในการ ลดต้นทุนการขนส่ง logistics ในระบบการขนส่งสินค้าของประเทศโดยรวม ด้วยการบูรณาการเพิ่มประสิทธิภาพ การขนส่งทางน้ำกับทางรางที่มีต้นทุนถูกกว่า ให้ไร้รอยต่อแบบ Seamless Multimodal Transport ให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยเร็ว

นอกจากนี้ คณะฯ ยังได้เข้าเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของ บริษัท ฮัทชิสัน เทอร์มินัล จำกัด ณ ท่าเทียบเรือชุด D รวมถึงรับทราบการนำระบบรถบรรทุกไร้คนขับ autonomous truck ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาปรับใช้ในการปฏิบัติการ เพื่อยกระดับศักยภาพความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามนโยบาย Green Transport ตลอดถึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การอำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้รับบริการของท่าเรือดังกล่าวในปัจจุบันและมีแผนที่จะขยายการให้บริการเพิ่มขึ้นในอนาคต

สำหรับการลงพื้นที่ติดตาม งานก่อสร้างในส่วนของงานถมทะเล ในโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟสที่ 3 ผู้แทน กลุ่มผู้รับเหมางาน ในกลุ่มกิจการร่วมค้า CNNC ได้รายงานความคืบหน้าของการดำเนินงาน ที่ปัจจุบันได้มีการเร่งรัดเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยได้เพิ่มแรงงาน เครื่องจักร และเรือขุด Grab Dredger เข้ามาใช้ในการปฏิบัติงานทำให้ ปัจจุบัน มีขีดความ สามารถในการขุดดินได้วันละ 2.3 ล้านลูกบาศก์เมตร และคาดว่าจะสามารถส่งมอบงานก่อสร้างถมทะเลที่แล้วเสร็จในพื้นที่ F1 ของโครงการฯ ให้แก่ กทท. ได้ทันภายในเดือน กรกฎาคมนี้

นายชยธรรม์ฯ กล่าวว่า  แม้ว่าตัวแทนผู้รับเหมาจะรายงานว่า ได้ดำเนินการเร่งรัดงานขุดและถมทะเลด้วยการเพิ่ม เครื่องจักรและแรงงานแล้ว แต่จาก รายงานของผู้ควบคุมงานพบว่า ปัจจุบันผลงานก่อสร้างของผู้รับจ้างในแต่ละสัปดาห์ ยังมีความล่าช้าจากแผนฯ อยู่ จึงได้กำชับให้ผู้บริหาร กทท. ใส่ใจติดตามคุณภาพการก่อสร้าง ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ระบุในสัญญาจ้าง ควบคู่ไปกับการเร่งรัดแก้ปัญหาในรายละเอียดกับกลุ่มผู้รับเหมากิจการร่วมค้าฯ เพื่อให้งานแล้วเสร็จเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งเป้าหมายสำคัญต่อไปคือ งานก่อสร้างถมทะเลต้องแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบพื้นที่ F และพื้นที่ถมทะเลพื้นที่ 3 ทั้งหมดให้กทท. ได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่ระบุในสัญญา เพื่อให้ กทท.สามารถส่งมอบพื้นที่ถมทะเลที่แล้วเสร็จดังกล่าว ให้กับผู้รับสัมปทานได้ตามสัญญาสัมปทานที่ กทท. ได้เซ็นไว้กับผู้รับสัมปทาน เพื่อทำการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ได้ แล้วเสร็จตามแผนฯ ต่อไป

นอกจากนี้ นายชยธรรม์ ยังได้กล่าวว่า การพัฒนาระบบโลจิสติกส์และการขนส่งหลากหลายรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการขนส่งทางน้ำ ที่มีความสำคัญและถือเป็น gateway ในการขนส่ง นำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ เป็นส่วนช่วยสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งเป็นรากฐานในการสร้างให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการขนส่ง Logistics Hub ของภูมิภาคตามนโยบายของรัฐบาล อีกด้วย

“ที่สำคัญในการลงพื้นที่และประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ครั้งนี้ได้พบว่า แผนยุทธศาสตร์แผนแม่บทการพัฒนาและแผนปฏิบัติการของการท่าเรือฯ รวมถึงแผนแม่บทการพัฒนาของท่าเรือแหลมฉบัง จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย โดยกำหนดโจทก์ให้กับผู้บริหารการท่าเรือฯ ไปเร่งรัดดำเนินการร่วมกับพันธมิตรท่าเรือชั้นนำ ในต่างประเทศของ กทท. เพื่อให้สามารถกำหนดเป็นแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการที่ทันสมัย สอดรับกับเป้าหมาย นโยบาย และยุทธศาสตร์ของรัฐบาล นำเสนอบอร์ดคณะกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นชอบนำไปสู่การปฏิบัติ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาค (Logistic Hub) ได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว” นายชยธรรม์ กล่าว

'โซเชียล' ถาม!! ปิดถนนรับพาเหรด LGBT ประชาชนเดือดร้อนไหม? เสริมสุขความเท่าเทียม แต่ทิ้งทุกข์ให้ผู้ใช้ถนนในช่วงเวลาเร่งรีบ

จากกรณีเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา ได้มีการให้ผู้ใช้รถใช้ถนน หลีกเลี่ยงเส้นทางโดยรอบแยกปทุมวัน-ราชประสงค์ ถนนพระราม 1, ถนนพญาไท, ถนนราชดำริ ตั้งแต่เวลา 15.00 - 17.30 น. เพื่อเปิดทางให้กับพาเหรด Bangkok Pride Festival 2024 ก็เกิดเป็นกระแสดรามาในโลกอินเทอร์เน็ต ถึงความเท่าเทียมที่ได้มาบนความเดือดร้อนของผู้อื่น

โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ได้ออกมาวิจารณ์แรงถึงการปิดถนนในครั้งนี้อย่างมากมาย ว่า...

-ยอมรับความแตกต่างได้นะครับ แต่อะไรที่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม มันคือเรื่องที่ไม่ดีนะครับ ฝากไว้ให้คิด

-คนอื่นปิดบอกไม่เท่าเทียม ตัวเองปิดคือความเท่าเทียม จริง ๆ ควรมีลานจัดกิจกรรมเฉพาะจะได้ไม่เดือดร้อนคนใช้ถนน

-ระวังนะ อะไรที่มากไป ทำเกินไป สุดท้ายจะอยู่ยาก เรายอมรับความแตกต่าง แต่ต้องไม่สร้างความรำคาญ หรือทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เราเคารพคุณ คุณก็ควรเคารพเรา นี่คือ นิสัยคนไทย

-ปิดถนนเพื่อพวกของฉันบางคนคือความเท่าเทียม แต่ถ้าคนอื่นปิดคือคนไม่เท่ากัน

-ไม่มีใคร ไปบีบแตร หรือ บ่นว่าเดือดร้อนกับขบวนเหรอครับ ผมขับรถไปเส้นทองหล่อ ติดยาวเลยไป สุขุมวิทเมื่อวาน

-เมื่อวานดีจัง ไม่มีใครป่วยจะตาย ไม่มีใครตกเครื่อง ไม่มีใครบ่นเลย 😏😏😏

-สถาบันเสด็จเปิดแตรไล่บอกปิดถนนทำไม ทีแบบนี้เงียบกริบไม่บ่นสักคำ เสรีแบบไหนกัน

พรรคอันดับ 14 ล้านเสียงสนับสนุน เดินหน้าล้ม 112 พรรคอันดับรอง 10 ล้านเสียง ขายข้าว 10 ปี

ผมนั่งมองดูประเทศของตัวเองในห้วงเวลานี้แล้ว เกิดความรู้สึกเศร้าใจลึก ๆ อย่างบอกไม่ถูก เห็นรัฐบาล 'ถุงเท้าแดง' ก็ไม่ต่างจาก 'นายกนอมินี' ในอดีตที่ผ่านมา เดินหน้าทำตามคำบัญชาของคน 'เหนือนายก' เพื่อผลประโยชน์เข้าตระกูลไม่หยุดหย่อน ประเทศชาติจะเสียหายอย่างไรก็ช่าง 

เอาแค่เรื่อง 'ข้าวค้างโกดังบาป 10 ปี' คนในรัฐบาล หรือ 'ตระกูลชั้น 14' เองยังไม่กล้าหุงข้าวและกินโชว์ แต่จะเข็นออกประมูลขายให้ได้ ประเทศใดจะซื้อไว้กิน จะป่วยไข้ เป็นโรคร้ายเพราะ 'ข้าวเน่า' ประเทศไทยจะถูกตราหน้าว่า 'ขายข้าวคุณภาพต่ำ' ก็ไม่สนใจ 

เงินมหาศาลสร้างอำนาจอันมหึมาให้กับคน ๆ หนึ่งได้จริง แม้จะทำผิดกับประเทศชาติ ทรยศประชาชน ไร้สัจจะ คอร์รัปชัน โกงกิน จนต้องหนีคดีไปนาน ก็ยังมี 'คนจำนวนไม่น้อย' คอยยกหาง และถวายชีวิตช่วยเหลือ แม้กระทั่งประชาชนคนไทยที่ถูกกระทำโดยตรงจากการบริหารบ้านเมืองก็ยัง 'ลืมง่าย' ช่วยกันกาเลือก 'พรรคเผาเมือง' กลับมาผงาดจนสร้างปัญหาได้อีกในปัจจุบัน

คำถามคือ เมื่อไหร่คนไทยถึงจะเข็ด คิดได้ และคิดเป็นกันเสียที? 

มาดูอีกพรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่ง แม้จะไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่การเป็นฝ่ายค้านก็ไม่มีศักยภาพที่คนไทยจะหวังพึ่งพาอะไรได้ เพราะวัน ๆ นอกจากจะเดินหน้า 'ล้างสมองเด็ก' ลงลึกถึงเยาวชนของชาติทุกระดับเพื่อให้ 'เกลียดชังสถาบัน' และพยายามโค่นล้มกฎหมายมาตรา 112 ก็ไม่เคยเห็นผลงานอะไรที่สร้างสรรค์ เป็นชิ้นเป็นอัน และมีคุณค่ามากพอจะทำให้สังคมไทยน่าอยู่ขึ้นมาบ้าง 

มองเข้ามาก็จะเห็น 'ความป่วยไข้' ของคนไทยในมิติที่ชัดมาก ป่วยที่ลืมง่าย ป่วยที่ไม่ละเอียดกับอะไรเลย ป่วยที่คิดไม่เป็นจนไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรเลว ป่วยที่ลืมรากเหง้าของตัวเอง และป่วยถึงขนาดที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนเองเลือกเข้ามากำลังทำให้ประเทศชาติย่อยยับ 

พูดอีกกี่ครั้งก็คงเหมือนเดิมประมาณว่า นักการเมืองเลว ๆ ในบ้านเราไม่ได้ฉลาดล้ำ ค่อย ๆ มองก็จะพบคำตอบโดยง่าย วิธีคิดในการโกงชาติโกงแผ่นดินก็ไม่ต่างจากเดิม แต่เพราะเรามีประชาชนที่ 'โง่กว่า' อาศัยอยู่ในประเทศไทยในจำนวนที่มาก เราถึงยังคงได้ 'นักการเมืองที่ไม่ฉลาด' มาบริหารประเทศชาติเหมือนในขณะนี้  

อยากให้นักการเมืองเลว ๆ หมดจากแผ่นดิน ก็แค่กำจัด 'ประชาชนโง่ ๆ' ให้หมดไปจากสังคมไทย 

ฝากพรรคที่มุ่งขายข้าวเก่า หุงมาให้ประชาชน 24 ล้านคนกิน ก็คงจะดี 

‘หนุ่ม กรรชัย’ โพสต์ขยี้!! เรื่อง ‘หมา’ ที่มีอาการหางจุกตูด ลั่น!! พบได้เมื่อรู้สึกหวาดกลัว หลังบุกปะทะครอบครัวเชื่อมจิต

(4 มิ.ย.67) หลังจากที่บุกไปสน.ทองหล่อ เผชิญหน้าครอบครัวเชื่อมจิต รวมทั้งตะโกนท้า ‘ธรรมราช สาระปัญญา’ ให้ออกมาเจอ อย่าเก่งแต่ในโซเชียล โดยหลังจากที่ ‘หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย’ ได้ฟ้องทั้งครอบครัวเชื่อมจิตและทนายธรรมราช ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ทั้งส่วนตัวและส่วนของบริษัท ซึ่งทั้งหมดเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ในวันที่ 3 มิ.ย. เป็นการมาก่อนกำหนดเดิม ที่ตำรวจมีหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 5 มิ.ย. ซึ่งออกหมายเรียกเป็นครั้งที่สอง

หลังจากบรรยากาศที่ สน.ทองหล่อมาคุยอยู่ไม่น้อย เหตุตำรวจไม่ยอมให้หนุ่ม กรรชัย เข้าไปเผชิญหน้าตรง ๆ กับคู่กรณี ต่อมาเฟซบุ๊กหนุ่ม กรรชัย ได้โพสต์ข้อความเดือด ๆ ขยี้ต่อ ซึ่งระบุว่า…

“เมื่อหางลดต่ำลงจนซุกอยู่ระหว่างขาหรืออาจเรียกว่าหางจุกตูด เป็นอาการที่สามารถพบได้ในหมาที่รู้สึกหวาดกลัว ซึ่งโดยในสังคมของหมาที่อยู่ร่วมกันเป็นฝูง การที่หมามีพฤติกรรมแบบนี้อาจหมายถึงการกลัวหรือพร้อมหนี และบางตัวอาจปัสสาวะราด #ขอบพระคุณเจ้าของภาพและความรู้ดี ๆ ครับ”

ท่ามกลางแฟนคลับเข้าไปเมนต์กันเป็นจำนวนมาก อาทิ ครูกะปิสู้ ๆ , ใจกากแต่ปากเก่ง พรุ่งนี้ลุยต่อ, โรงพักเพื่อประชาชน แต่ประชาชนเข้าไปเยี่ยวไม่ได้ ฯลฯ

🔎ส่องราคาน้ำมันเฉลี่ยในประเทศอาเซียน ราคา ณ วันที่ 27 พ.ค. 67

รายงานราคาน้ำมันเฉลี่ยในอาเซียน ประจำวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 โดยราคาขายน้ำมันแต่ละประเทศ มีปัจจัยทางด้านราคา ดังนี้

1.แต่ละประเทศมีมาตรการภาษี และระบบการเก็บเงินเข้ากองทุนหรืออุดหนุนราคาพลังงานที่แตกต่างกัน

2.ในหลายประเทศเพื่อนบ้านยังมีการอุดหนุนราคากันอยู่

3.ประเทศไทยสนับสนุนการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ให้การอุดหนุนราคาโดยกองทุนน้ำมันฯ จึงทำให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ถูกกว่าเบนซิน

หมายเหตุ : ราคา ณ วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 อัตราแลกเปลี่ยน (อัตรากลาง) ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2567 *ประเทศไทย อ้างอิงราคาจาก ปตท. และ บางจาก และเป็นราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95E10 ซึ่งมีสัดส่วนการใช้มากที่สุด

สามารถดูราคาย้อนหลังได้ที่ EPPO - Energy Data Visualization หรือคลิกที่ https://public.tableau.com/app/profile/epposite/viz/EPPO_Inter_OilPrice/SUMMARYOILPRICING 

ป้ายใหม่ ‘กทม.’ เริ่มปูดพอง หลังเปลี่ยนใหม่ ได้สัปดาห์เดียว

(4 มิ.ย. 67) PPTV ได้รายงานข่าวพร้อมเผยภาพป้าย... ว่า ป้ายสติกเกอร์ ‘กรุงเทพฯ-Bangkok’ บนคานรางรถไฟฟ้าที่สี่แยกปทุมวัน มีบางจุดเริ่มปูดพองขึ้นมา หลังจากได้เปลี่ยนป้ายใหม่ ได้สัปดาห์เดียว

ขณะที่นักท่องเที่ยวยังคงมาถ่ายรูปเช็กอินกันอย่างต่อเนื่อง โดยฟอนต์ ‘กรุงเทพฯ – Bangkok’ เป็นฟอนต์ใหม่ที่ กทม.จัดทำขึ้นภายใต้ CI (Corporate Identity) ของกรุงเทพมหานคร ชื่อว่าฟอนต์ ‘เสาชิงช้า’ มีต้นแบบมาจากตัวอักษรไทยนริศที่อยู่ในตราสัญลักษณ์ของกรุงเทพมหานคร

สำหรับการเปลี่ยนป้ายครั้งนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ข้อความเก่าที่เห็นไม่ใช่การทาสีแต่เป็นสติกเกอร์ ซึ่งด้วยระยะเวลาที่ติดมานานทำให้ลอกได้ไม่หมด จึงใช้วิธีทำความสะอาดและติดสติกเกอร์ใหม่ทับลงไป

ความเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีผลกับชีวิต แต่ก็เป็นรายละเอียดของเมือง ดังนั้น หากใครว่างหรือผ่านไปผ่านมาก็สามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึกไว้ได้

พ่อ-แม่ ไปเยี่ยม ‘ลูกทหารใหม่’ ที่ค่าย ทำอาหารไปเผื่อทหารเกณฑ์คนอื่น เผย เข้าใจหัวอกพ่อแม่ บางคนไม่ว่างมา จึงขออาสาดูแลให้เอง

(4 มิ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบผู้ใช้เฟซบุ๊ก ล้านดีไซน์ ลพบุรี ป้าย ลพบุรี โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า ‘เมื่อวันที่ 26 ไปเยี่ยมพลทหารลูกชาย ดูข้อความใน กลุ่ม ส่วนมากทหารเกณฑ์มาจากต่างจังหวัด ญาติบางคนติดภารกิจ มาไม่ได้ วันนี้เลยทำอาหาร ขนมจีน ข้าวเหนียวส้มตำ ไก่ย่างมาเผื่อแล้วครับ รวมถึงเครื่องดื่ม ลพบุรีอบอุ่นเสมอ เพื่อนลูกก็เหมือนลูกเรา’ กลายเป็นเรื่องอบอุ่นหัวใจบนโลกโซเชียล ชาวเน็ตแห่ชื่นชมตรึม!! 

‘ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์’ เข้ารับตำแหน่ง ‘เลขาฯ กกพ.’ พร้อมเดินหน้างานกำกับดูแลพลังงานไทยให้ราบรื่น-ไร้รอยต่อ

(4 มิ.ย. 67) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ ได้เข้ารับตำแหน่งเลขาธิการสำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567 ต่อจาก นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ ที่เพิ่งครบวาระการดำรงตำแหน่งไปเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเห็นชอบคัดเลือกและแต่งตั้งให้ ดร.พูลพัฒน์ เป็นเลขาธิการสำนักงาน กกพ. เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 โดย ดร.พูลพัฒน์ จบการศึกษาสูงสุดระดับปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์ จาก The George Washington University ประเทศสหรัฐอเมริกา มีประสบการณ์การทำงานเริ่มเข้ารับราชการครั้งแรกเมื่อปี 2541 ที่สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานกระทรวงพลังงาน ต่อจากนั้นในปี 2561 ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงพลังงาน และได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เมื่อปี 2566

ดร.พูลพัฒน์ มีประสบการณ์การทำงานในกิจการก๊าซธรรมชาติและกิจการไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องทั้งการวางยุทธศาสตร์ การกำกับ และการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศด้านพลังงาน โดยที่ผ่านมาเป็นบุคลากรหลักที่สำคัญที่ร่วมอยู่ในคณะทำงานและคณะเจรจาทางด้านพลังงานระหว่างประเทศสำคัญ ๆ หลายคณะด้วยกัน อาทิ การเจรจาในระดับทวิภาคีกับประเทศที่มีศักยภาพด้านพลังงาน การเจรจาในระดับพหุภาคี เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานของภูมิภาคและของประเทศ และการทำหน้าที่ประธานในการหารือแนวทางในการปรับปรุงข้อตกลงความมั่นคงด้านปิโตรเลียม (ASEAN Petroleum Security Agreement) เป็นต้น 

นอกจากนี้ ดร.พูลพัฒน์ ยังมีส่วนร่วมในการบริหารสัญญาและสัมปทานก๊าซธรรมชาติเพื่อส่งเสริมความมั่นคงและต่อเนื่องด้านเชื้อเพลิงของประเทศ และการร่วมแสวงหาความร่วมมือกับต่างประเทศในด้านการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานด้วยเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) รวมทั้งการสนับสนุนให้ภาคการศึกษาพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานของประเทศในอนาคต


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top