Monday, 19 May 2025
TheStatesTimes

เปิดจดหมาย ‘ลูกสาวทนายอานนท์’ เขียนถึงพ่อ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ พร้อมถาม “พ่อทำไมถึงอยู่ในคุก?” ขณะเจ้าตัวต้องโทษมาแล้ว 70 วัน

(5 ธ.ค. 66) นายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ‘ลูกเขียนจดหมายถึงพ่อ’

โดยภายในภาพเป็นรูปเด็กกำลังกอด นายอานนท์ พร้อมมีข้อความที่เขียนด้วยมือว่า…

“พ่อทำไมถึงอยู่ในคุก แล้วพ่ออยู่ที่ห้องไหนของเรือนจำ แล้วหนูต้องรออีก 10 ปีใช่ไหม?”

สำหรับ นายอานนท์ อยู่ระหว่างถูกจับคุกในเรือนจำเป็นเวลา 4 ปี หลังจากศาลอาญาพิพากษา ในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563 ขณะนี้ต้องโทษอยู่ในเรือนจำมา 70 วัน

สำนักพระราชวัง เชิญชวนร่วมลงนามถวายพระพร  'เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา' ในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ

เมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.66) สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ วันที่ 7 ธันวาคม 2566 ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ www.royaloffice.th ระหว่างวันที่ 6 - 8 ธันวาคม 2566

‘BLACKPINK’ จรดปากกาต่อสัญญาใน ‘ฐานะวง’ ดันหุ้น YG Entertainment พุ่งเกือบ 23% 

(6 ธ.ค.66) วายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ แถลง ‘BLACKPINK’ ได้ต่อสัญญาการทำกิจกรรมกลุ่มกับทางค่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในส่วนของการทำกิจกรรมเดี่ยวของสมาชิกแต่ละคนนั้น ทางวายจีกล่าวว่ายังคงอยู่ระหว่างการเจรจา

ทั้งนี้ ลิซ่า เจนนี่ จีซู โร่เซ ได้เปิดตัวในฐานะสมาชิกแบล็กพิงก์เมื่อปี 2016 โดยสัญญาฉบับแรกที่กินเวลา 7 ปี ที่ทำกับทางวายจีได้สิ้นสุดลงเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาท่ามกลางการจับตามองว่าจะมีการต่อสัญญากันครบทั้งวงหรือไม่

การต่อสัญญาครั้งนี้ทำให้วายจียังคงได้สิทธิ์บริหารจัดการการทำเพลง การจัดคอนเสิร์ต ตลอดจนกิจกรรมการโปรโมทของวงแบล็คพิงก์ต่อไป

“ผมมีความสุขที่ได้รักษาความสัมพันธ์กับ BLACKPINK ต่อไป เราจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยให้แบล็คพิงก์เปล่งประกายสุกสว่างกว่าเดิมในตลาดดนตรีโลก” ‘หยางฮยอนซอก’ ผู้ก่อตั้งและอดีตประธานค่ายวายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ กล่าว

ทั้งนี้ ราคาหุ้น YG พุ่งขึ้นเกือบ 23% จากข่าวการต่อสัญญากิจกรรมวงของ BLACKPINK

'ซิโก้' ปลื้ม!! ได้รับเกียรติบัตรพระราชทาน 'พ่อตัวอย่างแห่งชาติ' ประจำปี 2566 เผย!! เป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจที่ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้รับในชีวิตนี้

(6 ธ.ค. 66) เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หรือ ซิโก้ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ในตำแหน่งกองหน้าปัจจุบันเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนให้กับฮองอันยาลาย ในวีลีกของประเทศเวียดนาม ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ‘Kiatisuk Senamuang’ เนื่องในโอกาสได้รับเกียรติบัตรพระราชทาน ‘พ่อตัวอย่างแห่งชาติ’ ประจำปี 2566 ระบุว่า…

“เกียรติบัตรพระราชทาน ‘พ่อตัวอย่างแห่งชาติ’ ประจำปี 2566 คือรางวัลแห่งความภาคภูมิใจที่ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้รับพระราชทานในชีวิตนี้ 🙏 และเนื่องจากภารกิจหน้าที่ในประเทศเวียดนามจึงไม่สามารถเดินทางกลับไปประเทศไทยได้ ผมขอเก็บความภูมิใจนี้ไว้ตลอดไป 🙏❤️ และขอขอบคุณ เจ้าหน้าที่ สต๊าฟโค้ช ทีมสโมสรฮองอันยาลาย ที่ได้ร่วมแสดงความยินดีในวันพ่อแห่งชาตินี้ครับ 🙏
#วันพ่อแห่งชาติ #พ่อตัวอย่างแห่งชาติ2566 #Carabao #คาราบาว #HAGL #zicohagl  #เกียรติศักดิ์เสนาเมือง #kiatisuk #coachzico #ทีมซิโก้ #โค้ชซิโก้ #ซิโก้”

'วิชัย ทองแตง' เปิดมุมมองรักษ์โลก 'ธรรมดาๆ' ที่ 'ไม่ธรรมดา' พกพา 'ถุง' จาก 'กระดาษ' เหลือใช้ พับติดตัวไว้ใช้อเนกประสงค์

(6 ธ.ค. 66) ช่อง ‘godfatherofstartup’ ในติ๊กต็อกได้เผยแพร่มุมมองของ ‘วิชัย ทองแตง' เกี่ยวกับเรื่องการใช้ ‘กระดาษ’ เหลือใช้ นำมาพับเป็นถุงและพกติดตัวไปด้วยทุกที่ โดยมีใจความว่า..

“ความธรรมดาของคุณวิชัย คือการเก็บกระดาษที่ไม่ใช้แล้ว เราทำธุรกิจเยอะ กระดาษที่เหลือใช้เยอะมาก จึงนำมาพับเป็นถุงทั่วไป ถ้าหากเป็นกระดาษที่ใช้ไปแล้วหน้าเดียว ก็จะนำมาจดบันทึกต่อ เวลาเดินทางไปต่างประเทศ กระดาษพวกนี้ก็เดินทางไปด้วย ไซซ์เล็กคือค้างคืนเดียว ไซซ์ใหญ่ก็ค้างสองคืนขึ้นไป

ปกตินักเล่นหุ้นจะได้รับเอกสาร (ซองกระดาษสีน้ำดาล) บ่อย ผมก็ได้รับ และที่บ้านผมก็เอามาทำถุงกระดาษนะ

ลูกชายคนเล็กของผม เปิดร้านกาแฟ และเขาก็ใส่ใจเรื่องออแกนิกมาก ถุงที่ใช้ของก็คือ…ถุงจากตลาดหลักทรัพย์ครับ”

‘บ.จีน’ ร่วมสร้าง ‘โครงการบ้านจัดสรร’ ในคูเวต ใช้เทคโนโลยีก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

(6 ธ.ค. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คูเวตเริ่มต้นการก่อสร้างโครงการบ้านจัดสรรเมืองเซาธ์ ซาอัด อัล-อับดุลลาห์ ซิตี (South Saad Al-Abdullah City) ในเขตผู้ว่าราชการญาห์รา ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ไชน่า เก๋อโจวป้า กรุ๊ป จำกัด (CGGC)

บริษัทฯ สาขาคูเวต ระบุว่าโครงการนี้ครอบคลุมพื้นที่ราว 64 ตารางกิโลเมตร เพื่อจัดสรรที่อยู่อาศัย จำนวน 21,800 หน่วย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยจะตอบสนองความต้องการที่อยู่อาศัยของประชาชนอย่างน้อย 150,000 คน

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะรับผิดชอบงานขุดดินและถมดิน ก่อสร้างถนนระยะทางกว่า 150 กิโลเมตร และสะพานหลายแห่ง รวมถึงท่อส่งต่าง ๆ ความยาว 975 กิโลเมตร สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ภายใต้สัญญา

หยวนเจิ้น ผู้จัดการบริษัทฯ สาขาคูเวต กล่าวว่าโครงการนี้มุ่งเน้นการออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้ระบบก่อสร้างอัจฉริยะ ระบบบำบัดน้ำเสียเชิงบูรณาการ แสงสว่างจากพลังงานแสงอาทิตย์ และแหล่งกักเก็บน้ำฝน

‘รองนายกฯ สิงคโปร์’ เตรียมเพิ่ม ‘แรงงาน’ ด้าน AI ขึ้น 3 เท่า หวังใช้ประโยชน์ปัญญาประดิษฐ์ปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

เมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.66) สิงคโปร์เตรียมเพิ่มจำนวนผู้ปฏิบัติงานด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขึ้น 3 เท่าเป็น 15,000 คน ทั้งด้วยการฝึกอบรมคนในท้องถิ่นและว่าจ้างแรงงานจากต่างประเทศ ส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ระดับชาติ ด้านเทคโนโลยี

โดย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน นายลอว์เรนซ์ หว่อง รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวในงานหนึ่งเมื่อวันจันทร์ (4 ธ.ค.)

“สิงคโปร์เชื่อในศักยภาพระยะยาวของ AI และปณิธานของเราคือการใช้ประโยชน์จากความสามารถของ AI อย่างเต็มที่เพื่อปรับปรุงชีวิตของเรา โดยอาศัยนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรด้านการเรียนรู้ พวกเขาเป็นกระดูกสันหลังของ AI”

ทั้งนี้ แถลงการณ์จากรัฐบาลสิงคโปร์ในวันเดียวกัน ระบุว่า สิงคโปร์ได้วางกลยุทธ์ด้าน AI ที่ได้รับการปรับปรุง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศที่มีความรับผิดชอบและเชื่อถือได้ ในขณะเดียวกันก็ป้องกันผลกระทบในทางลบหรือการใช้งาน AI ไปในทางที่ผิดด้วย

‘อนุทิน’ เข้ม!! สั่งทุกจังหวัดบังคับใช้ กม.คุมแหล่งก่อมลพิษ หนุนเร่งพีอาร์เชิงรุกสร้างความร่วมมือ ปชช.แก้ปัญหา PM 2.5 

(6 ธ.ค. 66) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ มอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดำเนินการสำหรับป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ปี 66-67

ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงฤดูหนาวจนถึงฤดูแล้งของทุกปี ประเทศไทยจะเกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองเกินเกณฑ์มาตรฐานในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีสาเหตุทั้งจากโดยธรรมชาติ สภาพอากาศและภูมิประเทศที่เอื้อต่อการเกิดสถานการณ์และกิจกรรมของมนุษย์ จนเกิดการสะสมของฝุ่นละอองในปริมาณสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน

ทั้งนี้ ตามข้อสั่งการ รมว.มหาดไทย ได้ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ที่ส่งผลต่อการเกิดปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการสนับสนุนการสั่งดำเนินการ ตลอดจนแจ้งเตือนแก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ โดยให้ฝ่ายปฏิบัติการให้ความสำคัญกับการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่แหล่งกำเนิด กำชับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ให้บังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการเผาในที่โล่ง การคมนาคมขนส่ง อุตสาหกรรม และการก่อสร้าง ส่วนกรณีการเผาในพื้นที่การเกษตร ให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ ตลอดจนใช้กลไกอาสาสมัครร่วมรณรงค์งดการเผาเศษวัสดุทางการเกษตร ให้กับเกษตรกรเกี่ยวกับการกำจัดหรือใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ไปสู่การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มแทน เช่น การไถกลบตอ ซัง การใช้จุลินทรีย์ในการย่อยสลาย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวต่อว่า นายอนุทินได้กำชับให้กองอำนวยการ ปภ.จังหวัด ทบทวนและจัดทำแผนเผชิญเหตุในกรณีต่างๆ ปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน อาทิ พื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่ป่า พื้นที่การเกษตร พื้นที่ริมทาง และพื้นที่ชุมชน/เมือง ตลอดจนข้อมูลประชากรกลุ่มเสี่ยง ข้อมูลทรัพยากร เครื่องจักรกลสาธารณภัย พร้อมกับมีแนวทางปฏิบัติแต่การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์แต่ละระดับอย่างชัดเจน ตลอดจนประสานการปฏิบัติร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งชุดเฝ้าระวังระดับพื้นที่ สนับสนุนการลาดตระเวนเฝ้าระวัง ป้องปรามการลักลอบเผาในเขตพื้นที่ป่า เขตพื้นที่การเกษตร

ทั้งนี้ เมื่อเกิดสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นไฟป่า หมอกควัน หรือระดับปริมาณฝุ่น PM2.5 แนวโน้มสูงเกินค่ามาตรฐาน ให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด อำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินท้องถิ่น บูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับการปฏิบัติตามมาตรการ บังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดฝุ่นอย่างเข้มงวด กรณีที่เกิดไฟป่าให้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ที่มีทักษะชำนาญ ประกอบกำลังเป็นชุดปฏิบัติการพร้อมอุปกรณ์เข้าระงับเหตุการณ์โดยเร็ว

“ท่าน มท.1 ห่วงใยผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงอันตราย จึงเน้นย้ำให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครที่เข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐ จัดอุปกรณ์ส่วนบุคคลที่มีความเหมาะสม กรณีการเกิดไฟป่าที่กำลังภาคพื้นที่เข้าถึงยาก ให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่มีอากาศยานเข้าสนับสนุน และให้ดูแลด้านสวัสดิการและค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามระเบียบด้วย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า นายอนุทินยังได้เน้นย้ำให้มีการสื่อสารเชิงรุกผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงสาเหตุการเกิดฝุ่นละออง ที่ประชาชนจะมีส่วนร่วมในการลดปัญหา ได้เข้าใจต่อสถานการณ์ มาตรการข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนบทลงโทษหากมีการฝ่าฝืน ส่วนการดูแลสุขภาพประชาชนให้หน่วยงานด้านสาธารณสุข ให้ดำเนินการให้ข้อมูลการดูแลสุขภาพของประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นการมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้ข้อมูล หรือการให้ความรู้ผ่านช่องต่างๆ และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดพื้นที่และระบบบริการประชาชนในพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) หรือห้องปลอดฝุ่น เพื่อดูแลผู้มีปัญหาสุขภาพในกรณีจำเป็นต่อไป

‘นายกฯ’ สั่งคมนาคมเร่งดูแลผู้ประสบเหตุรถทัวร์มรณะ หลังเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง คร่าชีวิต 16 ศพ

(6 ธ.ค.66) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต กรณีเหตุรถทัวร์โดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-นาทวี ประสบอุบัติเหตุเสียหลักตกไหล่ทางชนต้นไม้ริมถนนเพชรเกษม หน้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร หมู่ที่ 7 ตำบลห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 14 รายและที่โรงพยาบาล 2 ราย 

นางรัดเกล้า ยังระบุว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยบนท้องถนนมาโดยตลอดไม่ว่าจะช่วงเทศกาลหรือไม่ใช่ช่วงเทศกาลจะมีการรณรงค์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้น ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมยังมีมาตรการคุมเข้มอุบัติเหตุช่วงเทศกาลเพื่อ ‘ลดตาย’ ในส่วนของรถโดยสาร 2 ชั้น ได้เปิดจดทะเบียนรถโดยสารสาธารณะ 2 ชั้นแล้วที่ต้องมีความสูงไม่เกิน 4 เมตร จากเดิมไม่เกิน 4.3 เมตร แต่รถทัวร์ 2 ชั้นในระบบจดทะเบียนวิ่งให้บริการได้เหมือนเดิม พร้อมบังคับติดตั้งระบบจีพีเอส เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมผู้ขับรถ ปรับปรุงสภาพรถ ซ่อมตัวถังรถ ต้องปรับระดับความสูงของรถเหลือไม่เกิน 4 เมตร ซึ่งจะมีอายุการใช้งานไปอีกประมาณ 4-5 ปี และจะปิดตำนานรถ 2 ชั้นในเมืองไทย

"นายกรัฐมนตรี ขอให้กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอำนวยความสะดวกกับผู้ประสบเหตุและญาติ ดังนั้นจะเห็นว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังกับความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างมาก มีการรณรงค์ในทุกเทศกาล เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น" นางรัดเล้า กล่าว

นางรัดเกล้า ยังกล่าวชื่นชมประชาชนในที่เกิดเหตุที่ให้ความช่วยเหลือ ด้วยการเปิดห้องพักในระแวกนั้นให้ญาติผู้ประสบเหตุที่มาติดต่อรับศพ หรือมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บได้พักครอบครัวละ 1 ห้องฟรี เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน และขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เข้าช่วยเหลือ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แถลง ตำรวจ ปส. จับเครือข่าย ภาคเหนือ พบซุกยาบ้า 10 ล้านเม็ด หลังใช้กล้วยน้ำว้าวางอำพรางท้ายกระบะ

ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นการใช้ทุกมาตรการทางกฎหมายเพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติด และยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ประกอบกับนโยบายของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่เดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร(ผอ.ศอ.ปส.ตร.)กำหนดนโยบายหลักในการสืบสวนปราบปรามทำลายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ให้สิ้นซาก  

ล่าสุด วันนี้ 6 ธ.ค.66 เวลา 10.00 น.นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นาลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส., พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต. ธนรัชน์ สอนกล้าผบก.ปส.2, พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส. และ พล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส, ผู้แทนจาก กอ.รมน., สำนักงาน ป.ป.ส. และ พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท.ศปก.นสศ. อนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ร่วมกันแถลงผลการปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติดรายนี้ ได้ผู้ต้องหา 5 ราย และยึดยาบ้าได้ 10 ล้านเม็ด 

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 พ.ย.66 บช.ปส. โดย กก.2 บก.ปส.3 และ บก.ขส.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ นปส.ขกท.ศปก.ทบ.(ขกท.ศปก.นสศ.) ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามพฤติกรรมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ พบว่าจะใช้รถกระบะลักษณะตีคอก ก 13XX (ป้ายแดง) กำแพงเพชร และ รถกระบะอีซูซุ ยX 81XX เชียงใหม่ ลำเลียงยาเสพติดจาก จว.เชียงใหม่ ลงไปยังพื้นที่ จว.พระนครศรีอยุธยา โดยอำพรางด้วยพืชผลทางการเกษตร ต่อมาได้พบความเคลื่อนไหวของเครือข่ายขับรถกระบะ ก 13XX (ป้ายแดง) กำแพงเพชร เข้าไปรับ ยาเสพติดบริเวณ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ จากนั้นได้มุ่งหน้าสู่พื้นที่ภาคกลาง โดยมีรถยนต์อีซูซุ ยX 81XX เชียงใหม่ ขับนำทางและนำมาจอดทิ้งไว้ที่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นมี รถเก๋งฮอนด้า ญX 28XX กรุงเทพ ขับรถมาจอดที่หน้ารถกระบะ ก 13XX(ป้ายแดง) กำแพงเพชร แล้วมีคนลง จากรถเก๋งแล้วขึ้นไปขับรถกระบะลักษณะตีคอกฯออกไป โดยมีรถเก๋งขับนำทางไป ต่อมาพบรถกระบะ ก 13XX (ป้ายแดง) กำแพงเพชร ขับมาจอดภายในซอยหมู่บ้านฉัตรนคร แขวง/เขตประเวศ กรุงเทพฯ ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวขอตรวจค้น จากการตรวจค้นรถกระบะลักษณะตีคอก พบมีการใช้กล้วยน้ำว้าจำนวนมาก มาวางปิดทับซุกซ่อนกระสอบบรรจุยาบ้า จำนวนประมาณ 10 ล้านเม็ด จึงจับกุมผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่ขับรถบรรทุกยาเสพติด และรถนำทั้งหมด จำนวน 5 คน พร้อมรถยนต์ 3 คัน ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. เผยว่า ภายใต้แผน “ตามล่า 100 เครือข่าย” ในคดีนี้พบว่าผู้ต้องหาเครือข่ายนี้มีการรับยาเสพติดจากในพื้นที่ อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่ โดยใช้รถยนต์กระบะลักษณะตีคอกและใช้กล้วยซึ่งเป็นผลผลิตการเกษตรของชาวเขาตามแนวชายแดนปิดทับซ่อนไว้ เช่นเดียวกับการจับกุมเมื่อก่อนหน้า ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมยาบ้าจำนวน 13.4 ล้านเม็ด ที่ด่านตรวจ จว.ชุมพร ซึ่งใช้รถกระบะมีคอกใช้กล้วยปิดทับและมีการรับยาบ้ามาจากพื้นที่ อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่เช่นกัน สำหรับ อ.เชียงดาว เป็นหนึ่งใน 5 อำเภอ ตามแนวชายแดนของ จว.เชียงใหม่ที่พบการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเป็นประจำ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) จะสืบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีและยึดทรัพย์ผู้สั่งการ

ทั้งสองคดีนี้ให้ได้โดยเร็วและจะดำเนินการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดที่พื้นที่ชายแดนอย่างจริงจังโดยจะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย โดยเฉพาะในพื้นที่เร่งด่วนตามมาตรา 5 (10) ของประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งกำหนดสถานะของพื้นที่ชายแดนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ชายแดน  15 อำเภอ 3 จังหวัด ได้แก่ 6 อำเภอ ของจังหวัดเชียงราย 5 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ และ 4 อำเภอของ จว.นครพนม โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาภายในประเทศ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการสกัดกั้นตามแนวชายแดน

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เผยว่า กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลในทุกพื้นที่ โดยพบว่าผู้มีอิทธิพลส่วนมากมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ที่ต้องดำเนินการปราบปรามโดยเร่งด่วน ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือ ของทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและกลไกในระดับพื้นที่ กระทรวงมหาดไทย ได้เปิดปฏิบัติการ(Kick Off) ปราบปรามผู้มีอิทธิพล เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 66 ที่ผ่านมานี้ ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จหนึ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำงานร่วมกัน “แยกปลาแยกน้ำ”ระหว่างผู้เสพผู้ค้า ดำเนินการปราบปรามผู้ค้า ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่อเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

สำหรับเดือน พฤศจิกายน 2566 ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติด รายสำคัญ  21 คดี ผู้ต้องหา 42 คน ของกลาง ยาบ้า 36,351,455 เม็ด, ไอซ์ 125.84 กก. เฮโรอีน 11.87 กก., โคเคน 3.229 กก. และตรวจยึดทรัพย์ ไว้ตรวจสอบมูลค่าประมาณ 24,680,000 ล้านบาท


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top