Saturday, 10 May 2025
TheStatesTimes

'คิม จองอึน' จบภารกิจ 1 สัปดาห์ในรัสเซีย นั่งรถไฟหุ้มเกราะมุ่งหน้ากลับเปียงยาง

(18 ก.ย.66) สื่อรัสเซียหลายแห่งรายงานว่า นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยสารรถไฟหุ้มเกราะของเขาเดินทางออกจากภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียแล้วในวันนี้

สำนักข่าวเรีย โนวอสตีรายงานว่า มีพิธีส่งผู้นำเกาหลีเหนือที่สถานีรถไฟอาร์ตอม-ปรีมอร์สกี อาดีน (Artyom-Primorsky-1) พร้อมกับเผยแพร่คลิปภาพเห็นนายคิมโบกมือจากบนรถไฟ อำลาคณะตัวแทนรัสเซียที่นำโดยนายอเล็กซานเดอร์ คอซลอฟ รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและนิเวศวิทยา

ขณะที่สำนักข่าวทาสส์รายงานว่า รถไฟของนายคิมมุ่งหน้าไปยังพรมแดนที่อยู่ห่างออกไป 250 กิโลเมตร ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ทาสส์รายงานว่า นายคิมได้รับโดรนติดระเบิด 5 ลำ โดรนลาดตระเวน 1 ลำ ชุดอุปกรณ์กันกระสุนและผ้าพิเศษที่ไม่สามารถตรวจจับได้ด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อนเป็นของขวัญจากผู้ว่าการแคว้นปรีมอร์เยของรัสเซียที่มีพรมแดนติดกับเกาหลีเหนือและจีน

ผู้นำเกาหลีเหนือเดินทางเยือนต่างประเทศอย่างเป็นครั้งแรกตั้งแต่โควิด-19 ระบาด โดยออกเดินทางจากกรุงเปียงยางในวันที่ 11 กันยายน และเริ่มการเยือนในวันรุ่งขึ้น ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับเรื่องทางการทหาร เช่น เยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องบิน เยี่ยมชมโรงงานผลิตอาวุธพร้อมกับรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย ประชุมสุดยอดและแลกเปลี่ยนปืนไรเฟิลกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย อย่างไรก็ดี เขาได้พบกับกลุ่มนักศึกษาเกาหลีเหนือที่ศึกษาในเมืองวลาดิวอสต็อกก่อนเดินทางกลับในวันนี้

‘จีน’ ดำเนินการทดสอบ ‘อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้า’ ด้วย ‘พลังงานความร้อนจากทะเล’ สำเร็จ

เมื่อวานนี้ (17 ก.ย. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คณะนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรของจีนได้ดำเนินการทดสอบอุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากมหาสมุทรในทะเลจีนใต้

รายงานระบุว่า อุปกรณ์ข้างต้น ขนาด 20 กิโลวัตต์ พัฒนาโดยสำนักสำรวจทางธรณีวิทยาทางทะเลแห่งกว่างโจว ภายใต้การควบคุมโดยตรงของสำนักสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งประเทศจีน ได้ถูกเคลื่อนย้ายกลับสู่นครกว่างโจว มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน หลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบ

อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากมหาสมุทรนี้สามารถผลิตไฟฟ้าเป็นเวลานาน 4 ชั่วโมง 47 นาที สร้างผลผลิตไฟฟ้าสูงสุด 16.4 กิโลวัตต์ ระหว่างการทดสอบนอกชายฝั่งดังกล่าว

หนิงโป วิศวกรอาวุโสของสำนักฯ กล่าวว่าการทดสอบนอกชายฝั่งนี้ตรวจสอบความอยู่รอดของระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากมหาสมุทรที่พัฒนา รวมถึงความสามารถใช้งานจริง ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาและใช้พลังงานความร้อนจากมหาสมุทร นับจากการทดสอบบนบกสู่การใช้งานนอกชายฝั่ง

ทั้งนี้ พลังงานความร้อนจากมหาสมุทรใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างพื้นผิวและน้ำลึกมาผลิตไฟฟ้า ทำให้เป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียน โดยหนิงกล่าวว่าจีนมีแหล่งสำรองพลังงานความร้อนจากมหาสมุทรมากมาย แต่การวิจัยที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้ยังอยู่แต่ในห้องปฏิบัติการและการทดสอบบนบก

‘มท.1’ กร้าว!! จะใช้กลไกอำนาจรัฐเพื่อบ้านเมือง เร่งปราบมาเฟีย - กำจัดผู้มีอิทธิพลให้สิ้นซาก

(18 ก.ย. 66) ที่ รร.รามาการ์เดนส์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายทรงศักดิ์ ทองศรี นายชาดา ไทยเศรษฐ์ นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูง ผู้ว่าฯ ทั่วประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

นายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งถึงนโยบายการจัดระเบียบสังคมและผู้มีอิทธิพลว่า เมื่อพูดถึงการปราบปรามผู้มีอิทธิพล คนส่วนใหญ่คิดไม่ออกว่าต้องทำอย่างไร เราต้องมาตั้งหลักกันใหม่ สำหรับกระทรวงมหาดไทย ผู้มีอิทธิพลหมายถึงคนที่ใช้อำนาจที่มีอยู่ในทางมิชอบ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเลงหัวไม้ ไม่จำเป็นต้องเป็นอันธพาล คนดี ๆ แบบนี้ที่ใช้อำนาจในทางมิชอบ ข่มเหงคนอื่น และก่อประโยชน์ส่วนตน ทำให้คนอื่นเดือดร้อน กีดกันคนอื่นไม่ให้ได้รับโอกาสเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นอำนาจรัฐ อำนาจบารมีในท้องถิ่น อำนาจเงิน และอำนาจสายสัมพันธ์ต่าง ๆ ถ้าใช้อิทธิพลประกอบคุณงามความดี เป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ แต่ใช้อิทธิพลก่อให้เกิดความเดือดร้อน เสียหายต่อสังคมและประเทศชาติ นี่คือสิ่งที่ต้องกำจัด หน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยมุ่งจัดระเบียบสังคมให้สงบสุข ทำบ้านเมืองให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ยาเสพติด ประชาชนมีความมั่นคง ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีทัศนคติที่ดีต่อบ้านเมือง สิ่งใดที่ขัดต่อความมุ่งหมายนี้ เราจะใช้กลไกของรัฐที่พวกท่านทั้งหลายถืออยู่ในมือต้องกำจัดให้สิ้นซากไป

นายอนุทิน กล่าวถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทของรัฐบาลว่า เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ว่าไม่ใช่เงินสด มันมีวงเงิน เป็นการใช้ที่มีข้อกำหนด เช่น ใช้ในรัศมี 4 กม. แต่อาจจะเพิ่มเป็นหมู่บ้าน ตำบล อำเภอก็ว่าไปตามความเหมาะสม ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังดำเนินการอยู่ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐบาล ได้หาเสียงเรื่องนี้เอาไว้ เราก็ต้องเข้าใจ ตนก็เคยหาเสียงมาก่อนในส่วนของตน เมื่อเราหาเสียงอะไรแล้ว หน้าที่คือต้องทำให้สำเร็จ ถ้าหาเสียงมาแล้วไม่ทำเท่ากับเราหลอกลวงประชาชน ที่เราเข้ามาทุกวันนี้ได้เพราะไปสัญญากับประชาชนไว้ ที่บอกว่าสิ่งนี้ทำไม่ได้ เป็นการมอมเมาประชาชน เราก็มองว่าต่างคนต่างความคิด แต่เราก็น้อมรับรับฟัง ถ้าคิดโดยหลักการมันก็เป็นเงินบาท ซื้อของไทย ใช้ของไทย หมุนเวียนอยู่ในระบบของเรา และต้องสร้างการป้องกันเพื่อป้องกันการหักหัวคิวด้วย เราจะปล่อยให้เกิดไม่ได้

“ผมชื่อเล่นชื่อหนู ภารกิจของท่านคือราชสีห์ แต่สำหรับผมราชสีห์คือประชาชน ให้หนูช่วยเถอะครับ อะไรที่ติดขัดก็มาบอก แล้วก่อให้เกิดผลประโยชน์ประชาชน ผมยินดีทำและรับผิดชอบร่วมกับ พวกเราทุกคนไปช่วยราชสีห์กัน ราชสีห์ก็คงไม่ตะปบเรา ราชสีห์ก็คงอยู่กับเราด้วยความสง่างาม ด้วยความสมบูรณ์ เราก็เป็นหนูที่ช่วยราชสีห์ มันก็อยู่กันได้ด้วยความสุข ไม่อย่างนั้นคงไม่อยู่ในนิทานอีสปหรอกครับ” นายอนุทิน กล่าว

'ชาดา' เดินหน้าปราบผู้มีอิทธิพล เร่งทำบัญชีแยกสีแดงเหลือง  วอน!! ให้เวลา 'เจ้าหน้าที่' ทำงาน ขอทุกคนใจเย็นๆ

(18 ก.ย. 66) ที่ รร.รามาการ์เดนส์ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการขึ้นทะเบียนผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ทั่วประเทศว่า ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการโดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทยเป็นประธาน ตนเป็นรองประธาน และมีปลัดกระทรวงเป็นคณะกรรมการ โดยจะมีการรวบรวมรายชื่อผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศก่อน และตรวจสอบดูว่ายังมีอิทธิพลอยู่หรือไม่ และมาตรวจสอบว่าในพื้นที่มีผู้มีอิทธิพลรายใหม่เกิดขึ้นหรือไม่ โดยจะแบ่งพื้นที่เป็นสีแดงและสีเหลืองเพื่อทำข้อมูลใหม่ โดยจะเน้นย้ำถึงความเป็นธรรมกับผู้ที่ไม่ได้มีอิทธิพล ทั้งนี้ คดีของกำนันนก ทำให้ต้องตรวจสอบกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและนักการเมืองท้องถิ่นทั่วประเทศก่อน

“ผู้มีอิทธิพลที่พฤติกรรมไม่ดีมีหลายรูปแบบ บางคนไม่ได้มีตำแหน่งแต่มีอิทธิพล แต่บางคนมีอิทธิพลมากถึงขั้นแต่งตั้งนักการเมืองได้ ก็จะต้องตรวจสอบไปตามขั้นตอน ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ” นายชาดา กล่าว

เมื่อถามว่าการตรวจสอบผู้มีอิทธิพลในจ.อุทัยธานี เป็นอย่างไร? นายชาดา กล่าวว่า จบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีการแบ่งพื้นที่เป็นสีแดงและสีเหลืองเรียบร้อย โดยสีแดงนั้นมีน้อยมาก เมื่อถามต่อว่า ในพื้นที่จ.นครปฐมจะเป็นจุดต่อไปที่จะเข้าไปตรวจสอบหรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ตรวจพร้อมกันทั่วประเทศทั้งหมด ส่วนจะมีการเปิดรายชื่อผู้มีอิทธิพลหรือไม่นั้น ไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เนื่องจากกฎหมายไม่เหมือนสมัยก่อน เพราะมีกฎหมายป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล หากมีรายชื่อหลุดไปอาจจะถูกฟ้องร้องได้

เมื่อถามถึงการตั้งกรอบระยะเวลาการทำบัญชีสีแดงและสีเหลือง? นายชาดา กล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่จ.อุทัยธานีเสร็จเรียบร้อยแล้ว และในหลายจังหวัดก็จบแล้ว การทำงานไม่ได้อยู่ที่กระทรวงมหาดไทยอย่างเดียว แต่มีกระทรวงอื่นมาร่วมทำงานด้วยเบื้องต้นสามารถรวบรวมข้อมูลได้ 20-30% แล้ว ซึ่งตนเองจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ขออย่าไปบีบเจ้าหน้าที่ให้เร่งทำงาน

เมื่อถามว่ากังวลไหมว่าผู้มีอิทธิพลจะเข้ามาแทรกแซง? นายชาดา ย้อนถามกลับว่า “ใครจะมาใหญ่กว่าผม” พร้อมหัวเราะแล้วบอกว่า “ผมตัวใหญ่” 

'กรมพัฒนาธุรกิจฯ' เปิดโพย 10 สินค้าสุดปัง ที่ นทท.แห่ซื้อ 'มะขามหวานอบแห้งแกะเมล็ด-ผ้าห่มผ้าฝ้าย' มาแรง!!

(18 ก.ย. 66) นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2557-2565 กรมได้นำผลิตภัณฑ์ชุมชนจำนวน 2,375 รายการ จากผู้ประกอบการสินค้าชุมชน 112 ราย เข้าไปวางจำหน่าย ณ สนามบินนานาชาติ 3 แห่ง ได้แก่ สุวรรณภูมิ ภูเก็ต และดอนเมือง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อกลับไปเป็นของฝาก ของที่ระลึก หรือใช้เอง

โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่องร่วมกับพันธมิตร ได้แก่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) สนับสนุนพื้นที่ และบริษัท คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี จำกัด ผู้บริหารจัดการร้านค้าในสนามบิน สามารถสร้างยอดขายรวมมากกว่า 630 ล้านบาท แบ่งเป็น สุวรรณภูมิ 490 ล้านบาท ภูเก็ต 119 ล้านบาท และดอนเมือง 21 ล้านบาท และนอกจากช่องทางการขายในสนามบินแล้ว ยังคัดสรรผลิตภัณฑ์ชุมชนจำหน่ายผ่านเว็บไซต์ www.kingpower.com ได้รวมกว่า 4 ล้านบาทด้วย

สำหรับผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ มะขามหวานอบแห้งแกะเมล็ด ผ้าห่มผ้าฝ้าย น้ำมันเหลือง กรอบรูปไม้สัก กระโปรงปักเลื่อม น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ยาหม่องเขียว ผ้าไหมคลุมไหล่ แชมพูสมุนไพร (มะกรูด) และก้านไม้หอมระเหย ซึ่งสะท้อนถึงความนิยมผลิตภัณฑ์ไทยที่ไม่เพียงแค่งดงาม แต่แสดงถึงอัตลักษณ์โดดเด่นที่มีคุณภาพและรสนิยม

“กรมพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการชุมชนให้มีโอกาสด้านการตลาดที่หลากหลาย โดยช่องทางการจำหน่ายในท่าอากาศยานเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่กรมและหน่วยงานพันธมิตรได้ร่วมกันคัดสรรผลิตภัณฑ์ชุมชนที่โดดเด่นตามหลักการ DBD SMART Local ให้มีโอกาสขยายตลาดในระดับสากล รวมถึงเสริมสร้างองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ประกอบการชุมชนก้าวให้ทันความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจที่เกิดขึ้นตลอดเวลา เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ และส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจประเทศให้มีความเข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืน” นายทศพลกล่าว

ที่ผ่านมา กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีเป้าหมายสำคัญในการพลิกโฉมการพัฒนาผู้ประกอบการชุมชนตามแนวทาง DBD SMART Local ของเด่นพื้นที่ ของดีพื้นถิ่น ด้วยการนำเอาภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์และคุณค่า นำเสนอเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีจุดเด่นและความแตกต่าง เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและเชื่อมโยงช่องทางการตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชนให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยคัดเลือกผลิตภัณฑ์ชุมชน DBD SMART Local ที่มีภาพลักษณ์ที่ดี และความพร้อมทางการตลาดให้มีโอกาสได้จำหน่ายผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งในห้างค้าปลีกสมัยใหม่ สนามบินนานาชาติ และช่องทางออนไลน์

‘อนุทิน’ ตั้ง คกก. ลุยสอบโครงการฮั้วประมูล ‘กำนันนก’ ลั่น!! ใครมีเอี่ยว เอาผิดตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด

(18 ก.ย. 66) ที่ รร.รามาการ์เด้นส์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบโครงการที่อาจเข้าข่ายฮั้วประมูล ที่มีความเกี่ยวข้องกับนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ ‘กำนันนก’ ว่า ตนเชื่อว่าคดีดังกล่าวจะนำมาสู่การขยายผล ตอนนี้จะต้องตรวจสอบโครงการต่าง ๆ ทั้งหมดของกระทรวงมหาดไทย ว่าตรงไหนเข้าข่ายฮั้วประมูล ซึ่งตนจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาและลุยเรื่องนี้

ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้ว แต่ในทางราชการมีข้อเสียว่าต้องมีหลักฐานมาประกอบ จะใช้ความรู้สึกไม่ได้ นี่คือสิ่งที่ท้าทาย เป็นสิ่งที่ยาก และจำเป็นต้องขอข้อมูลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นต้น ขณะนี้โครงการใหญ่ ๆ ได้รับการร้องเรียนเป็นจำนวนมากบางโครงการมีการทักท้วงแล้วแต่ยังเดินหน้าโครงการต่อ ซึ่งเราจะเข้าไปดำเนินการ ยืนยันว่าตนจะพยายามดำเนินการด้วยการหาพยานหลักฐานต่าง ๆ ว่ามีสิ่งใดที่ไม่ถูกต้อง ขณะนี้ยังไม่ได้ลงในรายละเอียด แต่ผมมีหน้าที่ติดตามตรวจสอบ เร่งรัดให้การตรวจสอบเกิดขึ้นโดยเร็ว

เมื่อถามว่าถ้ามีคนในเข้าไปเกี่ยวข้อง จะมีการคาดโทษหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งการทุจริตจะทำเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องมีคนเข้ามาเอี่ยว

เมื่อถามว่าจะวางแนวทางการป้องกันในอนาคตอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องทำให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด สิ่งใดไม่ดีต้องใช้กฎหมายดำเนินการให้เฉียบขาดโดยเร็วที่สุด ซึ่งคดีทุจริตไม่มีอายุความ 

‘BLACKPINK’ ปิดฉากเวิลด์ทัวร์ตลอด 11 เดือนเป็นที่เรียบร้อย แม้คอนเสิร์ตจบลง แต่ทั่วโลกจับตา!! รอค่ายประกาศปมต่อสัญญา

(18 ก.ย. 66) วินาทีแห่งประวัติศาสตร์ ‘ลิซ่า - โรเซ่ - เจนนี่ - จีซู’ 4 สาวแห่งวงเกิร์ลกรุ๊ป  ‘BLACKPINK’ ในฐานะค่าย YG Entertainment กับครั้งสุดท้ายใน ‘BLACKPINK WORLD TOUR BORN PINK FINALE IN SEOUL’ ในวันที่ 17 กันยายน 2023 ณ โกเช็กสกายโดม กรุงโซล ประเทศเกาหลี

คอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ ‘BLACKPINK WORLD TOUR BORN PINK’ หากใครติดตามจะทราบกันดีกว่า ได้ทำการแสดงมากว่าหลายที่ เรียกว่า ทั่วทุกมุมโลก โดยทำการแสดงมากว่า 11 เดือน จำนวน 66 รอบ 34 เมือง กวาดความนิยม และคำชื่นชมจากผู้ชมนับล้านทั่วโลก

ครั้งสุดท้ายที่เมืองโซลนั้น ทั้ง 4 สาว ได้ปล่อยของอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น เพลงฮิตติดชาร์ทที่มีการเรียบเรียงอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด การแสดงราวกับยกโคเชลล่า เวที่ระดับโลกมาวางไว้ และทีมงาน โดยเฉพาะแดนเซอร์ทั้งทีม YGX และทีมระดับโลก รวมไปถึงการรังสรรค์เอฟเฟคท์ และโปรดัคชั่นที่อลังกาลเหนือความคาดหมาย

‘สส.เกาหลีใต้’ เล็งเสนอกฎหมายห้ามจำหน่าย-บริโภค 'เนื้อสุนัข' ขณะที่ปัจจุบันนี้ยังไม่มีการแบน-กำหนดให้เป็นสิ่งผิดกฎหมายใดๆ

(18 ก.ย. 66) บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของเกาหลีใต้ กำลังมีแผนเสนอร่างกฎหมายซึ่งมีเป้าหมายห้ามจำหน่ายและบริโภคเนื้อสุนัข ประเพณีเก่าแก่อายุหลายร้อยปีอันเป็นที่ถกเถียง ซึ่ง ณ เวลานี้ยังไม่มีการแบนหรือกำหนดให้เป็นสิ่งผิดกฎหมายใดๆ

สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกเสนอโดยพรรคเดโมแครต ปาร์ตี พรรคฝ่ายค้านหลักเมื่อวันพฤหัสบดี (14 ก.ย.) และเรียกเสียงสนับสนุนในทันทีจากพรรคพีเพิล พาวเวอร์ ปาร์ตี พรรครัฐบาล ซึ่งเท่ากับว่าจะมีคะแนนเสียงมากพอสำหรับโหวตผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้

ปาร์ก แด-ชุล ประธานคณะกรรมการด้านนโยบายของพรรครัฐบาล ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ว่า "ประชาชนเกาหลีใต้ราว 10 ล้านครัวเรือน เลี้ยงสัตว์เลี้ยง ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องหยุดรับประทานเนื้อสุนัข"

ทั้งนี้ ปาร์ก ยังให้คำจำกัดความร่างกฎหมายฉบับนี้ว่าเป็น ‘ร่างกฎหมายคิม กอนฮี’ อ้างถึงสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของเกาหลีใต้ ซึ่งรณรงค์ยุติกิจวัตรการรับประทานเนื้อสุนัขในประเทศ อย่างไรก็ตาม การตั้งชื่อดังกล่าว เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง แม้กระทั่งจากสมาชิกภายในพรรคเอง ซึ่งกล่าวหา ปาร์ก ว่าประจบประแจงประธานาธิบดีจนเกินงาม

สุภาพสตรีหมายเลข 1 สนับสนุนการแบนซื้อขายและบริโภคเนื้อสุนัขทุกรูปแบบ และเมื่อเดือนที่แล้ว เธอได้เร่งเร้าสมัชชาแห่งชาติให้ผ่านกฎหมายฉบับหนึ่งสำหรับยุติกิจวัตรดังกล่าว และสัญญาว่าจะเดินหน้ารณรงค์และใช้ความพยายามเพื่อนำมาซึ่งจุดจบของการบริโภคเนื้อสุนัขให้ได้

‘มนุษย์และสัตว์ควรอยู่ร่วมกัน’ เธอบอกระหว่างแถงข่าวที่มีกลุ่มประชาคมหนึ่งเป็นเจ้าภาพเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคม พร้อมระบุ "กิจกรรมเนื้อสุนัขอย่างถูกกฎหมายควรถึงจุดจบเสียที"

การบริโภคเนื้อสุนัขเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในคาบสมุทรเกาหลีมานานหลายร้อยปี แต่มันได้รับความนิยมลดน้อยลงเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนฟาร์มสุนัขทั่วเกาหลีใต้ลดลงกว่าครึ่ง แต่ยังมีสุนัขถูกฆ่าเป็นอาหารราว 700,000 ตัวต่อปี ลดลงจากระดับหลายล้านตัวเมื่อราว 1 ทศวรรษก่อน จากข้อมูลของสมาคมเกษตรกรผู้เลี้ยงสุนัข

ความพยายามที่ผ่านมาของรัฐบาลในการกำหนดให้อุตสากรรมเนื้อสุนัขเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ถูกคัดค้านจากทั้งเจ้าของฟาร์มสุนัขและร้านอาหาร เนื่องจากเกรงว่ามันจะกระทบต่อวิถีชีวิตของพวกเขา

THE STATES TIMES ผนึกกำลัง 'KCS RADIO-MAYA Chanel'  เสิร์ฟข่าวเด่นประเด็นร้อนทั่วไทย 'ฉับไว-เป็นกลาง-ชัดเจน' ดีเดย์ 18 ก.ย.นี้!!

"ไปกับข่าวไปกับเรา" สำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ผนึกกำลัง KCS RADIO และ MAYA Channel สร้างมิติใหม่ในการเสนอข่าว ครอบคลุมทุกช่องทาง ออนไลน์ วิทยุ ทีวีดาวเทียม ดันรายการข่าว สดใหม่ ทั้งวัน 4 รายการ ตลอดวันจันทร์ถึงอาทิตย์ พร้อมออกอากาศคู่ขนาน ทั่วประเทศไทย

สำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ชัดเจน เป็นกลาง ร่วมกับ KCS RADIO ผู้บริหารสถานีวิทยุชั้นนำทั่วไทย และ MAYA Chanel ทีวีดาวเทียม ช่องบันเทิงอันดับ 1 จากดาวเทียม PSI ช่อง 44 สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ ผสานสื่อใหม่ (New Media) และสื่อดั้งเดิม (Traditional Media) ขับเคลื่อนพลังแห่งการรับรู้ข่าวสารที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือให้กับประชาชนคนไทย ให้มีส่วนร่วมไปกับข่าว (Engagement) ผ่านทั้ง 3 ช่องทาง (Cross Media) โดยออกอากาศพร้อมกัน ทั้งออนไลน์, วิทยุ และทีวีดาวเทียม ภายใต้ความเชื่อมั่นที่จะทำให้คนไทยดูข่าวได้สนุกขึ้น

คุณสิริชล สถิตย์เสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เคซีเอส แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด เผยถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า แม้ว่าบทบาทของสื่อวิทยุจะเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังพบว่าเป็นสื่อสำคัญที่ประชาชนคนไทยเลือกใช้เพื่อฟังข่าวสารอยู่เสมอ เพราะมีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งที่ผ่านมา KCS RADIO เอง ก็ได้ปรับตัวโดยใช้แนวคิดในการนำคอนเทนต์ดีๆ เป็นแกนกลาง และผลักดันคอนเทนต์เหล่านี้ ผ่านสื่อวิทยุไปสู่ประชาชน โดยเฉพาะ 'ข่าว' ที่ถือเป็นหนึ่งในคอนเทนต์สำคัญที่ผู้คนสนใจเป็นอย่างมาก

ดังนั้น การตัดสินใจร่วมมือกับ สำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ก็เพื่อเสริมแกร่งให้กับช่องทางของบริษัทฯ ด้วยการนำจุดแข็งด้านเนื้อข่าวสารของ THE STATES TIMES ที่มีความ 'ชัดเจน เป็นกลาง' มาร่วมส่งต่อผ่านสื่อวิทยุภายใต้เครือข่ายของ KCS ที่มีความครอบคลุมทั่วประเทศ ตลอดทั้งวัน 'จันทร์' ถึง 'อาทิตย์' โดยมั่นใจว่าการร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นมิติใหม่ ที่จะพลิกสื่อวิทยุให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ด้าน Maya Channel ทีวีดาวเทียม ช่องบันเทิงอันดับ 1 ของไทย จากจานดาวเทียม PSI ช่อง 44 เปิดเผยว่า แม้ Maya Channel จะเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์บันเทิงที่ได้รับความนิยมจากประชาชนคนไทย แต่ก็ยอมรับว่า 'ข่าว' ถือเป็นอีกคอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจไม่แพ้ 'บันเทิง' 

ดังนั้นการได้คอนเทนต์ข่าวเข้ามาเติมเต็มในช่อง Maya Channel จะสร้างความสมบูรณ์ให้ทางช่องเต็มอิ่มไปด้วย 'สาระ' และ 'บันเทิง' ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ Maya Channel ได้มีโอกาสร่วมมือกับ สำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES ซึ่งถือเป็นสำนักข่าวที่มีการเติบโตสูงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าการผสานความร่วมมือกัน ระหว่าง ออนไลน์, วิทยุ และ ทีวีดาวเทียม ในครั้งนี้ จะมอบประสบการณ์ที่ดีแก่ประชาชนคนไทยได้อย่างแน่นอน

ขณะที่ นายณัฐภูมิ รัฐชยากร Chief Operating Officer สำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES เผยถึงความมั่นใจในการผนึกกำลังกันจาก ทั้ง 3 แพลตฟอร์มสื่อในครั้งนี้ ว่า ถือเป็นการปรับรูปแบบการนำเสนอคอนเทนต์รายการข่าวที่แปลกใหม่และเป็นประโยชน์ โดยเพิ่มความหลากหลายของช่องทางการรับชม รับฟัง ให้ครบทั้งออนไลน์ และออนแอร์ ผ่านคลื่นวิทยุ และช่องโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม พร้อมทั้งปรับเนื้อหารายการข่าวในแต่ละช่วงเวลา ให้เหมาะสม ครอบคลุมตลอดทั้งวัน สดใหม่ ไม่ซ้ำใคร ซึ่งคาดว่าจะสามารถขยายฐานผู้ฟัง และผู้ชม รวมถึงผู้ติดตามในช่องทางต่างๆ ของทุกฝ่ายได้มากขึ้นอีกด้วย

"ต้องยอมรับว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นย่างก้าวครั้งสำคัญในการพาคอนเทนต์รายการข่าวของเราไปสู่ฐาน ผู้ชม-ผู้ฟัง ที่กว้างขึ้น และนั่นก็ทำให้เราต้องยิ่งมุ่งมั่นที่จะยกระดับคอนเทนต์ให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งทุกท่านจะไม่ผิดหวังที่จะ...ไปกับข่าว ไปกับเรา THE STATES TIMES ชัดเจนเป็นกลาง สด ใหม่ ทุกวันจันทร์ – วันอาทิตย์ อยู่กับเรา เข้าถึงทุกข่าว ครบทุกรส ตรงทุกประเด็น" ณัฐภูมิ กล่าวเสริม

สำหรับการร่วมมือระหว่างสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES กับสถานีวิทยุ KCS Radio Station และสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม MAYA Chanel ภายใต้การคัดสรรข่าวสาร สาระความรู้ที่เป็นประโยชน์ ผ่านผู้ดำเนินรายการที่มากประสบการณ์ ทั้งความรู้ และชั้นเชิงในการนำเสนอ เหมาะแก่การติดตามรับชม-รับฟังได้ตลอดทั้งวัน จะเริ่มออนแอร์ตั้งแต่เวลา 07.00 – 23.00 น. ทุกวันจันทร์ ถึง อาทิตย์ ซึ่งมีรายการไฮไลต์เด่นๆ ดังนี้...

>> จันทร์ - ศุกร์
- พบ 'คู่หู คู่ฮา' ยามเช้า 'ไอยรา อัลราวีย์ บรัศว์ตฤณ' และ 'ดีเจศร' พ.จ.ท.อดิศร จันทรวัฒน์ 2 นักจัดรายการวิทยุที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวข่าวดี พร้อมขยี้เรื่องฮาเรียกรอยยิ้มผู้ฟังเป็นระยะ ผ่านรายการ 'NAVY TIME เรื่องดีๆ ประเทศไทยยามเช้า' ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.00 - 08.00 น.

- ต่อเนื่องด้วยรายการข่าวเที่ยงคุณภาพ 'คุยข่าว ถึงเครื่อง' โดยคุณปรเมษฐ์ ภู่โต (พี่ก๊อง) ผู้ดำเนินรายการ สื่อมวลชนข่าวสุดเก๋า พิธีกรโทรทัศน์, วิทยุ และ สื่อออนไลน์ มืออาชีพกว่า 30 ปี ในเวลา 12.00 - 13.00 น. 

- ยามเย็น ได้เวลาของ 'ถลกข่าว ถลกปัญหา' รายการข่าวที่พร้อมสแตนบายทุก 18.00-19.00 น. ของวันจันทร์-ศุกร์ เพื่อไล่ถลกทุกข่าวสารบ้านเมือง รวมถึงปัญหาที่ต้องสะท้อนในสังคม ให้ส่งต่อไปถึงหูของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ดำเนินรายการโดย คุณสถาพร บุญนาจเสวี หรือ หยก THE STATES TIMES
.
- ส่วนช่วงค่ำพบกับสื่อมวลชนคุณภาพ คุณวารินทร์ สัจเดว ผู้ประกาศข่าว นักจัดรายการวิทยุ ฝีมือดี ฝีปากเด่น ในรายการ 'Alone Twogether' เวลา 22.00 - 23.00 น. เริ่ม 2 ตุลาคม นี้

>> เสาร์ - อาทิตย์ (ช่วงเช้า)
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีอีกหลากหลายรายการข่าว และสาระน่ารู้ จากทีมงานคุณภาพของสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES และบุคคลสำคัญอีกมากมาย ที่มาร่วมคัดสรรคอนเทนต์ดีๆ เสิร์ฟให้ผู้ชมช่วงวันเสาร์ - อาทิตย์ ได้อิ่มเอมแบบครบรส ดังนี้...

- ช่วงเช้าวันเสาร์ กับ แขกรับเชิญสุดพิเศษในแวดวงธุรกิจ ที่จะมีร่วมถ่ายทอดเรื่องราวทางธุรกิจและกลยุทธ์การต่อยอดความสำเร็จในอนาคต ผ่านรายการ 'THE TOMORROW' โดยคุณวสันต์ มนต์ประเสริฐ นักจัดรายการวิทยุหนุ่มเสียงนุ่ม ทุกวันเสาร์ เวลา 07.00 - 08.00 น.

- ช่วงเช้าวันอาทิตย์ เวลา 07.00 - 08.00 น. พบกับรายการ 'EASY ECON' โดยได้รับเกียรติจาก คุณพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์ฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น มอบปริญญาดุษฏีบัณฑิตให้, อดีตปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา และอดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง นำเรื่องดีๆ ของประเทศไทย ด้านเศรษฐกิจ, การเงิน, การท่องเที่ยว และอีกหลากหลายศาสตร์ดีๆ ที่น่ารู้ มาเล่าสู่คุณผู้ฟังเคียงคู่ไปกับผู้ดำเนินรายการจาก ‘กิจการวิทยุกระจายเสียงทหารเรือ'

>> เสาร์ - อาทิตย์ (ช่วงเที่ยง)
นอกจากนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ทาง THE STATES TIMES ยังได้จูงมือเหล่าน้องๆ New Generation ที่อยากมาร่วมวงแบ่งปันคอนเทนต์สไตล์คนรุ่นใหม่ มาโชว์ของผ่านรายการใสๆ ที่ดูไปอมยิ้มไป ได้แก่...

- 'จีนเนอเรชัน' ข่าวน่ารู้ที่อยู่ในรั้วกำแพงเมืองจีน แต่ถูก 2 เด็กซน 'น้องเพชร เจษฎา สุขารมย์' และ 'น้องแป้ง ณัฐธยาน์ ผลดี' แอบไปปีนส่อง แล้วเก็บมาเล่า ทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 - 13.00 น.

-  ปิดท้ายวันอาทิตย์ ช่วง 12.00 - 13.00 น. กับ 'Y WORLD' รอบโลกน่ารู้ กับ 'น้องอ้อน' สาวหมวย รวยไลฟ์สไตล์ ที่พร้อม Shine เรื่องเด่นและอินเทรนด์ในโลกที่คน GEN Y พลาดแล้วจะเสียดาย

ทั้งหมดที่กล่าวมา พร้อมเสิร์ฟสู่ 'ผู้ชม-ผู้ฟัง' ทันที 18 กันยายน นี้ ... ร่วม "ไปกับข่าวไปกับเรา" ทางสำนักข่าวออนไลน์ THE STATES TIMES, เครือข่ายวิทยุ KCS RADIO และ ช่องทีวีดาวเทียม MAYA Channel

States TOON EP.143

ไบโพลาร์!!

***สงวนลิขสิทธิ์ภาพดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียนแบบ ดัดแปลง หรือนำส่วนใดส่วนหนึ่งไปใช้ แต่อนุญาตให้นำไปเผยแพร่ต่อได้ ตามต้นฉบับนี้ โดยไม่ต้องขออนุญาต***

 

 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top