Saturday, 10 May 2025
TheStatesTimes

‘เศรษฐา’ ลั่น!! ยาบ้าต้องหมดในรัฐบาลนี้ ตั้งเป้าลดลงใน 1 ปี ยกเป็นวาระแห่งชาติ พร้อมผนึกกำลังถกแผนปราบปรามเร่งด่วน

นายกฯ ประกาศขจัดวงจรยาเสพติดเป็น ‘วาระแห่งชาติ’ ผนึกกำลังถกแผนเร่งด่วน พร้อมเป็นประธานเผาทำลายยาเสพติดของกลางกว่า 25 ตัน ลั่น!! ยาบ้าต้องหมดในรัฐบาลนี้ ตั้งเป้า 1 ปี ต้องลดลง ชี้!! ผู้ค้าต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด คนเหล่านี้เป็นอาชญากร ไม่กลัวคุก จี้เร่งยึดทรัพย์ ก่อนถ่ายโอน ตัดวงจรค้าซ้ำ

(17 ก.ย. 66) ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายพรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม, นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และหัวหน้าหน่วยราชการจากกระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมประชุม

โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการประชุมว่า เป็นที่ทราบกันดีว่านอกจากปัญหาเรื่องปากท้อง ปัญหายาเสพติดแพร่กระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้าทั่วประเทศไทย ช่วงที่พรรคร่วมรัฐบาลได้ลงพื้นที่หาเสียง เป็นที่ประจักษ์ดีว่านอกจากปัญหาปากท้อง ปัญหายาเสพติดถือเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งตนคิดว่าทุกพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ที่ออกไปหาเสียงก็เห็นด้วยว่าเป็นเรื่องใหญ่เช่นเดียวกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลให้คำมั่นว่าจะเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีตนในฐานะนายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะ และเป็นประธาน ในการทำให้ปัญหาเหล่านี้ในระยะอันใกล้ลดน้อยลง และหมดไปในที่สุด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย ที่ต้องรักษา และดูแลส่งคืนคนเหล่านี้กลับคืนอ้อมกอดของพ่อแม่ ให้มีอาชีพที่เหมาะสม รวมถึงการป้องกันที่ต้นน้ำด้วยว่าไม่ให้เขาไปเสพ เราจะมีมาตรการทำกันอย่างไร

ส่วนระยะสุดท้าย เมื่อมีการยึดยาเสพติดของกลางมาแล้ว จะต้องมีการกระชับเวลาในการทำลายให้สั้นลง รวมถึงเรื่องของระยะเวลาการยึดทรัพย์ เพราะหากใช้เวลานานจะทำให้ผู้ผลิตมีต้นทุนที่แข็งแกร่งสามารถกลับมาผลิตยาเสพติดได้อีก ตลอดจนจะต้องมีมาตรการในการป้องกัน การลักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้ามาในประเทศ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ถึงอย่างไรก็ต้องมีจุดเริ่มต้น และขอให้วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการขจัดปัญหาออกจากสังคมไทย

จากนั้น ที่บริษัท อัคคีปราการ จำกัด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ได้เป็นประธาน ในพิธีเผาทำลายยาเสพติดของกลาง โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) หัวหน้าส่วนราชการ จากการประชุมขับเคลื่อนการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด ร่วมในพิธี พร้อมด้วยนายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรม ประชาชน จากหมู่บ้าน/ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน เข้าร่วมกว่า 200 ราย ร่วมเป็นสักขีพยานในการเผาทำลายยาเสพติดครั้งนี้ โดยเป็นการทำลายของกลางยาเสพติดของกลางจากคดียาเสพติดจำนวน 100 คดี เป็น ยาบ้า 12,522 กก. ไอซ์ 11,656 กก. เฮโรอีน 418 กก. ฝิ่น 179 กก. คีตามีน 704 กก. และสารเสพติดอื่นๆ น้ำหนักรวม 25,517 กก.

ซึ่งทำลายโดยการเผาไหม้ด้วยระบบเตาเผาอุณหภูมิสูง 2 ชุด เผาไหม้ที่ 800 - 1,200 องศาเซลเซียส ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง พร้อมระบบควบคุมมลพิษอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถทำลายได้หมดสิ้น และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และประชาชน

โดย นายกฯ ระบุ ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาเรื้อรัง ทุกครั้งที่ตกลงคุณพี่ใจรับข้อร้องเรียนจากประชาชนตลอด ทำให้สถาบันครอบครัวอ่อนแอ รัฐบาลมีนโยบาย ทั้งปราบปรามและบำบัด  ผู้ที่ติดยาเสพติดไม่ใช่คนร้าย แต่เป็นผู้ป่วย ฉะนั้นต้องช่วยรักษา พากลับมาเป็นพลเมือง และลูกที่ดีของครอบครัวอีกครั้ง และจะต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วม ขอให้หน่วยงานทำงานใกล้ชิดกับประชาชน

“ผู้ค้าต้องถูกจัดการอย่างเด็ดขาด คนเหล่านี้เป็นอาชญากร ที่ไม่ควรติดคุกติดตะราง แต่พวกเขากลัวที่สุดคือการถูกยึดทรัพย์ที่ได้มา ขอให้หน่วยงาน เร่งดำเนินการยึดทรัพย์ให้เร็วที่สุด อย่าให้เกิดการโอนถ่ายได้ง่าย ในฐานะนายกรัฐมนตรี ตนขอเป็นประธาน ในการผนึกกำลังทุกหน่วยงาน และประชาชน แก้ไขปัญหา และจะติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยจะปฏิบัติงานอย่างมีนิติธรรมนิติรัฐ ให้ประชาชนอยากทำงานร่วมกับรัฐฯ และรู้สึกปลอดภัยที่จะแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่

รัฐบาลนี้เอาจริง ผมตั้งเป้าที่ชัดเจนให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปัญหาจะต้องลดลงให้ได้ภายใน 1 ปี ในรัฐบาลนี้จะต้องทำยาบ้าหมดไปให้ได้ ตนจะนำมาทำลายให้หมด เหมือนที่ทุกคนจะได้เห็นในวันนี้” นายกฯ กล่าวทิ้งท้าย

‘โต้ง ทูพี’ ควง ‘พลอย เฌอมาลย์’ ดินเนอร์หวานวันเกิด พร้อมคำอวยพรบอกรักหวานหยด สยบข่าวลือรักสะดุด

(17 ก.ย. 66) หลังจากที่หลายคนจับตาความรักระหว่างแร็พเปอร์ชื่อดัง โต้ง ทูพี กับ พลอย เฌอมาลย์ แฟนสาวรุ่นพี่ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 41 ปี ของสาวพลอย พบว่าหวานใจ หนุ่มโต้ง ลงไอจีสตอรี่รัวๆ อวยพรวันเกิดแฟนสาว แถมยังมีภาพคู่หวาน พร้อมคำอวยพรบอกรักด้วย

ก่อนที่ต่อมา สาวพลอย จะลงสตอรี่ตัดพ้อ ระบุว่า…

“เพิ่งรู้ว่าตั้งแต่เกิดมา พลอยไม่มีสิทธิ์ง่วง” และ “พลอย = ทำอะไรก็ผิดก่อน”

ขณะที่สตอรี่ของฝ่ายชายที่ลงคลิปอวยพรวันเกิดไว้ก็หายหมด รวมทั้งภาพคู่กับคำอวยพรก็ไม่มีแล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าลบทิ้งหรือซ่อนไว้ ทำเอาหลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับทั้งคู่ หรือว่าความรักที่เพิ่งเริ่มต้นไม่นานจะสะดุดซะแล้ว

ล่าสุดวันที่ 16 ก.ย. หนุ่มโต้ง ได้ออกมาโพสต์คลิปและภาพฉลองดินเนอร์หวานเจี๊ยบกับแฟนสาว พลอย เฌอมาลย์ ผ่านทางไอจีส่วนตัว พร้อมเขียนแคปชันเอาไว้ว่า…

“Birthday dinner treat at her fav. @chermarn HBD again lol”

ซึ่ง พลอย ก็ยังได้เข้ามาคอมเมนต์อีกว่า “รักมากเลยคับ” เรียกว่าสยบข่าวลือรักสะดุดกันเลยทีเดียว

‘รองฯ อ้วน’ สาธิตผัดข้าวกะเพรา กลางงาน CAEXPO 2023 ย้ำ!! รัฐฯ หนุนเอสเอ็มอีเต็มที่ ดันสินค้าท้องถิ่นไทยสู้ตลาดโลก

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 66 ที่นครหนานหนิง ประเทศจีน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ใช้โอกาสในการนำคณะผู้บริหารระดับสูง เดินทางเยือนเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ระหว่างวันที่ 15-18 กันยายน 2566 เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน หรือ ‘China–ASEAN Expo’ (CAEXPO 2023) ครั้งที่ 20 ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมระหว่างประเทศนครหนานหนิง (Nanning International Convention & Exhibition Center) นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ประเทศจีน

โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 66 เข้าพบปะหารือกับผู้ประกอบการไทยที่มาออกบูธในงาน CAEXPO จำนวน 76 รายใน 4 กลุ่มสินค้า ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มแฟชั่นและเครื่องประดับ กลุ่มสุขภาพและความงาม และกลุ่มของใช้ในครัวเรือนและของตกแต่งบ้าน โดยพบว่า ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริม SMEs และได้ยืนยันกับผู้ประกอบการว่า จะเพิ่มความเข้มข้นในการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้เพิ่มมากขึ้นต่อไป

ทั้งนี้ ยังได้ใช้โอกาสนี้ เข้าเยี่ยมชมคูหาส่งเสริมข้าวไทย และสาธิตการทำเมนูผัดกะเพราหมู ซึ่งมั่นใจว่าข้าวไทย จะได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อ ผู้นำเข้าชาวจีน และผู้เข้าเยี่ยมชมงานจากประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ ยังได้เยี่ยมชมศูนย์แสดงสินค้าดีเด่นจีน-อาเซียน หรือ China ASEAN Merchantile Exchange (CAMEX หรือ คาเม็กซ์) เป็นโครงการสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าจีน – อาเซียนภายใต้กรอบความร่วมมือ ‘One Belt One Road’ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐทางเขตกว่างซี ลงทุนก่อตั้งและบริหารจัดการโดยบริษัทสิงคโปร์ CSILP (China-Singapore Nanning International Logistic Park) เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 โดยมั่นใจว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการกระจายสินค้าจากไทยและอาเชียนเข้าสู่ตลาดจีนได้เพิ่มขึ้น โดยจะมีการเชื่อมโยงการทำงานระหว่างทูตพาณิชย์ พาณิชย์จังหวัด กับผู้ประกอบการในการนำสินค้ามาจำหน่ายต่อไป

ปัจจุบันมีสินค้าจากประเทศไทยจัดแสดงอยู่ในศูนย์ CAMEX จำนวน 18 บริษัท โดยเป็นสินค้าประเภทอาหาร เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ยางพารา อาทิ ข้าวเหนียวมะม่วง จาก จ.ตาก หมอนยางพารา จาก จ.อุตรดิตถ์ เป็นต้น

ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ เมืองหนานหนิง ได้บูรณาการร่วมกันกับพาณิชย์จังหวัดต่างๆ ในการส่งเสริมและผลักดันสินค้าโดดเด่นจากท้องถิ่นเข้าร่วมจัดแสดงในศูนย์ฯ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นโอกาสสำคัญของ SMEs ไทยในการบุกตลาดจีนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม ขณะเยี่ยมชมคูหา Thailand Pavilion ในงาน China ASEAN Expo ได้สาธิตทำข้าวผัดกะเพรา เพื่อให้คนร่วมงานได้ชิม หนึ่งในการโปรโมตข้าวไทยและสมุนไพรไทย

‘ชวน-นิพนธ์’ มอบเงินช่วยเหลือ-ตามติดการเยียวยาชาวมูโนะ วอนหน่วยงานเกี่ยวข้อง ช่วยเหลืออย่าง ‘เป็นธรรม-ทั่วถึง’

(17 ก.ย. 66) นายชวน หลีกภัย สส.พรรคประชาธิปัตย์, นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรประชาธิปัตย์, นายก อบต.มูโนะ, กำนันตำบลมูโนะ, นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก และฝ่ายปกครอง ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุโกดังพลุระเบิด และโรงเรียนบ้านมูโนะ ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามความคืบหน้าเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาและเยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบ

นายนิพนธ์ กล่าวว่า วันนี้ได้มาติดตามความคืบหน้าในการดูแลแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องชาวมูโนะ และให้กำลังใจ หลังจากที่ได้ลงมาก่อนหน้านี้ พรรคประชาธิปัตย์ โดยมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้นำเงินมาเยียวยาและมอบผ่านไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ซึ่งบัดนี้ระยะเวลาผ่านไปพอสมควร และจากการสอบถามจากท่านนายก อบต. และท่านกำนัน ทราบว่าหลังจากนี้จะต้องมีการติดตามการดูแลเยียวยาให้ทั่วถึงทุกกลุ่ม และดูแลเกณฑ์ที่ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะต้องเป็นอย่างรวดเร็ว

นายนิพนธ์ ยังกล่าวอีกว่า เราต้องมองวิกฤตเป็นโอกาส โดยการเปลี่ยนพื้นที่นี้ให้เป็นศูนย์กลางการค้าการขายของมูโนะ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ของมูโนะ จัดวางผังรองรับความเจริญ พร้อมทั้งการจัดการป้องกันน้ำท่วมไปด้วยในคราวเดียวกันเนื่องจากพื้นที่นี้เป็นพื้นที่น้ำท่วมทุกปี

ด้านนายชวน หลีกภัย ได้กล่าวถึงการช่วยเหลือตั้งแต่เกิดเหตุ ว่า ได้ติดตามและขอบคุณในการช่วยเหลือจากทุกระดับที่ลงมาในพื้นที่ทั้งท้องถิ่นและดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย

จากนั้น นายชวน หลีกภัย และคณะได้เดินทางไปยังโรงเรียนบ้านโนะ ซึ่งได้รับผลกระทบจากพลุระเบิดเช่นเดียวกัน โดยได้มอบเงินจากมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ให้กับ ผอ.โรงเรียน จำนวน 20,000 บาท และมอบให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิตซึ่งผู้เสียชีวิตนั้นเป็นอดีตกรรมการสาขาพรรคประชาธิปัตย์ อีก 20,000 บาท รวมจำนวนเงินที่มอบให้ทั้งสิ้น 230,000 บาท

‘รมว.ดีอีเอส’ เล็งดัน ‘Digital Nomad Visa’ ขับเคลื่อนศก. หวังดึงดูดกลุ่มแรงงาน ขยายการรองรับอุตสาหกรรมดิจิทัล

(17 ก.ย. 66) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผย หลังการลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับประชาชน ร่วมกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยได้รับข้อมูลจากคนในท้องถิ่นว่า ปัจจุบันมีกลุ่มบุคคลที่หาเลี้ยงชีพด้วยธุรกิจออนไลน์ (Digital Nomad) ที่ทำงานในจังหวัดเชียงใหม่มากกว่า 5-6 พันคน ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่จำนวนมาก จึงขอให้นายกรัฐมนตรี สนับสนุนให้มีการขยายตัวกลุ่ม Digital Nomad เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและสร้างแรงจูงใจในการเข้ามาทำงาน ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีได้รับปากว่าจะรีบพิจารณาข้อเสนอดังกล่าว

นายประเสริฐ กล่าวว่า Digital Nomad Visa จะเป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจ และสามารถขยายผล ในวงกว้างให้กับจังหวัดอื่น ๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมดิจิทัล โดยทางดีอีเอสจะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบาย Digital Nomad หรือ ‘Remote Worker’ โดยเฉพาะด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ในการดึงดูดแรงงานขั้นสูง และกำลังคนดิจิทัลสาขาขาดแคลน

“ทั้งนี้ จะทำการดึงนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย Top 600 ระดับโลกก่อน และเชื่อว่ามาตรการนี้ จะส่งผลประโยชน์กับทางจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทยโดยรวมอย่างแน่นอน” รมว.ดีอีเอส กล่าว

‘บังกลาเทศ’ ทดลองวิ่งรถไฟสินค้าบนสะพานฝีมือ ‘จีน’ ตอกย้ำความสำเร็จโครงการ ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 66 สำนักข่าวซินหัว, ธากา รายงานว่า บังกลาเทศประสบความสำเร็จในการทดลองเดินรถไฟสินค้าบนช่วงหนึ่งของทางรถไฟ ที่ก่อสร้างภายใต้แผนริเริ่ม ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ (BRI) และบนสะพานปัทมา ซึ่งเป็นสะพานขนาดใหญ่ที่สุดในบังกลาเทศที่ก่อสร้างโดยจีน

‘ซัยยิด อาเหม็ด’ ผู้อำนวยการโครงการทางรถไฟฟาริดปูร์ของการรถไฟบังกลาเทศ แถลงข่าวว่ารถไฟพร้อมตู้สินค้า 5 ตู้ บรรทุกก้อนหินหนัก 350 ตัน ทดลองวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากสถานีบังกาของเขตฟาริดปูร์ในช่วงเช้าวันเสาร์ (16 ก.ย.) ถึงสถานีมาวา และวิ่งกลับสถานีบังกา

เมื่อสัปดาห์ก่อน รัฐบาลบังกลาเทศเปิดตัวรถไฟโดยสารขบวนแรกสำหรับช่วงหนึ่งของทางรถไฟสายใหม่นี้ โดยทางรถไฟยาว 172 กิโลเมตรเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่สุดที่ก่อสร้างโดยบริษัท ไชน่า เรลเวย์ กรุ๊ป ลิมิเต็ด (CREC) และรับทุนจากธนาคาร เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศจีน (China Exim Bank)

'พงศ์พล' ไม่ติด 'รองอ๋อง' เบิก 1.3 ล้านบาททัวร์สิงคโปร์ แค่ถาม "นอนหลับสบายดีมั้ย บนภาระภาษีพี่น้องคนไทย?"

(18 ก.ย. 66) นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ โฆษก พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ 'หรูหราภาษีหลวง' ระบุว่า ...

ท่านรองจองที่พัก '12,500 ต่อคืน'

ตามเอกสารส่งสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนฯ วันที่ 11 ก.ย. 66 ... ปรากฏการเบิกงบทั้งสิ้น 1.3 ล้านบาท เพื่อให้รองประธานสภา และ สส. 6 คน ไปดูงานสิงคโปร์ ในเรื่องที่ไม่มีวาระเร่งด่วนอย่างใด เช่น ดูระบบสารสนเทศ ส่องระบบแรงงาน ชมสิ่งแวดล้อมสิงคโปร์ ... เอาง่ายๆ ก็คือ ไปเที่ยว

เอาล่ะไม่เป็นไร เค้าอาจจะอยากพักผ่อนสันทนาการ ตามประสานักการเมืองใหญ่ ... จุดสำคัญที่ผิดสังเกต และเพิกเฉยไม่ได้คือ ค่าใช้จ่ายเกินจริงของทริป เช่น...

>> ที่พักหรู 4 คืน "คืนละ 1.25 หมื่น" รวมเป็น 5หมื่นบาทต่อคน
ทั้งๆ ที่โรงแรมคืนละ 1-2 พัน ก็อยู่ได้สบายใจกลางเมืองสิงคโปร์
เงินจำนวนนี้คนไทยทั่วไปไม่มีฐานะ เค้าสามารถเช่าที่ซุกหัวนอนได้ทั้งปี

>> ตั๋วเครื่องบินหรู 51,250 บาท ต่อคน
ทั้งที่บินไปใกล้ๆ แค่สิงคโปร์ ราคาตั๋วธรรมดาทั่วไปอยู่ที่ 4 พัน
(คนทั่วไปสามารถบินไปกลับ ได้เป็น 10 รอบ)

นี่คือความเท่าเทียมแบบไหน ... พูลวิลล่า ปาร์ตี้ จิบไวน์พรีเมี่ยมบนเครื่องบิน วิวดีที่เซ็นโตซ่า 

พวกคุณนอนหลับสบายดีมั้ย ... บนภาระภาษีพี่น้องคนไทย?

‘NARIT’ โชว์ภาพ ‘ดาวศุกร์’ ช่วงเช้าก่อนรุ่งสาง สว่างที่สุดเป็นครั้งที่ 2 และครั้งสุดท้ายในรอบปีนี้

(18 ก.ย.66) เพจ NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า…

ดาวศุกร์ หรือ ดาวประกายพรึก รุ่งเช้าวันนี้ครับ สวยงามและสว่างมาก 18 กันยายน 2566 ช่วงเช้าก่อนรุ่งสาง ดาวศุกร์ ปรากฏสว่างที่สุดครั้งที่ 2 และเป็นครั้งสุดท้ายในรอบปีนี้ ทางใต้ฟ้าดี #ทีมสงขลา เก็บภาพมาให้ชมกันครับ สว่างสวยงามมากกก ในขณะที่หลายพื้นที่มีฝนตกอย่างต่อเนื่องเลย ที่ไหนมองเห็นบ้างครับมาแชร์กันได้

ดาวศุกร์สว่างที่สุด (The Greatest Brilliancy) เป็นช่วงที่ดาวศุกร์มีขนาดเสี้ยวค่อนข้างใหญ่ และโคจรห่างจากโลกในระยะที่เหมาะสม อาจมีค่าอันดับความสว่างปรากฏมากถึง -4.6 (ดวงจันทร์เต็มดวง มีค่าอันดับความสว่างปรากฏ -12) หากสังเกตผ่านกล้องโทรทรรศน์ดาวศุกร์จะปรากฏเป็นเสี้ยวคล้ายดวงจันทร์ สำหรับในช่วงวันอื่น ๆ แม้ดาวศุกร์จะมีเสี้ยวที่หนากว่า แต่ด้วยตำแหน่งที่อยู่ห่างจากโลก และขนาดปรากฏที่ลดลง ความสว่างจึงลดลงตามไปด้วย

หากดาวศุกร์ปรากฏบนฟ้าในช่วงหัวค่ำทางทิศตะวันตก หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า คนไทยจะเรียกว่า ‘ดาวประจำเมือง’ แต่หากดาวศุกร์ปรากฏในช่วงเช้ามืดทางทิศตะวันออก ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นคนไทยจะเรียกว่า ‘ดาวประกายพรึก’

ปรากฏการณ์ดาวศุกร์สว่างที่สุดครั้งถัดไป จะเกิดขึ้นในช่วงค่ำวันที่ 10 มกราคม 2568 ทางทิศตะวันตก หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า

อัยการสั่งฟ้อง ‘ฌอน บูรณะหิรัญ’ ฐานฉ้อโกงประชาชน  ปมเปิดรับบริจาคเงิน เพื่อช่วยดับไฟป่าเชียงใหม่

เชื่อว่าใครหลายคนคงจำดรามา นายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง ที่ได้เปิดรับบริจาคเงินเพื่อนำไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าที่เชียงใหม่ ต่อมา ทางเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์ข้อความเป็นจดหมายเปิดผนึกจากหนุ่มที่อ้างตัวว่าเป็นทีมอาสาร่วมดับไฟป่าที่เชียงใหม่ โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ไม่เคยได้รับสิ่งของ หรือเงินช่วยเหลือจากฌอนเลย

แม้ล่าสุด นายฌอน โพสต์ชี้แจงในเพจเฟซบุ๊ก Sean Buranahiran - ฌอน บูรณะหิรัญ (Sean B. Hiran) ของตนแล้วก็ตาม

ล่าสุดเพจ ‘CSI LA’ โพสต์ข้อความระบุว่า

“และแล้ววันนี้ก็มาถึง

อัยการศาลนนทบุรีสั่งฟ้องฌอน ข้อหาฉ้อโกงประชาชน โกงเงินบริจาค ผู้เสียหายที่ทางเพจได้รวมกลุ่มไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ทุกคนได้รับหนังสือจากศาลและพร้อมที่จะไปเป็นพยานทุกคน”

โดยในเอกสารที่ทางเพจ ออกมาเปิดเผย ได้นัดผู้เสียหายเป็นพยานในวันที่ 10 ตุลาคม เวลา 13.30 น. นี้

หลังจากโพสต์ไปไม่นาน มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

'ศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน' รับรางวัล 'อัลบี อวอร์ด'  หลังช่วยผู้ถูกดำเนินคดีเรียกร้องประชาธิปไตยในไทย

เมื่อไม่นานมานี้ มูลนิธิคลูนีย์เพื่อความยุติธรรม (Clooney Foundation for Justice - CFJ) มอบรางวัล ‘อัลบี อวอร์ด’ สาขาผู้ปกป้องประชาธิปไตย ให้แก่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จากการช่วยเหลือผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองจากการแสดงออกและเรียกร้องประชาธิปไตยในไทย

ข้อมูลจากหน้าแถลงข่าวของมูลนิธิเมื่อ 14 สิงหาคม ระบุว่า ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (ศูนย์ทนายฯ) องค์กรภาคประชาสังคมในประเทศไทย ได้รับรางวัลเนื่องจาก “การคุ้มครองนักเรียน นักศึกษา นักกิจกรรมและสื่อมวลชนเป็นพันรายที่ถูกจับกุมภายใต้กฎหมายของไทย ที่ทำให้การชุมนุมและการพูดโดยสันติเป็นอาชญากรรม”

มูลนิธิ CFJ ที่ตั้งขึ้นโดยอามัล คลูนีย์ ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนและจอร์จ คลูนีย์ ดาราดังชาวอเมริกันผู้เป็นสามี มอบรางวัลอัลบีเป็นปีที่สอง รางวัลดังกล่าวตั้งขึ้นตามชื่อของอัลบี แซกส์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทในการทำให้การแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้สิ้นสุดลง โดยรางวัลอัลบีส์นั้นมีขึ้นเพื่อให้ความสำคัญแก่ผู้ที่เสี่ยงภัยและอุทิศชีวิตให้กับความยุติธรรม

อามัล และจอร์จ คลูนีย์กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ผู้ปกป้องความยุติธรรมอย่างกล้าหาญทั่วโลก ต่างเผชิญกับภัยอันตรายอย่างใหญ่หลวงที่ไม่สามารถขจัดได้ภายในชั่วข้ามคืน แต่สิ่งที่พวกเราสามารถทำได้ นอกเหนือไปจากงานรายวันของมูลนิธิ ก็คือการฉายสปอตไลท์ไปยังภัยอันตรายที่บุคคลเหล่านี้กำลังพบเจอ เพื่อเพิ่มเดิมพันต่อตัวผู้คุกคาม”

นอกจากศูนย์ทนายฯ แล้ว ผู้ได้รับรางวัลอัลบีครั้งที่สอง ได้แก่ ดร.เดนิส มุคเวเก นรีแพทย์ที่มีบทบาทช่วยชีวิตเหยื่อ และหยุดยั้งการใช้การข่มขืนเป็นเครื่องมือในสงครามในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก นิลูฟาร์ ฮาเมดี และเอลาเฮ โมฮาเมดี นักข่าวอิหร่านที่เปิดเรื่องราวการเสียชีวิตของ มาห์ซา อะมินี ที่นำไปสู่การประท้วงใหญ่ในอิหร่านเมื่อปี 2022 องค์กร Truth Hounds ที่มีบทบาทในการเปิดเผยอาชญากรรมสงครามในยูเครนจากการรุกรานของรัสเซีย และองค์กร Syrian Center for Media and Freedom of Expression สำหรับการรณรงค์ด้านสิทธิและเสรีภาพในประเทศซีเรีย

ทั้งนี้ ศูนย์ทนายฯ ก่อตั้งขึ้นไม่กี่วันหลังผู้นำเหล่าทัพและฝ่ายความมั่นคง ใช้กำลังยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนที่นำโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในเดือนพฤษภาคม 2014 และมีการเรียกบุคคลไปรายงานตัว จับกุม คุมขัง และนำประชาชนขึ้นไต่สวนบนศาลทหาร โดยศูนย์ทนายฯ ทำหน้าที่บันทึกข้อมูลการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทย ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้ได้รับผลกระทบ และเผยแพร่ความรู้เรื่องกฎหมายและการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

ข้อมูลจากศูนย์ทนายฯ บันทึกว่า นับตั้งแต่การชุมนุมที่เรียกร้องการปฏิรูปการเมืองและปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์เมื่อปี 2020 จนถึงเดือนสิงหาคม 2023 มีประชาชนถูกดำเนินคดีจากสถานการณ์ชุมนุมและแสดงความเห็นทางการเมืองแล้วอย่างน้อย 1,925 คน ในจำนวนดังกล่าวมี 257 คนที่ถูกดำเนินคดีโดยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

สำหรับกำหนดการรับรางวัลจะมีขึ้น ที่ห้องสมุดสาธารณะ นครนิวยอร์ก ในเดือนกันยายนนี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top