Friday, 16 May 2025
NewsFeed

สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม โล่ประกาศกิตติคุณ คนดีของแผ่นดิน 

สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม มอบโล่ประกาศกิตติคุณ 99 ท่าน ยกย่องเป็นคนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2567

(5 มี.ค.68) สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม ร่วมกับ มูลนิธิทำความดีเพื่อความดี และสมาคมภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาล พร้อมด้วย 10 องค์กรสื่อ จัดงานมอบโล่ประกาศกิตติคุณ ภายใต้โครงการ 'คนดีของแผ่นดิน' ประจำปี 2567 ให้กับบุคคล องค์กรภาครัฐและเอกชน ที่ทำความดีในด้านต่างๆ โดยมี พล.อ.กิตติ รัตนฉายา และพล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ ร่วมเป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศกิตติคุณ 'คนดีของแผ่นดิน' ประจำปี 2567 พร้อมกล่าวให้โอวาท และแสดงความยินดีแก่ผู้ได้รับโล่กิตติคุณในครั้งนี้

นายอภิรัฐ กุนกันไชย นายกสมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม กล่าวว่า สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนส่งเสริมบุคคล องค์กรภาครัฐและเอกชนในการดำเนินกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคม ด้วยการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางเผยแพร่ของทางสมาคมอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2567

โครงการ 'คนดีของแผ่นดิน' ประจำปี 25667 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชิดชูเกียรติแก่ บุคคล หรือองค์กร ซึ่งทำความดี ด้านต่างๆ ในช่วงปี 2567 เพื่อให้ ประชาชนและสังคม ได้รับรู้ ถึงบุคคล หรือองค์กร ซึ่งทำความดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมอบโล่ประกาศกิตติคุณ และการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสารเพื่อ กระตุ้นบุคคลหรือองค์กร ให้ทำความดี และเป็นคนดีของแผ่นดิน อย่างภาคภูมิใจ และ เพื่อทำตามมติ คณะกรรมการสมาคม และ วัตถุประสงค์ ของ สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม

สำหรับบุคคลและองค์กร ที่ควรแก่การยกย่อง ให้เป็น 'คนดีของแผ่นดิน' โดยมีคุณสมบัติ 3 ประการ ได้แก่ 
1. เป็นผู้มีความคิด และการกระทำที่สร้างสรรค์ 
2. เป็นผู้มีธรรมาภิบาล
3. เป็นผู้ทำความดีเพื่อความดีอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ประจักษ์

ซึ่งในครั้งนี้ สามารถสรรหา บุคคลหรือองค์กร ควรแก่การยกย่อง เป็นคนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2567 ได้ จำนวน 99 ท่าน โดยมี  ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ท่านสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการคดีอาญา ว่าที่พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ สว. ชัชวาลล์ คงอุดม ทิน โชคกมลกิจ เปรมสุดา สันติวัฒนา ศิริ สาระผล ณพล บริบูรณ์ นภชนก เหมือนนามอญ ที่ปรึกษาสุทิสา สุโข คุณแม่ อำไพร สงค์สุข คุณพ่อ นิมิต สงค์สุข คุณนริศรา สงค์สุข นางสาวปิยนุช พาณิชย์พิศาล เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ คนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2568 ครั้งนี้ด้วย

ปูติน ยกย่องการขยายความสัมพันธ์กับ ‘เมียนมา’ ขอบคุณที่มอบช้าง 6 เชือก เตรียมช่วยสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

(6 มี.ค. 68) วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ชื่นชมความสัมพันธ์ที่ขยายใหญ่ขึ้นกับเมียนมา ซึ่งเป็นพันธมิตรในการเจรจากับหัวหน้าคณะทหารในวันอังคารที่ผ่านมา และขอบคุณเมียนมาที่มอบช้าง 6 เชือกให้กับมอสโก

ก่อนหน้านี้ รัสเซียส่งมอบเครื่องบินรบ 6 ลำให้กับเมียนมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ 'การทูตช้าง' (Elephant Diplomacy) ระหว่างสองรัฐบาล ท่ามกลางการโดดเดี่ยวจากโลกตะวันตก หลังจากที่กองทัพเมียนมาทำรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนของนาง ออง ซาน ซู จี ในปี 2021 จนนำไปสู่การลุกฮือของฝ่ายต่อต้าน และเกิดสงครามกลางเมือง

“ปีนี้ เราเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี การลงนามปฏิญญาเกี่ยวกับรากฐานมิตรภาพระหว่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเราพัฒนาอย่างต่อเนื่อง” ปูติน กล่าวกับพลเอกอาวุโส มิน ออง หล่าย นายกรัฐมนตรีเมียนมา ในการประชุมที่เครมลิน

ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กในเมียนมา โดย บริษัท โรซาตอม (Rosatom) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานนิวเคลียร์ของรัฐของรัสเซีย กล่าวว่า โรงไฟฟ้าดังกล่าวจะมีกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ และมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็น 3 เท่า

นอกจากนี้ ปูตินยังประกาศว่าหน่วยทหารจากเมียนมาจะเข้าร่วมขบวนพาเหรดทางทหารที่กรุงมอสโกในวันที่ 9 พฤษภาคม นี้ ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 80 ปี แห่งชัยชนะเหนือนาซีเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเขากล่าวว่า มิน ออง หล่าย จะเข้าร่วมขบวนพาเหรดนี้ เช่นเดียวกับจีน

‘ดร.อานนท์’ เล่าชะตากรรมเหยื่อถูกปั่นให้ล้มเจ้า 4 กลุ่ม สุดท้ายเดียวดายหน้าบัลลังก์ ทั้งติดคุก - หนีคดี - ก้มกราบสารภาพ

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Arnond Sakworawich ว่า ชีวิตของเยาวชนและคนล้มเจ้า 4 กลุ่ม

ผมเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญคดีมาตรา 112 นับร้อยคดี ไปศาลมาเยอะมาก จึงได้เห็นว่าในวันที่มีคนจ่ายเงิน มีคนยุยง มีคนเชียร์ น้อง ๆ เหล่านี้ฮึกเหิมและกร่างมากแค่ไหน ขนาดไปกร่างกันหน้าศาล ไปกร่างกันหน้าบัลลังก์ ขว้างขวดน้ำใส่บัลลังก์ศาล ผมก็ได้แต่ถอนใจในอหังการ มมังการของน้อง ๆ 

แล้วผมก็ได้เห็นวันที่น้อง ๆ เหล่านี้เดียวดายหน้าบัลลังก์ หมดฤทธิ์ หมดเดช เหี่ยว หดหู่ สลดใจ ไร้ทางสู้ วันนี้ ผมได้เห็นน้อง ๆ เหล่านี้ออกเป็นสี่กลุ่ม 

กลุ่มที่หนึ่ง ติดคุกไปแล้ว มีอานนท์ นำภา เป็นต้น วันก่อนน้อง ๆ 12 คน รวม 16 คดี ถูกพิพากษาจำคุกไปแล้ว เข้าคุกไปแล้ว ไม่รอลงอาญา ขอประกันตัว เพราะคดีอยู่ในชั้นอุทธรณ์ และชั้นฎีกา ที่จำคุกไปแล้วเพราะทำผิดซ้ำซากนั่นแหละครับ ศาลยกคำร้องทั้งหมด 16 คดี 12 คน ก็นอนในคุกกันต่อไป น้องพวกนี้คือหนีคดีไม่ทัน

กลุ่มที่สอง หนีคดี ไปเป็นสัมภเวสีต่างแดน มีเพนกวิ้น ฟอร์ด ไมค์ รุ้ง เป็นต้น ไม่แน่ใจว่าใครจ่ายเงินให้ไปใช้ชีวิตในต่างแดน จะมีอนาคตต่อไปอย่างไร แล้วคนจ่ายเงินให้ใช้จ่ายให้เท่าไหร่ และจะจ่ายไปอีกนานแค่ไหน หรือน้อง ๆ มีเงินพอจะใช้ชีวิตสบาย ๆ ในเมืองนอกไปจนตายแล้วก็ไม่ทราบ แต่ที่แน่ ๆ กลับมาเหยียบแผ่นดินไทยยากครับ 

กลุ่มที่สาม สารภาพ รอติดคุก ทุกวันนี้ผมไปศาลลดลงครับ น้อง ๆ ไปหมอบสารภาพกลางศาลกันแทบทั้งหมด จนผมไม่ได้ต้องไปเป็นพยานที่ศาลอีกแล้ว สาเหตุที่น้อง ๆ หมอบกันมาก เนื่องจากให้ความร่วมมือสารภาพยังได้ลดโทษลงไปกึ่งหนึ่งเป็นอย่างน้อย เมื่อวานก็มีอยู่คดี ของกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ อัยการโทรมาแจ้งว่าผมไม่ต้องไป ในเวลานี้กลุ่มนี้น่าจะกลุ่มใหญ่ที่สุด

กลุ่มที่สี่ ยังไม่ถูกดำเนินดดี กลุ่มนี้เกาะ ๆ คนอื่นไป ไม่ได้ลุกออกมานำจริง หรือไม่กล้าพอที่จะออกมาเอง ได้แต่ร่วมขบวนการ เป็นลูกขุนพลอยพยัก บางคนก็กลับใจได้ทัน ก็มีอยู่ แต่ไม่มากครับ

ชีวิตน้อง ๆ ทะลุวัง ทะลุแก๊ส ทะลุฟ้า รีเด็ม โมกหลวงริมน้ำ และกลุ่มล้มเจ้าอื่น ๆ ในเวลานี้เป็นเช่นนี้

ส่วนไอ้คนยุเด็ก กำลังแฮปปี้ที่ลูกชายติดทีมชาติใช่หรือไม่

ท่านสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาเข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ คนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2568

สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม มอบโล่ประกาศกิตติคุณ ยกย่องเป็นคนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2567

(5 มี.ค.68) สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม ร่วมกับ มูลนิธิทำความดีเพื่อความดี และสมาคมภาคีเครือข่ายธรรมาภิบาล พร้อมด้วย 10 องค์กรสื่อ จัดงานมอบโล่ประกาศกิตติคุณ ภายใต้โครงการ "คนดีของแผ่นดิน" ประจำปี 2567 ให้กับบุคคล องค์กรภาครัฐและเอกชน ที่ทำความดีในด้านต่างๆ โดยมี พล.อ.กิตติ รัตนฉายา และพล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ ร่วมเป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศกิตติคุณ “คนดีของแผ่นดิน" ประจำปี 2567 พร้อมกล่าวให้โอวาท และแสดงความยินดีแก่ผู้ได้รับโล่กิตติคุณในครั้งนี้โดยมีท่านสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ดร.นพดล เพิ่มพิทยา ทนายความ ที่ปรึกษา คณะอนุกรรมช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายเข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณ คนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2568 ครั้งนี้ด้วย

นายอภิรัฐ กุนกันไชย นายกสมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม กล่าวว่า สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2565 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนส่งเสริมบุคคล องค์กรภาครัฐและเอกชนในการดำเนินกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคม ด้วยการนำเสนอข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางเผยแพร่ของทางสมาคมอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2567

โครงการ "คนดีของแผ่นดิน" ประจำปี 25667 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชิดชูเกียรติแก่ บุคคล หรือองค์กร ซึ่งทำความดี ด้านต่างๆ ในช่วงปี 2567 เพื่อให้ ประชาชนและสังคม ได้รับรู้ ถึงบุคคล หรือองค์กร ซึ่งทำความดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมอบโล่ประกาศกิตติคุณ และการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสารเพื่อ กระตุ้นบุคคลหรือองค์กร ให้ทำความดี และเป็นคนดีของแผ่นดิน อย่างภาคภูมิใจ และ เพื่อทำตามมติ คณะกรรมการสมาคม และ วัตถุประสงค์ ของ สมาคมสื่อสร้างสรรค์เพื่อสังคม

สำหรับบุคคลและองค์กร ที่ควรแก่การยกย่อง ให้เป็น "คนดีของแผ่นดิน" โดยมีคุณสมบัติ 3 ประการ ได้แก่ 
1. เป็นผู้มีความคิด และการกระทำที่สร้างสรรค์ 
2. เป็นผู้มีธรรมาภิบาล
3. เป็นผู้ทำความดีเพื่อความดีอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ประจักษ์

ซึ่งในครั้งนี้ สามารถสรรหา บุคคลหรือองค์กร ควรแก่การยกย่อง เป็นคนดีของแผ่นดิน ประจำปี 2567 ได้ จำนวน 99 ท่าน

ส่องราคาน้ำมันเฉลี่ยในประเทศอาเซียนราคา ณ วันที่ 3 มี.ค.68

รายงานราคาน้ำมันเฉลี่ยในอาเซียน ประจำวันที่ 3 มีนาคม 2568 โดยราคาขายน้ำมันแต่ละประเทศ มีปัจจัยทางด้านราคา ดังนี้

1.แต่ละประเทศมีมาตรการภาษี และระบบการเก็บเงินเข้ากองทุนหรืออุดหนุนราคาพลังงานที่แตกต่างกัน

2.ในหลายประเทศเพื่อนบ้านยังมีการอุดหนุนราคากันอยู่

3. ประเทศไทยสนับสนุนการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ให้การอุดหนุนราคาโดยกองทุนน้ำมันฯ จึงทำให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ถูกกว่าเบนซิน

หมายเหตุ : ราคาและอัตราแลกเปลี่ยน (อัตรากลาง) ณ วันที่ 3 มีนาคม 2568

*ประเทศไทย อ้างอิงราคาจาก ปตท. และ บางจาก และเป็นราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95E10 ซึ่งมีสัดส่วนการใช้มากที่สุด

สามารถดูราคาย้อนหลังได้ที่ EPPO - Energy Data Visualization
หรือคลิกที่ https://public.tableau.com/app/profile/epposite/viz/EPPO_Inter_OilPrice/SUMMARYOILPRICING

‘เกษตรศาสตร์’ จับมือ ปตท.สผ. สร้างวิศวกรป้อนอุตฯ ยุคใหม่ เน้นวิจัยและพัฒนานวัตกรรมตอบโจทย์ด้านพลังงานยั่งยืน

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จับมือ ปตท.สผ. ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานของประเทศ 

เมื่อวันที่ (5 มี.ค.68) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม และ ต่อยอดไปสู่การพัฒนาหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมเครื่องกล (นานาชาติ) ของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เน้นด้าน พลังงานที่ยั่งยืน (Sustainable Energy) ที่มีทั้งเทคโนโลยีไฮโดรเจน และ คาร์บอน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างวิศวกรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพระดับสากล ตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมยุคใหม่ และการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยี 

พิธีลงนามจัดขึ้นที่ ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อาคารเอ โดยมี ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ นายนภสิทธิ์ ชัยวรรณคุปต์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานเทคโนโลยี คาร์บอนโซลูชั่นและการเติบโตอย่างยั่งยืน ปตท.สผ. เป็นตัวแทนร่วมลงนาม พร้อมด้วยผู้บริหาร คณาจารย์ ร่วมเป็นสักขีพยาน 

หลักสูตรที่ตอบโจทย์อนาคต 
หลักสูตรใหม่นี้มุ่งเน้นการพัฒนาวิศวกรที่มีความรู้และทักษะในเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ พลังงานสะอาด ไฮโดรเจนและเซลล์เชื้อเพลิง การประยุกต์ใช้ AR/VR ในงานวิศวกรรม และระบบอาคารอัจฉริยะ ตลอดจนการผสมผสานองค์ความรู้จากภาคการศึกษาและอุตสาหกรรม 

นิสิตในหลักสูตรจะได้รับโอกาสในการเรียนรู้ผ่านโครงการฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการจริง การวิจัยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ และการแลกเปลี่ยนทางวิชาการในระดับนานาชาติ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างบัณฑิตที่มีทักษะการคิดเชิงนวัตกรรม ความสามารถในการปรับตัว และทักษะการสื่อสารในระดับสากล 

ประโยชน์ของความร่วมมือ 
ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับการศึกษาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แต่ยังสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรมและการสร้างบุคลากรที่ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม 

อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวในงานว่า “หลักสูตรนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการสร้างวิศวกรที่มีศักยภาพ นวัตกรรม และพร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับประเทศ โดยความร่วมมือกับ ปตท.สผ. จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและโอกาสใหม่ๆ ให้แก่นิสิตและภาคอุตสาหกรรมในอนาคต” 

ก้าวต่อไปสู่ความสำเร็จ 
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตั้งเป้าที่จะเปิดรับนิสิตรุ่นแรกในปี 2569 และยื่นขอมาตรฐาน ABET (Accreditation Board for Engineering and Technology) ในปี 2570 เพื่อยืนยันคุณภาพหลักสูตรในระดับสากล และเตรียมความพร้อมให้นิสิตสามารถแข่งขันได้ในตลาดแรงงานทั่วโลก 

การลงนามครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของทั้งสององค์กรในการผลักดันขอบเขตความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและอุตสาหกรรมให้กว้างขึ้น และยังเป็นการเน้นย้ำบทบาทของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในฐานะผู้นำทางการศึกษาและนวัตกรรม รวมถึงบทบาทของ ปตท.สผ. ในฐานะองค์กรที่มุ่งมั่นสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่สังคมและประเทศชาติ 

นิสิตที่สนใจสมัครเข้าเรียนในหลักสูตรวิศวกรรมเครื่องกล (นานาชาติ) สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเตรียมตัวเข้าสู่การศึกษาแห่งอนาคตที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาสในการพัฒนาศักยภาพสู่ระดับโลก

‘ปิยสวัสดิ์’ โวลั่น การบินไทย มีกำไรจากการดำเนินงานดีที่สุดในโลกในไตรมาส 4 ปี 2024

(6 มี.ค. 68) ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “การบินไทย มีกำไรจากการดำเนินงานดีที่สุดในโลกในไตรมาส 4 ปี 2024 ในกลุ่มสายการบินที่มีการรายงานข้อมูลผลประกอบการ”

ทั้งนี้ การบินไทย เปิดเผยผลประกอบการปี 2567 ที่ผ่านมา มีรายได้รวม (ไม่รวมรายการพิเศษ) อยู่ที่ 187,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.7% จากปี 2566 จากอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ที่สูงถึง 84.3% และการขยายเครือข่ายเส้นทางบิน

ขณะที่ กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักต้นทุนทางการเงิน (EBIT) อยู่ที่ 41,515 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทำให้ EBIT Margin แตะระดับ 22.1% ซึ่งสูงกว่าประมาณการที่กำหนดในแผนฟื้นฟูกิจการ

อย่างไรก็ตาม การบินไทยมีผลขาดทุนทางบัญชี 26,901 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการแปลงหนี้เป็นทุน จำนวน 45,271 ล้านบาท ที่เสร็จสิ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 โดยรายการนี้ถือเป็นผลขาดทุนทางบัญชีเพียงครั้งเดียวและไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดหรือการดำเนินงานของบริษัท
 

สตูล ศรชล.จัดกิจกรรม 'มวลชนสัมพันธ์' ประจำปี 2568 เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี

เมื่อวันที่ (5 มี.ค. 68) ที่เพ็ญทิพย์รีสอร์ท ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นาวาเอกแสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “มวลชนสัมพันธ์” ประจำปี 2568 โดยมีนาวาเอกรัฐพล แก้วกระจาย หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสตูล ศรชล.ภาค 3 พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จัดโดยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล ร่วมกับ ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสตูล และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ของหน่วย ได้มีโอกาสพบปะกับมวลชน สร้างความสัมพันธ์อันดี ความรู้ ความเข้าใจในการปฏิบัติงานของหน่วย อันจะนำไปสู่การได้รับข่าวสารและการนำเสนอข่าวสารที่สร้างสรรค์อันเป็นประโยชน์ต่อหน่วย

เพชรบูรณ์ 'มณฑลทหารบกที่ 36' นำทัพสู้ภัยแล้ง ปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ขาดแคลน 

กองทัพบกโดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 36 (มทบ.36) จับมือหน่วยงานภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เปิดโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” ประจำปี 2568 รับมือวิกฤติภัยแล้งที่เกิดขึ้นเร็วและรุนแรงกว่าทุกปี พร้อมปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำช่วยเหลือประชาชนที่ขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภคในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์

พิธีเปิดโครงการจัดขึ้นที่สนามหน้าแหล่งสมาคมนายทหารค่ายพ่อขุนผาเมือง อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ โดยมี พลตรี ฐาวิรัตน์ ยังน้อย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36 / ผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มทบ.36 เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พ.อ.เกียรติอุดม นาดี รองเสนาธิการ พล.ม.1 นายวีรวัฒน์ วัฒนวงศ์พฤกษ์ ที่ปรึกษานายก อบจ.เพชรบูรณ์ ผู้แทนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น  รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานทหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าร่วม

จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนหลักหลายแห่งต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้หลายพื้นที่ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะเขตห่างไกลจากระบบชลประทาน เผชิญกับปัญหาขาดแคลนน้ำสำหรับการเกษตรและการดำรงชีวิต เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มทบ.36 ร่วมกับ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองพลทหารม้าที่ 1 หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 16 ส่วนราชการในจังหวัดเพชรบูรณ์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เร่งดำเนินโครงการนี้ โดยจัดเตรียมกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และขบวนรถบรรทุกน้ำ เพื่อแจกจ่ายน้ำอุปโภค-บริโภคไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ได้แก่ ตำบลบ้านโตก ตำบลชอนไพร และตำบลป่าเลา ซึ่งเคยประสบภัยแล้งรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งน้ำที่นำไปแจกจ่ายจะถูกกระจายไปยัง แทงค์เก็บน้ำประจำหมู่บ้าน วัด และโรงเรียน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงน้ำสะอาดได้อย่างทั่วถึง

พลตรี ฐาวิรัตน์ ยังน้อย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 36  เน้นย้ำว่า กองทัพบกและกองทัพภาคที่ 3 ให้ความสำคัญกับการบรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในจังหวัดเพชรบูรณ์“ภารกิจนี้ถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของกองทัพบก เราจะไม่ปล่อยให้ประชาชนต้องเผชิญกับวิกฤติภัยแล้งเพียงลำพัง ขอให้กำลังพลทุกนายภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนที่กำลังเดือดร้อน และขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เพื่อบรรเทาความทุกข์ของพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด” พลตรี ฐาวิรัตน์ กล่าว ทั้งนี้ โครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” จะดำเนินการต่อเนื่องตลอดฤดูแล้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและทันท่วงที

หนีไม่รอด!! หนุ่มเมียนมาค้ายา มุดกลับมาหวังหางานทำ หนีไม่พ้นระบบ Biometrics

(6 มี.ค.68) เวลา 13.00 น. ที่ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสมุทรสาคร  ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ปกฉัตร ชัยสุกวัฒน์ ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.ท.เศรษฐพงศ์ ชูเมือง รอง ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร ,พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ องอาจ รอง ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร ,พ.ต.ต.จิรายุ เชิดฉาย สว.ตม.จว.สมุทรสาคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าฝ่ายสืบสวน ตม.จว.สมุทรสาคร 

พ.ต.อ.ปกฉัตร กล่าวว่าในห้วงหลังจากการมีผ่อนผันให้กลุ่มแรงงานต่างด้าว ตามมติ ครม. ให้ขึ้นทะเบียนบุคคลต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฏหมาย  จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สมุทรสาคร เพิ่มความเข้มงวดในการสอบตรวจสอบเอกสาร ต่อมาได้มี MR.MAUNG MAUNG หรือ นายเมา เมา อายุ 33 ปี สัญชาติเมียนมา ได้มาติดต่อขอรับการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคลเจ้าหน้าที่ ตม.จว.สมุทรสาคร ได้ตรวจสอบพบประวัติเคยถูกจับกุมดำเนินคดี ในข้อหา จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า ศาลจังหวัดสมุทรสาคร พิพากษาจำคุก 2 ปี  สตม.ได้มีคำสั่งเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 26 พ.ย.67 และ ลงประวัติเป็นบุคคลต้องห้าม (Blacklist) ห้ามเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร และไม่อยู่ในเงื่อนไขการผ่อนผัน ตาม มติ ครม. จึงได้ทำการจับกุม ในข้อหาเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่ง พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย  

ผกก.ตม.จว.สมุทรสาคร กล่าวต่อว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผบก.ตม.3 ได้มีมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารของคนต่างด้าวในการขอรับการจัดเก็บอัตลักษณ์ เพื่อขึ้นทะเบียนใหม่ และขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพหลอกลวงว่าจะสามารถขึ้นทะเบียนบุคคลต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ผ่านการตรวจสอบประวัติ หากประชาชนพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
📍 ที่อยู่: อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
📞 โทรศัพท์: ติดต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่
🌐 เว็บไซต์: www.immigration.go.th


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top